610806_ปลูกพริกและผูกมิตร สร้างไฟฌานในวันบวร
ในเช้าวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ 2561 ในเช้าวันนี้นักเรียนสัมมาสิกขากลุ่ม 6 และนิสิต วน.บ ได้มาปลูกพริกที่สวนไวพลัง โดยมีอาพูนไทเป็นผู้พานักเรียนไป
โดยในตอนแรกอาพูนไทก็พาพวกเรามาที่ด้านหลังเฮือนบวรก่อนเนื่องจากได้จอดรถไว้……ทว่า เมื่อมาถึงรถกลับจอดติดหล่มอยู่ด้านข้างเฮือนบวรแทนเนื่องจากรถคันนี้ใช้มานานและไม่มีเบรกมือจึงทำให้มันไหลลงไป
ซึ่งอาพูนไทก็ได้พาพวกเรานักเรียนสัมมาสิกขาช่วยกันเอารถขึ้นกันอย่างสามัคคี
โดยการเอารถขึ้นนั้นเราจะหาไม้หรือแผ่นอะไรก็ได้แข็งๆมารองใต้ล้อซึ่งในขั้นตอนนี้นักเรียนฝ่ายชายจะช่วยกันยกรถขึ้นข้างหนึ่งแล้วให้คนที่อยู่ด้านข้างและด้านหลังสอดไม้หรือแผ่นกระเบื้องเข้าไป
การทำงานฉุกเฉินในครั้งนี้ได้สร้างความสามัคคีและกระชับความสัมพันธ์อย่างมากมายระหว่างคุรุกับนักเรียน
หลังจากที่เอารถขึ้นมาได้สำเร็จพวกเราก็รีบขึ้นรถพร้อมเตรียมตัวไปทำงานทันทีแต่รองเท้าของอาดันหายไปไหนไม่รู้ หาเจอแค่ข้างเดียว สุดท้ายอาพูนไทเลยตัดใจรีบพาเด็กๆไปทำงานเพราะเดี๋ยวจะไม่ได้ทำงานซะก่อน
เมื่อมาถึงที่สวนไวพลังก็มีอาซึ้งบุญมาอธิบายขั้นตอนในการทำงานว่าควรทำอะไรบ้าง โดยงานในวันนี้คือการปลูกพริก ซึ่งก็ดูท่าว่ามันจะไม่ใช่การปลูกพริกธรรมดาเพราะสถานที่ในการปลูกมันค่อนข้างลาดชันอยู่พอสมควร
หลังจากที่แบ่งงานเสร็จนักเรียนชายก็แยกย้ายกันไปขุด ส่วนนักเรียนหญิงก็ช่วยกันขนกล้าไปแจกและช่วยกันปลูกพริก
บรรยากาศในการปลุกพริกดำเนินไปได้ด้วยดีเพราะแดดยังไม่ร้อนมากอีกทั้งยังมีลมเย็นอ่อนๆพัดเอาความสดชื่นมาฝาก การทำงานเสร็จไปอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดคิด
เนื่องจากยังมีเวลาเหลืออยู่อาซึ้งบุญเลยพานักเรียนกลุ่มหนึ่งแยกออกไปเอาต้นกล้าพริกเพิ่มการเอาพริกเพิ่มต้องมาเอาที่วัด(บ้านราช)เราเลยได้นั่งรถกลับไปอีกรอบเพื่อขนกล้าที่เขตสิกขมาตุ
เมื่อเราขนกล้าเสร็จก็นำกล้ากลับมาที่สวนไวพลังอีกครั้งหนึ่งและเริ่มทำงานต่อจนเสร็จพอเสร็จงานเราก็พากันไปล้างไม้ล้างมือแล้วรวมตัวกันสรุปงานในวันนี้
แน่นอนว่ามาสวนก็ต้องมีของกินอย่างเช่นผลไม้ เจ้าของสวนอย่างคุณอาหลายๆคนก็ได้เตรียมผลไม้ไว้ให้เด็กๆทานแก้เหนื่อย ซึ่งผลไม้ก็มีหลายอย่างไม่จะเป็น สละหรือระกำ หมากเม่า และ เสาวรส
บรรยากาศในการสรุปงานเป็นไปได้ด้วยดี โดยนักเรียนหลายคนแอบกระซิบมาอีกด้วยว่า ทำงานมันไม่เหนื่อยหรอกค่ะแต่เหนื่อยเดินขึ้นๆลงๆเนินนี่แหละ เอ้า!!!ฮาได้อีกค่ะ
หลังจากที่เราสรุปงานเสร็จอาพูนไทก็พาพวกเรากลับมาที่บ้านราชด้วยความ
สวัสดิภาพปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน…
จะเห็นได้ว่าการทำงานในครั้งนี้นักเรียนและผู้ใหญ่ต่างมีความสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปได้ด้วยดีเรียกได้ว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมี
อิทธิบาท4ซึ่งก็ประกอบด้วย…
1)ฉันทะ(ความยินดี) คือ ความพอใจ เห็นประโยชน์
2)วิริยะ(ความเพียร) คือ ความขยัน ความเพียร ความพยายาม เข้มแข็ง อดทน
3)จิตตะ(ความคิด) คือ ทุ่มเททำด้วยใจเต็ม
4)วิมังสา(ความไตร่ตรองหรือทดลอง) คือ หมั่นใช้ปัญญาในการพิจารณาและตรวจสอบเหตุผลต่างๆ คัดเอาแต่เนื้อๆ
เมื่อมีฉันทะแล้วก็จะมีการทำใจในใจให้ถูกต้อง คือการมองตน ที่จะทำให้เราอ่านอาการกิเลส แล้วทำไฟฌานให้เกิดเพื่อเผากิเลสให้หมดไป โดยไม่ไปทำผิดๆมองนอกตัวไปเผาคนอื่น ที่จะทำให้ก่อวิบากต่อไป
โมกข์ แก้วกลั่นพร …รายงาน
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=Nl13MxHq-No[/embedyt]