620630_วิถีอาริยธรรม สันติอโศก ธรรมะคู่ที่สำคัญคือกรรมกับกาล
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1XJycwZFApXFL0l8-MWHF1yFFpAcx2-y9INta97j-eQg/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่ .. https://drive.google.com/open?id=12qJn8r5tRZzQGTMTXITcH0PyY8sHNDvx
สมณะเพาะพุทธ…วันนี้วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่ บวรสันติอโศก เกือบสองสัปดาห์ที่พ่อท่านได้มาอยู่ที่สันติอโศก ก็ทำให้เกิดความรื่นรมย์ อารามแปลว่าที่ๆน่ารื่นรมย์ ส่วนอาวาส คือที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์ วัดทั่วไปเป็นอาวาส ส่วนที่สันติอโศกเป็นอาราม
คำว่าสมถะเป็นคำของฤาษี คำว่าปัสสัทธิเป็นคำของพุทธ
คำว่าจิตนิ่งไม่ใช่ของพุทธ (พ่อครูว่า.. จิตแน่นเป็นของพุทธ)
อัตลักษณ์เอกลักษณ์ของพุทธคือ เป็นโลกุตระ และเป็นอเทวนิยม ศาสนาเทวนิยมไม่มีโลกุตระ สูงสุดอย่างมากได้แค่กัลยาณชน มีแต่ศาสนาพุทธเท่านั้นที่มีโลกุตระ ไม่มีสมณะนอกพระธรรมวินัยนี้ คือไม่มีพระอาริยะนอกพระวินัยนี้
พ่อครูว่า..SMS วันที่ 26 มิ.ย. 2562 (พุทธศาสนาตามภูมิ พ่อครู สันติอโศก)
_1614 การเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วกระทำคืน โดยการสำรวมระวังในกาลต่อไป อย่างนี้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติไหมคะ
การฝึกตน ต้องมีคุณธรรม คือ อดทน อดทนมี 2 แบบ คือ อดทน แบบตั้งรับ กับอดทนแบบบุกฝ่า ออกไป กับผัสสะที่เจอ ถูกต้องไหมคะ
กรรมฐานเดิม ของอโศก ยืน เดิน นั่งนอน
พ่อครูว่า…..ถูกต้อง
_ปองแสงพุทธ ธรรมะรับอรุณ 27 มิ.ย. ฟังธรรมวันนี้ ที่เกี่ยวข้องกับคำสอนของพ่อครู ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า ใครที่ทำความผิดมันจะส่งผลให้เรารับวิบากกรรม ลูกคิดว่าถ้าเรามองในมุมลบคิดเรื่องลบ ๆ หรือพยามจับมุมลบเพื่อที่จะหยุดหรือทำร้ายคู่อริของลูกมันจะเป็นเรื่องน่ากลัวมาก แต่ถ้าลูกมองในมุมบวกลูกมองในมุมสร้างสรรค์ ลูกจะได้มิตร ลูกจะได้เพื่อนพี่น้องที่จะเข้ามาช่วยกันสานต่อพระศาสนา. การมองลอดช่องของคนสองคนมันคิดต่างกัน คิดลบหรือคิดบวก ถ้าผลของการมองมันไม่เกี่ยวกับลูก ลูกก็คงไม่ต้องสนใจ แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับลูก ลูกขอความเมตตาให้พิจารณา ลูกก็คงเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่อยากรับวิบากในมุมมองลบ ๆ ของใคร อะไร หรืออย่างไร ในโลกนี้มีสองด้านเสมอ เพียรสร้างและเพียรทำลาย น้อมกราบนมัสการ
พ่อครูว่า..ถูกต้องทุกอย่างมีสองด้านเสมอ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ไม่ดีในตัวเราต้องล้างต้องทำลายออก ส่วนของคนอื่นการละเมิดของเขา บอกเขาให้รู้ก็ยังดีที่สุดแล้วบอกเขาอย่างแรง ปฏิกโกสนา ดุด่าว่าเขาค้านแย้งอย่างแรงอย่างจัด ได้เท่านั้นเป็นแค่มุขสตีหอกปาก นอกนั้นไม่ได้ ทำให้เขาเจ็บปวดถึงตัวไม่ได้ ศาสนาพุทธแรงที่สุดได้แค่อาวุธคือปาก อาวุธกายอาวุธวัตถุไม่ได้ คุณจะแต่งเปล่งเสียงให้คอแตกก็ทำไปเลย ถ้าคุณพูดแรงไปแล้วเขาตอบโต้ไม่ถึงกับใช้อาวุธใช้มือไม้ ก็ทำ หรือว่าคุณจะสามารถตอบได้ก็ดี อาตมานี้แรงด้วยนะ แต่ก็ดีนะ ก็ได้รับลูกระเบิดมา เขามายิงที่หน้าสันติอโศก ซัดแล้วแป๊กๆ สองแป๊กเท่านั้นหันหลังกลับไปเลย เขาก็คงกลัว มีอภินิหาร ที่จริงแล้วปืนคุณไม่ดี มาหาเรื่องอาตมาว่ามีอภินิหาร
_SMS วันที่ 27 มิ.ย. 2562 (พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช)
สื่อธรรมะพ่อครู(ธรรมะ 2) ตอน ภาษากับสภาวะกลับไปกลับมาได้
_ถาวร ทิพย์โชติ · การรวมสองเป็นหนึ่งได้ ต้องสลายอัตตาตัวตน คือฝึกยอมซะบ้างบอกซ้ายไปขวา บอกขวาไปซ้าย แล้วจะเป็นลูกพ่อทำไม
พ่อครูว่า..ถูกต้องแล้ว การยอมแพ้ดูเหมือนจะเสียเหลี่ยม แต่โดยสัจธรรมแล้วจบ ยอมแพ้นี้จบ ยอมแพ้นี้เก่ง ยอมแพ้นี้ไม่มีตัวตน เราไม่มีตัวตนเรายอมแพ้แล้วแล้วก็หายไปเลย มันก็จบแล้วนี่ เราไม่มีตัวตนแต่มันมีอัตตาตัวตน แพ้ไม่ได้ นี่แหละ ฟังดีๆ แล้วจะชัดเจนคนเรานี่มันโง่นะ ยอมแพ้แล้ว แพ้ก็แพ้ชะตาทรามดวงใจทรงความมั่นคง เราก็เห็นความจริงตามความเป็นจริงเหมือนเดิม เราไม่เห็นจะต้องมีเหลี่ยมหมดเหลี่ยมแล้วก็สบาย กลมดิ๊กเลย แต่ไม่ใช่เป็นพวกกลมกลิ้งปลิ้นปล้อนไม่มีเหลี่ยม เราเข้าใจแล้วก็ทำดีตามที่เรารู้หาสาระ
ตกลงมีเนื้อหาสาระกับภาษา อาตมาบรรยายธรรมะมาได้ไกลมากเลย สรุปได้ทั้งโลกนี้มีแค่ 2 ภาษากับสภาวะ สภาวะอย่างหนึ่งภาษาอย่างหนึ่งเสร็จแล้วกลับไปกลับมาไวเหลือเกิน เราบอกสภาวะคุณก็เอาภาษาเราบอกภาษาคุณก็เอาสภาวะ ก็ยึดกลับไปกลับมา เราบอกภาษาคุณจะไปเอาสภาวะ เราบอกสภาวะคุณจะไปเอาภาษา มันก็ไม่จบกันเสียทีเมื่อไหร่มันจะลงกันเสียที
สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน อนาคามีอบอุ่นไม่อบอ้าว
_(ไม่บอกชื่อ)กราบเรียนถามหลวงปู่
1.) หากเราโตขึ้นคือกิเลสลดลงจะอยู่กับหมู่มวลได้มากขึ้น ทำประโยชน์ได้กว้างขึ้น สามารถทอดตนเป็นสะพานให้คนเดินผ่านได้บ่อยครั้งมากขึ้น(รับใช้ ตามเช็ด ตามเก็บ ขัดส้วม ขัดห้องนำ แบกรับภาระตามกำลัง ฯลฯ เพราะน้องเข้ามาใหม่ยังไม่ฝึกอะไรได้มาก) ใช่หรือไม่คะ
2.)จิตที่เป็นพรหม คนอยู่ใกล้จะอบอุ่น และปลอดภัยคือคุณธรรมตั้งแต่ระดับอนาคามี ขึ้นไปใช่หรือไม่คะ เพราะคุณธรรมระดับโสดาบัน เมื่ออยู่ใกล้ก็จะอบอ้าวมาก คุณธรรมระดับสกิทาคามี ความอบอ้าวก็จะลดลง คุณธรรมระดับอนาคามีไม่มีความอบอ้าว จะมีแต่ความอบอุ่น เพราะไม่มีหอกปาก รักคนมากและกว้างขึ้น ใช่หรือไม่คะ
กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง
พ่อครูว่า..โดยพยัญชนะถ้าเป็นพรหมต้องนับคุณสมบัติตั้งแต่อนาคามีเป็นต้นไปก็ใช่บริสุทธิ์ตั้งแต่ภายนอก อนาคามีคือบริสุทธิ์ตั้งแต่ภายนอก จะกระทบสัมผัสภายนอกอย่างไรก็ไม่มีภาวะตอบโต้สบายว่างเปล่า เป็นอนาคามีขึ้นไป ข้างนอกจึงไม่เป็นคนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกแล้วเหลือแต่เศษของกิเลสตัวเองอนาคามีก็ทำกิเลสตัวเองให้จบให้หมดก็ปลอดภัย อนาคามีจึงเป็นคนที่เริ่มปลอดภัยจากตัวเอง ข้างนอกเขาจะไม่ได้รับภัยจากเรา
สังคมประเทศชาติ ถ้าสามารถที่จะทำจิตให้เป็นภูมิธรรมถึงอนาคามีเป็นต้นไปแล้วไปรับหน้าที่ปกครองบริหารทำหน้าที่ดูแลหมู่สังคม จะเป็นสังคมที่ประเสริฐ
เราพูดถึงสัจธรรมด้วยความจริงของปัญญามันจะเป็นคนอย่างนี้ อย่าไปพูดถึงแบบพวกลึกลับสายเทวนิยมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เขาว่าเป็นอนาคามีมันยากมันเป็นไปไม่ได้ แล้วไม่เรียนรู้ว่าจะเป็นไปได้อย่างไรมันก็เลยงมงายกันต่อ เทวนิยม เราก็บอกว่าให้มาพิสูจน์เลยลืมตาพิสูจน์ตามเหตุปัจจัยต่างๆนานาตาหูจมูกลิ้นกายใจวัตถุมีวัตถุมีพืชมีคนมีสัตว์ ศึกษาสิมันมาสัมผัสกับเรา เราก็จัดการอ่านจิตๆๆๆ แก้ไขอย่าให้จิตใจเป็นภัยเป็นโทษแก่ใครจิตใจมีแต่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นกับใครต่อใครทำได้แล้วมันก็ได้จริงๆ
อาตมาถึงบอกว่ามันก็รู้สึกยากคนเข้าใจยาก แต่ยากมันก็ดี มันอยากจะทำ จะพยายามอยู่ให้ยาวนาน ก็ทนเอา พยายามให้คนได้ มันก็ได้มีการเป็นไปได้มีอัตราการเจริญการก้าวหน้าอยู่ มันไม่สูญเปล่า ไหนว่าศาสนาพระพุทธเจ้านั้นยากแต่มีคนก้าวหน้าได้
จิตเป็นพรหม คนอยู่ใกล้ก็อบอุ่น เย็นสบายไม่ร้อน
เอาพยัญชนะมาสื่อสภาวะก็เข้าใจนะ โสดาบันจะอบอ้าว สกิทาคามีความอบอ้าวก็ลดลง อนาคามีไม่มีความอบอ้าวมีแต่ความอบอุ่น ใช้พยัญชนะเพื่อบรรยายสภาวะได้ดี
SMS วันที่ 28-29 มิถุนายน 2562
_8866เพิ่มคุณภาพคนอยู่ ศิษย์พ่อครูต้องเร่งสร้างบารมีส่วนของตน เพื่อประโยชน์สุขแก่โลกไปพร้อมกัน ดังที่คุณแอ๊ดว่า
สื่อธรรมะพ่อครู(อวดอุตริมนุสธรรม) ตอน พ่อครูคือพระสารีบุตรหรือไม่
_2166วันนี้(29 มิถุนา 62)พ่อท่านว่าเคยเป็นฮ่องเต้มาไหนๆก็ไหนๆแล้วขอพ่อท่านตอบมาเลยว่าพ่อท่านใครในยุคพระสมณโคดมครับ ผมสงสัยในตัวพ่อท่านจริงๆครับ???/ขอบคุณครับ
พ่อครูว่า..ตอบให้เกิดปัญญาไม่ให้เกิดความยึดมั่นถือมั่น ถ้าอาตมาเป็นใครในสมัยพระสมณโคดมสมมุติว่าเป็นพระสารีบุตร เมื่อ 2500 กว่าปีมาแล้ว มาจนถึงวันนี้ผ่านปัจจุบันมากกว่า 2500 ปีแล้ว คุณจะไปว่าอันนั้นมันคืออันนี้มันจะได้หรือ 1
ถ้าอาตมาเป็นสารีบุตร อันโน้น อันนี้ก็ไม่ใช่สารีบุตรแล้ว เป็นสาระพอแล้วมันโตมันใหญ่มันกว้างมันยาวนานจะเป็นบุตรอย่างเก่าได้อย่างไร ก็ใช้คารมโวหาร อย่าไปยึดมั่นถือมั่นแม้แต่วินาทีเดียว ยืนอยู่ปัจจุบันที่จุดเล็กที่สุดเร็วไวที่สุดอย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้มันช้านานให้มันแช่อิ่ม มันก็จะจมอยู่อย่างนั้น
เอาอีกทีหนึ่ง
ถ้าอาตมาเป็นสารีบุตร แล้วคุณมาว่าวันนี้อาตมาก็คือสารีบุตร คุณดูถูกอาตมานะ อาตมาโตมากกว่าเดิมเจริญมากกว่าเดิมใหญ่มากกว่าเดิมแล้ว อาตมาไม่เอาความเท่าเดิม อาตมาเอาความก้าวหน้า ถ้าไม่ก้าวหน้าก็ดูถูกอาตมา อาตมาไม่ใช่คนนั้นคนนั้นมันก็แค่นั้น เดี๋ยวนี้อาตมาก็ต้องเจริญกว่าเก่า จะไปดึงให้อาตมาเป็นคนเก่าเท่าเก่าดีไม่ดีเสื่อมกว่าเก่าก็แล้วกัน อาตมาต้องก้าวหน้าสิจะเป็นอันเก่านั้นได้อย่างไรอย่างนี้เป็นต้น นี่ฟังให้ดี
-
อาตมาไม่ตอบลงตัวให้คุณยึดมั่นถือมั่น 2.ให้คนเกิดปัญญาอย่าไปยึดมั่นถือมั่นควรจะเอาปัจจุบันเอาความก้าวหน้า กรรมของคนทำให้เจริญอย่างนี้ คนไม่มีทั้งยึดมั่นถือมั่นทั้งมีความมีปัญญาทำความก้าวหน้าของคุณได้ไป ปัจจุบันของคุณก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ดีกว่าหรือเห็นไหม อาตมาพยายามทำสิ่งที่ดีกว่าเสมอ ใครว่าอาตมาไม่ฉลาด จะทำอย่างโง่ๆอยู่ทำไม?