610917_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 15
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1PvsyLaHfBpGEUFRMbET21YrUg5fWvoppvAVt58MSCW4/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1a2gXseXgo-ttBSh31yu8bHXj6ZoD12Qx
พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2561 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้มีนักเรียนด้วยตัวเล็กตัวน้อยกระจองอแง อย่าพูดแข่งกันกับหลวงปู่นะเบาๆหน่อย
SMS วันที่ 14 – 15 กย. 2561
_1701 เวลาพ่อครูออกกำลังกายทุกเช้า ทีมปัจฉาสมณะและผู้ติดตามคนอื่นๆ ได้ออกลังกายแบบพ่อครูด้วยหรือเปล่าคะ เห็นในคลิปมีแค่พ่อครูกับสมณะแค่สองรูปเท่านั้นเอง อยากให้ทุกคนออกกำลังกายพร้อมพ่อครูค่ะ ทีมจะได้แข็งแรงเพื่อดูแลพ่อครูค่ะ ขอบคุณค่ะ
พ่อครูว่า…ก็มีบ้าง แต่ไม่เป็นคณะใหญ่อะไรก็ค่อยๆเป็นไป ท่านฟ้าไทพาโยมออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ
_9706 กราบนมัสการถามพ่อครูสักหนึ่งเรื่องว่า เมื่อครั้งอดีตพ่อครูได้พูดว่า ท่านพุทธทาสไม่ เข้าใจพุทธศาสนานั้น ท่านไม่เข้าใจอย่างไร อธิบายให้ละเอียดด้วย จากนายสอบถาม
-พระพุทธเจ้าทรงสอน เรื่องกาลามสูตร ที่ไม่ให้เชื่อง่ายไว้ด้วยเหตุ 10ประการนั้น ข้อที่ 4 ท่านกล่าวว่า อย่าเชื่อเพราะอ้างคัมภีร์ปิฎก เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมขอถามว่า คัมภีร์ปิฎก ใครผู้สร้าง อยากทราบครับ จาก นายสอบถาม
พ่อครูว่า…ที่บอกว่า ท่านพุทธทาสไม่เข้าใจพุทธศาสนานั้น ท่านพุทธทาสยังไม่เข้าใจคือ ท่านพุทธทาสก็รู้และเข้าใจในส่วนหนึ่ง ในส่วนที่ยังไม่เข้าใจนั้นยังมีอีกเยอะ อาตมาก็คงอธิบายทั้งหมดไม่ได้ก็ขอยกตัวอย่างบางอันบางอย่างก็แล้วกัน
เช่น ท่านพุทธทาสไม่ได้เข้าใจว่า พระอภิธรรมที่ใช้อยู่ในพระไตรปิฎกนี้ ที่อาตมาก็ใช้ได้ดีและรู้สึกไม่มีใครจะสามารถจะพูดอย่างที่ในพระไตรปิฎกบันทึกได้ ขอยืนยัน ไม่มีใครมานั่งคิดได้อย่างนี้และเอามาบันทึกไว้ สามัญมนุษย์คิดได้อย่างละเอียดอย่างนี้ยกตัวอย่างเช่น
ท่านพุทธทาสยังไม่รู้ เรื่องธรรมนิยาม 5 อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม
ท่านพุทธทาสบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติซึ่งผิดเลย ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะเหนือธรรมชาติเรียกว่าโลกุตรธรรม แต่ท่านพุทธทาสบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติ ไม่ใช่ อย่างนี้ก็ผิดเลยร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่านพุทธทาสยังไม่รู้ ของพระพุทธเจ้านั้นธรรมะคือธรรมะ ไม่มีคำว่าชาติด้วย และยิ่งรายละเอียดถึงความเป็นจริงแล้ว ธรรมะคือสิ่งที่ทรงไว้ ยังมีอยู่
ธรรมะของพุทธเจ้านั้นมี สูญ ท่านพุทธทาสพยายามเรียน สูญ แต่ สูญ ของท่านยังไม่มีเหตุปัจจัยบริบูรณ์ ยังไม่สามารถเรียนรู้ธรรมะ 2 แล้วก็ทำให้เกิดหนึ่ง ทำให้เกิดศูนย์
เกิด 1 นี้ทำให้พ้นทุกข์ได้เกิด 0 เป็นนิพพานธาตุ
ท่านพุทธทาสยังอธิบายไม่ได้ ยังไม่สามารถแจกแจง อ่านดูเลยในตำราของท่านพุทธทาสที่ท่านได้บันทึกไว้พูดไว้ ท่านก็เสียชีวิตไปแล้ว ท่านเพิ่งจะรู้เรื่องสุญญาตาก็ดีเรื่องโลกุตระก็ดี ท่านเป็นอาริยะโสดาบัน นี้เป็นความรู้ของอาตมา อาตมารับผิดชอบ ว่าท่านเป็นโสดาบัน เข้ากระแสของทิศทางนี้ไม่ไปไหนหรอก แต่ท่านจะต้องเพิ่มภูมิของท่านอีกจะต้องเจริญพัฒนาไปอีก มากชาติ ก็ตอบแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ก็อ้างอิงหลักฐานแล้วนะ
อีกประเด็นที่บอกว่าอย่าเชื่อกาลามสูตร ใน 10 ข้อนี้พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่าไปปักใจเชื่ออันใดอันหนึ่ง แต่คุณสามารถจะเชื่อเมื่อคุณได้อันใดอันหนึ่งแล้ว อันนี้สิเป็นเรื่องลึกซึ้ง ท่านไม่ได้ตรัสไว้ในกาลามสูตรชัดเจน หากคุณไม่เชื่ออะไรเลยก็ไม่มีหลักอะไรคุณต้องมีศรัทธาต้องมีความเชื่อที่สมบูรณ์แบบ เป็นความเชื่อที่อย่างชัดเจนไม่แปรเปลี่ยนตรงกันกับสัตบุรุษที่รู้เป็นศีลสามัญญตา ทิฏฐิสามัญญตา จะตรงกันหมดเลยสัจจะเป็นหนึ่งเดียว ยืนยันกันได้หมด และสัจจะของพระพุทธเจ้าต้องพิสูจน์ด้วยคนอื่นรับรู้ร่วมด้วยไม่ใช่คุณรู้อยู่คนเดียว สัญญายนิจจานิ
เรื่องสัญญายนิจจานิ ขอยืนยันว่าท่านพุทธทาสยังเข้าไม่ถึงยังไม่รู้จัก ขออภัยที่พูดเหมือนข่มท่าน ท่านก็เป็นภันเต อาตมาก็เคารพท่าน เป็นผู้ที่อายุมากกว่า เป็นผู้ที่บวชก่อนอาตมา ท่านศึกษามาก่อนอาตมาก็ต้องเคารพตามธรรมวินัยของพุทธเจ้าเคารพด้วยความจริงใจ เพราะเป็นพี่
อีกประเด็นที่บอกว่า ใครเป็นผู้สร้างคัมภีร์พระไตรปิฎก ที่ใช้กันอยู่นี้เป็นฉบับของพระมหากัสสปะรวบรวมไว้พร้อมภิกษุสงฆ์อรหันต์ 500 รูป แล้วก็บันทึกเอาไว้สืบทอดกันมาจนถึงบัดนี้ มีหลักฐานยืนยันอย่างนั้น ถ้าคุณไม่เชื่อเลยว่ามีพระอรหันต์คุณก็ไม่ได้เรื่องอะไร คุณเชื่ออย่างนั้นก็เป็นของคุณแต่เราเชื่ออย่างของเราและเราพิสูจน์แล้วว่าเราได้ ความเป็นจริงตรงตามพระไตรปิฎกนี้ทั้งนั้นเอามาอธิบายอยู่ทุกวันนี้ ใครเป็นผู้สร้าง คือพระมหากัสสปะและอรหันต์อีก 500 รูปก็รวบรวมกันมาเป็นจนถึงทุกวันนี้
_8683 กราบนมัสการครับหลวงปู่ ผมสังเกตว่า เวลาผมใจมัวหมอง หงุดหงิด ไม่ได้ดังใจ งานจะช้าไม่ตรงเวลา งานจะเสียหาย แต่เวลาที่ได้สมใจ งานเดินดีออมาสวยงาม สาเหตุที่ใจมัวหมอง คือ คน คนเค้าทำไม่ได้ดังใจเรา ทำช้า ไม่จำ ไม่แก้ปัญหาฯลฯ ผมจะทำใจอย่างไรครับ กับคนสอนแล้วเค้าไม่ใส่ใจ ไม้อ่อนปล่อยให้อภัยมาเยอะแล้ว อยากใช้ไม้แข็งก็จะดูแรงไป หรือปล่อยไป เรามาดูใจเราก็พอ แนะนำด้วยครับ
พ่อครูว่า…ต้องทำใจอย่างนี้คนอื่นก็เป็นของคนอื่น คุณจะเอาให้คนอื่นได้ดังใจคุณ คุณตายอีกล้านชาติ คุณก็จะต้องเป็นอย่างนั้นเพราะคุณยึดมั่นถือมั่นจะให้ได้อย่างนั้น ใจคุณก็ใจของคุณ แค่ใจคุณอยากจะให้ได้ดั่งใจคุณก็ยังไม่ได้บังคับไม่ได้ ขนาดใจคุณเองยังจะให้ได้ดังใจคุณเองคุณทำให้ได้ดังใจคุณเองคุณยังทำไม่ได้ แล้วคุณจะให้คนอื่นเขาทำได้อย่างใจคุณได้อย่างไร โอ้ มันคนละชิ้นส่วน นั่นมันชิ้นส่วนเขา ของคุณก็ชิ้นส่วนของคุณ คุณทำชิ้นส่วนของคุณให้ได้ก่อนเถอะ เอาน่า ก็แค่นี้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นคุณจะหงุดหงิดไปอีกจนตายนิรันดรเลยหากไม่เข้าใจประเด็นนี้ชัด
อันนี้ใช้ได้ดูใจเราก็พอ แนะนำไปแล้ว
-วันนี้ดูรายการแล้วผู้ชายไม่ค่อยมานั่งข้างหน้าเลยนะครับ เห็นแต่ผู้หญิง …
พ่อครูว่า…วันนี้ก็ไม่น้อยนะ
_2166 ชาวอโศกก็มีพรรคอยู่แล้ว ก็ลุยเลยไม่ดีหรือครับ??ไหนๆก็ไหนๆแล้ว?
ถ้าไม่ลุยช่วยลุงประยุทธครานี้ แล้วจะหาโอกาสดีๆเหมาะๆได้อีกหรือครับ? เพราะจะมีคนอย่างลุงประยุทธมาเกิดอีกคงรออีกหลายกัปป์???
พ่อครูว่า…เราจะช่วยแต่ว่าเราไม่มีคนพอที่จะไปสมัครเป็นสส. เข้าไปอยู่ในสภาหรอก ก็บอกว่าดึงคนไปเปล่าๆ ไม่ได้แรงอะไร สมมุติว่า เราได้ในสภา 5 คน 8 คน เอาคนเหล่านี้มาช่วยภายในเราดีกว่ามันเป็นร้อยเป็นพัน เอาช่วยราษฎรดีกว่า อาตมาอยากจะทำพลังอำนาจของประชาชน อำนาจของราษฎรเป็นอำนาจของประชาธิปไตย แท้กว่าอำนาจของผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นตัวแทนไม่ใช่ตัวประชาชน เบอร์ 1 ชั้น 1 ไอ้นั่นมันชั้น 2 สส.ผู้แทนที่เข้าไปเป็นประชาชนชั้น 2
เพราะฉะนั้นประชาชนชั้น 2 จะไปสู้ชั้น 1 ได้อย่างไร เราจะทำประชาชนชั้น 1 อาตมาทำสำเร็จมาแล้ว ใช้พลังงานประชาชนชั้น 1 ไปประท้วงด้วยความสงบ ถูกสากลถูกกฎหมาย ประท้วงด้วยความสงบไม่มีอาวุธ เอาความจริง ยืนยาวเท่าไรก็ต้องสู้ประท้วงอย่างถูกต้องตามหลักการสากลชนะมาแล้ว 3 4 รัฐบาล ล้มได้มาแล้ว นี่คือ เราจะเห็นอำนาจอธิปไตยของประชาชนที่ลุงตู่ ประยุทธ์บริหารอยู่ ก็จากประชาชนปฏิวัติไม่ใช่ลุงตู่ปฏิวัติ ไม่ใช่ลุงตู่ทำรัฐประหาร ประชาชนไปประหารรัฐบาล 3 รัฐบาลไปเสร็จเรียบร้อย ถูกต้องสวยงามที่สุดในโลก ขอยืนยันว่าในโลก ยังไม่มีใครทำได้และยังไม่ได้ทำแค่รัฐบาลเดียวด้วยขณะนี้แหละ มีผู้มาช่วยบ้างแต่กองทัพธรรมนี้เป็นหลัก ตลอดยืนหยัดเลยปักหลักเลย เอาหลักฐานมาตรวจสอบกันได้เลย พวกเราไม่ค่อยได้บันทึกประวัติศาสตร์การเมือง เราบันทึกประวัติศาสตร์ธรรมะก็เมื่อยแล้ว ขนาดนี้เราก็ยังไม่มีแรงจะบันทึกให้ละเอียดให้ครบ แต่พวกนักรัฐศาสตร์การเมืองก็จะบันทึกบ้าง จะมีผู้แอบบันทึกบ้างก็ไม่รู้นะ แต่มันมีหลักฐานบ้างมีภาพถ่ายก็พอมีพอรู้กันบ้าง ส่วนจะบันทึกรายละเอียดก็ดูซิว่าอะไรตกหล่น ก็มีผู้ที่ยังจำได้ ก็มีคนพยายามเก็บอยู่ เรื่องการเมืองก็ทำต่อ อาตมาไม่หยุดหรอก ที่จะส่งเสริมลุงตู่ บางทีเราออกไปไม่ดีหรอกมันเหมือนเผยไต๋ พวกเล่นเผ โป๊กเกอร์หากเผยไต๋แล้วแพ้เลยนะ
_1614 …คนเรามีกาละเวลา ความลงตัว โอกาสจึงมีไม่เท่ากัน ความคิดอ่านจึงต่างกัน ความคิดอ่านต่างกันนี้ จะเกิดด้วยสาเหตุใดบ้างคะ
พ่อครูว่า…อันนี้อธิบายไม่ไหวหรอก ยกเหตุผลมาแค่นี้ สู่แดนธรรมบอกว่ามาจากอนิจจัง
– ถ้าใจเย็นเกินไป มัวแต่เฝ้ามองดูมันไปเรื่อยๆ กิเลสก็จะทำงานกับเวทนาจนครบวงจรอย่างรวดเร็วมาก แล้วเราจะเสียหายภายหลัง เพราะฉะนั้นสติของเราต้องแววไวตามทันต่อการเคลื่อนไหวของกิเลสให้ได้ทุกขณะจิต ถูกต้องไหมคะ
– มันยากเหมือนกัน ที่จะจับจิต อ่านจิตให้ได้ไว เวลากระทบ สัมผัส ว่ามันมีอาการอย่างไร กว่าจะรู้ตัวมันก็ได้เสพสมสุขสม กิเลสอิ่มไปแล้ว แล้วมันก็พักยก ต้องอาศัย ฝึกฝนกับธรรมะ อย่างไรดีทั้งนั้น เราต้องทำของเราเอง จะคำว่า แค่ บังเอิญ มี หรือ ๆ เป็นแค่ สภาวะ ผัสสะ หัด ฝึก ฝืน ตัณหา เอาไว้บ้าง ดีใจก็เป็นทาส ของสิ่งเอร็ดอร่อยสนุกสนาน เสียใจก็เป็นทาส ของสิ่งไม่สนุกสนาน ไม่ดีใจไม่เสียใจ ก็คือ ไม่เป็นทาสของอะไร อย่างนี้เราเรียกอะไรคะ
พ่อครูว่า…สรุปคุณถามมานี่ปนกันไปหมด คุณพยายามเรียนทีละ 2 พยายามตั้งใจทำให้เรียน ธรรมะ 2 แล้วทำให้เป็นหนึ่ง เอาคู่เดียวก่อน ทุกวันนี้อาตมาจับได้หัวใจศาสนาพุทธเล่ม 10 ข้อ 60 ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ ) ล.10 ข.60
เป็นยอดหัวใจของศาสนาพุทธเลย เทฺว แปลว่า 2 เรื่องใหญ่มากเลย แยกเป็นพวกเทวนิยมกับอเทวนิยม
เทฺว นี้ใหญ่มากในศาสนาในโลก เทฺว เป็นทั้งพยัญชนะและสภาวะ คนก็สลับไปสลับมา ดีไม่ดีหมายถึงแค่พยัญชนะไม่เข้าใจสภาวะเลย ไปเข้าใจเป็นเทวดาล่องลอยไปเลย พุทธเจ้าบัญญัติภาษาพยัญชนะไว้ให้แยกและปฏิบัติจนหมดตัวตน ก็ไม่ได้เรียนรู้แบบนี้ ก็จะไม่รู้ร่องรอยของตัวตนที่เป็นสภาวะหมดตัวตน ภาษาหมดตัวตน ใครๆก็พูดได้พูดกันทั้งนั้น เท่จะตาย แต่สภาวะไม่มีตัวตนที่จะมีได้ก็ยาก แม้แต่แค่สักกายะ จะให้รู้จักตัวตนก็ยังยาก ค่อยๆติดตามไปเริ่มตั้งแต่ กาย ไปเรื่อย นี่คุณแม้แต่คำว่ากายหรือธรรมะสอง รูปกับนาม จะเป็นกาย คุณก็จะต้องจับให้แม่น ไม่อย่างนั้นไม่รู้เรื่องสาระ
_เกร็ดดินว่า… 3 โสดาบัน 2 สกิทาคามี 1 อนาคามี 0 เป็นอรหันต์ ได้หรือไม่คะ ไม่ถึงสังโยชน์ หรือเอาแค่ศีล 5 เมื่อก่อนพ่อท่านว่าถือศีลแค่ข้อ 5 เพราะเมาหมดเลย
พ่อครูว่า..คุณหมายถึงสังโยชน์ อาตมาเข้าใจที่คุณพูด คนอื่นจะเข้าใจหรือไม่ก็แล้วแต่ เท่านั้นก็พอแล้ว คุณก็เข้าใจอาตมาเข้าใจที่คุณพูดก็พอแล้ว ใช้ได้ของคุณ คนอื่นว่าไม่ง่ายนะคุณพูดวนๆอยู่ แต่อาตมาเข้าใจที่คุณหมาย คุณพูดไว้ใน ละไว้ในฐานที่เข้าใจ อาตมาเข้าใจจึงเข้าใจตามได้ แต่คนอื่นอาจเข้าใจไม่ได้
_ภูหิน ..พ่อท่านเทศน์เมื่อวานว่า 0 มีค่าหรือไม่ ตอนผมเรียนป.5 เรียนสมการผมว่า 0 มีค่านะครับ มาตอนนี้ วิทยาศาสตร์ แต่ผมเรียนศิลป์ภาษาฝรั่งเศส จบ มศ.5 ผมก็อยากพูดเรื่องผมมาจากหนองคาย มากับพี่พอที แต่เขาตายไปแล้ว จะถามพ่อท่าน
พ่อครูว่า…0 มีค่าก็ได้หรือไม่มีค่าก็ได้จะเอาไปใช้ในวาระไหน ถ้าเอา 0 ไปต่อท้ายตัวที่ไม่ใช่ศูนย์เริ่มตั้งแต่ .00001 หรือเอาไปต่อหลัง 1 มันก็จะมีค่าเป็น 10 อย่างนี้เป็นต้น แต่ถ้าเอาศูนย์ไปเติมข้างหน้ามันจะมีค่าน้อยลงเรื่อยๆ 1 คือเริ่มต้น ตัวตั้งตัวที่ 1 ถ้าเอา 0 ไปต่อข้างหลังค่าจะมากขึ้น แต่ถ้าเอา 0 ไปอยู่หน้า ค่าก็จะลดลงๆๆๆ 0 มีอำนาจ
_เด็กหญิงแก้วบุญ…ราคะแปลว่าอะไร?
พ่อครูว่า…ราคะแปลว่า ความอยากได้อยากมีอยากเป็น อยากได้สนุกสนาน อยากได้อะไรอร่อย อยากได้อะไรก็แล้วแต่ ว่ากันจริงๆแล้วราคะรวมหมดที่อยากได้มาเป็นของเรามาเสพรส เขาแยกราคะกับโลภะ ออกเป็นสองอัน
โลภะ อยากได้มาเป็นของๆเรา
ส่วนราคะนั้นอยากได้มาเสพรส ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย เรียกว่าราคะ
ถ้าโลภะ นี้อยากได้ของ อยากได้แม้แต่ตัวตนบุคคลเราเขา มาเป็นของเรา อยากได้มาเป็นของเรา ส่วนราคะ อยากได้รส มาเสพอร่อยในใจเรา ต่างกัน โลภะเป็นของ ของเล็กก็ตาม แต่ราคะนี้เสพรสได้รสมาเสพ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
จะเรียกว่าโลภะ เป็นโอฬาริกอัตตาก็ได้ ราคะเป็นภายใน
_โมกข์…หลวงปู่เคยบอกว่าในจักรวาลของเรามันมีโลกที่มีคนเหมือนกับโลกของเราใช่ไหมคะ อยากทราบว่าในจักรวาลจะมีโลกที่มีสังคมบวรมีพระอรหันต์มีพระพุทธเจ้าเหมือนโลกเราไหม
พ่อครูว่า…หลวงปู่ไม่รู้ ตอบง่ายมากเลย เดาได้ว่าอาจมีได้ แต่เราไม่รู้จริงมันมากมายไม่รู้กี่ล้านโลกในจักรวาลนี้ บางโลกก็ไม่มีชีวะ บางโลกมีชีวะ คาดคะเน มนุษย์ต่างดาวบางดวงอาจจะฉลาดยิ่งกว่าชาวโลกก็ได้ เขาอาจจะมีพาหนะบินมาอยู่ในโลกก็ได้ เขาถือว่าเขาฉลาด หากมนุษย์ต่างดาวมาลงที่นี่มียานพาหนะก็เรียกว่าจานบิน มาลงที่เราได้เขาถือว่าเขาเก่ง พวกเราก็พยายามจะเก่งใช้ยานพาหนะไปลงดาวดวงอื่นก็ยังไม่เก่งเท่าไหร่
_หนึ่งดาว ทีวีดูไม่ได้ สัญญานอ่อน เลยได้ดูจากเฟสค่ะ ขอบคุณที่มีหลายทางเลือกให้รับชมค่ะ
_ลุงตู่ไม่ได้ปฏิวัติ ประชาชนปฏิวัติ แล้วลุงตู่เป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร
พ่อครูว่า…ก็เพราะว่าประชาชนให้ลุงตู่เป็นตัวแทนไง พอเสร็จเหตุการณ์ดำเนินไป ก็มีรักษาการณ์นายกฯ คือ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ตอนนั้น ผบ.ทบ.ที่มีอำนาจสุงสุด ตอนนั้นประชาชนได้ทำให้รัฐบาลหมดอำนาจไปแล้ว แต่รัฐบาลตอนนั้นก็ไม่ยอมและมีเหตุขัดแย้งกันมาก ลุงตู่ก็เลยออกมาเป็นตัวแทนที่จะทำการยึดอำนาจ ก็สำเร็จเรียบร้อย และประชาชนก็ให้ลุงตู่บริหารไป ก็ได้ประสบผลสำเร็จจนบัดนี้ ทำคะแนนกี่โพลก็ให้ลุงตู่เป็นผู้นำ
ตั้งแต่เห็นนายกรัฐมนตรีมาคนนี้คนที่ 29 คนนี้เข้าตาที่สุด ตั้งแต่พ.ศ 2475 ตั้งแต่คนแรกคือพระยามโนปกรณ์นิติธาดา ก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องประชาธิปไตยเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นไรก็ผ่านไป ในขณะนี้สิ่งที่เอาความจริงเป็นจริง ในปัจจุบันนี้ status quo ปัจจุบันนี้แหละอันนี้ใช้ได้ ยังดีอยู่กว่าที่เคยมีมา เพราะฉะนั้นคนที่จะมาทำข้างหน้ายังไม่รู้ฝีมือก็ยังเสี่ยงเลย คนที่อยากจะได้อำนาจอยากจะแสดงฝีมือมันมีอีกเยอะ ก็เลยแย่งชิงกัน ประชาชนก็ต้องช่วยกัน ถ้ายังเห็นว่านายกตู่คนนี้ทำดีอยู่ ไม่ไว้ใจคนที่มาใหม่ ก็ต้องช่วยกัน นี่ก็ใกล้จะเลือกตั้งอีกแล้ว
นายกฯตู่ไม่ลงเป็นสมาชิกของพรรคใดด้วย นี่ก็เป็นเรื่องของนายกฯตู่ที่จะทำอย่างนั้น มันซ้อนนะอันนี้ลึก การไม่ลงเป็นสมาชิกของพรรคใดมันเป็นการวัดใจประชาชนยิ่งกว่าลงไปอยู่ในพรรคใด ถ้าไปอยู่ในพรรคใดพรรคหนึ่งมันชัดเลย มันชัดมันง่ายกว่า แต่ถ้าไม่ลงพรรคใดยากกว่า ก็ยังไม่รู้เลยว่านายกฯตู่จะได้เป็นนายกฯอีกต่อไปหรือไม่ในครั้งหน้า กฎหมายก็เปิดช่องทางให้คนนอกคนไหนก็ได้ แต่จะได้หรือไม่ได้ก็ยังไม่แน่เลย ซึ่งกลเม็ดกลยุทธ ของนักการเมืองมีอีกเยอะแยะซับซ้อนมากมาย อาตมาก็เชื่อว่า
อาตมายิ่งพอใจพลเอกประยุทธ์ ก็ตรงที่ว่าดีแล้วล่ะ กั๊กไว้อย่างนี้แหละมันเป็นการวัดใจมนุษย์วัดใจประชาชน คนที่มีปัญญารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เกิดมวลที่จะเข้ามาสู่อันนี้ได้ ให้พลเอกประยุทธ์ได้ คนก็เอาความรู้ของตัวเองทำเต็มที่ทำแล้วจะออกมาเป็นอันนี้เอง อาตมาว่าความจริงใจความบริสุทธิ์เท่านั้นจะชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ คนไทยทุกคนเข้าใจกันเยอะ เข้าใจได้มาก อาตมาว่ามากกว่าประเทศไหนๆที่เป็นประชาธิปไตย เฟื่องฟู คนจะมีแค่ 70 ล้านก็เถอะ
_มิ้นท์ตี้ โซ มีคำถามสงสัย คือ
-
ในบทสวดมนต์ มีการกล่าวถึงเปรต กับเทวดา อยากถามว่า เปรตกับเทวดาหมายถึงอะไรคะ
พ่อครูว่า…มันละเอียดที่จะเข้าใจได้
เปรตคือจิตวิญญาณของมนุษย์ที่ไม่เกี่ยวกับอัตภาพของสัตว์โลก มันจะมีอยู่ในสัตว์โอปปาติกะที่ยังไม่เข้าร่างมนุษย์ จะไม่อยู่ในร่างมนุษย์อยู่ลอยๆอยู่ จะเป็นนรกสวรรค์ก็ตาม ถ้าเป็นสวรรค์เป็นนรก สวรรค์ก็เป็นเทวดา เป็นนรกก็เป็นเปรต
เรียกโดยภาษาว่า เปรตคือพวกทุกข์ สวรรค์ก็คือ เทวะ
คือ ศาสนาพุทธนั้นไม่มีทั้งสวรรค์และนรกได้เลย ใครยังมีสวรรค์หรือนรกอยู่ก็ยังมี 2 ใครทำให้เหลือแต่สวรรค์อย่างเดียวไม่มีนรก สวรรค์ก็ยังเป็นของเก๊ซึ่งจะต้องเป็นศูนย์ให้ได้ เพราะฉะนั้นก็ยังดีไหมล่ะ เป็นสวรรค์ที่ไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร ทำให้ตัวเองลอยตัวอยู่เหนือทุกอย่าง นี่เรียกว่าสวรรค์ของโลกุตระ ส่วนสวรรค์ของโลกียะนั้น ตอนนี้ยังไม่อธิบายเพราะมันมีมากเยอะมาก ของเก๊
สรุปอีกที เปรตกับเทวดาก็คือจิตวิญญาณของคน เปรตกับเทวดาที่ไม่อยู่ในร่างของคนนั้นไม่ต้องพูดถึง ก็ไปตามวิบากเท่านั้นเอง มาเป็นคนที่จะแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปพูดถึง นอกจากไม่พูดถึงแล้ว จะไปตามตัวมาก็ไม่ได้ เอาไปทำอะไรไม่ได้มีแต่คนอวดเก่งเท่านั้นที่จะติดต่อกับเปรตติดต่อกับเทวดา ไม่มีทางได้ เพราะว่าเปรตกับเทวดาเป็นเอกภาพเป็นปัจจัตตัง เป็นตัวตนของเขา คนจะไปแทรก วิญญาณเทวดาวิญญาณเปรตที่ไหนไม่ได้ เพราะเปรตก็ดีเทวดาก็ดีไม่มีภพไม่มีแดน แต่คนไปเข้าใจว่าเป็นแดนสวรรค์แดนนรก นรกสวรรค์มันอยู่ที่ตัวเรา อยู่ที่อัตภาพจิตวิญญาณที่ตายแล้วเป็นนรก นรกเขาก็เป็นอยู่คนเดียว แต่อุปาทานของเขาว่ามีภพชาติเยอะแยะอยู่กับคนอื่นได้ด้วย มันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเป็นเรื่องลอยลม แต่ตัวเขานั้นเป็นทุกข์ หรือว่าตัวเขาหลงว่าเป็นสวรรค์ก็เป็นตัวของเขาคนเดียว เป็นอัตภาพของเขาคนเดียว มันไม่มีของคนอื่นเลย ที่ว่าจะไปพบคนนั้นคนนี้มันเหมือนกับคุณฝันไปเป็นเอง ฝันมันไม่เป็นจริง นึกว่าพบกับคนโน้นคนนี้ มันคือนรกในฝัน อยู่สวรรค์ก็ฝันเป็นสวรรค์ จิตวิญญาณของคนที่อยู่ในนรก หรืออยู่ในสวรรค์ จิตวิญญาณเขาก็ฝันอย่างนั้นจริง มันซ้อนกันไง อยู่ในนรกสวรรค์ที่อยู่ในภพไม่มีเนื้อหนัง นั่นก็เป็นชั้น 1 แล้วก็ไปฝันอยู่ในตัวของเขาอีก แล้วก็ไปฝันซ้อนเข้าไปอีก มันอยู่คนเดียวเต็มไปหมดของตัวคนเดียว ยิ่งจะมีเยอะใหญ่เลย นึกออกไหมตามไหวไหม สรุปแล้ว อย่าไปเกี่ยวเพราะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้มาปฏิบัติอย่างมีเนื้อตัว มีทฤษฎีของพระพุทธเจ้า แล้วจะรู้ความจริงทั้งหมด
บทสวดมนต์ก็มีอีกมากมายผสมผสานหลายอย่าง
-
คนที่นั่งสมาธิแล้วเห็นชาติก่อนๆของตนเองหรือคนอื่น สามารถเป็นไปได้มั้ยคะ ถ้าคนนั้นยังกินเนื้อสัตว์อยู่
พ่อครูว่า…ส่วนมากเห็นของเก๊ เห็นแต่ของตัวเองได้เท่านั้น เห็นแต่ของตัวเองที่เราสร้างเอง คิดฟุ้งซ่านไปเป็นอนาคตที่ไม่มีจริงบ้างเอาอันอื่นมาบ้าง ก็นั่งหลับตาแล้วจะมีแต่อดีตกับอนาคตไม่มีปัจจุบัน นอกปัจจุบันไม่ถือเป็นความจริงอดีตกับอนาคตตัดทิ้งไปไม่ถือเป็นความจริง เอาเรื่องจริงปัจจุบันนี้ ไม่ใช่เลยไปแล้วปีหนึ่ง ปัจจุบันนี้เลยไป 5 วินาทีก็ยังไม่ใช่ความจริง เอาวินาทีนี้เร็วกว่าวินาทีอีกจึงเป็นปัจจุบันนี่คือศาสนาพุทธ
เพราะเลยไปจากปัจจุบันนิดนึงก็เป็นอนิจจังแล้ว มันเร็วมากเลย
จะตอบไม่ได้ว่าจะกินเนื้อสัตว์หรือไม่กินเนื้อสัตว์
_ประพบ ยศวรรณ ผมชอบเนื้อหาธรรมะพระโพธิรักษ์เกี่ยวกับศีลและวินัย 227ข้ออยากให้พ่อครูอยู่ช่องนี้ตลอดไปชั่วกาลนานเทอญ ผมไม่ลบออกเลย1000000เปอร์เซ็นต์
_จาก…คนจนมหัศจรรย์ แบ่งปันตลอดกาล กราบนมัสการหลวงปู่ครับ ได้ฟังธรรมหลวงปู่แล้ว รู้สึก ชัด กระจ่าง แจ่มแจ้งมากครับ ที่ว่าสุดยอดของศาสนาพุทธ คือการพ้นเทวที่แปลว่า๒ จนเป็นอเทว ทำธรรมะ๒ ให้เป็นธรรมะ๑ ผมพอจะเข้าใจถูกไหมครับ
พ่อครูว่า…ถูกต้องดีแล้วติดตามให้ดีอันนี้แหละลึกซึ้ง อาตมากำลังขยายความธรรมะ 2 ให้เป็นธรรมะศูนย์ ธรรมะ 1 ก็เป็นเรื่องหัวใจแท้ๆของศาสนาพุทธ ที่เป็นอเทวนิยม เพราะศาสนานอกนั้นไม่ใช่พุทธ เป็นเทวะทั้งนั้น แม้แต่พระศาสดามหาวีระที่บอกว่าไม่นับถือพระเจ้าเขาก็ยังไม่เข้าใจอีกก็ยังเป็นเทวนิยมอยู่นั่นเอง ศาสนาของพระมหาวีระเป็นพวกฑิฆัมพรแก้ผ้าโทงๆ เขาว่าไม่เอาพระเจ้าแต่ก็ยังเป็นเทวนิยม
_พรตะวัน…การตั้งตบะแต่ละเรื่อง จะใช้ทั้งสมถะและวิปัสสนา ตัวเองมี สักกายะเรื่องติดขนมหวาน ตั้งไว้ทุกปีตอนตั้งก็ทำได้ แต่พอออกพรรษาก็มากินอีก แต่มันก็ได้ประโยชน์ ตั้งแล้วก็ทำให้เราลดละ จางคลายจากขนมอาหารขยะก็ลดมาเรื่อยๆตามลำดับ จนกระทั่งขอให้หวานแค่น้อยมีถั่วมีอะไรแค่นี้ แต่ก็ไม่หมดสักที ปีนี้ไม่ตั้งแล้ว ตั้งก็เหมือนเดิมก็เลยบอกว่าเอาไว้ก่อน ไปตั้งเรื่องออกกำลังกาย มันไม่เอาจริงเอาจังก็เลยตั้งเรื่องนี้ ก็ได้ประโยชน์ เราไม่เห็นโทษภายในขนมหวาน เพราะเราฉลาดที่ไปกินไม่ต้องเยอะ กินขนมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ว่ามันก็อาศัยเสพชื่นใจอยู่ เราไม่เอาจริง โอ๋ตัวเองหรือว่า
พ่อครูว่า..ใจร้อน พิจารณาให้ลึกซึ้งว่ารสหวานรสชอบชื่นใจนี้มันไม่ใช่ของจริง มันไม่เที่ยงหรอก เดี๋ยวมันก็หากเราอินทรีย์พละแข็งแกร่งก็ไม่อร่อยเท่าไหร่ หากเราอินทรีย์พละอ่อนมันก็อร่อยขึ้นมา มันไม่เที่ยง และมันก็เป็นภาระแก่เราให้เราทุกข์
_เวลาไม่ได้กินก็โหย เราก็รู้สึกว่า ร่างกายมันต้องการหรือกิเลสกันแน่
พ่อครูว่า…หากโหยๆนี่หนัก เอ้าทำต่อไป คำว่าโหยหายังหนัก ยังเป็นชะนีอยู่ โหยหา
_ปรีชา…ผมจบแล้วครับตอนนี้ ผมจบเรื่องที่ผ่านมาสองตอนแล้วจบแล้วครับ ตั้งแต่พ่อท่านบอกว่าพอ ผมไปทบทวนว่าวิธีที่ผมทำเป็นเรื่องยากและเฉพาะตัวยากมากจะทำขึ้นมาใหม่ได้ ผมติดมา 30 ปีแล้ว (พ่อครูว่า..เขาติดมาเป็นล้านปียังทิ้งได้เลยคุณติดมาแค่ 30 ปีทิ้งได้เลย ไม่ขาดทุนหรอก)
ปรีชา…วิธีจะเข้าถึง ฌาน 4 ผมพบแล้ว จากอาจารย์หลายอาจารย์แต่ไม่ถึงมรรคผล ตามที่ผมตั้งใจแต่แรก
พ่อครูว่า…ไม่อยากพูดต่อว่า คุณทิ้งอาจารย์ทุกคนเสียได้ไหม มาหาอาตมาให้เต็มๆอาตมาไม่อยากพูดต่อ มันอยู่ที่คุณว่าจะทำอย่างนั้นไหม อาตมาว่าทิ้งอาจารย์ของคุณทั้งหมดทุกคนเถิด อาตมาคนเดียวแล้วคุณจะไปได้ แต่นี่หลายอาจารย์ก็เลยยาก
ปรีชา… แต่ผมก็ยอมแล้วตั้งแต่วันที่พ่อท่านพูด
พ่อครูว่า…ตัวอย่างอย่างนี้เยอะอยู่เหมือนกัน เราก็เคารพเป็นอาจารย์ให้ได้ฉันนั้นฉันมีมา แต่ระดับที่เราเห็นว่าควรจะเต็มที่กับองค์นี้คนนี้ อย่างอาตมาหรือว่าศาสนาเทวนิยมของเขา เขาก็ว่าต้องเอาพระเจ้าองค์นี้องค์เดียว ขนาดเทวนิยมเขาก็ยังขนาดนี้ ศาสนาพุทธพระพุทธเจ้าให้อิสระ ท่านบอกว่าไม่ต้องมาเคารพท่านองค์เดียว แต่อาตมามั่นใจว่าเคารพพระพุทธเจ้าองค์เดียว องค์อื่นอาตมารู้เหมือนกันหมด จะไม่เสียพลังงานแล้วก็ศึกษาให้เต็มๆ อาตมาไม่แบ่งพลังงานแคลอรี่ไปกังวลกับส่วนสงสัยอันอื่นไม่เอา หรือจะไปพึ่งอันอื่นไม่เอา พึ่งอันนี้อันเดียว
_แม่ชีนันท์มนัส…เราไปขายของอุทยาน คนไปช่วยงานจิตอาสาจะมีแนวโน้มเป็นพระโสดาบันได้ไหม
พ่อครูว่า…ก็ลองดู ตาดีได้ตาร้ายเสีย ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติไม่มีอะไรมากหรอก
_นมัสการค่ะ ถ้าเรามีเรื่องปิดบังเพื่อนแล้วโกหกเพื่อนแล้วเพื่อนรู้ทีหลังจะโกรธไหมคะ
พ่อครูว่า..เขาจะโกรธเราแน่ๆก็ค่อยๆบอกเพื่อนไป
_จากคุณตุ้ม พรทิพย์ เจริญธรรมค่ะ ที่ท่านสิกขมาตุสรุป รูป คือ รูปรส สัมผัส เวทนา คือตัวรับรู้ผัสสะแล้วมี 3 สภาวะ สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ สัญญาคือตัวกำกับรู้ ใช่ปัญญาไหมคะ ปัญญารู้กิเลสเมื่อผัสสะเกิด ปัญญารู้ว่าเวทนารู้สึกอย่างไร ปัญญารู้ว่าจะประหานกิเลสอย่างไร หรือ สู้ไม่ได้ก็ยอมด้วยใจที่ไม่ทุกข์ ส่วนวิญญาณ คือ ผลที่ได้ ดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายให้ด้วยคะ ขอบคุณค่ะ
พ่อครูว่า…สัญญากับปัญญาไม่ใช่อันเดียวกัน สัญญานำหน้าแล้วสั่งสมเป็นปัญญา ปัญญา เป็นความรู้ที่คมชัดลึกแม่นตรงยิ่งกว่าสัญญา
_สมณะเลื่อนฟ้า ถามว่า ภูมิระดับใหนที่ระงับปิติได้หมดครับ
พ่อครูว่า…ก็ต้องภูมิระดับอรหันต์ แล้วอรหันต์จะซ้อมตัวเองว่า ไม่ให้ปีติเกิด แต่ไม่ให้ปีติเกิด มันจะแข็งๆไม่สดชื่น พระพุทธเจ้าถึงใช้คำว่า อภิปโมทยังจิตตัง ให้มีผรณาปีติ ไม่เช่นนั้นจะไม่มีกำลัง แข็งเฉยเด๋อ ในฐานะเราไม่จบ หรือแม้จบแล้ว จะทำงานไม่มีแรงไม่ก้าวหน้า จะทำงานก้าวหน้าคนต้องมี ปีติ เลี้ยงหรือช่วย แรกๆอาจใข้ปีติแรงช่วย พอเก่งขึ้นก็ใช้ปิติเบาบางขึ้นตามภูมิ เวลาปฏิบัติเราจะรู้ความจริงอันนี้เองเพราะว่าเป็นอรหันต์จะเข้าใจรายละเอียดพวกนี้กลับไปกลับมา เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อนกลับไปกลับมาจะเข้าใจอันนี้ได้ดีก็จะใช้ ได้ดี
อรหันต์ต้องหยุดได้หากหยุดไม่ได้ก็ไม่ใช่อรหันต์ อรหันต์ต้องหยุดได้แล้วจะค่อยมีขึ้นมา คุณถามว่าผรณาปีติ มันเกิดขึ้นเองไม่ได้สร้าง คุณก็ต้องดับมันได้ก่อน คนจะต้องให้มันขึ้นมามีใหม่ อย่าว่าแต่ผรณาปีติเลย คุณกลายเป็นคนที่ กดข่มก็ได้ ให้มีแค่ผรณาปีติ คุณเข้าใจเหตุผลคุณเก่งคุณก็ทำได้ แต่คุณยังไม่ได้หัดให้มันหมดซะก่อน แล้วคุณก็ค่อยมาให้มีได้ คุณอย่าไปหลงให้มันมี แต่ไม่หมด ก็ตีกินเป็นอรหันต์ได้อย่างไร
อาตมาใช้ปีติเลี้ยงอยู่แต่เร็วไว อาตมาใช้ฌานทั้ง 4 ได้เร็ว เรื่องนี้ใช้ขนาดนี้เรื่องนั้นใช้ขนาดนี้อย่างนี้ก็ได้หมด อาตมาเก่ง ประมาณได้ตามต้องการ แต่ก็ไม่เก่งถึงที่สุด
_โชติกา..อยากถามว่า ก่อนที่จะมีพระพุทธเจ้าสมณโคดม มีพระพุทธเจ้ามากี่องค์แล้ว
พ่อครูว่า…นับไม่ถ้วนมีประมาณยิ่งกว่าเม็ดกรวดทรายในมหานที ยังไม่รู้ว่าในกัปป์ของมหาจักรวาลนี้มันกี่ล้านๆๆๆปี จะมีพระเจ้ากี่พระองค์คุณจะนับไปทำไมพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้แล้ว เป็นแต่เพียงว่า ทุกพระองค์ตรัสรู้อริยสัจ 4 เหมือนกันทุกองค์
_ศิษย์เก่าสัมมาสิกขา..กราบนมัสการค่ะ คือหนูอยากจะถามว่า คือการที่ตามหลวงปู่ไปรอบสุดท้ายนี้. โสดามีสิทธิ์ที่จะอยู่ในวงล้อมโพธิ์สัตว์ คือจะไม่ตกต่ำและสามารถตามหลวงปู่ไปได้หรือเปล่าแค่โสดาน่ะค่ะ หรือต้องทำขนาดไหนคะ
หรือว่าขึ้นอยู่กับวิบากเก่าหรอคะ. หรือว่าวิบากใหม่ที่ไม่ขวนขวาย
หนูแค่รู้สึกว่าหนูทำไม่ได้ดี. หนูคิดว่าตัวเองคงไม่ได้อะไรในชาตินี้. เห็นผู้ใหญ่ที่ฝึกฝนทำความเข้าใจกับสิ่งที่หลวงปู่พาทำ. ยังยากขนาดนี้เลย. แล้วตัวเองล่ะ มันยากมากเลยค่ะที่จะลดกิเลสโลกๆของตัวเอง. หนูคิดว่าตัวเองเกิดมาในช่วงยุคสุดท้ายที่หลวงปู่อายุมากแล้วด้วย. หนูยิ่งคิดว่าตัวเองห่างใกล้และกลัวเวลาของพระโพธิสัตว์จะน้อยลงเท่านั้นค่ะ หนูก็ว่าตัวเองทำไม่ได้หรอกค่ะ. แต่หนูก็อยากจะพยายามแค่นั้นค่ะ
พ่อครูว่า…ได้…จะต้องทำขนาดพอดี อย่าให้มากเกินหรือน้อยเกิน ขึ้นกับวิบากด้วย วิบากใหม่ด้วย ประมาณเอาใช้ปฏิภาณเราตัดสิน ไม่เช่นนั้นเราจะต้องถามแต่คนอื่น แต่ถ้าเราทำเองสำเร็จเองความเชื่อถือจะมีมาก อย่าไปท้อที่คนอื่นทำได้ยาก เอาที่ตัวเองทำดีกว่า
ตกลงอันสุดท้าย พยายามก็แล้วกัน
_ถ้าเราโดนใส่ร้าย ทั้งๆที่มันไม่จริง ได้มันไม่จริงเลยแล้วเราควรทำอย่างไรกับสถานการณ์อย่างนี้ครับ เพราะหลวงปู่เคยโดนใส่ร้ายจากมหาเถรสมาคม ผมว่าพวกชอบใส่ร้ายเป็นพวกโรคมโน แน่ๆเลยครับ
พ่อครูว่า…ตัวเองตอบถูกแล้ว เขาเป็นโรคมโนก็ปล่อยเขาไปเขาจะใส่ร้ายเราแน่ชัดหรือไม่ เขาพูดว่าใส่ร้ายแต่บางทีมันเป็นจริงก็ได้นะตรวจให้ดีๆอย่าลำเอียงเข้าข้างตัวเอง ถ้าตรวจแล้วเขาว่าเราถูกแฮะ ก็ขอบคุณเขา แต่ถ้าตรวจแล้วตรวจอีกไม่ลำเอียงเขาใส่ร้าย ก็ปล่อยไปโยนทิ้งไปมันเป็นความเข้าใจผิดความเข้าใจไม่ได้ของคนอื่นเขาเท่านั้นเอง
_SMS วันที่ 15 กย. 2561 (สมณะ สิกขมาตุ บ้านราช : พุทธศาสนาตามภูมิ)
_เจน ฮู เชอร์ · ถามเจ้า ค่ะ สมัยพระพุทธเจ้าไม่มีปลาทู ไม่มีทุเรียน อาหารอร่อย ฯลฯ คนบรรลุ ธรรม ง่ายใช่ไหมเจ้าค่ะ?
พ่อครูว่า…คุณรู้ได้อย่างไร ปัจจุบันเกิดมากี่ล้านปี ไม่จริงหรอกคนไปพูดได้อย่างไรอาจจะมีทุเรียนเยอะแต่เขาไม่ติด
_ชายพงไพร บุนิตระกูลพุทธ · อยู่ห่างผัสสะรึโจทย์..ทำให้เราอ่านกิเลสที่มันเกิดได้ชัดขึ้นใช่ไมครับ…พรากไม้ที่ชุ่มด้วยยางออกจากน้ำ
พ่อครูว่า…ก็ได้ คุณจะไม่ไปยุ่งกับใครแล้วพยายามอ่านกิเลสของคุณ ถ้าคุณอ่านจากข้างในโดยไม่มี ผัสสะภายนอก จะไม่รู้จักกิเลสตัวจริง ต้องมีสัมผัสภายนอกคุณจะสัมผัสโดยไม่ได้อยู่ในหมู่กลุ่ม ภาษากับอย่างอื่นมันก็มีแต่กันนั่นแหละ แล้วก็อ่านให้ได้จริงๆว่ามันเกิดผัสสะแล้ว แต่เราเกิดโทสะหรือราคะหรือไม่ ถ้าเกิดก็ต้องอ่านให้เป็น ราคะ โทสะ เป็นอาการอย่างนี้แล้วคุณก็ลดสิ โดยวิธีการเห็นด้วยไตรลักษณ์ กดข่มมันก็ได้บ้างแต่มันเก่งแต่กดข่มไม่หมดเสียที ก็ต้องเรียนรู้อย่างเป็นสัจจะมันไม่เที่ยงมันเป็นตัวการของความทุกข์ ทำให้เราทุกข์เราสุขอยู่อย่างนี้ มันไม่หายไปจากเราเสียที ก็ต้องพิจารณาอย่างนี้จริง
ภาษาคำนี้ ไม่เที่ยง มันเป็นเหตุแห่งทุกข์มันไม่มีตัวตน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็รู้กันทั้งนั้น พูดได้กันทั้งนั้นแต่จะเข้าถึงสภาวะจริงๆเข้าใจมันจริงๆว่ามันไม่เที่ยงจริง มันพูดด้วยภาษาแต่ปากแต่ใจของคุณถึงจริงแล้วคุณจะรู้เลยว่า มันคลายไม่ยึด วาง ก็ต้องอ่านว่ามันจางคลายมันไม่ยึดมันวางนั่นแหละประสิทธิภาพของจิตคุณ
วันที่ 16 กย. 2561 (วิถีอาริยธรรม)
_2166 พอท่านฟ้าไทวว่าช่องนี้ช่องเดียวที่พุดเรื่องโลกุดตะระ วจีสังขารผมมันปรุงเสร็จทันที???????
พ่อครูว่า…ก็จะขอไขความว่าถูกต้อง ภาษาที่อื่นอาจจะเป็นได้ แต่ว่าที่นี่พูดครบกว่าตรงกว่าถูกกว่า เพราะที่นี่ทำมา 48 ปี มีคนที่ทำได้เป็นแก่นโลกุตระ คนอื่นอาจจะมีบริวารมากกว่า แต่จะมาเป็นโลกุตระไม่ได้อย่างชาวอโศก ขอยืนยันเลย อันนี้ก็ขออภัยพูดท้าทาย เหมือนยกตน ขอย้ำ อีกที โลกุตระคือช่องนี้ช่องเดียวที่ชัดเจนที่สุดจริงที่สุด และมีผลจริงตรงตามพระพุทธเจ้าตรัส ตรงตามพระไตรปิฎกและมีมวลแข็งแรงเป็นปึกแผ่นเป็นเอกีภาวะ สามัคคียะ อวิวาทะ สังคหะ ครุกรณะ ปิยกรณะ สาราณียะอย่างแท้จริงขอยืนยัน
_3867 ก็พ่อครูเคยสอนการพิจารณาตามเพ่งความบ่เที่ยงของกิเลส!ตามเล็งความจางคลายกำหนัดของตัวตน!ตามเหล่ความดับของตัณหา!ตามเห็นการย้อนหวนกลับมิสลัดคืนของกิเลส!ใช่ธ.อนุปัสสีไหม?กบฉงาย?
พ่อครูว่า…คุณเก่งพยัญชนะแล้วเอามาเรียงอยู่เรื่อย จัดให้ชัดและพิสูจน์ทีละตัวดีกว่าอย่าเอาแต่ปฏิภาณปัญญาภาษา คุณ 3867 เอาสภาวะสั้นๆ ธรรมะสอง ตามดูสภาวะว่ามันลดละจางคลาย จนสูญตามเวทนา 108 แยกให้ออก เนกขัมมะ เคหสิตะ แล้วให้เป็นอุเบกขา เนกขัมมะอย่างยั่งยืนจน นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) “นิจจัง-ธุวัง-สัสสตัง-อวิปริณามธัมมัง-อสังหิรัง-อสังกุปปัง”
_1614 อาจารย์ภาคประวัติศาสตร์จะเตือนเสมอว่า เวลาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวในอดีต จงระมัดระวังการเอาแว่นตาปัจจุบันมองและตัดสิน เพราะบริบทของเหตุการณ์นั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยแต่ก็ไม่เคยซ้ำรอยเดิม อาจมีความคล้ายแต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด ต้องเข้าใจอดีตจากสายตาคนในอดีตนะ ถามว่า ย่อมซ้ำรอย ธรรมะยิ่งซ้ำ พูดย้ำ เช่น อนุปุพพิกถา ยิ่งกระจ่าง จะใช้ว่า ซ้ำรอยไม่ได้ใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…ตกลงตามที่คุณถามมาแล้วคุณก็เข้าใจว่าจริง ทุกอย่างไม่เท่าเดิมทุกอย่างไม่เที่ยง
_อำภา รื่นใจดี · กราบนมัสการถามเจ้าค่ะ ท่านพ่อครูเคยกล่าวว่าอาหารสามารถ
บรรลุธรรมได้ ลูกสังเกตุตนเองกับการกินก็ไม่ได้รู้สึกว่าชอบหรือไม่ชอบอาจเป็นเพราะไม่ชอบทำกับข้าว ก็เลยกินง่าย ถึงแม้มีบางอย่างพิเศษมาทำให้รู้สึกอร่อยก็ไม่ไปติดยึดที่จะไปแสวงหาให้ตนเองเดือดร้อน อาหารเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันที่ต้องกิน มีอะไรกินได้ก็กินๆ ไป แค่นี้ก็จบ แต่ที่ลูกให้ความสำคัญและใช้สติควบคุมคือการเคี้ยวอาหารเพราะฟันไม่ดี กับเคยเคี้ยวโดนเม็ดกรวดจึงระมัดระวังอย่างมาก คำถามคือ เรื่องอาหารของลูกเป็นอย่างนี้ แล้วกิเลสมันไปซ่อนอยู่ตรงไหน ลูกหาไม่เจอเจ้าค่ะสาธุเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…ไม่ใช่อาตมายืนยันกล่าว แต่พระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่ตรัสไว้ ว่าอปัณณกปฏิปทา 3 เป็นหลักปฏิบัติที่ไม่ผิดในจรณะ 15 เรื่องอาหารนี้มันอยู่กับเรา แม้แต่เป็นพระพุทธเจ้าไม่ทำอย่างอื่นได้ แต่ว่ามันจริงที่สุดต้องกินอาหาร อาหารนั้นมีสิ่งที่เป็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่คนยังติดยึดอีกเยอะ อาหารนี่แหละ เรียนรู้ปฏิบัติจนบรรลุธรรมได้
คุณไปอ่านใหม่ อ่านอาหารนี่แหละ คุณจะยังมีการชอบไม่ชอบอยู่ในอาหารอร่อยไม่อร่อย พอใจหรือไม่พอใจในอาหารหลายๆอย่าง คุณจะชอบอาหารในหลายอย่างไม่เท่ากันหรอก มันมีรสต่างกันคุณต้องอ่านแยกให้ได้ มันก็มีรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ปรุงของมัน กลายเป็นรส เรียกว่ารสกลมกล่อม เรียกว่ารสที่บอกไม่ได้เลยว่ามันเป็นรสอะไรบ้าง แต่รสนี้เรียกว่ารสกลมกล่อม รสนัว กลมกล่อมมากเลย แต่ในนั้นมันมีค่อนมาทางนั้นทางนี้เอาให้ชัด เอาให้ละเอียด คุณยังหยาบเท่านั้นเอง
_คุณปิ๋ม อยากทราบว่าอาหารเป็นหนึ่งในโลก การที่เราจะบรรลุธรรม เรากินอาหารสูตรของหมอเขียวกินตามลำดับ มันจะช่วยให้เราบรรลุธรรมได้ไหม
พ่อครูว่า…ได้ คนกินทีละอย่างมันก็จะรู้ว่าคุณชอบไม่ชอบอันไหนหรือชอบอันไหนไม่ชอบอันไหนมากกว่า บางทีคนชอบวันนี้จะได้คุณค่าอาหารสู้อันที่คุณไม่ชอบไม่ได้ ก็ให้ศึกษาเราติดยึดอันที่ชอบแล้วจากกินอันนี้มากกว่าเพราะมันชอบ อันที่มันไม่ชอบแต่มันมีคุณประโยชน์และเหมาะกับตัวคุณด้วย บางที ภาพอาหารอันนี้ตามโภชนาการ คุณต้องการอันนี้มากกว่าด้วยซ้ำไป ศึกษาพิจารณาใหม่
_วาส ทองจันทร์ · กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพยิ่งครับ ครับผมกะงึดยุคือกันครับ สายหลับตาเขาบ่อเข่าใจที่พอครูสอนบ้อครับ เขาเอาแต่หลับตาบ่อคิดบ่อส่งจิตออกนอกวะชั้นหละครับ และบ่อมีผัสไดๆมันสิเกิดปัญญาขึ้นเอง แล้วยกจิตขึ่นไปพิจาระณาผมเล็บฟังหนังกระดูก แล้วกะสิได๋ญาน ได๋ญาณชั้นสูงครับ
พ่อครูว่า…ยกตัวอย่างเล็บ คำว่ากายคือลักษณะอย่างหนึ่ง คุณจะตัดกาย นี้ไม่ใช่เรา เล็บที่ไม่มีจิตไปร่วมแล้ว ตัดออกคุณก็ไม่เจ็บไม่ทุกข์ ขนาดมันอยู่กับเราไม่ได้ตัดออกก็ไม่ใช่กายแล้ว แต่คุณไปยึดเป็นตัวเราไหม เหมือนเล็บ มันติดกับตัวเราแต่ไม่ใช่ตัวเราแล้วตัดออกเมื่อไหร่มันก็ไม่เจ็บ คุณอ่านแยกกายแยกจิตออกไหม หากแยกไม่ได้ก็สับสน จะไปพิจารณากายในกายได้อย่างไรจะไปไม่รอด คุณก็พิจารณาแต่ภายนอกดินน้ำไฟลมจะได้ลดละกิเลสไหม กิเลสมันอยู่ที่ดินน้ำไฟลมหรืออยู่ที่จิต แล้วจะไปลดละกิเลสได้ที่ไหน โง่ดักดาน พระพุทธเจ้าให้เริ่มต้นที่กาย ต้องพิจารณาแต่กายหยาบภายนอก จนลึกละเอียดเป็นธรรมะ 2 ไปเรื่อยๆจนสุดท้าย
_สะพานบุญ…ปีติทำให้เกิดวิภวตัณหาใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…ไม่ใช่ วิภวตัณหามันไม่มีพบเลย มันจะเกิดได้อย่างไร
วิภวตัณหา ตัณหาคือความต้องการแต่ความต้องการนี้พูดทำงานต้องการทำงาน แต่ท่านทำอย่างไรก็ไม่เกิดภพ ไม่มีภพคือวิภวะ
ปีตินี้เกิดเองหรือสร้างเอา
เราทำชำนาญก็เกิดเอง หากไม่ชำนาญต้องสร้าง ควบคุมมันให้เกิดก็ได้ไม่ให้เกิดก็ได้ มันก็อยู่ในอำนาจของเรา
_เชวง กิจจะบรรณ์ : ผมยอมรับว่าถ้าการที่ใด้อยู่กับหมู่กลุ่มนั้นดีกว่าอยู่ทางบ้านครับ
พ่อครูว่า…จบ ยอมรับแล้ว
_จาก คุณ จุดจุดจุด …ทำไมพระอรหันต์หรือพระอาริยะเจ้าบางรูปถึงไม่มีคู่ เช่น พระอานนท์ ในชาติดังกล่าวเป็นผู้ที่มีรูปงามมาก แม้ตอนยังไม่ได้บรรลุอรหันต์ก็ไม่มีคู่และไม่อยากให้คนมารักในเชิงกาม ในขณะที่พระอรหันต์บางรูป(ในตอนเป็นลิงลมฯ)ต้องมีคู่ เป็นเพราะวิบากอย่างเดียว หรือการตั้งจิตด้วยคะ ป.ล. ถ้าอัตภาพพระอาริยะเจ้าหรืออรหันต์นั้นมีกุศลวิบากมหาศาล การตั้งจิตเพื่อไม่ให้มีคู่จะมีส่วนช่วยรึไม่คะ
พ่อครูว่า…คุณตั้งจิตไม่ให้มีคู่นี้ดีแล้ว เพราะคนเรามันผ่านการมีคู่มาตั้งแต่เดรัจฉานไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มันทำหนักหนาสาหัสมาตั้งเท่าไหร่แล้ว แม้มาเป็นอเวไนยสัตว์ก็ไปสร้างวิบากที่เป็นคู่ตั้งเท่าไหร่ คุณไม่ต้องห่วงหรอก เป็นแต่เพียงว่าช่วงที่คุณเกิดมาคู่พวกนั้นอีกตั้งร้อยตั้งล้านมันไม่เกิดมาร่วมในยุคนี้เท่านั้นเอง คุณทำตัวให้เป็นอรหันต์แล้วตายหนีจากพวกนี้ไปแล้วคุณก็เลิกก็จบ มันยังจะตามมาทันอีกเยอะแยะเลยไม่ต้องห่วงหรอก
ถามถึงพระอานนท์ทำไมมันเป็นวิบากของท่านคนจะไปถามท่านทำไม คุณจะไปเอาท่านมาคิดของคุณทำไม คุณก็รู้ของคุณ พระอานนท์ก็ของท่าน ท่านเองก็มีวิบากเจอในช่วงนั้นมันก็มีคู่วิบาก แต่ท่านสู้ท่านก็หลุดพ้นมาได้ เหมือนอย่างอาตมาชาตินี้ก็มีอาตมาก็หลุดพ้นมาได้ ยังไม่รู้จะมีตามมาอีกหรือเปล่า เท่านั้นแหละอาตมาก็สู้ ตามมาอีกอาตมาก็ต้องสู้เพราะอาตมาได้แล้วจะมาทางนี้ทางเดียว
_อยากให้บ้านราชฯมีการทำทางลาดขึ้นให้สะดวกหน้าเฮือนศูนย์สูญ สำหรับคนพิการและห้องน้ำคนพิการ
พ่อครูว่า..อันนี้เป็นความเห็นที่เขากำลังรณรงค์เหมือนกัน นักข่าวที่นั่งรถเข็นไง ถ้ามันมีโอกาสถ้าเป็นไปได้เราก็จะทำ คนไม่พิการก็ช่วยให้ได้ประโยชน์หมดเสียก่อนเถอะ คนพิการที่มีกำลังดีๆก็ช่วยกันให้รัฐบาลช่วยไปเถอะ เรายังไม่ถึงขนาดนั้นอย่าไปเอื้อมเอื้อเกื้อกว้างเกินไป พวกเรามีไม่มากคนก็ค่อยช่วยๆกัน ช่วยยกรถเข็นหามมาเลยก็ได้
_พึ่งบุญ…วันที่ 7 ตุลาคมตอนที่เราไปร่วมกับพันธมิตร พ่อครูได้รับบาดเจ็บ เย็บเจ็ดเข็มที่ขา วันโกนศีรษะ ได้รับบาดเจ็บ ตั้งใจหรือว่ามันพลาด
พ่อครูว่า..มันพลาด อจินไตยพวกนี้ อย่าถามเลย
_หากเรารู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสียต้องแก้อย่างไรคะ
พ่อครูว่า… หยุดมันไปแล้ววางทิ้ง ความหงุดหงิดเอามันทิ้งไปหงุดหงิดมันไม่สนุกใช่ไหม
_กิเลสคืออะไรคะ ทำไมเราต้องมีกิเลสด้วย
พ่อครูว่า…กิเลสคือ ตัวร้ายของจิตวิญญาณของเราที่เราต้องจัดการเอาออกจากจิตเรา แล้วทำไมต้องมีด้วยก็เพราะว่าเราเอง ไม่รู้มาก่อนตั้งแต่เป็นสัตว์เซลล์เดียว จนกระทั่งมาเจอหลวงปู่ เราได้สะสมวันมามากแล้วด้วยความโง่ มันก็เลยอยู่ที่เรามาทำไมต้องมี เราโง่มาก่อนเราไม่รู้มาก่อนก็เลยสะสมมา เพราะฉะนั้นต้องจำนนว่ามันมี เราจะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ ดีที่เรารู้ว่าเรามีกิเลสนี่คือดีแล้ว คนที่ไม่รู้ว่ากิเลสคืออะไรคนนี้ยังอีกนาน คนที่รู้ว่าอาการอย่างนี้จับได้แล้วคือกิเลส คนนั้นแหละมีหวังใกล้นิพพาน
_ทำไมคนเราต้องมีศีล
พ่อครูว่า..เพราะเป็นหลักเกณฑ์ที่ดีที่สุดของพระพุทธเจ้าที่เป็นวิธีการของพระพุทธเจ้าที่สอนคนให้มาปฏิบัติแล้วกิเลสมันลดได้จริงๆ ทำศีล สมาธิ ปัญญาแล้วเราจะลดกิเลสลงไปได้เรื่อยๆเป็นวิมุติ
_ถ้าลูกคิด พูด คำหยาบอยู่ในใจ ไม่ได้เอ่ยปากออกมา ถือว่าผิดไหมคะ
พ่อครูว่า…ผิดที่ตัวเรา จะสั่งสมในใจ พยายามหยุดมันแล้วทำอย่างอื่น หลวงปู่เคยทำมาเคยจัดการ มันจะคิดคำหยาบอยู่ในใจ เพราะฉะนั้นมันขึ้นมาเราก็ต้องพยายามหยุดมัน พูดเองในใจ หยุดเลิก เอาปัญญาล้างไม่ได้ก็ทิ้งไปก่อน แล้วทำอย่างอื่นกลบไป ต่อมาก็ค่อยๆคิดว่าไปคิดไปพูดอย่างนั้นทำไม มันไม่ดีอย่างไร เอาแต่คิดไม่ดีไม่ได้ มันไม่ได้ยากเลย แต่ก็ต้องพยายามพิจารณา ก็รู้ว่ามันไม่ดีจะให้มันเกิดมาในใจเราทำไมมันโง่แค่หัวมัน มันไม่มีทางอื่นเลยรบกับมัน ก็โง่น่ะ
_มีคนบอกว่าลูกคิดพูดหยาบ แต่ไม่พูดออกมาถือว่าไม่ผิดศีล
พ่อครูว่า…ไม่ผิดศีลภายนอกก็ใช่ แต่มันได้วิบาก
_หนึ่งฟ้า การเกิดของคนประกอบด้วยไข่อสุจิและจิตวิญญาณ
คำถามคือจิตวิญญาณจะมีพร้อมกับไข่และสเปิร์มผสมกันหรือไม่ จะทิ้งช่วงนานหรือเปล่า
พ่อครูว่า…ไม่ก็ได้ มันไม่ทิ้งช่วงหรอก มันต้องลงเสร็จก่อนจึงจะคลอดมาเป็นคน
_มีหลายคนที่ตั้งใจว่าเขาตายแล้วจะเกิดกับท้องใคร ปรากฏว่าระหว่างที่เขากล่าวเขายังไม่ตายซะทีแต่คนนั้นท้องเสียแล้ว ท้องสัก 2 3 เดือนจะได้ไหม
พ่อครูว่า..คนที่ตั้งท้องวิญญาณจะหยั่งลงในครรภ์ กับสิ่งนี้ มันจะเป็นจังหวะ วิญญาณหยั่งลงในครรภ์ก็เป็นขั้นหนึ่ง ไปอีกอันหนึ่งจนกระทั่งคลอด ถ้าวิญญาณไม่ต่อในระหว่างอยู่ในครรภ์มันก็แท้ง ถ้าวิญญาณมันต่อจนคลอด หากคลอดมาแล้วหากวิญญาณมันออกก็ตาย
_ถ้าระหว่างนั้นวิญญาณเข้าไปจุติมันแทังก็เป็นวิบากของวิญญาณตรงนั้นที่ไม่สามารถจะเกิดมาได้ทั้งๆที่ด้อยโอกาสแล้ว
พ่อครูว่า..เป็นได้ด้วย ส่วนมากจะเป็นอย่างนั้นเพราะอันนี้ยังไม่มีกรรมกิริยาจะสร้างมากมาย ยังไม่มีเหตุการณ์ หยาบมากมาย ส่วนมากก็จะเป็นไปตามวิบากส่วนใหญ่
_ทั้งที่มีวิบากจะเกิดเป็นคนแต่วิบากก็ยังตามมาก็ได้
พ่อครูว่า…ถามอะไรกันนักกันหนานี่
_ตัวอสุจิของผู้ชาย พ่อครูให้นิยามระดับไหน พีชนิยามหรืออะไร
พ่อครูว่า..อสุจิ ไม่ใช่จิตวิญญาณไข่ก็ไม่ใช่จิตวิญญาณ อสุจิคือบวก ไข่คือลบ วิญญาณที่จะไปร่วมเป็น 3 เส้า หากไม่เกิดสามเส้า ไม่เกิดเป็นสัตว์บุคคล
_เป็นแค่ชีวะใช่ไหม แต่ทำไมเคลื่อนได้
พ่อครูว่า…ใช่ แม้แต่ไข่ก็เป็นชีวะกลายๆ มันเป็นชีวะเคลื่อนตัวได้ แม้พีชะก็เคลื่อนตัวได้ แต่มันเคลื่อนในวงวนของมัน มีลากยาวไป แต่ไม่ถึงสัตว์ ถ้าเป็นสัตว์ก็จะเดินออกไปจากที่ได้
_หนึ่งฟ้า…เรามีญาติธรรมหลายคน เราต่างรอว่าจะมาเกิดกับใคร ถ้าใครคิดว่า ใครจะเป็นใครแล้วมั่นใจมาก เช็คเวลาเกิด
พ่อครูว่า…เวลาที่บอกว่าคนนี้ยังไม่ทันตาย แต่คนนั้นเกิดแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร
_ระยะเวลาการเกิดก็ไม่ตรงกันทีเดียวเท่านั้น มีพระบอกว่าถ้ามาใน 7 วันได้
พ่อครูว่า…เรื่องอจินไตยทั้งนั้น มันเป็นเรื่องที่ละเอียดเกินไป เอาอย่างหยาบที่เป็นกิเลสให้หมดเสียก่อนเถอะ
_กามเป็นอย่างไร ราคะเป็นอย่างไร กามราคะต่างจากโลภอย่างไร
พ่อครูว่า…กามกับราคะ ถือเป็นสายเดียวกันได้ โลภ นี่คือความได้ของมาเป็นของเรา โลภคือได้ของมาเป็นของเรา ของมันจะเป็นวัตถุจะเป็นพืชจะเป็นสัตว์เป็นคนก็แล้วแต่
ส่วน กาม กับราคะ นี้เสพรส ถ้าโลภ โลภะ นี้ได้มาเป็นของเรา มันหยาบกว่ากันอยู่ รสละเอียดกว่า กามราคะใช้แทนกันสลับไปสลับมายาก บางที่ก็เอากามไปเรียกอย่างหยาบเลยเริ่มต้น ดีไม่ดีควบเลย กามราคะ
เพราะฉะนั้น ส่วนมากเขาจะไม่พูดว่า ราคะภพ เขาจะเรียกว่า กามภพ เพราะฉะนั้นเราก็อนุโลมได้ว่าคำว่า ราคะ ความเป็นนามธรรมมากกว่า กาม กามควรจะเป็นรูปมากกว่าราคะ
ราคะเป็นภายใน หมดกามราคะก็เหลือรูปราคะ อรูปราคะ หรือเรียกรูปภพ อรูปภพก็ได้ แต่จะเรียกรูปราคะ อรูปราคะก็ได้ หมดราคะ ยังมีภพ มานะ อุทธัจจะ อวิชชาก็เป็นภพ ไม่ใช่ราคะแล้วเป็นมานะอุทธัจจะก็เป็นภพชาติ
ภวานุสัย จึงไปอยู่ที่ตัวลำดับที่ 6 ส่วนภวาสวะ นั้น
อนุสัย มี 7 ประการคือ
-
กามราคานุสัย หมายถึง โลภะ ความติดข้องในกาม
-
ปฏิฆานุสัย หมายถึง โทสะ ความโกรธ
-
ทิฏฐานุสัย หมายถึง ความเห็นผิด
-
วิจิกิจฉานุสัย หมายถึง ความสงสัย
-
มานานุสัย หมายถึง ความถือตัว ความสำคัญตัว
-
ภวราคานุสัย หมายถึง โลภะ ความติดข้องในภพ
-
อวิชชานุสัย. หมายถึง โมหะ ความไม่รู้
ภวาสวะนี้อยู่ที่ตัวที่ 2 ของอาสวะ 4
-
กามาสวะ
-
ภวาสวะ
-
ทิฏฐาสวะ
-
อวิชชาสวะ