วิถีบวรของ 1 ใน 1000
วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561
วิถีชีวิตของพวกเราชาวบ้านราช(ราชธานีอโศก)ตื่นเช้ามาก็จะมีกิจกรรมที่ต่างเป็นประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านให้เห็นกันหลากหลายรูปแบบ
สำหรับตนเองแล้ว เช้านี้ออกจากภพที่ปรุงสังขาร(ความคิดมากมาย)กับการงานเหมือนคนอยู่ในฝัน นึกถึงแต่อนาคต พ่อครูบอกว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิ ต้องอยู่กับปัจจุบันธรรมเท่านั้น เลยปรับเปลี่ยนตนเองออกจากภพช่างคิด มาออกกำลังกายเดินและวิ่งไปริมแม่น้ำมูล ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร กะว่าจะวิ่งสลับเดินซักประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาทำงานตามปกติออกมาที่ถนนคอนกรีตตัดใหม่หน้าป้ายบวรราชธานีอโศก มองเห็นขยะอยู่สองฝั่งจึงเกิดความคิดที่จะเดินเก็บขยะไปด้วยน่าจะดีนะ จึงไปหาถุงพลาสติกจากถังขยะมาเดินเก็บขยะต่างๆไปด้วย..
มาถึงริมแม่น้ำมูล บรรยากาศก็ไม่ผิดหวังมี โอโซนเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ หายใจได้เต็มปอด เห็นต้นดวงใจรัก(ต้นสะตือ ต้นแฮ)ยืนรับอรุณ มีต้นทองอโศกต้นน้อยๆ รายล้อมอยู่รอบโคนต้น อนาคตคงจะออกดอกสีเหลืองบานสะพรั่งรอบๆต้นดวงใจรัก แวะมาที่แปลงฟักทองของปู่เถา ที่ปู่เคยบอกว่าสวนของปู่ ฟักทองออกลูกแล้วนะ ตัวเองก็เพิ่งได้มาเห็นวันนี้ ว่าแปลงฟักทองที่หลายคนบอกปู่ว่า อย่าปลูกเล๊ยย เพราะเดี๋ยวน้ำท่วมก็ตายหมด วันนั้นปู่บอกว่าปู่จะอยู่กับปัจจุบัน ถึงอนาคตน้ำจะท่วมก็ไม่เป็นไรมาวันนี้ฟักทองเริ่มออกลูกแล้วนะจ๊ะ..
ลงมาที่ริมแม่น้ำมูน เห็นขยะที่ไม่ได้เก็บมานานแล้ว ตั้งแต่น้ำท่วมขัง บางชิ้นจมอยู่ในดิน เห็นดังนั้น ดั่งเห็นขุมทรัพย์จึงเข้าไปจับแยกขยะได้สังกะสีมาหลายชิ้น ยังขำกับต้นไม้ที่พยายามเกิดบนไม้ม็อบก็ยังจะเกิดได้อีก พอตั้งเจตนาที่จะเก็บขยะก็เห็นขยะที่สามารถนำมาแยกและจำหน่ายจ่ายแจกได้หลากหลาย
ที่ริมแม่น้ำมูลบริเวณต้นกุ่ม เคยมีรังนกกระจาบอยู่เต็มตามกิ่งต่างๆ มองไปรังนกกระจาบหายไปเป็นจำนวนมาก น่าเศร้าใจจริงๆไม่แน่ใจเป็นเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่นกกระจาบคาบรังตัวเองไปแน่ มีผู้สันนิษฐานว่าโดนขโมยหรือเปล่า ซึ่งก็ไม่กล้าตัดสินเช่นนั้น เก็บขยะได้2 ถุงเต็มมือได้นำมาจุดแยกขยะหน้าชุมชนเรือ ใกล้สวนสองโภชน์ เห็นประโยชน์ของการตั้งจุดแยกขยะทำให้สามารถทิ้งขยะได้สะดวกขึ้น เดินผ่านถนนตรงกุ่ม มีทุ่งข้าวเขียวขจีให้สูดลมหายใจชุ่มชื่น
เดินตามถนนไปลานเบิ่งฟ้า ต้องเรียกได้ว่าเป็นถนนสายหวาน เพราะมีต้นอ้อยขึ้นอยู่ข้างทาง รวมถึงต้นขี้เหล็ก ขุนศึก ทองอโศก อีกไม่นานคงเป็นถนนที่อุดมสมบูรณ์อีกเส้นทางหนึ่ง มาถึงบริเวณนี้เพิ่งได้วิ่งเพราะถนนสะอาดไม่มีขยะ มาถึงลานเบิ่งฟ้าเรือลำใหญ่ยังจอดเด่นตระหง่านเห็นมีขยะบ้าง โยมพ่อของท่านสมณะแก่นเกล้ากำลังขี่จักรยานออกกำลังกายเช่นกัน
เดินไปถึงท่าน้ำปลายบุง น้ำจากแม่น้ำมูลก็ยังรักษาระดับอยู่ไม่ได้ขึ้นมามาก มองเห็นเศษขยะที่มาเกยตื้น ส่วนมากก็จะมีเศษผักตบ วัชพืชไม่ค่อยมีขยะเป็นพิษเท่าไหร่ เดินกลับมาสะดุดตากับเจ้าปูก้ามแดง นักเลงโต พอเห็นเราทำหยุด ชูก้ามใหญ่เหมือนจะหนีบๆๆๆ เหมือนจะบอกว่า อย่าเข้ามานะ เห็นแล้วก็ขำ จึงขอถ่ายรูปเธอไว้ ขากลับขยะก็เต็มถุงสองมือทำให้ไม่ได้วิ่ง ได้แค่เดินเร็วออกกำลังกาย มาหยุดที่จุดแยกขยะหน้าน้ำตกหินน้ำไหล ซึ่งส่วนมากเป็นขยะที่นักท่องเที่ยวมาทิ้งเดินลงไปที่หาดเห็นขยะอยู่บ้างแต่ไม่มาก ก้นบุหรี่ก็มีให้เห็น มาถึงจุดแยกขยะ ดูการทิ้งขยะต้องบอกว่าก็ยังดีที่ได้ให้นักท่องเที่ยวนับหนึ่งในการทิ้งขยะให้ลงถัง แต่คะแนนในการแยกขยะก็คงยังเป็นศูนย์ มีแก้วน้ำที่ยังมีน้ำและชานมไข่มุกทำให้มดขึ้นอยู่เต็มถัง ถ้าไม่นำออกไปแยกขยะน้ำนี้ก็คงหกเลอะเทอะกลายเป็นขยะที่ไม่สามารถแยกได้ รวมถึงเศษอาหารที่ใส่ปนมากับขวดและพลาสติกต่างๆ ทำให้ขยะรีไซเคิลชนิดอื่นเปื้อนเศษอาหารไปด้วยเวลาเก็บถุงขยะรวมนี้ไปเลยเหมือนขยะเน่า เรื่องนี้แก้ไขยากจริงๆ ท้ายสุดได้ล้างมือในน้ำใส ไหลเย็นเห็นตัวปลาที่น้ำตกหินน้ำไหล
เช้านี้สำหรับการออกกำลังกาย ได้ประโยชน์หลายสถาน ได้ทั้งกำลังร่างกาย กำลังจิตใจ เห็นอย่างนี้คราวหน้าจะเปลี่ยนเส้นทางเดินออกกำลังกาย หาถุงมาเพิ่ม หรือใครจะมาเป็นเพื่อนร่วมเส้นทางด้วยก็ยินดีนะค๊าาา…วิถีแห่งคนจนที่สุขสำราญเบิกบานใจ..