“ขอเล่าเข้าพรรษา” ตอนที่ 7 วิถีชีวิตบุญนิยม พลังลมปราณ
เช้าวันที่ 1 ส.ค. นาฬิกาปลุกตีสามตื่นได้ค่ะวันนี้ เอาชนะตัวขี้เกียจได้ รู้สึกว่าวันนี้สดชื่นและตอนสวดมนต์ทำวัตรเช้าก็ไม่ฟุ้งซ่าน เช้าวันพุธจะได้ฟังธรรมะจากท่านสมณะหลายรูปค่ะ เสร็จจากทำวัตรเช้าแล้วก็เดินลมปราณ สำหรับงานที่ทำวันนี้คือเตรียมรายการและจัดรายการวิเคราะห์ข่าววิปัสสนาแทนทีมสันติอโศก สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายหลังจากรับแทนมา 4 สัปดาห์แล้วค่ะ ออกกำลังกายจนเหงื่อชุ่มก่อนเข้าสู่งานภาคค่ำคือการพิมพ์แก้การแสดงธรรมของพ่อครูในรายการวิถีอาริยธรรมค่ะ การกินข้าวมื้อเดียวทำให้มีเวลาทำงานได้มากมายค่ะ
วันนี้อยากจะเล่าสู่ฟังเรื่องการเดินลมปราณค่ะ เรื่องของการออกกำลังกายเป็นการแก้ปัญหาของสุขภาพค่ะ ในตอนที่ปะอายุ 40 ต้นๆ มีอาการปวดขา นั่งก็ปวด นอนก็ปวด ให้หมอฟังเข็มให้ ป้าพัดที่เคยเป็นหมอในป่าปักเข็มให้เต็มหลังและเต็มขา นอนคว่ำอยู่นานทีเดียว ต้องนอนนิ่งๆ เพราะขยับตัวแล้วจะเจ็บ มันก็หาย สักพักก็เป็นอีก ก็เลยตั้งใจออกกำลังกาย แต่ด้วยความขี้เกียจก็จะไม่ต่อเนื่องค่ะ ก็จะกลับมา นวดบ้าง แช่เท้าบ้าง เหยียบกะลาบ้างก็หายสักพักแล้วก็กลับมาปวดอีก จนกระทั่งสังเกตว่าที่ปวดขา ปวดเอวเพราะนั่งนาน จึงทำการแก้นิสัยและสร้างนิสัยใหม่ค่ะ การสร้างนิสัยให้ออกกำลังกายต่อเนื่องนี้ยากที่สุดเลยค่ะ ก็คิดหาวิธีว่าอันดับแรกต้องต่อเนื่องเพื่อที่จะลดกิเลสตัวขี้เกียจให้ได้ ถ้าต่อเนื่องได้ร่างกายก็จะแข็งแรง ก็หาวิธีการออกกำลังกายที่หลากหลาย ทั้งคาดิโอ โยคะ ไทเก็ก แอโรบิค อยากทำอะไรก็ดูในยูทูปค่ะ เพียงขอให้ทำต่อเนื่องทุกวัน และทำใจให้สนุกกับการออกกำลังกาย
ในช่วงปีกลายที่บ้านราชเกิดกลุ่มย่อยธรรมะ ฟังธรรมและซักถามกันแบบสบายๆ โดยมีท่านสมณะฟ้าไท เป็นผู้นำ ปะก็ตื่นมาร่วมด้วย ได้ประโยชน์มากค่ะ ต่อมาท่านสมณะก็พาเดินลมปราณ การเดินลมปราณแต่ก่อนปะเคยทำแล้วหน้ามืดแบบล้มทั้งยืน ไม่รู้สึกตัวเพื่อนปลุกจึงรู้สึกตัว ก็เลยไม่ค่อยสนใจ แต่พอท่านพาทำก็เลยลองมาฝึกใหม่ ทำแบบเบาๆ ก่อนเพราะกลัวหน้ามืด และตั้งใจว่าจะทำต่อเนื่องพร้อมกับหมู่กลุ่ม เอาพลังกลุ่มนำให้ตนเองทำให้ต่อเนื่อง สิ่งที่ได้สัมผัสกับความต่อเนื่องคือ 1.ใจนิ่งมีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 2. ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี แข็งแรงขึ้น ทนได้มากขึ้น เวลาสูดลมเข้าปอดให้เต็มแล้วกลั้นไว้จึงพ่นออกมาจะรู้สึกสบาย พอทำให้เต็มที่ จะมีความร้อนที่ท้องวิ่งไปตามปลายมือปลายเท้า โดยเฉพาะที่ฝ่ามือจะรู้สึกยิบๆ ยับๆ มีแรงดันที่ปลายนิ้ว ส่วนระบบทางเดินหายใจก็หายใจดีขึ้น การทำสิ่งที่ยากกลายเป็นเรื่องง่ายและเรื่องสนุกเมื่อเห็นผล ดีต่อระบบทางเดินหายใจ เวลาจ้องคอมพิวเตอร์นานๆ จะเมื่อยตา ตามัว เดินลมปราณแล้วตาสว่างเลยค่ะ พักยกเดินลมปราณสักรอบแล้วค่อยมาทำงานต่อ กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรงขึ้นค่ะ โดยเฉพาะขานี้หายปวดเลยค่ะ ท่านใดสนใจลองชมรายการนี้นะคะ
เขามาสัมภาษณ์ปะด้วยและก็มีสมาชิกท่านอื่นๆ ด้วยค่ะ ที่ทำแล้วได้ผลดีต่อร่างกาย แล้วลองทำดูนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ
ปะตรงเตือน นาวาบุญนิยม
พุทธสถานราชธานีอโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
1 ส.ค. 2561