ธ.ค.192018บันทึกปัจฉาฯศาสนา 611219_พ่อครูสนทนากับท่าน Lopen Gembo Dorji แห่งภูฏาน เรื่อง การพัฒนาโรงเรียนและการวางรากฐานพุทธศาสนาในระดับมัธยมศึกษา อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1E1qET4Y_tU6JQAKHLdRhCVTeEaLChBeK7QO8F7hzjAo/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=19KYcn9LSL4sk9trOIRNF8BolDpp3eKg6 วันพุธที่ 19 ธ.ค. 2561 ที่ลานหินนั่ง หน้าน้ำตก บวร สันติอโศก ผู้สนทนากันมี พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ กับ ท่าน Lopen Gembo Dorji เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยสมเด็จพระสังฆราชในประเทศภูฏาน (His Holiness of shagarage) เรียกว่าท่าน GEM และคณะ มีสม.สัจฉิกตา ตั้งเผ่าร่วมสนทนาด้วย คุณแหม่ม(พราวพุทธ ขาวดารา) เป็นผู้แปล พ่อครูว่า…ที่เรามีโรงเรียน มี บ้าน มีวัด บ้านวัดโรงเรียนซึ่งเป็นสังคมองค์รวม จะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ของทุกอย่าง ของจิตวิญญาณและพลังงาน เมื่ออยู่รวมกันก็จะเกิดการสังเคราะห์สังขารรวมกัน ธรรมชาติของจิตวิญญาณนี้ละเอียด จะซึมซับ osmosis เข้าหากันอย่างสนิทเนียน เพราะฉะนั้นเราจึงจัดสรรให้เกิดหมู่บ้าน เกิดการศึกษาเป็นโรงเรียนทางการศึกษาของเด็กทางการศึกษาของคนหนุ่มสาวของคนอายุมากเป็นองค์รวม เราได้พิสูจน์และปฏิบัติกันมา อาตมาพาทำมาตั้งแต่อาตมาบวช เกือบ 50 ปีแล้ว ก็เป็นที่น่าพอใจสำเร็จผล ก็ตรงกับที่พระพุทธเจ้าท่านทรงวางระบบทฤษฎีเอาไว้ เป็นความสงบอบอุ่น เป็นความสุขสบาย ท่ามกลางสังคมที่เขาเดือดร้อนแก้ปัญหาไม่ตก เพราะที่นี่อยู่กลางกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย เราจึงเป็นจุดกลางที่ไม่เหมือนข้างนอกไปเลย เข้ามาที่นี่จะรู้สึกแตกต่าง ที่นี่มีครบพร้อมทั้งเสนาสนะสัปปายะ บุคคลสัปปายะ อาหารสัปปายะ ธรรมะสัปปายะ ท่าน GEM… ประเทศไทยกับประเทศภูฏานเป็นประเทศพุทธศาสนาเหมือนกันเป็นโชคดีที่ทำให้มีจิตวิญญาณที่ดีเหมือนกัน คุณลักษณะพิเศษขอบการมีธรรมะในจิตใจ ทำให้เราเป็นคนดี ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้ใหญ่หรือผู้มีอายุ สิ่งที่เราฝึกสิ่งที่เราประพฤติปฏิบัติในสายทางธรรม จะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เราเป็นคนที่ดีได้ ในการมาที่นี่เรามีความสุขสงบ เพียงแค่เราเข้ามาภายในนี้ก็สัมผัสสิ่งนี้ได้ ว่าโรงเรียนนี้มีธรรมะเป็นเครื่องเหนี่ยวนำ และเข้าใจถึงหลักการที่เราใช้ในการพัฒนา พ่อครูว่า..มีสิ่งใดที่ท่านที่มาเห็นว่าจะมีประโยชน์ก็เชิญ ตักตวงเอาได้เลย ท่านGEMว่า…สามารถสัมผัสได้ชัดเจนแน่นอนเพียงแค่เข้ามาเพียงไม่กี่วินาที สิ่งที่เรียกว่าความสุขความสงบไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะเห็นได้จากการต้อนรับการปฏิบัติ ความสงบที่ท่านสัมผัสได้อย่างชัดเจน ก็คือเป็นสิ่งที่ท่านประทับใจ ทำให้ท่านรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดี พ่อครูว่า…ยินดีมากที่รู้สึกเช่นนั้น มีอะไรต่อไปที่จะได้รับชมได้รับที่จะสัมผัส ใครมีอะไรต่อไปมีคำถามต้องการจะได้ซักไซ้ ท่านGEMว่า…สมมุติว่านักเรียนที่จบจากที่นี่ไปแล้วไม่ทราบว่านักเรียนจะทำอะไรต่อไปมีอาชีพอะไร พค.ว่า…เขาจะมีความรู้ที่ว่าเขาออกไปอยู่กับโลกเขาจะประพฤติในสิ่งที่ดีที่งามให้แก่โลก เขาจะแยกออกว่า โลก ส่วนใหญ่ที่เขาพุ่งเฟือยสุรุ่ยสุร่าย เสียหายเป็นทุกข์ร้อนเขาจะรู้จักจากที่นี่ เมื่อออกไปอยู่ข้างนอกเขาก็จะประพฤติใช้ชีวิตกับสิ่งที่เขาเข้าใจแล้ว เขาจะรู้ความสูญเปล่าความไร้สาระที่โลกเขาหลงกัน เพราะฉะนั้นเขาจึงอยู่กับข้างนอกได้อย่างประหยัดได้อย่างไม่สูญเสียไม่ฟุ่มเฟือยหลงโลกจนเกินเลยไป เขาจะเป็นผู้อยู่ในเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ที่ดี เป็นเศรษฐศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบ ท่านGEMว่า…การที่เราสร้างการศึกษาเน้นคุณธรรมการใช้ชีวิต มันจะเป็นปัญหาของส่วนการศึกษาพื้นฐานหรือไม่ เช่นการสอบการเขียนเป็นต้น กับการพัฒนาศีลธรรม สองส่วนนี้เป็นสิ่งที่ยากจะทําได้อย่างสมบูรณ์ ขอเคสที่เป็นการแก้ปัญหาแนะนำการสอน จะทำให้เด็กที่เรียนในโรงเรียนที่เน้นคุณธรรมสามารถนำการศึกษานี้ไปใช้ได้ มีกระบวนการแบบไหนทำให้การศึกษาขั้นพื้นฐานกับการพัฒนาคุณธรรมไปด้วยกันได้ พ่อครูว่า…เรารู้ระดับของความเป็นเอกเป็นรอง ความเป็นเอกของจิตวิญญาณเป็นแก่น ความเป็นเรื่องของโลกเป็นเรื่องรอง เราไม่สับสน เราตัดสินได้ อย่างไรเราก็รู้ว่าเรามาจบที่จิตวิญญาณ ความเป็นโลกก็ได้เท่าที่สามารถทำได้เราไม่แข่งกับโลก โลกเขาเป็นโลกาจินตา ไปไม่หยุดไม่มีเขตแห่งความพอไม่มีความจุดจบจุดพัก เพราะฉะนั้นเราไปตามเขาไม่ได้ เราจึงมีจุดพอจุดสบาย มีจุดที่มั่นใจว่าเรามีสันโดษ เรามีความเข้าใจชัดเจนตามคำสอนพระพุทธเจ้า ท่านGEMว่า…เราได้ทำการสอนมา ในฐานะที่ท่านเองเป็นทางพระเป็นทั้งผู้สอนธรรมะ บางครั้งเจอปัญหาที่ว่ายาก การทำให้สมดุลระหว่าง การสอนเรื่องจิตวิญญาณ เรื่องศาสนา เรื่องการศึกษาพื้นฐานทางโลก ทำได้สมดุลยาก หากพูดคำว่าโพธิสัตว์คนจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆคนเลยยากจะเข้าใจ ท่านก็เปลี่ยนจากคำว่าโพธิสัตว์เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขเป็นความเสียสละ เมื่อท่านเปลี่ยนด้วยคำพูดเหล่านี้ทำให้คนเข้าใจเข้าถึงความหมายได้ชัดเจนมากขึ้น อันนี้เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในการที่เป็นฐานะพระสงฆ์ต้องนำพระพุทธศาสนามาสอน โดยจะสอนให้คนทั่วไปนำมาใช้งานก็จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง นักเรียนที่นี่ดูน่ารักดูสงบและเงียบ ที่นี่มีการสอนทำสมาธิหรือมีกระบวนการพัฒนาให้คนมีผู้ ความสงบและความดี พ่อครูว่า..คำถามนี้เป็นคำถามที่ต้องตอบอย่างดีเลย วิธีทำความสงบไม่ได้นั่งสมาธิ แต่ทำสมาธิอยู่ในทุกอิริยาบถ ทำการอาชีพเลี้ยงชีวิตเราก็ทำสมาธิ เราทำกรรมกิริยาทุกกรรมกิริยา เราก็ทำสมาธิ น้อยมากที่เราจะไปนั่ง meditation แทบจะไม่ต้องทำเลยเพราะเราเกิดสัมมาสมาธิ มีความเสถียรของสติไว้ มีมุทุภูตธาตุ สัมผัสทุกอย่างแล้วเราจะมีจิตเร็วไว ไหวรู้ทันแล้วจะปรับจิตวิญญาณ ทุทุภูตธาตุ ของเราให้ทันการหมดเลย เพราะฉะนั้นสมาธิของเราไม่ใช่ไปช้านั่งนิ่ง แต่ของเรานี่มีแต่สมาธิที่ไวมากเลย จริงๆแล้วศาสนาพุทธนี้ตรงกันข้ามกับ Meditation แต่ว่าเป็น Supra Concentrate ยิ่งจะไป Meditation ยิ่งจะช้ายิ่งหยุด ของพระพุทธเจ้านี้ทำการอาชีพ สัมมาสัมมาอาชีพ มีสัมมาวาจาสัมมากัมมันตะ ตลอดเวลาเราจะมีองค์ธรรมสมาธิที่ดีที่สุดคือ จิตจะไม่มีตัวกิเลสกวน เรียกว่าจิตสะอาด จิตปราศจากตัวกวน จิตก็มีความเร็ว มุทุภูตธาตุ จิตก็จะบริสุทธิ์สะอาดอยู่ตลอดเวลา กล่องทำที่เป็นสมาธิของพระพุทธเจ้าสมบูรณ์จริง คือ ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุกัมมัญญา ทำกรรมการงานอะไรก็ดีอยู่ที่สุดเลย ปภัสรา ผ่องใสอยู่อย่างเดิมนี่คือสมาธิของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ไปนั่งหลับตาแล้วไม่รู้เรื่องกรรมการงานอะไรทำงานอะไรก็ไม่ได้ ต้องเสียเวลาต้องหาสถานที่และต้องหยุดทุกอย่าง ไม่ใช่ สมาธิของพระพุทธเจ้าตรงกันข้ามหมดเลย Opposite เพราะฉะนั้นแทบจะบอกได้ว่านั่งหลับตาทำสมาธินี่ ไม่ถูกเลยโยนทิ้งได้เลย ศาสนาพุทธไม่ใช่อันนี้เลย ท่านGEMว่า…จะทำได้อย่างไรจึงมีผล พ่อครูว่า…ต้องปฏิบัติตามธรรมะของพระพุทธเจ้าให้สัมมาทิฏฐิ ต้องเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าให้สัมมาทิฏฐิ เพราะเราเชื่อว่าเรามีสัมมาทิฏฐิตามพระพุทธเจ้าจึงเกิดผล เมื่อเขาสัมผัสแรกจึงรู้สึกว่าสงบทั้งๆที่เราไม่ได้มานั่งสงบMeditation ล่ามว่า…ไม่ทราบว่า ท่านมีแนวคิดวิสัยทัศน์ต่อโรงเรียนดีอย่างไรโปรแกรมในอนาคตที่ท่านจะพัฒนาโรงเรียนนี้ พ่อครูว่า..อาตมาไม่มีอะไรที่จะ Apply สิ่งที่ทำมาแล้ว 40-50 ปี อาตมาว่าอาตมาได้ทำเต็มทำพร้อมหมดแล้ว มีแต่จะทำต่อไปและต่อไปเท่านั้นเอง ปัญหานั้นไม่มี แต่อาตมาว่าอาตมามีปัญญาหรือว่ามีความรู้ที่รู้ว่า จะทำให้มันเจริญต่อไปนี่ได้ยาก เพราะเขายึดมั่นถือมั่นด้วยความหลงผิด เข้าใจคำสอนพระเจ้าที่เขาได้หลงผิดไปเขาได้ยึดมั่นถือมั่นตรงนี้แล้ว นี่มันยากตรงนี้แหละ ตรงกระแสหลักที่เข้าใจผิดนี่แหละ จะไปแก้ความยึดมั่นถือมั่นของเขานี่ยาก เขาไม่เปิดประตูรับสิ่งที่อาตมาให้ไปเขาปิดสนิท โยมที่มากับท่าน GEM ถามว่า…ได้รับการประสานงานให้มาที่นี่ โยมขออนุญาตว่า อยากจะขอถามเรื่องระบบที่พ่อท่านได้สอนเรื่องบุญนิยมกับทุนนิยม พ่อครูว่า..เอาศัพท์คำว่าบุญนิยมกับทุนนิยม คำว่าปุญญะ ภาษาอังกฤษไม่มี แต่ทุนนิยม คือ capitalism คำว่าทุนนิยมเป็นเรื่องสามัญชาวโลกที่จะต้องไปหลงไปรวย หลงลาภยศสรรเสริญโลกียสุขเป็นโลกียะ แต่เขาไม่เข้าใจว่ายังมีโรคที่เป็นโลกุตระ โรคที่คนไม่ต้องไปเป็นทาสของกิเลส ไม่ต้องไปอยากรวยไม่ต้องไปอยากดังไม่ต้องไปอยากได้มาให้แก่ตัวเองอะไรอย่างนี้ เขาไม่เชื่อว่าคุณจะคิดเช่นนี้ได้ แต่คนที่คิดเช่นนี้ได้ทำเช่นนี้ได้คือโลกโลกุตระที่พระพุทธเจ้าค้นพบ ท่านGEMว่า…จากที่พ่อท่านได้กล่าวมา สิ่งที่ท่านอยากจะขอย้ำคือ สิ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์ทั่วไปคือ ตัวที่ทำให้เรามี ความพอเพียงและมีปัญญา ที่จะพัฒนาได้ สัตว์ทั่วไปไม่มีในส่วนนี้ที่จะเข้าใจและพอเพียง เมื่อไหร่ที่เราจะได้พัฒนาและปฏิบัติในสิ่งที่ได้รับพิจารณาอย่างถูกต้อง มันจะทำให้เราเป็นอิสระออกจากสิ่งที่มายั่วยวนหรือเป็นกิเลส ทำให้เราเกิดการพัฒนาในขั้นต่อไปได้ พ่อครูว่า…ผู้ที่ปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าแล้ว เมื่อเกิดปัญญา จะเข้าใจจะมีวรรณะ 9 the classes วรรณะ 9 เลี้ยงง่าย (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ) ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ) ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ตรงข้าม อวรรณะ9 ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) ท่าน GEM ว่า…การศึกษาที่นี่เป็นโรงเรียนที่อยู่ประจำหรือเปล่า พ่อครูว่า..เราเห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันจึงทำการศึกษาแบบ บวร ให้อยู่ร่วมกันซึมซับกัน แต่การศึกษาแบบโลกนั้นเป็นการศึกษาที่ผิดเป็นการแยกส่วนทำให้เด็กไม่รู้จักสังคมไม่รู้จักความเป็นไปของสังคมไม่รู้จักว่าอะไรคือสิ่งที่เราจะต้องอยู่ร่วม นี่คือการศึกษาที่ล้มเหลวการศึกษาที่ผิดพลาด เราจึงเอาการศึกษามารวมกัน ชีวิตคนเป็นชีวิตสามัญ นักเรียนอยู่กับชีวิตคนตั้งแต่คนเด็กคนแก่คนหนุ่มคนสาวทำงานอะไรกัน นักเรียนของเราจะอยู่ร่วมกันหมดเลยช่วยกันคนละไม้คนละมือ ศึกษาไป รู้ซึมซับไปตลอดเวลาเลยว่าชีวิตอย่างนี้คือชีวิตจริง ส่วนตำราที่จะเรียนตามโลกเขากำหนดมามีหลักสูตรเท่านั้นเท่านี้เป็นเรื่องขี้ผง สอบเพื่อให้ได้ตามข่าวเท่านั้นเองอันนี้เป็นเรื่องของชีวิต ตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลจนไปถึงจบปริญญาเอก เขาไม่รู้จักสังคมไม่ได้ศึกษาความเป็นจริง เราจึงเรียกว่าบ้านวัดโรงเรียน รวมกันอยู่ด้วยกันหมดเลย การประสบความสำเร็จที่เราได้ประพฤติปฏิบัติแบบนี้ ท่าน GEM ว่า…เป็นโชคดีของเราอย่างมากและขณะที่มาที่นี่ ขอบคุณเป็นอย่างมากกับทุกๆท่าน เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากแม้จะในระยะเวลาอันสั้น ท่านจะได้นำสิ่งที่ทั้งนี้ได้แนะนำไปปรับปรุงไปใช้ในประเทศภูฏาน พ่อครูว่า…ขอบคุณเป็นอย่างมากที่เห็นเรามีคุณค่า เป็นเกียรติอย่างยิ่ง Categories: บันทึกปัจฉาฯ, ศาสนาBy Samanasandin19 ธันวาคม 2018 Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:611218_ศาลอุทธรณ์ ตัดสินยกฟ้องคดีพ่อครูและพวกฝ่าฝืนพรบ.ความมั่นคง ปี 54NextNext post:ชาดกสอนใจ ตอน เกียจคร้านผลาญตนRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024