มี.ค.312019ศาสนา620331_วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ประชาธิปไตยไทยนี้แบบพุทธ อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/15G5w-Dr01YfXWfrf8i_YE-r2yYQAF87XIJ9VqAsmHg0/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1CPUZgKN3iyciWPkYoaq6xPjQuKWj3nFX สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก สมณะฟ้าไทเกริ่นกล่าว พ่อครูว่า…SMS วันที่ 29 มีนาคม 2562 (พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครู) _7012กราบนมัสการพ่อครูครับ ผมฟังพ่อครูรู้สึกว่า…ใช่ และมีความอิ่มเอิบเจริญจิตใจดีมากครับ กราบขอบพระคุณอย่างสูงยิ่งขอรับ พ่อครูว่า…จากคุณบ้านเล็ก เมืองน้อย… กราบนมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพอย่างสูง เนื้อหา ต้องสำคัญกว่า วาทะ (ที่ไม่ตรงกับ) กรรม สืบทอด แปลว่า การคงไว้ซึ่งลักษณะให้ต่อเนื่อง จะใช้พยัญชนะว่า copy ความดี หรือ สืบสาน ความชั่ว ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเนื้อหา ที่เป็นสิ่งสำคัญสูงสุดไปได้…. ถ้าดี..ก็ควรจะอนุรักษ์สืบต่อ ดังการสืบสันติวงศ์…. แต่หากสืบทอดธุรกิจชั่วๆ..ก็ควรทำลายทิ้งอย่างเช่น ทายาทอสูร ประเด็นอยู่ที่ผู้ปกครองทรราช เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ซึ่งพิสูจน์แล้วว่า “ชั่ว” ต้นตอแห่งความวุ่นวาย แบ่งแยกฝักฝ่าย สร้างความสับสนจนเป็น chaos ที่ในหลวง ร.9 ต้องเอื้อนพระโอษฐ์ว่าเป็นวิกฤตที่สุด…. แต่ความ ดื้อ-ด้าน ดันทุรัง ที่แพ้ไม่เป็น และโกงกินสมบัติชาติไปมหาศาล เป็นทุนในการแย่งชิงอำนาจรัฐ ด้วยวิธีใช้ร่างทรง สืบทอดอำนาจ โดยส่งสมุน เครือญาติพี่น้อง ผลัดกันเข้ามา สืบทอดนโยบาย ที่เป็นภัย ต่อประเทศชาติ ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อสถาบันกษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักสูงสุด พ่อครูแทรกว่า…ทำไมนะคนเราทั่วไปสามัญสำนึกของคนทั่วๆไป เห็นชั่วขนาดนี้ ยังงมงายอยู่ได้ เป็นตัวแทนเขาตากหน้ามาตะโกนโหวกเหวก ไม่อายที่ไปส่งเสริมคนชั่วไปยกยอปอปั้นคนชั่วมาเป็นคนดี ปั้นอย่างไรมันจะเป็นคนดีด้วยภาษา มันจะเกิดได้อย่างไร นอกจากใจคุณโง่ดักดาน จนไม่รู้ว่าชั่วคือชั่วดีคือดี สามัญสำนึกคนธรรมดามันเห็นได้ชัด อย่างโจ่งแจ้ง ทั้งหนาทั้งหนักทั้งมืดดำเป็นก้อนทึบที่ชนตา จนขนาดนี้ยังไม่รู้ไม่เห็นยังมองไม่ออก ทำไมมันถึงโง่ดักดานได้ขนาดนี้ อาตมานึกไม่ออกว่าคนเหล่านี้เป็นคนหรือไม่ใช่คน เอาร่างคนมาใช้ เสียคนเขาหมด น่าเสียดาย เสียดายร่างแต่จิตวิญญาณไม่ใช่คน …ต่อ…หลังจากการเปิดเผยข้อมูลจากสื่อ ที่ยังพอจะหายใจได้ด้วยจมูกตนเอง อย่างรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ได้นำไปสู่การรวมตัวกันที่สวนลุมฯ และตามมาด้วยการชุมนุมที่พระบรมรูปทรงม้าเป็นที่แรก เกิดการรวมตัวกันของประชาชนผู้ตื่นรู้ ที่มาจากแนวร่วมภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ สหภาพแรงงาน การไฟฟ้า การรถไฟ องค์กรอิสระต่างๆ และกองทัพธรรม (ตัวยืนขาประจำ) รวมเป็น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และมาเป็น กปปส. ในที่สุด จากสนามหลวงที่กว้างใหญ่ เริ่มคับแคบ ท้องถนนย่านศูนย์กลางบริหารประเทศไม่อาจรองรับมวลชน ทั้งทำเนียบรัฐบาล หน่วยงานราชการหลายแห่ง ยันสนามบิน จำต้องปิดลงชั่วคราวโดยปริยาย ในที่สุดคลื่นของมวลมหาประชาชนก็โถมทับถนนราชดำเนินทั้งสาย จนแทบจะไม่มีที่พอให้ยืน แต่การชุมนุมกลับเป็นไปโดยสันติ ปราศจากความรุนแรง ผู้ออกมาร่วมชุมนุมมีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และของโลก…………………นี่คือประชาธิปไตยของจริง เป็นการแสดงตัว 1 สิทธิ์ 1 เสียง ที่ทำให้การเลือกตั้ง เป็นเพียงการเล่นขายของ ประชาชนผู้ตื่นรู้ เป็นรากฐานและสาระสำคัญของระบอบประชาธิปไตย…. เมื่อประชาชนเรือนล้าน ลุกขึ้นทวงคืนอำนาจรัฐอย่างอหิงสา นั่นคือประชาชนทำรัฐประหารโดยสันติวิธี แม้จะถูกรัฐบาลทรราชใช้กำลังทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมแต่เพียงฝ่ายเดียว ประชาชนก็ไม่ใช้กำลังตอบโต้ กลับใช้ความสงบสยบความรุนแรง (ต้นแบบการประท้วงแนวใหม่ของโลก) แต่ด้วยแบบฉบับอันดื้อด้าน ที่เกิดจากการเอาเปรียบจนเคยชิน ของทุนนิยมสามานย์ ทำให้ทรราชยังคงไม่ยอมออกจากอำนาจ จนใกล้เป็น failed state ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปไม่ได้….. พระสยามเทวาธิราช (ในเชิงรูปธรรม) อันประกอบด้วย สถาบันกษัตริย์ สถาบันตุลาการ และสถาบันที่เป็นตัวแทนอำนาจของกษัตริย์ และของชาติ คือ ทหาร ต่างก็ take action…..ลุงตู่จึงเข้ามาช่วยประชาชน โดยผลักดันทรราชออกไป ประชาชนจึงยินดี ยกหน้าที่รักษาการ และไว้เนื้อเชื่อใจให้ลุงตู่บริหารประเทศ ซึ่งลุงตู่และคณะก็ทำหน้าที่อภิบาลได้อย่างดี ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีวี่แววของความเป็นเผด็จการแบบพวกทรราชให้เห็น ลุงตู่และคณะควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสงบเรียบร้อย คืนความสุขให้ประชาชนได้จริง นานาอารยประเทศให้การยอมรับ แถมยังรักษาสัจจะ โดยจัดการเลือกตั้งที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปนี้ได้อย่างน่าชื่นชม….ประชาชนส่วนใหญ่จึงอยากให้ลุงตู่อยู่ต่อ นี่คือความยินยอมพร้อมใจของประชาชน ที่ยอมรับ และยกให้เป็นผู้ปกครอง อย่างชอบ..โดยธรรม พอกลับเข้าสู่วังวนเดิม นักเลือกตั้งก็ฉุดลากประเทศเข้าสู่กลเกมที่ตนเองถนัด ทั้งลด แลก แจก แถม ถึงขั้นขายตัวเปลี่ยนชื่อตามนักโทษหนีคดี…. discredit ฝ่ายตรงข้าม ทำให้ความหมายของ “ประชาธิปไตย” กับ “เผด็จการ” ต้องสลับกัน…. หลังประกาศผลการนับคะแนน เกมส์ต่อรองผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก็เริ่มขึ้น ทั้งข่มขู่ ปลุกปั่นหาแนวร่วม ออกแบบวาทกรรม “สืบทอดอำนาจ” ให้ผู้คนสับสน จนลืมนึกถึงการสืบทอดอำนาจ “ชั่ว” ในอดีต…..แท้ที่จริงมันคือ วาทกรรมอำพราง “อิเหนาเป็นเอง” (กลบเกลื่อนพฤติกรรมชั่วของตน ด้วยวิธียัดเยียดใส่ฝ่ายตรงข้าม)…. หลอกปั่นหัวพวกขี้หลงขี้ลืมที่ตามไม่ทัน – แต่เอามันส์เข้าว่าเพียงอย่างเดียว!…. (ได้คะแนนไปก็ไม่น้อย!!!)…. อนาคตใหม่ของชาติ คงมืดมนไปด้วยอัตตวาทุปาทาน ถ้าสืบทอดเพียง “พยัญชนะ” ไม่สน “สภาวะ” มีแต่แม่ กำพร้าพ่อ เลยไม่มีปัญญาจึงถูกหลอกเอา บรรยากาศ “มาคุ” หวนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง ความสงบสันติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หายไปในพริบตา สติเท่านั้นพี่น้อง สติเป็นอธิปไตย จึงจะแยกแยะได้ นึกทบทวนเรียบเรียงดูให้ดีๆ…. ผิดถูกชั่วดี ศาลยุติธรรมตัดสินให้เห็นเป็นที่ประจักษ์….แม้ในหลวง ร.10 ท่านยังทรงยกพระบรมราโชวาทในหลวง ร.9 มาเตือนสติ “ให้คนดีได้ปกครอง อย่าให้คนไม่ดีมีอำนาจ” อย่าปล่อยให้สังขารปราศจากศีล……. อย่าให้อวิชชาบดบังสัมปชัญญะจนยึดมั่นในความเห็นผิด…. อย่าให้ข้ออ้างอยู่เหนือเหตุผล…. อย่าปล่อยให้ความช่วยเหลือเพียงแค่วาจา กลบเกลื่อนเจตนาร้ายที่จ้องจะเอาเปรียบ……. มนสิการให้เห็น โจรชั่ว ที่สวมชุดอาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัย…….รู้ให้ถึงแดนเกิดว่า ทุนสามานย์ อยากเป็นเจ้าเสียเอง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทหาร คือการลิดรอนอำนาจกษัตริย์ ลูกหลานไทยต้องไม่มีอนาคตใหม่เช่นนี้…. ไม่จาบจ้วง ลบหลู่สถาบันกษัตริย์อย่างเด็ดขาด ผู้เป็นประชาธิปไตยจะรักความเป็นธรรม มีอิสรเสรีภาพ มีปัญญารอบรู้ ไม่ถูกจูงจมูก และ ไม่อคติไปกับวาทะที่ไม่ตรงกับกรรม มาต่อที่คอลัมน์ คนปลายซอย ของเปลว สีเงิน เรื่อง “ว่าด้วยนายกฯ ขั้วเพื่อไทย” 29 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น. “หน้าแล้ง” น้ำแห้งแหงแก๋ แต่ “นายกฯ” กลับบอก…… “วันนี้ ยังมีคลื่นใต้น้ำที่นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อบ้านเมือง ซึ่งอาจเกิดจากความไม่รู้หรือไม่เจตนา”! “คลื่นใต้น้ำ” หน้าแล้ง…อืมมมม น่าคิด แต่มาก็เจอ “ตอ” ซีครับ ตอใหญ่ด้วย และหลายตอ ทั้งตอบก ตอเรือ ตออากาศ! คิดอีกที ก็ดีนะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ คือสงกรานต์แต่ละปี ได้เล่นแค่สาดน้ำ ถ้าปีนี้ มี “คลื่นใต้น้ำ” ให้เล่นแทนปืนฉีดน้ำ มันก็จะ “ลำขนาด”! เอ้า…มาคุยเรื่อง “เลือกตั้ง” ดีกว่า เมื่อวาน (28 มี.ค.) กกต.ประกาศ “ผลคะแนน” ครบ 100% แล้ว สรุปว่างี้ ทั้งหมด 81 พรรค คะแนนรวมทั้งหมด 35,532,647 คะแนน ผู้ออกมาใช้สิทธิ์ 38,268,375 คน คิดเป็น 74.69% เฉพาะพรรคที่ได้คะแนนระดับแสนถึงล้านคะแนน มีดังนี้ พรรคพลังประชารัฐ 8,433,137 คะแนน พรรคเพื่อไทย 7,920,630 คะแนน พรรคอนาคตใหม่ 6,265,950 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ 3,947,726 คะแนน พรรคภูมิใจไทย 3,732,883 คะแนน พรรคเสรีรวมไทย 826,530 คะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา 782,031 คะแนน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 485,664 คะแนน พรรคประชาชาติ 485,436 คะแนน พรรคเพื่อชาติ 419,393 คะแนน พรรครวมพลังชาติไทย 416,324 คะแนน พรรคชาติพัฒนา 252,044 คะแนน พรรคพลังท้องถิ่นไทย 213,129 คะแนน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 136,597 คะแนน เท่านี้พอ…….. ลอกตัวเลขเขามา “ตาลาย” รายละเอียดทั้งหมด ไปหาดูตามเว็บเอาเอง สรุปว่า คนต้องการให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ พลังประชารัฐจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ด้วยคะแนนนิยม “มากที่สุด” คือกว่า 8 ล้าน พรรคเพื่อไทย เป็นอันดับสอง ด้วยคะแนนนิยมกว่า 7 ล้าน แต่ถ้าดูจำนวน ส.ส.เพื่อไทย อันดับ 1 พลังประชารัฐ อันดับ 2 แล้วใคร..ฝ่ายเผาเมือง หรือ ฝ่ายกู้เมือง จะได้ตั้งรัฐบาล อย่าเพิ่งถาม ตอบน่ะ ตอบได้ แต่ใช่หรือไม่..ไม่รู้! เพราะตัวเลขสูสี-ก้ำกึ่งกันมาก อยู่ที่ฝีมือว่าฝ่ายไหนจะรวมพวก-รวมเสียงได้มากกว่า แต่อะไรก็ช่าง…… ตั้งรัฐบาลไม่สำคัญเท่า “ด่านแรก” 500 ส.ส.+ 250 ส.ว.จะโหวตให้ใครเป็นนายกฯ ด้วยเสียงสองสภารวมกัน 376 เสียงขึ้นไป “เป็นอันดับแรก” ก่อน ฉะนั้น ตอนนี้ ไม่ต้องไปสนว่าใครจะชิงใครจัดตั้งรัฐบาล รอหลังวันที่ 9 พฤษภา.ที่ กกต.ประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ทั้งหมด “เป็นทางการ” แล้วนั่นแหละ เปิดประชุมสภา ได้ตัวประธานทั้ง 2 สภา นัดประชุมโหวตเลือกนายกฯ วันไหน ค่อยลุ้นตอนนั้น นั่นแหละ “สิ่งที่เป็นจริง” ตามรัฐธรรมนูญ! ที่พูดกันไปมาตอนนี้ เป็นเรื่องของคนท้องอืด-ท้องเฟ้อ ปล่อยให้เขาว่ากันไป แต่ที่แน่ๆ รัฐบาลใหม่ จะตั้งได้-ไม่ได้, ตั้งช้า-ตั้งเร็ว ไม่เป็นปัญหา ตั้งได้ รัฐบาลใหม่มาแตะมือรัฐบาล คสช.ปุ๊บ ก็เข้าบริหารต่อปั๊บเลย ถ้าตั้งไม่ได้ หรือตั้งช้า ก็ “อย่าห่วง” รัฐบาล คสช.โดยพลเอกประยุทธ์ บริหารราชการงานเมืองต่อไปเรื่อยๆ ด้วย “อำนาจเต็ม” ตามปกติ! เข้าใจตามนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องเครียด ดังนั้น วันนี้ มาคุยอะไรสนุกๆ กันดีกว่า คือมาคุยเรื่อง “ตัวนายกฯ” ว่าใคร อยู่ในแถวจะได้รับการเสนอชื่อ และมีโอกาสได้เป็นนายกฯ กันบ้าง? ในฝ่ายพลังประชารัฐ ไม่มีปัญหา มี “พลเอกประยุทธ์” คนเดียวเท่านั้น ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาเลือก ถ้าผิดจาก “พลเอกประยุทธ์” ก็หมายความว่า “รัฐบาลใหม่” ไม่ใช่ “รัฐบาลพลังประชารัฐ” ที่น่าลุ้นจนวินาทีสุดท้าย อยู่ที่ฝ่าย “เพื่อไทย” นั่นแหละ! นาทีนี้ ในความทึกทักเอาว่า ฝ่ายตนเป็นเสียงข้างมากด้วย 255 ขึ้น นายธนาธร “อนาคตใหม่” กล่าวนำไว้แล้วว่า เสนอ “คุณหญิงสุดารัตน์” เป็นนายกฯ เป็นการกล่าวนำที่ตัวเองก็ยอมรับกับสื่อว่า ทางเพื่อไทยก็มอบตำแหน่งนายกฯ ให้เหมือนกัน แลกกับการเข้ามารวมขั้ว ในความเป็นจริง ขั้วเพื่อไทยก็รู้ตัว “เสียงร่องแร่ง” อีก 6 เสียงที่นำมาตีขลุมเป็นเสียงข้างมาก คือจากพรรค “เศรษฐกิจใหม่” ของคุณมิ่งขวัญ นั่น เขามาจริงหรือไม่ กระทั่งเจ้าตัวเอง คือคุณมิ่งขวัญ เขาก็ยังตอบตัวเองไม่ได้ตอนนี้! ทีท่าที่ชัดเจน…….. เพื่อไทย ต้องการ “พรรคภูมิใจไทย” ของคุณอนุทิน กับพรรค “เศรษฐกิจใหม่ของคุณมิ่งขวัญ จนตัวสั่นริกๆ ถ้าได้ 2 พรรคนี้มาร่วม จะเป็นทั้งปิดสวิตช์ 250 ส.ว. ทั้งปิดประตูตาย พลังประชารัฐหมดสิทธิ์ตั้งรัฐบาล ยกเว้นเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ประเด็นนี้ ถือเป็น “ไพ่โจ๊ก” ของพลังประชารัฐ จั่วน็อกมืดตลอดเกม! ตัดประเด็นนี้ไป ด้วยคำที่ว่า “แพ้ไม่ได้” ของนายใหญ่ มีความเป็นไปได้ ที่ฝ่ายเผาเมือง ซึ่งต้องการอำนาจสู่ความเป็นรัฐบาล จะเสนอ “เก้าอี้นายกฯ” ให้ภูมิใจไทย แลกกับการเข้ามาร่วมเป็นขั้วเดียวกัน สรุป ตอนนี้ ฝ่ายเผาเมือง มีนายกฯ “ตัวเลือก” 3 ตัวแล้ว คือ สุดารัตน์, ธนาธร และอนุทิน แต่ผม “ฟันธง” เลย ภูมิใจไทยไม่เป็น “ปลาติดเบ็ด” เพื่อไทย ล้านเปอร์เซ็นต์! ดังนั้น เหลืออีกทาง ที่จะชิงเป็น “เสียงข้างมาก” ได้ คือ ต้องพยายามดึง “คุณมิ่งขวัญ” มาให้ได้ ตรงนี้ไง ที่ผมว่า คุณมิ่งขวัญ “เซียนเหนือเซียน”! ไพ่คู่ 6 …… แต่ไพ่สเตรทฟลัช ต้องยอมหมอบ ชนิดกระดิกหางกระดื๊บๆ เข้ามาเลียมือ-เลียเท้า ไม่เสียราคานักวางแผนการตลาดและวางกลยุทธ์ชิงความเป็นเลิศทางสินค้าระดับเวิลด์คลาส เมื่อวาน เขาลงสัตยาบัน 7 พรรคกัน แต่คุณมิ่งขวัญไม่ปรากฏตัว เหลือ 6 พรรคล่อกแล่ก ทำเอางานเปิดตัวว่าที่รัฐบาล กลายเป็นงานศพเศร้าซึ้งๆ กลายๆ ตกค่ำ คุณมิ่งขวัญแถลง นักข่าวรุมซัก-รุมขยี้ ปรากฏว่า คำพูด “คำเดียวกัน” ของมิ่งขวัญ แต่สารพัดสื่อ พาดหัวไปคนละทิศ-ละทาง! สำนักหนึ่ง บอกร่วมพลังประชารัฐ อีกสำนักบอก ร่วมเพื่อไทย คุณมิ่งขวัญใช้ “ภาษาไทย” แท้ๆ แต่นักข่าว “หัวทิ่ม-หัวตำ” คุณมิ่งขวัญพูดไม่รู้เรื่อง หรือนักข่าวไม่รู้เรื่อง น่าจะทำโพลดูนะ แต่ก็นี่แหละคือ “โคตรเซียน”! ถ้าให้ฟันธงว่า ตกลงคุณมิ่งขวัญจะไปร่วมซีกเพื่อไทยมั้ย? ฉับเดียว “ขาด” เลย! ซีกเพื่อไทยอยากได้ใช่มั้ย ถ้าผมเป็นมิ่งขวัญนะ โอเค….งั้น ขอให้ผมเป็น “นายกรัฐมนตรี” ไพ่ 6 แต้ม เขาต้องเล่นอย่างนี้ ผิดจากนี้ ไม่ใช่โคตรเซียนระดับมิ่งขวัญ แค่เก้าอี้รัฐมนตรี..กระจอก! เพื่อไทยเอามั้ยล่ะ ฉะนั้น ตอนนี้ คนที่จะเป็นนายกฯ ซีกเพื่อไทย นอกจากสุดารัตน์,ธนาธรแล้ว ยังมี “มิ่งขวัญ” ไพ่คู่ 6 อีกหนึ่งคน! คุณมิ่งขวัญรู้ธรรมชาติพรรคเพื่อไทยดี “จำฝังใจ” อยู่แล้ว แค่เก้าอี้รัฐมนตรี สำหรับมิ่งขวัญ ที่ไหนก็ได้……. จำเป็นไร ต้องมาเจ็บใจ ให้เขาหลอกเป็นครั้งที่ 2 ที่ 3! ผมจึงว่าสนุก เพื่อไทยเอาสถานะ “เสียงข้างมาก” แลกกับ “เก้าอี้นายกฯ” ให้คุณมิ่งขวัญ คุ้มนะ คุ้มยิ่งกว่าจองแฟลตปลาทองซะอีก! ด้วยทั้งหลาย-ทั้งปวง ผมจึงว่า …….. ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องห่วง เรื่องตั้งรัฐบาล เรื่องใครจะมาเป็นเจ้าเข้าครองประเทศ รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่า “กี่เดือน-กี่ปี” จะต้องตั้งรัฐบาลให้เสร็จ ฉะนั้น ให้เขาหาพวกและเจรจาตกลงกันไปตามใจชอบ ดูอย่างเยอรมันซิ….. เลือกตั้ง ตั้งแต่เดือนกันยา.60 “นางแมร์เคิล” เป็นพรรคเสียงข้างมาก แต่ชนะไม่ขาด ต่อรองทั้งพรรคร่วมเก่า ทั้งฝ่ายค้าน ก็ไม่ลงตัว จวนเจียนจะต้องจัดเลือกตั้งใหม่ จน 5 เดือนกว่า จากปี 60 ลากไปถึงต้นปี 61 ถึงจะลงตัว “ตั้งรัฐบาล” ได้สำเร็จ! สรุป (อีกที)……… ได้รัฐบาลใหม่ก็ช่าง ยังไม่ได้ก็ช่าง ยังไงก็มี “รัฐบาล คสช.” ทำงานต่อไปได้เรื่อยๆ อยู่แล้ว ลุ้น “คุณมิ่งขวัญ” สนุกกว่า ว่า 6 เสียง ขั้วเพื่อไทย 249 เสียง จะยอมยกให้ “มิ่งขวัญ” เป็นนายกฯ มั้ย?. พ่อครูว่า…การเมืองก็สนุกอย่างหนึ่งธรรมะก็สนุกอย่างหนึ่ง ธรรมะตอนนี้ไปไกลมากเลย จนกระทั่งอาตมาสงสารคนที่เขาตามไม่ติด พวกเราไปโลกุตระ พวกส่วนใหญ่ของศาสนาพุทธยังงงอยู่กับเดรัจฉานไสยศาสตร์วิธีการจารีตเท่านั้นเอง ศาสนาพุทธสวดมนต์เป็นหลัก ถ้าไม่มีสวดมนต์อย่างเดียวศาสนาพุทธไม่เหลืออะไรเลย คุณได้นิมนต์พระไปที่บ้านเป็นสิริมงคล จะถวายภัตตาหาร แล้วพระจะทำอะไร ก็สวดมนต์ ไม่อย่างนั้นไม่มีอะไรเลย ไม่เหลืออะไรจริงๆหมดเนื้อหมดตัวเลยศาสนาพุทธ อาตมาเห็นแล้วน่าสังเวชจริง ถึงงานรัฐพิธีก็มีแต่สวดมนต์ มันไม่เหลืออะไรจริงๆ ไม่มีน้ำยาอะไรไม่มีประโยชน์อะไรแก่สังคมประเทศชาติ ขออภัยพูดเหมือนข่มแต่พูด phenomenon ปรากฏการณ์จริง status quo ณ บัดนาว ณ บัดนี้ มันน่าสงสารประเทศชาติ ยังไม่ได้อ่านกวี ตอนนี้ให้นามสกุลของคุณนิวัช ตันติวัฒนไพศาลใหม่ว่า พงษ์พึ่งพุทธ ประชาธิปไตยไทยนี้แบบพุทธ (1) รากไทยมีพุทธแท้ โลกุตระ ก่อเกิดจิตอาริยะ ชาติเชื้อ ศิวิไลซ์ใช่จริงจะ แค่พูด กันฮา ต้องลึกถึงแก่นเนื้อ เลือดแท้วิญญาณ (2) กาลเกิดไทยอุบัติพร้อม ธรรมพุทธ คุ้มชาติไป่เคยหยุด วรรคเว้น วิบากคั่นแค่สะดุด ทรุดนิด มีแล แต่ก็เพียงขับเน้น สัจจไซร้ไตรลักษณ์ (3) ประจักษ์มาตลอดแล้ว เป็นไทย ยืนหยัด“อิสระ”ใน โลกนี้ สุข“สงบสยบร้าย”ไชย ชนะอัศ- จรรย์เฮย จารหลักรัฐศาสตร์ชี้ ประวัติให้้ศึกษา (4) ประชาธิปเตยยะแท้ คือไฉน แค่“เลือกตั้ง”เอาไป อวดอ้าง หรือเนื้อแห่ง“อธิปไตย” แท้อยู่ ไหนเวย คือ“ประชาปฏิวัติ”สร้าง แบบไว้ สืบสาน (5) “รัฐประหาร”ไทยที่แท้ ใครทำ คือ“ประชา”ร่วมกันกำ- จัดไซร้ ใช่กองทัพทหารดำ- เนินกิจ นี้เลย “สงบสยบรัฐบาล”ได้ ยอดแล้วปาฏิหาริย์ (6) ทหารสานต่อรับ“ไม้- ผลัด”พลัน รับช่วง“สืบทอด”กัน ถูกต้อง “ประชาธิปไตย”สรรค์ ใช่จาก ทหารเลย ชี้“อธิปไตยไทย”พร้อง โลกให้เรียนตาม (7) นามธรรมพร้อมรูปล้วน สวยสด ปฏิวัติงามหมดจด พฤตินี้ ไทย“ทำ”ถูกตามกฏ- หมายโลก เลยเฮย “อำนาจประชาชน”ชี้ แบบแท้ไทยไทย “สไมย์ จำปาแพง” 30 มี.ค. 2562 [นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ 346 ประจำเดือนพฤษภาคม 2562] พ่อครูว่า…ไทยเราตั้งแต่ตั้งประเทศมาก็มีความศิวิไลซ์แบบพุทธมาแล้ว คำว่าพอได้พอเหมาะพอควรคือความลงตัว ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่ลงตัวดีที่สุด ultimate absolute ทั้งสัมบูรณ์ ทั้งเลิศยอด สุดยอดครบถ้วน บริบูรณ์ คือคนมองไปในแบบสุดโต่ง ฟุ้งซ่าน สร้างวิมานไว้สวย ความจริงแล้วคนมีองค์ประกอบเหตุปัจจัย เขาใช้คำว่า โลกสวย ที่จริงเป็นวิมานสวย ต้องการให้สังคมโลกมนุษย์ต้องเป็นแบบนี้ แต่มันเป็นไปไม่ได้มันเป็นวิมานฝันของคุณเท่านั้นเอง เช่นมีฝ่ายค้านฝ่ายเสนอ มันมีอยู่จริงไม่ต้องเป็นรัฐบาล มนุษย์มันก็มีการค้าน การยึด เริ่มมีตั้งแต่ 2 คนก็มีการค้านแล้ว เทฺว เป็นสภาพธรรมะ 2 ที่มีวัตถุกับจิต เกิดมาคู่กันมันต้องมี 2 เพราะฉะนั้นคนเข้าใจ 2 ไม่ได้ แล้วก็แยกแยะตีแตก 2 ไม่ได้ เช่นที่เป็นอยู่ขณะนี้ พวกเทวนิยม สัตว์ในประเทศในสังคมใดก็แล้วแต่นับถือศาสนาเทวนิยม เป็นศาสนาที่เข้าใจคู่ สภาพ 2 นามกับรูป เข้าใจไม่ได้ ตีไม่แตก เขาก็เลยยึดได้แค่ 2 เป็น 1 แล้ว 2 ที่เป็น 1 แยกไว้ชัดว่าเมื่อใดเป็นบวกหรือเป็นลบเป็นสีดำหรือสีขาว เมื่อใดที่จะต้องใช้สีขาวหรือสีดำก็ต้องใช้ให้ถูก แล้วโลกมันต้องมีดำกับขาว เพราะฉะนั้นคุณเข้าใจหมุนสมองไม่ทันสมัยคุณก็ไม่มี มุทุภูตธาตุ สมัยนี้ไวยิ่งกว่าแสง แต่จิตมนุษย์เดินทางเร็วกว่าแสงเท่าไหร่ แล้วสลับกลับไปมาทุกกาละปัจจุบัน มันเปลี่ยนเร็วยิ่งกว่า ใครที่หมุนสมองไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงก็ตกยุคทันที แล้วเราก็ไม่ต้องไปตกอยู่กับโลกบ้าๆ อโศกเรียบร้อยไม่ไปติดยึดขั้วเทวะ ตีเทวะแตกไม่มีขั้วบวกลบ มีแต่กลางๆ นิวตรอนเต็มที่สบาย สมด.ปกต.หห นี่คือการบริหารปกครองให้มนุษย์มีความรู้ความจริงความรู้สึกเวทนาแล้วก็อยู่กับเวทนาอุเบกขาเวทนา ที่เป็นเนกขัมมสิตอุเบกขาเวทนา ได้ศึกษามาใช้ละกิเลสจากจิต สำเร็จ คุณไม่ได้ทุกข์ร้อนเรื่องเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์การเมืองสังคม คุณอยู่กับอโศก อยู่ยิ่งกว่าสรวงสวรรค์ อาตมาไม่ได้พูดหลอกพูดเล่น ไม่ได้หลงตนเอง แต่พูดให้ชาวโลก มนุษยชาติฟัง ว่าอาตมาเอาทฤษฎีความรู้พุทธเจ้า มาให้คนศึกษาแล้วเรียนรู้เข้าใจจนปฏิบัติเกิดผลสำเร็จมรรคผลกันจริงๆ เป็นของยืนยันในโลกมีอันนี้ให้รู้เอหิปัสสิโก เชิญมาชมมาดูเอาได้ เป็นมนุษย์ตัวอย่างสังคมตัวอย่าง แล้วก็มีความสุขตัวอย่าง เอาศัพท์คำว่าสุขมาขอเรียกเท่านั้น ปรมังสุขัง ที่จริงเป็นนิพพาน ยิ่งกว่าสุข มันเหนือกว่าคู่เหนือกว่าสุขทุกข์ จึงเรียกว่านิพพาน นิพพานเป็นอย่างไร เป็นอย่างนี้ เอาค่ารวมนะ พวกเราก็จะมีตกหล่นยังไม่หมดทีเดียว ยุคนี้เป็นยุคคนฉลาดแต่ไปถูกอำนาจโลกียะทุนสามานย์ครอบงำ ยิ่งมืดยิ่งกว่าหลุมดำเบอร์มิวด้า เลยหลุดไปในหลุมดำนี้หายไปเลยนะ คนเราไม่สุขไม่ทุกข์อย่างนี้ไม่มีปัญหาเลย มีความสันโดษอยู่ในสังคม ช่วยสังคมด้วย ส่วนตัวเองนั้นไม่มีปัญหา มีแต่ปัญญา สบายมาก มีกินแค่นี้พอ โดยคนนี้ไม่เอา เราเรียกตัวเองว่าคนจน ไปเทียบกับคนที่มีจิตไม่พอ คนที่ไม่มีเงิน เขาก็อยากรวยกว่าเราอีก พวกที่จนกว่าชาวอโศกไม่มีเงินเท่าชาวอโศก แต่ละบุคคลนะ โดยค่ารวมนะ ชาวอโศกจนกว่าพวกที่อื่่น อาตมาเคยพูดบ่อย ไปสุ่มเอาคนจากชุมชนไหน 100 คน สองกลุ่มนี้กับชาวอโศก 100 คน ให้เอาทรัพย์สินในตัวมาดูว่าใครจะมีมากกว่ากัน ของเขาคนจนของเขายังจะมีมากกว่าคนอโศกที่รวยเลย ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นโพธิสัตว์ ท่านรู้เรื่องนี้ดีและบริหารมาอย่างยากมาก ท่านใช้ตัวเองประพฤติให้ดูเป็นรูปธรรม ท่านว่าให้บริหารประเทศแบบคนจน นักบริหารก็น่าจะพูดให้ประชาชนเข้าใจว่าความจนไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจไม่ใช่เรื่องตกต่ำไม่ใช่เรื่องเสียหาย ความจนเป็นเรื่องของคนประเสริฐเป็นเรื่องของนักเศรษฐกิจชั้น 1 ถ้าไม่ใช่นักเศรษฐกิจชั้น 1 ทำไม่ได้หรอก ขออภัยที่ต้องพูด อาตมาเป็นนักเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ชั้น 1 เอาเศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้ามาสอนพาพวกเราประพฤติตนเป็นสังคมหมู่บ้านสาธารณโภคี ดร.สมคิดจะฟังรู้เรื่องไหม ประเทศไทยตอนนี้ดร.สมคิดรับหน้าที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจ ธรรมะยังโยงใยกับการเมือง สัจธรรมที่เป็นเทวะยังยากที่จะเข้าใจ คำพูดที่ตอแหลกันคือ คำว่า สืบทอดอำนาจเผด็จการ เนื้อแท้ของประชาธิปไตย ทุกวันนี้ประเทศไทยใช้เนื้อแท้ของประชาธิปไตย แต่เขาเอง บางทีเขาไม่เข้าใจมากกว่า เขาเรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้วบอกว่าทหารเป็นฝ่ายเผด็จการ ทหารโดยเฉพาะทหารที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้มาเผด็จการ เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้ปฏิวัติรัฐบาล ประชาชนคนไทยมาปฏิวัติ ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ ประท้วงด้วยความสงบไม่มีอาวุธ เอาความจริงไปนำเสนอจนเขาพ่ายแพ้ไป ทักษิณ สมชาย สมัคร ยิ่งลักษณ์ ปฏิวัติคือการล้มหรือประหารให้ล้มลงไป ประหารรัฐบาลในขณะนั้น ที่เป็นทรราช บริหารขี้โกงคอรัปชั่น ทำให้ประเทศเดือดร้อน ความยึดมั่นถือมั่นอวิชชา อุปาทานมันเป็นกิเลสดำมืด เท่ากับภูเขาไปอยู่ในลูกตา ไม่ใช่แค่ฝุ่นนะ คำว่า สืบทอด หนึ่ง อำนาจเผด็จการอีกหนึ่ง อำนาจที่ใช้ในประเทศไทยขณะนี้เป็นอำนาจอธิปไตย ที่เป็น The Great Authority โดยประชาชนไปรัฐประหารรัฐบาล แล้วพล.อ.ที่เป็นผู้รักษาความสงบของประเทศก็มารับไม้ผลัด ต่อจากประชาชนที่รัฐประหารได้สำเร็จสวยงาม เป็นประชาธิปัตยายตนะ หรือใช้ภาษาอังกฤษว่า Democracy Corridor ถ้าจะบอกว่าสืบทอดอำนาจก็สืบทอดอำนาจจากประชาชนเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ที่สุด แต่เขาจะพูดอย่างประชดประชันว่าพลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจเผด็จการ ถ้าจะบอกว่าเผด็จการก็ประชาชนเผด็จการเพราะยึดอำนาจได้สำเร็จ และก็เป็นพฤติการณ์การบริหารประเทศก็ต้องให้มีคณะบริหาร นายกฯตู่ สมัครเป็นนายก รับช่วงจากประชาชนไปบริหาร ซึ่งมันเป็นเรื่องต่อเนื่องกัน Democracy Corridor เป็นเส้นทางที่เขาใช้ Corridor เขาแปลว่าเส้นทางสายการบิน มันไปได้ทั่วหมดไม่มีอะไรขีดคั่น ไม่มีไฟเหลืองแดงเขียวไม่มีแยกเลย ไม่มีอะไรสะดุด มันต่อเนื่องกันทุกทิศทาง ได้ ไปให้ถูกเส้นก็แล้วกัน ไม่มีอะไรที่จะงามจะสวยกว่านี้ได้แล้วในโลกมนุษย์ที่จะเป็นไป ที่จริงตัวที่จะยึดอำนาจเผด็จการคือทักษิณและคณะ เขาหลงอำนาจ แล้วตัวจอมเผด็จการตัวร้ายก็คือทักษิณ แล้วก็ผูกจูงจมูกคนโง่ เหมือนลาโง่ ขณะนี้เมืองไทยเป็นตัวอย่างของโลกในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจสังคม ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ใช้พระจริยวัตรของพระองค์ประพฤติปฏิบัติจนกระทั่ง ประชาชนคนในโลก ได้เห็น สหประชาชาติต้องเอาถ้วยรางวัลมาให้ เป็นถ้วยรางวัลเดียวในโลกที่มีขึ้นมาและยังไม่มีถ้วยที่ 2 เลย ในหลวงท่านไม่มีเวลาขยายความก็ให้ผู้น้อยมาทำงานต่อ ก็หนักแสนหนัก แต่ก็ได้ผลบ้าง อาตมาพูดไว้ นี่ อาตมาตายไปแล้วสิ่งที่ได้พูดไว้คนจะค่อยๆเก็บขึ้นมา พยากรณ์เอาไว้ ติดตามให้ดีๆ อาตมาทำงานมา 49 ปี ย่างเข้าปีที่ 50 อาตมาก็ให้คะแนนตัวเองว่าอาตมาประสพความสำเร็จ สอบได้ 100% เพราะว่าเป็นเรื่องยากแสนยาก มีคนรับรู้เข้าใจแล้วเอาไปปฏิบัติตามในชีวิตจริง ไม่ใช่ปฏิบัติเล่นชั่วครั้งคราว เอาชีวิตจริงมาทำตามนี้เลย ก็ได้ผล ทุกวันนี้ไม่เหมือนอย่างที่พวกที่ตะโกนว่า เป็นการสืบทอดอำนาจนั้นเลย จะสืบทอดอำนาจจากประชาชนนั้นใช่ แต่พวกที่ตะโกนนั้นก็ปล่อยให้เขาเห่าไป พวกเขาไม่มีอะไรทำเขายังโง่และหลงยึดมั่นถือมั่น เขาต้องประกาศตัวเองว่าข้าคือไอ้โง่ เขาก็ประกาศตัวของเขาอยู่อย่างนั้น คนที่ฟังอาตมามีแต่คนฉลาดอาตมาก็เลยปลอดภัย คนโง่เขาไม่ฟังด้วยซ้ำไป เขาตีทิ้งเลย อาจมองว่าที่พูดนี้ภาษาคนหรือเปล่า เขาพูดกันอีกอย่าง จะมาฟังอาตมาออกได้อย่างไร เผด็จการกับประชาธิปไตยแยกเป็นคู่หนึ่ง พวกเผด็จการแท้ๆแต่เขายึดถือว่าเขาเป็นพวกประชาธิปไตย แล้วเอาคำว่าเผด็จการโยนให้อีกฝั่งหนึ่ง เขามีชื่อว่าตู่นะ แต่พวกคุณขี้และไม่ตู่ด้วย อาตมาเกิดมาในยุคนี้เป็นยุคที่อาตมาอาศัยใช้ชื่อคนมาใช้ทำงาน อาตมาชื่อรัก มาทำงานจนกว่าจะครบ 8 หลัก อาตมาอยู่ปาง 7 จะทำปาง 8 ครบ 8 เมื่อไหร่ มีคำว่า พอแล้วล่ะลูก คนชื่อรัก พูด ชื่อเปรมไง ก็ 8 ปี อาตมารู้พยัญชนะชื่อมาใช้ได้พอควร แต่พระพุทธเจ้าจะใช้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งชื่อสิทธัตถะ แม่ต้องชื่อสิริมหามายา เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เป็นการพยากรณ์ที่ตรงลงตัวเป๊ะไปหมดเลยไม่มีผิดเพี้ยนหรอก อาตมามีเค้าแล้ว ใช้พอได้ มีเค้ามาตั้งครึ่งหนึ่ง คนเกิดมายุคนี้อาตมารู้ อยู่ในขบวนศาสนาของอาตมา เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือเฉพาะบุคคลเฉพาะอาตมาคนอื่นมาใช้ไม่ได้หรอก เฉพาะของส่วนตัว สำหรับอาตมาในยุคนี้ คนอื่นใช้ด้วยไม่ได้ พระพุทธเจ้าท่านรู้ เมื่ออุปติสสะ กับ โกลิตะ เดินเข้ามา ท่านก็บอกว่ามาแล้วคู่อัครสาวกเรามา ใคร? ก็โมคคัลลานะกับสารีปุต คือเป็นลูกของโมคคัลลีกับสารี มีมาแล้วก็ซับซ้อน ในอินเดียเขาเรียกลูกของแม่สารี ลูกของแม่โมคคัลลี ทุกอย่างลงตัวหมดไม่ผิดเพี้ยน ภาษาบาลี เปรม คือ รัก เป็นเลข 8 ปีของพลเอกเปรม เป็นรูปธรรมแต่ 8 ของอาตมาจะเป็นนามธรรม สรุปว่าหยุดเห่าหยุดหอนได้แล้ว เลือกตั้งก็ผ่านมา เหตุการณ์มันไม่น่าจะเกิด พวกคุณเชื่อว่า เพื่อไทยจะชนะถล่มทลาย แต่เสร็จแล้วปากกาเซียนหักหมดทุกด้าม พรรคพลังประชารัฐที่ตั้งขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นคู่แข่ง โดยตรงเลย ปราบเซียนปังเลย แต่ก็เขาเป็นรองแชมเปี้ยนที่เก่งจริงๆนะเพื่อไทย ผู้จะมาปราบก็จะต้องเก่งเหมือนกันเลย ถ้ามันคนละชั้นจะไปสู้กันได้อย่างไร สัจจะมันชัดเจนจริง จริงๆเขาเก่งในทางที่จะหาเสียงเลือกตั้ง มีกองจัดตั้ง มีประชาชนที่เป็นกลุ่มจัดตั้ง ซื้อเอาไว้เลี้ยงต้อยเอาไว้ ทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี ก็ได้ประชากรกลุ่มนี้อย่างชัดเจน ขณะที่เขามีอำนาจเต็มเขาบอกว่าเขาส่งเสาไฟฟ้าลงเลือกตั้งก็ได้ เป็นโวหารที่ดูถูกดูแคลนมนุษยชาติคนไทย ยิ่งกว่ากินแกลบ คนของพรรคเพื่อไทยที่ถูกเลือกไปเป็นเสาไฟฟ้าทั้งนั้น ไม่มีหัวสมองเลย มีแต่ผู้เผด็จการยกไปตั้งตรงนั้นตรงนี้ พวกคุณไปแล้วจริงๆแต่เขาดันทุรังอยู่ ดันสุรังเขาทำไม่เป็น ทุแปลว่าเลว สุ แปลว่าดี เขาก็ต้องดันชั่วๆไปอย่างนั้น ส.ฟ้าไท …สรุป จบ Category: ศาสนาBy Samanasandin31 มีนาคม 2019Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรมสำมะปี๋ซี่วิต Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:620329_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ประชาธิปัตยายตนะส่งไม้ต่อให้พลเอกประยุทธ์NextNext post:620401_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 46Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024