ก.ย.292018ศาสนา610929 เอื้อไออุ่น งาน 42 ปีศีรษะอโศก รำลึกบรรพชน – แพทย์แผนไทย ยุค 4.0 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1wTC7r-afAytfGmT1LLI6QeV2uCEKoXIH-XiCt_Z_w1A/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=17dcSJZKgY4VOrnifwHv4p0yBkJqAhdzQ พ่อครูว่า…วันนี้วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2561 ที่บวรศีรษะอโศก วันนี้วันรำลึกบรรพชน ก็พูดต่อจากท่านจิรัสโสว่า ไม่มีใครไม่เคยเกิดมาเป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่ใช่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เล่นๆ เพราะว่าวัฏสงสารมันยาวนานมากไม่รู้กี่ล้านๆๆปี คนเราเกิดมาเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูกกันนั้น บางคนเป็นไม่กี่ปีก็ตายจากกัน แต่ไอ้ล้านๆๆๆปี วนเวียน นับไม่ถ้วน ก็ไม่ต้องพูดเลยว่าไม่เคยเกิดเป็นพ่อแม่ลูกพี่น้องกัน ก็วนไปเกิดแล้วตาย ตามวิบากพาเป็น เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นเลยที่เราจะไปคิดฆ่าคิดทำร้ายใครๆ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมากมาย มันก็วนเวียนอยู่อย่างนั้น ทางมหายาน มีลังกาวตารสูตร สัตว์ก็วนเวียนเป็นพ่อแม่ลูกกัน แล้วจะไปกินเนื้อกันได้อย่างไร เราพูดไปแล้วเราเข้าใจแล้วเชื่อแล้ว แล้วเขาทำตนไม่กินเนื้อสัตว์กัน ก็เป็นสุดยอดความจริงความรู้ สุดยอดของการหลุดพ้น เพราะคนเราไม่รู้ แต่ที่จริงควรจะรู้อย่างยิ่ง พ่อแม่ลูกเกิดมาใช้วิบากกันแต่เขาไ่ม่รู้ก็เกิดมาฆ่ากัน พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นอนันตริยกรรมแต่เขาก็ทำกันได้ ในวงการชาวอโศกจะไม่มีอย่างนั้น แต่เขาไม่รู้ก็จมกับวิบากไม่รู้กี่ชาติ คนมาเป็นชาวอโศกจะหลุดพ้นจากเรื่องเหล่านั้น พ้นจากวิบาก พูดในเชิงร้าย ฆ่ากันอาฆาตพยาบาทกัน แม้แต่รักก็ผูกพันกัน นิพพานนั้นไม่ทั้งรักไม่ทั้งชัง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราก็ได้พัฒนาสูงมาเป็นอาริยะกันได้จริงๆ อาตมาพูดไปแล้วน่าสงสารชาวพุทธส่วนใหญ่ ยังหน้ามืดในลาภยศสรรเสริญสุข จมกับสิ่งเหล่านั้นไม่รู้ตัว จนกระทั่งเกิดเรื่องเกิดราว เป็นพระเป็นเจ้า จมแล้วยังทุจริต ไปวุ่นวายเรื่องเงินทองก็ต่ำแล้ว ยังมีโกงทุจริตอีก การทุจริตในคราบฆราวาสก็บาประดับหนึ่ง แต่โกงในคราบพระก็บาปซ้ำซ้อน มากมาย มันเป็นยุคใกล้กลียุค อาตมาภูมิใจที่พวกเราทำได้มีชุมชนหมู่กลุ่ม มีพฤติกรรมถึงขั้นสาธารณโภคี สุดยอด ในยุคพระพุทธเจ้ายังทำสาธารณโภคีในฆราวาสไม่ได้ อาตมามาพาทำได้ คนที่มีความรู้ทางศาสนาในยุคนี้ไม่มีใครมาอธิบายธรรมะอย่างโพธิรักษ์ อธิบายธรรมะไปถึงขั้น ธรรมนิยาม 5 แจกเวทนา 108 พระสูตรต่างๆวรรณะ 9 อิทัปปัจจยตา ปฏิจจสมุปบาท แจกได้ทุกมุมทุกเรื่องและไม่ได้แจกแค่พยัญชนะ แต่ขยายสภาวะนะ ให้เห็นให้เข้าใจ ขออภัยที่ดูอวดตัวอวดตนมาก การนำพุทธธรรมมาเปิดเผยได้นี่คือ บรรพชนของพุทธ พูดได้อย่างมั่นใจไม่ได้เป็นความหลอกลวงไม่ได้เป็นความอวดตัวตนอะไร พูดเรื่องจริง _รุ่นพี่ที่ดีควรทำตัวอย่างไร พ่อครูว่า..ก็ควรทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีแก่รุ่นน้อง ตัวอย่างที่ดีก็เป็นความรู้ที่กว้างๆ ว่าดีนั้นคืออะไร ดีนั้น คือ ต้องมีความรู้ทางธรรมที่พุทธเจ้าท่านสอนมา ตีขลุมอย่างนี้เลย คนจนที่ไม่มีภูมิธรรม ถ้าเขามีเขาก็จะกินจะใช้อย่างเกินกินเกินใช้ คำว่าดีต้องมาศึกษาธรรมะพุทธเจ้า ถ้าพี่เขาไม่ดีเราเป็นรุ่นน้องก็ดูตัวอย่างว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อไปเราเป็นรุ่นพี่อย่าไปทำอย่างนั้น ส่วนพี่ที่ไม่ดีก็รู้ตัวเองและปรับตัวเองให้ดี _ใช้ชีวิตในสัมมาสิกขาอย่างไรให้มีความสุข พ่อครูว่า…ก็เรียนรู้ธรรมะ ที่จริงในที่นี้เป็นสังคมที่มีความสุขมาก เราเองมาอยู่ในที่นี้แล้วเรายังไม่มีความสุขแสดงว่าเราเองยังโง่ เราจะต้องศึกษาให้ดีว่าเราอยู่ในแดนที่สุขสำราญเบิกบานใจแล้ว เรายังมีความสุขไม่ได้ แสดงว่าเราโง่มาก ต้องเรียนรู้บุคคลที่แต่ละคนก็มีกรรมกิริยาของเขามีพฤติกรรมของเขา เขาก็แสดงออกของเขาอย่างนั้นเป็นตัวของเขา เขาก็เป็นเขา เราก็คือเรา อ่านพฤติกรรมของคน ว่า เรามีความรู้ว่าอย่างนี้เป็นสิ่งที่ดีเราก็ทำตัวอย่างที่ดี อันนี้ดี เราก็พยายามปฏิบัติตาม จะทำอย่างไรจะอยู่กับหมู่เขาเป็นอย่างนี้ อยู่ไหนก็เหมือนกัน อยู่ในนี้ยิ่งดีเพราะมีคนดีเยอะ ตัวอย่างไม่ดีก็มีเล็กน้อย คนไม่ดีจริงๆมาอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก เขาเองเขาทนไม่ได้หรอก _ทำไมคนเราต้องมีกิเลสด้วยคะ แล้วเราจะกำจัดกิเลสให้หมดอย่างไร พ่อครูว่า กำปั้นทุบดินเลย คนเรายังมีกิเลสเพราะว่าคนเรายังไม่ถึงอรหันต์ตอบตามพยัญชนะเลย พระพุทธเจ้าท่านเรียนรู้ว่ากิเลสคนเป็นเช่นนี้ มันเกิดมามันก็ยังไม่รู้ มีอวิชชา พาเกิด ก็มีกิเลส ก็ต้องมาเรียนรู้ให้มีวิชชาให้ลดกิเลสจนสามารถลดกิเลสให้หมด ถามว่าจะทำอย่างไรก็ต้องเรียนรู้ธรรมะพุทธเจ้า ศาสนาอื่นไม่สามารถลดกิเลสจนหมดได้ ศาสนาอื่นทำไม่ได้เหมือนศาสนาพุทธ หลวงปู่นี่เป็นคนหมดกิเลสแล้ว ที่พูดนี้ยืนยันไม่ได้อวดอ้างอะไร พูดด้วยสัจจะด้วยความจริงใจด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีกิเลสอยากอวดตัวเอง พูดความจริงให้ฟัง ยืนยันให้รู้ว่าคนหมดกิเลสเป็นคนอย่างนี้ ให้รู้เสียบ้าง คนข้างนอกเขาไม่สามารถกล้ารับรองว่าตัวเองหมดกิเลสหรอก ไม่กล้า เดี๋ยวถ้ากิเลสมันเข้ามาเมื่อไหร่คนจับได้ก็จะซวย เขาไม่กล้าหรอก _ถ้าอยากเป็นสมณะชาวอโศกจะต้องปฏิบัติอย่างไร พ่อครูว่า..เรียนรู้ตามธรรมะพุทธเจ้ามาเรื่อยๆ ถ้าเผื่อว่าปฏิบัติดีจนกระทั่งถึงเวลาวาระเข้ามาแล้วก็จะได้แน่นอน _ความทุกข์กับความสุขมันต่างกันอย่างไร พ่อครูว่า…เข้าใจให้ได้ว่าจิตใจเราเป็นสุขเป็นอย่างไรความทุกข์เป็นอย่างไร หัดอ่านอารมณ์อาการ อย่างนี้มันไม่ใช่สุข ก็คงเป็นทุกข์ อาการอย่างนี้ไม่ใช่ทุกข์มันก็คงเป็นสุข แต่ความสุขความทุกข์นี้เป็นความโง่ ความสุขก็คือโง่ความทุกข์ก็คือโง่ ความสุขนี่แหละคือความโง่ที่ลึกซ้อนมันหลอกให้ติด ถ้าความทุกข์นี่มันยังดี เพราะฉะนั้นจงอย่าไปกลัวความทุกข์จงอย่าไปกลัวสิ่งที่ทำให้เราลำบากใจ นั่นแหละตัวดีเลยเรียนรู้แล้วทำใจให้เข้าใจวางใจได้ เพราะเราไปมีอุปาทานยึดติด เรียนรู้ให้รู้จักอุปาทาน 4 ถึงจะเป็นคนเจริญคนที่ไม่ทุกข์ไม่สุข แล้วไม่มีความทุกข์ความสุขเพราะความทุกข์ความสุขเป็นของคนโง่พระอรหันต์เลิกโง่แล้วก็จบ ไม่มีอวิชชา คนอวิชชาก็ยังติดในความสุขความทุกข์อยู่ ฟังดีๆนะฟังธรรมะที่หลวงปู่พูดนี้ไม่ได้ฟังง่ายๆ ไม่มีใครจะมาสอนเรื่องพวกนี้หรอก พูดอย่างชัดเจนที่จะแยกดำแยกขาวชัดเจน _ทำไมถึงได้ก่อสร้างได้มาเป็นวัดและเป็นโรงเรียนสัมมาสิกขาศีรษะอโศกและชาวชุมชนอโศกด้วยค่ะ พ่อครูว่า…หลวงปู่เองเป็นตัวตั้งต้นก่อสร้าง ให้เป็นวัด ให้เป็นชุมชน เป็นโรงเรียนสัมมาสิกขา ศีรษะอโศก ทำไมถึงได้ก่อสร้าง เพราะหลวงปู่เป็นโพธิสัตว์ จะต้องมาทำเรื่องนี้ไม่ทำอันนี้ก็ไม่ใช่ เคยได้ยินไหม? โพธิสัตว์จะสร้างวัตถุอย่างเช่น นครวัดอย่างเช่นปราสาทต่างๆ แม้แต่อยู่ในอินโดนีเซียคือบุโรพุทโธ นั่นคือพระโพธิสัตว์สร้างทั้งนั้น อันนั้นสร้างเหมือนกันแต่สร้างอย่างนั้นมันไม่ใช่โพธิสัตว์ที่เจริญสูงสุด พระโพธิสัตว์จริงๆ จะมาสร้างคนให้ได้รับโลกุตรธรรม แล้วก็บรรลุธรรมกันจริงๆนั่นคือโพธิสัตว์สายตรงของศาสนาพระพุทธเจ้า ส่วนสายที่ไปแวะวัตถุใหญ่โตนั้นเป็นสายหลงทาง จะยาวนาน มองในแง่โลกๆจะดูยิ่งใหญ่ยกเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แท้จริงคนที่ไปสร้างจะจมอยู่ในวัฏสงสารอีกยาวนาน นี่คือนัยยะลึกสำคัญ พระโพธิสัตว์อย่างอาตมาสร้างวัตถุภูเขาน้ำตกนกร้อง ตั้งแต่อาตมาสร้างชุมชนนี้สร้างภูเขาสร้างน้ำตกสร้างลำธารทั้งนั้น ปฐมอโศกเป็นชุมชนแรก เมื่อวางผัง ถมดินเสร็จทำลำธารทำภูเขาทำน้ำตกนกร้อง อย่างนั้นเลย ทั้งนั้นเลย พวกเรามีชุมชนที่ไหนก็เข้าใจแล้วหลวงปู่ติดชิปให้แล้ว สรุปแล้วต้องสร้างสิ่งที่มันเสื่อมไปแล้ว ธรรมชาติมันเสื่อมไปแล้ว เราก็ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ให้มันมีธรรมชาติบรรยากาศและคนที่อยู่ในสังคม ในมนุษยชาติอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดี ยิ่งโรงเรียนสัมมาสิกขายิ่งจะเป็นสถานที่ฝึกฝนเยาวชนขึ้นไป มีตั้งแต่อนุบาลจนถึงวิทยาลัย จะขอเป็นมหาวิทยาลัยเขาก็ยังไม่ให้ _ทำไมพ่อทานจึงได้มากินมังสวิรัติ ตอบ ก็คนกินมังสวิรัติคือคนประเสริฐ หลวงปู่รู้ว่ากินมังสวิรัติเป็นคนประเสริฐ ก็เลยมีคนกินตามมา _กรรมมีจริงหรือไม่ พ่อครูว่า…ฟังดีๆ ลมหายใจเข้าหายใจออกก็คือกรรม กรรมแปลว่าการกระทำ กายกรรม วจีกรรมพูดออกไปก็เป็นกรรม การกระทำในการคิดอย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นกรรม แล้วมันมีจริงไหม ก็เราคิดใหม่เราพูดใหม่ เราทำกายกรรมใหม่ ถามว่าทำไมคนต้องทำกรรม ไม่ทำกรรมก็ตายสิ เพราะเรายังไม่ตายก็ต้องมีกรรมการกระทำ กรรมเหล่านี้ถ้าเป็นกรรมดีกรรมชั่วก็เป็นวิบาก ศาสนาพุทธจึงเรียนเรื่องกรรมและต้องแก้กรรมให้ดี จนได้สูงสุดทำกรรมที่ไม่มีดีไม่มีชั่วทำกรรมไม่มีวิบากเลย มีวิบากแต่กรรมดีกุศล กรรมชั่วไม่ทำเลย นั่นคือคนเจริญสูงสุด _สะพานบุญ…ไม่ทราบว่าจะได้เป็นบรรพชนกับเขาได้ไหม ปัจจุบันผมอายุ 83 ปี สมัยที่พ่อครูอยู่ที่วัดอโศการามกระผมกับพรรคพวกที่ทำงานรถไฟ ได้นิมนต์พ่อครูไปเทศน์ ปัจจุบันผมตั้งใจจะมาอยู่วัดมากกว่าอยู่บ้าน ปีหน้าตั้งใจจะทุ่มสุดตัวครับ พยายามอยู่ ไม่ทราบว่าเป็นบรรพชนระดับไหน พ่อครูว่า..เป็น บรรพชนระดับอายุ 83 แล้ว _ทำอย่างไรจะอยู่ในสัมมาสิกขาได้ดี พ่อครูว่า…ที่สำคัญเราต้องรู้ว่าที่นี่เป็นแดนคนดี เป็นสถานที่ที่เราต้องมาอยู่ ต้องมองให้ออกเข้าใจให้ได้แล้วเราจะอยู่ที่นี่ได้ แม้คนจะว่าจะดู เราต้องมองเห็นความดีในการอยู่ _ผมว่าธรรมะนี้มันเข้าถึงได้ยากครับ แต่ผม ก็พยายามทำ ให้ตัวเองเข้าใจ แต่ผมก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ก็ดังคำที่ว่า เมื่อคนมันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ หลวงปู่มีวิธีทำให้ผมเข้าใจไหมครับ พ่อครูว่า..ที่ตั้งใจไว้ก็ดีแล้ว ที่มันเข้าใจยากเพราะว่าธรรมะที่นี่เป็นธรรมะขั้นโลกุตรธรรม เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าจริง ส่วนธรรมะอื่นๆนั้นพูดแล้วก็เข้าใจได้ง่าย อย่างนั้นคนอื่นเขาพูดกันเยอะแล้วหลวงปู่ก็ไม่ได้นำมาใช้ ในหมู่กลุ่มชาวอโศกเป็นหมู่กลุ่มที่เป็นธรรมะชั้นประเสริฐเป็นธรรมะชั้นสูง ถึงแม้ว่าเราจะเข้าใจได้ยากก็ให้พยายามเถอะได้นิดได้หน่อยก็เป็นสิ่งที่ยอด มันยิ่งกว่าเพชรยิ่งกว่าทอง พยายามตั้งใจเอาให้ได้ _ทำไมคนเราทำดีมาเป็นร้อยครั้งแต่เมื่อเขาทำผิดครั้งหนึ่งทำไมต้องถูกประนามขนาดนั้น หนูไม่เข้าใจเพราะว่าหนูคิดว่าคงไม่มีใครไม่เคยทำผิด พ่อครูว่า…ทำผิด 1 ครั้งในความชั่วร้ายแรงก็ลบความดีเป็นร้อยครั้งทั้งหมด ก็ระวังให้ดีคนเขาพูดก็ดีแล้วก็จะได้ระมัดระวัง ชั่วครั้งเดียวมันก็ไม่ดีเลย อย่าให้มันเกิด แต่มันเกิดแล้วก็เป็นคนจริงอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นอย่าให้เกิด ทำความดีไปมันไม่เสียหรอก เราไม่ให้เกิดความชั่ว เหมือนกับที่เขาว่า มีเพื่อนชั่วคนเดียวก็มากแล้ว มีเพื่อนดีร้อยคนก็ยังน้อยไป มันมากแล้ว ครั้งเดียวก็มากแล้วทำชั่ว ทำดีร้อยครั้งก็ยังน้อยไป เพราะฉะนั้นอย่าไปแก้ตัวว่าทำไมต้องมาว่า ว่าทำไม่ดี เขาว่าก็ดีแล้วจะได้แก้ไขจะได้ไม่ต้องทำไม่ดี ถ้าทำดีแล้วก็ทำไปสิ ทำไปเท่าไหร่ก็ไม่เสียหาย จะทำชั่วนั้นมันก็ติดตัวเราเสียถึงตัวเรา จะไปทำทำไมไม่ทำซะเลยให้ได้ เพราะฉะนั้นเขาจะเตือนไม่ให้ทำชั่ว ทำดีไม่มีความเสียหาย ทำไปสิทำดี _ทำไมผู้ใหญ่ในวัดชอบนินทากันชอบพูดประชดเด็ก ชอบแบ่งแยกทะเลาะกันเอง ไหนบอกว่าถือศีล มาลดทิฏฐิไม่ใช่หรือคะ ไม่เห็นทำได้เลยค่ะ พ่อครูว่า..เราก็มองตามประสาเราให้มองตัวเองดีกว่าอย่าไปมองผู้ใหญ่อย่างนั้นเลย ผู้ใหญ่เขาไม่รู้ความดีความชั่วเขาทำไม่ดีไม่งามอะไรก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ปล่อยเขาเถอะผู้ใหญ่เขาโตแล้วจะโง่ทำก็แล้วแต่ เราเอาตัวเราทำดีก็แล้วกัน เราตัวเราให้ดีก็แล้วกันอย่าไปมองความชั่วความดีไม่ดีของคนอื่น มองความดีนั้นดี มองความชั่วนั้นต้องมองให้ดี ผู้ใหญ่เขายังทำชั่วนะ เราเห็นแล้วเราก็ไม่ทำชั่วอย่างนั้น เอาเป็นประโยชน์อย่าไปมองเพ่งว่าประโยชน์ทำชั่ว เราสอนผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ก็ปล่อยให้เชื่อไปเลย ให้โง่เง่าไปอีกนานเท่านานเลยผู้ใหญ่ที่ชั่วชั่วอย่างนั้นโง่ไปเลย _ทำไมคนเราต้องถือศีล พ่อครูว่า เพราะถือศีลทำให้คนเป็นคนประเสริฐ ถือศีลแม้แต่ข้อเดียวจะเป็นคนตกต่ำชาตินี้ชาติหน้าก็จะตกต่ำ ศีลข้อ 1 ข้อ 2 ก็ทำไม่ได้ก็จะตกต่ำ ทำไมต้องถือศีลเพราะว่าจะได้สูงขึ้น ทำไมชาวอโศกไม่กินเนื้อสัตว์เพราะว่าชาวอโศกฉลาด คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์เป็นคนประเสริฐมีปัญญาคนที่กินเนื้อสัตว์อยู่ยังเป็นคนโง่ _ทำไมสมณะร้องเพลงไม่ได้เพราะอะไร พ่อครูว่า…เป็นคำสอนพระพุทธเจ้าและเป็นเรื่องที่ทำให้กิเลสเข้ามันไม่ดี _ทำไมเด็กสมาธิขาต้องมีวินัยคะ พ่อครูว่า… คนไม่มีวินัยก็คือคนชั่ว _ทำไมถึงทำผิดศีลในวัดไม่ได้ พ่อครูว่า…เพราะว่าที่นี่จะทำให้คนเป็นคนดีที่นี่จะทำให้คนดีจึงต้องทำอย่างนั้น _ทำไมสมณะเทศน์นานจังเพราะอะไร พ่อครูว่า…ก็เพราะว่าเราโง่ไม่เสร็จ ก็เลยต้องเทศน์นาน ถ้าโง่เสร็จแล้วก็ไม่ต้องเทศน์นาน _ทำไมสมณะทำผิดศีลไม่ได้ พ่อครูว่า…ถ้าหากเป็นคนไม่ดีก็ทำผิดศีลได้ ไม่ใช่แม้แต่สมณะ ใครก็ตามถ้าผิดศีลแล้วก็ไม่ดีทั้งนั้น _ทำไมสมณะถึงเป็นผู้น่านับถือของคนในชุมชน พ่อครูว่า…เพราะว่าสมณะเป็นผู้ปฏิบัติดีเป็นคนมีศีลจึงน่าเคารพบูชาเอาอย่าง _ทำไมพ่อครูจึงมาบวชเป็นสมณะคะ พ่อครูว่า…การมาบวชคือการทำตามพุทธเจ้ามาเป็นคนดีคนประเสริฐก็ต้องมาบวช _ทำไมวันเข้าพรรษาจะต้องตั้งตบะด้วย พ่อครูว่า…มันเป็นวิธีการที่ดี เราตั้งแต่วันนั้นเป็นเรื่องที่ดี หากคนบอกว่าเข้าพรรษาแล้วจะกินเหล้าหัวราน้ำ อย่างนี้ไม่เรียกว่าตบะ มันแตกตั้งแต่ไม่ตั้งตบะแล้ว การตั้งตบะคือตั้งข้อประพฤติให้แก่ตัวเอง _สวรรค์กับนรกนั้นแตกต่างกันอย่างไร พ่อครูว่า สวรรค์กับนรกคือความไม่ดีแล้วก็ไปทำ นรกเป็นความไม่ดีไม่งามเป็นกรรมที่จะฝังไว้ในอัตภาพที่ชั่ว สวรรค์ก็เป็นความติดยึด ชั่วเหมือนกัน ศาสนาพุทธจึงสอนให้ไม่มีนรกไม่มีสวรรค์ให้ได้ วัดไหนก็ไม่สอนอย่างนี้ วัดอื่นๆเขาจะสอนให้มีแต่สวรรค์ สวรรค์คือคู่กับนรก มีสวรรค์ก็มีนรก มีนรกก็มีสวรรค์ ไม่มีจบ เพราะฉะนั้นเราต้องรู้ว่าสวรรค์คืออารมณ์ของจิต อารมณ์อย่างนี้ไม่ดีต้องทำให้อารมณ์เป็นกลางอุเบกขา ไม่มีความชอบไม่มีความชังไม่มีสวรรค์ไม่มีนรกเป็นกลางๆ สร้างอารมณ์ต่างๆ กลางๆ ได้นี้เป็นอรหันต์ สร้างได้ชั่วคราวเป็นอรหันต์ชั่วคราว ทำได้ 1 ครั้งก็เป็นอรหันต์ 1 ครั้ง _ทำไมถึงต้องมีชุมชนชาวอโศกด้วย พ่อครูว่า…ว่าเป็นชุมชนที่ดี ประเทศไทยมีชุมชนชาวอโศกจึงเป็นประเทศที่ดีมีคนดีอยู่ในประเทศโลกที่มีชุมชนอย่างชาวอโศกนอกนั้นก็มีสิ่งที่ดีอยู่ในโลก _ในโลกนี้มีผี หรือวิญญาณไหมคะ พ่อครูว่า…จิตวิญญาณนั่นแหละคือผี วิญญาณอยู่ในตัวเราวิญญาณคือจิต จิตใจนี่แหละคือวิญญาณ วิญญาณหรือจิตใจที่ชั่วที่ทำชั่วก็คือผี คิดชั่วก็คือผี ศัพท์ชัดๆคือ วิญญาณที่มีผีจิตที่มีกิเลสก็คือผี ถ้าเป็นอรหันต์แล้วจะไม่มีผีในตัว เป็นอนาคามีก็จะเหลือผีน้อย เป็นโสดาบันก็มีผีมากกว่าสกิทาคามี เป็นปุถุชนมีผีอยู่เต็มตัว _ทำไมคนเราเกิดมาหน้าไม่เหมือนกัน พ่อครูว่า ปรมาณูที่เกิดขึ้นมาทุกคู่ไม่เหมือนกันทั้งนั้น ไม่มีอะไรเป็นธรรมะ 2 ที่จะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นคนหน้าตาไม่เหมือนกันก็เพราะว่าสร้างด้วยปรมาณูตั้งเท่าไหร่ แล้วมันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร ขนาดปรมาณูยังไม่เหมือนกันเลย กรรมมีจริงหรือไม่ คนตายคือคนไม่มีกรรมไม่กระดุกกระดิก คิดไม่ได้พูดไม่ได้ทำไม่ได้ แต่เรายังไม่ตายเราก็มีกรรมเราต้องทำกรรมดีกรรมมโนกรรม เรียนรู้กรรมที่ดีแล้วทำกรรมแต่ดี ไม่ทำกรรมชั่ว เรียนรู้ทำกรรมจนไม่มีบาปไม่มีบุญไม่มีสุขไม่มีทุกข์ก็คือพระอรหันต์ เพราะว่าบุญคือกรรมที่จะต้องชำระกิเลส กิเลสคือบาปคืออกุศล กิเลสหมดแล้วบุญก็ไม่ต้องไปทำอีก ไม่ต้องมีพลังงานเป็นบุญที่จะต้องไปชำระกิเลสอีก พระอรหันต์คือคนไม่มีบุญไม่มีบาป ปุญญปาปปริกขีโณ ฟังดีๆ ไม่มีใครสอนเหมือนหลวงปู่หรอก ฟังให้ชัดสั้นๆง่ายๆ _อยากถามว่า พระธาตุหลวงปู่ได้มาอย่างไร พ่อครูว่า…เรื่องพระธาตุเป็นเรื่องสมมติอย่างหนึ่งให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า หลวงปู่นี้มีคนเอามาให้ เกิดมามีเองเขาเอามาให้ทั้งนั้น เราเอาพระธาตุมาบรรจุก็จะมีคนเอาพระธาตุมาให้ ทุกวันนี้มีพระธาตุเยอะ เขาบอกว่าพระธาตุมันงอกเองก็ไม่มีปัญหา จะงอกเองก็งอกไปหลวงปู่ไม่เคยไปนับดูมีอยู่ในตู้มันก็อยู่อย่างนั้นไม่เคยดูสักที พระธาตุคือสิ่งแทนพระพุทธเจ้าให้รู้ว่ามีพระเจ้าอยู่ในโลก เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าตั้งไว้อยู่อย่างนั้น แต่ถ้าพระธาตุนี้ก็อาจจะเป็นจริงที่เป็นของพุทธเจ้าเลยก็ได้ เป็นสิ่งแทนพระพุทธเจ้าเป็นพระอัฐิเป็นพระกระดูกพระพุทธเจ้า ก็เป็นชิ้นส่วนของพระพุทธเจ้า แต่ว่าพระพุทธรูปนี้ไม่ใช่ชิ้นส่วนพุทธเจ้าเลยก็ยังกราบเคารพบูชาได้ แต่อันนี้พระธาตุสมมติว่าเป็นของพุทธเจ้า มันอาจจะมีส่วนในล้านส่วนที่เป็นไปได้น่าเชื่อว่าเป็นพระธาตุของพระพุทธเจ้า เป็นของพระพุทธเจ้าจริงบางส่วนก็ยังดี หากเอาพระพุทธรูปไปแทนสมมติได้ นี่ก็สมมุติเป็นของพุทธเจ้าได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็บอกว่าจะมีจริงหรือไม่มีจริง พระธาตุนี้มันเหมือนหิน เอาไปใส่ในน้ำถ้ามันจมก็ไม่ใช่พระธาตุ ถ้ามันลอยก็ถือว่านี้เป็นพระธาตุ เป็นต้น _ความสุขเป็นการเมาๆอย่างนั้นใช่ไหมครับ พ่อครูว่า…คนที่ฉลาดถามเข้าท่า คำถามนี้ไม่ใช่คนธรรมดานะที่ถาม ความสุขเป็นของมอมเมา เรียนรู้ให้ดีมีแต่ศาสนาพุทธเท่านั้นสอนในโลก ต้องอ่านอาการสุขของจิตที่เป็นเวทนา ผู้ที่อ่านอาการจิตออกเป็นสุขเวทนา คนที่รู้จักอาการสุขของจิต ได้ อ่านทุกข์ได้แยกออกต่างกัน แล้วเราก็หาเหตุแห่งสุข มันก็เหมือนกับการหาเหตุของทุกข์ เพราะความสุขเป็นความหลอกสุขขัลลิกะ ความสุขเป็นเรื่องโกหก ความสุขนั้นเป็นเรื่องของแท้ เป็นอริยสัจ พระพุทธเจ้าถึงให้หาเหตุของทุกข์เท่านั้นแหละ เมื่อดับแล้วสุขทุกข์ก็ไม่มี นี่คือสุดยอดของผู้ที่ตรัสรู้เป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่สุดยอด เรียนรู้ตามจะเจริญ _คำว่า อโศก แปลว่าอะไรครับ พ่อครูว่า…อโศก แปลว่าไม่โศกไม่เศร้าก็ยังมีความเศร้าอยู่ ก็ยังไม่ใช่อโศก คนอโศกนั้นมีความเศร้าน้อย ไม่เหมือนสังคมอื่นเขาที่มีแต่ความโศกเศร้า ร้องห่มร้องไห้อย่างนั้นอย่างนี้ แต่ของชาวอโศกจะมีคนร้องไห้บ้าง ที่ร้องไห้เพราะว่า ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ใช่ร้องไห้เพราะว่าเราไปติดยึด แต่ร้องไห้เพราะทนไม่ได้ต่อการปฏิบัติธรรมที่ถูกขัดเกลา ชาวอโศกนี่ร้องไห้ เด็กหรือผู้ใหญ่ที่ร้องไห้เพราะถูกขัดเกลาไม่ใช่ว่าร้องไห้เพราะไม่ได้ลาภยศอะไร เหมือนกับเด็กที่ร้องไห้งอแงเพราะอยากได้ของอย่างนั้นอย่างนี้เยอะ แต่ว่าเด็กชาวอโศกที่มีอย่างนั้นแหละน้อย _ถามว่าตายแล้วไปไหน พ่อครูว่า…ตายแล้วก็ไปตามวิบาก จะไปสวรรค์นะน้อย แต่จะไปนรกนั้นมีส่วนมาก _ทำไมหลวงปู่ต้องไปอยู่ที่บ้านราชด้วยครับ ไม่เห็นไปอยู่พุทธสถานอื่นบ้างครับ พ่อครูว่า…พุทธสถานมีหลายพุทธสถาน ก็ต้องมีที่อยู่เป็นหลักฐานบ้าง จะอยู่ประจำที่ไหนที่คิดว่าตรงนั้นควรจะอยู่เป็นประโยชน์จะทำอะไรได้มากหน่อย ก็อยู่ที่นั่น แต่ก่อนก็อยู่ที่ปฐมอโศกนาน ต่อมาก็อยู่ที่สันติอโศกนาน ต่อมาก็อยู่บ้านราชนาน ส่วนพุทธสถานอื่นๆแม้ไม่ได้ไปอยู่นานก็แวะเวียนไปที่เหมาะควร ก็มีร่างเดียวจะไปอยู่ทุกที่หมดก็ไม่ได้ ขนาดนั้นแต่ละที่เขาก็สร้างที่ให้อยู่ ก็ดีแล้วไปนานๆทีไม่ต้องรบกวนมาก ทำตามเหมาะควร _ทำไมมนุษย์ต้องเกิดมา แล้วทำไมต้องเกิดมาทำอะไรคะ พ่อครูว่า…เพราะว่ามนุษย์ยังทำตัวเองไม่ให้ไม่เกิดไม่ได้ มีแต่ศาสนาพุทธนี่แหละทำให้ตัวเองไม่เกิดได้ ต้องเรียนรู้จิตวิญญาณแล้วเรียนรู้ความเกิดความตาย จิตอย่างนี้ทำให้เกิดคิดอย่างนี้ทำให้ตาย เป็นพระอรหันต์แล้วสามารถทำให้จิตไม่ต้องเกิดอีกตายด้วยจิตที่ไม่ต้องเกิดอีกได้ นี่คือคำตอบว่าทำไมต้องเกิดต้องตาย เพราะมันยังเรียนรู้ไม่ได้ ยังมีอวิชชาพุทธเจ้านั้นค้นพบและมีคำตอบว่าไม่ต้องเกิดต้องตายได้ มีแต่ในศาสนาพุทธศาสนาอื่นไม่มีหรอก _บรรพชนกับบรรพบุรุษแตกต่างกันอย่างไร พ่อครูว่า…แตกต่างกันอยู่ที่ว่า บรรพบุรุษ หมายถึงคนที่เป็นผู้ชาย บรรพชนหมายถึงคนทั้งผู้หญิงผู้ชาย บรรพแปลว่าเก่าแก่ _คนดีคือคนแบบไหนและความยุติธรรมคืออะไร พ่อครูว่า…ความยุติธรรมคือหยุดจบระงับไม่มีอะไรต่อไม่ทะเลาะกันไม่มีเรื่องราวอะไรที่จะไปต่อ หรือหมายความว่าต้องให้ความดีเป็นเรื่องชนะ และมีการยุติหรือหยุดเป็นสิ่งที่ควรทำ ยุติธรรมในความหมายหนึ่งก็คือ ทำให้รู้ว่านี่ความดีคือความชนะความชั่วคือความแพ้ หยุดให้ได้ ยอมรับดี ยอมรับแล้วก็หยุด เป็นความยุติธรรมต้องให้ดีที่ถูกต้อง ชั่วนั้นหยุด ต้องมีการพิพากษา มีความยุติให้ได้ด้วยการชัดเจน การระงับเรื่องราวมี 7 อย่างในเรื่องของพระพุทธเจ้า มีข้อสุดท้ายที่ระงับไม่ได้คือติณณวัตถารกวินัย คือซุกไว้ใต้หญ้า คือไม่พิพากษาแล้วซุกไว้ก่อน _ทำไมทุกคนย่อมเกิดมาไม่เหมือนกัน พ่อครูว่า…บอกแล้วว่าปรมาณู 2 หน่วยไม่เท่ากันหรอก สิ่งที่มีคือสิ่งที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่ไม่มีนั้นศูนย์เหมือนกันคือนิพพานคือศูนย์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว จะเหมือนกัน นอกจากศูนย์แล้วไม่มีอะไรเหมือนกันเลยทั้งดีและชั่ว _โลกคืออะไร พ่อครูว่า…โลกคือความหมุนเวียน เป็นวัตถุก็ตามที่หมุนเวียน หมุนเวียนของกรรม ความเกิดวนเวียนสุขทุกข์กับโลก การเกิดวนเวียนสุขทุกข์ก็คือโลก เกิดแล้วตายเกิดแล้วตายก็คือโลก _ทำไมคนเราเกิดมาสวยหรือขี้เหร่เกิดเกี่ยวบาปกับบุญหรือไม่ พ่อครูว่า…เกี่ยวกับบุญเกี่ยวกับบาป ที่จริง บุญกับบาปไม่ชัด ต้องกุศลอกุศล จึงเกี่ยวกับความสวยหรือไม่สวยหล่อกับไม่หล่อ _อยากจะถามว่า…มีคนในศาสนาพุทธเกิดเป็นมนุษย์ไม่เคยทำบุญเลย เมื่อเสียชีวิตไปไม่ทราบว่าเขาจะตกนรกหรือว่าลูกหลานเขาที่ทำบุญจะไถ่บาปให้เขาได้ไหม พ่อครูว่า…ถามอย่างนี้ก็ถามอย่างเทวนิยมไม่ใช่พุทธศาสนา บุญคือการชำระกิเลส คนที่ทำบุญ คือทำพลังงานจิต ให้มันชำระราคะ โทสะ โมหะ ให้มันกำจัดกิเลสราคะกิเลสโทสะกิเลสโมหะได้ นั่นคือคำว่าบุญ แต่ที่พูดว่าคนไม่เคยทำบุญนี้ มันจะหยาบไป มันต้องละเอียดกว่านั้น คนทำบุญได้ก็อย่างชาวอโศก ทำบุญคือพัฒนาทำให้จิตเราลดกิเลสได้ คนทำทานคือเอาของให้คนอื่นเรียกว่าทำทาน คนที่ทำทานแล้วไม่ได้บุญ คือทำจิตให้มีสวรรค์ อยากได้กุศล คือจิตที่มีกิเลสเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้ศาสนาพุทธนั้นสอนผิด สอนทำทานแล้วมีแต่ให้ทำแล้วอยากได้อะไรเพิ่มขึ้นเป็นสวรรค์วิมานอะไรเป็น สาเปกโข มันไม่ถูกต้องตามศาสนาพุทธเลย เพราะฉะนั้น ตอบที่ว่าทำบุญแล้วจะได้ให้ไปถึงญาติไหม ไม่ได้ บาปบุญก็เป็นของตัวของตน กุศลอกุศลก็เป็นของๆเรา ใครทำให้เราไม่ได้เรื่องกรรมของเราคนเดียว กัมมัสโกมหิ กัมมโยนิ กัมมทายาโท กัมมาพันธุ กัมมปฏิสรโณ เดี๋ยวนี้ไม่มีความรู้กันอย่างนี้แล้วศาสนาพุทธ ขออภัยเถอะฟังศาสนาพุทธต้องมาฟังที่บุญนิยมหรือชาวอโศก นอกนั้นสอนกันอย่างเละเทะ น่าสงสารศาสนามากเลย ให้มาบ่อยๆฟังให้ดี แล้วจะได้ความรู้ตามที่พูดให้ฟังนี้ ยกตัวอย่าง เช่นเราติดทุเรียนเราได้กินทุเรียนก็มีความสุข อยากกินทุเรียนแต่ไม่ได้กินทุเรียนก็มีความสุข เราก็ศึกษาอาการเวทนาการสุขอาการทุกข์ แล้วก็เราสร้างที่ว่าติดทุเรียนมันติดที่ไหนติดที่ว่ามันมีหนามหรือเนื้อมันหวานมันๆมันหอม ติดในอะไรมัน ในรูป รส กลิ่น เสียงสัมผัส ติดที่เขาพูดตามคำหลอกลวง ใครได้กินทุเรียนนี้จะเป็นผลไม้ราคาแพงผลไม้ชั้นสูงนะ กินแล้วจะเท่กินแล้วจะดี (สู่แดนธรรมว่า ทุเรียนภูเขาไฟ ) ก็หลอกกันทั้งนั้นต้องมาเรียนรู้ความหลอกก็รู้ความหลอกแล้ว จะกินก็ได้ไม่กินก็ได้ จิตใจมันก็ไม่ติดยึดในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส ไม่ติดยึดในคำยกย่องชมเชยโฆษณาชวนเชื่อ ทุเรียนภูเขาไฟอย่างนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะไปยากอะไร มันก็อย่างนี้แหละ รสก็อย่างนี้ กินก็อย่างนี้ รูปก็อย่างนี้ มันก็มีธาตุอะไรที่ควรกินก็กิน เอาอะไรกินแทนได้ก็กินแทนไป คนที่เข้าใจอย่างนี้ได้ก็คือคนที่หลุดพ้นจากผู้เรียน หลุดพ้นโศกพ้นทุกข์ หลุดพ้นจากรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสของทุเรียน ความหลุดพ้นนี้มันง่ายๆไม่ได้ยากอะไรเรียนรู้ให้ดี ให้เข้าเป้าเข้าหลักคุณจะลดได้จริง แต่ถ้าไปฟังอย่างที่ไม่ได้อธิบายอย่างอาตมามันจะซับซ้อนที่เขายึดติดกัน _การรักษาสุขภาพด้วยการกิน แล้วต้องกินอะไรถึงจะดีที่สุด พ่อครูว่า…กินตามที่ชาวอโศกเราพากิน อย่างที่ข้างนอกพาไปกินนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเยอะเพราะฉะนั้นอย่าไปแสวงหาการกินข้างนอก แสวงหาอย่างที่ชาวอโศกพาทำอย่างนี้ดีที่สุด _ทำไมชีวิตคนเราต้องมีกิเลสด้วยครับ พ่อครูว่า…เพราะโง่ หากเรียนรู้กิเลสล้างกิเลสหมดก็ไม่โง่ _ทำไมคนเราต้องมีความรู้สึกด้วยครับ พ่อครูว่า…เกิดมาเป็นคนเป็นชีวะ เป็นจิตนิยาม เป็นธาตุรู้ที่มีจิตวิญญาณมีความรู้สึกเป็นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ก็มีลักษณะหน้าที่ 1 สังขารขันธ์ก็มีหน้าที่ 1 วิญญาณขันธ์ก็มีอีกหน้าที่หนึ่ง เวทนาขันธ์คือความสุขความทุกข์ ทำไมจะต้องมีเพราะว่าเป็นจิตนิยามที่จะต้องมีความรู้สึก พืช เป็นพีชนิยาม มันไม่มีความรู้สึกไม่มีธาตุขันธ์ถึงขั้นเวทนา ไม่ถึงขั้นมีวิญญาณหรือมีเวทนา ศาสนาพุทธนั้นแยก อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม ชัดเจนมากถามว่าทำไมต้องมีเวทนาเพราะว่าเราได้ก่อตัวจนกระทั่งเป็นจิตนิยามแล้ว เมื่อมันเป็นจิตนิยามแล้วตั้งแต่เป็นสัตว์เซลล์เดียวจนถึงเป็นคนมีหลายล้านเซลล์ เพราะโง่หนักมากเลยติดยึดเยอะ พยาบาท เยอะ ต้องมาเรียนรู้สัจธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ให้รู้จักจิตวิญญาณเป็นความรู้สึกแล้วสะสมที่กรรม โง่ วิ่งไปสะสมที่ตกนรกสวรรค์ติดยึดอีกนาน พระพุทธเจ้าจึงให้มาทำออก จนกระทั่งกลายเป็นคนเหมือนพืช ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ ไม่มีวิบากดีหรือชั่วอีกแล้ว เป็นพระอรหันต์แล้ว เป็นพีชะ แต่มีพลังงานในตัวที่มีปัญญาจึงสามารถนำพลังงานแคลอรี่ที่เหลือนี้มาทำประโยชน์ให้แก่สัตว์โลกอื่นๆได้ ส่วนเรื่องสุขเรื่องทุกข์ เรื่องเกิดเรื่องตายไม่ต้องไปกังวล เพราะว่าเป็นอรหันต์แล้วจะตายอย่างศูนย์ก็ได้จะเกิดอีกเพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่โลกอีกก็ได้ ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้านั้นยิ่งใหญ่ที่สุดที่เรียนรู้ถึงพลังงานตั้งแต่อุตุนิยามที่ใช้นิยามจิตนิยาม แล้วก็ควบคุมกรรมได้ ทรงไว้เรียกว่าธรรมะอย่างดี เป็นพระโพธิสัตว์นั้นทรงไว้ในธรรมะอย่างดี โพธิสัตว์คือผู้ที่เรียนรู้ธรรมะพุทธเจ้าแล้วละกิเลสได้ ผู้ที่ละกิเลสได้แล้วยังมีชีวิตเรียนรู้อยู่ต่อทำประโยชน์ นี่คือโพธิสัตว์ตั้งแต่โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า _ผีมีกี่ตัว มีตัวอะไรบ้าง ผีมีสามตัวใหญ่ ราคะ โทสะ โมหะ _ถ้าจะเลิกกิเลสต้องทำอย่างไร พ่อครูว่า…ก็ฆ่าผีให้หมด กิเลสคือผีก็ล้าง กิเลส ราคะ โทสะ โมหะให้หมด _หลวงปู่ครับ เขาจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ครับ พ่อครูว่า…เขากำหนดวันแล้วเราอย่าไปเสือกกับเขาทำไม _ผีไม่มีจริง ไหนว่าผีไม่มีจริง แล้วทำไมบางคนบอกว่าเห็นผี พ่อครูว่า…ผีหมายความว่าความหลอกจึงเรียกว่าผีหลอก ผีไม่มีจริงเพราะ ถ้ามันหยาบถึงขั้นหลอกว่ามันมีตัวมีตนมีรูปมีร่าง ใครที่ตาไปพบผี คือพวกที่หลอก เป็นมโนมยอัตตา เป็นอุปาทานของตนเอง ใครที่เห็นตามอุปาทานตัวเองเรียกว่าผีหลอก คือจิตหลอน ทางการแพทย์ก็รู้ บางคนมีคนตายในบ้านก็ได้กลิ่นธูป คือหลอกทั้งนั้น ก็ศึกษาให้ดีจะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ถ้าศึกษาไม่ชัดเจนไม่สัมมาทิฏฐิก็จะหลงงมงายอยู่อย่างนี้ตลอด ศาสนาพุทธเจ้าสอนให้คนชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ นี่คือจิตวิญญาณชั่วในตัวของคน อุปาทานเอง การล้างอุปาทานนี้ยาก ตั้งแต่เป็นฆราวาสอาตมาก็ศึกษาเรื่องของการสะกดจิต สะกดจิตแล้วสั่งให้บอกว่าบนโต๊ะนี้ไม่มีอะไรทั้งที่มีอะไร เขาก็จะไม่เห็นอะไรจริงๆ บางทีก็สั่งว่าบนต้นนี้มีถ้วยให้หยิบถ้วยมาซิ ทั้งที่มันไม่มีถ้วยจริงเขาก็จะควานหาถ้วยจริงๆ เพราะเขาจะเห็นว่ามันมีตามอุปาทานของเขา อุปาทานที่จะให้ตาเห็นหรือไม่เห็นก็ได้ พิสูจน์ถึงขั้นเช่น จะเอาเหล็กแดงที่ร้อนเป็นไฟทาบที่แขนนะ เราก็เอาไม้บรรทัดธรรมดาไปทาบ เขาก็จะเกิดความรู้สึกร้อนเอามือสะบัดเลยมีแผลพุพองจริงๆด้วย นี่พิสูจน์ชัด แล้วผีที่หลอกตัวเองมันก็ยิ่งง่าย มันเป็นไปได้ทั้งนั้นอุปาทาน หนังเหนียวอะไรต่างๆนานาพวกนี้ได้ อย่างอาตมานี้เล่นไสยศาสตร์อาตมาหนังเหนียวได้ ลองกันใช้มีดโกนยิลเลตต์กรีดเข้าไป ว่าเข้าหรือไม่ มันก็จะลื่นไปลื่นมาเลย มันไม่เข้า แต่ถ้าใช้มีดหนาหนักใหญ่ กรีดเข้าไปก็เป็นรอยเพราะมันหนัก มันกรีดเป็นรอย ดีไม่ดี มันเข้าเหมือนกันนิดหน่อยเลือดซิบได้ นี่คืออุปาทานทั้งนั้น พอเลิกแล้วอะไรจิ้มนิดหน่อยก็เลือดออก มันไม่ถาวรหรอกบางครั้งก็ไม่เหนียวบางครั้งก็เหนียว เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่จิตมันรวมตัวแล้วก็ยึดมั่นถือมั่น ถ้าไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เรื่องพวกนี้อาตมาอธิบายพวกเราก็จะพอเข้าใจบ้างแต่ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนลึกซึ้งเยอะแยะ เวลาหมด ก็ต้องจบด้วยเกินเวลาไป 2 นาทีแล้ว Category: ศาสนาBy Samanasandin29 กันยายน 2018Tags: พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:610929_พ่อครูให้โอวาท งาน 42 ปีศีรษะอโศก รำลึกบรรพชน – แพทย์แผนไทย ยุค 4.0NextNext post:610930_วิถีอาริยธรรม ศีรษะอโศก วรรณะ 9 และ อวรรณะ 9 อันสุดลึกซึ้งRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024