610819_วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ประชาธิปไตยไทยแบบพุทธนั้นสุดยอด
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1rz2MakyabV2dG5zuhk5FVZKqO7vi38ElrO10Z0ARWeo/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1scy6lwhGblQHGbTfR8Yl3P4hMQRXMt5Z
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก พระพุทธเจ้าตรัสกับพระเจ้าอชาตศัตรูไว้ในพระไตรปิฎก เกี่ยวกับเรื่องความสันโดษไว้ว่า [๓๒๒] ดูกรมาณพ อย่างไร ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ? ดูกรมาณพ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมทำความรู้สึกตัวในการก้าว ในการถอย ในการแล ในการเหลียว ในการคู้เข้า ในการเหยียดออก ในการทรงสังฆาฏิ บาตรและจีวร ในการฉันการดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม ในการถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ย่อมทำความรู้สึกตัวในการเดิน การยืนการนั่ง การหลับ การตื่น การพูด การนิ่ง ดูกรมาณพ ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ.
[323] ดูกรมาณพ อย่างไรภิกษุชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ? ดูกรมาณพ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง เธอจะไปทางทิศาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง ดูกรมาณพ นกมีปีก จะบินไปทางทิศาภาคใดๆ ก็มีแต่ปีกของตัวเป็นภาระบินไปฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแล เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง เธอจะไปทางทิศาภาคใดๆ ก็ถือไปได้เอง ดูกรมาณพ ด้วยประการดังกล่าวมานี้แล ภิกษุชื่อว่าเป็นผู้สันโดษ
ชาวอโศกได้อยู่ในระบบสาธารณโภคีทำงานเสียสละเพื่อส่วนกลาง ไม่ว่ากิจกรรมใดๆก็เป็นการเสียสละเหมือนสายน้ำเล็กๆที่รวมกันเป็นแม่น้ำสายใหญ่ เขาจะไม่เห็นได้ง่ายๆว่าต้นน้ำอยู่ที่ใด การกระทำใดๆที่เป็นการเสียสละงานเล็กงานน้อยหรืองานใหญ่ๆ อย่างงานเทศกาลกินเจงานตลาดอาริยะ ก็มีสายน้ำอยู่ตลอดเวลา เป็นการปิดทองลำไส้พระ พวกเราเกิดมาในชาตินี้ต้องสลายตัวตนให้เป็นศูนย์จริงๆ ชาวอโศกที่เป็นแกนจะสลายโลกธรรม
งานศาสนาแนวหน้าคือฆราวาส ส่วนนักบวชเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นผู้ที่ไม่เอาโลกธรรม หากรับโลกธรรมแล้วไม่มีตัวตนก็เป็นเรื่องดี
พ่อครูว่า…SMS วันที่ 17 – 18 สค. 2561
_1614 ผลงาน หมายถึงผลการปฏิบัติธรรมหรือเปล่าคะ
พ่อครูว่า…ใช่ เพราะการปฏิบัติธรรมของพุทธเจ้าทำให้เกิดผลของงาน ไม่ใช่ว่าปฏิบัติธรรมแล้วอยู่เฉยๆนั่งหลับตาผ่านวันผ่านคืนไปเฉยๆ ไม่มีอะไรที่เกิดคุณค่าเกิดผลประโยชน์อะไรเลย สงบ เป็นสุขสงบ เป็นผู้หยุดแล้ว เป็นผู้ที่ไม่มีอะไรแล้ว คนอย่างนี้ก็น่าจะสลายหายไปเป็นผุยผง เป็นอากาศไปเลย ซึ่งพาซื่อกันเสียจนสุดโต่ง ไม่รู้จะพูดได้ภาษาอะไร
ผลงานนั้นหมายถึงผลของการปฏิบัติธรรมแท้ๆเลย ยกตัวอย่างได้เลย อย่างชาวอโศกนี่ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติธรรมและเกิดผลสำเร็จ ใช้คำนี้เลยนะ เป็นผลงานได้นี่คือสุดยอดเป็นเศรษฐกิจที่สุดยอด การเมืองที่สุดยอด สังคมสุดยอด พูดไปแล้วน่าหมั่นไส้ตัวเองมากมาย คุยตัวน่าอ้วก มันอย่างนั้นจริงๆ แต่อาตมาก็มั่นใจว่ามันจริง พวกชาวอโศกเรานี่สบาย สงบสุข เบิกบานสำราญใจ เป็นคนที่ไม่เบียดเบียนสังคมไม่เบียดเบียนใคร ไม่มีโทษไม่มีภัยแก่ใคร เป็นคนที่มีแต่การสร้างคุณค่าประโยชน์เท่าที่เราจะเป็นคนดีขยันหมั่นเพียรอุตสาหะสร้างสรร โดยไม่รับอะไรแลกเปลี่ยนเลย คือสุดยอดแล้ว ทำงานฟรีไม่ต้องมีอะไรตอบแทน วันๆก็มีอยู่มีกินอุดมสมบูรณ์มีญาติมิตรสหาย พึ่งพาอาศัยกันพึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ สมบูรณ์แบบทุกอย่างแล้ว อาตมาว่า อาตมาประสบผลสำเร็จแล้วในชาวอโศกในการเกิดมาเป็นคนแล้วก็ทำให้เกิดลัทธินี้ วัฒนธรรมมีพฤติกรรมสังคมอย่างนี้ จะเรียกว่าการเมืองอย่างนี้เศรษฐศาสตร์อย่างนี้สังคมอย่างนี้ ก็ทั้งนั้นเลย เป็นได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ชาตินี้อาตมาพอใจแล้ว ใครทำได้อย่างนี้ก็ทำได้เลย มาประพฤติปฏิบัติ ยังเป็นผลสำเร็จอย่างนี้เลย
ยังมีคนเห็นว่าดีควรจะศึกษาปฏิบัติตามก็มีอยู่ แต่อาตมาเป็นคนอาภัพ เขาไม่เชื่อว่าอาตมานี้สามารถจะทำให้เกิดความดีงามได้ถึงขนาดนี้ เขาพยายามที่จะดิสเครดิตอาตมาทุกอย่าง กดข่มอาตมาให้ไม่มีค่าเลย แต่อาตมานี้ข่มอย่างไรก็ไม่ลง อาตมามีสิทธิ์ทำงานจนเกิดผลอย่างนี้ ก็ยังทำต่อไปจนกว่าไม่ยอมจะตายง่ายๆเลยนะ ยังจะทำอย่างนี้ต่อไปจะทำไม?
เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของคนแล้ว ก็อยากจะทำให้ได้มากกว่านี้
– สิ่งที่เห็นในการปฏิบัติงานเป็นจุดเสียที่เราตระหนักรับผิดชอบต่อผู้บริโภค มันเป็นศีลข้อแรกด้วย ใช่หรือไม่คะ
พ่อครูว่า…ใช่
– พ่อครูแซวเล็กๆ ไม่อยากแข่งขัน เพราะกลัวแพ้อายเขา เพราะเรามันฟอร์มอยู่แล้ว ข้อความนี้มีนัยยะ เพราะเรามีฟอร์ม อยู่แล้ว ฟอร์ม คือ แบบแผนที่เป็น standard แบบ อโศก ใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…(เหตุการณ์นี้พ่อครูพูดเป็นมุขเท่านั้น) ถูกต้องอีก ถ้าจะหมายความว่าแบบฟอร์มคือแบบแผนแบบอโศก Standard เป็นมาตรฐานเลย
-อาวุธใด จะเป็น ประโยชน์ ทั้งใน ปัจจุบัน & ต่อไป ในภายภาคหน้า คะ
พ่อครูว่า…บุญญาวุธหมายเลข 1 คืออาหารมังสวิรัติ หมายเลข 2 คือ ตลาดอาริยะ หมายเลข 3 คือกสิกรรมไร้สารพิษ หมายเลข 4 คือสุขภาพบุญนิยม หมายเลข 5 คือการศึกษาบุญนิยม หมายเลข 6 คือการสื่อสารบุญนิยม หมายเลข 7 คือการเมืองบุญนิยม หมายเลข 8 คือ การเมืองแบบธรรมนิยม หมายเลข 9 การเมืองแบบโลกุตรนิยม
เราก็ใช้ความรู้เวลาและการกระทำ เรียกว่ากรรมกับกาละ กระทำกรรมต่างๆให้มันเกิดบุญ บุญญาวุธ นั้นใช้กำจัดสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์ หรือสิ่งภายนอกที่ไม่เป็นผลดีก็ขจัดสิ่งนั้นออกไปให้เกิดผลดี อะไรดีที่สุดเราก็ทำต่อไปดำเนินไป
-คนไทยนี่หัวร้อนไวใจร้อน ขี้ โมโห หงุดหงิดง่ายมาก โดยเฉพาะเรื่องของคนอื่น ช่วย วิสัชชนา ว่าด้วย เรื่องของคนอื่น
พ่อครูว่า…ต้องฝึกหัดธรรมะของพระพุทธเจ้าอาตมาว่าศาสนาอื่นก็ไม่เหมือนศาสนาพุทธนี้ให้เรียนรู้เท่าทันอารมณ์เท่าทันเวทนา แล้วก็ควบคุมเวทนาได้ สามารถที่จะกลับจัดการกับเวทนาของเรา โดยมีสัญญาควบคู่แล้วก็ทำให้เกิดผลเรียกว่าสังขาร ก็ปรุงแต่งออกมา โดยการมีเวทนากับสัญญา สัญญาเวทยิตนิโรธ เวทนาและสัญญา สัญญาจะไปควบคุมเวทนา เวทนาคืออารมณ์คือความรู้สึก เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีความรู้สึกหมดความรู้สึกเลยคือคนที่วิสัญญี อสัญญี เวทนานี่แหละ แต่เขาใช้สัญญาสัญญีให้ไม่ทำงาน
สุดท้ายก็มีเวทนากับสัญญาเป็นตัวทำงานจริง การกำหนดรู้เรียกว่าสัญญา กำหนดอะไร กำหนดรู้เวทนา แล้วจัดการกับเวทนาให้เป็นเนกขัมมะให้ได้ เนกขัมมะได้สูงสุดก็เป็นอุเบกขา 5
ปริสุทธา คือความบริสุทธิ์ ปริโยทาตา บริสุทธิ์อยู่เสมอแม้จะกระทบกระแทกกระเทือนจะสัมผัสกับอะไรก็ตาม เพราะมีจิตเป็น มุทุภูตธาตุ คือจิตวิญญาณที่มีสภาพเป็นความอ่อนไว จัดการควบคุมได้เร็วได้ดีมากเลยเป็นสุดยอดแห่งสิริมหามายา จะเกิดจะดับก็เร็วมากจึงสามารถที่จะ กัมมัญญา ทำกรรมต่างๆได้ดีที่สุดเหมาะควรที่สุดเป็นประโยชน์คุณค่าสูงที่สุดไม่มีข้อบกพร่องที่สุด กัมมัญญา แล้วจิตก็คงความปภัสสราอยู่ตลอดเวลา ผ่องแผ้วผุดผ่องขาวสะอาด สุขสำราญเบิกบานใจ ใสสดสว่างอยู่ตลอดกาล นี่คือ คุณสมบัติสุดยอดของศาสนาพุทธ ผู้มีชีวิตอยู่จะมีเวทนานี่แหละเป็นตัวสุดยอด
– คนสะอาด คือ ผู้มีศีลอันพระพุทธเจ้าสอนไว้ คนสะอาด คนดี คนมีศีล ความหมายเดียวกัน ใช่หรือเปล่า
พ่อครูว่า… ใช่
– จะรู้ เท่าทัน อารมณ์ และความเปลี่ยนแปลง ที่เกิด ขึ้น ได้ อย่างไรคะ
พ่อครูว่า…ต้องฝึกต้องเรียนศาสนาพุทธนี่แหละ
– เมื่อเรานับถือ ศาสนาพุทธ รู้ธรรมเนียมประเพณี เกี่ยวกับ พระกับ เจ้า แล้วจำเป็น ไหม ต้องรู้จัก ธรรมวินัย ของสงฆ์
พ่อครูว่า…ควรจะทำอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นก็ปล่อยให้ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์ ธรรมวินัยของพระพุธธเจ้านี้เป็นสิ่งประเสริฐแล้วสุดยอดแล้ว
-ถ้าไม่มีที่ดินส่วนตัว ไม่มีบ้านส่วนตัว ไม่มีรถส่วนตัว ไม่มีรายได้ประจำ แต่ทำงานด้วยความจริงใจ ไม่หวังผลตอบแทน เราจะอยู่ได้ไหม?
-ความคิด ก็คือ ความคิด แล้ว ในความคิด มีเวทนา เกิดได้หรือเปล่าคะ
พ่อครูว่า…การปรุงแต่งเรียกว่าสังขาร เรียกแจกไว้ เรียก สังกัปปะ 7 ความคิดคือสังกัปปะ 7 ผู้ที่รู้เท่าทันเจตสิกต่างๆ ตักกะ วิตักกะ แยกแยะให้ออกว่ามีกิเลสผสมก็กำจัดกิเลสให้ได้
ตักกะ เริ่มดำริคิดอะไรขึ้นมาก็จับตัวกิเลสแล้วก็แยกวิจัยจิตของตัวเอง อยากจะอารมณ์กิเลสออกมาได้แล้วก็กำจัดกิเลสได้สำเร็จเป็นตัววิเศษ เป็นตัวจิตที่เป็นความคิด
ตักกะ คือความคิด แล้ว ในความคิดก็มีเวทนาสำหรับผู้ไม่รู้เรื่องก็ทำอย่างอวิชชา ผู้ที่มีวิชชาก็จะทำให้เป็นอุเบกขา 5
ความเป็นอุเบกขา 5 คือฐานนิพพาน คือฐานสูงสุด คือพระอรหันต์ อรหันต์ยืนอยู่บนจิตที่มีอุเบกขา 5 เป็นความรู้สึก ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา เวทนา 5 อย่าง
-ในความสงบ 16 อย่าง ของ พระอ. มั่น ภูริทัตโต มีข้อ ที่ว่า ควรวางตัวเป็นกลาง มีลักษณะ อย่างไร ขอคำอธิบายเพิ่มด้วยค่ะ
พ่อครูว่า…อาตมากำลังจะบอกว่าจะมาไม่ใช่ลูกศิษย์อาจารย์มั่น และไม่ได้นับถืออาจารย์มั่นเป็นอาจารย์ด้วย อายุท่านผ่านไปเป็นร้อยปีแล้วอาตมายังอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็เลยไม่มีอะไรกัน คนจะนับถือก็นับถือไป ส่วนอาตมานั้น มองเห็นว่า พระอาจารย์มั่นนี่แหละทำให้ศาสนาพุทธในเมืองไทยฉิบหายไปเยอะ เพราะอะไร
1.เพราะพาไปออกป่านี่ก็ผิดแล้ว ในอัมพัฏฐสูตร พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ว่าเป็นความเสื่อมของศาสนาพุทธ
-
พาไปนั่งหลับตาเป็นเทวนิยมกันอย่างเต็มรูปเลย ก็เลยบรรลัยจักรเลยศาสนาพุทธ ขออภัยที่ต้องพูดความจริงอย่างไม่ไว้หน้า ไม่มีมารยาทเลย อาตมาพูดเต็มๆตรงๆอย่างนั้นจริงๆ พูดไปก็แรงขึ้นจนวันนี้แรงสุดแล้ว ก็ยังดูเหมือนไม่ตรงกันเลยยังยึดถือแบบอาจารย์มั่นกันอยู่นั่นแหละ อาตมาก็ว่ามันจะไปถึงไหนกันหนอ พวกที่ยึดมั่นถือมั่นไม่ลืมหูลืมตามันจะโง่ไม่เสร็จไปถึงไหน แบบอาจารย์มั่นเป็นของเดียรถีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย
ค่อยๆมาพูดตามลำดับมาวันนี้พูดแรงสุดแล้ว ขออภัยที่พูดความจริงจังไม่ไว้หน้าขออภัย อาตมารักความจริงมากกว่าที่จะต้องมาไว้หน้ากัน
อาตมาก็ไว้หน้ามาเรื่อยๆแล้ว วันนี้อาตมาได้พูดแรงพูดเต็ม พูดอย่างไม่ไว้หน้าขนาดหนักแล้วแต่ก็พูดอย่างจริงใจ ใครจะไม่เชื่อถือจะชังน้ำหน้าก็ไม่มีปัญหาหรอก เพราะว่าอาตมาไม่มีหน้ามีตาอะไรอยู่แล้ว
_สีดิน ลี · พ่อครูเทศน์เรื่องศาสนาอื่นและศาสนาพุทธ ทำให้เข้าใจถึงความแตกต่างที่แท้จริง ศาสนาอื่นเป็นเทวนิยม ศาสนาพุทธเป็นอเทวนิยม ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่คนปฎิบัติแล้ว เป็นอิสระอย่างแท้จริง อัตตาสลาย และหมดอัตตาหรือกิเลสหมดได้อย่างแท้จริง ส่วนศาสนาอืนไม่มีการสอนให้ลดละล้างกิเลส เลยยังมีอัตตา สอนให้ทำดีก็คือกุศลเป็นหลักใหญ่ของคำสอนศาสนา จากจุดนี้เลยทำให้เข้าใจได้ว่า ศาสนาที่เป็นเทวนิยมคนจึงเข้าถึงได้มากกว่าศาสนาพุทธ เพราะสร้างแต่กุศล แต่ไม่ได้ลดละล้างกิเลส ขนาดคนที่บอกว่านับถือศาสนาพุทธส่วนใหญ่ในทุกวันนี้ เขาก็ยังปฎิบัติแบบเทวนิยมเลย หรือเป็นพุทธแบบหลับตา เพราะฉะนั้นคนที่เข้าถึงคำสอนและปฎิบัติเป็นชาวพุทธได้อย่างแท้จริงหาได้ยากมากๆๆ คนแบบชาวพุทธที่เข้าถึงพุทธอย่างจริงๆคือชาวอโศกนี่แหล่ะคือคนพุทธ(ตื่นแล้ว)อย่างแท้จริง เป็นบุญแล้วที่ฟังธรรมพ่อครูแล้วมีความเข้าใจและจิตมีความยินดีในการฟัง
พ่อครูว่า… ศาสนาพุทธนั้น 1. อิสระอย่างแท้จริง 2. อัตตาสลายหมดกิเลสได้อย่างแท้จริง ส่วนศาสนาอื่นนั้นไม่ได้สอนให้ลบล้างกิเลส สอนให้มีอัตตาแบบนิรันดรด้วยเป็นปรมาตมันเป็นบรมอัตตาด้วย
อาตมาพูดเปิดไปทั้งหมดแล้วว่าอาตมาเกิดมาในชาตินี้เป็นใคร เป็นคนเขาหาว่าออกนอกรีตนอกรอยไปหมดแล้ว ไม่เป็นไรอาตมาก็มีหน้าที่ขยายความจริงด้วยความบริสุทธิ์ใจ ในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ผู้ที่มีปัญญามีภูมิธรรมที่จะรับได้ก็จะรับได้ไป อาตมาทำงานมานานจะ 50 ปีแล้ว ยังไม่ยอมปลดเกษียณตัวเอง ยังจะทำต่อไปอีก พยายามจะรักษาชีวิตให้แข็งแรงทำต่อไปอีก ทำไปจนกว่าจะหมดพลังงาน สุดแรงที่สุด ที่จะยื้อ ยืนยาว ให้มันยาวไปได้นานเท่านานเพราะเป็นสิ่งที่ดีที่ประเสริฐที่สุด
อาตมาว่า อาตมาทำงานได้ผลพอสมควร ได้ผลขนาดนี้เป็นโลกุตรธรรมในยุคนี้ที่มีความเสื่อมขนาดหนัก ได้ขนาดนี้อาตมาก็พอใจแล้ว พอใจจริงๆอาตมาไม่ได้ตะกละอะไร ได้มากกว่านี้ก็ดี แต่ได้ขนาดนี้ก็ดีนักหนาแล้ว อาตมาจึงมีกำลังใจที่จะทำอะไรต่ออะไรต่อไป นี่คือเรื่องของศาสนาเรื่องธรรมะ แล้วก็เป็นเรื่องของมนุษย์ มนุษย์ต้องมีธรรมะต้องมีศาสนาต้องมีสิ่งที่ยึดถือ ดี เพราะ
ศาสดาแต่ละพระองค์ บำเพ็ญมาเพื่อที่จะรู้ว่ามนุษย์ควรดีอย่างไรได้สูงสุดพระศาสดาก็มาประกาศว่าควรจะให้ดีอย่างนี้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจทุกศาสนาเท่าที่ความรู้ของท่านเท่าที่ท่านมีภูมิธรรมท่านก็ทำ อาตมาไม่ได้เป็นศาสดา เป็นแค่ครูบาอาจารย์ธรรมดา อาตมาก็ยังรู้ว่าทำมาจริงใจที่จะให้คนดี เพราะฉะนั้นยิ่งเป็นศาสนาที่สูงกว่าอาตมาที่สร้างศาสนาได้เป็นของตัวเอง แต่ละศาสนาท่านก็ยิ่งใหญ่ก็จริงใจทั้งนั้นแหละไม่มีศาสดาองค์ใดท่านไม่จริงใจท่านทำได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น อย่างอาตมานี้ บอกว่าพระพุทธเจ้าทำได้อย่างเหนือชั้นจริงๆอาตมาก็สะสมบารมีด้านนี้มา ก็เห็นอันนี้มาตั้งนานแล้วจึงมาเป็นพระโพธิสัตว์อย่างนี้ ไม่อย่างนั้นอาตมาก็เป็นบริษัทในศาสนาลัทธิอื่นหมดแล้ว แต่ทำไมยังเห็นว่าของพระพุทธเจ้าดีกว่ามาเป็นผู้ที่สืบทอดเป็นประกาศก อาตมาเป็นประกาศกของศาสนาพุทธเป็น prophet ของศาสนาพุทธ
ศาสนาอื่นก็มีประกาศกของศาสนาเขา ศาสนาพุทธนี้ไม่ได้ยกพระเจ้าที่เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนไม่เห็นหน้าสัมผัสไม่ได้ ทำเป็นเบ่งเอาไว้ว่ายอดที่สุดเท่านั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าที่ยอดที่สุดนั้นเป็นอย่างไร เราก็เอามาพิสูจน์ มนุษย์เป็นตัวสัตว์โลกที่สามารถรู้สิ่งที่ดีที่สุดประเสริฐที่สุดสูงที่สุดในความเป็นมนุษย์ เพราะมนุษย์จัดการทุกอย่างในโลก มนุษย์จะทำให้โลกลูกนี้แตก ก็คือมนุษย์นี้ทำได้ ไม่มีใครทำให้โลกนี้แตกได้หรอกนอกจากมนุษย์ ขนาดว่าอาร์คีมิดิส ถ้าหาที่ยืนอยู่นอกโลกสามารถงัดโลกนี้ได้เลย ก็จริงสามารถทำได้แต่หาให้แกได้อยู่ไหม
อาตมาไม่ออกไปนอกโลกหรอก เขาแยกธรรมะกับการเมือง การเมืองก็คือสังคมหมู่กลุ่มชนรวมตัวเป็นประเทศจนรวมตัวกันทั้งโลก Globalization เดี๋ยวนี้มันเชื่อมโยงถ่ายทอดกันทั้งโลกเลย ต่อเนื่องกันทั้งโลกรู้กันหมดเลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นทั้งโลก อาตมานี่เขาก็รู้กันทั้งโลก เขาลงไปใน Google ใน YouTube หมดแล้วล่ะ แต่มันไม่สนใจ มันไม่ติดใจ เขาไม่รู้จริงๆ แต่ไม่รู้หมดแล้ว ทุกวันนี้ globalization Search หาได้หมด แต่จะเอาหรือไม่เอา
คนที่จะเอาอย่างที่อาตมานำมาให้ มันมีคนจำนวนน้อยที่จะมีปัญญา ปัญญาคืออะไร ปัญญาเป็นบัญญัติภาษาของพระพุทธเจ้า มีในศาสนาพุทธศาสนาเดียวในโลก ความรู้อย่างชนิดปัญญานี้ ปัญญามาจากรากฐานของสภาวะธรรมที่เรียกว่า อัญญะ เป็นพลังงานจิตชนิดหนึ่ง ที่อัญญาโกณฑัญญะสัมผัส สัมผัสคำพูดคำสอนพระพุทธเจ้าที่ตรัสขึ้น สัมผัสแล้วเข้าใจได้รู้ได้
ในโลกนี้พระพุทธเจ้าประกาศ อัญญธาตุขึ้นมา อัญญธาตุ เมื่อเป็นพหูพจน์ก็คือปัญญา อัญญธาตุ คือความรู้ที่พระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของตรัสรู้เองโดยชอบเพียงผู้เดียว ศาสนาอื่นไม่มีความรู้อันนี้ ศาสนาพุทธคือความรู้อันนี้ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีคำสอนที่สามารถทำให้คนเป็นสมณะ สมณะที่ 1 2 3 4 ได้ เป็นคนอาริยะประเสริฐไปตามลำดับเลย เป็นคนไม่มีโทษภัยมีแต่คุณค่าประโยชน์จริงๆ พระพุทธเจ้าทำการศึกษาความรู้อันนี้มาเป็นล้านๆชาติกว่าจะได้สูตรนี่มา รู้ไว้เสียด้วย ทำมาหลายล้านชาติหลายช่วงชีวิต อาตมาพยายามมาเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่จบ ยังไม่จบวิชานี้ เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 ยังเหลือระดับ 8 ระดับ 9 กว่าจะจบ
อาตมาเกิดมาเป็นอัตภาพของโลกเกิดมาเป็นจิตนิยามของโลก
พลังงานจับตัวกันตั้งแต่อุตุนิยาม ที่ถูกแรงอื่นๆกระทำเป็นวัตถุดินน้ำไฟลม เป็นอากาศเป็นพลังงานความร้อนแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้า อุตุนิยาม จนจับตัวเป็นพีชะ มาเป็นพืช ที่มีพลังงานในตัวเองที่รักษาตระกูลตัวเองได้ ตระกูลของกล้วยน้ำว้า ตระกูลของลูกท้อ ตระกูลของมะเขือ มันเป็นธรรมชาติเป็นสิ่งที่มันเกิดอยู่ในโลกมหาจักรวาลนี้ แล้วก็มาเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ เก่งจนกระทั่งมันเป็นไปได้โดยอัตโนมัติ ลูกท้อมันก็เป็นลูกท้อ กล้วยน้ำว้าก็เป็นกล้วยน้ำว้า จนกระทั่งเชื้อมันไม่สามารถเป็นกล้วยน้ำว้าได้ก็เป็นอย่างอื่นไป ถ้ามันยังเป็นอยู่มันก็เป็นของมัน จนพัฒนามาเป็นคน ก็สุดยอดแล้ว สัตว์ที่อยู่สุดยอดแล้ว เก่งที่สุดแล้วคน เสียดาย เพราะว่ายุคนี้ ไดโนเสาร์ตายเสียก่อน ถ้าไดโนเสาร์ยังไม่ตายคนก็จะเอาไดโนเสาร์มาขี่ หรือเอามาชนกันแข่งกัน สู้สงคราม กัดไดโนเสาร์ อะไรอย่างนี้ หรือ เอาไดโนเสาร์มาใช้งาน ป่านนี้ อาตมา ไม่ต้องให้เขาซื้อเทลเลอร์มาหรอก เอาไดโนเสาร์มาลากเลย พูดไปให้มันหมดๆไง
ธรรมะพุทธเจ้าที่ตรัสรู้นี้หมด อาตมาว่าหมด อาตมาก็เอามาขยายความให้พวกเราเข้าใจที่พอเข้าใจได้ อะไรที่ใช้ได้ก็เอามาใช้อะไรใช้ไม่ได้ก็ไม่เอามาใช้เพราะคนละยุคสมัยอาตมาแน่ใจว่า ให้พวกเราทันสมัย ไปอะไรที่มันตกขอบแล้วก็ไม่เอา มีเยอะเลยพวกที่โอเวอร์เกินไปแล้ว เราจะไปเอามาทำไม ก็พาทำสิ่งที่เป็นไปด้วยดี
เอาล่ะเรื่องธรรมะ อาตมาก็คิดว่าเอาพอสมควร ตอนนี้ก็ตั้งใจจะพูดเรื่องการเมือง การเมืองที่จะพูดกันก็เป็นเรื่องของประชาธิปไตยเผด็จการไม่ต้องพูดเลยมันก็เหลือเชื่อเผด็จการตลอด กาลนาน พยายามจะล้มอำนาจเผด็จการ อำนาจหมู่คอมมิวนิสต์ ก็ซ้อนในนี้ จะยึดอำนาจได้คนเดียวหรือว่าเป็นหมู่กลุ่มเป็นเผด็จการฟาสซิสต์ จนกระทั่งต่อมาให้มีอำนาจโดยธรรม
ประชาธิปไตยคือ สามารถมีปัญญาจัดการกับจิตวิญญาณตัวเองได้อย่างซื่อสัตย์บริสุทธิ์ที่สุด นั่นคือประชาธิปไตยสุดยอด เนื้อแท้ของประชาธิปไตย
ทีนี้ก็ มาดูความจริงที่ประพฤติได้นั่นคือทฤษฎีใหญ่ ประชาธิปไตยคือความเป็นอิสระเสรีภาพสุดยอด ประชาธิปไตยคือความไม่มีอัตตาตัวตนสุดยอด ประชาธิปไตยคือความมีปัญญาที่รู้จักจิตวิญญาณ และจัดการกับจิตวิญญาณให้เป็นอิสระ ให้ไม่มีอัตตา นี่คือประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยขาเดียวที่ไม่มีจิตวิญญาณเป็นประชาธิปไตยเกเร หาทางให้มีอำนาจมากที่สุด ด้วยการใช้วิธีการซับซ้อนวิธีการเลือกตั้ง แล้วก็หาวิธีที่จะควบคุมการเลือกตั้งได้สูงสุด จนกระทั่งเก่ง คนที่เก่งที่เห็นฝีมือในเมืองไทยก็คือทักษิณ เก่งสามารถทำได้ เก่งในการฐานประชาธิปไตยทำลายความเป็นประชาธิปไตย ยึดอำนาจมาให้แก่ตัวเป็นเผด็จการฟาสซิสต์ตัวเอง ให้คนไม่มีอิสระ ขนาด ทุกวันนี้คนที่เป็นลูกกโล่ก็ยังถูกจูงจมูก สามารถชักใยอยู่เบื้องหลังหุ่นชักฟอกนี้ เป็นความไร้ประชาธิปไตยสูงสุด เก่งในทางเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้หลงอำนาจสูงสุด เป็นบุคคลตัวตนจริงๆที่ยกตัวอย่างมาอธิบาย มายืนยันได้ ทักษิณนี้ เก่งจริงๆ ไปขุดผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เอามาชุบตัว 49 วันแล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรีได้ แล้วก็เด๋อหมดเลย ไม่รู้เรื่องหมดเลย ขนาดภาษายังไม่รู้เลย Thank You สามครั้ง เรียนภาษาอังกฤษมาจบปริญญาโทขนาดนี้ยังอ่าน คอ นก รีด ได้ นายกรัฐมนตรีประเทศไทยนะนี่ พูดไปแล้วมันหนำใจจริงๆคนไทย มันจะว่าตลกก็ยิ่งกว่าตลก ก็เหมือนกับเสื้อ แบ บน อก คือแบบนอก นิยมแบบนอก จังหวัดหาดใหญ่ประเทศซิดนีย์เลย ก็แกพูดอย่างนั้นจริงๆ
มาอ่านบทความของคุณ สุทิน วรรณบวร แกรวบรวมเรียบเรียงข้อมูลมาเป็นรอบๆดีจัง
ทวนกระแสข่าว
สุทิน วรรณบวร
วันพฤหัสบดี ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 02.00 น.
ผลการเลือกตั้งกัมพูชา สะท้อนปัญหาพลเมืองอาเซียน
วันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา พรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี)(Cambodian People’s Party) ของ นายฮุนเซ็น ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย สะท้อนให้เห็นว่า พลเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดถึงคนไทย ฝักใฝ่การปกครองอำนาจนิยมประชาธิปไตย
(พ่อครูว่า…ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะไม่ใช่อำนาจนิยม ประชาชนเขาจะยกให้เอง หากเราเป็นคนที่บริสุทธิ์และดีพอ อาตมานี้ก็เป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง ในหมู่ชาวอโศกนี้)
ถ้าไม่นับรวมเวียดนาม กับ สปป.ลาว ที่ปกครองแบบคอมมิวนิสต์พรรคเดียว ในอาเซียนไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และ ประเทศไทย คนส่วนใหญ่ศรัทธาอำนาจนิยมประชาธิปไตย
สิงคโปร์ ได้รับยกย่องว่าประสบความสำเร็จในการพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่ถ้ามองลึกลงไปพบว่าสิงคโปร์ปกครองแบบอำนาจนิยมประชาธิปไตย เพราะพรรคกิจประชาคม (พีเอพี) ผูกขาดการบริหารประเทศมากว่า 50 ปี นายลี กวน ยู เป็นนายกรัฐมนตรีที่ใช้อำนาจนิยมประชาธิปไตย ตั้งแต่พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2533
กว่า 32 ปีที่นายลี กวน ยู ควบคุมสื่อ จำกัดเสรีภาพประชาชนด้วยกม.ความมั่นคงภายใน ผู้ละเมิดกม.ถูกจับยัดคุกฟาดก้นด้วยหวาย การเดินขบวนต่อต้านรัฐบาลทำไม่ได้ โทษประหารชีวิตยังมีผลบังคับใช้หลังจากนายลี กวน ยู ลงจากอำนาจพรรคพีเอพี ยังเป็นที่นิยมศรัทธาชนะเลือกตั้งทุกครั้งแบบถล่มทลายได้ สส. เกิน 80 คน จาก 89 ที่นั่งในสภา พรรคฝ่ายค้านไม่เคยได้รับเลือกเป็นสส. ถึง 10 คน กว่า 50 ปีที่ผ่านมา สิงคโปร์มีนายกฯเพียงสามคน คือนายลี กวน ยู นายโก๊ะ จ๊ก ตง และนายลี เซียน ลุง ในสิงคโปร์ภาคประชาสังคมต่อต้านไม่ได้ แม้แต่คนในตระกูลลี ที่ขัดแย้งกันเรื่องพินัยกรรมของบิดา บางคนอยู่ในประเทศไม่ได้ลี้ภัยไปอยู่อเมริกา
ประเทศมาเลเซีย พรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ(อัมโน) ผูกขาดเป็นรัฐบาลมากว่า 50 ปี ดร.มหาเธร์โมฮัมหมัด เคยเป็นนายกฯในนามพรรคอัมโนตั้งแต่ 2524 ถึงปี 2546 ตลอดเวลา 22 ปี ดร.มหาเธร์ บริหารประเทศแบบอำนาจนิยมประชาธิปไตย ไม่ต่างจากลี กวน ยู และในวัย 92 ปี ดร.มหาเธร์ ชนะเลือกตั้งครั้งใหม่ในนามพรรคพันธมิตรฝ่ายค้าน โค่นล้มนายราจิบ นาซัค จากพรรคอัมโนลงได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ดร.มหาเธร์ กลับมาใหม่ แต่อำนาจนิยมประชาธิปไตยถูกนำมาใช้เหมือนเดิม ตั้งแต่วันแรกที่มีอำนาจ ดร.มหาเธร์ ออกคำสั่งห้ามนายราจิบ และภรรยาเดินทางออกนอกประเทศ จัดการปัญหาค้างคาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ข้าราชการ อัยการที่สงสัยว่าเกียร์ว่างหรือสมคบกับนายราจิบ ถูกไล่ออกปลดออกทันที ออกคำสั่งลดเงินเดือนนักการเมืองเพื่อแก้ปัญหาหนี้สินชาติ ข้อตกลงที่รัฐบาลนายราจิบ ทำไว้ อาทิ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสิงคโปร์กับมาเลเซีย และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่านับแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ทำสัญญาไว้กับจีนถูกยกเลิกหรือไม่ก็ทวนใหม่ อดีตนายกฯ ที่ถูกข้อกล่าวหาคอร์รัปชั่นถูกจับดำเนินคดี นี้แหละที่เรียกว่าอำนาจนิยมประชาธิปไตยที่คนส่วนใหญ่ศรัทธา
พ่อครูว่า…อำนาจนิยมก็เป็นประชาธิปไตยได้ถ้าหากทำเพื่อประชาชนอย่างมีความรู้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวตนเองหรือหมู่กลุ่มตัวเองเลย ไม่ทุจริตไม่โกงไม่เข้าข้างใคร ทำเพื่อประชาชนจริงๆ อย่างนายกฯตู่ทำนี่ดี มีที่ติอยู่ที่ทำเพื่อ Seniorty จุดเดียวเลย เขาก็ทำงานพอได้นะ พลเอกประวิตร ทำงานพอได้อยู่ เดินกระย่องกระแย่ง น่าสงสาร ทำได้ไม่เลว แต่คนที่แย่งอำนาจก็ว่า ที่จริงทำได้อย่างดีแล้ว ประเทศไทยขณะนี้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ การเลือกตั้งนั้นไม่ควรเลือกตั้งเลย เพราะอะไร เพราะว่าเลือกตั้งทีไรก็แพ้คนและค่ายกลที่เขาสร้างเวลาทุกที จนหวั่นใจว่า ถ้าเลือกตั้งเมื่อไหร่แล้วรับรองว่าเพื่อไทยได้แน่ แล้วก็มีท่าทีว่าจะได้อย่างนั้นอยู่ อาตมาว่า ไม่ควรจะเสี่ยงเลือกตั้งเลย โพลทุกโพลก็ยกให้นายกฯตู่หมด การเลือกตั้งมีแทกติกขี้โกงเยอะ โพลที่มี เป็นการวัดความจริงในสังคม ถ้ามันมีเหตุขัดข้องจะเลื่อนการเลือกตั้งไปอีกสัก 20 ปีก็ดี ใครจะว่าอย่างไรก็ช่างหัวมันปะไร เราทำเพื่อประชาชนของเราด้วยความบริสุทธิ์ใจและมันก็ดีก้าวหน้า จนกระทั่งคนที่เขายึดติดในการเลือกตั้งทั่วโลก ประเทศนั้นประเทศนี้ก็หาว่าเป็นเผด็จการรัฐประหารไม่ใช่ประชาธิปไตย เอาความรู้ขี้หมามาใช้ ทุกวันนี้ลุงตู่ไปได้ทุกประเทศยอมรับทั่วโลก นี่คือทำเพื่อประชาชน นี่คือทำเพื่อประชาธิปไตย
จะไปเอานิยายกับพวกที่อยากยึดอำนาจมาให้แก่ตัวเองแล้วต้องเอาสัจจะความจริงที่ประชาธิปไตยคืออะไร ทำเพื่อประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุขอยู่ดีสงบเรียบร้อย นี่คือประชาธิปไตยต่างหาก หาเรื่องบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี แล้วเอ็งรู้ได้อย่างไรว่าเศรษฐกิจไม่ดี โมเมว่ากัน เศรษฐกิจที่ดีที่สุดคือชาวอโศก สอดคล้องกับในหลวงที่เป็นพระโพธิสัตว์เป็นปราชญ์เอก หากว่าทำได้แบบนี้ทั่วประเทศไทยอย่างชาวอโศก ประเทศไทยจะมีเหลือกินเหลือใช้ เอาไปแจกจ่ายคนอื่นได้เลย
ต้องเรียนให้สัมมาทิฏฐิมาเป็นคนวรรณะ 9 พวกดร.ทางศาสนาน่ามาศึกษาแบบนี้ แต่ทุกวันนี้เรียนสิ่งที่ไม่ได้เรื่อง เป็นเดรัจฉานวิชชา เป็นตรรกะ ผิดเพี้ยนไปจากของพระพุทธเจ้าหมดแล้ว
อ่านบทความต่อ…สิงคโปร์กับมาเลเซีย เป็นประชาธิปไตยอำนาจนิยม ที่คนในประเทศและชาวโลกยกย่องศรัทธา ต่อไปหันมาดูอำนาจนิยมประชาธิปไตยในประเทศไทยและกัมพูชา ว่าทำไมจึงถูกวิจารณ์จากคนในชาติและตะวันตกตราหน้าว่าเป็นเผด็จการ ในกัมพูชา นายฮุนเซ็น อดีตนักรบเขมรแดงผ่านสงครามกลางเมืองตั้งแต่อายุสิบห้าปี ฮุนเซ็นได้เป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้งแต่สงครามยังไม่สงบในปี 2528 และหลังจากลงนามสันติภาพ สหประชาชาติจัดการเลือกตั้งให้ในปี 2532 นายฮุนเซ็น ได้เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์
การเมืองในกัมพูชาที่ผ่านสงครามกลางเมือง การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มานานกว่าครึ่งศตวรรษ ประเทศที่เต็มไปด้วยความความขัดแย้ง คนที่รอบจัดเด็ดขาดเท่านั้นที่อยู่รอดได้ ความขัดแย้งในรัฐบาลผสมนำไปสู่การปฏิวัติยึดอำนาจในปี 2536 และตั้งแต่นั้นมา อำนาจเด็ดขาดในกัมพูชาอยู่ในมือนายฮุนเซ็นเพียงผู้เดียว นายฮุนเซ็นถูกกล่าวหาทุจริตคอร์รัปชั่น ใช้อำนาจเผด็จการ แต่งตั้งบริวารลูกหลานเป็นใหญ่ รวบอำนาจในกัมพูชา แต่ประหลาดใจการเลือกตั้งที่มีคนมาใช้สิทธิ์กว่า 82 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ซีพีพี ชนะถล่มทลายน่าจะได้สส.เกิน 100 ในจำนวน 125 ที่นั่งในสภา
ผลการเลือกตั้งกัมพูชาน่าจะเป็นกรณีศึกษา ว่านายฮุนเซ็น ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นทรราช ทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเผด็จการที่ตะวันตกต่อต้าน แต่ทำไมชาวบ้านลงคะแนนให้เขามืดฟ้ามัวดิน ผู้มาใช้สิทธิ์กว่า 82 เปอร์เซ็นต์ เป็นสถิติใหม่ที่ไม่ค่อยมีประเทศไหนทำได้ หรือว่าชาวกัมพูชาศรัทธาอำนาจนิยมประชาธิปไตย เหมือนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในประเทศไทย ที่ตลอดเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไทยส่วนใหญ่ เทคะแนนให้ “กลุ่มการเมืองประชาธิปไตยอำนาจนิยมทุนสามานย์ปล้นชาติ” ที่ลุอำนาจบริหารเป็นรัฐบาลเผด็จการในคราบประชาธิปไตย
ตั้งแต่ทศวรรษ 2540 เมื่อกลุ่มทุนสามานย์ปล้นชาติ ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม เข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ กลุ่มธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ ใช้เงินที่ได้มาโดยไม่สุจริตเพราะรู้ข้อมูลภายในล่วงหน้า ว่ารัฐบาลที่ตัวเองร่วมอยู่ลดค่าเงินบาท ซื้อนักการเมืองชั่วเข้าสภา มาเป็นฐานอำนาจบริหารตามแผนการทุจริตทางนโยบาย ทำให้ประเทศชาติเสียหายนับล้านล้านบาท และเมื่อถูกประชาชนจับได้ว่าทุจริตครั้งมโหฬารจึงร่วมกันขับไล่ กลุ่มการเมืองทุนสามานย์ก็จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาเข่นฆ่าประชาชน จนเป็นที่มาของคำว่าแก้วสามประการ คือ แก้วพรรคการเมือง แก้วมวลชน และ แก้วกองกำลังติดอาวุธ เป็นสามกลุ่มสามประสาน ค้ำจุนทุนสามานย์ปล้นชาติ
แก้วพรรคการเมือง ทำหน้าที่ปล้นชาติผ่านสภา อาทิ ออก กม.แปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต ทำให้รัฐเสียหายหลายหมื่นล้านบาท แก้กฎหมายการลงทุนต่างชาติเพื่อให้เจ้าของพรรคได้ขายบริษัทต่างชาติได้ หัวหน้ารัฐบาลซึ่งเป็นเจ้าของพรรค สั่งธนาคารกรุงไทยปล่อยเงินกู้ให้บริษัทของพวกพ้องที่มีประวัติการเงินไม่ดี สั่งธนาคารเพื่อการส่งออก ปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลพม่าสี่พันล้านบาท เพื่อให้พม่านำเงินมาซื้ออุปกรณ์จากบริษัทเจ้าของพรรค ฯลฯ เมื่อเจ้าของพรรคถูกประชาชนขับไล่ มวลชน กับกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งเป็นแก้วประการที่สองที่สามก็ออกมาทำร้ายเข่นฆ่าประชาชน จนถูกยึดอำนาจ
หลังถูกยึดอำนาจ ทั้งพรรค ทั้งกองกำลังติดอาวุธ และ มวลชน ออกมาสร้างความวุ่นวาย เข่นฆ่าประชาชนเผาบ้านเผาเมือง แต่ประหลาดใจที่ประเทศผ่านมิคสัญญีได้ไม่นาน พรรคทุนสามานย์ก็ชนะการเลือกตั้งเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เจ้าของพรรคถูกตัดสินจำคุก 2 ปี สมุนบริวารทั้งนายธนาคาร นายพลรัฐมนตรีถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดร่วมกับทุนสามานย์ปล้นชาติอย่างน้อย 12 ราย แต่พอมีการเลือกตั้งครั้งใหม่พรรคทุนสามานย์ชนะเลือกตั้งถล่มทลายอีก
ประเทศไทยผ่านวิกฤติการเผาบ้านเผาเมือง ผ่านการถล่มทำลายการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนไม่นาน ก็มีการเลือกตั้ง ทั่วไปในเดือน ก.ค. 2554 พรรคทุนสามานย์ฯชนะเลือกตั้ง ถล่มทลายได้สส. เกินครึ่งหนึ่งของที่นั่งรวมในสภา หุ่นเชิดเจ้าของพรรคขึ้นเป็นหัวหน้ารัฐบาล ที่บริหารงานราชการตามคำบัญชาสัมภเวสี ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท จากการทุจริตจำนำข้าว หุ่นเชิดเจ้าของพรรคหนีออกนอกประเทศก่อนศาลตัดสินจำคุก 5 ปี สมุนบริวารที่สมคบกันปล้นชาติทั้งรัฐมนตรี พ่อค้าและ ข้าราชการถูกศาลตัดสินจำคุก 48 ราย แกนนำมวลชน แกนนำกองกำลังติดคุกติดตะรางหลายราย แต่น่าประหลาดใจเมื่อกำหนดวันเลือกตั้งครั้งใหม่ใกล้เข้ามา ทั้งสัมภเวสีเจ้าของพรรค และสมุนบริวารมั่นอกมั่นใจว่าพรรคทุนสามานย์ฯ จะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์อีก
พรรคทุนสามานย์ปล้นชาติจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ หรือ ล้มคว่ำจมขี้ควาย ย่อมเป็นไปตามกรรม เพราะ คสช. อยู่ในอำนาจมาสี่ปีย่างเข้าปีที่ 5 ทั้งกลยุทธ์และเวลา ได้ทำให้กองกำลังติดอาวุธล่มสลาย แกนนำติดคุกบางคนหนีตายไปต่างประเทศ หัวขบวนฝ่ายมวลชนบางคนติดคุกที่เหลือรวมกันไม่ได้บางกลุ่มดิ้นรนหนีตายวิ่งหานายคนใหม่ ฝ่ายพรรคการเมืองก็ขัดแย้งวุ่นวายหาหัวยังไม่ได้ ท่อน้ำเลี้ยงแห้งเหือดหาย จุดนี้จึงเป็นนาทีทองที่ คสช. จะย่อยสลายผู้ฝักใฝ่ประชาธิปไตยอำนาจนิยมทุนสามานย์ เป็นโอกาสดีที่จะแยกย่อยเป็นหลายฝ่าย เพื่อง่ายต่อการปกครองและทำลายเมื่อถึงเวลา เฉกเช่นผักตบชวาเมื่อแยกย่อยจากกอใหญ่ก็นำมาทำเครื่องจักสานหรือทำปุ๋ยได้ง่าย
พ่อครูว่า…ประชาธิปไตยนั้นจะเป็นจริง ก็ต่อเมื่อประชาชนเจริญจริง เป็นอาริยชนแท้ (มีคนคอมเมนท์ว่า ประเทศเราไม่ได้เป็นประเทศมหาอำนาจ แต่เป็นประเทศมหาภิบาล) ถูกต้องเลย เก่งกว่าอาตมาอีก อาตมาจะใช้อภิบาล แต่เขาใช้มหาภิบาลเลย สู่แดนธรรมนี้มีความสามารถหลายอย่าง อย่างแต่งเพลงก็ดี เช่นเพลงป่าต้นโพธิ์ เขาจับอะไรได้หลายอย่างดี แต่ว่า เก่งหลายอย่างเป็นเป็ดน่ะ ก็หายากคนอย่างนี้ เอาโซ่ล่ามไว้หน่อยนะ
ประชาธิปไตยนั้นจะเป็นจริง ก็ต่อเมื่อประชาชนเจริญจริง เป็นอาริยชนแท้ นั่นก็คือต้องมีปัญญาเป็นเครื่องมือ คำว่าปัญญาเป็นของศาสนาพุทธ ที่รู้กันทั่วโลกไม่ใช่ปัญญาทั้งนั้น ปัญญานั้นเป็นโลกุตระ ปัญญาในโลกีย์หาไม่ได้หรอก อันนี้ยากที่จะอธิบายมากเลย ประชาชนมีปัญญาจริงก็ต้องศึกษาพุทธธรรมอย่างสัมมาทิฏฐิ
แล้วก็ปฏิบัติตนลดละอัตตาและเป็นเรื่องของอิสระเสรีภาพสูงสุด เรื่องของประชาธิปไตยนี้มี 3 คำ
-
ปัญญา 2. อัตตา 3. อิสระ