วิถีบวร 1 ใน 1000 ตอน…กิจกรรม วันดินโลก ณ แผ่นดินพุทธ บวรราชธานีอโศก
วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561
วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันที่ปวงชนชาวไทย ได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์เป็นพลังของแผ่นดิน สมดังพระนาม”ภูมิพล” เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ทางสหประชาชาติได้ประกาศเป็นวันดินโลก และได้ประกาศให้พระองค์ เป็น”นักวิทยาศาตร์ดินเพื่อมนุษยชาติ) และในปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการเผยแพร่ศาสตร์พระราชา
กิจกรรมวันดินโลกที่บวรราชธานีอโศก..มีกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธคุณของในหลวงร.9 ..พี่น้องชาวบ้านราช มาร่วมโฮมแฮงเกี่ยวข้าวที่นาลานกราบ ที่ทางรมช.เกษตรฯ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร (อ.ยักษ์) ได้มาปลูกไว้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2561 (ช่วงงานอโศกรำลึก) สู่การเกี่ยวในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2561 จากวันพ่อถึงวันพ่อ ทั้งช่วงเช้า และช่วงบ่าย
เช้าตรู่ หลังสิ้นเสียงเพลง”ในหลวงของแผ่นดิน” ที่ประกาศเชิญชวนให้พี่น้องทุกท่านมาร่วมกิจกรรม พี่น้องเราหลายท่านก็มุ่งตรงไปที่นาลานกราบ มีทั้งชาวชุมชน นักเรียน นักศึกษาอาชีวะของสัมมาสิกขา ญาติธรรม โดยมีท่านสมณะมาเป็นกำลังใจ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
เช้านี้จึงได้เห็นชาวนาสมัครเล่นหลายท่าน ที่ปกติไม่ค่อยมีเวลามาลงนากันมากนัก เช่น ผอ.นุชนารถ ดร.ชิดตะวันพร้อมคุณแม่ คุณไพบูลย์(งานนี้บอกว่าเพิ่งจะเคยมาเกี่ยวข้าวเป็นครั้งแรกในชีวิต) ป้าฝั่งบุญ ทิ้งตำราป.โท ที่แสนจะเหมือนยาขม มาลงนาด้วยความยิ้มแย้ม พี่น้องจากภูผาฟ้าน้ำก็มา คุณกิมฮวด มือหนึ่งทำเต้าหู้บ้านราชก็มา อาเย็นยิ่ง จากเรือมาลงนาก็ได้เช่นกันค่ะ นักเรียนสัมมาสิกขาราชธานีอโศก นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสัมมาสิกขาวิชชาราม และอีกหลายท่าน เป็นการบูรณาการศึกษาบ้าน วัด โรงเรียน หรือ “บ ว ร” ได้อย่างสมบูรณ์
นาแปลงนี้เป็นนาทดลองเพราะเป็นที่นาถูกน้ำท่วมทุกปี ปลูกข้าวพันธ์อยุธยา ๑ (Ayutthaya 1)ซึ่งเป็นข้าวภาคกลาง เป็นข้าวเจ้า พันธ์อู่ตะเภาผสมกับข้าวมะลิ กข 105 ความสามารถยืดปล้อง ทนน้ำท่วมและทนแล้ง แต่ปีนี้ บ้านราชน้ำไม่ท่วม เลยยังไม่ได้พิสูจน์ เรื่องข้าวทนน้ำท่วมได้แค่ไหน แต่ที่แน่ๆ ข้าวแต่ละกอ มีความสูงเกือบ 2 เมตร ประกอบกับ ดินในนามีน้ำขังตลอดไม่ขาด ทำให้ดินนุ่มมาก เดินดีไม่ดี จมโคลนได้เลยค่ะ
สังเกตในนาจะมีผักพาย ขึ้นแซมข้าวอยู่เป็นจำนวนมาก บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ทางชีวภาพ นาที่ชาวบ้านราชปลูกจะเป็นนาอินทรีย์ไร้สารพิษ เป็นมิตรกับสัตว์น้อยใหญ่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมค่ะ
ประทับใจคุณพี่แหม่ม สวิสค่ะ เดินทางจากกทม.มาบ้านราชทั้งคืน มาถึงอุบลฯก็ตรงมาลงนา จับเคียวเกี่ยวข้าวทันที พร้อมกับชวนพ่อบ้านซึ่งเป็นชาวสวิส ลงมาสังเกตการณ์ในนาด้วย ไปๆมาๆ คุณพ่อบ้าน ก็สนใจจะเกี่ยวข้าวด้วย เพราะเห็นชาวบ้านราช ดูมีความสุขกับการเกี่ยวข้าว พี่แหม่มไม่รอใช้ เป็นติวเตอร์สอนตัวต่อตัวได้อย่างน่าเอ็นดูค่ะ
นาผืนนี้มีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ กับชาวเราที่มาลงแขกเกี่ยวข้าวกันกว่า 30 คน ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.เท่านั้น ก็เกี่ยวข้าวสำเร็จเสร็จเรียบร้อย
***********************************************************
ในช่วงบ่ายท่านเกษตรจ.อุบลฯ คุณอนันต์ ปรีชาวุฒิวงศ์ หลังจากร่วมกิจกรรมของทางจังหวัดเสร็จแล้ว ช่วงบ่ายก็ตรงมาที่บ้านราชเลยค่ะ ทำเอาชาวเราตั้งตัวกันแทบไม่ทัน ดีที่ว่าท่านมาเยี่ยมบ้านราชบ่อย เลยคุ้นเคยกับท่านส.ถักบุญ ทำให้เกษตรจังหวัดได้มีโอกาสสนทนากับท่านสมณะถักบุญ เพื่อรอพวกเรามารวมตัวกัน
เวลาประมาณ 13.45 น.พวกเราก็มากันพร้อมได้ประมาณหนึ่ง ท่านสมณะถักบุญ ได้ให้โอวาทเนื่องในวันดินโลก ท่านเกษตรจังหวัดอุบลฯ คุณอนันต์ ได้กรุณาสนทนาเรื่องราวการเกษตร ที่ต้องเป็นเกษตรอินทรีย์เท่านั้น ถึงจะเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตได้ ซึ่งในหลวงร.๙ ท่านทรงงานมาตลอดชีวิตทั้งคิด ทั้งทำให้เห็น ในเรื่อง พอเพียง พึ่งตนเอง เป็นมิตรกับดิน น้ำและสิ่งแวดล้อม ซึ่งชาวราชธานีอโศก เป็นผู้ปฏิบัติได้จริง ล้ำสมัยเกินกว่าสังคมปัจจุบันไปแล้ว คุยกันไป-มา เลยเหมือนการตั้งวงเสวนาก่อนลงแขกเลยค่ะ
เวลา 14.15 น.ได้ฤกษ์ลงแขกเกี่ยวข้าว ผอ.อนันต์ให้เกียรติลงมาเกี่ยวข้าวพร้อมพวกเราด้วย เพราะนาผืนนี้เป็นนาโยน ที่ รมช.เกษตรฯ ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ได้มาโยนข้าวเอาไว้ และท่านก็บอกไว้ว่า นานี้ท่านจะมาเกี่ยวเอง อย่าเพิ่งเกี่ยว แต่เมื่อมาพิจารณากันถ้าไปเกี่ยวช่วงที่ท่านจะมาอีกครั้งปลายเดือน ช่วงงานเพื่อฟ้าดิน ข้าวคงแห้ง กรอบมากเกินไป ผอ.อนันต์ ก็เลยมาเป็นตัวแทนเจาหน้าที่กระทรวงเกษตรมาร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวพร้อมพวกเรา ท่านเองไม่เคยเกี่ยวข้าวมาก่อน เกี่ยวข้าวครั้งนี้ เป็นครั้งแรก ทำให้ชาวบ้านราชต้องเป็นติวเตอร์ให้ทั้งนักบวชทั้งฆราวาสเลยค่ะ พร้อมกับลุ้นว่าเคียวจะเกี่ยวนิ้วท่านมั้ยนะ ดูท่าทางน่าหวาดเสียว แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม.ประมาณ 15.10 น.ก็เกี่ยวเสร็จเรียบร้อย งดงามค่ะ
ยังมีกิจกรรมที่พวกเราจะร่วมใจกันอีกที่หนึ่งคือ ที่โรงปุ๋ยพลังชีวิต ในวันนี้จำหน่ายปุ๋ยในราคาอาริยะ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ กระสอบ 50 กก.ขายในราคา 160 บาท กระสอบ 25 กก.ขายในราคา 80 บาท เป็นราคาอาริยะที่ทางโรงปุ๋ยพลังชีวิต มีกิจกรรมในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี จึงมีรถของชาวบ้านที่เคยทราบข่าวก็จะมาซื้อปุ๋ยกัน ทุกวันพ่อ
เช้านี้มีรถ 10 ล้อ นัดขึ้นปุ๋ยไว้ 3 รถพ่วง จากนั้นก็จะมีรถชาวบ้าน ทยอยกันมาซื้อปุ๋ยกันอย่างต่อเนื่อง
ดิฉันประทับใจ รถของพี่น้องเกษตรอินทรีย์ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ของม.อุบลฯ มาซื้อปุ๋ย เพราะมีสัญญากันว่าจะมาซื้อในวันพ่อเพราะขายถูกทุกครั้ง มาครั้งนี้ได้ประโยชน์กลับบ้านไปเต็มที่ มาซื้อปุ๋ยถูกด้วย ข้าวของเครื่องใช้ก็ราคาถูกอีก มีน้ำตก น้ำโตนให้เด็กๆเล่นอีก..แหม!!ครบครันสำหรับทุกคนในครอบครัว
พอรถมาเทียบขึ้นปุ๋ย พ่อบ้านก็ให้สมาชิกลงจากรถ เอาของใช้ที่ซื้อจากร้านพิสูจน์จิตอาสา ลงจากรถด้วย ดิฉันเลยแซวเด็กๆว่า เอาละซี ปุ๋ยขึ้นแล้วจะมีที่ให้คนนั่ง ให้ของเอากลับไปได้มั้ย ที่สำคัญเด็กทั้ง 3 คน ตัวเปียกทุกคนเพราะไปเล่นน้ำตกมา เมื่อปุ๋ยขึ้นเสร็จแล้ว ของก็ขึ้นตามมา ส่วนคน หนูน้อย 2 คนก็นั่งรวมกันนั่งเกาะเสื่อยางพารากลับพิบูลมังสาหารเลยค่ะ
ชาวชุมชนบวรราชธานีอโศก ได้น้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง มาปฏิบัติจนเกิดเป็นหมู่บ้านพอเพียง พึ่งตน”แบบคนจน” ตามพระราชดำรัสที่พระองค์ได้มีพระราชประสงค์ให้คนไทย ทำอยู่ทำกินแบบพอเพียง พึ่งตนเองให้รอดได้จากทุกสถานการณ์
มีกิจกรรม สานสัมพันธ์ บ้าน วัด โรงเรียน (บ ว ร ) ในวันพ่อแห่งชาติ วันดินโลก เกิดสังคมวิถีพุทธ ที่มีวิถีชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่ง เป็นมรดกพระราชทาน ที่ในหลวง ร. 9 ท่านได้พระราชทานไว้ เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า เป็นทางรอดของมวลมนุษยชาติให้กับ ทุกคน ทุกประเทศ ทั้งโลก
และยังมีสังคม มีหมู่กลุ่ม ที่สามารถดำรงชีวิต ปฏิบัติได้จริงในทุกๆวัน เดินตามรอย ศาสตร์พระราชาได้จริง มีพฤติกรรมจริง เห็นได้จริง สัมผัสได้จริง ที่บวรราชธานีอโศก แผ่นดินพุทธ จ.อุบลราชธานีค่ะ….