620812_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 62

620812_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 62

อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่…  https://docs.google.com/document/d/1CjsHjx_t-qJBfS63ZCzGAHFe86Mxpn2wnrwDeH-aR-k/edit?usp=sharing   

ดาวโหลดเสียงที่  https://drive.google.com/open?id=13cmT_ftgveg8MzrtMA7tSv_iqjWs5BhR 

พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก รายการสำมะปี๋ซี่วิต รายการนี้เป็นรายการที่เป็นสาระเพื่อความเจริญของชีวิตหรือเป็นธรรมะ แต่มีความหลากหลาย 

ขออ่านบทความของคุณเปลวสีเงินก่อน 

บ้านเมือง ‘คนละเรื่องเดียวกัน’ 10 สิงหาคม

 เห็น “ข่าวพาดหัว” ว่า……..

                Serbia grants citizenship to Thailand’s fugitive ex-PM Yingluck Shinawatra

                ก็ต้องบอกว่า “ดีใจด้วยนะ…ยิ่งลักษณ์”!

                มี “สำนัก-เข้าสังกัด” เป็นหลัก-เป็นแหล่งกะเขาซะที

                เป็นหญิง……….

                เที่ยวถือถุง-ถือกระเป๋า ร่อนเร่ประหนึ่ง “นารีสัญจร” แบบนั้น มันไม่เหมาะไม่งาม รู้มั้ย

                แต่ก็เหอะ ถึงตีตราสัญชาติใหม่ เป็นข่าวครั้งใด เขาก็ยังคงจามกระบาลเต็มยศเหมือนเดิม ว่า

                “Thailand’s fugitive ex-PM Yingluck Shinawatra”

                “อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์” ผู้หลบหนีคดีของประเทศไทย ฟังแล้ว-อ่านแล้ว

                เหมือนประจาน “นักการเมืองไทย” และ “ประเทศไทย” ให้เกิดภาพขยะแขยง-น่ารังเกียจ แก่ชาวโลกยังไงไม่รู้!

                ก็คิดดูซี……

                อีกคน “พี่ชาย” ทักษิณ ชินวัตร เวลาเขาจะเขียนถึง เขาก็พะแบรนด์เนมไปด้วยว่า Thailand’s  fugitive ex-PM Taksin Shinawatra

                พวกต่างชาติ อ่านข่าวแล้วคงสงสัยในใจ….

                “เอ๊ะ…ประเทศไทยนี่ พวกนักการเมืองล้วนแล้วแต่ ‘โกงบ้าน-กินเมือง’ กันทั้งนั้นหรืออย่างไรกัน

                คราวก่อน ‘อดีตนายกฯ ทักษิณ’ แล้วนี่..มาอีกแล้ว ‘อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์’

                แถมตระกูลเดียวกันซะอีก พอถูกจับได้ ก็หนี เที่ยวเอาเงินไปช็อปสัญชาติกันสนุกสนาน?”

                เนี่ย…

                มีสิทธิ์ให้เขาคิดอย่างนี้ได้ เพราะมีที่ไหนในโลก ตระกูลเกียวกัน พี่นายกฯ น้องก็นายกฯ

                แล้วทั้งพี่-ทั้งน้อง ก็เป็นอาชญากรหนีคดีโกงบ้าน-กินเมือง ออกมาลอยชาย กินหรู-อยู่สบาย ใครก็ตามจับไม่ได้

                พี่ซื้อสัญชาติมอนเตฯ

                น้องซื้อเซอร์เบีย

                เป็นซอมบี-ผีมีป่าช้าอะร้าอร่าม จะบอกว่าน่าดีใจหรือเศร้าใจ ก็บอกไม่ถูก

                ไงก็ ซื้อเป็นแพ็กเกจแบบเอื้ออาทรไว้เผื่อญาติโก-โหตุเกด้วยก็น่าจะดี เพื่อความไม่ประมาท

                มานั่งคิดๆ…..เออ ผมนี่ น่าจะเป็นพวกบ้าคิด และคิดจนเป็นบ้าคนเดียวจนได้

                คือคิดว่า ชาตินี้ ทั้งพี่-ทั้งน้องคู่นี้ จะมีบุญวาสนาได้กลับมากราบศพ “หลวงพ่อพันเทวาเพ่งตะวัน” ที่เชียงใหม่ บ้างมั้ยหนอ?

                “หลวงพ่อพันเทวา” ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่ผมว่า ท่านทุ่มเทชนิด “ไม่คิดชีวิต” เพื่อพี่น้องคู่นี้มาก

                ทั้งเพ่งพระอาทิตย์ตอนเที่ยงๆ ทั้งสาดเลือดสดๆ ใครจะครหานินทา คณะปกครองสงฆ์จะว่าอย่างไร ท่านไม่สน เพื่อทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ได้อยู่กินบ้าน-กินเมือง

                “หลวงพ่อพันเทวา” ทำได้…….

                ทะหง-ทหารว่าแน่ๆ ไปวัด หลวงพ่อเอาเลือดสดๆ สาดทีเดียว…กระเจิง!

                ก็มรณภาพไปแล้ว เคยอ่านข่าว ก่อนมรณะท่านอาพาธ แต่ไม่มีใครไปอินังขังขอบท่านเลย

                ผิดกับตอนยังใช้เดรัจฉานวิชารับใช้ตระกูลนี้ได้ ไปกันแน่นวัด

                ก็เลยคิดว่า พี่เป็นหนุ่มมอนเตฯ น้องเป็นสาวเซอร์เบีย “ตัดชาติ-ขาดประเทศ” จากไทยไปอย่างนี้

                คงหมดเยื่อ-หมดใย ไม่คิดกลับมาแสดงความรู้บุญ-รู้คุณหลวงพ่อพันเทวาแล้ว

                แต่ก็อย่างว่า ถึงคิดกลับ ด้วย “กฎหมายใหม่” ใครมีคดีความแล้วหนี ไม่มีวันหมดอายุความ

                ก็คง “กลับยาก” เนอะ!

                ไอ้เรื่องห้ามน่ะ ไม่มีใครห้ามหรอก เพราะถึงถือสัญชาติอื่น ด้วยเชื้อไทย

                จะกลับวันไหน-ชั่วโมงไหน มีสิทธิ์กลับมาได้ทันที แต่มีเงื่อนไขว่า

                ต้อง “เข้าคุก” ก่อน!

                พ้นโทษคุกเมื่อไหร่ อยากไปไหน..ก็ไป แต่อย่าลืมไปขึ้นศาลด้วยคดีใหม่ๆ ที่รอคาอยู่ในศาลด้วยแล้วกัน

                เพราะด้วย “รัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง” หนี..คดีไม่มีวันหมดอายุ

                อย่างนี้กระมัง “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” หัวเครื่อง ๗ พรรคค้าน เข้าสภาก็ไม่สนใจปัญหาใดของชาวบ้าน

                สน “แก้..เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญ” ฉบับปราบโกง แล้วเขียนใหม่ทั้งฉบับท่าเดียว! 

                เพราะมีแต่ “เขียนรัฐธรรมนูญใหม่” โดยฝ่ายตัวเอง “มีอำนาจ” คุมเท่านั้น

                “หนุ่มมอนเตฯ-สาวเซอร์เบีย” จึงจะมีโอกาสกลับเข้ามาโดยไม่ต้องเข้าคุก

                ก็มันแหงๆ เมื่อแก้โดยฝ่ายตนมีอำนาจคุมกลไก เลี้ยงมือกฎหมายผลาญข้าวสุกไว้เป็นกุรุส

                มีหรือ เขียนกฎหมายใหม่ทั้งที ที่จะไม่เจาะรูเป็นช่องสู่การ “ล้างกฎหมายลูก” ที่เป็นยันต์ปิดปากหม้อขังวิญญาณผีกินบ้าน-โกงเมือง แล้วจับถ่วงน้ำไว้ตอนนี้ เห็นจะไม่มี

                ก็เห็นมั้ยล่ะ ตอนหาเสียง ไปจังหวัดไหน ก็โม้ว่าได้เป็น ส.ส.แล้วจะแก้ปัญหานั่น-นี่ให้

                พอได้แล้ว มันทำอะไรล่ะ?            

                ทำพิธีกรรม “แก้รัฐธรรมนูญ” อภิวัฒน์ “พ.ร.บ.สุดซอย-เหมาเข่ง” พ.ศ.๒๕๕๖ ที่เจ๊งไปนั่นไง

                ประชาธิปไตยน่ะ มันไม่มีในกระดาษ ในรัฐธรรมนูญฉบับไหนในโลกหรอก

                มันมีอยู่ใน “จิตสำนึก” ทางกระทำของคนตะหาก

                เมื่อคน….

                ด้วย “สำนึกโจร” เขียนรัฐธรรมนูญ

                มันก็จะเป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับ “สำนึกเบ็ดเสร็จ” เอื้ออาทรให้โจรอ้างอิงใช้ “ปล้นบ้าน-เปลี่ยนเมือง”

                ว่าที่พวกมันทำ “ชอบแล้ว” ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ “สำนึกเบ็ดเสร็จ”!

                ก็…เสร็จมัน!

                ฉะนั้น ต้องยันให้มันหงายท้อง-หงายไส้ ขืนปล่อยให้มันเสือกหัวเข้ามาได้ แค่คำว่า “แก้ไข…”

                แล้วมันก็จะค่อยๆ แทรกเข้ามาทั้งตัว นั่นคือ แก้ไข…เพื่อเพิ่มมาตราให้ไป “เขียนใหม่” ทั้งฉบับ

                ซึ่งเท่ากับ “ฉีกรัฐธรรมนูญ” ฉบับปราบโกง ที่เป็นยันต์ปิดปากหม้อ ที่พวกมันกลัว จนต้องปลุกระดม เพื่อฉีกแล้วเขียนใหม่ อย่างที่เหย็งๆ กันอยู่ตอนนี้

                วานซืน ผบ.ตร. “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” นำคณะคลี่คลายคดี “โจรใต้ระเบิดกรุง” ช่วงประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน

                ต้องชมการทำงานตำรวจชุดนี้ ว่ามีการทำงาน “เป็นทีม” ที่ดีมาก

                เห็นได้ชัด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในฐานะ ผบ.ตร.พัฒนาองค์กรทันสังคม “เทคโนโลยีเปลี่ยนยุค” ได้น่าพอใจ

                เห็นได้จากการติดตาม-คลี่คลายคดี ตามแถลง ซึ่งยอมรับว่า “การข่าวดี”

                การใช้เทคโนโลยีสื่อสารประกอบวิทยาการทางสืบสวน-สอบสวน-แกะรอย ถือว่า ก้าวหน้าเป็น “ระบบดี”

                “ทันโจร”

                ที่ขณะนี้ โจรพัฒนา “ระบบ-รูปแบบ” และวิทยาการไปอีกขั้นเช่นกัน

                ประสิทธิภาพ “ใช้ได้”

                เพราะงานนี้ เฉพาะคน-เฉพาะหน่วยงานเดียว ทำไม่ได้ ต้องประสานกับหน่วยอื่นๆ และนอกหน่วยอีกมาก

                การที่ตามคนร้ายได้เร็ว และไม่ฉาบฉวยเอาแค่พอได้ตัวแล้วก็จบ สืบสาวราวลึกลงไป แม้แค่เห็นหลังไวๆ ว่าใคร-เป็นใครในขบวนการนี้

                ก็ถือว่าเป็น “ประสิทธิภาพใหม่” ในความเป็นตำรวจมืออาชีพ “ยุคใหม่” ที่น่าพอใจ

                ทำให้ประชาชนอุ่นใจได้ ในสถานการณ์ “หน้าเก่า-มือใหม่” ช่วงการเมืองเปลี่ยนอำนาจ

                “พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่คอยตอบคำถามนักข่าว

                นายตำรวจท่านนี้ ดูทรงภูมิ มาดดี การพูด-การตอบ ถือว่า “เป็น” เลยทีเดียว

                กับคำถามที่นักข่าว มุ่งจะเอาแต่ข่าว แต่ข่าวในคดีเช่นนี้ ไม่ใช่ข่าว “ตีหัวหมา-ดาราแย่งผัว” จะตอบไปเรื่อยทุกเรื่อง-ทุกประเด็น มีแต่ “เสียทุกด้าน”

                ถ้าไม่ตอบพอเป็นกระสายไปบ้าง ก็เสียอีก จะถูกด่า เมื่อไม่อยากบอก แล้วจะมาแถลงทำไม

                สรุปว่า “สมน้ำ-สมเนื้อ” ในภาพใหญ่ อย่างน้อย เมื่อชาวบ้านเห็นขั้นตอนการทำงาน

                เห็นผลการทำคดี เห็นการสืบสวน เห็นความเป็นทีม เห็นพัฒนาการการทำงานยุคสังคมใหม่ของยุค พล.ต.อ.จักรทิพย์

                ก็อุ่นใจอีกระดับ!

                ที่ไม่อุ่นใจ กลับต้อง “เอะใจ” ก็คือ การแสดงออกของ ๗ พรรคฝ่ายค้าน กรรมการสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์

                คนพวกหนึ่ง แค่สะดุดตีนล้มปากแตกเอง ฮือกันออกมาชูป้าย ฮือกันโพสต์-ฮือกันแชร์

                หยุดคุกคาม, หยุดทำร้าย, หยุดทำลายสิทธิมนุษยชน, หยุดกระทำป่าเถื่อน ต่างๆ นานา

                แต่บ้านเมืองถูกก่อวินาศกรรม ไม่มีใครสักคนในซีกนี้ รู้ร้อน-รู้เจ็บ กับบ้านของตัวเองที่มีคนทำลาย ซ้ำมีคนบาดเจ็บ

                มีแต่ “ห่วงคนร้าย” ว่ายัดข้อหาบ้าง จะไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้าง จับแพะบ้าง

                ครับ….

                แต่ละเรื่องที่คุยมา มองผาดๆ เป็นคนละเรื่องทั้งนั้น

                แต่ถ้าพินิจ ที่ว่าคนละเรื่องนั้น มันเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ทั้งสิ้น

                “การเมือง” ไม่ทำลายเมือง

                คนเสียประโยชน์-เสียอำนาจทางการเมือง ตรงนี้แหละมัน “ทำลายเมือง”

                “ตำรวจ-ทหาร” ยังเป็นหลักสำคัญ “ยันบ้านเมือง”! 

พ่อครูว่า…น่าสงสารบ้านเมือง 

ทำไมพ่อครูต้องชื่อรัก

_สมณะมือมั่น…พระนางสิริมหามายา เมื่อให้กำเนิดเจ้าชายสิทธัตถะแล้ว จะต้องสิ้นพระชนม์ใน 7 วันจะต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้งหรือไม่ที่พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมา พระราชมารดาจะต้องสิ้นพระชนม์ 7 วันแบบนี้ทุกพระองค์ 

พ่อครูว่า..ตอบไม่ได้หรอก องค์อื่นก็ไม่ได้บอกไว้ว่ามารดาชื่อสิริมหามายาแล้วจะตายภายใน 7 วัน เป็นเรื่องไม่ตายตัวหรอก แต่องค์นี้บอกได้ เรื่องนี้เป็นอจินไตยอย่างหนึ่ง 

คนผู้ใดก็ตามจะชื่อนี้ชื่อนี้คนที่ปฏิบัติธรรม อัครสาวกของสมณโคดมจะชื่อพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เป๊ะเลย พุทธเจ้าองค์ก่อนๆก็จะพยากรณ์ไว้แล้วว่าคนนี้จะไปเกิดเป็นอัครสาวกของพระพุทธเจ้าสมณโคดมและชื่อพระโมคคัลลานะพระสารีบุตร พระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆก็จะรู้ สิ่งเหล่านี้เป็นอจินไตย ชื่อก็ดี หน้าที่ที่ทำกรรมวิบากไว้ก็ดี 

พระโมคคัลลานะพระสารีบุตรก็มีกรรมที่สั่งสมไว้มั่นใจตั้งใจที่จะมาเป็นพระอัครสาวกให้ได้ ไม่ใช่ว่าเลือกตั้งมาจะเป็นได้ แต่ต้อง Born To Be ต้องคนนี้ต้องเกิดเป็นคนนี้อย่างนั้นเลย อย่างอาตมาเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีมาก็จะมีลักษณะอย่างนี้ พูดไปแล้วอย่าไปเล่นลิเกนะด้วยความจริงเลยก็จะมี ชื่อนี้เลย 

อาตมาชาตินี้ต้องชื่อ “รัก” ไม่สงสัยเลย ชื่อมงคลก็ไม่สงสัยเลยชื่ออะไรก็ไม่สงสัยเลย ต้องเป็นอย่างนี้ 

อาตมาะจะต้องมาชื่อ “รัก” เพราะอาตมาจะมีคนที่มีมิจฉาทิฏฐิเกลียด เพราะฉะนั้นจะต้องชื่อ “รัก” เข้าไว้ คนที่ไม่ดูเอาแต่ชื่อหรือพฤติกรรมเปลือกๆ แต่จะดูเนื้อใน จะเห็นเลยว่าคนนี้ชื่อ “รัก”จริง น่ารักจริงๆไม่ใช่คนน่าเกลียดเลย

ขนาดอาตมาเดิมชื่อว่า “มงคล”ก็ยังมาเปลี่ยนเลยเพราะเป็นชื่อที่ดีแล้วเป็นชื่อที่พาไปสู่มงคลก็ยังไม่ชัด ก็เปลี่ยนเป็นชื่อ รัก เลย ขนาดนั้น ยังมีคนตาดีที่มารักอยู่ไม่เท่าไหร่เลย นอกนั้นคนตาถั่วทั้งนั้น

อาตมาเป็นคนที่น่ารักเพราะอาตมาเป็นคนที่รักคนทุกคนแม้แต่ศัตรู อาตมาเป็นอย่างนั้น 

อาตมาเป็นคนน่ารักเพราะอาตมาเป็นคนที่ไม่เกลียดชังใครแม้แต่ศัตรูก็รัก 

เพราะฉะนั้นพวกคุณนี้ถ้าเคยได้ฟังเพลง … รักคนที่เขารักเราดีกว่า อย่าไปรักคนที่เขาไม่รักเราเลยจะอกหัก เพราะฉะนั้นคนน่าจะรักอาตมานะเพราะอาตมารักคุณ พูดไปแล้วเดี๋ยวมันจะน่าอ้วก พอแล้ว

_ซึ้งบุญ…เมื่อวานนี้ไปเก็บผักตำลึง มันก็มีรังมดแดงอยู่ในนั้น ก็มองเห็นก็เลยเอาเคียวยาวๆตัดรอบๆ แต่มันไปถูกรังมดแดงพังลงมาเลย ไม่ได้เจตนา เลยคิดว่าฝนตกเขาจะอยู่อย่างไรหนอ ลูกจะมีวิบากอย่างไร 

พ่อครูว่า…ก็มีวิบาก ก็เป็นคนไปทำเองจริงๆเป็นวิบากไปทำร้ายรัง จะเป็นเจตนาหรือไม่ก็ตามกรรมสำเร็จรูปแล้วรังมดแดงเขาก็พังนะ คนไม่เจตนามาพังบ้านคุณ แต่คุณจะรู้สึกว่าไม่เสียใจเลยหรือ 

ทำไมต้องตำหนินั่งหลับตา

_จาก ท่านจันทร์ กราบพ่อท่านครับ ผมพบกับคุณไพศาล พืชมงคล ที่โทรทัศน์ช่อง13 เมืองทองธานี 11/8/62 

ฝากถึงพ่อท่านว่าประเด็นสำคัญไม่น่าจะเน้นเรื่องหลับตาไม่หลับตา แต่ควรจะเน้นเรื่องสติมากกว่า การเน้นเรื่องหลับตาไม่หลับตาเป็นการสร้างความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น อยากให้พ่อท่านแสดงอริยสัจ 4 ที่มีรอบ 3 อาการ 12 เป็นอย่างไร แต่ละรอบคืออะไรบ้าง แต่ละอาการคืออย่างไร เคยนิมนต์พระรูปใดๆ ก็ไม่มีรูปใดแสดง 

พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์เสาร์ แม้แต่หลวงพ่อคูณ บางเรื่องก็มีประเด็นเป็นอัศจรรย์

การประกาศศาสนาต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง

พ่อครูว่า…ตกลงติงว่า ไม่ควรจะเน้นเรื่องอัตตาหรือไม่หลับตาแต่คนเน้นเรื่องปฏิบัติที่ถูกต้องเช่นอริยสัจ 4 อยากให้อธิบายเรื่องนี้มาเลย รอบ 3 อาการ 12 เป็นอย่างไร

จริง ดี แต่ประเด็นที่สำคัญ เหมือนกับพระพุทธเจ้าท่านยกตัวอย่างว่ามีคนคนหนึ่ง ถูกลูกศรยิง เป็นลูกศรอาบยาพิษมาเสียบบาดเจ็บ เพื่อนฝูงเห็นเข้าก็จะรีบช่วยเหลือเอาลูกศรออก คนที่ถูกลูกศรบอกว่าอย่าเพิ่งเอาออกต้องรู้ก่อนว่าลูกศรนี้ใครยิงมาไปสอบสวนมาใครยิงลูกศรนี้ เรื่องอะไรมายิงเราและลูกศรนี้อาบยาพิษชนิดไหนต้องรู้ก่อนจึงจะให้ผ่าออก เป็นเช่นนั้นแหละ เทียบเคียงได้เช่นนั้น ความจำเป็นสำคัญไม่ทำจะไปทำในสิ่งที่ยังไม่จำเป็น 

ทำไมอ่ะทำไมถึงพูดอย่างนี้ พูดถึงว่าคุณไพศาลติงเตือนอาตมาว่าไปพูดเรื่องการหลับตาไม่หลับตาทำไม ทำไมไม่อธิบายเรื่องอริยสัจ 4 

อาตมาก็เห็นว่าศาสนาพุทธทุกวันนี้ถ้าไม่กล้าพูดประเด็นหลับตานี้ คุณจะอธิบายอริยสัจ 4 เท่าไหร่   แต่เขาเอาแต่หลับตาไปอยู่ในภพภูมิเขาจะได้ยินอะไร เขาจะรู้อะไร เพราะเขาไม่สนใจเรื่องลืมตา และอริยสัจ 4 เขาก็ไม่สนใจ  เพราะฉะนั้นต้องแก้ปัญหาให้ถูกประเด็น หยุดอันโน้นและมาฟังอันนี้เขาจึงจะพอรู้เรื่อง แต่ตอนนี้เขาไม่ฟังหรอก 

คุณจะปฏิบัติอริยสัจ 4 มรรคมีองค์ 8 โพชฌงค์ 7 โพธิปักขิยธรรม 37 เขาไม่เอาหรอก ทุกวันนี้เขาเข้าป่าหลับตาอย่างเดียว เป็นยาวิเศษหม้อเดียวอย่างเดียว มันผิดเพี้ยนไปเป็นเดียรถีย์สุดโต่ง 

อาตมาไม่ต้องบอกเลยว่าให้มาฟังอริยสัจ 4 แต่คนได้ฟังแล้ว คนที่รู้อยู่แล้วทั่วไปคุณไพศาลก็รู้ว่านี่คือหัวใจศาสนาพุทธอริยสัจ 4 ใครก็รู้ใครก็เข้าใจไม่ต้องพูดก่อน แต่ก็หลับตานี้เขารู้หรือว่ามันเป็นเรื่องผิด มันไม่ต้องไปหลับตา เขารู้จริงหรือเขาไม่รู้เลย เป็นประเด็นหญ้าปากคอกหรือเปล่า ไม่แก้ตรงนี้ก่อนแล้วไม่คุ้มเลย เสียเวลาอาตมาจะมาทำงานศาสนานี้ 

คุณไพศาลคุณเรียงลำดับให้ถูกต้องอาตมาว่าได้เรียงลำดับถูกต้องนะอธิบายอันนี้ก่อน จะมาอธิบายหัวข้อที่ 1 2 3 4 ทำอย่างนี้อยู่ ขออภัยที่พูดเหมือนกับแย้งเถียง แต่ลีลาอาตมาเป็นอย่างนี้แหละอาตมาจอมเวที ชกกันมีลีลาอย่างนี้หากชกไม่มีลีลา ใครก็ไม่ดู

อริยสัจ4 รอบ 3 อาการ12 ขอไว้ก่อนวันหลังอธิบาย

แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ทำไมต้องตำหนินั่งหลับตา

_พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์เสาร์ แม้แต่หลวงพ่อคูณ บางเรื่องก็มีประเด็นเป็นอัศจรรย์

การประกาศศาสนาต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง

พ่อครูว่า….จะให้อัศจรรย์ตีลังกาหกคะเมนอย่างไรก็ตาม น่าทึ่งน่าอัศจรรย์อย่างไรก็ตามพระพุทธเจ้าก็โยนทิ้งหมด ไม่เห็นจะน่าอัศจรรย์แต่อย่างใด เขาเก่งจังก็แค่อิทธิปาฏิหาริย์อาเทสนาปาฏิหาริย์ก็ไม่ต้องไปใส่ใจพวกนั้นหรอก ที่พูดนี้ต้องหมายความอย่างนั้นบางประเด็นก็เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ แต่ถ้าเป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์นั้นน่าอัศจรรย์เขาไม่มี ในหลวงพ่อคูณในอาจารย์เสาร์เขาไม่มี อนุสาสนีปาฏิหาริย์ไม่มี เพราะไม่ได้สาธยายเรื่องคำสอนอย่างอนุสาสนีฯ มีแต่นั่งหรือเดินจงกรมและให้หยุดจิตอย่าให้จิตออกนอกตัว อย่าไปคิด ไปโน่น พิจารณาเหมือนกันแต่พิจารณาไปในทิศทางแบบเดียรถีย์ อธิบายฌานหลับตากันซึ่งไม่มีในพระไตรปิฎกไม่เชื่อไปดูเขาสอนเลย อธิบายในพระไตรปิฎกก็ไม่มี ไม่เชื่อไปถามสู่แดนธรรมเลยเขาบวชเรียนกับข้างนอกมาก่อน

ที่อาตมาพูดต้องต้านแรง เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ใช่แล้ว กระแสของสังคมทุกวันนี้เขาเชื่อว่าอย่างนั้นถูก อาตมาว่า 90% เลยนะศาสนาพุทธในเมืองไทยเชื่อกันว่าปฏิบัติต้องออกป่านั่งหลับตาปฏิบัตินั่นแหละคือพระแท้ๆของศาสนาพุทธ เขาเชื่ออย่างนั้นจริงๆเลย ซึ่งความจริงแล้วพระพุทธเจ้าออกบวชพระพุทธเจ้าออกบวชก็หลงผิดแบบนั้นออกป่าไปแบบนั้นมาเสียเวลาไป 6 ปีท่านก็บอกว่าไม่สำเร็จแล้วท่านก็บอกว่าไม่เอาแล้วเสียเวลา ท่านรู้ตัวแล้วก็เดินเข้าเมือง ท่านไปโปรด พระยสะ แล้วเพื่อนพระยสะ กับปัญจวัคคีย์ รวมเป็น 60 รูป บรรลุ 

เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าก็บอกว่าทั้ง 60 องค์บรรลุอรหันต์เป็นผู้มีบารมีสั่งสมบารมีมา บารมีของพระสมณโคดมก็มีเทศน์ให้ฟังเพียงกัณฑ์สองกัณฑ์ก็บรรลุแล้ว อยู่ดีๆถ้าหากไม่มีบารมีเก่าฟังธรรมแค่ 2 กัณฑ์จะไปบรรลุได้อย่างไร เสร็จแล้วพระพุทธเจ้าก็บอกพวกเธอจงเข้าไปสู่นิคมนครไม่ใช่เข้าป่า แยกกันไปคนละนิคม ไม่ต้องไปซ้ำซ้อนกัน แม้เราก็จะไปที่อุรุเวลาเสนานิคม ถ้ามีบารมีแล้วไม่ต้องอาศัยป่า แบบคนป่าไม่เอา ไปเข้าเมืองสอนคนเมือง เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาของคนเมืองไม่ใช่ศาสนาคนป่า อาตมาพูดแล้วพูดอีกมันยากมากเลยเมื่อเป็นอุปาทานหลงยึดถือไปเสียแล้ว อาตมาก็เป็นคนอาภัพรูปไม่หล่อพ่อไม่รวยความรู้ไม่มี สำนักไม่มี อาจารย์ไม่มีต่างๆนานา อาตมาไม่มีเครดิตอะไร คนที่มาฟังอาตมาแล้วเชื่อเข้าใจนับถือได้ มีบารมีมาทั้งนั้น 

_คำว่าแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง…

พ่อครูว่า..สอนอาตมาให้ทำเช่นนี้ จุดร่วมอย่างไร จุดต่างอย่างไร

อาตมาเป็นสังวาสเดียวกันกับชาวพุทธทุกคนเรียกว่าเป็นผู้ร่วมอยู่ในพุทธด้วยกันเหมือนกันหมดเลย เพียงแต่เป็นนานาสังวาส  นี่เรียกว่าจุดร่วมแล้ว ไม่ต้องแสวง อาตมาประกาศนานาสังวาส รู้จักที่ต่างจุดที่เหมือนกันอยู่แล้วจึงประกาศนานาสังวาส ต่อมาเถรสมาคมก็พูดว่าอัปเปหิ โพธิรักษ์ออกไปแล้ว ที่จริงอาตมาอัปเปหิหมู่ใหญ่ออกไปแล้วตั้งแต่ 6 ส.ค.. 2518 ที่วัดหนองกระทุ่ม นครปฐม 

ตอนแรกเขาก็รับไว้ดีนะ ปล่อยให้ประกาศนานาสังวาสไปได้ ต่อมาคิดอย่างไรไม่รู้ก็ดึงอาตมาเข้าไปทำสังฆกรรมทั้งที่เป็นเรื่องผิดพระธรรมวินัย บอกว่าจะต้องเอาเข้าสังฆกรรมมาดึงอาตมาเข้าไปในสังฆกรรมนี้ทำกันเอง ปกาสนียกรรม ประกาศให้ออก เหมือนกับพระพุทธเจ้าประกาศให้พระเทวทัตออกไปอย่างนี้เป็นต้น สมัยพระพุทธเจ้าทำครั้งเดียวแต่นี่ทำอย่างใหญ่เลย แล้วรวมกันทั้งพระมหานิกายและธรรมยุตรวมกันประกาศซึ่งเป็นเรื่องโมฆะ ผิดพระธรรมวินัยหลายอย่าง ก็น่าสังเวชใจศาสนาพุทธมันย่ำแย่จริงๆหน้ามืดตามัวจะทำอะไรก็ทำอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า แล้วอ่านพระธรรมวินัยด้วยแต่ตนเองละเมิดพระธรรมวินัยตัวเองทำก็เป็นเรื่องโมฆะหมดเพราะทำไม่ถูกต้อง 

ฆราวาส หรือ พุทธศาสนิกชนทั่วไปก็ไม่รู้เรื่องเพราะมันเป็นเรื่องธรรมเป็นวินัยของพระหรือสมณะ แต่เขาทำผิด มอมเมาคนให้เข้าใจความถูกเป็นความผิด ความผิดเป็นความถูก อาตมาก็ว่า ศาสนาพุทธที่ไม่รู้จะชื่นชมตรงไหนมันเลยน่าสังเวชใจ 

อาตมาเองน่ะร่วมอยู่แล้ว และก็พยายามรู้ความต่าง นานา ก็ทำปฏิบัติครบหมดเลยเป็นนักกฎหมาย แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างคืออย่างไร 

อาตมาทำถูกต้องแล้ว แต่ทางโน้นไม่รู้เรื่องไม่ยอมรับ ทำเหมือนตัวเองถูกแล้วพยายามป้ายผิดใส่อาตมาสารพัด อาตมามั่นใจในความจริงความถูกต้องและก็ยืนยันมาจนวันนี้ 40-50 ปีมาแล้ว คนมีอำนาจมีอำนาจทางโลกที่จะทำกับอาตมาได้ปู้ยี่ฟ

ปู้ยำคุณก็ทำกับอาตมาไปได้งลลลลลฟๆลฟฟๆฝสารพัดจะมาก็ทนได้เพราะอาตมาเป็นสีทนได้ 

ขออภัยที่ดูเหมือนไปแย้งกับคุณไพศาล

นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ

_สิกขมาตกล้าข้ามฝัน น้ำตาไหลเพราะว่าดูรายการทีวี คนแก่ตายาย 2 คนนั่งกินข้าวเปล่า 1 กล่อง ช้อน 2 คัน ข้างถังขยะ ก็นั่งดูน้ำตาไหล ไปเช็คตัวเองว่าตัวเองทุกข์หรือไม่ก็ไม่ทุกข์ แต่ไปคิดแบบเคหสิตะ

อีกเรื่องคือ เรื่องประเทศไทยเป็นแดนโลกุตระ มีคนโลกุตระอยู่เยอะในเมืองไทย ดิฉันก็มองพระทั่วไปก็มีแต่ทุศีล ปฏิบัติเคร่งก็ไม่ถูกทาง นักการเมืองก็โกงเยอะ ประชาชนหลงเสพสิ่งเสพติดการพนัน ใจก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่าประเทศไทยมีคนที่เป็นโลกุตระเยอะ กับคนรวยนั้นน่าสงสาร ดิฉันก็คิดแบบทางโลกทั่วไปว่าคนจนน่าสงสาร เหตุปัจจัยนี้ทำให้ดิฉันสะดุดใจว่าได้คิดแบบคนโลกๆมา เหตุปัจจัยวันต่อมาก็เริ่มคิดได้ว่าเราสงสารคนผิดนะ คนจนไม่ใช่คนน่าสงสาร คนจนเป็นคนน่าช่วยเหลือคนรวยเป็นคนน่าสงสาร แต่ประเทศไทยเป็นโลกุตระ  เพราะอีกวันหนึ่งเขาออกข่าวว่าตากับยายผ่านไป 1 วัน มีคนส่งเงินไปช่วย 8 แสนบาท ตาออกมาพูดว่าพอแล้วไม่ขอรับอีกแล้วเพราะว่า 8 แสนก็พอใช้ไปอีกจนถึงที่สุด ทุกวันนี้ก็ได้เงินจากคนชรา 2 คนรวมกัน หักใช้เดือนละ 5,000 บาทแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว 

วันนั้นดิฉันได้คิดถึงคำสอนของพ่อครู ว่าตัวเองไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ พ่อครูว่า..เมืองไทยมีคนโลกุตระ 

แต่พอมาได้ฟังเรื่องนี้ ตาก็มีโลกุตระ คนไทยก็ช่วยกัน วันเดียวผ่านไปได้ถึง 8 แสน เรานี่มันโง่มานาน ส่วนคนรวยคนจน ก็กำลังเจาะให้จิตมันสัมมาทิฏฐิเพราะว่าตัวเองมีศรัทธาไม่บริบูรณ์ 

พ่อครูว่า…ฟังสิกขมาตุกล้าข้ามฝันมีนิทานเรื่องราวมาเล่าให้ฟังเข้าใจเพิ่มขึ้นไหมว่าศรัทธายังไม่บริบูรณ์เพราะยังเข้าใจความถ้วนรอบถึงความเป็นโลกุตระยังไม่ได้ 

คนมีโลกุตรธรรม

คำว่าพอ ใจพอ อาตมาพยายามอธิบายว่าแปลว่าใจพอ อย่าไปแปลว่า พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ไปเบี้ยวบาลี ก็หมายความว่าไปเอาใจคนที่ฐานะดี คนรวยก็รวยไปเถอะ พอใจ แม้แต่จะมีดอกเบี้ยไหลมาเป็นก๊อกน้ำในแต่ละวันก็พอใจเถอะไม่ต้องไปเอาเพิ่มหรอก มันก็ไปช่วยจิตใจเขาเหมือนกันนะไม่ต้องไป ฮึดฮัดอะไร แต่เขาก็ยังดีใจที่ได้แบบนั้นถ้าไม่ได้ผลประโยชน์แบบนั้นต่อวันเขาก็จะไม่พอใจ เขาก็จะรู้สึกว่าทำไมมันลดลงไป 

เพราะฉะนั้นคำว่า “ใจพอ”นี้ ซึ่งในหลวงของเราเอาคำนี้มาเป็นคำหลัก ในการที่จะประกาศคุณธรรมของคน ใช้เป็นคำที่ไขความ เอาคำว่า เศรษฐกิจพอเพียง ให้ตีความคำว่าพอให้แตก แล้วปฏิบัติให้จริง ถ้ามีใจพอจริงคนที่เป็นคนรวยได้รายได้มาขนาดหนึ่งแล้วในแต่ละวัน เดือนหนึ่งก็ได้เยอะ คุณพอแล้วคุณหยุดได้ไหม พอคือหยุด ไม่ต้องรวยมากกว่านี้ มีมากกว่านั้นคุณก็ต้องสะพัดออกกระจายออก ถ้าคุณเข้าใจเช่นนี้ เท่าที่ได้ฟังคำตรัสของในหลวง คุณพอ ที่มีมาได้แล้วคุณก็พอ เกินกว่านั้นก็สะพัดออก พอกินจนตาย เหมือนกับตายายที่ได้มาแปดแสนก็บอกว่าพอแล้วใช้จนตายก็พอแล้ว นี่คือใจพอที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นคุณธรรมของความเป็นเลิศของจิตมนุษย์ 

แต่มนุษย์ที่รวยไม่รู้จักพอ แล้วมันก็เผินนะ เขาไม่รู้จักวันที่พอ แม้แต่วันที่ตายไปแล้วเขาก็จะไม่รู้ว่าควรจะพอ เขาจะไม่มีภูมิปัญญารู้ว่าจิตควรจะมีจิตอย่างไร สันตุฏฐี คือ มีพฤติการของจิตว่าพอ นี่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก 

เรื่องหลับตายากกว่าเรื่องไม่กินเนื้อสัตว์

_ใจฟ้า…ปี 2520 พ่อครูได้กล่าวว่า อาตมาแย่ ร้านปาท่องโก๋ ออกมา เพราะว่าคนกินสูตรเก่าแล้วท้องเสีย ตอนนั้นดิฉันก็งงว่ามันเกี่ยวกันตรงไหน “ปาท่องโก๋กับศาสนา” 

ต่อมาปีต่อๆไป พ่อครูว่า..ยุคพวกคุณจะได้เห็นนรกต่ำสุด สวรรค์สูงสุด พอพ่อครูพาไปราชดำเนินเห็นเขายิงกันหูดับตับไหม้ ยิ่งเห็นเขายิงแก๊สน้ำตา เข้าใจถึงนรกต่ำสุด แต่วันนี้มาถึงบ้านราชฯ เข้าใจถึงสวรรค์สูงสุด 

ปีนี้พ่อครูตีหลับตาปฏิบัติ แต่ว่ามันทำให้ตีร้านปาท่องโก๋สูตรแย่ๆออก 

พ่อครูว่า…คุณชัดเจนแล้ว เรื่องหลับตากับเรื่องไม่กินเนื้อสัตว์เรื่องไหนจะยากกว่ากัน…เรื่องหลับตายากกว่า…

อาตมาก็ทำเรื่องง่ายก่อน เรื่องกินเนื้อสัตว์นี้แต่ก่อนอาตมาใช้เป็นธรรมาวุธ เบอร์ 1 เรื่องนั่งหลับตาไม่ใช่เบอร์ 1 ตอนนี้ก็มาถึงคราวที่จะต้องตีเรื่องนั่งหลับตาอย่างหนัก เพราะว่ามันเป็นแกนเป็นแก่นของศาสนาพุทธเลย ศาสนาพุทธลืมตาปฏิบัติไม่มีหลับตาเลย ในตอนใดๆ ตอนนอนก็หลับตาไปสิ แต่เวลาลืมตาคนต้องปฏิบัติให้เกิดสมาธิ เกิดฌานเกิดวิมุติให้ได้ ลืมตาปฏิบัติทั้งนั้นเลย ความหมายแค่นี้ศาสนาพุทธต้องบรรลุธรรมด้วยกันลืมตา จักขุมาปรินิพพุโพติ หมายความว่าการจะไปถึงนิพพานนี้จะถึงนิพพานได้ก็ด้วยการมีจักษุ มีปัญญา ญาณ ​วิชชา อาโลก จะต้องอย่างนั้น แต่เขาเข้าใจไม่ได้หรอก 

จักขุมาปรินิพพุโพติ ในบรรดาศาสนาพุทธเขาไม่เข้าใจว่าเป็นอย่างไรหรอก อาตมาพูดมาเยอะแล้วถ้าฟังเขาจะเข้าใจว่าเรื่อง  จักขุมาปรินิพพุโพติ ปรินิพพาน ทำเรื่องของนิพพานให้ชัดเจนทั้งหมดนี้มันต้องเกี่ยวกับการลืมตาต้องมีดวงตา ไม่ใช่หลับตา คำว่าจักขุ ไม่ได้หมายถึงให้ไปหลับตาแต่ให้ลืมตาปฏิบัติให้มี จักขุ ปัสสติ มีการเห็นภายนอกด้วย พหิทา 

ต้องมีภายนอกเสมอขาดภายนอกไม่ได้เลย ใช้ภาษาอีกอันหนึ่งว่า ขาดกายไม่ได้ กายนี้เป็นภายนอก แต่หมายถึงจิตมโนวิญญาณ นี่เห็นไหมความยากของสิริมหามายา 

กาย ต้องมีภายนอกด้วยแต่หมายถึงจิตมโนวิญญาณเพราะกายต้องมี 2 อย่างนี้เป็นต้น 

การที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าผู้ที่มาบวชจะต้องแยกกายแยกจิตเป็น โอ้โหไม่ใช่ง่าย จะเข้าใจเรื่องกายเรื่องจิตไม่ใช่ง่ายๆ ถ้าเข้าใจกายและจิตออกจะแยกอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยามออก แต่เดี๋ยวนี้เขารู้เรื่องที่ไหนที่อาตมาพูดนี้ 

ที่อาตมาพูดนี้พอเข้าใจกันไหม ไม่เข้าใจว่าเอาอะไรมาพูดไม่เห็นรู้เรื่องเลยมีไหม?คนใหม่ๆที่มา …

แน่นอน หลายคนที่มาใหม่ยังไม่รู้แต่ไม่อยากยกมือเพราะจะขายหน้าเปล่าๆ ก็ไม่เป็นไร

ก็ใช้ลักษณะอย่างนี้เป็นการขยายความหมายขยายความรู้ของศาสนาพุทธไปเรื่อยๆ 

_0802166 กราบนมัสการพ่อท่านด้วยความเคารพอย่างสูง ขอถามว่าในหลวง ร.9 ท่านรู้หรือเปล่าครับว่าเป็นโพธิสัตว์ระดับ 6 จะถือว่าท่านเป็นสยังอภิญญาด้วยหรือเปล่าครับ?/มงคล

พ่อครูว่า…มีคนบอกในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ส่วนจิตใจของท่านจะรู้หรือไม่อาตมาไม่ทราบแล้วท่านจะรู้ว่าเป็นโพธิสัตว์เองหรือไม่ ยิ่งเป็นระดับ 6 อาตมาว่าท่านไม่รู้หรอก จะถือว่าท่านเป็น สยังอภิญญาก็ยัง

สยังอภิญญา นับตั้งแต่โพธิสัตว์ขั้นที่ 7 เป็นต้นไปขั้นที่ 6 ยังไม่นับ แต่ท่านมีความรู้ของท่านเอง 

เช่นท่านรู้ว่าความจนนี้ประเสริฐ ร่ำรวยนี้ไม่ประเสริฐ ท่านก็ตรัสว่าให้บริหารแบบคนจนมากขาดทุนเป็นเรื่องประเสริฐ ไปรวยไม่ประเสริฐหรอก ท่านก็ตอบด้วยความจริง 

คนธรรมดาสามัญจะไม่พูดเช่นนี้โดยเฉพาะยิ่งมีตำแหน่งหน้าที่อย่างในหลวงท่านตรัสอะไรไม่ใช่เรื่องธรรมดา ท่านตรัสแล้ว จะต้องเป็นคำหมายความจริงเป็นเรื่องที่คนจะต้องเคารพนับถือเป็นเรื่องที่จะต้องทำได้ด้วย 

ยิ่งเดือนนี้บอกว่าจะต้องทำตามคำสอนของพ่อ …ขออภัยพวกนี้พวกตอแหลบอกว่าทำตามคำสอนพ่อไม่เชื่อหรอก  สอนให้มาจนให้ขาดทุนคือกำไรเขาเชื่อหรือ?

ใครเชื่อบ้าง…ที่เขาว่า เขาจะทำตามคำพ่อสอน …แต่พวกเรานี้เชื่อพวกเราทำตามประพฤติปฏิบัติอยู่แล้วแต่เขาไม่เชื่อ 

อาตมาภูมิใจนะที่พาคนมาจนได้ขนาดนี้ พวกเรานี้มาจนแล้วจนอย่างมีปัญญา จนอย่างเข้าใจ  และตั้งใจมาจนก็จนได้ขนาดนี้ตามกิเลสของแต่ละคน แต่ละคนมาจนแต่จนได้ขนาดนี้

จนจริงๆจนกระทั่งชีวิตนี้เราอยู่กับหมู่กลุ่มนี้แล้วเราไม่ต้องมีเงินเลย ก็เป็นได้ บางคนมีและมั่นใจด้วยทั้งๆที่ก็ทำงานทั้งวันขยันหมั่นเพียร ไม่มีรายได้อะไรเลย ไม่รับรายได้เลยเช่น 

ทำงานทุกวันนี้แลกเอาเงินเดือนได้แต่ไม่เอา แต่บางคนก็มีสะสมของตัวเองอยู่อันนี้ก็ยกไว้ 

ส่วนคนที่แม้จะมีแล้วก็เอาเข้ากองกลาง ไม่เอาใส่ตัวเองแล้วก็มีเยอะในพวกเรา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ที่ทำได้อย่างนี้ รู้ว่ามันหมดทุกข์ปลดความทุกข์ด้วย ทำอย่างนี้สบายใจเลยไม่ทุกข์ด้วย ตังค์ที่จะเกิด เอ้ ก็มีรายได้อย่างนี้ก็เอาเข้ากองกลางไป  แต่หากเราจำเป็นจะต้องใช้ก็ไปเบิกแล้วเบิกไม่ได้ด้วย ทั้งๆที่เราก็เอาเข้ากองกลางแต่เบิกไม่ได้ มันก็จะรู้สึก จุกๆหน่อยๆ ก็จะมีอย่างนี้บ้าง แต่บางคนก็บอกว่าเราไม่มีบารมีเลยนะ อุตส่าห์ช่วยส่วนกลางมากแล้ว อย่างน้อยรายได้ที่เราทำทุกวันนี้ก็เอาเข้ากองกลางหมดอยู่แล้วบางคนก็คิดก็ถืออย่างนี้เหมือนกันว่าฉันมีแรงงานนะ ฉันมีให้ส่วนกลางนะฉันไม่ได้มาอยู่ฟรีนะ ส่วนคนที่ไม่ได้ทำงานอะไรลอยไปลอยมาวันหนึ่งวันหนึ่งอาศัยกินอยู่ก็ไม่ละอายก็แล้วไป หากคนรู้ตัวแล้วก็ต้องช่วยกันทำงาน เป็นครอบครัวใหญ่ ไม่ใช่ว่ามาแฝงกินใช้ โดยสัจจะโดยหนี้กรรมแล้วมันมีจริง มาแฝงอยู่ที่เราเอง หากไปเอาเปรียบคนที่ไม่สูงไม่เจริญก็บาปไม่เท่าไหร่ แต่หากเอาเปรียบคนที่สูงคนที่เจริญมากๆแล้วก็จะเป็นบาปที่มากยิ่งขึ้น แล้วสังคมอโศกนี้เป็นคนสูงนะ ใครมากินแรงมาเอาเปรียบในนี้บาปจะมีสูง นี่ไม่ได้ขู่นะ พูดสัจธรรมสู่ฟัง 

ในหลวงท่านยังไม่เป็นสยังอภิญญา อาตมาพูดสาระของศาสนาพุทธ คนที่จะหาว่าอวดอุตตริมนุสสธรรมก็เป็นเรื่องที่เขาคิดไป อาตมาก็ว่าเป็นเรื่องที่ควรทำควรพูด

_0887630 ขอขอบคุณมือกล้องที่จับภาพไอ้เทพเพื่อนรักผมออกอากาศวันนี้/พล

_แพรวชมพู…หากลูกอยากเรียนที่บ้านราชฯ เต็มใจที่จะอยู่แต่ไม่มีใครสนับสนุนให้ลูกอยู่ แถมจะนำลูกออกไปด้วย ลูกควรทำอย่างไรดีคะ ขนาดแม่ ลูกยังอยากให้อยู่เลยค่ะ 

พ่อครูว่า…ก็ใครจะไปใหญ่เกินกว่าแม่เรา แม่เราอยากให้อยู่ก็อยู่สิ ก็คิดว่าแม่นั่นแหละพามาอยู่ คนอื่นจะเป็นพ่อหรือจะเป็นคนอื่นอะไรก็ อาตมาเองก็เคยพูดแล้วว่าคนที่จะมาเรียนเป็นนักเรียนก็ตามเป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กที่จะมาเรียนก็ตาม ทำความเข้าใจแล้วจะเป็นปัญหาในครอบครัว ก็ควรจะต้องเต็มใจทั้งเด็กที่เขาจะมาทั้งพ่อทั้งแม่ 

ควรจะต้องตกลงกันให้ดี ถ้าไม่ตกลงกันมาแล้วจะเป็นปัญหาอย่างที่ถามมา ที่นี่ คนอื่นเป็นญาติก็คงปรารถนาดี ลูกก็ดี พ่อแม่ก็ดี ก็ควรจะต้องลูกเป็นของเรา ญาติก็ญาติ หากเราเห็นว่าอันนี้ควรอยู่ก็ควรจะเอาไว้ คนที่เอาลูกมาที่นี่มาเรียน อาตมาก็ว่าเป็นผู้ที่มีภูมิปัญญามีความรู้ประเสริฐเป็นความรู้อันประเสริฐ มาเรียนที่นี่ คนที่ไม่มีความรู้อันประเสริฐเขาจะไม่ส่งลูกมาเรียนที่นี่หรอก ทั้งๆที่ที่นี่เรียนฟรี 

เรียนฟรีนี้เลี้ยงอย่างลูกหลาน เหมือนเรียนอยู่ในครอบครัว ไม่ได้เรียนแบบโรงเรียนประจำเหมือนโรงเรียนอื่น เด็กที่มาอยู่ที่นี่มันเหมือนลูกในครอบครัวเลี้ยงดูอย่างนั้นจริงๆเลย แล้วเด็กอยู่ที่นี่ เป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง เด็กเขาอยู่ที่นี่เขายังไม่ประสีประสา โตขึ้นเขาก็จะรู้ว่าเขาได้มีชีวิตอยู่ที่นี่ 5-6 ปีจะรู้เลยว่าเขาจะไปมีครอบครัวไปมีลูกเต้าไปมีอะไรต่อไปในอนาคตจะไปดูแลรักษาเลี้ยงดู เขาจะรู้ไหมว่าเขาจะให้ลูกเขาไปเข้าเรียนประจำที่อื่นกับโรงเรียนที่นี่เขาจะรู้ทันทีเลยว่าจะไม่เหมือนกันเลย ที่เขาจะต้องจ่ายเงินจะต้องอะไรต่างๆนานา การดูแลจะไม่เหมือนกับที่นี่ดูแล เพราะว่าตัวเขาเองเขาอยู่ที่นี่เขาจะรู้เลย เป็นเรื่องลึกซึ้งซับซ้อนยิ่งใหญ่ 

เด็กที่มาอยู่เรียนที่นี่แม่จะไม่เต็มใจ ฟังให้ดีๆ เป็นกุศลของลูกหลานที่ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว เข้าใจให้ดีๆ คนที่ไม่มีกุศลไม่มีบารมีพอไม่ได้เข้ามาหรอกที่นี่ เป็นคนต่างประเทศที่ไม่อยู่ในศาสนาพุทธอยู่ข้างนอกจะได้เข้ามาที่ไหนล่ะ หรือแม้แต่คนเป็นชาวพุทธที่อยู่ในประเทศไทยอีกเยอะแยะจะได้เข้ามาที่นี่ที่ไหน ต่อให้เป็นคนที่รักลูกขนาดไหนก็ไม่มีปัญญารู้ว่าที่นี่ควรจะให้ลูกมาเรียน คนที่มีปัญญาแล้วไม่ว่าจะเป็นคนที่ฐานะดี ลูกของบางคนมีเงินทองเป็น 10 ล้าน 100 ล้านอยู่ก็เอาลูกมาเรียนที่นี่ไม่ใช่มีแต่คนจน แน่นอนคนจนก็ไม่มีปัญหาสบายอยู่แล้วเอาลูกมาเรียนที่นี่สบาย ก็เลี้ยงลูกให้เขาสบายเลยทั้งกินทั้งอยู่ทั้งเรียน สบาย มาที่นี่แล้วเท่ากับปล่อยให้ที่นี่ดูแลเลี้ยงดูก็สบาย 

_สมณะฟ้าไท…คือเรื่องนี้มันมีประเด็น เด็กคนนี้ถ้าเดาไม่ผิดคือพ่อเขาเต็มใจให้ลูกมาเรียนที่นี่ พ่อพามาเรียนแต่แม่ไม่เห็นด้วย เขาจะต้องถามว่าเขาจะทำอย่างไร เพราะมันเคยมีกรณีเด็กที่อยู่ที่ปฐมอโศก แม่พามาเรียนแล้วต่อมาแม่ตายตอนอยู่ม.2 แล้วญาติก็ไม่มีใครเห็นด้วย เขาก็จะเอากลับ เขาก็ถามว่าเด็กคิดอย่างไร เหนือพธูบอกว่า หนูจะเรียนอยู่ที่นี่และจะกินมังสวิรัติจนกว่าจะจบม 6 อยู่ที่นี่แหละ ญาติเขาก็ต้องยอม เค้ากล้าประกาศต่อหน้าสาธารณะ คนนี้ก็มีอาการคล้ายๆกัน พ่อเขาพามาเรียน แล้วพ่อเขาตาย แต่เขาดูเหมือนจะไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ วันที่เขากราบแม่ เขาจะประกาศไหมว่าจะอยู่ที่นี่ 

พ่อครูว่า…เรื่องนี้จริงๆแล้วอาตมาไขความอีกนิดว่า จริงๆแล้ว อาตมาเป็นสมณะมาปฏิบัติธรรมไม่ต้องเปิดโรงเรียนก็ได้ เพราะว่าเปิดแล้วก็เป็นภาระไม่ใช่เล่นๆ แล้วไม่ใช่ว่าอาตมามีวัดอยู่เพียงวัดเดียว อาตมามีตั้งกี่วัดแล้วเปิดโรงเรียนไม่รู้กี่แห่ง แล้วก็ต้องดูแลช่วยเหลือกันก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยทำให้โรงเรียนที่เปิดมาแล้วหลายสิบปี น่าจะ 30 กว่าปีแล้ว เรียนจบออกไปมีครอบครัวอายุ 40 กว่าแล้ว ผู้ใหญ่บ้านของเราก็เป็นศิษย์เก่ารุ่นแรกเลย อายุ 40 กว่า 

ที่อาตมาต้องทำ เพราะอาตมาว่า เด็กๆที่มาเรียนที่นี่มีบารมี ผู้ใหญ่ที่มีบารมีแต่มีภาระ แต่เด็กๆที่มีบารมีนี้ภาระยังไม่มี และเมื่อเปิดโรงเรียนไม่ได้เก็บเงิน เพราะฉะนั้นผู้ที่มีลูกแต่ฐานะไม่ค่อยดีจะเอามา เปิดทางเป็นช่องทางให้แก่คนเหล่านั้น จะได้ช่วยสังคมช่วยคนฐานะไม่ดีให้ได้เล่าเรียน ถ้าหากเรียนที่นี่แล้วเรียนจบม. 6 จะเรียนต่อ เดี๋ยวนี้บอกได้ว่าทุนของที่นี่สนับสนุนให้เรียนได้ จะเรียนระดับอุดมศึกษาก็มีส่งเสริม แต่ก่อนนี้เรายังไม่มีทุนหรือยังไม่สามารถที่จะสนับสนุนได้ แต่เดี๋ยวนี้สามารถส่งให้เรียนได้แล้วเราก็บอกไปช่วยกันไป 

อาตมาเองอาตมาเป็นโพธิสัตว์อาตมาเข้าใจเรื่องเหล่านี้อย่างชัดเจนเป็นเรื่องของมนุษยชาติจะต้องทำ ไม่ได้ทำเพื่อโก้ ไม่ได้ทำเท่ หรือแบบโลกเขาทำ แต่ทำเพราะว่ามันเป็นสาระสัจจะของมนุษยชาติ 

อาตมาเปิดเป็นโรงเรียนเอกชนเพื่อช่วยรัฐบาล แต่เอกชนของอื่นๆเขาเก็บเงิน แต่เราเอกชนของเราไม่เก็บเงิน โรงเรียนเอกชนที่เขาสอนได้ดียิ่งกว่าโรงเรียนรัฐบาล คนก็นิยม แม้แต่ราคาแพงก็ตามก็เอาลูกไปเรียน ก็รู้ๆกันอยู่ ก็ทำกันอยู่ ถ้ายิ่งมารู้ว่า ชาวอโศกนี้ดีกว่าโรงเรียนเอกชนแถวนั้นเพราะว่าสอนให้เด็กเป็นโลกุตระ แถมไม่เอาเงินด้วย ที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือเลี้ยงอย่างลูกอย่างหลานอันนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลี้ยงอย่างลูกอย่างหลานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เด็กที่นี่ปลอดภัยก็เรียนโรงเรียนข้างนอก แม้จะเป็นโรงเรียนที่ สูงๆราคาแพง โรงเรียนแบบนั้นก็ไม่ปลอดภัยเท่ากับโรงเรียนชาวอโศก 

คนที่ตาดี ไม่ใช่มีฐานะดีก็ส่งมาเรียนบางคนมีเงินถึง 10 ล้าน 100 ล้านก็ส่งมาเรียนก็ไม่มีปัญหาให้ลูกมาเรียนที่นี่ได้ยังไงเป็นต้น 

เรื่องนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เรื่องที่ทำนี้เป็นเรื่องหน้าที่พระโพธิสัตว์ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายหรอก มาทำในยุคนี้ ขอยืนยันว่าโรงเรียนแบบนี้เป็นโรงเรียนโลกุตระเดียวในโลก พูดจริงๆยิ่งใหญ่ โรงเรียนแบบนี้มีโรงเรียนเดียวในโลกที่เป็นโรงเรียนโลกุตระแบบนี้ เด็กที่นี่แม้แต่เขาไม่ประสีประสากับคำว่าโลกุตระ แต่สภาวะมีโลกุตระ อย่างน้อยก็มีการออสโมซิสซึมลึกเข้าไปเป็นสัจจะ 

_ขอเล่าถึงผัสสะที่เจอนะคะ มันเป็นโจทย์ที่หนักของหนู..ผู้ใหญ่รอบตัวมีแต่คนที่พูดดุว่า ไม่มีการค่อยๆพูดค่อยๆถาม ใช้อารมณ์ (สถานที่นี้คือ…ที่อุทยานบุญนิยม) …หนูก็ถามผู้ใหญ่ว่าจะให้ทำอย่างไรก็เจอโจทย์หึงหวงคู่ชีวิตของผู้ใหญ่ ถามผู้ใหญ่อีกคนเขาก็ไม่รู้วิธีแน่ชัดที่จะทำงานอันนี้ แต่พอหนูทำผิดพลาดไปก็ดุขึ้นมากลางคัน หนูก็พยายามแก้ไขแต่ดูไม่ค่อยชอบใจ ใครทำงานก็คอยดุคอยบ่น มีอีกว่าอย่าพูดมาก แต่ที่เขาดุหนูมาว่า อย่าไปเล่าให้ใครฟัง หนูเป็นเพียงจิตอาสา เงินส่วนตัวมีใช้ หนูไม่ใช่ขี้ข้าแล้วมาบอกว่าให้ไปฟังธรรมะบ้าง  ขอบคุณที่เจตนาดี แต่ถ้าผู้ใหญ่ได้ฟังธรรมบ่อยๆและเป็นแบบนี้มันได้มรรคผลอะไร หนูพยายามย่อยโจทย์แล้วแต่มันไม่หลุด คำที่ถูกต่อว่ามามากมายมันถาโถมหนักมาก ขอพ่อครูช่วยให้ธรรมะให้ออกจากทุกข์อันนี้ด้วย 

พ่อครูว่า…เข้าใครก็ดูตัวเองนะ 

ทำตนเองให้เป็นตัวผ้าขี้ริ้วให้เขาด่าเลย เขาจะด่ายังไงก็ให้ด่าไป ถ้าเขาไม่รู้ตัวเขาก็จะด่าอย่างนั้นอะ เราอย่าไปแก้ไขคนอื่น เราแก้ไขตัวเองมันง่ายกว่า ไปแก้ไขคนอื่นมันยาก

ถ้าเราแก้ไขเอง เช่นที่อาตมาแนะนำไปว่า คุณยอมแพ้ไปเลย คุณเป็นคนยอมแพ้คุณไม่ขาดทุนคุณไม่ได้ตกต่ำ อาตมานี้อยู่ได้เพราะเป็นผู้แพ้ ยอมแพ้ตลอดกาลนาน อาตมาจึงหนังเหนียว ยืนยงคงกระพัน อยู่ได้อย่างสง่าผ่าเผย จริงๆ 

อย่าไปถือสาคนข่มเรา คนที่เขาดูถูกดูแคลนเราหรือคนที่จะทำไม่ดีข่ม มันก็เรื่องของเขา การข่มดูถูกมันไม่ดีมันเป็นนิสัยไม่ดีพฤติกรรมไม่ดี เราก็ไม่ทำแบบเขาถือว่าเขาเป็นครูเป็นตัวอย่างที่ทำไม่ดีถ้าเราเห็นเราจะได้กลัวเราจะได้ไม่ทำแบบเขา อย่างนี้มันชัดเจนนะ ว่ามันไม่ดีเราก็ขอบคุณเขามองในแง่ที่เขาทำสิ่งที่ไม่ดี เราจะเห็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างเขาถือเป็นครู คุณไปเอาเงินไปจ้างให้คนทำชั่วทำชั่วให้ดูได้ไหม มีเงินกี่ล้านจะไปจ้างให้เขาทำได้ไหม ก็ไม่ได้ โอ้โห.. ต้องขอบคุณเขา แต่ไม่ต้องขอบคุณตรงๆนะ แหม..ทำความไม่ดีให้เราเห็น เขาลงทุนจริงๆเลย ใช่ไหม เขาไม่รู้ถ้าเขารู้เขาก็ไม่ทำ 

จริงๆแล้วคุณเห็นว่าเขาไม่ดีจริงๆหรือเปล่า เขาทำดีเหมาะสมแล้วแต่คุณเองหลงตัวเองรักตัวเองเกินไป เขาแตะต้องไม่ได้ถือตัวถือดีอะไรมากมายอย่างนี้หรือเปล่า นี่สิ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตรวจสอบ 

_พิมพ์เพชรรุ้ง…สภาวะที่เกิดขึ้น เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลําบาก ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่ต้องเป็นมารดาทำหน้าที่เป็นมารดาและเป็นภรรยาด้วยก็ยิ่งเผชิญกับความทุกข์ยากหนักขึ้น แล้วยังมีตำราบางตำราบอกว่า คนที่มาเกิดเป็นผู้หญิงเพราะว่าในชาติก่อนไปทำผิดศีลข้อที่ 3 มา  แต่ลูกเชื่อว่าจริงๆแล้วยังมีผู้หญิงอีกจำนวนไม่น้อยที่ยินดีที่จะเกิดเป็นผู้หญิง เพื่อบำเพ็ญบารมีตามที่ตั้งปณิธานเอาไว้ อย่างเช่นที่เราทราบในเรื่องพระพุทธเจ้า นางยโสธราพิมพาที่เกิดมาชาติแล้วชาติเล่าเพื่อบำเพ็ญเป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ แล้วก็ปรินิพพานในอัตภาพที่เป็นผู้หญิงด้วย ลูกก็เข้าใจอย่างนี้บอกว่า มีเพียงคำสอนของพุทธศาสนาเท่านั้นที่สอนศีลสมาธิปัญญาที่ผู้หญิงทุกคน แม้จะทำหน้าที่เป็นมารดาเป็นภรรยา หรือเป็นผู้หญิงที่ตั้งใจบำเพ็ญบารมีไปในแนวทางโพธิสัตว์ ทุกคนก็ต้องยึดเหนี่ยวคำสอนพระพุทธเจ้าเป็นหลัก ลูกเข้าใจถูกไหมคะ ? 

พ่อครูว่า…ถูก ทำความเข้าใจกับคำสอนพระพุทธเจ้าให้สัมมาทิฎฐิให้ถูกแก่นสาร รู้จักสัจจะให้ดีๆและปฏิบัติให้ตรง ตรงที่ว่า เราต้องรู้ฐานะของตัวเองด้วย เราอยู่ในฐานะอะไรแค่ไหน ฐานะมีทั้งฐานะทางธรรม มีทั้งฐานะทางโลก ทางโลกนี้มีฐานะทางวัยวุฒิ ฐานะทางสมมุติ ฐานะทางอะไรต่ออะไรอีกเยอะแยะหลายอย่าง ถ้าเข้าใจถูกแล้วก็ต้องทำให้สอดคล้อง มันก็สบาย ทำอะไรก็เป็นไปได้ดี 

อย่างอาตมายกตัวอย่าง ใครก็คงเข้าใจไม่ได้ง่ายๆ อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ทำงานตามสถานะของอาตมา อาตมาสบายใจทุกวันนี้ทำงานสบาย อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์อย่างนั้นอย่างนี้พูดจนกระทั่งเป็นอจินไตบางสิ่งบางอย่างก็พูด อาตมาสบายใจแสดงธรรมสบายหมดเลย ซึ่งใครเข้าใจอาตมาไม่ได้ว่าอาตมาสบายอย่างไร  อาตมาสบายเพราะว่าไม่ได้ปิดบัง ทราบว่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องปิดบัง แต่คนเข้าใจผิดว่าบรรลุธรรมแล้วไม่ต้องไปบอกใคร  

อาตมาต้องบอกนัยสองนัย 1) ต้องบอกเพราะว่าสังคมมันไม่อยากให้บอกก็เลยต้องบอก เพราะว่า สังคมที่เข้าใจผิดว่าไม่ให้บอก บอกไม่ได้  อาตมาก็เลยต้องบอก คนที่ไม่อยากให้บอกเพราะอะไร

เพราะหากเปิดเผยความจริงแล้วจะมีข้อเปรียบเทียบกับตัวเขาเองเพราะเขาเป็นอย่างที่อาตมาเป็นไม่ได้ เช่นขณะนี้มีใครที่เป็นได้อย่างอาตมา 

1 อาตมาไม่เคยหวั่นไหว ไม่ว่ากายวาจาใจกรณีที่ใครเขาตีอาตมามาก ไม่เคยโศกเศร้าร่ำร้องมีแต่พูดความจริงไปว่ามันไม่ดีไม่ถูก เราก็บอกไปค้านแย้งกับเขาไป อย่างเบาจนกระทั่งอย่างแรงจนเหมือนกับอวดตัวยืนยันตัวเองว่าเหนือเขา ขออภัยที่ต้องพูด อาตมาเหนือเขาจริงๆ อาตมาต้องพูดความจริง เช่นเมื่อกี้อาตมาพูดว่าอาตมาเหนือเขาจริงๆอาตมาพูดความจริง ไม่ได้พูดเล่นลิ้น แต่พูดด้วยการไตร่ตรองแล้ว คนจะเข้าใจว่าอาตมาพูดเบ่งทับคนอื่น แต่อาตมาไม่ได้พูดด้วยจิตอยากอวดเบ่งข่มเขา ไม่มีเลย อาตมารู้จิตเจตสิกรูปนิพพาน อาตมานั้นเข้าใจ อาการลิงคนิมิต ตามคำพูดอธิบายอย่างที่อาตมากำลังแสดงคำอุเทส แล้วเอามาตรวจสอบอาการ ลิงค นิมิต ของจริง แล้วจะรู้ว่านามรูป เป็นอย่างไร ในพระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 60 ไปเปิดดูได้จะรู้ละเอียดลึกซึ้งในพระสูตรนี้  ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ ) ล.10 ข.60

อาตมาเอาคำเหล่านี้มาพูดไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจภาษาสภาวะความหมายของสัจธรรม แต่หาความหมายอธิบายตอนนี้ก็จะยาก อาตมาก็จึงได้กล่าวพาดพิงถึงสิ่งเหล่านี้มานานแล้วหลายครั้ง ก็คุณก็จะเห็นว่ามันคุ้นหู อาตมาก็เอามาอธิบายก็ต้องใช้พยัญชนะ 

คนที่อธิบายขยายความธรรมะพระพุทธเจ้าจนคุณเข้าใจกันและเอาไปปฏิบัติได้ แล้วคุณก็ยืนยันได้ว่าเป็นมรรคผล ทำให้คุณเกิดวรรณะ 9  

อาตมาภาคภูมิใจที่ทำให้สังคมไทยที่เป็นชาวพุทธมีวรรณะ 9 ได้ พวกคุณมานี่เลี้ยงง่าย สุภระ จริงๆ พวกเรานี้ อาตมาไม่ได้ลำบากใจเลย อาตมาว่า สังคมใหญ่ วัดเรา มีพลเมืองเยอะ วัดของเขามีคนน้อยกว่าก็ยังปกครองกันยากเลย ที่นี่มีพระเณรอย่าว่าแต่ลูกศิษย์วัดเลยเรามีมากมายเป็นครอบครัวไม่รู้กี่ครอบครัว ยังสามารถบริหารได้อย่างสบาย สุภระ สุโปสะ เลี้ยงง่ายบำรุงง่าย ถ้าหากเป็นวัดอื่นมีประชากรอยู่ขนาดนี้ อาตมาว่าคงตีรันฟันแทงกันไม่เว้นแต่ละวัน รับรองว่าความกันไม่หยุด และเราก็พัฒนาให้เจริญให้ศึกษาฝึกฝนกันง่าย ยากนะที่จะมาทำแบบนี้ได้ แต่พวกคุณก็สนใจมาเอาปีแล้วงปีเล่าก็มาทำ

สุโปสะ ให้เจริญง่าย

อัปปิจฉะ มักน้อย พามาให้เป็นคนมักน้อย จริงๆ ถ้ามาอยู่ที่นี่ให้รู้ว่าที่นี่ทำให้มักน้อย มักน้อยแล้วมันจะเจริญจริง เราจะตรวจรู้ ว่าจิตใจเรามักน้อยมากขึ้นเจริญขึ้น แต่ก่อนขี้โลภมันก็ไม่เจริญในจิตใจ เหมือนกับยกตัวอย่างตายายที่ได้เงินบริจาคมาแปดแสน มันก็เยอะจนแกต้องบอกว่าพอแล้วขอบคุณแล้วตั้งแปดแสนบาท ไม่ใช่น้อยๆ ไม่ต้องพูดถึงคนเป็นเศรษฐีทั่วไป คนธรรมดาสามัญทั่วไปจะได้เงินแปดแสนนี้ เกินกว่า 50 60 เปอร์เซ็นต์ได้เงิน 8 แสน ชีวิตบางทีได้เงิน 800,000 ก็ไม่ค่อยอยู่กับตัวหมุนไปหมุนมา จะได้เงิน 8 แสนมาเป็นก้อนนั้นไม่ใช่เล่น มันไม่ใช่ธรรมดาอะไรอย่างนี้เป็นต้น 

_นักรบธรรม…พูดเรื่องโสดาบัน มีพวกเราทำโครงการนี้ ผมคิดว่า โครงการแบบนี้มันคล้ายกับการสอบอารมณ์ของทางโน้น เขาก็มีลักษณะแบบนี้ ทำตัวเป็นอาจารย์ตรวจสอบพวกที่นั่งกรรมฐาน ผมว่าโครงการนี้ก็น่าเป็นลักษณะนั้น ไม่สามารถที่จะชัดเจนได้หรอกครับจะมาตรวจสอบกันได้ง่ายๆอย่างไร 

จะตรวจสอบกัน พระพุทธเจ้ามีหลักฐานให้ตรวจสอบตัวเองใครตรวจสอบให้คนอื่นไม่ได้ ผมคิดว่าอย่างนั้น ผมก็ไปทำแบบสอบถามมาร้อยเปอร์เซ็นต์มันจะทำอย่างไรก็ได้  ก็เหมือนกับพวกธัมมชโยทำ 

พ่อครูว่า…เขาทำให้เป็นภาษาสื่อสารออกมาเพื่อจะให้เข้าใจเหตุผลเรื่องราวต่างๆว่าตรวจสอบความเป็นพระโสดาบันเป็นอย่างนี้ มันก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ใช้ศึกษา สื่อให้เข้าถึงสภาวะ ตัวคนแต่ละคนต้องตรวจตัวเองตามหลักการนี้เขาทำให้เป็นหลักการ 

คนที่จะตรวจสอบนั้นมันจริงไหม จริงหรือไม่จริง คุณก็รู้ตัวเอง อย่างน้อยคนก็ต้องรู้ว่าที่ต่อไปนี้เรายังเป็นไม่ได้หรอกแต่เราบอกว่าเราเป็นได้คุณก็รู้ตัวเองว่าโกหกไปทำไม มันเป็นการตรวจสอบจริงๆว่าตัวเองได้ทำมันไม่เสียหายอะไรนี่ 

คุณยิ่งพูดมายิ่งเห็นขี้เท่อของคุณน่าดู ยากที่จะเข้าใจธรรมะ เอามาเทียบกับของธัมมชโยนี้อาตมาว่าคุณสอบตกมหาศาล คุณศึกษามาขนาดนี้แล้วเพิ่งจะตอบข้อสอบมาว่าคุณคนนี้ ช้อนอยู่ในชามแกง คุณอยู่ของเก่าของคุณที่คุณเชื่อมั่นมามิน่าล่ะเป็นอย่างนี้ 

_สู่แดนธรรมว่า..เหมือนพระอาจารย์จะสอบญาณกับลูกศิษย์ 

พ่อครูว่า..ไม่ว่าจะเป็นของมหาบัวหรือธัมมชโยไม่มีหลักการตรวจสอบความเป็นพระโสดาบันอย่างเรา เขาเอาแต่พระอรหันต์ไม่มีขั้นตอนเลย คุณไปศึกษาให้ดีๆไม่มี เขาไม่รู้ ไปเ  ทียบเคียงเหมือนกันได้อย่างไรคนละฟากฟ้ากับเหว 

พระพุทธเจ้าไม่เคยให้สอบญานของพวกที่นั่งหลับตา ในตำราพระไตรปิฎกไม่เคยเห็นเลยว่ามีให้นั่งหลับตาแล้วสอบญาณได้จากพระไตรปิฎกไม่มีเลย เป็นเรื่องนอกรีตนอกรอยของศาสนาพุทธ 

_นักรบธรรม…การที่พ่อครูตีนั่งหลับตา ผมก็ไปฝึกมาสุดยอดเหมือนกัน คืออรหันต์หลับตา เมื่อมาเจอของพ่อครู ด้วยบารมีหรืออะไรก็ไม่รู้ ผมเชื่อยอมรับ มาพิสูจน์หลักการที่พ่อครูพาทำ ใช่ไหมด้วยการทุ่มเททั้งชีวิตจิตวิญญาณเข้ามาทุกอย่าง สุดๆ ทั้งๆที่ไม่เคยมีอาการแบบนี้กับผมเลยพ่อครูบอกอย่างไรก็อย่างนั้นเลย ผมเชื่อว่าลักษณะที่พ่อครูพาทำเป็นของจริง ได้แล้วได้เลย  และเชื่อว่าจะต้องเป็นไปได้ ต้องทำแบบลืมตาให้จนได้ 

พ่อครูว่า..ตกลงดี คุณเข้าใจอย่างนั้นก็ดีแล้ว 

_อโศกสัมปวังโก …ผมได้พูดคุยสถานการณ์เศรษฐกิจกับลูกค้าที่มารับประทานอาหารในร้านค้าของชาวอโศกแห่งหนึ่ง พวกเขาพยายามบอกกล่าวให้ชาวอโศกทราบว่าในตอนนี้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำย่ำแย่อย่างไร และพยายามที่จะบอกให้ทราบว่าคณะรัฐบาลที่กำลังบริหารประเทศอยู่ขณะนี้ด้อยความสามารถและบริหารประเทศผิดพลาดขนาดไหน กระผมได้บอกกับเขาเหล่านั้นไปว่า ปัญหาเศรษฐกิจระดับชาตินั้น กระผมไม่มีความรู้ความเข้าใจพอ จึงไม่อยากจะให้ความคิดเห็นใดๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ความสนใจเลย เพียงแต่ว่า กระผมในฐานะชาวอโศก ซึ่งได้ใช้ชีวิตภายใต้ระบบของเศรษฐกิจบุญนิยม ผมไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจใดๆเลยต่อสถานภาพของเศรษฐกิจในขณะนี้เลย 

กระผมได้อธิบายให้คนนั้นเข้าใจว่าระบบเศรษฐกิจของพวกเรามีฐานรากของหลักธรรมพุทธศาสนา ที่ได้ยึดถือเอาบุญกิริยาวัตถุ 3 คือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นสำคัญในการดำรงชีวิต ซึ่งคำว่าภาวนา ไม่ได้หมายถึงการมุ่งเพ่งไปดับจิตตัวเองตามพุทธกระแสหลักเข้าใจ แต่ความเข้าใจของพวกเรานั้นคือ ภาวนา คือระดับความเจริญ หรือสัมฤทธิ์ผลของศีลทาน ที่เราได้ปฏิบัติ 

พ่อครูว่า… ถูกต้อง ภาวนาแปลว่าการเกิดผลเขาก็ยังเข้าใจไม่ถูกว่าไปนั่งภาวนา ก็เลยเข้าใจผิดเพี้ยน ว่าไปนั่งหลับตาคือการภาวนา จริงๆการภาวนาแปลว่าการเกิดผล ยิ่งจะนั่งหลับตายิ่งไม่มีทางเกิดภาวนาในทางศาสนาพุทธเลย ต้องลืมตาปฏิบัติด้วยมรรคทั้ง 7 องค์ แล้วจะเกิดสัมมาสมาธิ ผลของสัมมาสมาธิจะเกิดจากการปฏิบัติมรรคทั้ง 7 องค์ แล้วปฏิบัติอย่างไรก็ปฏิบัติขณะในการทำงานอาชีพในขณะทำการงานต่างๆสัมมากัมมันตะในขณะที่พูดอยู่สัมมาวาจาในขณะที่คิดอยู่สัมมาสังกัปปะ โดยที่มีสัมมาทิฏฐิเป็นประธานและมีสัมมาสติสัมมาวายามะ เป็นคู่หูของสัมมาทิฏฐิ ช่วยสัมมาทิฏฐิปฏิบัติ 4 อย่างนี้ การทำอาชีพการทำการงานการพูดการคิดอยู่ให้เกิดสัมมาตลอดเวลาให้ได้ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิให้ได้ตลอด 

ไม่ว่าจะทำงานอาชีพให้พ้นจากมิจฉาชีพ 5 อาชีพที่แย่ที่สุดไม่สัมมาเลยคือ กุหนา เป็นอาชีพทุจริตร้ายแรงอยู่ ไม่ทำ ให้หยุดอาชีพที่ยังทุจริตคดโกงไม่ซื่อไม่ตรงให้หยุด ยังจะต้องเสี่ยงอยู่ก็ต้องพยายามไม่ให้เสี่ยงให้ได้แข็งแรงตามศีลสมาธิปัญญาตามหลักธรรมของสากลของสังคมทำให้เจริญก้าวหน้าได้มรรคผลจริง จึงจะเรียกว่า นิปเปสิกตา ปฏิบัติธรรมได้มรรคผลเป็นของตัวเอง แล้วไม่ต้องมอบตนในทางที่ผิด นิปเปสิกตา ทำอยู่กับหมู่กลุ่มที่สัมมาทิฎฐิ หรือว่าถ้าคนบริสุทธิ์แล้วยังไปรับใช้ทุนนิยม เป็นลูกน้องลูกไล่เขาก็ยังเป็นการมอบตัวในทางที่ผิด แต่ถ้าบรรลุอแล้วมาอยู่กับพวกบุญนิยมไม่ทำให้เกิดการโกงการผิดอะไรทำอย่างถูกศีลธรรม คุณก็ปลอดภัยด้วยกันไม่เกี่ยวเกาะกับสิ่งที่พาให้ทำผิดทำนรกก็ปลอดภัย 

สูงสุดในการพ้นมิจฉาชีพข้อที่ 5 คือการทำงานฟรีไม่เอาลาภแลกลาภ พ้นลาเภนลาภังนิชิคิงสนตา ทำงานไม่แลกเปลี่ยนแม้แต่เงินทองข้าวของ เป็นสิ่งสูงสุดอาตมาทำได้ถึงขั้นเป็นกันได้ทั้งหมู่บ้านซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากเลย รางวัลที่เขาให้ในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นรางวัลที่ทำให้สังคมเจริญอาตมาทำได้เจริญที่สุด กลางวันเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นรางวัล nobel prize รางวัลแมกไซไซ รางวัลอะไรต่ออะไร เขาไม่มีปัญญารู้หรอกว่านี่คือสังคมที่สุดยอดของโลก เขาไม่มีปัญญารู้ นี่ดูถูกไว้เลย

ถ้าเขารู้เขาก็ให้รางวัลอาตมาแล้ว เพราะว่าอาตมามีผลงานทำมาตั้ง 30 40 ปีมีสิ่งที่เป็นรูปธรรม เขาให้รางวัลตั้งนานแล้วแต่นี่เขาไม่รู้ จะว่าไปแล้วเขาจะให้อยู่ บอกความจริงให้ฟัง ผู้ที่เขาจะเสนออาตมาต่อ คณะกรรมการรางวัลแมกไซไซ อาตมาบอกว่าอย่าไปทำเสนอนะก็เลยหยุดทำ โนเบิ้ลไพซก็เหมือนกัน อาตมาก็บอกว่าอย่าไปทำพูดปิดกั้นไว้ก่อน แต่ไม่ได้บอกมาตรงๆแบบรางวัลแมกไซไซ 

ใจของอาตมาจริงๆไม่ต้องการให้ใครมาให้ยศศักดิ์ฐานะหรือจะมาชมเชย เพราะอาตมามีความจริงใจ อาตมาไม่ได้ทำงานเพื่อที่จะได้ลาภยศสรรเสริญจริงๆ นี่เป็นใจจริงของอาตมา ไม่ได้ต้องการทำงานเพื่อลาภ สรรเสริญ หรือการชมเชย ส่วนคนก็ด่าอาตมามามาก แล้วอาตมาก็ฟังอยู่ แต่ไม่เชื่อฟังเขา เขาจะด่าก็ด่าไป เพราะอะไร จะไปเชื่อฟังทำไมเขาด่าผิด เขาด่าไม่ถูก อาตมาพูดถูก จะไปเขื่อเขาทำไม เขาเข้าใจจริงๆว่าเขาถูกกว่าแต่เราบอกว่าผิดเราก็บอกว่าไม่ผิด คนที่รู้ตัวแล้วเข้าใจแล้ว ก็ยอมให้ด่า แต่ด่าถูกเขาไม่แก้ไขก็ไม่ฟัง อย่างนั้น

คุณไพศาลเขาลึกๆเคารพอาตมาอยู่แต่เขาไม่อยากให้อาตมาได้รับคำติเตียน อาตมาก็เลยจบอกอีกที ไม่ต้องไปติดใจถือสาหรอกเขาจะว่ากล่าวอะไรก็ว่าไป แต่อาตมามีหน้าที่ต้องบอกความจริง ผิดเราก็ต้องกระหน่ำ ใช้ภาษาว่า 

อานนท์ ! เราไม่พยายามทำกะพวกเธออย่างทะนุถนอม 

เหมือนพวกช่างหม้อทำแก่หม้อที่ยังเปียก-ยังดิบอยู่ 

อานนท์ ! เราจักขนาบแล้วขนาบอีก ไม่มีหยุด .

อานนท์ ! เราจักชี้โทษแล้วชี้โทษอีก ไม่มีหยุด 

ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสาร  ผู้นั้นจักทนอยู่ได้ .

(พุทธพจน์จาก พตปฎ.เล่ม ๑๔  ข้อ ๓๕๖) 

เรื่องการตำหนิเป็นเรื่องจำเป็นก่อนเหมือนกับเรามีผ้าชุบน้ำมันจุดไฟร้อนอยู่ที่หัวเราต้องรีบเอามันออกไปก่อน ความชั่วก็อยู่กับเราวินาทีเดียวมันก็ไม่ดี อยู่กับตัวเราชั่วโมงหนึ่งปีหนึ่งมันก็ไม่ดีต้องรีบเอาออก ความดีจะอยู่กับเรานั้นไม่ต้องเอาออกมันไม่ไปไหน ไม่ต้องไปบอกคนนั้นคนนี้ว่าเรามีความดีเลยก็ได้ เขาก็ทำดีอันนี้ไปเถิดไม่เสียอะไร แต่ความชั่วนี้หากอยู่กับเขาเราก็ต้องรีบบอกให้เขาเอาออก 

คนที่ไม่กล้าตำหนินั้น 1) ไม่รู้ว่าเขาผิดคนก็ไม่กล้าตำหนิเขา 2) แม้รู้ว่าเขาผิดคุณก็ไม่กล้าไปตำหนิเขาเพราะเกรงใจเขา อาตมาว่าคนเกรงใจเขาคนที่ทำผิดไปให้เขาทำผิดดีไม่ดีส่งเสริมให้เขาทำผิดคนนั้นแย่กว่าคนผิดอีก ไปซ้ำเติมเขา ไม่ได้นะ อาตมาถือว่าเป็นคนใจดำมากเห็นคนผิดอยู่ตำตาหลัดๆโต้งๆ ก็บอกว่าเรื่องของเขาคุณใจดำมากเลย แต่อาตมาไม่ใช่เป็นคนใจดำชนิดนั้น อาตมาถือว่าเป็นภาระจะต้องช่วยเหลือคนที่ผิด และกระหน่ำตำหนิคนผิด ต่อไปนี้อย่ามาท้วงอาตมาเสียให้ยากว่าอย่าตำหนิ อาตมาจะตำหนิแล้วตำหนิอีก 

ไม่ใช่ว่าอาตมาพูดอย่างคนซาดิส

_อโศกสัมปวังโก …ต่อ…ความเจริญทางเศรษฐกิจของพวกเรานั้นขึ้นอยู่กับมรรคผลนิพพานในศาสนาที่เกิดในตัวเราไม่ได้ผกผันตามกระแสเศรษฐกิจภายนอกไม่ว่าจะเป็นในระดับประเทศหรือในระดับโลกเพราะเรายิ่งจนจึงเกิดการได้ให้ได้เสียสละให้ของพวกเรานั้นยิ่งทำให้พวกเราได้ลดกิเลสมากขึ้นเท่านั้น ความทุกข์ในใจของเราก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้นพิสูจน์ได้จากการที่เราขายสินค้าในราคาต่ำกว่าราคาตลาดเท่าทุน  ต่ำกว่าทุน เท่าทุน ขาดทุนแม้กระทั่งการให้ฟรี

อนึ่งการกินน้อยใช้น้อยของพวกเราเป็นพฤติกรรมที่เอื้อเฟื้อต่อการไม่แย่งชิงเอารัดเอาเปรียบใคร ไม่คิดจะไปแข่งรวยกับคนอื่น ก็เป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าพวกเรามีความมั่นคงในชีวิตและความผาสุกที่ยั่งยืน สอดคล้องกับผู้นำของพวกเราที่ว่าให้มาจนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ

สุดท้ายขอให้พ่อท่านขยายให้ความรู้เพิ่มเติมเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่ยังข้องใจในระบบเศรษฐกิจบุญนิยม หาว่าชาวอโศกหลงใหลรัฐบาลชุดนี้อย่างไม่ลืมหูลืมตาด้วยครับ 

พ่อครูว่า…คนที่ไม่เข้าใจระบบบุญนิยมหรือระบบที่ชาวอโศกประพฤติอยู่นี้ สอดคล้องที่คนเขายังไม่เข้าใจแม้แต่ตัวผู้ที่บริหารประเทศอยู่ก็ยังไม่เข้าใจดี ไม่เข้าใจดีตรงที่ว่าสถานะของชาวไทยคนไทยนั้น จนได้ที่ดีแล้ว ฟังให้ดีๆนะ 

ทำไมอาตมาพูดว่า ฐานะของชาวไทย ในประเทศไทยตอนนี้ จนได้ที่ดีแล้ว เพราะว่าคนไทยที่จนอยู่ในขณะนี้ไม่ออกมาประท้วงเหมือนกับชาวฮ่องกง 

ชาวไทยออกไปประท้วง พากันออกไปประท้วงอย่างคนจนพากันมาจน ไม่ได้ไปประท้วงอย่างคนรวย ไม่ได้ไปจุ้นจ้าน เป็นเรื่องลึกซึ้งมากที่ประเทศไทยมี แม้ที่สุดผ่านเหตุการณ์พวกนั้นมาแล้ว ชาวไทยคนไทยในประเทศได้สงบดีแล้ว เขาจนได้ที่แล้วคนไทย ไม่เคลื่อนเลย มีแต่นักการเมืองหลงทิศหลงทางออกมาร้องแหยวๆ พวกนี้ฐานะค่อนข้างดีทั้งนั้นพวกที่ร้องอยู่ตอนนี้ฐานะค่อนข้างดีทั้งนั้นคนจนเขาไม่ได้ร้องตาม และเขาก็เข้าไม่ได้เห็นด้วยกับพวกคุณด้วย คนกำลังจะได้พวกที่คนจะไปร่วมกันกอบโกยด้วยกันคงจะได้พวกนี้เป็นพวกแต่คุณจะไม่ได้คนที่จนได้ที่แล้วเป็นพวกหรอก 

คุณธนาธร หรือนักกฎหมายด๊อกเตอร์จากฝรั่งเศษอนาคตใหม่หรือพวกเพื่อไทยที่กอดคอไปด้วยกัน คุณทำอย่างนี้คุณทำกับชนส่วนน้อยที่กำลังโง่ ยังไม่ฉลาดพอแต่คนไทยเขาฉลาดกันแล้วตื่นเถิด คุณอนาคตน่วม

เขามีอนาคตเก่า หรืออนาคตใหม่ เขาก็พยายามแย้งว่า ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่หรอกมันมีมากี่ปีแล้ว อาตมาก็เลยบอกว่าที่ตะโกนอยู่อย่างนั้นมันเก่าจนกระทั่งเคยใช้คำว่า เก่าเอี่ยมเลย เก่าอย่างนี้ยังใช้ได้อย่างอาตมาใช้ของเก่า เป็นเก่าสมัยใหม่เสมอตลอดเวลา แต่นี่เขาเอาเก่าเละเทะมาใช้ แล้วตะโกนบอกว่า ของดีๆ

สรุป ลัทธิ ที่เขาเข้าใจอยู่ตอนนี้จะเอาของต่างประเทศมาให้คนไทย เป็นความเห็นลัทธิแบบข้างนอกประชาธิปไตยข้างนอกประเทศไทย ไม่มีประเทศไหนสู้ความเป็นประชาธิปไตยของไทยได้ ความเป็นประชาธิปไตยนั้นไม่มีใครรู้ได้จริงยิ่งกว่าพระพุทธเจ้า อาตมารู้ได้ตามพอสมควรและขอยืนยันว่าอาตมาเข้าใจประชาธิปไตยอย่างที่พระพุทธเจ้าเข้าใจและไทยนี่แหละทำประชาธิปไตยแบบพระพุทธเจ้า 

ก่อนจะจบ ลีลาของคุณประยุทธกับลีลาของโพธิรักษ์ ยวนพอกันไหม..พอกัน

จบ..