บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ..ห้านปันกัน:ห้างร้านบุญนิยม
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2561
วันนี้วันอาทิตย์ พ่อครูลงจากชั้น 4 มาพร้อมท่านปัจฉาสมณะดินไท เวลาประมาณ 9.00 น.มาถึงเวทีแสดงธรรมผู้เข้าร่วมค่ายสัมมาอริยมรรคกราบนิมนต์ขอถ่ายรูปกับพ่อครู หลังจากนั้นพ่อครูแสดงธรรมในรายการวิถีอาริยธรรมโดยครั้งนี้มีผู้เข้าค่ายสัมมาอริยมรรคมาฟังธรรมด้วยเป็นกิจกรรมสุดท้ายก่อนการสรุปและปิดค่าย
พ่อครูแสดงธรรมจบเวลาประมาณ 10.10 นาที ก็มาที่โต๊ะฉันภัตตาหาร ท่านปัจฉาดินไทจัดสำรับและเปิดถวายพ่อครู วันนี้เป็นวันที่ท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุและญาติโยม หลังจากฟังธรรม ก็จะมาร่วมรับประทานอาหารกันที่ศาลา ป้าขวัญรักนำอาหารมาถวายพ่อครู แป้ง สู่แดนธรรมนำภาพวาดสีน้ำซึ่งเป็นรูปดอกไม้และจะนำไปติดตกแต่งที่ศูนย์ทันตกรรมคุณหมอโชติที่ชั้น 2 โฮงปัว พ่อครูฉันภัตตาหารพร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ประจำวัน 2 ฉบับเช่นเคย ป้าเต็มสิรินำผู้เข้าค่ายสัมมาอาริยมรรคที่มาจากร้อยเอ็ดเข้ามากราบนมัสการพ่อครู
เวลา 13.30 นาทีหลังจากพ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จ พวกเราคิดว่าพ่อครูคงจะไม่เดินออกไปย่อยอาหารและตรวจงานด้านนอกแล้ว เพราะฝนตกพรำๆมาโดยตลอดแต่ก็ผิดพลาดอีกเช่นเคย พ่อครูเดินออกมาด้านหลังพระพุทธโตยืนมองที่น้ำตกผาแหงนมีเด็กหนุ่มกลุ่มใหญ่ กำลังหยอกล้อจับเพื่อนโยนน้ำ ดูๆไปพวกเรายังหวาดเสียวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็ไม่มีอะไร คงเป็นความคึกคะนองของเด็กวัยรุ่น พ่อครูแวะดูสวนเกาะแก้วที่ท่านปัจฉาหนักแน่นกำลังจะปรับปรุงเพื่อเป็นสวนสำหรับเพาะเห็ดปลวกแบบธรรมชาติ
พ่อครูเดินไปตามถนนด้านหลังพระพุทธโต เลี้ยวซ้ายไปอาคารบวร เจอคุณติ้มและ อาแอ๊ด ที่ไปขุดต้นมหาหงส์หรือสเลเตและกล้วยไม้ที่สวนไวพลังกำลังเข็นมาเพื่อนำไปจัดสวนสวรรค์ขยันยิ่งที่ชั้น 4
เดินขึ้นมาอาคารบวรพ่อสมศักดิ์เข้ามากราบนมัสการ วันนี้เห็นมีความเปลี่ยนแปลงหน้าเรือเจิ้นเทิ้น ที่คุณพัชระและคุณซีนพร้อมทีมงานช่างท่านด่วนดีที่มาช่วยย้ายส่วนนิทรรศการพระโพธิสัตว์มาไว้ด้านหน้าเรือเจิ้นเทิ้นเมื่อวานนี้ คุณพัชรกำลังทำความสะอาดปูนปั้น รูปบุคคลอาริยะ พอเห็นพ่อครูก็เข้ามากราบนมัสการ ซึ่งส่วนของนิทรรศการยังสอดคล้องกับฝั่งตรงข้ามซึ่งมีควายปูนปั้น 3 ตัวตั้งอยู่มาตั้งแต่ช่วงจัดงานเพื่อฟ้าดิน วันนี้มีเด็กน้อยมาขี่ควายและถ่ายรูปกันน่าเอ็นดู
พ่อครูแวะไปที่ตลาดนัดบุญนิยม คุณอุไรจากศีรษะอโศกกราบนมัสการพ่อครู แม่บัวนวลเข้ามากราบนมัสการ พ่อครูทักทายดูอาหารต่างๆที่นำมาจำหน่ายในตลาดนัด พวกเราเห็นผักบุ้ง จึงได้บอกยายสานศีลและแม่แดงว่าตอนนี้มีการรณรงค์ไม่ใช้หลอดดูดโดยให้ใช้ก้านผักบุ้งแทน แม่สานศีลบอกว่าผักบุ้งเรามีเยอะจนกินกันไม่ทัน ที่ตลาดนัดบุญนิยมนี้ก็ขายผักบุ้งกำละ 5 บาท ผ่านร้านของป้าแววซึ่งขายเห็ดย่างจากโครงการหลวงและก๋วยจั๊บญวน อาเดือนแก้วขายผักในชุมชนที่นำมาแปรรูปเป็นอาหารเช่นหน่อไม้ต้มหญ้านาง เป็นต้น ที่ตลาดนัดบุญนิยมยังมีเสื้อผ้าแบบพื้นเมืองจำหน่ายในราคาบุญนิยม เช่นผ้าขาวม้าผ้าฝ้ายทอมือก็ขายอยู่ในหลัก 60-80 บาทแต่ละผืนราคาไม่เกิน 100 บาท พ่อครูเดินถึงร้านของศีรษะอโศกถามคุณอุไรว่าได้ส้มโอมาจากไหนคุณอุไรบอกว่า มาจากสวนซำตาโตง พ่อครูได้ยินเสียงดังที่วิทยาลัยอาชีวะ จึงเดินไปดูว่ากำลังทำอะไรกัน ผ่านหน้าอาคารบวร ท่านปัจฉาดินไทเห็นต้นทองอโศกโดนเชือกฟางที่รัดไว้ตั้งแต่ตอนเป็นต้นกล้าผูกไว้กับหลักไม้ ตอนนี้ต้นโตแล้วเชือกพันจนลำต้นที่โตคอดกิ่วจึงให้ สสธ.เบ็นที่เดินติดตามมา ไปแกะเชือกออกจากต้นทองอโศก
พ่อครูเดินเข้ามาภายในวิทยาลัยอาชีวศึกษาสัมมาสิกขาวิชาราม เจอนักศึกษาอาชีวะเกษตรเจน มากราบนมัสการพ่อครู เรียนพ่อครูว่ามาเรียนเกี่ยวกับเครื่องยนต์เพราะมีวิชาที่เกี่ยวกับดูแลรักษาเครื่องมือทางการเกษตรด้วย เดินไปด้านหน้าวิทยาลัยอาชีวะเจอศิษย์เก่าอยู่หลายคน พี่สุวรรณนำน้องมากราบพ่อครู ศิษย์เก่าอั้นเจอพ่อครู เกิดความปิติเข้ามากราบถึงเท้า ศีรษะจรดเท้าพ่อครูและเรียนพ่อครูว่าผมกลับมาแล้ว หมายถึงกลับมาช่วยงานที่วัดแล้ว พวกเราได้ยินก็อนุโมทนาสาธุ พี่สุวรรณรายงานการทำงานในขณะนี้ พ่อครูบอกว่าให้นำหินมาถมที่น้ำเฉอะแฉะบริเวณหน้าอาคารวิทยาลัยด้วย เดินมาซักพักฝนก็ตกลงมาอีก พ่อครูจึงเดินกลับมาในวิทยาลัยขึ้นไปแผนกช่างยนต์ อาสุดขีดเข้ามากราบนมัสการ ท่านสมณะหินกลั่นและท่านศักดิ์สิทธิ์กราบนมัสการพ่อครู ซึ่งท่านกำลังทำเครื่องผ่าไม้เตรียมที่จะบูรณะเรือโคกใต้ดิน ฝนก็ยังตกหนักพ่อครูเห็นรถลูกหล่า(รถไฟ้ฟ้าที่พ่อครูเคยใช้เมื่อหลายปี)จึงลองขึ้นไปนั่งขับ ท่านหินกลั่นเรียนว่ารถไม่มีเบรคและได้นำกุญแจมาถวายพ่อครู พ่อครูหันไปเจอเรือมดบอกพวกเราว่า ท่านนั่งเรือมดไม่เคยได้สักที นั่งทีไรก็คว่ำตลอด พ่อครูสตาร์ทเครื่องรถลูกหล่าลองขับรถแบบช้าๆเพราะไม่มีเบรค มีท่านปัจฉาดินไทติดตามนั่งรถกับพ่อครูโดยตลอด พอฝนเริ่มซาพ่อครูสวมชุดกันฝนเดินกลับไม่นานนักฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้องเข้าไปหลบในอาคารบวรอีกครั้ง
ขึ้นมาถึงตลาดนัดบุญนิยมมีญาติธรรมจากทางเหนือเข้ามากราบนมัสการพ่อครู อากอล์ฟ เต็มป่าเข้ามากราบพ่อครู มีลูกค้ามานั่งทานอาหารกันอยู่หนาตา ฝนเริ่มตกมาอย่างหนักอีกครั้ง ลมก็แรงมีละอองฝนเข้ามาภายในอาคาร พวกเรานิมนต์พ่อครูไปที่ร้านปันกันเพื่อหลบฝน พ่อครูเดินผ่านสวนนิทรรศการหลังเรือเจิ้นเทิ้นเข้ามาในห้านปันกัน ท่านสงสัยปลอกแขนว่าคืออะไร อาแป้ง สู่แดนธรรมจึงได้ลองสวมให้พ่อครูดู แผงผักที่อยู่ใกล้กันพ่อครูสนใจผักสดของบ้านราชที่มีแพคเกจจิ้งทำจากหยวกกล้วย ติดสติ๊กเกอร์ยี่ห้อบุญนิยม คุณน้อยผู้ดูแลร้านปันกัน เรียนพ่อครูว่าขายในราคาแพ็คละ 10 บาท พ่อครูบอกว่าถ้าแพ็คอย่างนี้ขายในห้าง 50 บาทก็คงมีคนซื้อ เดินไปในร้านสักพักท่านปัจฉาดินไทซึ่งกำลังคุยกับหลานได้นำโทรศัพท์มาให้ดู พ่อครูทักทายผ่านหน้าจอไปที่หลานน้อยของหลวงตาดินไทด้วย
พ่อครูมาบริเวณมุมหนังสือเล็กๆ มองไปที่ตู้จำหน่ายเครื่องดื่มเห็นขวดน้ำดื่มใส่น้ำซับทราบว่าจำหน่ายขวดละ 5 บาท พวกเรายังบอกว่าซื้อขวดเดียวเติมน้ำได้ตลอดในราคาเดิม พ่อครูเดินไปหลังร้านอาแป้งเจอเก้าอี้พับนอนรูปทรงน่าสนใจจึงนอนทดสอบความแข็งแรง ส่องผ่านเลนส์ประทับใจพ่อครูอีกครั้ง ที่พ่อครูก้มลงเก็บป้ายสินค้าอะไรไม่ทราบที่หล่นพื้นจนพวกเรานำไปให้แคชเชียร์เพื่อนำไปติดสินค้าที่ถูกต้อง
พ่อครูเดินไปมุมขายราคาตลาดอาริยะหรือขายขาดทุนเป็นสินค้าประเภทครัวเรือนเช่น ชามตราไก่ กระปุกพลาสติก เป็นต้นซึ่งราคาทุน 26 บาทขายในราคา 20 บาท มุมนี้จะเป็นมุมราคาถูก ราคาประหยัด พ่อครูยังสนใจเครื่องมือทางการเกษตรจำเป็นสำหรับชาวบ้านหลายอย่างที่เหมาะกับการทำเกษตร
เวลา 14.45 นาทีพ่อครูเดินออกมาหน้าอาคารบวร ฝนก็ยังตกหนักอยู่ พวกเราจึงนิมนต์พ่อครูรอ แล้วขอให้คุณพัชระนำรถไปส่งพ่อครูที่หน้าลิฟต์ชั้นล่างเฮือนสูญ ไม่นานนักคุณพัชระก็นำรถมารับพ่อครูฝ่าสายฝนมาส่ง ที่ชั้นล่างเฮือนสูญ ท่านกลับขึ้นมาชั้น 4 นั่งพักสักครู่แล้วจึงพักผ่อนเพื่อเตรียมฟังสวดปาฏิโมกข์ในช่วง 4 โมงเย็น