620220_พ่อครูเทศน์ก่อนเผาศพแม่ครูหนู อำไพ หุ่นตระกูล
– ตำนาน และปูชนียบุคคลอีกท่านหนึ่งของชาวอโศก
-รำลึกถึงแม่ครูหนู คร่ำคร่า(อำไพ หุ่นตระกูล) ผู้เป็นบรรพชนและผู้ริเริ่มวัฒนธรรม ล้านจานล้างใจ ชุดเล็กชุดใหญ่ให้มีวัฒนธรรมของชาวอโศก “ล้างจานล้างใจ ไม่ล้างตามใจ บ้างตามขั้นตอน” แม่ครูเคยสอนจำได้ไม่เคยลืม
– แม่ครูหนูจากไปด้วยอาการสงบ ณ รพ.นพรัตน์ เวลา 23.52 น.วันจันทร์ 18 ก.พ.2562 ด้วย
โรคชราในวัย 87 ปี
– กำหนดการฌาปนกิจแม่ครูหนู ในวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 14.00 น. ณ เฮือนสุดชีวิต บวรราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี
คุณผ่องบุญ ลูกบุญธรรมของแม่ครูหนูบอกว่า แม่ครูหนูก่อนเสียชีวิต แม่ครูตั้งใจฝึกอดอาหาร ชวนไปที่ราชธานีอโศกก็ไม่ไป บอกว่าเขาจะมาทุบตึกหน้าสันติฯแล้วนะ แม่ครูกลับบอกว่า แม่ครูจะไปก่อนที่เขาจะมาทุบตึกหน้าสันติอโศก…แม่ครูก็คงตั้งใจละสังขาร จะได้กลับมาทันในยุคของพ่อครู
พ่อครูว่า…วันนี้วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ บวร ราชธานีอโศก
ณ บัดนี้ ณ ที่นี้คือที่สุดชีวิต ทุกคนไม่มีใครจะถึงไม่ถึงที่สุดชีวิตได้ ครูหนู มาอยู่กับชาวอโศกตั้งแต่อายุ 40 กว่า ก็ 40 กว่าปี อยู่กับพวกเรา ทุกคนรู้จักดี ก็พากันมาปฏิบัติธรรมกันมาเพิ่มภูมิเพิ่มธรรม
ถ้าใครสามารถที่จะพอเข้าใจ แม้จะเดา กรรมกริยากายวาจาใจ ที่เราได้ยินได้รู้ สัมผัสกัน ตลอดมา ก็จะคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ครูหนูนี้ เป็นผู้ที่ได้หลุดพ้นไปจากโลก โลกธรรมต่างๆ ขั้นอบายมุขก็ไม่มี ขั้นกามก็ไม่มี ขั้นอนาคามีข้างในนี่แหละ ให้แต่ละคนใช้วิจารณญาณเอา ส่วนจะเป็นขั้นอรหันต์หรือไม่ก็ศึกษากัน อาตมาแนะทางให้บอกแนะไปตามสมควร นอกนั้นเราก็ใช้วิจารณญาณเอาประกอบกายวาจาใจเราก็จะรู้กัน
พระพุทธเจ้าตรัสว่า รับรู้ได้ด้วยการคบคุณกัน อยู่ด้วยกันคบคุ้นกันก็จะเป็นการรู้ที่ชัดเจน การที่จะมีจิตหยั่งเข้าไปรู้จิตนั้น มันเป็นสิ่งที่ยาก เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนมันก็รู้จิตไม่ได้จริงเท่าไหร่ แต่ถ้าเผื่อว่าเราอยู่คบคุ้นณกันเป็นเวลานาน เราก็จะรู้ได้ เพราะว่าแม้แต่ระยะเวลาที่อยู่ร่วมกันการแสดงออกบางครั้งบางคราว แม้แต่บางครั้งบางคราวเราอาจจะมีสิ่งที่แสดงออกเหมือนเชิงที่เรามีสสังขาริกัง เหมือนมีกิเลสโลภะโทสะร่วมด้วย เราอาจจะเดา บางทีมันมีมุมเหลี่ยมลึกซึ้ง มันไม่ใช่มีอาการแสดงออกเหมือนโทสะมันแรงๆ เป็นอาการเหมือนกับ โลภะ
ราคะ โลภะรู้ได้ยากกว่าโทสะ ราคะมีนัยเรียนรู้ได้จบก่อนโลภะ อย่างเช่นพระอาริยะ มีอาการเหมือนมีโลภะในตน ต้องทำในส่วนตน ส่วนพวกของตนให้เกิดขึ้นอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมันไม่ใช่ แต่มันเป็นการทำเพื่อองค์ประกอบให้ทรงอยู่ เพื่ออาศัยเพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม โดยไม่มีเพื่อตัวตนเพื่อตนเอง ตัวเองไม่เสพติด แต่เพื่อประโยชน์เพื่อผู้อื่นอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมันจะต้องศึกษาดีๆแล้วก็จะรู้ชัด
ถึงอย่างไรอาตมาก็เชื่อว่าพวกเรานี้จะเข้าใจมุมเหลี่ยมของการเป็นของๆตน ที่พวกเราได้ศึกษากันมา อาจจะมีความรู้ มีวิจารณญาณเข้าใจตัดสินสิ่งเหล่านี้อย่างถูกต้อง ผู้ที่มีคุณธรรมไม่มีกิเลสมันก็ไม่มีโทษภัย อยู่กับสังคมก็มีแต่คุณค่าประโยชน์ก็เป็นสิ่งสุดยอดของความเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นมนุษย์ก็อยู่ตรงนี้แหละ ที่เป็นจุดสำคัญที่สุดของการศึกษา สำหรับชีวิต
สำหรับการไม่มีข้าวของไม่ยึดถือในข้าวของ มาเป็นของตัวของตนง่ายๆ มันไม่ยากหรอก ไม่ยึดข้าวของมาเป็นของตน ศาสนาเขาก็รู้ บางศาสนาอื่นเขาไม่มีอะไรมายึดถือเป็นตัวของตัวของตนได้ยิ่งกว่าพุทธ เพราะพุทธต้องมีองค์ประกอบของวัตถุธรรมมาทำงานสร้างสรรค์เพื่อสังคม สืบสานให้เป็นประโยชน์สูงประหยัดสุด มีต่อไปด้วย จึงเป็นเรื่องที่ยากที่จะแยก วิจัยถึงความแตกต่างกันอันละเอียดลึกซึ้งพวกนี้ออก
สรุปแล้วเป็นอย่างไรจิตวิญญาณที่เป็นประธานของมนุษย์นี่ สูงส่งเป็นถึงขั้นอาริยระดับต่างๆ โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ 4 ขั้นหลักของพระพุทธเจ้านี่แหละยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว เพราะฉะนั้นพวกเรานี่แหละจะเป็นมนุษยชาติในยุคสุดท้ายนี่แหละ สุดท้ายของ ภัทรกัป ของพระสมณโคดม ศาสนาอีก 2000 กว่าปีเขาจะสิ้นสุด แล้วก็จะกลายเป็นเรื่องรุนแรง โลกจะร้างจะหยุดไปอีกพักใหญ่ ก็จะมีแต่พวกไม่ดีไม่งามเข้ามาพวกคนที่ดีก็จะอยู่ยาก ส่วนคนที่ไม่ดีก็จะเป็นวิบาก จะมีการล้างโลก ทำลายเป็นไฟประลัยกัลป์ พวกเราก็ไม่ต้องไปอยู่กับคนพวกนี้เขามันเป็นความทุกข์เดือดร้อนวุ่นวาย เขาก็จะเจอกัน แต่เราก็ไปของเราตามวิบาก
พวกเราเป็นมนุษย์เกิดมามีอัตภาพ จำเป็นจะต้องศึกษา ถ้าไม่ศึกษาเราจะวนเวียนอยู่ในโลกนี้ ตกนรกและก็ลงสวรรค์ ตกนรก หยาบ ต่ำ ทรมานทรกรรมหนักหนาสาหัส โดยที่เราห้ามตัวเราไม่ให้ตกมันห้ามไม่ได้ กรรมมันจะเป็นเรื่องจริงที่เราจะต้องไปตามกรรม กัมมุนาวัตตตีโลโก กรรมจะต้องไปตามที่ได้ทำจริงตามนั้น อย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นทุกคนที่มานี่ ก็ล้วนแล้วแต่เข้าใจ รู้จักครูหนูมากันไม่ใช่น้อย อยู่ถึงกรุงเทพฯได้ที่กรุงเทพอุตส่าห์หอบหิ้วมาที่นี่ ทางไปตั้ง 600-700 กิโลเมตรแล้วก็มาเผากันที่นี่ ก็แสดงถึงว่าจะต้องอยู่รวมกับหมู่ใหญ่ เพราะว่าที่นี่บ้านเราจะเป็นหลักใหญ่ในอนาคตสำหรับอาริยบุคคล แบบนี้โลกุตระนี้ มันจะต้องเป็นจุดอย่างนึงสำคัญต่อไป นี่ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็น เอาล่ะ สำหรับวันนี้ก็ได้เวลาที่เราจะได้ ฌาปนกิจหรือสลายร่างของครูหนูให้สิ้นไปซะ ให้จบกิจในเรื่องของการมีชีวิตยังเหลือเศษของร่างเราก็จะต้องจัดการด้วยวิธีการของพระพุทธเจ้าคือเผาเสียให้เร็วที่สุด