วิถีบวร 1 ใน 1000 ตอน…ชีวิตนี้ดี๊ดี ที่งานเจอุทยานบุญนิยม
วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561
เป็นวันที่ 2 ของเทศกาลกินเจที่อุทยานบุญนิยม เป็นโอกาสอันดีของคนวัดที่ได้ออกจากวัดมาบำเพ็ญคุณ บำเพ็ญธรรม เรียนรู้กับโจทย์กับผัสสะที่ต้องเจอในทุกวัน มีเรื่องราวที่เจอที่ประทับใจมากๆหลายเรื่อง แต่ขอยกมาเล่าสู่กันฟังทีละน้อยนะคะเพราะต้องถนอมแรงไว้จนถึงจบงาน
พาไปเยี่ยมร้านตำส้ม(ส้มตำ)ของชาวเครือแหกสิกรรมไร้สารพิษ ที่เป็นจิตอาสามาช่วยงานเป็นหลักที่ร้านส้มตำมาหลายปีแล้วในช่วงงานเจ ด้วยที่ร้านเราติดกัน ตอนแรกมองเห็นอาผู้ชายกำลังจะตำพริกกว่าครึ่งครก ยังกังวลว่าพริกจะไม่กระเด็นหรือยังไงนะ แต่พอตามไปดูก็ร้องอ้อ..อาเขามีถุงพลาสติกหุ้มปากครกไว้ เหลือเพียงช่องไว้สำหรับให้สากลงไปโคลกพริกเท่านั้น มิน่า!!พริกไม่กระเด็นเลย เทคนิคพิเศษจริงๆค่ะ รวมถึงเส้นมะละกอ ต้องขอบอกว่างานนี้เอกลักษณ์คือใช้วิธีสับและซอยเท่านั้น ไม่มีการขูด เพราะเพิ่นบอกว่าตำส้มแบบขูดมันบ่แซบ..อันนี้เรื่องจริงค่ะ..55ส่วนส้มตำก็มีทั้ง ตำลาว ตำไทย ตำซั่ว ข้างๆกันมีกระติ๊บข้าวเหนียวใบใหญ่ไว้บริการลูกค้าพร้อมกับผักสดกินกับตำบักหุ่งด้วยค่ะ..ตำส้มเจ ที่อุทยานบุญนิยมจึงเป็นอาหารยอดนิยมที่ดีต่อสุขภาพ ไม่เลี่ยน ไม่มัน แต่เรื่องอร่อยเรื่องแซบที่เป็นรสเท็จ เป็นข้าศึกของนักปฏิบัติธรรมก็เรียนรู้กับผัสสะที่ได้ลิ้มรสตำส้มแซบสุดซอยกันเอาเองเด้อค่ะ..55..
ที่หน้าร้านจะสังเกตได้ว่ามีอาหารมากมายหลายชนิดมากๆๆๆ แต่ดิฉันสายเจ 0.1 นิยมย้อนยุค จึงสะดุดใจกับข้าวเหนียวคลุกงาห่อใบตองตึง มีโอกาสจึงแวะไปหลังร้าน แหล่งอาหารเจ 0.1 ที่เราสนใจ ก็เจอพี่น้อง แม่ๆกำลังทำบรรจุภัณฑ์จากใบตองกันอยู่ เหมือนดิฉันหลงยุคไปอยู่ในยุคนางทาส เพราะยายแสง(ยายสุดขยันแม่ทัพข้าวต้มมัด)กำลังนึ่งข้าวเหนียวใช้เตาฟืน ยังมีหวด มีเตาดินที่พอโดนความร้อนจากฟืนก็ทั้งร้อน ทั้งหอมอุ่นไอดิน ยืนชื่นชมกับวิถีการทำอาหารแบบ 0.1ย้อนยุค จมูกก็ได้กลิ่นหอมของงาคั่ว สูดดมตามกลิ่น ไปข้างกองฟืน อาดั่งเดือนกำลังทำข้าวคลุกงา ข้าวเหนียวหุงสุกใหม่ๆ(เท่านั้น)คลุกกับงาดำและเกลือเล็กน้อย ส่งกลิ่นหอม ดูแล้วไม่แพ้ซูชิ อาหารญี่ปุ่นเลยนะคะ ซึ่งแพ็คเกจจิ้ง จะเป็นข้าวเหนียวคลุกงาห่อใบตองมีตอกกลัดอยู่แน่นหนา ปีที่แล้วมีลูกค้าเหมาซื้อไปเกือบ 20 ขึ้นเครื่องบินไปฝากเพื่อนที่กรุงเทพฯก็เพราะความเป็นเอกลักษณ์ของข้าวเหนียวในช่วงงานนี้มีพี่สาวแซมเดือน ผู้มุ่งมั่นกับต้องเป็นใบตองเท่านั้นที่จะห่อข้าวเหนียว just say no!! กับบรรจุภัณฑ์อื่นๆทั้งหมด นั่งใกล้ๆกัน พี่หลิน พี่ปลากระพงและทีมงาน จิตอาสาแพทย์วิถีธรรม กำลังนึ่งผักลวก ทำขนมเทียน อนุโมทนากับพี่ๆทั้ง 2 คนที่มาบำเพ็ญในช่วงงานเจมหากุศลนี้ด้วยค่ะ
เดินออกมาจะกลับร้าน ดิฉันก็สะดุดตากับฐานห่อหมก ที่ดิฉันต้องยกนิ้วโป้ง แถมนิ้วก้อย ในเรื่องมีความประณีตกับการทำห่อหมกมากๆๆๆ สอบถามอาดินดี ณ อุบล แม่ฐานใหญ่(จริงๆค่ะ..55)กำลังบรรจงหยอดกระทิลงบนหน้าห่อหมกที่วางบนใบตอง สอบถามพูดคุยกับอาดินดี อาบอกว่าเนือ้ห่อหมก มีส่วนผสมทั้งเห็ด หยวกกล้วยและอีกหลายอย่าง ผักรองพื้นก็เป็นซุปเปอร์ผักสมุนไพร ทั้งใบยอ โหระพา ชายา ผักอีหล่ำและผักสมุนไพรอีกหลายชนิดที่ซอยขนาดกลางรองเนื้อห่อหมกที่แน่นไปด้วยคุณค่า หน้ากระทิก็เป็นกระทิสดๆๆๆที่เพิ่งปอกและขูด นำน้ำกระทิมาประกอบอาหารทันที (อะไรจะสดได้ขนาดนั้น..55) จากรูปที่เห็นดิฉันยกให้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เป็นอาหารประณีต ใส่ใจทุกขั้นตอน อาดินดี บอกว่าดิฉันต้องลองทานจะได้รู้ว่ารสชาตเป็นอย่างที่เห็นหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้ทานเพราะนึ่งยังไม่สุกแต่จะลองชิมซักวันมาเล่าสู่กันฟังว่ารสชาตเป็นอย่างไรค่ะ ใกล้กันคุณหน่อย ป้าเต็ม ป้าเม่งจูแผนกกระทง ผู้มีความเพียร เย็บกระทงเพื่อให้ทุกแผนกได้ใช้ แม้ว่าหลายแผนกมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถนำกระทงไปบรรจุอาหารได้ แต่ทีมงานก็ยังเพียรเย็บกระทงให้เพื่อลดปริมาณถุงพลาสติกที่จะเกิดขึ้นจากการนำไปบรรจุอาหาร
เดินแวะมาทักทายถามไถ่พี่น้องฐานอื่นได้ซักระยะใหญ่แล้ว ก็กลับมาร้านตัวเองค่ะ ที่เป็นร้านที่มียอดขายที่น้อยที่สุดในงานนี้ เพราะเป็นร้านที่ไม่มีกำไรจากเงิน แต่ได้กำไรจากที่ทำให้ลูกค้า ปรับพฤติกรรมตนเองโดยมาถือปิ่นโต ถุงผ้า กระปุกรีไซเคิล ที่นำมาใส่อาหารแทนถุงพลาสติก
ดิฉันขอเล่าถึงความประทับใจลูกค้าค่ะ ดิฉันเห็นถาดใส่อาหารเต็มถาดวางไว้ แล้วลูกค้าหายไปไหน พอหันมาที่ร้านมีลูกค้า 2 คนแม่ลูกกำลังเลือกถุงผ้า คุณลูกบอกคุณแม่ว่า แม่ซื้อไป 2 ใบเลยเราซื้อของเยอะ ถุงใบเดียวใส่ไม่พอ ใส่กลับบ้านแล้วก้กลับมาบริจาคให้พี่เขาอีกเพราะที่บ้านก็มีเยอะแต่วันนี้ลืมเอามา ดิฉันได้ยินอย่างนั้น ใจนี้จะให้ไปเลยนะคะ แค่ลืมเอาถุงผ้าที่มีมา ยังไม่ใจอ่อนในการใช้ถุงพลาสติก ยอมมาซื้อถุงผ้า ถุงกระดาษใช้(ดิฉันก็ขายไม่แพงด้วยค่ะ ใบละ 2-5 บาทเท่านั้น เพราะพ่อครูเคยบอกว่าถ้าอยากขายได้ไว ให้เขาได้ใช้ประโยชน์ก็ขายให้ถูกๆ หรือให้เขาไปเลย ดิฉันเกือบให้ไปแล้วเพราะความประทับใจ แต่ก็ขอดูใจคุณแม่-ลูกอีกครั้งเพราะคิดว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกันอีกแน่ๆค่ะ
มีลูกค้าเป็นข้าราชการหญิงท่านหนึ่งมีตะกร้าส่วนตัวใบใหญ่หิ้วมา ดิฉันประทับใจเข้าไปพูดคุยทักทาย ขอบคุณที่ช่วยนำภาชนะมาบรรจุอาหารและเครื่องดื่มร้อน-เย็น ครบเครื่องให้คะแนนเกิน 10 เลยค่ะ คุณพี่ยังเปิดกล่องพลาสติกให้ดูว่าใส่อะไรไปทานบ้าง แอบเห็นห่อหมกหยวกกล้วยเห็ดที่แอบเชียร์ให้ลูกค้าทานด้วยค่ะ
ยังมีเรื่องประทับอีกเรื่องคือ กระเป๋าเยื่อกระดาษ ขายที่หน้าร้านใบละ 2 บาท(ตามหลักการพ่อครูที่ขายให้ถูก ซื้อง่าย ขายคล่องได้ใช้ประโยชน์ไว) พอรับเงินจากลูกค้ามา หลายคนเลยนะคะ ที่ให้ดิฉันเกิน 2 บาท ให้ 3 บาทหลายคนเลยค่ะ ไม่มีลูกค้ามาต่อรองซักคนเลยค่ะ บางคนดิฉันถูกใจประทับใจก็ให้ฟรีไปเลยค่ะ ..55..ทำอย่างนี้ได้ ต้องขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก ที่สขจ.(สถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจ)สันติอโศก นำมาบริจาคให้หลายกระเป๋าเลยค่ะ สอบถามไปที่แคชเชียร์บางโต๊ะ ได้ให้ข้อมูลมาว่า ลูกค้า 10 คนนำถุงผ้ามาเองจากบ้าน มีลูกค้าเกิน 50 % ที่ปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติกหูหิ้วที่โต๊ะแคชเชียร์แม้ว่าเป็นถุงย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ เป็นถุงหิ้วรักษ์โลกก็ตาม ที่ดิฉันเห็นกับตาคือ ลูกค้าซื้อของเยอะ ไม่ยอมใช้ถุงพลาสติกเดินเข้า-ออก 3 รอบเพื่อมาหอบเอากับข้าวไปใส่ตะกร้าหน้ารถมอเตอร์ไซค์ ตอนแรกดิฉันก็สงสัยว่าทำไม ลูกค้าเดินเข้า-ออกหิ้วกับข้าวออกไปอย่างนั้น พอเดินตามไปดูทราบแล้วดิฉันก็ประทับใจมากๆแต่จับภาพมาให้ดูไม่ได้เพราะแบตฯโทรศัพท์หมดกำลังชาร์ท ดิฉันกล่าวขอบคุณและไหว้ลูกค้าท่านนี้ที่ช่วยลดการใช้ถุงพลาสติก คำตอบที่ได้ดิฉันได้รับจากลูกค้าคือ “ดิฉันเห็นคุณในทีวีนะ”แล้วยิ้มหวานให้ ดิฉันอึ้งเลยค่ะ ถึงบางอ้อ..อ๋อ..ที่แท้เป็นแฟนบุญนิยมทีวีนี่เอง ยิ่งทำให้ดิฉันประทับใจเข้าไปอีกที่การสื่อสารบุญนิยมของเราทำให้ผู้คนมีพฤติกรรมที่เอื้อ เกื้อกูลต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้มีเรื่องประทับใจอีกหลายเรื่องแต่เล่าไม่หมดค่ะ ขอเรื่องสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ตั้งแต่มาอยู่ร้านลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก บังเอิญว่าเป็นร้านแรกอยู่ที่หน้าประตู ดิฉันเลยกลายเป็นประชาสัมพันธ์ของร้านไปในตัว ได้คุยสนทนากับลูกค้าทั้งวัน เบิกบาน สนุกสนานมากค่ะที่ได้เจอลูกค้าหลายรูปแบบมากๆ ที่สายเปย์ สายตืด สายสุขภาพ สายขี้โรค สารพัดสาย ใครง่วง ใครเหงาเชิญมาอยู่หน้าร้านด้วยกันนะคะ..55.. แวะไปดูกล่องรับบริจาคถุงหิ้วพลาสติก ดิฉันถึงกับยิ้มแฉ่งเพราะมีถุงพลาสติกมาบริจาคหลายถุงใหญ่เลยค่ะ สุดท้ายแห่งความประทับใจ มานั่งตรงนี้ได้รับไมตรีจากเพื่อนแม่ค้าหลายคน เมื่อวานก็นำขนมปากหม้อมาให้ วันนี้แม่ค้าเบเกอรี่ที่เคยมาขายช่วงงานเพื่อฟ้าดินจำเราได้ก็นำขนมมาให้ หมอแตงไทมายามดึกช่วงเก็บร้าน ให้ความห่วงใยนำสมุนไพรโคคลานมาให้ 1 กระปุกพร้อมบอกว่าให้กินวันละ 1 เม็ดก่อนนอนนะครับ (หรือเห็นดิฉันตัวผอม จ่อย เกรงจะเป็นลมไปเสียก่อนมั้ยนะ..55..ถึงจ่อยแต่ดิฉันแข็งแรงนะคะ)..ชีวิตนี้ดีดี๊ค่ะ ได้กำไรอาริยะทุกวัน ไม่ใช่กำไรจากตัวเงินนะคะ แต่เป็นกำไรจากการที่มาเจอผัสสะแล้วเรายังมีความเบิกบาน มีปัญหาก็แก้ปัญหาด้วยความเบิกบาน ยังสังวรณ์ในศีล กับทุกกรรม 3 ทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ให้มีแต่กุศล ไม่ให้อกุศลแสดงออกมา ถ้ายังมีหลงเหลืออยู่ก็เพียงเก็บไว้ในใจ มีปิติที่ยังมีความเบิกบาน ยินดี มีความเพียรกับงานที่ทำอยู่ค่ะ…