ความประทับใจงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ปี 2561
โรงเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก
บันทึกโดย นางสาวแก้วกล้าฝัน ชาวหินฟ้า (ตั่ง)
และ น.ส.ภิชาวรรณ จันทสิทธิ์ (น้ำว้า)
เมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2561 พวกหนูได้ไปทัศนศึกษาที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยแบ่งกลุ่มฝ่ายหญิง 6 กลุ่ม หนูมีน้องในการดูแลทั้งหมด 7 คน ในงานนี้มีนักเรียนมากมายจากหลายโรงเรียน โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนที่แปลกที่สุด เดินไปทางไหนก็มีแต่คนถามว่า “หนูมาจากโรงเรียนอะไรลูก ทำไมไม่ใส่รองเท้า” หนูก็จะตอบว่า “โรงเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศกค่ะ ที่ไม่ใส่รองเท้าเพราะว่าเป็นคอนเซ็ปของชุดนักเรียนที่ต้องการให้แต่งกายแบบไทยๆและฝึกฝนความอดทนค่ะ”
ความประทับใจแรก หนูประทับใจที่หนูได้ไปทัศนศึกษาครั้งนี้ค่ะ รู้สึกว่าเป็นโอกาสดีแม้ว่าตนเองจะไม่ใฝ่รู้ในวิชาวิทยาศาสตร์นัก แต่รู้สึกว่าโชคดีที่ได้ไป เพราะเป็นกิจกรรมโรงเรียนที่พึงมีค่ะ และยังได้ฝึกการดูแลน้องๆในกลุ่มไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ ด้วยความที่มีผู้คนหลากหลาย พื้นที่ก็กว้างขวาง พวกเราที่ต้องรักษาศีล 5 อยู่เป็นนิจจึงต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
ในเรื่องของศีลข้อที่ 1 ไม่มีใครผิดอะไรค่ะ แต่ได้ไปถ่ายภาพที่บูทไทรสุขสันต์ ในบูทมีการนำงูเหลือมตัวเป็นๆมาให้ผู้เข้าชมสามารถถ่ายรูปตามสะดวก มีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆมารอคิวถ่ายรูปกับงูตัวนั้นเยอะมาก พวกหนูก็ได้ถ่ายรูปกันงูเช่นกันค่ะ รู้สึกประทับใจระคนสงสารสัตว์ที่ควรใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ แต่กลับโดนมนุษย์นำมาถือไว้ให้ถ่ายรูปโชว์
ศีลข้อที่ 2 เรื่องลักขโมยภายในกลุ่มไม่มีค่ะ ส่วนศีลข้อ 3 พวกหนูทั้งเดินชนและโดนชนเพศตรงข้ามหลายคน เพราะคนเยอะแออัดมาก หนูเข้าไปในบูทดาวจรัสฟ้าแล้วโดนจนหน้าเกือบทิ่ม จึงผิดศีลข้อ 3 แต่ไม่ได้มีอารมณ์โทสะ จึงระงับศีลข้อ 1 ไว้ได้ค่ะ
ศีลข้อ 4 เมื่อออกนอกสถานที่เป็นเรื่องน่าแปลกที่พวกเราไม่พูดคำหยาบกันเลย น้องๆเองก็ไม่พูด เห็นว่าน่ารักดีค่ะ หนูไปเข้าห้องน้ำเจอเด็กผู้หญิงแต่งตัวดีๆหน้าตาน่ารัก แต่พูดคำหยาบกันเกลื่อนกลาด ก็นำมาคิดว่า เราไม่พูดคำหยาบก็ดีเหมือนกัน
และศีลข้อที่ 5 ด้วยความที่เดินกันจนอ่อนล้า มีความขี้เกียจเดินบ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้ผิดอะไรมากกว่านั้น
การไปงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ที่จัดเพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ให้กับนักเรียนนักศึกษา พวกเราได้เดินดูบูทต่างๆที่น่าสนใจ และจดความรู้ไว้ในสมุดที่พกติดตัวไป หนูคิดว่าความรู้ที่หนูได้ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้คือ ความรู้ที่ได้จากบูทเฉลิมพระเกียรติ มีเรื่องของฝนเทียม ปัจจัยการเกิดฝน ซึ่งฝน เกิดจากไอน้ำที่ควบแน่นเพราะชั้นบรรยากาศที่เย็น เมื่อควบแน่นมากๆจึงกลายเป็นเมฆและมีฝนลงมา คิดดูนะคะว่าไอน้ำ มันเล็กมากๆ แต่มันควบแน่น รวมกันจนกลายเป็นเมฆได้ จึงให้ข้อคิดหนูว่า คนตัวใหญ่ๆอย่างมนุษย์ ถ้ารวมพลังกัน จะทำประโยชน์ได้มากขนาดไหนเชียว เพราะขนาดไอน้ำ ยังรวมกันจนเป็นสายฝนมากมายได้เลย
นอกจากนี้แล้ว ยังมีอีกหลายบูทที่พวกหนูเดินกันจนขาลาก ตั้งแต่บูทแรก บูทดาวจรัสฟ้า ที่จัดเลียนแบบอวกาศมืดๆ มีแสงดาวประกายระยิบระยับ ดูสวยงามตา มีบอร์ดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการค้นพ้นวิชาดาราศาสตร์ติดอยู่ตรงทางออก พร้อมกับผู้บรรยาย ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ในสมัยก่อน มนุษย์คิดว่าโลกนี้แบน จนกระทั่งกาลิเลโอ กาลิเลอิมาค้นพบความจริงว่า ที่แท้โลกกลมนั่นแหละค่ะ
และบูทเฉลิมพระเกียรติ ที่มีเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้สามารถทำนายการมาของดาวหางได้ก่อน 2 ปี มีเรื่องราวของโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีโครงการฝนหลวง หนูประทับใจที่ วิทยาศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ของเรา ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่เป็นเพื่อปวงประชาทั้งนั้นค่ะ เพราะในสมัยรัชกาลที่ 4 คนไทยสมัยนั้นมีความเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติสูง เมื่อมีปรากฏการณ์ดาวตกก็คิดว่าจะมีเภทภัยอะไรต่างๆนาๆ เมื่อรัชกาลที่ 4 ท่านเรียนรู้ ท่านจึงกล่าวแก่ราษฎรของท่านว่า เวลาเห็นดาวหาง ดาวตกไม่ต้องตื่นตกใจ มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้น และรัชกาลที่ 9 ก็ไม่ได้คิดค้นโครงการฝนหลวงเพื่อตัวพระองค์แต่อย่างใด แต่เพื่อประชากรทางภาคอีสานที่แห้งแล้งค่ะ
บูทไทรสุขสันต์ เมื่อเดินเข้าไปเหมือนได้ดูป่าจำลองเลยค่ะ จัดออกมาสวยงาม ทำให้เราได้รู้ว่าต้นไม้ย้อยๆอย่างต้นไทรมีประโยชน์มากมายแค่ไหน ประทับใจความรู้และความสวยงามนะคะ แต่ในบูทมีการนำสัตว์ที่ถูกสตาฟท์ไว้มาโชว์ด้วย ทั้งเสือโคร่ง เสือดำ เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารมันนะคะ
บูทวิกฤตขยะ บูทเกี่ยวกับการแยกขยะ ประทับใจไอเดียการจัดและการนำเสนอมากๆเลยค่ะ เพราะคนเราขี้เกียจ รังเกียจที่จะแยกขยะอยู่แล้ว แต่เมื่อมาดูบูทนี้ เขานำเสนอเภทภัยของขยะอย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งยังมีการนำถุงพลาสติกมารีไซเคิลเป็นของตกแต่งบูทในรูปแบบเลียนแบบสัตว์ทะเล ด้วยการทำแมงกะพรุนจากถุงพลาสติก ทำเต่า ทำปลาหมึกจากขวดและกระป๋อง มีเกมสอนการแยกขยะ
มีรูปชายหาดสี่รูปให้เลือกว่าชอบแบบไหน รูปแรกเป็นชายหาดสะอาดสะอ้าน น่าเที่ยว รูปที่สองเริ่มมีสิ่งปะปน รูปที่สามมีผู้คนมาทิ้งขยะ และรูปที่สี่ทะเลมีขยะค่ะ พี่ที่ดูแลประจำบูทแจกสติ๊กเกอร์ให้พวกเราติดว่าอยากไปชายหาดแบบไหนมากที่สุด แน่นอนว่าคนส่วนมากย่อมติดสติ๊กเกอร์รูปที่อยากไปมากที่สุดเป็นชายหาดสวยๆสะอาดๆอยู่แล้ว มันจึงเป็นการสอนไปในตัวว่า ถ้าคุณอยากเที่ยวชายหาดสวยๆ ก็อย่าทิ้งขยะ
เดินไปเดินมาจนเจออาจารย์ปัญญา ปุลิเวคินทร์ ซึงอาเดชเคยพาไปดูงานของอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยผลงานของอาจารย์คือนวัตกรรมหุ่นยนต์ดูแลพืชผัก หรือหุ่นยนต์ทำสวนแหละค่ะ โดยนำเกษตร 0.4 มาเปลี่ยนเป็น 4.0 ก็น่าประทับใจความคิดของคนที่คิดพัฒนาโลก พัฒนาสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น และยิ่งประทับใจพลังเสียงของอาจารย์เลยล่ะค่ะ เพราะบรรยายเก่งมาก
ความรู้สึกโดยรวมของการไปมหกรรมวิทยาศาสตร์ครั้งนี้นะคะ เพราะคนเยอะ จึงรู้สึกเวียนหัวตาลายไปหมด บางทีก็อยากจะนั่งพักให้มันจบๆไป เพราะจิตใจส่วนตัวไม่ได้สนใจอยากไปมากนัก แต่เห็นเป็นกิจกรรมที่ดีที่ควรไป เป็นกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ควรเข้าร่วม ควรไปเพื่อพาน้องๆเปิดหูเปิดตา ไปดูแลน้องๆ แล้วก็หาความรู้ให้ตัวเองให้มากขึ้น ไปดูรูปแบบบูทต่างๆเพื่อหาไอเดียมาจัดกิจกรรมให้กับโรงเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก ไป…เพื่อให้รู้จักโลกวิทู คิดได้ก็ไปค่ะ จึงไม่ได้ทุกข์กับอะไรๆภายนอกที่วุ่นวายมากนัก ทำให้รู้สึกว่าการทัศนศึกษาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก อยากให้จัดอีก อยากให้พาไปอีกค่ะ
ส่วนในเรื่องของข้อเสนอแนะ …อยากให้ตรงเวลาค่ะ และคิดว่าการทำอะไรควรมีความชัดเจนค่ะ
ความประทับใจงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ (กลุ่ม2 พี่น้ำหว้า)
ณ Impack Exhibition Haii เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
ศีลเด่น ในกลุ่ม พี่น้ำหว้า
ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ได้แบ่งกลุ่มตามบัดดี้ กลุ่มของฉันมี 6 คน มีน้องปลาย น้องนิด น้องดูแล น้องน้ำหวาน น้องมายด์ และฉันเอง(น้ำว้า) เป็นรุ่นพี่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดูแลน้องได้รึเปล่า แต่ผลที่ออกมาคือ น้องๆในกลุ่มน่ารักมากๆ เราเป็นกลุ่มๆอยากไปไหนทำ
อะไร ก็ทำเป็นกลุ่ม ส่วนเรื่อง การรักษาศีล ก็เป็นดังนี้
ศีลข้อที่ 1 น้องๆไม่มีทะเลาะกัน ทุกคนให้โอกาสในการทำกิจกรรมไม่แย้งกัน รักไคร่กัน
ศีลข้อที่ 2 ก็มีอยากเข้าไปตามบูทต่างๆ แต่ก็ยังเป็นความอยากที่ได้ความรู้
ศีลข้อที่ 3 มีเดินชนเขาบ้าง เขาชนบ้าง(ผู้ชาย) เพราะคนในงานเยอะมาก
ศีลข้อที่ 4 ไม่มีผิด
ศีลข้อที่ 5 ไม่มีผิด
งานวิชาการที่ได้และการประยุกต์ใช้
เรื่องการใช้งานอินเตอร์เน็ตในยุคดิจิตัลครองโลก การค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องน่าเชื่อถือ เพราะทุกวันนี้ สิ่งรอบกายเรามีแต่สื่อข้อมูลที่ไวและรวดเร็ว มีทั้งดีและไม่ดีเราจึงควรระมัดระวังใช้สื่อให้ถูกต้องจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชยากรอิเล็กทรอนิกส์ และมีวิจารณญานในการรับข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่เกินจริง
บูทที่น่าสนใจ
บูทดาวจรัสฟ้า เป็นบูทที่สวยงามมากๆ มีการนำภาพถ่ายปรากฎการณ์ ท้องฟ้าที่สวยงามดูไปก็คล้าย เดินชมแกลเลอรี่ที่นอกโลก และได้เรียนรู้ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลที่มีโลกของเราอยู่ อย่างละเอียด
พร้อมยังได้ทำกิจกรรมสนุกๆกันในกลุ่ม
ประกอบดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
ทำแผนที่ดาว สำหรับเอาไว้ดูดาว
บูทขยะในท้องทะเล
ได้ไปทำกิจกรรมแยกขยะพลาสติก 7ชนิด โดยเขาจะให้ความรู้ก่อนแล้วให้พวกเราลองแยก ผิดบ้างถูกบ้างต่ก็ไม่ทันเวลาสนุกและได้ความรู้ แผ่นป้ายแยกขยะ ใส่แผ่นป้ายรูปขยะลงไป ถ้าใส่ถูกขยะจะขึ้นสีเขียว ใส่ผิดจะขึ้นสีแดง และมีอยู่สี่ถัง ขยะสด ขยะอันตราย ขยะรีไซเคิล ขยะทิ้ง ขยะในทะเลมีมากจนทำให้ทิวมัศน์ของทะเลและชายทะเลไม่น่ามองอีกยังทำให้สัตว์ทะเลไม่มีที่อยู่ และล้มตายเป็นจำนวนมาก ด้วยฝีมือของมนุษย์
ศูนย์ศิลปะชีพวิทยาศาสตร์กับไหมไทย
เส้นไหมที่พวกเราพบเห็นกันบ้างจะไม่เหมือนกับไหมไทย เพราะทำมาจากหนอนไหมที่เลี้ยงด้วยใบหม่อนเท่านั้น และนำเส้นใยจากหนอนมาผ่านกรรมวิธีต่างๆเช่น ถักทอเป็นสายเส้น และกลายเป้นเสื้อผ้าลายสวยงามและเป็นธรรมชาติ รวมถึงรังไหมยังทำเป็นที่ขัดผิว หรือพวงกุญแจสวยๆที่น้องๆทำกันด้วย
ความรู้สึกโดยรวม
บรรยากาศครึกครื้นดี น้องๆในกลุ่มให้ความสนใจกับงาน ไม่มีบ่น ไม่มีหิวและไม่เป็นภาระ และยังให้ความสนใจกับงานในบูทต่างๆ นับว่าดีทีเดียว
ข้อเสนอแนะ
หากมีเวลาเดินมากกว่านี้ คงจะหอบความรู้มากทีเดียว เพราะแต่ละบูทต้องใช้เวลาอ่าน รับฟัง หรือทำกิจกรรม อย่างมากเลยทีเดียว