610924_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 17
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1ibt9csJttqfIuiPmaxljhS5VE1wQiA-GvE4OWRD51ow/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1Fju7nPcvO2EsMQOj0c-so0LbrYRf0-Oe
พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2561 ที่บวรราชธานีอโศกวันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ด้วย เป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 10 ไทยเราก็มีวันสารทเหมือนกัน ไหว้พระจันทร์ก็เป็นสารทจีนของเราก็เป็นสารทไทย
SMS เสาร์ 22 กันยายน 2561 (สมณะ สิกขมาตุ : ทบทวนธรรม)
_3867คนบ่มีพันธะกับใคร!บ่มีหนี้บุญคุณกับทางโลก!มีแต่ห่วงพ่อแก่แม่เฒ่า!ถ้าได้มาจะโกนหัวขอบวชอโศกเลย!เพราะไม่รู้จะอยู่กับงานศิลป์ รายได้กระจอกเป็นจิตรกรไส้แห้งในบั้นปลายเพื่ออะไร?ฤาอาจม่องเท่งก่อนพ่อครูนักยืดอายุขัยยืนยาว!มนุษย์หูเทียมน้ำพักน้ำแรงไร้ทุกระบอบเกื้อกูลทุกเครื่องช่วยฟังฯปลงตก!
_บุญเลียบ · ท่านสม.ท่านเทศน์รถด่วนขบวนสุดท้ายได้โดนใจมากค่ะจะพยายามไม่ให้ตกขบวนค่ะกราบนมัสการค่ะ???
_ນາງ ເກດມະນີ ສຸກສະຫວັນ : ກາບນະມັດສະການພໍ່ທ່ານຢ່າງສູງຂ້ານອ້ຍເສຍດາຍບໍ່ໄດ້ມາລູກປວບກະທັນຫັນໄວ້ເດືອນໜ້າຖ້າມີໂອກາດກາບສາຖຸສາຖຸສາຖຸ
นางเกดมณี สุขสวรรค์ กราบนมัสการพ่อท่านอย่างสูง ข้าน้อยเสียดายบ่ได้มา ลูกป่วยกะทันหัน ไว้เดือนหน้า ถ้ามีโอกาสกราบสาธุสาธุสาธุ
_3867ได้ยินพ่อครูย้ำว่าทำไมไม่มาเป็นหนึ่งในพันที่แผ่นดินพุทธซะที ยิ่งรู้สึกปวดใจค่ะ เพราะลูกยังมีภาระหนี้สินและงานประจำค้ำคออยู่ หัวใจไปอยู่บ้านราชแล้วแต่ยังไม่สามารถพาตัวเองออกจากพันธนาการไปในทันทีได้ไม่รู้จะหาวิธีใดจะให้ตัวเองไปเป็นหนึ่งในพันได้ดั่งตั้งใจไวๆ คะพ่อ กราบนมัสการบูชาพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูว่า…อาตมาถึงพาพวกเราทำ ก่อนอื่นอย่าเป็นหนี้ ใครแหกคอกเป็นหนี้ส่วนตัวก็แล้วแต่ ก็น้ำหน้าใครน้ำหน้ามันก็สมเอาเอง ใครมีหนี้ก็ทุกข์เนาะ อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร พยายามนะ ชีวิตนี้ไม่มีหนี้ อาตมาพยายามตั้ง เป็นสี่องค์ธรรม 1. ไม่เป็นหนี้ 2. ทำงานเลี้ยงชีพรอด 3. ทำให้เกินกินเกินใช้ 4. เกื้อกูลแจกจ่ายเผื่อแผ่ผู้อื่น เป็นผลสำเร็จที่สุดแล้วชีวิตใครทำได้อย่างนี้บ้างยกมือขึ้น ทุกวันนี้ทุนนิยมสามานย์สร้างสินเชื่ออย่างน่าปวดหัวปวดตับปวดไส้วุ่นวายมาก อาตมาขอเอาใจช่วยให้พ้นหนี้
มาทำงานประจำที่นี่ก็ได้ อโศกเรามีงานศิลปะเยอะแยะให้ทำ อาตมาก็เอาใจช่วย พยายามตัดภาระตัวเองให้ได้ เรื่องนี้ตัดก่อน เรื่องต่ำเรื่องไม่ดีเราเรียกมันว่าอบายมุข ไม่ต้องไปยุ่งเลยชีวิตเรา เจียรไปเรื่อยๆ
_3867ตุลามหามงคลใกล้เข้ามาแล้วขอบุญกุศลผู้ประพฤติธ.ถือศีลกินเจในพรรษาเตรียมใจน้อมจิตถวายเป็นพระราชกุศลรำลึกแด่พ่อหลวงร.9 น้อมอุทิศด้วยรักภักด์นิรันดร์!กบมังสะวิรัติ
_อำภา รื่นใจดี · ลูกขอโอกาสถามเจ้าค่ะ พอมีความรู้งู ๆ ปลา ๆ ว่าในพระไตรปิฏก
มีองค์ธรรมอยู่ 3 องค์ คือ พระสูตรพระอภิธรรม พระวินัย พอเข้าใจในส่วนของพระอภิธรรมว่ากล่าวถึง จิต เจตสิกรูป นิพพาน แล้วพระนำมาสวดในงานศพ ส่วนพระวินัยเป็นข้อบังคับพระภิกษุ
และในส่วนพระสูตรหมายความอย่างไร เนื้อหาว่าด้วยเรื่องอะไร และการปฏิบัติธรรมโลกุตระต้องนำองค์ธรรมทั้งสามองค์มาใช้ทั้งหมด หรือเอาเฉพาะพระอภิธรรมมาใช้คะ สาธุเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…ฆราวาสเราก็ไม่ต้องไปคำนึง ห่วงพระวินัยภิกษุ แต่วินัย สำหรับคนทั่วไปศาสนาพุทธนั้นก็คือ ศีลนั่นแหละ เพราะวินัยเป็นระบบระเบียบที่จัดการกับหมู่กลุ่ม ศีลเป็นของทั่วไปสาธารณะ หากเราเป็นคนมีระบบระเบียบก็ต้องมีวินัยคือศีล อย่างน้อยพื้นฐานคือศีล 5 คนมีศีล 5 คือผู้มีวินัยเป็นพื้นฐานอย่างน้อยในชีวิตมนุษย์ คนใดถือศีล 5 ได้สบายมีวินัยที่ดีที่สุด ในความเป็นมนุษย์พื้นฐาน สูงกว่านั้นมีศีล 8 10 26 เป็นต้น
พระสูตรคือรวบรวมทั้งเรื่องราวและคำสอนของพระพุทธเจ้ามีเหตุนิทานสมุทัยปัจจัย มีทั้งสูตรที่สั้นและสูตรที่ยาวมีครบ ขุฑฑกนิกาย มัชฌิมนิกาย ทีฆนิกาย เป็นต้น รวบรวมไว้ เรียกว่าครบในเรื่องหลักเกณฑ์วินัย หรืออภิธรรมก็มีเนื้อหาในพระสูตร
พระสูตร จึงมีเนื้อหาที่มากกว่าพระวินัยและพระอภิธรรม พระสูตรมี 8 เล่ม
_คำแก้ว คำแก้ว · เศร้าหมอง. แก้ไขได้อย่างไรเจ้าคะ
พ่อครูว่า…มาเป็นชาวอโศก คือชาวอเศร้า คือไม่มีโศกไม่มีเศร้า มาเลย จะแก้ไขได้ พวกเราเป็นชาวอโศก จึงเป็นคนที่สุขสำราญเบิกบานใจตลอดเวลาแม้จะจนก็เป็นผู้มีวรรณะ 9 เป็นคนเลี้ยงง่าย บำรุงง่าย มักน้อย กล้าจน เป็นคนใจพอ เป็นคนขัดเกลาตัวเอง ขัดเกลากายวาจา ใจ ให้เป็นคนเจริญขึ้น เป็นคนมีศีลเคร่งขึ้นได้เป็นอธิศีลขึ้นเรื่อยๆ มีอาการที่น่าเลื่อมใสเป็นคนไม่สะสม อปจยะ ในชีวิตไม่สะสมสบายชีวิตมีวิริยารัมภะ เป็นคนขยันพากเพียรเสมอเป็นคนสุดยอดเป็นคนมีวรรณะข้าเป็นคนชั้นสูง
_จาก…สุมนา เกียรติพันธุ์สดใส (ป้าหมี) ไม่กินเนื้อแล้วทำไมยังจะนิยมของปลอมมาขายในข่ายอโศกแล้วยังพูดชวนทำไมคนทานมังสวิรัติอาหารธรรมชาติทำให้สุขภาพแข็งแรงสันติอโศกไม่มีน้ำยาปรุงอาหารชวนกินโดยไม่มีของปลอมแล้วหรือ
ป้าทำอาหารไปถวายที่สวนลุม ทำเองกับมือไม่ปรุงรสแต่งสี สมณะบอกสมณะที่นี่ฉันอาหารมังบริสุทธ์ไม่ต้องปลอมแปลงมาถวายนักบวช บาปคนทำของปลอมหลอกคน บาปขณะนี่จันท์แรมนำเสนอของปลอมนำเข้าขายในหมู่อโศกนี่หรือมีศีลผ่านโดยท่านสิริ เป็นไงไปแล้วคนในๆทำลายอโศกน่าตาเฉยเชือดไม่มีศีล
คนที่พยายามรักษาหน้าตัวเองแต่ขายชาวอโศกทั้งหมด ถ้าไม่มีวันนั้นป้าคงไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะอะไรคิดดู(คนจริงมีศีลถึงมีคนมาถึงใช่ไหม)
พ่อครูว่า…เขาอาจจะอนุโลมกับคนอื่นที่ยังติดยึดเพื่อจะได้ขายได้มากขึ้นเขาก็ทำไป คนที่ไม่ต้องการอย่างนั้นก็ไม่ต้อง ก็ท้วงกันได้ หากไม่นำมาขายได้ก็ดี ขายอาหารธรรมชาตินี่แหละ
แต่ละคนก็มอง คนที่มองด้วยตาดี เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย คนที่ตาไม่ดีก็เห็นเป็นโคลนตมก็ว่ากันไป
ก็ติติงกันไปอย่าไปโกรธไปเคืองอะไรกัน
_จาก ลูกศีรษะอโศก
กราบนมัสการพ่อท่านที่เคารพยิ่ง
คราวที่แล้วลูกตรวจตัวเองด้วยเรื่องของเนื้อสัตว์และไข่เจียว คราวนี้ลูกขออนุญาตกราบเรียนเรื่องของกาแฟ ตรวจด้วยสังโยชน์ 10 ผิดถูกอย่างไรขอพ่อท่านเมตตาชี้แนะด้วยค่ะ
-
สักกายทิฐิ ลูกเคยติดกาแฟมากๆต้องกินทุกวัน วันละหลายแก้ว พอเข้ามาอยู่วัดก็เลิกได้(แบบหักดิบ)
-
วิจิกิจฉา ลูกชัดเจนกับตัวเองว่าไม่กลับไปกินอีก รู้โทษภัยของกาแฟมีมากกว่าประโยชน์
-
สีลพตปรามาส ลูกก็มั่นคงมา 15 ปีแล้ว แต่ต่อมาได้เกิด “กาแฟหมามุ่ย” ผลิตโดยคนอโศก เขาว่าเป็นกาแฟยารักษาสุขภาพ ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ดียังไงๆลูกก็ไม่ยอมกิน ต่อมาลูกล้มป่วยลง คนขายบอกว่า “กินไปเถอะ กาแฟนี้ช่วยรักษาโรคที่เป็นให้หายได้” ลูกจึงยอมกิน
-
กามฉันทะ พอได้กินเท่านั้นแหละ ผีในสัญญาเก่าก็ฟื้นคืนชีพ กองทัพมารก็เข้ามากระทำยุทธทันที ความอร่อย กลิ่นหอม ความมัน ความหวานนิดๆ ทำให้ชุ่มชื่นในจิต และแพ้กองทัพมารในที่สุด เรามันกระซิบว่า “กินเพื่อสุขภาพนะเพื่อนเก่า จากกันมาตั้งนานคิดถึงจังเลย” ว่าแล้วก็ไปซื้อมาเก็บไว้กิน 100 ซอง (เป็นเงินหลายตังค์)
-
พยาบาท พอกินได้ไม่กี่วัน ทุกข์เกิดขึ้น กลัวติด อย่ากระนั้นเลยเราเอาไปถวายให้สมณะดีกว่า ท่านอาจจะฉันแล้วทำให้สุขภาพดีก็เป็นได้” ลูกทำอย่างนี้จะเป็นบาปหรือไม่ค่ะ ต่อไปลูกจะถวายได้อีกหรือไม่
ส่วนสังโยชน์เบื้องสูง กาแฟข้างนอกที่อร่อยๆดังๆ เช่น Amazon และอื่นๆ ลูกพ้นสังโยชน์แล้ว แต่ทำไม กาแฟหมามุ่ย ยังไม่พ้นสังโยชน์
รูปราคะ อรูปราคะ ยังติดใจทุกอย่างในรูปของกาแฟ
มานะ ก็ยังคิดอยากจะเลิกอยู่ ยังต่อสู้อยู่
อุทธัจจะ (พ่อครูไอ ช่วยตัดออกด้วย) ก็ยังคิดถึงอยู่ เวลาง่วงนอนก็อยากกิน
อวิชชา ลูกก็ยังโง่อยู่ ยังไม่รู้แจ้งในเรื่องของกาแฟและอื่นๆ
…ขอเรียนถามผู้ที่ติดกาแฟ
พ่อครูว่า…น่าจะเอาไมยราบยักษ์มาทำกาแฟไมยราบยักษ์นะ มันเจริญเติบโตได้ดีมีพลังงานมากนะ อาจจะทำได้ชนะกาแฟจาก Amazon นะ
แล้วจะไปซื้อมาถวายอีกทำไม พวกสมณะไม่เท่าไหร่หรอกไม่ติด แต่พวกฆราวาสก็มี เช่นเจ๊กเอี๋ยวนี่เป็นต้น
_กนกนาฏ…ดิฉันเกิดปีจอ วันจันทร์ เดือนเจ็ด จะขอโอกาส วันนี้ไปสหกรณ์เก่า ไปทำ5 ส. ไปเจอหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เป็นคำของในหลวง ขออ่านคำสอน “คนดี เราจะทำอะไรๆก็พยายามที่จะทำให้ในทางที่ซื่อสัตย์สุจริต เพราะถ้าคนเราทำ…
_แก้วบุญ…ทำอย่างไรหนูถึงไม่เป็นผีอยากสวย
พ่อครูว่า…ถามดีนะถามเผื่อผู้ใหญ่ด้วย เราเกิดมา เขาเรียกว่า บุญทำกรรมแต่ง เกิดมาบางคนอาจรูปร่างขี้เหร่ก็อยู่กันไปตามประสามันไม่สำคัญหรอกรูปจะสวยหรือไม่สวยมันไม่สำคัญ ขอให้เป็นคนดีมีคุณงามความดี ประพฤติดี กายกรรมดีวจีกรรมดีมโนกรรมดีนั่นแหละ อันนั้นยอดเยี่ยมกว่าความสวยทั้งหมดเลย พยายามพิจารณาไตร่ตรองและคิดให้ดี อย่างที่เราถูกว่านี้ดีกว่า จะได้ไม่ติดสวย
อย่างหลวงปู่นี่ไม่ค่อยหล่อ ก็ไม่เห็นต้องกังวลขอให้เราเป็นคนดีเป็นคนมีประโยชน์ต่อผู้อื่นไม่ทำชั่วทำบาปไม่ได้ อย่างนี้ดีที่สุด จะได้เลิกผีอยากสวย
_หลวงปู่ครับ ทำไมหนังสือของหลวงปู่เยอะ แต่ทำไมคนอ่านน้อยครับ
พ่อครูว่า…เพราะว่าหลวงปู่เขียนหนังสือแล้วคนไม่ค่อยรู้เรื่อง เขียนแล้วคนไม่ค่อยรู้เรื่องเขาอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาอ่านไม่ค่อยไหว เพราะหลวงปู่เขียนหนังสือเป็นโลกุตระเป็นธรรมะขั้นโลกุตระซึ่งคนจะรู้ได้ยาก รู้ได้น้อย คนที่อ่านจริงๆคือผู้ที่ไปหาตั้งใจศึกษาเป็นคนใฝ่ดีจริงๆ ที่จะอ่านหนังสือหลวงปู่ ถ้าคนที่ถูกไม่ถึงขั้นไม่ต้องอ่านหรอกหนังสือหลวงปู่ ดีไม่ดีอ่านนิดหน่อยแล้วไม่ไหว ก็โยนทิ้งไปเลย มีคนที่ไม่นับถือหลวงปู่ไม่เชื่อหลวงปู่เขาเขียนหนังสือดีเขียนหนังสือชั้นสูงเขาไม่เชื่อ ก็มีเยอะเหมือนกันนะ
_เวลาเราอยู่กับคนชั่วนี่ ควรจะหลีกเลี่ยงอย่างไร?
พ่อครูว่า…อยู่กับคนชั่วเราก็เรียนรู้เราไปบังคับไปสอนเขาไม่ได้เขาก็เป็นตัวของเขา เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปสอนเขา หรือแม้แต่บังคับให้เขาไม่ชั่วก็ทำไม่ได้ เราก็ต้องศึกษาความชั่วก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ต้องศึกษาว่า เราเห็นว่าอย่างนี้มันชั่ว เราจะไปประพฤติปฏิบัติแบบนั้นเป็นอันขาด ก็เป็นประโยชน์ที่ว่าเราประพฤติชั่วเหมือนกัน เรารู้ว่าเขาชั่วแล้วเราทำไหม หากเราทำมันก็เข้าตัวหรอก บอกว่าเขาประพฤติชั่วเราก็เลยทำชั่วอย่างเขา แม้จะไม่ชั่วมากเท่าเขาหรือชั่วน้อยกว่าเขาก็ต้องมาศึกษา ศึกษาอย่างนี้เราก็จะได้ประโยชน์จากการอยู่กับคนชั่ว ไม่ต้องไปดูถูกเขาไม่ต้องไปรังเกียจเขาเพราะว่าเขาก็เป็นของเขาไม่มีใครอยากชั่วหรอก แต่เขาก็ทำตามอวิชชาของเขา
_ลูกตั้งตบะว่าอยากจะมาฟังธรรมพ่อท่านทุกครังไม่อยากขาดแต่เมื่อวานนี้มีสำมะปี๋ซี่วิต แต่ลูกทำงานไม่เสร็จแล้วลูกเบื่อลูกๆของพ่อค่ะ ชอบพูดชอบเปรียบเสมอๆ ไม่รู้สมมุติทำตัวเป็นผู้รู้แจ้ง ดิฉันฟังแล้วรู้สึกทุกข์ใจไม่มีความสุขเลยลูกขอสารภาพผิดค่ะ
ตอนที่ลูกทำงานไปแล้วฟังพ่อท่านด้วย กลับฟังธรรมได้ดีมากขึ้น ไม่มีสำมะปี๋ได้ไหมคะ
พ่อครูว่า…ไปเบื่อโลกียะ ก็แก้ไข ไม่ต้องไปเพ่งคนอื่น หากมาสัมผัสจริงก็จะดีกว่า ฟังแต่เสียงก็ได้ระดับหนึ่ง แล้วมันมีความสัมพันธ์ทางสังคมด้วย ถ้าคิดอย่างคุณอาตมาก็ไม่ต้อง สำมะปี๋กับใคร หากว่าทุกคนบอกว่าอยู่ที่บ้านไม่ต้องมา แล้วจะอยู่กันอย่างนี้ได้อย่างไร จะให้สอนหุ่นยนต์มานั่งหรือ
_งานมหาปวารณาทำไมไม่จัดที่ปฐมอโศก จัดงานที่บ้านราชฯหลายทีแล้ว ขอเหตุผลด้วย
พ่อครูว่า…จัดที่บ้านราชฯ เพราะว่าบ้านราชฯเป็นเมืองหลวงของชาวอโศก งานมหาปวารณาเป็นงานใหญ่ การจัดงานที่บ้านราชฯนั้นมีองค์ประกอบครบสมบูรณ์แบบกว่า เราก็เลยต้องจัดที่ราชธานีอโศก ก็ต้องเสียสละหน่อย ถ้าจะมาก็ไกลหน่อย แต่ถ้าคนที่อยู่ที่อื่นแล้วแต่ ในประเทศไทยไม่ไกลแล้ว มีพาหนะต่างๆนานา ก็อาจจะจ่ายเงินบ้าง มาเสียสละเงินทองเพื่อเอาประโยชน์ทางธรรม มาคบหากันมาคบคุ้นกัน
_คนทำไมต้องเป็นแผลครับ
พ่อครูว่า..ก็มีเชื้อไปติดก็เป็นแผลได้ มีอุบัติเหตุก็เป็นแผลสดได้ทำไม ถ้ามันมีเชื้ออยู่ในตัวเรามันเป็นแผล เป็นตุ่มพุพองก็เป็นได้ ก็เป็นธรรมดาการเกิดแก่เจ็บตายของมนุษย์ก็เป็นธรรมชาติ ถามว่าทำไม ก็ต้องไปถามธรรมชาติสิ แต่คนที่ชื่อธรรมชาติอยู่ที่อโศกไม่ต้องไปถามหรอกนะ มันเป็นเรื่องที่เกิดแก่เจ็บตายคนต้องมีความเจ็บป่วย เลี่ยงไม่ได้ ทำไมต้องมีแผล ตอบได้ว่าเป็นธรรมชาติเกิดแก่เจ็บตายเป็นกฎไตรลักษณ์
_ด.ญ.น้ำธารธรรม(น้ำตาล)…ทำไมเวลาหนูเห็นเนื้อสัตว์หนูจะเป็นลม ไม่ก็หายใจไม่ได้ค่ะ
พ่อครูว่า..ก็เป็นส่วนตัวของเจ้าของเกิดมาแล้วเราก็เป็นอย่างในโทรทัศน์ที่มีเด็กฝรั่งเอามาพูด เด็กผู้หญิง พ่อแม่บังคับให้เขากิน เขาก็พูดว่าไม่กิน ถามว่าทำไมก็มันเป็นสัตว์ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) มันมีวิบากหรือวาสนา ประจำตัวตั้งแต่ชาติก่อนมา เพราะฉะนั้นบางคน อยู่ในสังคมที่เขากินเนื้อสัตว์ก็ไม่กิน อย่างเด็กคนที่ว่าพ่อแม่เขากิน เด็กก็ไม่ พ่อแม่บอกว่ามันเป็นอาหาร มันเป็นสัตว์ เด็กคนนั้นก็ยืนยันว่ามันเป็นสัตว์ เนื้อสัตว์มันมีชีวิตไปกินมันทำไม กินมันให้มันตาย เด็กเขาก็มีปฏิภาณมีความรู้ตัวเขามันติดมากับตัวเองมันเป็นไปได้ เหมือนอย่างน้ำตาลถามมา ก็ดีแล้วมีสิ่งดีติดตัวมาก็ไม่เห็นจะเป็นไรก็ดี มาอยู่ร่วมกับคนไม่กินเนื้อสัตว์ก็สบายใจแล้วอยู่ในสังคมนี้ก็ดีแล้ว
_ศีล แปลว่าอะไรคะหลวงปู่ แล้วทำไมคนต้องถือศีลด้วย
พ่อครูว่า…ศีล แปลว่าหลักเกณฑ์ ของชีวิต ถ้ามนุษย์ไม่มีศีลก็ไม่มีหลักเกณฑ์ของชีวิตให้ปฏิบัติ ที่จะต้องปฏิบัติตามศีลแต่ละข้อมันก็ไม่ดี คนไม่มีศีลคือคนไม่ดี คนที่ฆ่าสัตว์คนที่ลักขโมยของผู้อื่นคนที่จัดจ้านในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส คนโกหก คนไปติดอะไรโลกๆ ไปเสพติด สิ่งที่เขาสร้างมาหลอกล่อมอมเมา พวกนี้ก็เป็นภาระเป็นทุกข์ ชีวิตก็ไม่เจริญ เพราะฉะนั้นศีลจึงมีหลักเกณฑ์ให้ปฏิบัติ ผู้ใดที่เอาศีลมาปฏิบัติจริงๆก็จะสบาย เป็นคนดีของมนุษยชาติในโลก ผู้มีศาสนาปฏิบัติศีลสมาธิปัญญาปฏิบัติแล้วกิเลสเราลด ตั้งมั่นเป็นสมาธิ สมาธิไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิตเฉยๆ แต่สมาธิคือเอามาปฏิบัติแล้วกิเลสเราลดลง จนจิตแข็งแรงตั้งมั่น ไม่ละเมิดศีลอยู่กับศีลข้อไหนก็อยู่ได้อย่างสบายเรียกว่ามีสมาธิ มีปัญญามาประกอบในการปฏิบัติศีลให้เกิดสมาธิ
_น้ำมนต์…ทำไมคนต้องพูดโกหกค่ะหลวงปู่
พ่อครูว่า…คนที่พูดโกหกตอบชัดๆก่อนว่าเป็นคนโง่ โกหกดีไหม …ไม่ดี เพราะฉะนั้นคนโง่ก็ทำสิ่งไม่ดี เพราะฉะนั้นอย่าทำถ้าทำก็เป็นคนโง่เป็นคนไม่ดีเป็นคนที่ประพฤติไม่ดี โกหก มันไม่ดีหรอก เพราะฉะนั้นถ้าสังคมมีคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปใครคนใดคนหนึ่งโกหกก็จะเริ่มไม่ดีแล้ว ยิ่งมีมากคนโกหก ก็ยิ่งไม่ดีมากขึ้น ยิ่งอยู่กันเป็นประเทศเลย โกหกก็สะเทือนทั้งประเทศ
_ใจดิน ช่วงนี้พ่อครูเทศน์ถึง ต้องการพี่น้องที่เข้าใจชาว 2 มาอยู่ร่วมกันที่นี่ จิ๋วก็ได้สัมผัสกับคนที่รุ่นบุกเบิก คนในยุคนี้ก็เป็นวัยเกษียณวัยผู้สูงอายุแล้ว อยากจะมาอยู่ใกล้ชุมชน แต่เนื่องจากว่าชุมชน บ้านราชฯ กำลังบุกเบิกมีงานหนักเกรงว่ามาแล้วจะเป็นภาระของคนที่นี่ ก็เลยต้องกล้ำกลืนฝืนทนอยู่กับลูกๆที่บ้าน หลายท่านอายุ 50-60 ทำงานได้น้อยลง ก็กลับไปอยู่บ้านของตัวเองแต่อยากจะมาอยู่วัด พอจะมีวิธีหรือเปิดช่องให้พี่น้องชาวอโศกที่เป็นรุ่นบุกเบิกตอนนี้ได้มาอยู่ได้อย่างไร
พ่อครูว่า…ไม่ได้ปิดกั้นเป็นความรู้สึกเกรงใจ ผู้ใดที่อายุมากหรือไม่มากก็มาได้ มารวมกันอยู่ในนี้ไม่ได้กันคนแก่อะไรหรอก แต่เป็นสำนึกของผู้ที่ถามมาว่าตัวเองอายุมากแล้วจะเป็นภาระไหม มันก็มีส่วนจริง แต่เอาเถอะถ้าอยากมาจริงๆก็มา เราไม่ได้ปิดกั้นอะไร เอาที่พอเป็นไปได้
_ด.ช.ดูดี…ทำไมตอนอโศกรำลึก ถึงไม่จัดงานที่สันติอโศกครับ
พ่อครูว่า…อโศกรำลึกก็ตามมหาปวารณาก็ตาม จริงแล้ว อโศกรำลึกนี่เราก็พยายามไปจัดที่สันติอโศกอยู่นะ เพราะว่าที่นั่นมันเป็นจุดกลาง แล้วอโศกรำลึกจะมีบูชาพระบรมสารีริกธาตุด้วย ที่นั่นมีพระวิหารพันปี เป็นที่ๆบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่มากที่สุด ที่เจดีย์พระวิหารพันปี เราก็จัดที่นั่นประจำบางทีก็ไปที่บ้านราชบ้าง เป็นไปตามความเหมาะสมแต่ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องของวันอโศกรำลึกก็จะเป็นที่สันติอโศกเป็นหลัก
_ท่านสมณะสิกขมาตุ กรัก ปะ หรือชาวบ้านราชฯขอเรียนเชิญท่านที่ยังไม่ได้ใช้โอกาสที่เปิดกว้างนี้ ด้วยการถือไมค์ช่วยหลวงปู่ เชื่อว่า แฟนรายการหลายท่านรอฟังอยู่
_การอยู่ในครรภ์ จึงเป็นชื่อของกาม เพราะบุคคลยินดีในกามราคะพัวพันในฉันทะราคะก็ยังอยู่ในครรภ์ ทำให้ปัจจุบันทั้งในภายหน้า คำว่าการอยู่ในครรภ์ จึงเป็นชื่อของการอยู่ในกาม
พ่อครูว่า…อันนี้อาตมา ไม่เจอ ในพระไตรปิฎก นี่คงลอกมา หรือแม้ไม่ได้หลอกมาเอาจากใครพูดมาก็ขอตอบตามที่ถามมาก็แล้วกัน
ชื่อของกาม คือ คนยินดีในกามราคะก็คืออยู่ในครรภ์ ครรภ์คือห้อมล้อม ผู้อยู่ในครรภ์อาศัยครรภ์เป็นที่เกิด
ในห้องที่เกิด มันจะเป็นห้องว่างแล้วก็จะมีชีวะเกิดที่ตรงนั้น ในจิตนิยามมีชีวะเกิดแล้ว ในเพศหญิงก็เป็นไข่ในเพศชายก็เป็นเชื้ออสุจิ เป็นเชื้อบวกลบ เมื่อผสมกันในครรภ์ ในหลอดแก้วก็มีทุกวันนี้ก็ในที่ๆมีบรรยากาศที่เชื้อผสมแล้วสามารถเติบโตได้ในสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นเดรัจฉานหรือคนก็เป็นอย่างนี้
ทีนี้ ถามว่าทำไมคนอยู่ในครรภ์จึงเป็นกาม เพราะว่าคนยังชอบเกิดยังมีความต้องการ เรียกเต็มๆว่ากามราคะ ก็ต้องหยั่งลงสู่ครรภ์ทั้งนั้น
พระพุทธเจ้าก็มาศึกษาว่าแม้มันจะเกิดก็เกิด ถ้าเกิดแล้วก็เป็นคนดีท่านก็เลยมีหลักเกณฑ์ให้คนปฏิบัติ มันเกิดในครรภ์แล้วเกิดมาเป็นคนก็ให้เป็นคนดีก็แล้วกัน เป็นขั้นที่ 1
ขั้นที่ 2 พระพุทธเจ้าค้นพบอีกว่าสอนให้คนหมดการเกิดในครรภ์ ไม่หยั่งลงสู่ครรภ์ไม่เข้าไปในครรภ์ที่ไหนอีกเลยตายแล้วสูญเลิกไปเลย เรียกว่า นิพพานเป็นปริโยสาน จบได้เลย นี่คือ ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ถามว่าอยู่ในครรภ์ทำไมเป็นกามก็เพราะมีความใคร่อยาก
_จาก ROV ถามว่า…
1 เรื่องบ้านปิรามิดนี้หลวงปู่เชื่อไหมครับ พระอาคันตุกะที่มาพูดเรื่องนี้บอกว่าทุกคนมีพีระมิดของตัวเองคือจมูกเพราะจมูกมีรูปร่างคล้ายทรงพีระมิด (จากพจนานุกรมเสรีของ Google ) ผมว่า ถ้าคนดั้งแหมบล่ะ จะมี Pyramid กับเขาไหม
พ่อครูว่า..มี พีระมิดแบบเตี้ยไง พีระมิดไม่ใช่สามเหลี่ยมมุมเท่านะ
2 ทำไมหลวงปู่ถึงสงวนหญ้าตรงหน้าพระพุทธโตด้วยครับแล้วมันสวยยังไง ตรงไหนผมไม่เข้าใจจริง
พ่อครูว่า…อาตมาก็ว่า มันเป็นธรรมชาติดูดี ก็เลยสงวนไว้ การที่จะตัดไม่ยากหรอกแต่กว่าจะโตมันใช้เวลา เมื่อมันโตขึ้นมาเราจะตัดมากตัดน้อยได้ทั้งนั้นแหละไม่ต้องห่วงหรอก นักตกแต่งสามารถตกแต่งให้มันสวยงามให้มันเป็นไปได้ ถึงเวลาก็จะตัดไม่ต้องห่วงหรอกตอนนี้ก็ปล่อยมันไปก่อน มีคนบอกว่าเดี๋ยวเถอะหญ้าคอมมิวนิสต์ เดี๋ยวมันออกดอกออกฝักแตกเต็ม จะกำจัดกันไม่หวาดไม่ไหว อาตมาก็ว่า เมื่อมันเริ่มออกดอกก็ต้องจัดการ ดูมันก่อน ตรงไหนนักตกแต่งจะเหลือกอไหนไว้ ก็มาช่วย ส่วนนักจัดตะพึดไม่ต้องมา เอานักจัดที่เหมาะสม สมัครมา แล้วก็จะช่วยกันไปดู
_สู่แดนธรรม…มีคนถามมา โดยมากคนอยู่เหนือโลกโลกีย์ แต่คนจะอยู่เหนือโลกุตระได้ จะเป็นอย่างไร? การอยู่เหนือโลกโลกุตระ นั้น คือการใช้ชีวิตอยู่เหนือสติและมีสัปปุริสธรรม งดเว้นการวิจารณ์ ต้องอยู่อย่างสงบนิ่งๆไม่แสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แค่เราไม่ต้องแสดงมันออกมาอย่างนี้ถือว่าเป็นการยืนเหนือโลกุตระว่าอย่างนั้นนะ
พ่อครูว่า…ไม่ใช่ การอยู่ในโลกต้องมีโลกวิทูรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ศาสนาพุทธไม่ใช่ว่าไม่วิจารณ์ไม่พูดไม่ว่าใครอันนั้นเป็นคนละศาสนากับอาตมา โลกุตระนั้นแปลกันคนละโลกกับอาตมา กับของพระพุทธเจ้าเป็นพระพุทธเจ้าคนละองค์
เราอยู่เหนือโลกพ้นโลกได้พ้นทุกข์ เราก็มีแต่ความสบาย ของศาสนาพุทธไม่มีทั้งความสุขและความทุกข์ อยู่อย่างอุเบกขาจิตสบายว่าง แล้วก็อยู่อย่างเห็นคนอื่นเขาเป็นทุกข์ พวกที่สุขนิยมก็น่าสงสาร มันซับซ้อนด้วยพวกนี้จะหลงเลย จะไม่เข้าใจว่าตนเองติดในความสุข คิดว่าตัวเองมีกุศลมีบารมีติดตัวมาก็เลยได้เสพ เป็นความสุข พวกนี้ข้ามชาติกินบุญเก่ามาก ต่อไปสักวันหนึ่งจะหนักเลยตกก็ไม่ขึ้นเลย พวกกินบุญเก่าจะหนักหนาสาหัส
ก็มาเรียนรู้ให้พ้นสุขพ้นทุกข์ นี่คือศาสนาพุทธ หมดความสุขความทุกข์มีคุณค่าด้วยบรรลุเป็นโพธิสัตว์เป็นอรหันต์แล้ว มีโพธิสัตวภูมิ บำเพ็ญต่อเป็นโพธิสัตว์ระดับสูงอีกต่อไปก็เชิญเลย ที่อาตมาพูดนี้อาตมาเป็นโพธิสัตว์ มั่นใจว่าไม่ได้พูดผิดเลย แต่พวกเถรวาทไม่ได้เรียนรู้โพธิสัตว์ เรียนรู้โพธิสัตว์น้อยหรือไม่รู้เลย อาตมาพูดสิ่งที่จริงเป็นห่วงศาสนาพุทธก็เลยพูดความจริง
_ดินงาม…ตั้งตบะไม่กินน้ำพริก ไม่กินแจ่ว พอไม่กินแล้ว มันก็ไม่ทุกข์ในการกินตรงนั้น แต่พอไปกินเผ็ดในแกง มันก็อร่อย เป็นสวรรค์ มันไม่ติดรูป แต่ไปติดรส จะทำอย่างไร ที่จะเห็นทุกข์ในการกินเผ็ด
พ่อครูว่า..เอาอย่างอาตมากินเผ็ดไม่ได้เลยหากทำน้ำพริกมา ก็ต้องใช้พริกที่ไม่เผ็ดเลย ใส่เค็มเปรี้ยวไม่จัดจ้าน แต่มีพืชที่มันมาปรุงเป็นอาหารนั้น อาตมาไม่กินมานานก็ไม่เห็นเป็นไรสบายดี
มันติดก็เลิกสิ ไม่กินนี้ดีกว่า คิดจะเลิกนี้ดี มันกินอย่างนี้จะได้อย่างนี้มันก็ต้องเป็นภาระ ต้องหาอย่างนี้มากินถ้าไม่ได้น้ำพริกอย่างนี้ แม้มันปรุงมาไม่ถูกรสที่เรายึดถือ มันก็เป็นทุกข์อีก พิจารณาเห็นทุกข์ที่เราไปติดยึด เอาอะไรอย่างอื่นก็ได้ที่เป็นธาตุอาหารที่เราจะได้กินแทน พิจารณาจนเกิดปัญญา กดข่มเอาพอได้แต่ไม่ถาวร พิจารณาอย่างที่อาตมาว่าแล้วมันจะเลิกได้ แล้วมันจะสบาย มันไม่เป็นภาระไม่ยุ่งยากอะไรเลย ก็ค่อยทำไป ไปติดมามากนาน
_โกเส่ง…เขาบอกว่าผู้สูงอายุไม่กล้ามาอยู่ผมเองก็น่าจะสูงอายุเหมือนกันผมก็ไม่กล้ามาอยู่ก็เลยเข้าเข้าออกออกมาเกือบ 10 ปีแล้ว พ่อท่านคงไม่ว่าอะไร
พ่อครูว่า…ไม่ว่าอะไร หลายคนมาอยู่ในนี้มีความเกรงใจก็เลยหนีไปอยู่กับลูกข้างนอก ก็เลยขอบอกว่ามาอยู่ที่นี่ช่วยงานช่วยกันไปตั้งแต่หนุ่มสาวจนอายุมากขึ้น เกรงใจเกิดขึ้นมาแล้วก็หนีไปอยู่กับลูกข้างนอก แล้วกัน ก็ตายด้วยกันที่นี่เลี้ยงดูกันที่นี่ เป็นภาระก็จะเป็นบ้างเป็นธรรมดาก็ดูแลกันไป ถ้าไม่มีภาระให้เราทำเราก็จะไม่เจริญ ไม่มีน้ำใจไม่มีพฤติกรรมที่จะรู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คนนั้นคนนี้อะไร
_การพูดแบบไหนที่จะไม่เป็นการเพ้อเจ้อเพราะเขาถามคำนึงผมจะพูดหลายคำ
พ่อครูว่า…คุณไปกำหนดว่าต้องพูดเท่านี้ถ้ามากเท่านี้เพ้อเจ้อหมด คุณก็จะเจอความเพ้อเจ้อเยอะสิ ก็ลองฟังเขาดูบ้าง เพ้อเจ้อ ไม่ได้หมายถึงว่าพูดยาวพูดมากไม่อย่างนั้นอาตมาก็เพ้อเจ้อ ความเพ้อเจ้อหมายความว่าพูดแล้วบางทีมันไม่ได้เรื่อง มันเกินกว่ากรอบมันเกินกว่าควรก็เรียกว่าเพ้อเจ้อ มันออกนอกเรื่องไปแล้วก็มีก็เป็นการเพ้อเจ้อ
_ส่วนมาก คนพูดมาแค่นี้ผมก็อธิบายไปยาว
พ่อครูว่า…มันยาวไปออกนอกเรื่องก็เพ้อเจ้อ
_น้อมยอดธรรม…ดิฉันเป็นคนอยู่ที่อุทยานบุญนิยม อยู่ที่นี่มา 10 ปี ที่เคยบอกพ่อท่านว่า อยู่ที่นี่เหมือนอยู่เมืองหลวง ดิฉันถามท่านหนักแน่นว่าเมืองหลวงอยู่ที่ไหนพ่อท่านบอกว่าบ้านราชฯ แต่ดิฉันก็มาอยู่เมืองหลวง ถามว่าดิฉัน 10 ปีแล้วไม่ได้กลับบ้าน ดิฉันเป็นพี่คนโต มีพี่น้อง 6 คน ไม่ได้กลับเลย ดิฉันใจดีหรือใจดำ แต่ดิฉันก็อยู่อย่างสุขสำราญเบิกบานใจดี
พ่อครูว่า…อาตมาว่าใจดีนะ ไม่ใช่ใจดำ ผู้ที่รู้จักสถานะตัวเอง เป็นแต่เพียงว่า คุณเองมีลูกมีหลาน คุณมีลูกก็ต้องเลี้ยงแค่ลูก หลานก็ต้องให้เขาเลี้ยงลูกเขา ถ้าเป็นลูกเขา หากเราไปเลี้ยงหลานด้วยเราก็ผิด เราเลี้ยงลูกให้รู้จักโตเลี้ยงพ่อแม่ให้รู้จักตาย
เราควรกลับมาทำในสิ่งที่ควร เรากลับทำให้เขาเบาภาระด้วยซ้ำไปเราเป็นคนใจดี มาอยู่ที่นี่เราเป็นคนเจริญไม่ได้ตกต่ำไม่ได้เสื่อมอะไรเลย ถ้าอยู่กับเขาเราอาจไม่เจริญเท่าอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำไปอย่างนี้เป็นต้น
สรุปแล้วฉลาดรู้ดีถูกต้อง แต่มันมีอยู่นิดนึงว่า แต่ถ้ามีลูก ลูกคุณแย่ หากขาดคุณ ลูกคุณไม่รู้จักโตทำอะไรไม่ได้เลี้ยงตัวเองไม่รอดอย่างนั้นก็จะเป็นต้องเลี้ยงดูลูกคุณมันเป็นภาระที่คุณสร้างเอง แต่ถ้าลูกเต้าสบายแล้วก็มาได้ไม่มีใจดำมีแต่ใจดี
_หลวงปู่คิดไหมครับว่าดาวสีน้ำเงิน(โลก) ดวงน้อยของพวกเราทุกคนย่อยยับลงไปทุกวันมันเป็นเพราะว่าอะไรครับหลวงปู่
พ่อครูว่า…อันนี้ถูกนะ คนนี่ทำให้โลกใบนี้เสื่อมลงเร็ว ถ้าโลกใบไหนไม่มีคนหรือสัตว์มันจะเสื่อมน้อย แต่คนนี่มันเท่ากับ อุกกาบาตซ้อนอยู่ในโลกทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะเลยทำให้วุ่นวาย โลกที่มึคน สัตว์อยู่จะเสื่อมเร็วกว่าโลกที่ไม่มีคนหรือสัตว์อยู่ เรื่องนี้ไม่ต้องคิดมากปวดหัวมันเกินไป
_ทำยังไงดีถึงจะปรับนิสัยเพื่อนได้แบบให้เป็นคนดี เพราะว่าหากไม่ปรับตัวเพื่อนจะถูกไล่ออกเอาได้
พ่อครูว่า..ก็พยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้เราจะไปรับผิดชอบคนอื่นเสียทีเดียวเลยไม่ได้ ช่วยก็ต้องช่วยอย่างเหมาะสมก็ต้องไปบอกผู้ใหญ่ให้ช่วย การบอกผู้ใหญ่ มันมี 2 อย่าง 1. ฟ้อง 2. รายงานความจริง ก็มาบอกอย่างรายงานความจริงไม่ต้องฟ้อง
ฟ้องคือหมายความว่าใจเรามีการส่อเสียด 1. มีความโกรธแค้นเขาก็มาฟ้อง 2. มีความรักเกินไป ก็ไม่ดี บอกความจริงแก่ผู้ที่จะช่วยเพื่อนได้ก็ไม่มีปัญหาอะไรคุณจะไปรับผิดชอบตัวเองได้ ไม่หมดก็ต้องให้คนอื่นช่วย
_จากพี่ศิษย์เก่าอยากถามว่าวัฒนธรรมที่เราสอนน้อง 1.ไม่ใส่รองเท้าเวลาไปศาลา 2. ไม่ยืนกินน้ำ 3. ไม่เดินกินอาหาร สอนแล้วบางคนก็ทำบางคนก็ไม่ทำ เราจะสอนน้องๆได้อย่างไร ว่า ควรทำหรือจะยกเลิกวัฒนธรรมนี้ไปเลยเสีย ลูกกลุ้มใจมากๆเลยจะแก้ไขอย่างไรบ้าง
พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าก็สอนอาตมาก็บอกเราต้องทำตัวเองให้ดีก่อนแล้วสอนคนอื่นจึงไม่มัวหมอง ชาวอโศกเป็นอย่างนั้นหมดเลยเหรอ มันก็มีบ้างแต่ก็พยายาม จริงๆแล้วมันก็หย่อนยานลงไปบ้างเหมือนกันชาวอโศก ก็ต้องมีความสำนึกสำเหนียก ปรับตัวให้ได้ดีขึ้น
มีอะไรบ้างที่ว่านี้ 1. ไม่ใส่รองเท้าเวลาไปศาลา 2. ไม่ยืนกินน้ำ 3. ไม่เดินตอนเคี้ยวอาหารอยู่ในปาก
_เวลาทำดี เขาบอกว่าเป็นการแสดงครับ มีคนบอกว่าแหมทำเป็นดี
พ่อครูว่า…แสดงเลยแสดงให้ดีกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม แสดงให้ดีเลยจนตายเลย แสดงไปจนกว่าจะตายเลย
เราก็ดัดให้มันเป็นดีจนตลอดไปให้ได้ จริงๆเลยนะอาตมาขอยืนยันใครจะมาว่าแดกดัน แม้ดัดจริตทำดี ก็อย่าไป หัวซา ไม่ต้องไปสนใจเลย เราทำดีแสดงให้ดีๆ ใครจะบอกยังใช้ศัพท์สมัยใหม่ว่า Drama การดราม่าในสิ่งที่ดีนั้นทำไปเลย มันไม่เสียไม่ตกต่ำหรอกคนที่เห็นคนทำดีแล้วหมั่นไส้คนนั้นแหละทำชั่ว คนนั้นเป็นคนชั่ว แม้เขาจะทำดราม่า เขาจะพยายามทำดีตลอดเวลาก็ดีแล้วก็ปล่อยให้เขาทำสิ
_ลูกปวดตรงข้อศอกมาเป็นเดือนแล้วไม่รู้ว่ามีวิบากอะไร
พ่อครูว่า..วิบากไม่หมดก็ไม่เป็นไรก็ไปให้ผู้ที่เป็นหมอให้ดูแลรักษา พยายามแก้ไข ท่าที่แก้ไขได้ บางทีมันเป็นโรควิบากแก้ไขไม่ได้ก็ต้องจำนน
_จากผู้บ่าวสัมมา…ผมเป็นคนที่ช้าและเฉยชามากที่สุดเลยครับไม่เหมือนหลวงปู่เลยครับท่านเร็วมากเลยครับ ผมจะสรุปฟังธรรมหลวงปู่แทบไม่ทันเลยครับ บางครั้งผมก็คิดว่า (ถ้ามีหูฟังที่พูดแล้วมันพิมพ์ได้ เหมือนของท่านแสนดินก็คงจะดี (แต่บางครั้งผมก็สังเกตุว่า ท่านแสนดินก็พิมพ์ไม่ทันแต่ท่านแสนดินก็อดทนดี) แต่ถ้าผมนั่งฟังธรรมเฉยๆผมจะฟังธรรมรู้เรื่องกว่าครับ
_ทำไง ผมจึงจะเลิกขี้โกรธครับผมใจร้อนมากแบบว่านิดๆหน่อยๆก็ขึ้นแล้ว
พ่อครูว่า…ศึกษาอารมณ์โกรธที่ต้องเลิกให้ได้ก่อนเพราะว่ามันร้อน มันโกรธแล้วทำอะไรไม่ดีหรอก อารมณ์โลภ ยังมีดีบ้างแต่โกรธนี้ไม่ดี อาตมามีโศลกไว้ว่า
ความโกรธหยาบกลางละเอียดอย่างไรก็เลิกไปเลยไม่ต้องไปคิด มันมีแต่ความเลวร้ายท่าเดียว มันมีนิดหน่อยก็เลิกเลย แม้มันจะแรงมีมากก็เลิกไปเลย มันไม่มีดีเลยมันเป็นโทษภัย
_ถ้าเด็ก เรียนจบสัมมาสิกขาไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้วจะให้เรียนสาขาอะไรมาช่วยงานหลวงปู่ครับ
พ่อครูว่า…ก็พิจารณา มีคณะกรรมการพิจารณาให้ทุนไปเรียน ที่นี่จะเป็นสังคมที่เหมือนรัฐบาล ที่นี่ถ้าอยู่ที่นี่แล้วตั้งใจเรียนให้ดีจะช่วยได้หมดเลย
_ดช.ดูดี…หลวงปู่เป็นพระรามแล้วใครเป็นพระลักษณ์
พ่อครูว่า…ถามอย่างนี้หลวงปู่ตอบไม่ได้ คำว่า รามหรือลักษณ์ เป็นนิยายธรรมะเก่าแก่เป็นลักษณะธรรม เราเอาธรรมะ อย่าไปเอาตัวตนบุคคล ถ้าเรามีลักษณะทำเป็นพระลักษณ์พระราม หรือหนุมาน เราก็เอาธรรมะเป็นหลักแล้วเราจะได้ประโยชน์
_การมานั่งฟังธรรม เกิดการหวังผลวันต่อวัน เมื่อเหนื่อยล้ากับการงาน ทำอย่างไรจะไม่เกิดการหวังผล
พ่อครูว่า…ท่านสอนว่าทำทานต่างจากที่จะหวังผล คือสาเปกโข คุณจะเอามาจับสับสนปนเปกัน มันก็ได้ คุณเองจะทำอะไรก็รู้ว่าทำแล้วจะเป็นผลอะไร คุณก็รู้ว่าถ้าทำเหตุอันนี้จะเป็นผลอันนี้ เรามีปฏิภาณปัญญารู้ว่าถ้าทำเหตุอันนี้จะเป็นผลอันนี้ เมื่อรู้แล้วก็จบคุณก็ทำเหตุให้เต็ม แล้วมันก็จะเกิดเอง คุณไปตามรู้ว่ามันเกิดอย่างนี้อย่างนี้จึงเกิดผลตามที่เราพอรู้ด้วยได้ผล ตามที่เราเข้าใจก็ใช้ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ผลอย่างที่เราคิด มันไปได้อย่างอื่นคุณก็แก้ไขเท่านั้นเอง
_หนึ่งฟ้า…
-
ดิฉันค่อนข้างจะถามบ่อย แล้วก็เป็นสิ่งที่รู้สึกเกรงใจคนฟัง ที่บางท่านอาจจะไม่ชอบฟัง แต่ดิฉันก็ประมาณว่าดิฉันได้ประโยชน์จากการตอบ และมีผู้ฟังส่วนหนึ่งไม่น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ที่ดิฉันพยายามเช็คว่าได้ประโยชน์หรือไม่ อาจจะมากหน่อย ก็เลยคิดว่า มันเป็นการฟุ้งซ่านเกินไปไหม
พ่อครูว่า…มากไปก็ฟุ้งซ่านมากไปมันเกินขอบเขต มันมากไป มันเกินภูมิ คนอื่นไม่รู้เรื่องด้วย เช่นคนจะถามว่าปัญหาอย่างสูง คนอื่นไม่รู้เรื่องด้วยสักกี่คน ไม่ตรงกับสังคมบริษัทนี้ไม่เหมาะสม ก็ต้องถามเท่าที่ควรเพราะอยู่ในบริษัทนี้ขนาดนี้ คนที่จะได้มากกว่านั้นก็ไปถามส่วนตัวบริษัทฯ
_หนึ่งฟ้าว่า…ดิฉันก็ว่า ถ้ามันมากเกินพ่อท่านตัดรอบได้เลยนะคะ
2.ที่พ่อท่านอธิบาย กาย สัญญา สัตตาวาส 9 ทักขิเณยบุคคล 7 ทั้งหมดมีเบื้องต้นจากเข้าใจคำว่ากายไม่ชัดเจนไม่มีสัมมาทิฏฐิพอ ดิฉันไปฟังซ้ำเรื่องเหล่านี้หลายเที่ยว หากดิฉันเข้าใจว่าเข้าใจเรื่องนี้ได้ก็จะทำให้ดี
พ่อครูว่า…ได้
_ทำไมถึงบอกว่าบ้านราชฯจนคะ ทั้งที่จริงมีเงินเป็นล้าน
พ่อครูว่า…หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านมีเงินเป็นล้านมันจะไปด้วยอะไร บางคนในที่นี้ส่วนตัวมีเงินเป็นล้านส่วนตัวก็ยังมีเลย นี่ทั้งหมู่บ้านนะมีเงินเป็นล้านมันจะไปมากอะไร
คำว่ามีเงินเป็นล้าน นึกถึงหมู่บ้านกุดระงุม เขาจะมีเงินต่างๆที่เขาจะใช้รวมแล้วมันเกินล้านไหม ถ้าไม่เกินก็จะไม่มีเงินซื้อรถคนละคันคนละคันในแต่ละบ้านหรอก มันมีเกินกว่าบ้านราชเยอะ รวมแล้วที่หมุนเวียนใช้ในบ้านราชฯนี้ เดือนหนึ่งเท่าไหร่?
มีคำตอบว่า..เดือนละ 6 ล้าน
คนในที่นี้ตั้ง 200-300 คนแล้วก็อยู่อย่างสบายๆด้วย หมุนเวียน 6 ล้านนี้ไม่มากหรอก จริงๆ หมุนเวียนอย่างทั่วถึงนะ ไม่ได้หมายความว่าเฉพาะแหล่งเฉพาะบ้านเฉพาะคน แต่มันเป็นการจัดการเรื่องเศรษฐกิจที่ดีมากเลย ถ้าจะว่าไปแล้วไม่น้อยหรอก ในเดือน 1 แต่เงินของแต่ละหมู่บ้านอื่นนั้น มันหมุนเวียนในส่วนตัวมันเอามาคิดและทำอย่างนี้ที่เราทำไม่ได้ เอามาใช้คำตอบนี้ไม่ได้เลย เพราะว่าแต่ละคนแต่ละคนก็หมุนเวียนในส่วนตัว บางคนฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่ายกันเยอะแยะเลย บางคนไม่มีจะใช้จ่ายเลยก็ทรมาน หากินไปวันๆ ดีไม่ดีเป็นหนี้เป็นสิน มันจึงเป็นสังคมที่น่าสงสาร แต่ว่าสังคมที่อาตมาพาทำนี้เป็นสังคมที่สบายที่ดีที่สุด ทำได้นี้เป็นความภูมิใจ ธรรมะพระพุทธเจ้าทำไม่ง่ายแต่ทำได้สำเร็จ
อาตมาก็ยัง ยินดีในตัวเองที่เราสร้างได้ตามทฤษฎีพระพุทธเจ้าสุดยอดเลย
ถ้า รัฐบาลเอาหลักเกณฑ์ของอันนี้ ไปจัดการเลย ปฏิบัติสร้างเศรษฐกิจแบบนี้ประเทศไทยจะดีมากเลย หมู่บ้านแต่ละหมู่บ้าน มาทำลักษณะแบบนี้แม้จะไม่เท่ากับอโศกก็จะดีมาก แต่เขาไม่มีความรู้ในธรรมะพระพุทธเจ้าจึงได้น่าเสียดายมาก ทั้งที่เป็นชาวพุทธกันเยอะแยะ
_ถ้าเรามีความทุกข์เรามีความเศร้าเราควรแก้ไขอย่างไร
พ่อครูว่า…ที่นี่หมู่บ้านอโศก ไม่โศกเศร้า จะแก้ไขอย่างไร 1 ออกไปจากที่นี่เพราะไม่ใช่คนอโศก ถ้าจะอยู่ที่นี่ต้องดูเพื่อนฝูงว่าเขาไม่เศร้าโศกเขาจะทำอย่างไร ก็ทำใจให้เหมือนกับเขาในส่วนใหญ่ เรามาเศร้าโศกก็จะแปลกอยู่ที่นี่ เป็น Black Sheep เหมือนแกะดำในฝูงแกะขาว เราก็ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับที่นี่ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามหมู่เขา คล้ายๆอย่างนั้นให้ศึกษาเนื้อแท้ จะไปเศร้าโศกทำไม อย่างน้อยที่นี่ข้าวมีกินดินมีเดิน ตะวันมีส่อง พี่น้องมีเสร็จ เห็ดมีเก็บ ป่วยเจ็บมีคนรักษา ฯ
_การที่เราเหนื่อยจะเอาภาระหรือรับผิดชอบแต่เราก็ฝืนทำ จนวันหนึ่งเราทนไม่ไหวแล้ว เราปล่อย จะถือว่าเราเห็นแก่ตัวไหมคะ
พ่อครูว่า…มันไม่ไหวจริงๆคุณก็วางบ้าง ทำไมคุณจะรับผิดชอบจนกระทั่งฝืนหนักเหนื่อย ทำให้พอเหมาะพอดีรู้จักพักรู้จักเพียร ทำไมขี้เหนื่อยมากไป ทำนิดหน่อยก็เหนื่อย เมื่อรู้สึกว่าเหนื่อยเราก็พักอย่างไม่ได้ลำเอียงอะไร ไม่ใช่ว่าทำนิดนึงก็เหนื่อยแล้ว แต่ถ้าเหนื่อยมากก็ต้องวาง ถ้าหากทำพอสมควร มีกำลังพอทำได้ก็ทำไป ก็ต้องไปพิจารณาถึงความเป็นจริง ความพอเหมาะพอควรแล้วไม่มีใครว่าอะไรหรอก คุณจะต้องวางปล่อย ถ้ามากเกินไป เราเหนื่อยแล้วไม่มีคนช่วยเลย เราก็ต้องพอ ทำที่เราทำได้ พวกเราไม่ใช่พวกใจดำ อย่าไปยึดถือว่าเราเองนี่แหละทำมากทำเหนื่อย หากไม่มีเราจะเกิดอะไรงั้นอย่างนี้ อย่า ในที่นี้ก็เอาตาดูหูแลกันอยู่ ก็พอเป็นไป
_เราสามารถลดคำหยาบด้วยการไม่พูดออกไปแต่จิตใจเรายังสะกดอยู่ในใจ ทำอย่างไรดีจึงจะไม่นึกคิดคะ
พ่อครูว่า..ดีแล้วที่สังวรระวังมันเป็นความหยาบก็อย่าแสดงออกไป เรารู้ว่ามันไม่ดีก็อย่าไปนึกคิดมันทำไม ผู้ที่มีปฏิภาณปัญญารู้อันนี้แล้ว จะรู้สึกว่าคนเรามันไม่อยากพูดคำหยาบ แต่เมื่อมีสำนึกอย่างนี้ก็ดีแล้วให้ลดลง สิ่งที่เป็นคำหยาบคุณก็จะไม่ค่อยออกไม่ค่อยปล่อยไป มันก็จะถูกเราระงับพวกเราควบคุมแล้วมันก็จะค่อยๆเบาลง แม้แต่ที่สุดเราจะจำมันได้ก็ค่อยๆลดลง จำอยากได้ก็จะลดลง
_หนูกดข่มจิตใจไม่เก่ง เวลานอนบุคคลรอบข้างเสียงดังมาก บางครั้งเป็นรุ่นพี่เราไม่กล้าบอกจะทำใจอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…ก็บอกผู้ใหญ่ เด็กก็ต้องสังวรระวังเวลานอนก็คือนอนไม่ใช่คุยต้องเกรงใจคนอื่นเขาบ้าง ถ้าเราไม่คุยเสีย เราก็จะได้นอน ถ้าเอาแต่คุยเมื่อไหร่จะได้นอน เวลานอนก็คือเวลานอนให้ชัดเจน ไม่ใช่เวลาคุยไม่ใช่เวลาเล่นไม่ใช่เวลาทำงาน นอนคือพักผ่อน เข้าที่นอนแล้วก็คือนอน หัดบังคับตัวเองให้รู้ว่านอน นอนคือไม่ใช่ทำงาน นอนคือไม่ใช่เล่นไม่ใช่คุยไม่ใช่ทำอะไร นอนคือการพักกายใจ ฝึกเอา
_ในคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนวิธีทำบุญน้อยแต่ได้อานิสงส์มาก พ่อครูมีคำสอนทำบุญลดกิเลสอย่าหวังผล
พ่อครูว่า…นี่แหละทำบุญได้ผลมากที่สุดทำอย่างฤาษีลิงดำนั้นนอกรีต อาตมาว่า พระในเมืองไทยสอนทำทานไม่ถูกหรอก เพราะทานแล้วเกิดกิเลสเพิ่มขึ้น ในทานสูตร ล.23 ข้อ 49 หากทำทานแล้วไม่หวังผล คนนั้นก็ไม่เกิดภพชาติไม่เกิดความทุกข์ ไม่เกิดจิตที่จะเป็นภพชาติ ไม่สั่งสมลงเป็น
1.สาเปกฺโข(มุ่งหวัง) ทานํ เทติ
2.ปฏิพทฺธจิตฺโต(ผูกพัน) ทานํ เทติ
3.สนฺนิธิเปกฺโข(สั่งสม) ทานํ เทติ คลังเก็บขี้เลย
4.อิมํ เปจฺจ ปริภุญฺชิสฺสามีติ(ให้ข้ามภพชาติ) ทานํ เทติ
_นันท์มนัส…มาอยู่อโศกต้องอ่านหนังสือ7 เล่ม ฟังเทศน์ คนที่จะมาทำบุญตามแนวนี้จะได้ไม่มีอำนาจมาจัดการเราใช่ไหมคะ ถ้าเขาไม่ฟังธรรม อยู่ดีๆเอามาถวาย
พ่อครูว่า…ถ้าหากมาอย่างที่อาตมาพูดเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร หากไม่ได้มาอย่างที่อาตมาตั้งกฎเกณฑ์ก็ไม่ได้พูดไปสับสน
_สู่แดนธรรม…หากไม่ฟังธรรมก่อนแล้วมาเอาเงินมาบริจาคก่อน ก็จะทำให้เราเกรงใจ
พ่อครูว่า..คนที่รวยและมีเงินมากจะมาสร้างอำนาจก็จะไม่มาทำงานที่นี่หรอก คนที่รวยๆจะไม่มาทำทานที่นี่เพราะที่นี่ไม่มีอำนาจอะไรให้หรอก
_สมณะเดินดินว่า…เมื่อทำตามกฎระเบียบก็จะมีอำนาจทำตามใจได้
พ่อครูว่า…ก็เป็นได้ คนที่มีเงินน้อยมาบริจาคเล็กๆน้อยๆก็อาจจะไม่มีอำนาจ แต่ถ้าคนมาบริจาคเยอะๆมันจะมีอำนาจ อันนี้เราก็กันไว้แล้ว ไม่ให้มาสร้างอำนาจแบบนั้น เขาจะมาเบ่งอำนาจมันไม่ถูกต้องไม่เกิดผลดี แต่ทางโลกมันมีอย่างนั้นจริงๆเขาก็ใช้เงินมากๆในการสร้างอภิสิทธิ์ เข้ามาในศาสนา ศาสนาจึงได้เสื่อม กลายเป็นว่าวัดนี้มีอุปัฏฐากขาใหญ่มีอำนาจ ยิ่งผู้ที่เป็นเจ้าอาวาสต้องพึ่งพาเขา คนนั้นก็จะเรียกร้องสิ่งที่ต้องการได้ อย่างเช่นจะหาเสียง นักข่าวก็ทำมาหากินเหมือนอย่างกับธรรมกาย อนันต์ อัศวโภคิน ก็จะใช้ธรรมกายเป็นสถานหากิน ทำการก่อสร้างทั่วประเทศและต่างประเทศด้วย บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นต้น
_สมณะเดินดิน…วันนี้มีโอกาสไปที่ร้านสหกรณ์บุญนิยม ก็มี 3 ชั้น สถานที่โอ่อ่ากว้างขวาง ไม่คิดว่าคนจนอย่างเราจะไปอยู่ย่านศูนย์กลางอำเภอวารินฯได้ ประกบกับร้านทองด้วย มันเหมือนกับโลกของทุนนิยมประกบกับบุญนิยม รวยมากกับจนมากอยู่ติดกันเลย
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือว่าร้านค่อนข้างจะกว้างมีที่พักด้วย เป็นห่วงว่าจะมีคนไปขายกันไหมนี่ คือ เรียกว่าเตรียมทำร้านอาหารข้างบน ของแห้งด้านล้าง ผมว่าจริตพวกเรา หากให้ไปตากแดดตากฝนทำกสิกรรมจะเรียกคนได้มาก แต่หากไปทำงานกับคนต้องไปขายของจะไม่ถูกกับจริตของเรา ปัญหาคือคนของเราไม่ถนัดกับงานบริการ ถ้าเป็นงานแบกขนเราจะถนัดมาก ผมอ่านประวัติของคานธีมีอยู่ครั้งหนึ่งเขาอดอาหารประท้วง มีคนศรัทธาคานธีมากจะได้น้ำล้างเท้าไปให้ลูกเขากินลูกเขาป่วยหนัก พอคานธีเรียกมาบอกว่า อย่าไปมีความเชื่อความเข้าใจอย่างนั้น เอาพลังงานที่กำลังมีน้อยมาสอนคน คานธีว่า ถ้าหากชีวิตเขาไม่ได้บริการประชาชนชีวิตเขาให้ตายไปซะดีกว่า แสดงว่าโพธิสัตว์ จะเป็นผู้บริการรับใช้ประชาชน พ่อครูจะให้พวกเราเข้าใจเรื่องนี้อย่างไรครับ
พ่อครูว่า…เราทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชนจนหมดตัวตน แรงงานความรู้ความสามารถทำเพื่อรับใช้ประชาชนช่วยคนอื่นนี่คือความเจริญ เพราะฉะนั้นเราจะทำงานเพื่อผู้อื่นมันสุดยอดของสังคมมนุษยชาติแล้ว จะเรียกว่าประชาธิปไตยจะเรียกว่าคอมมิวนิสต์หรือเผด็จการก็ตามแต่ ระบบไหนก็สู้ระบอบของพระพุทธเจ้าไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีอันนี้เราก็ทำขึ้นมาเพื่อจะเป็นสถานที่เราจะได้ไปบริการรับใช้ประชาชน เรารับใช้ประชาชนด้านนี้ดี ง่ายสะดวก เรื่องอาหารเป็นปัจจัย 4 แท้ๆไปเลย ก็รู้แล้วตอนนี้ร้านเราใหญ่ ต้องการคนมากก็ไปช่วยกันหน่อย
จะไปอุทยานบุญนิยม ใหญ่กว่ากว้างกว่า แต่อันนี้ เป็นอาคารแต่ก็ไม่มากเท่าที่อุทยานหรอก เพราะฉะนั้นหน้าเจ จะได้พิสูจน์กันว่าคนที่ไปช่วยที่สหกรณ์วารินฯได้มากไหม คนที่จะไปช่วย ไม่ใช่ช่วงเทศกาลเจจะเป็นงานประจำ ก็มาได้เป็นร้านที่ โอ่โถงกว่าเก่า ออกมาสู่ประชาชนมากกว่าเก่า ก็บอกเตือนกันให้มีสำนึกนิดหน่อยว่าอย่างไรอย่างไร ก็ระลึกกัน ก็ช่วยกันให้มากหน่อย
_ลูกเคยอยากรู้ว่า ทำไมคนดีๆไปอยู่กับคนไม่ดี แล้วคนดีนั้นเปลี่ยนนิสัยเป็นไรครับ แล้วทำไมเพื่อนลูกที่ต้องถือสา
พ่อครูว่า…ก็บอกกันว่าอย่าถือสาเลย
_พระเจ้าอโศกมหาราชในสมัยพุทธกาล เกี่ยวข้องอะไรกับชาวอโศกไหมครับ
พ่อครูว่า…พระเจ้าอโศกมหาราชอยู่ในหลังยุคพุทธกาล 200 กว่าปี ก็ชาวอโศกเอาคำว่าอโศกมาใช้ ทำไม? เป็นเรื่องอจินไตยอย่างหนึ่ง อาตมาเคยเล่าว่า มันเกิดมามันใกล้ชิดกับคำว่าอโศก อาตมาอยู่วัดอโศการามในขณะนั้น ไปบรรยายธรรมอยู่ที่ลานอโศกวัดมหาธาตุ คำว่าอโศกก็เลยติดมามากขึ้นอีก เราจะออกหนังสือเกี่ยวกับธรรมะ ก็มาคิดกันว่าจะตั้งชื่ออะไร คำว่าอโศกก็เลยติดปากออกมา ก็เลยตั้งชื่อว่า Magazine อโศก ทุกคนเขียนโดยใช้นามปากกาว่าอโศก อโศกจึงอยู่ในจิตใจของพวกเรามากขึ้น ก็เลย พวกเราก็เลยเรียกว่าอโศก คนอื่นๆเขาเห็นพวกเราเขาก็ชอบใจว่าพวกนี้มันพวกชาวอโศก พอเราตั้งสันติอโศกก็เลยเรียกพวกเราว่าชาวสันติอโศก มีเรื่องมีข่าวคราวอาตมาถูกเล่นงาน สถานที่ที่จะไปก็คือสันติอโศก นักข่าวก็ตามกันไปเยอะแยะเลยตอนที่มีเรื่อง คำว่าสันติอโศกเลยแพร่หลาย ชาวสื่อสารก็เลยตกคำว่าอโศก พวกเราได้กลายเป็นชาวสันติอโศกไปเลย นี่ก็เป็นเรื่องของวิวัฒนาการของมนุษย์
_ถ้าหากเพื่อนที่นอนอยู่ข้างๆเป็นคนนอนกรนเสียงดังมากทำอย่างไรครับ
พ่อครูว่า…เขาไม่อยากจะกรนหรอก จะทำอย่างไร คุณก็หลับให้ได้ก็แล้วกัน มันจำเป็นต้องนอนชิดกัน ก็ต้องพยายามหัดอย่าไปถือสา บังคับกันได้อย่างไร คุณเองคุณนอน คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่า คุณกรน ส่วนมากไม่รู้ตัวหรอก ส่วนมากก็มีคนกรนไม่ใช่น้อย คนที่ไม่กรนนั้นหายาก ยิ่งอายุมากก็ยิ่งกรนเก่ง เพราะว่าอวัยวะมันเสื่อม
_เป็นคนมีความบกพร่องทางสติสัมปชัญญะเวลาเร่งรีบ อยากขอความรู้ว่าการที่เราจะมีสติสัมปชัญญะ ในขณะปัจจุบันที่มีผัสสะ เราควรจะมีวิธีอย่างไร
พ่อครูว่า..สติ แปลว่าการระลึก เข้าใจความหมายการทำจิตให้ระลึกรู้ตัวๆๆ นึกถึงคำว่า ระลึกรู้ตัวให้เสมอบ่อยๆแล้วก็ทำอาการระลึกรู้ตัวนั้นให้ได้ ทำไปๆ ระลึกรู้ความหมายนี้และดูว่าตัวเราอยู่ในสภาวะที่มีการระลึกรู้ตัวไหม ถ้าไม่มีก็ทำขึ้น ถ้าไม่มีก็ทำขึ้นอยู่เสมอ นี่คือการสร้างสติให้แก่ตัว ลองดู
_หลวงปู่ ลองเปรียบเทียบระหว่างธรรมกายกับพระพุทธอิสระ ใครเลวกว่ากันคะ
พ่อครูว่า…คนเอามาเทียบได้อย่างไร อาตมาว่า ท่านพุทธะอิสระท่านเป็นตัวของตัวเอง แล้วท่านก็เป็นตัวของตัวเองโดยมุ่งหมายเอาความถูกต้องเป็นของตัวเอง ท่านมีความจริงใจ อย่างนี้ไม่ถูกต้องท่านก็ต้องจัดการ ศาสนาพุทธต้องเป็นอย่างนี้ ท่านบอกว่าท่านเป็นโพธิสัตว์ ท่านบอกว่าท่านจะมาทำความดีท่านไม่เอาธรรมวินัย จะมาเรียนรู้ปฏิบัติตนไปเป็นพระอรหันต์ท่านไม่เป็นท่านเป็นโพธิสัตว์ ท่านเข้าใจโพธิสัตว์ของท่านอย่างนั้น ท่านเข้าใจว่าดีอย่างไรก็ทำดีอย่างที่ท่านเข้าใจเท่านั้นเองก็ลุยดีแหลก แต่ท่านไปไม่ตรงกับคนอื่นเขาคนอื่นก็เลยเห็นว่าท่านมากไป ท่านก็ทำอย่างแรงด้วยมันก็เลยเกิดผลกระทบต่อสังคมเยอะ
ท่านชื่ออิสระแต่เป็นอิสระอย่างอันธพาล เอาของตัวเองเป็นหลัก
อิสระนั้นเป็นความซับซ้อนลึกซึ้งมาก ศาสนาพุทธอาตมาสรุปลงไปว่ามีเนื้อหาสาระแก่นสารว่า
-
คนจะบรรลุความเป็นอิสระ 2. คนจะหมดตัวตน 3. เข้าใจจิตวิญญาณดีที่สุดนี่คือเนื้อคือแก่นของศาสนาพุทธ