611022_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 21
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1h4gyB6dSt5thHDJNKPh–Y16i_c09fnm8FqBGUy7OTo/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1pHhPJG0wCE-RsMHWlxzSWRhlM4WuzuTl
พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก อีก 2 วันก็ออกพรรษาแล้ว ดู sms
SMS 21 – 22 ต.ค
_2166 ผมว่าเป็นเคราะห์ของชาวสันติอโศกนะที่พวกนับถือพระเจ้าเขาไม่ได้เปิดช่องนี้ดู!! แสดงว่าช่องนี้มีแต่สาวกอโศกเท่านั้นเปิดดู หรือหลวงพ่อว่าไหมครับ??
เนื่องจากกระแสตีกลับ(ตะลุมบอล)น้อยมากๆที่หลวงพ่อไปแตะหลวงปู่พุทธทาส แสดงว่าไม่ค่อยมีคนเปิดดูช่องนี้เลยนอกจากสาวกสันติอโศกเท่านั้น ??
พ่อครูว่า…ก็อาจจะเป็นได้ มันไม่รู้ก็เก็งความจริงกันไป ที่จริงอาตมาว่า ไม่ว่าจะแตะใครคนนั้นคนนี้ อภิปรายคนนั้นคนนี้ มันเป็นการแสดงธรรมของอาตมา แม้แต่ท่านพุทธทาสเองท่านก็สอนยิ่งกว่าอาตมา แต่ว่าไม่เหมือนกับอาตมาเท่านั้นเอง ท่านสอนตรงกันข้าม
ท่านว่า เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี อยู่ส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริงฯ
อาตมาก็พูด อะไรที่ท่านพุทธทาสรู้สึกก็พูด แต่ว่าอาตมาไม่เห็นอย่างท่านแต่ก็ต้องพูดเหมือนกับท่าน คนเราก็ต้องพูดความจริงที่เราเห็นเราเข้าใจว่าอย่างนี้ควรพูดเราก็พูด ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร จะมาให้อาตมา ไม่พูดสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นอย่างนี้ จะให้คนอีกคนไม่พูดสิ่งที่เขาเห็นอย่างนั้นได้อย่างไร ใครจะเห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น มาบังคับอะไรกันนักหนา
_1614 ถ้างมงายอยู่กับ”ศรัทธา” ปัญญาจะไม่เกิด ถ้าไร้ซึ่งปัญญา และศรัทธาอย่างงมงาย ก็ไม่ต่างจากควาย ที่ถูกสนตะพายจนตายไปชาติหนึ่ง/พุทธทาสภิกขุ
พ่อครูว่า…ท่านพุทธทาสก็ว่าแรงเหมือนกันนะ
_3867 ชาวอโศกโชคดีได้ปฏิบัติธ.โลกุตระกับพ่อครูโพธิรักษ์จึงนำพามวลมนุษยชาติไม่พลาดอรหัตตผลโสดาบันไปด้วย!เกิดมาให้สมกับคำว่าเป็น”มนุษย์”!ถ้าใครพลาดโสดาปัตติมรรคคือความแน่นอนแห่งสัทธรรมในศาสนาพุทธ!คนนั้นจะต้องเดือดร้อนใจในภายหลัง!สิ้นกาลนานฯอย่าเป็นมนุษย์เสียชาติเกิด!เสรีววณิช ชาดกฯ
พ่อครูว่า…ยิ่งคัดมาจากพระไตรปิฎกก็เป็นคำที่เขาเรียนกันสอนกันที่ผ่านมา มันก็ยิ่งยืนยันชัดเจน ธรรมะของพระพุทธเจ้าคือโลกุตระ ถ้าเราไม่พูดโลกุตรธรรมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะว่าพูดเรื่องโลกๆมันก็ไม่จบ โลกียะก็แย่งกันไปกันมาสมบัติผลัดกันชม มันไม่จบจะพูดอะไรกันนักหนา คนไหนเขาอยากแย่งกันก็แย่งกันไป ก็ได้รับวิบากกันไป คนไหนแพ้สู้ไม่ได้ก็เรื่องของเขา แต่ว่าศาสนาพุทธนั้นเป็นศาสนาที่สอนให้เปลี่ยนคนโลกีย์แย่งลาภยศให้มาเรียนรู้โลกุตระ คนจะได้รู้ว่าไม่ต้องเอาเวลาไปแย่งกันหน้าดำหน้าแดง จะรู้ว่าอะไรควรแย่งหรือทำให้ได้มากกว่าเขา ก็เท่านั้น จะมีปัญญาจะมีความฉลาดรู้จักการผ่อนหนักเบา ผ่อนสั้นผ่อนยาวให้แก่ชีวิตตัวเอง ชีวิตตัวเองก็จะไม่หนักหนาสาหัส นี่เป็นเรื่องสำคัญ
และที่สำคัญซ้อนลงไปคือธรรมะพระพุทธเจ้าไม่เหมือนศาสนาใดในโลกคือมีนิพพาน
นิพพานคือ รู้จักกิเลสในจิต อ่านกิเลสในจิตออก โลกุตระ แล้วก็มีวิธี มีแนวคิดที่จะเกิดปัญญา วิธีคิดที่เกิดปัญญาแนวที่สำคัญคือไตรลักษณ์
เห็นว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยง ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป และจริงๆแล้วมันไม่ใช่ตัวตน มันไม่มีตัวตนอะไร อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ให้รู้การประมาณความพอเหมาะพอดี แล้วก็ปฏิบัติไปตาม กาละอันควร ชีวิตก็สบายขึ้น
ชีวิตที่รู้เป้าอันนี้แล้วก็ค่อยๆลดละที่เคยยึดมั่นถือมั่นติดยึดมาเยอะ จับเป้าหมายได้ก็จะรู้สึกค่อยๆลดลงไป แล้วมันก็จะเข้าที่ก็จะอยู่กับสังคม อยู่กับทุกอย่างที่สัมผัสเกี่ยวข้องกันได้สบาย
อาตมาก็แทรกอธิบายธรรมะไปกับ sms ให้เห็นสำคัญ
_0629 ทวี สุทารส ปทุมธานี : กราบพ่อครู ชอบมากครับธรรมการเมืองของพ่อครู “รัฐธรรมนูญมีแค่ศีล 5 ก็พอ” ไม่ต้องเขียนให้มากเรื่อง เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
_สุลิน สายพันธุ์ · รับฟังธรรมจากพ่อครูและท่านสมณะท่านสิกขมาตุเป็นประจำทุกวันค่ะ สาธุๆๆ
_วาส ทองจันทร์ · กราบนมัสการพ่อครูกราบนมัสการท่านฟ้าไทครับ พวกสายนั่งหลับตาเขาไม่เข้าใจขั้นตอนการปฎิบัติธรรมเลย เขาจะคิดแต่พลังจิตที่สงบ แล้วจะเป็นพลังตัดกิเลสได้แบบที่อาจารย์เขาสอนต่อๆกันมาเท่านั้นครับ และคนพวกนี้ก็จะไม่มีวันรู้ตัวตนของกิเลสเลยว่าหน้าตาของกิเลสมันเป็นอย่างไร เหมือนเมื่อก่อนผมก็เคยหลงมาก่อน น่าสงสารจริงๆครับ
พ่อครูว่า…อาตมาพูดบ่อยว่าน่าสงสาร เห็นว่าปฏิบัติกันอย่างมงายนั่งหลับตากันไป มันมีแต่สมถะ มาเด้อมาเรียนรู้แยกแยะตีแตกจิตเจตสิกต่างๆ เวทนาต่างๆ แล้วก็อ่านของจริง ไปงมลำดับหลับตามันไม่มีอะไรเป็นแก่นสารสาระเป็นเนื้ออะไรที่จะเอาจริงจังอะไรเลย มันเอาแต่จมอยู่กับการสร้างภพ คิดคำนึงเท่านั้นมีแต่ภพชาติ
สอนผิดกันมานานมาก จนกระทั่งอาตมาก็อาภัพ รูปไม่หล่อพ่อไม่รวย ไม่มีเปรียญไม่มีการศึกษาที่จะเป็นเครื่องประดับยศเกียรติให้คนอื่นเขามายอมรับนับถือ มันเหมือนไม่มีอะไรดีเลย นอกจากจะมีความจริงแสดงออกทาง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บอกว่าคนอย่างนี้เป็นคนที่บรรลุอรหันต์บรรลุธรรมเป็นอย่างนี้ ยืนยันตัวเองอย่างนี้เท่านั้นเอง อาตมาก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร จึงจำเป็นที่สุดจะต้องบอกตัวเองว่า ดูเถอะตัวอย่างเป็นอย่างนี้เบิกบานร่าเริงไม่มีภัยไม่มีโทษกับใคร จะบอกว่าเพ่งโทษคนอื่นก็ไม่ได้เพ่งโทษแต่พูดสัจธรรมเท่านั้น ไปกระทบคนที่มีความผิดพลาดความบกพร่องที่มีเยอะมาก พูดไปเมื่อไหร่ก็โดนเยอะเลย ซึ่งมันเลี่ยงไม่ออก อาตมาก็ขอพูดจริงๆว่า อาตมารู้มากด้วย รู้สิ่งที่เขาผิดกันเยอะ ยิ่งจะพูดไปมันก็ยิ่งจะไปกระทบอีกเยอะเลย อาตมาเลยมีคนไม่ชอบหน้าเยอะ แต่ว่าอาตมาไม่มีปัญหาหรอกคนจะชอบหน้าอาตมาหรือไม่ชอบหน้าอาตมาไม่มีปัญหา จะชอบหรือไม่ชอบอาตมาก็หล่ออยู่ตามเดิมเท่าเก่า ใครว่าหน้าตาไม่หล่อไม่เป็นไรใช่ไหม อาตมาก็ต้องมีอย่างนี้ ถ้าจะถอดแบบเข้าแบบหล่อมา ไปเข้าแบบก็ต้องหล่อออกมาก็ต้องได้หน้าอย่างนี้ ถ้าไม่หล่ออย่างนี้จะได้หน้าตามาได้อย่างไร อาตมาไม่ขัดข้องอะไรพูดไปได้ สนุกดีด้วยนะ ได้เนื้อหาสาระดี ถ้ารู้จักเนื้อหาสาระ
_อำภา รื่นใจดี · น้อมกราบนมัสการท่านพ่อครูเพื่อนส่งไลน์การอธิบายธรรมของพระรูปหนึ่งมาให้ จึงขอตัดทอนส่วนหนึ่งถามท่านพ่อครูว่าถูกต้องหรือไม่
“พระนิพพานไม่ใช่อนัตตา แต่เป็นอสังขตธรรมอนัตตาคือ สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ไม่เที่ยง”
ลูกสงสัยตรงที่เคยรู้ว่า อนัตตาคือความไม่มีตัวไม่มีตน อนิจจังคือความไม่เที่ยง ตามที่ลูกเข้าใจอนัตตาเป็นความว่างจากกิเลสหมดตัวหมดตน แต่อนิจจังเป็นความไม่เที่ยงแต่ยังมีอยู่ และสิ่งที่มีมันผันแปรเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ที่ลูกอธิบายนี้ผิดถูกอย่างไรคะ และขอคำอธิบายอสังขตธรรม ด้วย สาธุ เจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…อสังขตธรรมคือธรรมะที่ไม่ปรุงแต่งและมันก็เป็นอนัตตา มันก็สัมผัสไม่ได้ไม่มีตัวไม่มีตน มันไม่เที่ยง
ที่เข้าใจนี้ถูกแล้ว อสังขตธรรม เป็นธรรมะที่ไม่มีอะไรปรุงแต่ง ผู้ใดมีจิตอสังขตธรรมอะไรมากระทบจิตของเราที่เป็นอสังขตธรรม ธรรมะคือความทรงอยู่อย่างที่มันไม่ปรุงแต่ง
คำว่าไม่ปรุงแต่งนี้มีความลึกซึ้งเป็นโลกุตระ ไม่ปรุงแต่งให้ไปเป็นทุกข์เป็นสุข ไม่ปรุงแต่งไปตามกิเลส รู้ความจริงตามความเป็นจริงเท่านั้น สัมผัสกับอันนี้เป็นความกลมอันนี้เป็นความเหลี่ยม สัมผัสอันนี้สีแดงอันนี้สีเขียว เป็นสัจจะหนึ่งเดียวไม่มีอะไรต้องลำบากจบ
ใครจะปรุงแต่งใครจะดีหรือไม่ดีก็รู้จะช่วยเขาไหมก็ช่วยได้ก็รู้ความจริงก็จบ
คนนี้ไม่ดีเกลียดคนนี้ดีรักก็ไม่มี เราก็มีอาการเท่านั้นออกอาการรักอาการชัง ก็เป็นแต่เพียงว่า เขาไม่ดี น่าจะช่วยเขาไหมเห็นใจเขาไหม ถ้าไม่น่าช่วยก็ไม่เป็นไร แต่คนเขาดีแล้วเรามีอย่างนี้ไหม เขาดีแต่เราไม่มีอย่างที่เขาดีเราก็ควรจะทำ หากเขาก็ดีอย่างนั้นเราก็ดีอย่างเรามันเขาก็ดีแล้ว
_พันธุ์ พอเพียง · โศลกธรรมที่ใช้เตือนนักการเมืองได้ดี จะถูกนำมาใช้อีกครั้ง คือ เลวที่สุดในแผ่นดิน คือหากินบนคำว่า ช่วยเขา
พ่อครูว่า…ผู้ที่ช่วยเขาโดยไม่เอาอะไรตอบแทนก็เป็นความบริสุทธิ์ แต่ผู้ที่ไปช่วยเขาแล้วก็เอาอะไรจากการช่วยนั้น คนนี้ก็ไม่ดี
_สุชาดา · น้อมกราบนมัสการพ่อครูและท่านฟ้าไทค่ะ ลูกฟังพ่อครูแล้วปัญหาลดลงค่ะ กราบขอบพระคุณพ่อครูค่ะ
_จริงจัง กราบนมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพอย่างสูงสุดค่ะ ใกล้ถึงวันออกพรรษาที่ 24 ตุลาคม นี้ กราบนิมนต์พ่อท่านทบทวนอธิบายให้ความรู้เรื่องเหล่านี้อีกครั้งค่ะ
-
วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 มีประเพณีทำบุญตักบาตร ที่เรียกกันว่า ทำบุญตักบาตรเทโว หรือเรียกเต็มๆ ว่า ตักบาตรเทโวโรหนะ สืบเนื่องจากความเชื่อตามตำนานที่ว่าวันนี้เป็นวันคล้าย วันที่พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงจากเทวโลกหลังจากที่ได้เสด็จกลับจากการไปโปรดพระพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น โดยธัมมาธิษฐานหมายถึงอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…ดีมาก ขอตอบอันนี้เป็นธรรมะ ที่บอกว่าไปโปรดพระมารดาที่ดาวดึงส์ ดาวดึงส์ก็ไม่มีจริงหรอกเป็นของเก๊ โปรดพระมารดา พระมารดาก็ตายไปแล้ว พูดกันก็ไม่รู้เรื่องหรอก เพราะว่าโดยสัจจะแล้วพระพุทธเจ้าย่อมรู้แจ้งอยู่แล้วว่าคนตายที่ตายไปแล้ว จิตของตัวเองจะอยู่ในภพเป็นตัวเอง จะไม่เกี่ยวข้องกับใคร แล้วจะไปเทศน์ให้ฟังจะไปเทศอะไรจิตวิญญาณของใครก็ของมัน แต่แล้วไม่มีหูตาจมูกลิ้นกายจะไปเทศน์อะไรให้ฟังรับฟังอะไรได้ ไม่ต้องเอาตอนตายหรอก ตอนเป็นนี้หากปิดทวารหู ตา จมูก ลิ้น กายแล้ว ใครมาเทศน์ให้ฟัง เปิดลำโพงคลื่นความถี่เท่าไหร่ก็แล้วแต่ แล้วมันจะได้ยินไหมไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย คือไม่คิดถึงความจริงอะไรมันไม่ได้ยากนะ มันไม่ใช่เรื่องลึกเลยมันเป็นเรื่องตื้น
สรุปแล้วเป็นเรื่องตำนานที่ผิดพลาดที่เล่ากันมา เทวดาก็ไม่มี เทวดาก็คือจิต เป็นจิตใจที่เป็นสมมติเทพอุบัติเทพ ถ้าเราหลงไปกับเทวดาก็มีของเก๊บ้าบอไป ถ้าเรารู้จิตแล้วเราก็ลดกิเลสให้ได้เรียกว่าลดได้หน่อยนึงก็เป็นส่วนแห่งบุญได้เรื่อย ลดกิเลสจนหมดอาสวะก็เป็นวิสุทธิเทพ เทพก็มี 3 อย่าง
สมมติเทพ อุบัติเทพ ตัวสมมุติเทพ ก็เป็นเทวนิยม มีแต่ชาวพุทธที่สัมมาทิฏฐิจะรู้ได้พวกที่เป็นเทวนิยมรู้ไม่ได้หรอก มีคนมาฟังรู้เรื่องได้อย่างนี้ก็จะน้อย ใครเห็นคุณค่าก็มาเอาเป็นของฟรี ก็ขอขยายความละเอียดขึ้นอีกนิด
ตักบาตรเทโว ก็หาเรื่องมามีเรื่องเพื่อจะให้คนมาตักบาตรเยอะ พระก็จะได้อะไรมากๆ การตักบาตรไม่มีอะไรก็ได้ของมา เมื่อตักบาตรเสร็จเอาของออกไปก็ไม่ได้เทศน์หรือบรรยายธรรมอะไร ก็มีแต่ไปเอาของญาติโยมเขามา อาตมาว่าก็ไม่เห็นจะน่าสนุกสนานอะไรน่ายินดีตรงไหนเลย
-
ประเพณีพิธีทอดกฐิน (ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) ควรเป็นอย่างไร
-
ประเพณีพิธีทอดผ้าป่า ควรเป็นอย่างไร
พ่อครูว่า…คำว่าทอด ฟังแล้ว มันกลับเอาลงกระทะมีน้ำมันเดือด อาตมาว่าลงกระทะทองแดง กฐินแปลว่าสะดึงที่ขึงผ้า สมัยโบราณผ้ามันหายาก ผ้าบังสุกุล อันที่ขาดวิ่นก็เอามาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยม แล้วก็เอามาปะรวมกัน เอามาดึงโยงไว้กับสะดึง น่าสงสารนะคนสมัยนั้น ได้ผ้าสี่เหลี่ยม มันก็ดีแต่อันที่ไม่เป็นสี่เหลี่ยมก็ต้องเอามาตัดจะได้ต่อกันได้ดี ส่วนใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว่าจะได้เป็นผืนก็ใช้ผ้ามากมายหลายชิ้น อาตมาพูดความจริงที่เห็นมาไม่ใช่คาดเดา เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ กว่าจะได้ เต็มสะดึง กฐิน เป็นขนาดยาวกว้างเท่าที่พระพุทธเจ้ากำหนด ยาวเกินก็เป็นอาบัติสั้นเกินก็เป็นอาบัติ แล้วก็เอามาใช้ปกคลุมร่างกายนี่คือกฐิน เป็นเครื่องมือสำหรับ เพื่อสะสมผ้ามาให้กับตัวเอง ได้ใช้ นี่คือกฐิน
อยู่มามันก็ยาก เศรษฐีใหญ่นางวิสาขามาเห็นเข้า สงสารพระเจ้ากว่าจะได้ผ้ามาสักผืนหนึ่ง ก็เอาสตางค์ตัวเองมาซื้อผ้า ที่เต็มผืนมาเลย แล้วเอามาถวาย เย็บให้เป็นสบง สบงนั้นเขาไม่ได้เย็บให้ติดกันหรอก ก็เป็นผ้าผืนหนึ่ง สมัยนี้เย็บติดกันหมดแล้ว แล้วก็มีผ้าครองผ้าห่มอีก 2 ผืนผัดเปลี่ยนกัน อะไรเอามาห่มก็เรียกจีวร อะไรที่พาดไว้ก็เรียก สังฆาฏิ ก็มีผ้า 3 ผืน
ในยุคโน้นมีผ้าที่หายากก็เลยต้องทำกฐิน นางวิสาขาก็เลยขออนุญาตว่าให้ผู้ที่มีสตางค์มาซื้อผ้าเอามาทอดหรือถวาย ทำเป็นจารีตประเพณีว่าควรจะให้ ถ้ามันมีน้อยก็ต้องทำการ กรานกฐิน พระมี 20 รูป ถ้ามีชุดเดียว 2 ชุดก็ต้องมาโหวตให้กัน พูดภาษาง่ายๆไม่ได้พูดภาษาบาลีภาษาพระอะไร
แต่ทุกวันนี้กฐินปีนี้ได้เท่าไหร่? นี่นรกไหม? คือหาเงินลูกเดียว เดือดร้อนอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้มาบวชก็จะหาแต่เงิน แสดงอาบัติตกนรกตลอดเวลา มาบวชนี้ได้นรกตลอดเวลาโดยสัจจะทั้งนั้น ไปงมงายกับกฐินไม่พอ
ยังมีผ้าป่า ผ้าป่าคืออะไร ไปกันใหญ่เลย ผ้าป่าคือผ้าที่เขาทิ้งไม่มีเจ้าของ ไม่รู้เป็นของใครก็ต้องชัดเจนว่าไม่มีเจ้าของแน่นะ เห็นผ้าตกอยู่อยู่ที่รั้วเห็นของใครไม่มีแล้ว ถ้าคลุกอยู่กับดินก็อาจจะเข้าใจง่าย มันขาดวิ่น ก็ถือว่าเป็นผ้าบังสุกุลที่เขาทิ้งแล้วคลุกขี้ฝุ่นขี้ฝอยอยู่ ก็เอามาได้ ไม่มีพิธีอะไรหรอก แน่ใจว่าไม่มีเจ้าของก็มาเย็บ ผ้าป่านั้นไม่มีเจ้าของ
แต่ทุกวันนี้ใครจะทอดผ้าป่ากี่กองก็นัดหมายกันไปหมด มันเป็นอาบัติหมดไม่ตรงกับสัจจะที่พระพุทธเจ้าเป็นเลย เอามาหาเงินแล้วพ่อไม่มีกำหนด กฐินทอดได้ 1 เดือน แต่ถ้าป่าทอดได้ทุกเวลา คิดจะหาเงินเมื่อไหร่ก็ทอดผ้าป่า 84000 กองว่าอย่างนั้น กองละบาทก็ได้แปดหมื่นสี่พันบาทแล้ว กองละ 10 บาทก็ได้ บวชมาทำไมหานรก
อโศกเราไม่เคยมีงานจารีตประเพณีอะไรก็แล้วแต่ที่จัดเพื่อหาเงินไม่มี ขายธูปเทียนขายดอกไม้ ขายทองเปลวอะไรไม่เคยทำ จัดงานเพื่อที่จะเรียกร้องให้คนมาทำ คนจะมาบริจาคยังยากเลย มีกฎเกณฑ์ว่าคุณเคยมารู้จักอโศกพอไหม ที่คุณจะทำทานให้นี่คือใคร คุณรู้จักหรือเปล่า เอาอะไรมาให้ แล้วคนนี้ควรให้หรือเปล่า ต้องศึกษาเขาเสียก่อนสิอย่าโง่ แล้วถูกหลอกกันอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ธัมมชโยนี้หลอกเสียจนทุกวันนี้ สงสัย พุงอืดขึ้นก็ไม่รู้หาตัวไม่เจอ
สรุปแล้วประเพณีผ้าป่ากฐินอะไรเป็นเรื่องนรกหยุดได้แล้ว เพราะเรื่องผ้าไม่มีปัญหาสำหรับพระทุกวันนี้เต็มวัด ไม่ว่าจะวัดไหนเป็นผ้าจีวรเต็มบ้านเต็มกุฏิอะไรไปหมดแล้ว เลิกได้แล้ว ตามยุคสมัยตามมหาปเทส สิ่งที่ควรก็ทำตามที่ควร เลิกได้แล้วเล่นกฐินด้วยผ้าป่าไม่ต้องทอด ไม่ต้องหาเงินพระอาจจะได้ลดน้อยลงถ้าจะได้ซื้อเข้าไปเยอะๆหน่อยไม่มีกฐินไม่มีผ้าป่าสึกกันไปเป็นแถว อยู่กันไม่รอดหรอก มันต้องมีเงิน
ถ้ามาบวชต้องไม่มีเงินสิมันถึงจะเป็นพระ พูดไปนี้เขาเถียงไม่ได้หรอก แต่เขาหาว่าเขามากไปแต่อาตมาว่า ว่าน้อยไปนะนี่
พ่อครูว่า…ควรเลิกหมดทอดกฐินทอดผ้าป่า
-
ประเพณีเทศน์มหาชาติ (นิยมทำกันในวันขึ้น 8 ค่ำ หรือ วันแรม 8 ค่ำ กลางเดือน 12) เนื้อหา เทศน์เพื่ออะไรคะ