620531_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ แบบคนจนคือทางออกของ Animal Farm
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1SvozGi4vE4duXMt53EIZ74yJZra_lmgXTcTK6OFMads/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่..https://drive.google.com/a/ssv-asoka.ac.th/file/d/1FUyq7aQrAYqVC0TI_XMr6EIiHTHdjIPk/view?usp=drivesdk
สมณะฟ้าไทว่า… วันนี้วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก ตอนนี้ใกล้งานอโศกรำลึก มีนักเรียนสัมมาสิกขาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และ ปวช.2 มาเตรียมงาน เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ชาวอโศก ส่วนระดับประเทศก็กำลังใกล้จะจัดตั้งรัฐบาล เด็กนักเรียนสัมมาสิกขามีทั้งอยากและไม่อยากมาเข้าค่าย แต่คนที่จะมาเป็นรัฐบาลก็อยากกันทั้งนั้น อยากเป็นรัฐบาล รมต.ทำเพื่อใคร? แต่เด็กมาเตรียมงานเชื่อแน่ว่าทำเพื่อส่วนรวม
พ่อครูว่า…
SMS วันที่ 30 พ.ค. 2562 (พุทธศาสนาตามภูมิ สมณะ สิกขมาตุ บ้านราช)
_1614 ศีล คือกรรมกิริยา(การกระทำ) ของจิต ศีลเป็นเหตุเป็นปัจจัย มีสมาธิ,ปัญญา เป็นวิบาก(ผล) สมาธิ,ปัญญา เป็นกุศลกรรมวิบากของศีล และเป็นคุณสมบัติของจิต บุญ มีความหมายดังที่กล่าวมานี้ บุญ มิใช่สมบัติพัสถานที่จะซื้อหา หรือแลกมาด้วยปริมาณใดๆของเงิน บุญ ก็คือปัญญาที่ได้มาด้วยการปฏิบัติขันธ์ 5 ให้อยู่ในกรอบของ ศีล และ ทาน
พ่อครูว่า…สรุปอันนี้ดี บุญคืออะไร อันนี้บอกว่าบุญคือปัญญาที่ได้มาด้วยการปฏิบัติขันธ์ 5 บุญเป็นความฉลาดโลกุตระ ให้กำจัดกิเลส ฌานกับบุญต่อเนื่องกัน
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ฌานต้องมีปัญญา ฌานไม่มีปัญญาไม่ใช่ฌาน แล้วปัญญาต้องมีฌาน เพราะปัญญานี้คืออะไร ปัญญาคือความรู้ที่ต้องกำจัดกิเลส สำคัญมากเลย มันจะเป็นปัญญาหรือเป็นธาตุรู้ที่สมบูรณ์ที่บรรลุธรรมแล้ว ทำแต่ดี ปัญญา เช่นบุญกับปัญญา บุญกำจัดกิเลสได้หมดแล้วก็ไม่มีบุญมีแต่ปัญญา มีกรรมกิริยาทุกอย่างเป็นกุศลทำแต่ดี ไม่ทำชั่วอีก กิเลสหมดแล้ว
ฌานกับบุญ ถ้าฌานเปรียบประดุจกับวัตถุคน ฌานคือหวังเฉา หม่าฮั่น แต่บุญหมายถึงเครื่องประหารหัวสุนัข เครื่องประหารที่ตัดหัวคน หรือกิโยตินหัวหมาก็ได้ ฌานคือหวังเฉาหม่าฮั่นช่วยท่านเปาจับตัวกิเลสเอาเข้าเครื่องประหารเลย ยกตัวอย่างเปรียบเทียบรูปธรรมให้ชัด
ศีลเป็นเหตุเป็นปัจจัยมีสมาธิมีปัญญาเป็นวิบากใช่
ช่วยกันเพื่อทำให้เกิดจิตเจริญเป็นผล สะอาดจากกิเลส ฆ่ากิเลสออกจากจิตแล้วเป็นผลวิบากผลที่ได้ จิตที่ปราศจากกิเลสตกผลึกจนควบแน่นเป็นสมาธิ ปัญญาประกอบเป็นยาดำ ปัญญาจะแทรกรู้ละเอียดรู้ต้นกลางปลายจบ เป็นตัวแทรกรู้อย่างละเอียดละออไปด้วยเสมอ ปัญญาเป็นกุศลกรรมวิบากของศีล ปัญญาก็รู้ว่าศีลทำอะไรเกิดผลไหม ปัญญากับศีลก็ไปด้วยกัน เป็นวิบากเป็นผลของศีลก็ได้
บุญไม่ใช่สมบัติพัสถานใช่แล้ว หรือจะเอาเงินไปแลกก็ไม่ได้ ทำทานด้วยเงินสละเงินไป แต่แทนที่จะได้บุญเป็นผลของบุญ คือการกำจัดกิเลส แต่กลับยิ่งได้บาปยิ่งได้อกุศลยิ่งได้สมบัติที่เป็นนรก เพิ่มขึ้นๆ กับการทานที่โง่ อย่างทุกวันนี้สอนกันผิดเต็มสังคมศาสนาพุทธ เพราะเข้าใจคำว่าทานกับบุญไม่ได้
ให้ติดตามให้ดีแล้วค่อยๆเรียนไป อาตมาอธิบายซับซ้อน วนไม่รู้กี่วน ให้รู้ศีล สมาธิ ปัญญา
_0851กราบเรียน แอนิมอลฟาร์ม เป็นบท อะไรครับ นมัสการสะมะณะพ่อครูโพธิ์รักษ์
พ่อครูว่า…น่าจะแอนิมอลฟาร์ม…กำลังดังตอนนี้ แปลง่ายๆว่าฟาร์มของสัตว์ เลี้ยงไก่นะ แต่ทำไปทำมากลายเป็นเสือสิงห์กระทิงแรดเต็มไปหมด เดี๋ยวค่อยว่ากัน
_2166ท่านถักครับยังชอบกินไอติ๋มอยู่เป่า!!!??
พ่อครูว่า…ให้ท่านตอบ
_รักธรรม สรหงษ์ · อยากได้มากเลยค่ะ ทองอุไร เดี๋ยวจะไปหามาปลูกหน้าบ้านสัก 5-6 ต้น
พ่อครูว่า…มางานอโศกรำลึกสิ คือเราไปได้ต้นดอกไม้ ชื่อเดิม ต้นดอกทองอุไรเรามาเรียกก็ขัดหู ก็เลยรู้สึกว่าไม่ไพเราะหูเท่าไหร่ ก็เลยมาเรียก ดอกเหลืองไม่หยุด มันออกดอกสีเหลือง แล้วเราเข้าใจมัน มีน้ำมากก็ไม่ออกดอกแดดมากน้ำน้อยก็ไม่ออกดอก เมื่อถึงหน้าฝนมันจะไม่ค่อยออกดอกมีแต่ใบที่งาม มันต้องมีแดดมีน้ำที่พอสมควรจะออกดอก เพราะฉะนั้นหน้าฝนก็จะออกดอกน้อยนอกนั้นอีก 9 เดือนออกดอกอร่ามเหลืองไปหมด แล้วเลี้ยงง่ายเราก็มาตั้งชื่อว่าเหลืองไม่หยุด
_จาก สุดสายธรรม …
สิ่ง ใดเมื่อเกิดย่อม ดับไป แท้เฮย
แวด วงมิตรลาไกล มากแล้ว
ล้อม สร้างสิ่งดีไว้ ก่อนจาก
โลก นี้จักคลาดแคล้ว ทุรกาล
What be born must be surely died.
Many friends we don’t find so much.
To good act,love mankind before death.
Protect the world for us far from trouble time.
วัน ที่ผู้แจ้งแล้ว จุติมา
เกิด 5 มิถุนา ยนยิ่ง
พ่อ คือสยังอภิญญา เปรื่องปราด
ท่าน สอนเราให้ทิ้ง ทุกอัตตา
The day which enlighten man was born.
5th june be blessed on the human.
Father’s knowledges are all of his
He taught us to ban all egoes.
ตั้ง ใจตั้งจิตมุ่ง สู่นิพพาน
มั่น คงสุดประมาณ แน่วแน่
บรรลุ สู่นิรวาน พ้นเกิด
ธรรม ในธรรมนั้นแท้ เที่ยงนิรันดร์
The most stable we are very sure.
To entrance and far from the birth.
Dhamma teaches’s to be poor but eternity.( teaches ‘s= teaches us )
Intending to reach nirvana.
พ่อท่านเหน็ดเหนื่อยล้า สอนคน
ในยุคกลีลน ลามกล้า
พาผองศิษย์มาจน สมเจตน์
สร้างคนดีไว้กู้หล้า อีกกึ่ง พุทธกาล
Father’s tired to teach the men.
Among the time of trouble time happen.
Take us to be poor but be heaven.
His men will continue until Bhudda time’send.
กราบนมัสการพ่อท่านที่เคารพอย่างสูงสุดค่ะ
พ่อครูว่า…กลอนกวี นี้ สัมผัสเอกโท ไม่ค่อยถูก โคลงสี่สุภาพนี้มีแบบแผนของมัน อันที่เขียนมาเป็นโคลงกระทู้ ก็เรียกว่าโคลงขลุกขลิก ก็ไม่ง่ายนักก็ค่อยๆเป็นไป
มาเข้าสู่เรื่องที่ค้างไว้ว่า Animal farm
บทเรียนอำนาจจาก Animal Farm ของจอร์ช ออร์เวลล์
ผู้จัดการออนไลน์ manageronline 1 ธันวาคม 2017 Written by ดร.เสรี พงศ์พิศ
จอร์ช ออร์เวลล์ นักเขียนนักวิจารณ์ชาวอังกฤษ เขียน อะนิมัล ฟาร์ม ตีพิมพ์มื่อปี 2488 เป็นนิทานเปรียบเทียบเสียดสีการเมืองในรัสเซียเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 มีการแปลเป็นไทยถึง 9 สำนวน ตั้งแต่ปี 2502 ถึงปี 2560 ได้กลายเป็นหนังสือคลาสสิกที่ให้บทเรียนแก่สังคมทุกระบอบที่มีผู้นำ “หลงอำนาจ”
เรื่องย่อมีอยู่ว่า ฟาร์มสัตว์แห่งหนึ่งไม่พอใจเจ้าของที่เป็น “คน” ที่ขี้เกียจ เมา ไม่เอาการเอางาน มีแต่ใช้งานสัตว์ ผู้นำหมูจึงรวมตัวกันขับไล่ เมื่อผู้นำหมูตัวแรกตายไปก็ตั้งทายาทเป็นหมูสองตัว แย่งอำนาจกันจึงเหลือแต่ตัวที่ชื่อ “นะโปเลียน”
นะโปเลียนแรกๆ ก็ดูดี แต่นานเข้าก็เริ่มหลงอำนาจ แก้บัญญัติ 7 ประการให้ตอบสนองตนเอง ใช้สื่อเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารโฆษณาชวนเชื่อครอบงำผู้คนในสังคม จนที่สุดหมูเดินสี่ขาก็เริ่มเดินสองขา เริ่มใส่เสื้อผ้า เริ่มนอนเตียง เริ่มกินเหล้า เริ่มฆ่าสัตว์อื่น ซึ่งผิดกฎ 7 ข้อที่ตั้งกันไว้แต่ต้น
โดยเฉพาะข้อสุดท้ายที่เขียนไว้แต่เดิมว่า “สัตว์ทุกตัวย่อมเท่ากัน” ก็มาเพิ่มว่า “แต่บางตัวเท่ากันมากกว่าอีกบางตัว” “All animals are equal, but some animals are more equal than others” เมื่อหมูทำตัวเหมือน “คน” ในตอนจบพวกมันก็พบว่า ตัวเองไม่ได้ต่างไปจาก “คน” (ที่มันได้ยึดอำนาจมา) นั่นเลย
จอร์ช ออร์เวลเสียดสีคอมมิวนิสม์ และผู้นำรัสเซีย ซึ่งประกาศอิสรภาพจากอำนาจเก่า ประกาศความเท่าเทียมและความยุติธรรม แต่แล้วก็ “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”
มีการแปลหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก นำไปประกอบการศึกษาและหลักสูตรต่างๆ อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในยุคสงครามเย็น การปลุกผีต่อต้านภัยคอมมิวนิสต์ รวมทั้งเผด็จการทุกรูปแบบ ในนามของการส่งเสริมประชาธิปไตย
พ่อครูว่า…คำว่าอธิปไตยคำว่าอำนาจคำเดียว อำนาจที่คนได้รับความยอมรับนับถือจากคน อำนาจนั้นเป็นอำนาจดี แต่คนที่ได้รับอำนาจมีความเหลิงหลงตัว เอาอำนาจนั้นไปเบ่งคมประชาชนต่อ อำนาจนั้นเลว ถ้าประชาชนให้อำนาจ แต่ผู้ที่ได้อำนาจกลับไปรับใช้ประชาชนมากขึ้นคุณจะได้อำนาจนั้นมาไม่มีจบ แต่ถ้าคุณได้อำนาจมาแล้วหลงอำนาจนั้นแล้วเอาไปใช้ข่มเบ่งเหนือประชาชนขึ้นไปเรื่อยๆ คุณจะซวย แต่ถ้าเขาให้อำนาจมามากคุณต้องยิ่งถ่อมตนรับใช้เขาให้มากยิ่งขึ้น ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอัตตา
เพราะฉะนั้นคนที่จะเป็นประชาธิปไตยที่บริสุทธิ์สูงสุดต้องไม่มีอัตตา ego แล้วล้างไม่มีกิเลส อัตตา มีศาสนาพุทธเท่านั้นที่ให้เรียนรู้ อัตตา(โอฬาริกอัตตา มโนมยอัตตา อรูปอัตตา) และดับอัตตาได้จริง จึงเป็นผู้ที่เป็นเจ้าของประชาธิปไตยได้ถูกต้องที่สุด
ขอยืนยันว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่มีประชาธิปไตยสูงที่สุด พระพุทธเจ้าเป็นยอดของนักประชาธิปไตยตั้งแต่ยุคของท่าน ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยังไม่รู้เรื่องสิทธิอะไรในโลกเลย พระพุทธเจ้าท่านทำได้สำเร็จรูปแล้วอยู่ในทวีปอินเดีย พระเจ้าแผ่นดินของแคว้นใหญ่ก็ยอมให้ท่าน ถือว่าเป็นความรู้สูงสุดเป็นยอดคน พระพุทธเจ้า
เขาไปติดยึดว่าเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ตัวพระพุทธเจ้านั้นเป็นประชาธิปไตย สรุปไว้ด้วย 3 ประโยค พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก)
อาตมารับต่อช่วงจากพุทธเจ้าสมณะโคดม ในพุทธกาลนี้ อาตมาก็รับสัญญาจากพระสมณะโคดมว่าจะทำงานนี้ให้รอด ช่วยพุทธกัปป์ของพระสมณโคดมให้ครบไปถึง 5000 ปี แต่ไม่ใช่ว่าอาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ในสมัยพระสมณะโคดม อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์มาก่อนสมัยพระสมณะโคดมอีกมากแล้ว อธิบายเปิดเผยตัวเองไปเป็นเรื่องลึกซึ้งมากจะ ต้องศึกษาให้ดีจึงจะรู้ความละเอียดเหล่านี้ เปิดเผยไปคนไม่เชื่อถือก็จะหมั่นไส้ บอกว่าไม่มีหลักฐาน แล้วจะเอาหลักฐานได้อย่างไรเพราะมันไม่มีใครมาบันทึกไว้ ที่มีอีกเยอะที่อาตมาพูดไม่ได้ยังไม่อ่านเองออกไปก็มีอีกเยอะ
ต่อ… มีบทเรียนสำคัญเรื่องการใช้อำนาจ เมื่อคนมีอำนาจก็จะใช้อำนาจในทางที่ผิด และยิ่งมีอำนาจมากก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะใช้อำนาจผิดมาก (Absolute power, corrupts absolutely) มีบทเรียนสำคัญอยู่ 3 เรื่อง คือ
-
การเคารพและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้เดิมจะเป็นอุดมคติของผู้นำในฟาร์ม แต่
พ่อครูว่า…มันซ้อนใจ เราให้ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันแต่ แต่ละคนมีความยึดต่างกัน บางคนยึดมากกว่าควร บางคนยึดน้อยกว่าควร บางคนก็ยึดพอดี เราก็ต้องดูความจริงแล้วนี้แล้วจัดสัดส่วนให้พอเหมาะพอดี เราต้องเป็นผู้รู้ความจริงและรู้จักบุคคล ความจริงอย่างหนึ่งบุคคลอย่างหนึ่งความยึดต่างกัน
(ต่อ)เมื่อมีอำนาจ ก็ไม่ได้ทำตามนั้น หมูมีสิทธิมากกว่าและได้รับการปฏิบัติต่อเหนือกว่าสัตว์อื่นๆ ในฟาร์ม ผู้นำสูงสุดอย่างนะโปเลียนปรับกฎระเบียบตามอำเภอใจโดยไม่ได้ปรึกษาสัตว์อื่นๆ ซึ่งนำไปสู่จุดจบในตอนท้ายของนิทานเรื่องนี้
ตามท้องเรื่อง การใช้อำนาจในทางที่ผิดไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่ค่อยๆ เกิดขึ้น การมีอำนาจทำให้คนหลงอำนาจ และมัวเมากับอำนาจ คิดว่าตนเองถูกเสมอ และดีกว่าคนอื่น รับไม่ได้กับคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือการตำหนิติเตียน การประท้วงต่อต้าน ในฟาร์มสัตว์ถึงเกิดการตายอย่างมีเงื่อนงำและการฆ่า “อย่างมีเหตุผล” มากมาย (กฎข้อที่ 6 ที่ตนเองแก้ไขอนุญาตให้ทำได้ถ้ามีเหตุผล)
-
การยึดมั่นในความถูกต้องเป็นธรรม และไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ พร้อมที่จะยืนยันในสิ่งที่ถูก
และปฏิเสธหรือประณามในสิ่งที่ผิด สัตว์ในฟาร์มไม่ได้ทำในสิ่งที่ตนเชื่อว่าถูกต้อง ไม่กล้าเผชิญกับนะโปเลียน ยอมรับสิ่งที่หัวหน้าหมูพูดและทำไปเสียทั้งหมด แม้ว่าจะอยู่อย่างไม่มีความสุข ไม่มีเสรีภาพ
อย่างสัตว์บางตัวถูกฆ่าอย่างไม่เป็นธรรม แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดกล้าบอกใครเพราะกลัว แม้จะรู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎระเบียบของฟาร์ม
-
อำนาจทำให้ทำความผิด อำนาจมากที่สุดทำให้ผิดมากที่สุด นะโปเลียนหลงอำนาจ ตัดสินใจและสั่งการตามอำเภอใจ ให้สัตว์ต่างๆ ทำงานในฤดูหนาวท่ามกลางความหนาวเย็น โดยไม่ได้สนใจให้อาหารและเวลาพักผ่อนอย่างพอเพียง ไม่ใส่ใจต่อความเดือดร้อนของสัตว์อื่น คิดถึงแต่ตัวเองและพวกพ้อง