630504_รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์(สำมะปี๋ซี่วิต) ครั้งที่ 3 ทะเลธรรม ชเลขวัญ
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่…https://docs.google.com/document/d/1EsqSxA9o-t5dmUTk6EHPuSzh4P6s58qeZGg0fmflJRE/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1QFSjKSL7CUfDfrLPpZ38hbsOM7a6U0P9
รุณยุภา… วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563 พ่อครูออกอากาศที่ชั้น 4 เฮือนศูนย์สูญ ที่บวรราชธานีอโศก สนทนาออนไลน์ กับชาวทะเลธรรมและชเลขวัญ วันนี้รุณยุภามากับอาแป้งสู่แดนธรรมที่มาเป็นพิธีกรร่วม
ตอนนี้ที่ห้องส่งสันติอโศก มีนักเทคนิคช่างเทคนิคสแตนบายอยู่เต็มไปหมด หวังว่ารายการคงจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น วันนี้เป็นวันพืชมงคล
วันนี้จะมีการสนทนากับชาวทะเลธรรม และที่ชเลขวัญ จ.พังงา
วันนี้มีแขกพิเศษ 2 ท่านคือคุณลุงจำลองกับคุณศิริลักษณ์จากโรงเรียนผู้นำมาร่วมรายการด้วย
คุณลุงจำลองว่า..ตอนนี้พ่อท่านอยู่ที่ราชธานีอโศกใช่ไหมครับ พวกเรากำลังรอฟังข่าวอยู่ครับ เรื่องการติดเชื้อไวรัส เมื่อถึงตอนที่เราจะเปิดให้ไปที่ราชธานีอโศกได้
พ่อครูว่า…ยังไม่มีคำตอบจากสวรรค์นะ ว่าเมื่อไหร่จะเปิด เมื่อไหร่จะปิด โควิดนี้มันมาโอ้โหยอดเยี่ยมเลย มันแสดงฤทธิ์เดชอย่างลึกล้ำเลย มันมีอำนาจทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นอำนาจที่ โอ้โห ทำให้การแสดงอำนาจทางธนบัตรตกต่ำ แสดงอำนาจทางน้ำมัน น้ำมันก็ตกต่ำ แม้ที่สุดแสดงอำนาจทางอาวุธ อาวุธก็ตกต่ำได้ ฤทธิ์เดชนี้ สิ่งที่กล่าวไปแล้ว 2 3 อย่างนี้ มันถูกอำนาจ โควิด ริดรอนอำนาจลงไปอย่างพิเศษเลย แต่สภาพซ้อนที่มันแสดงฤทธิ์ข่มอำนาจวัตถุ น้ำมัน ธนบัตร ทำให้คนเกิดเห็นคุณธรรมของมนุษย์กับสังคม ที่จะต้องเอื้อเฟื้อเจือจานช่วยเหลือกัน มันมีตัวพฤตินัยอันนี้ แสดงออกมา ใครเห็นบ้างเอ่ย ทั่วโลกเลย ไม่ว่าประเทศไหนแม่จะไม่อีโหน่อีเหน่ในเรื่องคุณธรรม ก็พลอยเกิดไปด้วย
ส่วนประเทศไทยนี่เห็นชัดเลย และก็ก่อเกิดอะไรขึ้น เป็นการเอื้อเฟื้อจาน มีอย่างที่ไหนคนเราเดินแจกเงินกัน เอาธนบัตรใบละ 500 ใบละ 100 บาทแจกกันดื้อๆเลย มันไม่เคยมีเหตุการณ์นี้ไม่เคยมีมาในโลก แต่ยุคนี้มี ประเทศอื่นเขามีไหมแบบนี้แจกเงินกัน บางประเทศรัฐบาลก็ให้ แต่ที่ส่วนตัวเดินแจกให้ แม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อเป็นเศรษฐีในสังคมแต่ก็มาแจกเหมือนกัน ในหลายที่หลายแห่งในแต่ละจังหวัด เป็นเรื่องที่น่าประหลาด แปลกดี เอ้าว่าไงคุณจำลอง
คุณลุงจำลอง…คือ พอถึงเทศกาลอโศกรำลึก ถ้ายังมีการประกาศว่า คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าราชธานีอโศก พวกเราถือเป็นคนในได้ไหมครับ
พ่อครูว่า..ถือว่าเป็นคนในแล้วจะทำอย่างไร
คุณลุง…ก็จะเข้ามาที่ราชธานีอโศกเลยครับ เพราะว่าเป็นเทศกาลสำคัญอันเนื่องมาจากวันเกิดของพ่อท่าน
พ่อครูว่า…ก็คงจะไม่ได้จัดอะไรมั้ง เท่าที่ดูๆเราก็ไม่อยากจะทำอะไรให้ดูเหมือนจะรู้สึกเป็นการแสดงอะไรออกที่ มันเป็นเรื่องประเจิดประเจ้อในสังคมเขา อาตมาก็ว่า เราไม่น่าจะเอาตัวตนไปแสดงออกให้มีลักษณะอย่างนั้นในเหตุการณ์โลกในเหตุการณ์บ้านเมืองที่มันเป็นอย่างนี้ เราก็จะเอาตัวตนไปแสดงว่าฉันสำคัญอย่างนั้นอย่างนี้เกินไป อาตมาก็คิดว่ามันน่าจะผ่านๆไป ก็ต้องยกให้เขาบ้าง เราก็ทำเป็นไม่ต้องมีต้องทำก็ได้ ถ้าเผื่อว่าดูแล้วก็อีก 20 กว่าวัน จะถึงวันนั้น มันก็ไม่น่าจะเรียบร้อย ไม่น่าจะจัดงานได้ทันอีก 20 กว่าวันกว่าจะถึงวันงาน อโศกรำลึกคือวันที่เราจะจัด มันไม่น่าจะราบรื่น ถ้าจะทำ
อาตมาว่าlock down ทำอะไรบางอย่างในหมู่กลุ่มสังคม มันน่าจะเลยในเดือนมิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน นะ อาตมาว่าน่าจะถึงปลายปี ยังไม่เซาซาเลย
แม้ว่าเมืองไทยจะสามารถควบคุมหรือรักษาป้องกัน ทำให้เกิดคนไข้ได้รับเชื้อหรือว่าเกิดเป็นคนไข้ขึ้นมาในแต่ละวัน แต่ละวันเป็นเลขตัวเดียวได้ขณะนี้ มันก็ใช่ว่ามันจะหมดฤทธิ์ในต่างประเทศ ที่หลายประเทศมีเป็นร้อยเป็นพันในวันหนึ่งที่รับเชื้อ จนกระทั่งไม่มีโรงพยาบาลจะรับเข้าไปแล้ว แม้แต่ในประเทศที่เจริญใหญ่โต อย่าว่าแต่โรงพยาบาลจะรับคนไข้เลย ที่ฝังศพก็จะไม่มี อย่างที่อเมริกา มันไม่เคยมีมาเลยในประวัติศาสตร์โลกที่จะเป็น ไม่มีที่จะให้ฝังศพ มันเป็นได้ถึงปานฉะนั้น มันคงจะไม่หายไปง่ายๆ
คุณลุง…ผมขอถามพ่อท่านอีกทีว่า เมื่อถึงอโศกรำลึก ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญของชาวอโศกแล้ว ราชธานีอโศก ยังมีประกาศสำหรับคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าสำหรับเราญาติธรรมถือว่าเป็นคนไหนได้ไหมครับ
พ่อครูว่า…สำหรับคนที่มีบ้านอยู่ในราชธานีอโศกก็เข้ามาได้ สำหรับคนที่ยังไม่มีบ้านอยู่ในนี้ก็ยังขอไปก่อนอย่าเพิ่งมา
คุณลุง …มีบ้านแต่ไม่ได้มาอยู่ประจำ ผมมาปลูกบ้านอยู่ที่นี่เป็นคนแรกๆ
รุณ…ผู้ใหญ่บ้านติ๊กบอกมาว่า ถ้าคุณลุงกับคุณป้ามาอยู่ที่บ้านราชฯคงจะขอกักตัวสักหลายปีโอเคไหมคะ
พ่อครูว่า…ฉวยโอกาสนี่ติ๊ก
คุณลุง…ถึงตอนนั้นอาจจะโทรศัพท์ถามผู้ใหญ่ติ๊ก ว่าเราเป็นคนในคนหนึ่งที่ไปปลูกบ้านอยู่ที่ราชธานีอโศกเขาเข้าได้ไหม (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
รุณ…ตอนนี้ไปที่ชาวทะเลธรรมภาคใต้ที่จะพูดคุยกับหลวงปู่
ทะเลธรรม…เราจะปฏิบัติธรรมอย่างไรให้อยู่ในปัจจุบันไม่ตกอยู่ในสภาวะที่เป็นภพของตัวเอง
พ่อครูว่า..ตอบตรงๆถ้าทำได้ก็ง่ายถ้าทำไม่ได้ก็ยาก เราก็เอาใจของเรานี่แหละใจเราเป็นอย่างไรเราต้องรู้ใจ การปฏิบัติธรรมของพุทธพระพุทธเจ้าท่านสอนให้เรารู้จักใจของเรา ให้มันไม่มีตัวตน ใจมันไม่มีรูปร่างแต่เราต้องรู้ว่าใจของเรานี้คืออาการของจิต อาการของใจ มันมีอาการอย่างไร มันได้คิดไปในอดีตแต่คิดไปในอนาคตฟุ้งซ่านไปที่นู่นที่นี่หรือมันอยู่กับปัจจุบัน ก็ต้องดูอาการของมันให้ชัด เมื่อคุณรู้คุณต้องฝึกต้องเรียน ต้องให้รู้ อ๋อ อาการจิตของเราเป็นอย่างนี้นี่มันฟุ้งซ่านไปหาอนาคต ฟุ้งซ่านไปหาอดีต เราก็ให้มันมาอยู่กับปัจจุบัน เราควรจะกำหนดรู้อยู่กับอะไรในปัจจุบันที่เราอยู่นี้ เรื่องอะไรที่ตาหูจมูกลิ้นกายเรากระทบสัมผัสอยู่ในเรื่องนี้อันนี้ควรจะเป็นเรื่องที่ควรสำคัญ ควรจะต้องเอาเรื่องเอาราวกับอันนี้ปฏิบัติกับอันนี้ในปัจจุบันนี้ ที่เป็นเรื่องจริงและปฏิบัติได้ดี ส่วนอดีตอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่มันเกิดผลตามปัจจุบันนี้ทั้งนั้นแหละ ปัจจุบันนี้ให้มันดี อดีตมันก็ดี อนาคตจะมาอีก อะไรอะไรมันก็จะดีไปได้ทั้งนั้น มันจะเกิดความชำนาญ
ที่ถามนี่ก็ตอบไปด้วยซื่อๆชัดๆง่ายๆ เราจะต้องรู้ คำว่าปัจจุบันคืออะไร อาการของจิตเราคืออะไร เราต้องรู้ตัวเรา เมื่อเรารู้ว่าอาการจิตของเราเป็นอย่างไรเราก็ต้องมนสิการหรือทำใจในใจทำจิตในจิตของเรา ต้องทำจิตของเราเอง ใจของเราก็จะอยู่กับปัจจุบัน จบคำตอบ
รุณ กราบขอบพระคุณเป็นคำตอบที่ชัดเจน
ต่อไปที่ ชเลขวัญ จ.พังงา
ชเลขวัญ..ปกติชาวอโศกจะมีการทำบุญกับสังคมปฏิสัมพันธ์กับสังคม เราก็ทำเกษตรกรรมที่เป็นอาวุธในการปฏิสัมพันธ์กับทุนนิยมเสรีเขา ในช่วงวิกฤตเราจะใช้อะไรในการเดินไปข้างหน้าครับ
พ่อครูว่า…เราก็ปฏิบัติงานเราออกไปปฏิสัมพันธ์กับข้างนอกไม่ได้มันเป็นข้อจำกัดในเหตุการณ์มันบังคับให้เราไปทำไม่ได้ เราก็ทำกรรมกิริยาภายในของเรานี่แหละ งานภายในของเราที่มันจะต้องทำอยู่แล้ว เราก็ทำงานนะ ต้องคิดให้ดีก็ยิ่งดีเราก็ยิ่งมีเวลาจะทำงานส่วนตัวส่วนในของเราให้เต็มที่ งานจัดสร้างสรรงานผลิตอะไรที่ก่ออะไรของเรา ไม่มีอะไรก็เช็ดปัดกวาดถูทำ 5 ส.ในบ้านตัวเองเลย จะซ่อมแซมจะแก้ไข ตามที่เราประสาช่าง ก็เป็นโอกาสที่เราจะต้องได้ทำไม่ต้องเกี่ยวข้องกับคนอื่น เราก็ทำในสิ่งที่ควรทำ มันก็เป็นประโยชน์ ไม่ใช่จะสิ้นไร้ไม้ตอก อั้นตู้ที่เราจะทำอะไรไม่ได้ มีเรื่องราวเยอะแยะไปที่เราจะต้องทำ ไม่มีอะไรจะทำก็นอน พักผ่อน พักผ่อนพอแล้วก็ลุกขึ้นมาหาเรื่องทำ หางานที่ควรทำ จะเป็นประโยชน์เป็นสิ่งที่รังสรรค์ เราก็ทำกันไป
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
สู่แดนธรรม…วันนี้เป็นวันพืชมงคลเป็นวันสำคัญของโลกเป็นวัน พีชะ เป็นวันที่มีความหมายมาก ต้องขออนุญาตพ่อครูพูดเรื่องนี้หน่อย
SMS วันที่ 10 พ.ค. 2563 (วิถีอาริยธรรม)
_ขวัญ เขตบุญ : ต้องขอบคุณสื่อดาวแท้(ไม่ใช่ดาวเทียม)บุญนิยมทีวีออนไลน์ค่ะ โควิดจะอยู่หรือจะไปก็ไม่ห่วงค่ะ ขอให้ได้ฟังธรรมจากพ่อครูจากท่านสมณะท่านสิกขมาตุทุกวันก็ดีแล้วค่ะ
พ่อครูว่า…คนที่เห็นความสำคัญของการฟังธรรมเป็นคนที่เจริญมากเลย นี่ไม่ได้พูดยกยอ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นจริงอย่างนั้นที่จะมีโอกาสได้ฟังธรรมจากผู้ที่รู้ แล้วเราก็ได้ฟังแล้วเราก็ไปทำให้เกิดผลกับเรา ผู้นี้เป็นผู้ที่เจริญ เป็นคนประเสริฐ
_Surapa Limwannasathian สุรภา ลิ้มวรรณเสถียร : (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)เข้าไปในอโศกจะเข้าใจว่าความรักมี 10 มิติ อยากถามว่าทำอย่างไรเราจะมีความรักที่สูงขึ้น เหนือจากการรักพวกพ้อง ญาติ สนิท
พ่อครูว่า…ก็เป็นความจริงและเป็นความรู้ ผู้ที่มีปฏิภาณไหวพริบที่จะรู้และเห็นความจริงว่าความรักแต่ละระดับ เป็นเช่นนี้เช่นนี้ แล้วเราก็พัฒนารู้ว่าเราอยู่ในระดับไหน ความจริงที่เราเองเป็นอยู่ว่าเรามีความรัก เป็นมิติที่ 1 มันมีความเห็นแก่แต่เฉพาะคู่ของเราเท่านั้น มิติที่ 2 มันก็กว้างขึ้นหน่อย มีใจเผื่อแผ่ไปถึงลูก มิติที่ 3 เผื่อแผ่ไปถึงญาติ วงศาคณาญาติต่างๆ ก็เป็นความเอื้อเฟื้อเจือจาน จากความจริงของเรา เราก็ต้องรู้ความจริงของเราว่าเรามีอาการ มีจิตใจแบบนี้ไหม ต้องรู้ตัวเอง และก็รู้ระดับต่อไปอีก ถ้าเผื่อว่าแค่นี้มันแคบไปก็ต้องเอื้อกว้างไปอีก แค่ญาติโกโหติกาก็ยังแคบ ต้องกว้างไปสู่มิตรสหายเพื่อนฝูง จิตใจเราก็จะกว้างเกื้อเอื้อมเอื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
ถ้าเผื่อว่าเราสามารถทำจิตใจให้เอื้อมเอื้อเกื้อกว้างมากยิ่งกว่ามิตรสหาย ไปสู่สังคม ไปสู่มวลสมาชิก ที่กว้างขึ้นระดับประเทศ ยิ่งออกไปกว้างไปสู่มวลมนุษยชาติก็สูงขึ้นไปเป็นระดับที่ 4 5 6 7 ตามที่อาตมาได้นิยาม ที่ตีกรอบ ตีวงไว้ ความรักมันมีมิติต่างๆ ซึ่งจะต้องมีความรู้ว่าจิตของเรามันมีความรัก ปิยกรณะ มีความเอื้อเฟื้อจาน มีสังคหะมีการช่วยเหลือเฟือฟาย จิตก็เจริญ หากไม่มีจิตใจจะช่วยเหลือผู้อื่นขึ้นไปมากกว่านั้นมันก็แคบอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าจิตของเรามันเป็นจริงเลย เจือจานเกื้อกว้างออกไปเรื่อยๆมันคือจิตเจริญของมนุษย์ ต้องดูความจริงของอาการจิตความรู้สึกของจิต ธาตุจิตของเรามันเป็นจริงอย่างนั้นตามที่อาตมาว่าโดยใช้ภาษาสื่อความเป็นจริงของอาการของจิตเรานี้ มันมีไหม
หากว่าเราศึกษาออกจับอาการจิตของเราจริงๆผู้นั้นแหละเป็นนักปฏิบัติธรรมของพุทธแล้วก็พัฒนาให้จิตเราไปสู่ตามที่เรามีความรู้นำไปให้มีจิตใจเจริญแบบใด เราก็ทำไปจิตใจเราก็จะเจริญจริง จนที่สุดเป็นพระอรหันต์
_สู่แดนธรรม…พอดีผมได้ฟังพ่อท่านตอบคำถาม ก็ได้คิดว่า สาเหตุที่คนเราไม่สามารถมีความรักกว้างขวางออกไปจากเพื่อนพ้องญาติมิตร เพราะเขาได้รับประโยชน์เฉพาะเพื่อนฝูงญาติมิตรเขาจึงไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กว้างไปกว่านั้น
พ่อครูว่า..เราไม่จำเป็นจะต้องไปรับประโยชน์จากคนอื่นแล้วจึงไปต่อประโยชน์เขา ไม่อย่างนั้นคนก็ไม่ต้องก้าวหน้า ถ้าเราไม่ได้ประโยชน์จากใครเราก็จะไม่ทำประโยชน์ตอบแทนใครก็จะเป็นคนอยู่แก่ตัวเองเห็นแก่ตัวเองก็แคบ มันต้องคิดกว้างเกื้อออกไปสู่คนอื่น ควรจะฝึกใครควรจะไปช่วยใคร เหมือนอย่างพระพุทธเจ้า ตื่นขึ้นมาก็นึกว่าวันนี้จะไปโปรดใคร ใครควรกว่า เราต้องมีจิตเอื้อมเอื้อเกื้อกว้างออกไปอย่างแท้จริงอย่างนั้นจึงจะเจริญ
สู่แดนธรรม…สรุปคำตอบของพ่อครูก็คือต้องทำอย่างนั้น
_พรทิพย์ ไทยเอียด : รู้ตัวทุกข์ที่เกิดกับชีวิต แต่ทำไมยังทำใจให้ละเสียจากทุกข์นั้นไม่ได้สักที พ่อครูมีคำแนะนำไหมคะ
พ่อครูว่า..อริยสัจ 4 ต้องรู้ความทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ ดับความทุกข์ได้ และรู้การปฏิบัติวิธีทำอย่างไร ที่คุณถามมาจะทำใจอย่างไร คุณต้องอ่าน เมื่อกี้นี้อธิบายไปหมดแล้วก็ทวนใหม่ย้อนไปอีก อ่านจิตใจของเราให้เป็น นี่แหละคือหัวใจของศาสนา อ่านจิตใจของเราอาการของจิตใจของเราเมื่อเวลามันสัมผัสจริง เพราะฉะนั้นการไปนั่งหลับตาทำสมาธิให้จิตเป็นสมาธิได้จากการนั่งหลับตามันไม่ใช่ของพูดเลยมันเป็นเรื่องนอกรีตมันเป็นของเดียรถีย์ทั้งหมดเลย นั่งหลับตาทำสมาธิ
สมาธิของพุทธมันเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 แล้วสั่งสมจิตใจที่สะอาดตกผลึกเป็น ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา.. เดี๋ยวนี้เข้าใจผิดเอาของเดียรถีย์มาอธิบายสมาธิหมดเลยทั้งประเทศ ทั้งเถรสมาคมเลยขอพูดเช่นนั้น ซึ่งมันผิดหมดเลยสมาธิของพวกนั้นเกิดจากจรณะ 15 วิชชา 8 แล้วเกิดผลสะสมตั้งมั่นเป็นสมาธิอย่างนี้เป็นต้น
เพราะฉะนั้นคนที่จะทำจิตของตัวเองให้รู้จักทุกข์ นี่แหละเป็นสิ่งที่จะต้อง มีตัวต้นเหตุแห่งความรู้ทุกข์อริยสัจ 4 ต้องรู้จักอาการของจิตเราที่เป็นความทุกข์เป็นอย่างไร คนเรามักจะกลบเกลื่อนตัวเอง ทำจิตใจเราก็แสวงหาแต่ความสุข ไปสัมผัสอะไรต่างๆไปทำกิริยาต่างๆสัมพันธ์กับอะไรอย่างนั้นอย่างนี้ก็เพื่อความสุข มันก็เลยไม่มีวันจะรู้ความทุกข์สักทีเลย แล้วที่จะสุขมันก็เป็นอุปาทาน สัมผัสอย่างนี้แล้วก็ตรงกับตัณหาของเรา ตรงกับอุปาทานของเรา เราก็เลยรู้สึก เรียกมันด้วยภาษาว่าความสุขความพอใจ สมใจบำเรอกิเลสตัณหา บำเรอ อุปาทานแล้วก็เป็นความสุข ที่จริงความสุขความทุกข์มันตัวเดียวกัน คุณยังแสวงหาสิ่งที่จะมาบำเรอให้เกิดความสุข มันก็ยังมีความทุกข์เพราะเป็นตัวที่คุณต้องไปแสวงหามาบำเรอความต้องการที่จะเสพสุข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายนอกที่เรียกว่ากามภพ หรือภายในเรียกอัตตา ตามที่พระพุทธเจ้าสอนในธัมมจักกัปปวัตตนสูตร กามกับอัตตา เราต้องลดลงมาให้มันเหลือน้อยลงน้อยลง จนหมดกามหมดอัตตา จนหมดเลย ไม่มีแล้วกามไม่มีแล้วอัตตา ก็เลยแต่ความว่างๆกลางๆ ศูนย์สูญ เรียกว่ามัชฌิมา
การอธิบายมัชฌิมาปฏิปทาแปลว่าทางสายกลาง ก็เหมือนกับถนนเส้นใหญ่ๆแล้วก็เดินไปกลางกลางถนนจะไปไหนก็ไม่รู้ ฟังแล้วตลก ธรรมะพระพุทธเจ้าก็เลยไม่มีผล ไม่รู้ว่ามัชฌิมา คือความเป็นกลาง แล้วก็มีวิธีปฏิบัติให้สู่ความเป็นกลาง ลดกามลดอัตตาได้ก็จะได้ความเป็นกลาง มัชฌิมา เดี๋ยวนี้ก็ไม่รู้กันแล้ว
ที่อธิบายไปนี้มันยังน้อย ต้องค่อยๆเรียนรู้เบื้องต้นตั้งแต่ ศีล แล้วปฏิบัติตามลำดับ จนเกิดอาการจริงแล้วทำให้จิตของเราสามารถทำให้ลดกิเลสได้ๆ เป็นอุเบกขา แล้วสั่งสมเป็นสมาธิๆ ก็จะเกิดผลไปเรื่อยๆ ที่จริงแล้วหัวใจศาสนามีแค่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคเท่านั้นแหละ
_คณิต ไทเทิดธรรม สีสุวรรณ์ : วันนี้ วันที่10 พ.ค ผมรับชมรายการวิถีอาริยะธรรมทางเฟชอยู่ที่ มาเลรัฐกลันตัน ชัดมากครับ
พ่อครูว่า..อยู่ที่โน่นไม่มาทำเรือเสียที ติด โควิด ก็เลยอ้างว่าอยู่ทางโน้นมีเมียอีกก็เลยไม่มาสักที
_ประมาณ ไข่ขวัญ : บุญนิยมทีวีในช่องดาวเทียมหายไปไหนครับ
พ่อครูว่า..เพราะเราเลิกดาวเทียมแล้วก็เลยหาย หายไปไหน ก็ไม่รู้เราไม่ได้ใช้ มันก็ต้องหายไปสิ เราเลิกที่จะใช้ดาวเทียมแล้ว เราไม่มีวาสนาจะไปเช่าดาวเทียมแล้วเงินทองมันร่อยหรอลงไปมากเราก็เลยต้องพัก ก็เลยต้องเลิกดาวเทียม มาใช้ทางด้านอินเทอร์เน็ตกัน ตอนนี้เราก็ใช้ช่องทางภาษาวิชาการเทคนิค อาตมาก็ไม่ค่อยถนัด จะใช้คำเรียกอะไร Line Facebook ดูอะไรต่ออะไรทาง youtube ก็ว่ากันไปก็ชมได้อย่างนั้น
_Sunita Monitzer สุนิตา โมนิทเซอร์ : น้อมกราบนมัสการพ่อครู ท่านสมณะด้วยความเคารพยิ่งเจ้าค่ะ รับชมจากออสเตรีย ทางเฟสบุ๊คภาพเสียงชัดเจนดีค่ะ
พ่อครูว่า..ส่งข่าวมาจากต่างประเทศทำไมภาพและเสียงชัดเจนดีแต่ทำไมในประเทศกลับไม่ค่อยดีเลย
Kisstina Wong คิสทีน่า หว่อง : กราบนมัสการค่ะติดตามพ่อครูเทศน์มาตลอด พ่อครูทำให้เห็นทุกข์และไม่เป็นทุกข์ค่ะ
พ่อครูว่า..สาธุดีมากเลยคนนี้ ไม่เหมือนคนเมื่อกี้ที่ไม่รู้ทุกข์ไม่เห็นทุกข์
_กรรณิกา เสนาะนํา : (หนึ่งน้อย)กราบนมัสการค่ะ..ขอบคุณโควิดที่ทำให้..บวรศรีษะอโศกเปลี่ยนแปลงไปทางที่ดีขึ้น..ศิษย์เก่าเริ่มสร้างบ้านแปลงเมืองสร้างกลุ่มอยู่ป่ายางตรงกันข้ามบวร..พวกเขาคือทายาทจะสืบต่อมรดกสืบทอดศาสนาต่อจากพ่อ คนรุ่นเก่าก็แก่ชราคนรุ่นใหม่อย่างศิษย์เก่าก็มาสืบทอด..กราบขอบพระคุณพ่อครูท่านสมณะท่านสิกขมาตุที่เคยอบรมสั่งสอน…พวกเขาเริ่มกลับบ้านแล้ว…พ่อปลูกอโศกเพื่อเจ้า..
พ่อครูว่า..โอ้โหดีมากอนุโมทนาสาธุ แต่ที่ราชธานีอโศกทำไมเมื่อไหร่จะมา ปฐมอโศกสันติอโศก ชุมชนชาวอโศกมีไม่รู้กี่ที่ ศิษย์เก่ามีโรงเรียนทั้ง 9 แห่ง เมื่อไหร่จะกลับมาเอ่ย
สู่แดน..กลับไปสู่พี่น้องชาวทะเลธรรมหรือชเลขวัญ รร.ผู้นำ
รุณ…คุณลุงจำลองมีเรื่องสำคัญอะไรจะกล่าวกับพ่อครูหรือไม่คะ
คุณลุง…ไม่มีเรื่องสำคัญอะไรหรอกครับ
รุณ…ไปที่ชาว ทะเลธรรมหรือชเลขวัญ ก่อนนะคะ
คุณยอมจริง…ทะเลธรรม..โควิดเราอยู่ด้วยกันไม่ไปไหน 25 คน มีญาติธรรมเราพูดว่าสาธารณโภคีนี้ต้องทำเพื่อผู้อื่นเท่านั้น จริงไหม
อีกข้อหนึ่ง การปฏิบัติธรรมคือการทำใจในใจเท่านั้น ส่วนการทำงานทำการมันไม่ใช่ปฏิบัติธรรม ต้องทำใจในใจเท่านั้น ข้อที่ 2 จริงไหมคะ
อีกข้อหนึ่ง จะสร้างความเมตตาที่มันลงตัวเหมาะสม ไม่ใช่เมตตาเกินไป หรือว่าไม่เมตตา เราจะทำอย่างไรให้เมตตาแท้ๆ
พ่อครูว่า…สาธารณโภคีนี้ต้องทำเพื่อผู้อื่นเท่านั้น จริงไหม โดยตัวจบมันเป็นจริง ตรวจสอบของผู้ปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วจะหมดอัตตาหมดตัวตน เมื่อหมดตัวตนและตัวเราก็เป็นคนที่ยังไม่ตายก็ต้องมีกรรมกิริยามีการงานการกระทำมีสมรรถนะมีความรู้ความสามารถ เราก็ให้ความรู้ความสามารถนี้เราก็ทำความรู้ความสามารถของเรานี่แหละ เป็นการกระทำเป็นการงาน มันก็จะเกิดผลผลิตเกิดแรงงาน ขึ้นมา ก็จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นไป นั่นเป็นตัวจบ ที่นี่มันยังไม่ถึงตัวจบ เราก็ต้องฝึกฝนตัวเอง อยู่กับหมู่กลุ่มที่เรามีระบบสาธารณโภคี มีผู้ที่ท่านจบ ท่านทำเพื่อหมูกลุ่ม 100% ผู้ที่ได้ทำเพื่อหมู่กลุ่ม 90% 80% 70% มันก็มีลดหลั่นกันอยู่ในสัจจะ แต่ละคนเองมันก็มีอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นในสาธารณโภคี นี้ มันจะเป็นได้ว่าเราไม่มีตัวตนก็ต้องปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าที่ถูกต้อง ปรมัตถธรรมถูกต้องสัมมาทิฎฐิที่แท้จริง แล้วก็ต้องลดกิเลส หมดตัวตนไม่ได้หมายความว่าร่างกายหายไป จิตวิญญาณก็หายไปที่ไหนไม่เหลือไม่ใช่ คำว่าตัวตนคำนี้ หมายถึงตัวตนของกิเลส ตัวตนของกิเลสมันหมดเกลี้ยง กิเลสยิ่งลดลง ตัวตนที่ลดลงหรือตัวตนของกิเลสยิ่งเล็กลง ตัวความเป็นจริงของตัวตนที่แท้จริงกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ของบุคคลผู้นั้นๆ ยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งมีความรู้ยิ่งมีความสามารถยิ่งมีความขยัน ยิ่งมีความเห็นแก่ผู้อื่น เพราะความเห็นแก่ตัวมันลดลง ลดลง นี่คือสัจจะมันเป็นเช่นนั้น
ผู้ที่ปฏิบัติธรรมถึงขั้นพระอรหันต์ตัวตนหมด ตัวตนจริงที่เป็นจริง จะยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งมีความรู้ความสามารถตามบารมีแต่ละคน แล้วก็สร้างสรรธรรมะที่เป็นตัวแท่งก้อน พระอรหันต์เป็นตัวแท่งก้อนที่ทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นถ่ายเดียวเลย ศาสนาพุทธเสื่อมกลายเป็นศาสนาออกป่าเขาถ้ำ มันไกลคนละเรื่องกับศาสนาพุทธ ศาสนาพุทธและยิ่งกิเลสหมดยิ่งทำงานเก่งเอาใจใส่กับสังคมทำงานกับสังคม รู้จักบ้านเมืองรู้จักสังคมมีประโยชน์ต่อสังคมดียิ่งขึ้นๆ อย่างนี้ต่างหากคือศาสนาพุทธ
เพราะว่าความเพี้ยนมันมาก่อน มันเป็นมานานจนกระทั่งแต่เข้าใจความเพี้ยนความผิดเป็นความถูก ในวงการศาสนาพุทธเป็นแบบเดียรถีย์ มันเข้าใกล้เป็นศาสนาเชนแล้ว มีแต่อยู่กินนอนขี้เยี่ยว ตาย ไม่เอาอะไรจริงๆผ้าผ่อนก็ไม่นุ่งห่ม แล้วก็จะรอเวลาตายเท่านั้นเองเหมือนพวกเชนเข้าไปทุกที เดียรถีย์ ซึ่งมันไม่ใช่เลยศาสนาพุทธ อาตมาจึงต้องเอาศาสนาพุทธมาประกาศ ตรวจสอบตามพระไตรปิฎก ชัดเจนทุกวันนี้อาตมาขยายความยืนยัน ทุกวันนี้เขาอธิบายอย่างผิดเพี้ยนแล้วก็อ้างอย่างเบี้ยวบาลีผิดๆ อาตมาก็ต้องมาแก้กลับอยู่ทุกวันนี้ นี่คือศาสนาพุทธที่เรากำลังทำอยู่
_ใบแพร นาวาบุญนิยม …ทางใต้เข้าฤดูฝน ฝนตกแทบทุกวัน อยู่ที่ชเลขวัญ ก็จัดกิจกรรมสม่ำเสมอ แต่ทุกครั้งที่จัดกิจกรรม คนก็จะอ้างการติดงานไม่ค่อยมาร่วมกัน แต่วันนี้ก็ประทับใจ คนมารวมกันมาก บางคนอยู่ไกล 30 กิโลเมตร 60 กิโลเมตรก็มา ได้เห็นความขวนขวายที่เขาจะมาฟังธรรมพ่อครู มากันตั้งแต่บ่าย 2 (พ่อครูว่า…อนุโมทนาสาธุ)
พ่อครูว่า…ก็ค่อยๆขยับไปเดี๋ยวพังงาก็มาได้ ภูเก็ตก็ค่อยๆขยับไป
สู่แดนธรรม…ผมได้ข่าวมาว่า ทางโรงเรียนผู้นำจะมีอะไรเซอร์ไพรส์พ่อท่าน
ลุงจำลอง…ตอนนี้พ่อท่านสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีไหมครับ
พ่อครูว่า..แข็งแรงตอนนี้น้ำหนักจะขึ้น 53 กิโลกรัมแล้ว ดูซิ อาตมาดูหน้าตาเราในจอ กลมดิกเลย ทำไมหน้าตาเราเป่งกลมอย่างนี้
ลุง…พ่อท่านสูงเท่าไหร่ครับ
พ่อครู…164
ลุง …ตามหลักเกณฑ์ทั่วไปแล้วผู้ชายเอาส่วนสูงตั้งลบด้วย 100 คือน้ำหนักที่พอดีครับ ส่วนผู้หญิงต้องลบด้วย 110 ครับ
พ่อครูว่า…อาตมาต้องให้ถึง 54 ถึงจะได้มาตรฐาน
ลุง…น้ำหนักต้อง 64 ถึงจะได้มาตรฐานครับ
พ่อครู…อาตมาตั้งแต่หนุ่มมาจนถึงตอนนี้เป็นมาตรฐานอย่างนี้มาตลอด อย่างเก่งน้ำหนักเคยถึง 55 ปกติก็อยู่ที่ 49-50 เป็นธรรมดา ตั้งแต่หนุ่มจนถึงบัดนี้ ตอนนี้น้ำหนักขึ้นนะถือว่าน้ำหนักขึ้น ธรรมดาอาตมาจะหน้าตอบ มีโหนกแก้ม นี่รู้สึกว่าตัวเองหน้ากลมบ๊อก
_ເກດມະນີ ສຸກສະຫວັນ ນະມັດສະການ ພໍ່ທ່ານດວ້ຍຄວາມເຄົາລົບຢ່າງສູງ ນາງ ມ໋ອກ ບົວວັນ ສາທຸສາທຸສາทุ
เกดมณี สุขสวรรค์ : นมัสการพ่อท่าน ด้วยความเคารพอย่างสูง นางน๋อก บัววัน สาธุ สาธุ สาธุ
_Sapsiri Suwansuk ทรัพย์สิริ สุวรรณศักดิ์ : ลุงตู่นี่รู้จักอโศกไหมครับ น่าจะมาดูงานแล้วเอาไปปรับบริหารประเทศ ว่าเศรษฐกิจที่ดีมีที่นี่ที่อโศก
_เมฆเมฆา รอดช้างเผือก : กราบอนุโมทนาธรรม.ขอน้อมบุญอันมิมีประมาณของแห่งพ่อครูครับ.ขอน้อมกระแสบุญแห่งพ่อครู.หนุนนำให้ข้าพเจ้ามีความสุขในธรรม.ความเจริญในบุญอันหาประมาณมิได้. เพื่อนธรรมทุกท่านครับ
พ่อครูว่า…บุญไม่มีใครขอใครได้ บุญไม่มีใครแจกใครได้ บุญเป็นอาการของพลังงานจิตผู้ที่ทำจิตให้เกิดพลังงานที่มันสามารถกำจัดกิเลสได้ ขณะที่ทำให้พลังงานจิตรู้จักกิเลสแล้วก็ชำระกิเลสลงไป กิเลสก็จางคลายลงไปเรื่อยๆ กิเลสจางคลายลงไปเรื่อยๆนี้เรียกว่า ฌาน
พอกำจัดกิเลสลงไปได้เรื่อยๆ ได้เท่าไหร่ก็ได้ก็เรียกว่าได้ส่วนบุญ ได้ส่วนที่ถูกชำระได้กำจัดไปเท่านั้นเท่านั้นเรียกว่า ปุญญภาคิยา ได้ส่วนแห่งบุญที่ได้กำจัดกิเลสไป หากกำจัดกิเลสได้หมดสิ้นในเรื่องนี้เรื่องนี้ ก็เป็นบุญ การชำระกิเลสด้วย ฌาน สำเร็จผลจบเรียกว่า บุญ เป็นผู้ที่ทำบุญจบเป็นผู้ที่ทำบุญสำเร็จ เป็นผู้ที่ทำบุญได้จริง นี่คือนิยามคำว่า บุญ
ทุกวันนี้เข้าใจคำว่าบุญหมายถึงเรื่องกุศล หมายถึงเรื่องสมบัติ หมายถึงคุณงามความดีที่เราได้ทำคุณงามความดีแล้วก็ได้เป็นสมบัติเป็นกุศล เพื่อที่จะให้เป็นเครื่องอาศัยในชีวิตในวิบาก ของอัตภาพซึ่งมันไม่ใช่ บุญคือชื่อของพลังงานที่ทำหน้าที่กำจัดกิเลส เสร็จ เรียกว่าบุญ ต่อจากฌาน
ฌานคือ พลังงานที่จะต้องสร้างในปัจจุบันทั้งนั้น ลืมตาสร้าง สร้างแล้วเกิดในปัจจุบันเท่านั้นในเวลาอื่นไม่มี จะมีเหตุปัจจัยที่มีรูปมีนามสัมผัสเป็นปัจจัยและเกิดพลังงานขึ้นมา พลังงานนั้นก็เกิดปฏิกิริยาสามารถกำจัดกิเลส ถ้าไม่มีกิเลสก็ไม่ต้องไปทำบุญอะไร เพราะฉะนั้นบุญจึงมีพยัญชนะบาลีอยู่ว่า เมื่อทำงานฆ่ากิเลสจบเสร็จสิ้น คือ อรหันต์ คือคนหมดบุญหมดบาป บาปคือกิเลส เมื่อเรากิเลสหมดสิ้นไปแล้วบาปก็ไม่มี บุญก็ไม่มี ภาษาคือปุญญปาปกริขีโณ คือ สิ้นบุญบาปเป็นพระอรหันต์
ซึ่งเรื่องนี้ศาสนาพุทธได้เพี้ยนไปไกล ซึ่งแทบจะเรียกว่าไปไหนมาสามวาสองศอกพูดกันไม่รู้เรื่อง เขาฟังอาตมาแล้วก็บอกว่าไม่เข้าใจ เขาฟังแต่เรื่องศาสนาเทวนิยมสากลทั่วไปมีแต่ดีแต่ชั่ว แต่ของพระพุทธเจ้านั้นมีกิเลสและลดกิเลสหมด ดับสุขดับทุกข์ ดับนรกสวรรค์ ดับภพชาติ นี้คือศาสนาพุทธ อาตมาพูดไปก็เลยเหมือนกับคนบ้า พูดอยู่ได้คนอื่นเขาไม่เห็นรู้เรื่องเลย อาตมายังมีพวกที่บ้าด้วยกันอยู่กับอาตมากลุ่มนึงพวกชาวอโศกเป็นต้น เขาก็ได้ประโยชน์ธรรมะของพระพุทธเจ้านี้
สู่แดนธรรมว่า…ขอเชิญคุณลุงจำลองเล่าว่า ที่โรงเรียนผู้นำช่วงนี้ มีโควิด อยู่กันอย่างไรครับ
คุณลุง..อยู่กันอย่างสบายดีสำราญดีครับ
พ่อครูว่า…ที่โรงเรียนผู้นำอย่างที่ภาพได้เห็น แม้จะโควิด จะปิดสถานที่ ส่วนไหนเหมือนกับครอบครัว แต่ละแห่งแต่ละแห่ง โรงเรียนผู้นำก็เหมือนกับครอบครัวใหญ่มีผู้อยู่เป็นชุมชน 1 เท่าที่อยู่ ก็คงอยู่กันอย่างสำราญเหมือนกับที่ราชธานีอโศก ปิดก็เหมือนกับครอบครัวอยู่ในนี้ คนที่เข้ามาตกอยู่ในนี้ในขณะที่ไปไหนไม่ได้เพราะว่าถูกกำหนดไม่ให้เคลื่อนย้ายออกจากที่แล้วล็อคดาว ใครอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่น ก็มีคนต่างประเทศคนต่างจังหวัดต่างถิ่นที่ตกอยู่ในราชธานีอโศกตอนนี้ก็มีไม่ใช่น้อย ก็เลยอยู่กันอย่างสุขสำราญไปเลย แต่ละคนจะรู้สึกอย่างไรคงได้ถามกันคนที่ตกค้างอยู่ในช่วงโควิด มีทั้งคนที่อยู่ต่างประเทศแล้วมาเมืองไทย มีคนต่างประเทศจริงๆมีคนต่างชาติ แล้วก็มีคนไทย ที่ไปอยู่ต่างประเทศแล้วก็กลับมาในช่วงระยะเวลานี้พอดีอยู่ที่นี่ เมื่อตอนท้ายหายไปแล้วคงจะได้ ก่อนจะไปก็สัมภาษณ์ไปหน่อยว่าเป็นอย่างไร ตกอยู่ที่นี่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งจะกี่วันกี่เดือนกี่ปีก็ยังไม่รู้เลย จะเกิดความรู้สึกอย่างไรได้รับความรู้อย่างไรคงจะได้เปิดเผยกัน
_ถาวร ทะเลธรรม…หลายคนยังสงสัยเรื่อง กรรม 12 ในครั้งอดีต ผมเคยไปงานปลุกเสกฯ พ่อท่านเทศน์เรื่องกรรม 12 ไพเราะมาก ทำให้ใจเราเข้าถึงธรรม
กรรมในอดีตชาติส่งผลในปัจจุบันเป็นอย่างไร
กรรมที่ตัดรอน ในปัจจุบันโควิดถือเป็นการตัดรอนได้ไหม
กรรมที่ทำในเวลาใกล้ตาย กิเลสเราตายหรือเราตายก่อน
พ่อครูว่า…กรรมในอดีตชาติส่งผลในปัจจุบันเป็นอย่างไร อันนี้ตอบสั้นๆง่ายๆว่าทุกคนนี้เกิดมาจาก กรรมอดีตเป็นตัวหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่ากรรมในอดีตนั้นจะเป็นตัวที่เที่ยงแท้แน่นอน กรรมอดีต มาถึงปัจจุบันเปลี่ยนแปลงได้ แล้วมันต้องเปลี่ยนแปลงเพราะจะมีกรรมใหม่เข้าไปผสม กรรมในอดีตจะไม่คงที่แต่มันก็เป็นตัวตั้ง ทำแล้วมันจะต้องเป็นตัวจริงว่ากรรมเป็นอันทำ กรรมที่ทำไปแล้วจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม ทำแล้วถ้ามันชั่วก็คือชั่ว ถ้ามันดีก็คือดีแล้วมันจะออกผลชั่วออกผลดี ให้แก่ตัวเอง ไม่เบี้ยว กรรมซื่อสัตย์กรรมตรงกรรมจริง แล้วจะให้ผลในปัจจุบันนี้แหละ ในอดีตมันก็แล้วไปแล้ว ในอนาคตก็ยังมาไม่ถึง ผลที่จะได้รับก็ต้องรับในปัจจุบันนี้แหละ จะรู้สึกในปัจจุบัน อดีตมันก็ผ่านไปแล้ว นอกจากคนโง่ก็จะหลงเอาอดีตมาระลึกแล้วก็เป็นเหมือนจริงจังอยู่กับอดีต ทั้งที่มันผ่านไปไหนต่อไหนแล้ว หรือมันยังไม่มาเลยอยู่ในอนาคต อยากให้เป็นก็ระลึกปั้นเอาละเมอเพ้อพกไป นั่นคือคนไม่รู้จักความจริง ความจริงคือปัจจุบัน อันนี้แหละสำคัญกรรมปัจจุบัน ต้องพยายามรู้จักปัจจุบันแล้วก็ทำกรรมที่ปัจจุบันให้เป็นสิ่งที่ดี แล้วมันจะดีเอง อดีตมันก็จะเป็นผลสั่งสมให้ดีไป อนาคตมาเมื่อไหร่ก็ตามแต่เราก็ทำให้ดีในปัจจุบันนี้และเข้าใจคำว่าดีให้ดีก็แล้วกัน มันเป็นเรื่องของกรรมเรื่องของสิ่งที่ในอัตภาพเราต้องทำอย่างนั้น
ส่วนของพระพุทธเจ้านั้นจะต้องให้ล้างกิเลสในปัจจุบันเหมือนกัน ในทุกปัจจุบันนอกจากจะทำให้เป็นกุศลเป็นบุญแล้ว จะต้องลึกซึ้ง ของพุทธนี้จะต้องมีตัวที่ไปด้วยกัน ต้องรู้จักกิเลสว่ามันเกิดพร้อมกันในจิตของเรา จิตชั่วก็เกิดกิเลสจิตดีก็เกิดกิเลสได้ จิตใจที่ดีก็เกิดกิเลสได้ใจที่ชั่วก็เกิดกิเลสได้ ต้องอ่านกิเลสให้เป็นแล้วอย่าให้เกิดกิเลส
เมื่อไม่เกิดกิเลสได้นั่นคือความจบสมบูรณ์คือความเที่ยง แม้แต่กุศลคุณก็จะเที่ยง อกุศลก็จะไม่มีอย่างเที่ยงเลยไม่มีอกุศลไม่มีบาป สัพพปาปัสสะ อกรณัง ทุกกรรมกิริยาก็จะมีแต่กุศล กุสะลัสสูปะสัมปะทา จะมีอย่างนั้นจริงๆนี่คือสัจจะของกรรม
ในกรรมต่างๆ อธิบาย 12 กรรมก็เป็นพยัญชนะ เขาแบ่งเป็นหมวดๆ หมวดละ 4
เราก็สรุปสั้นๆว่ากรรมดีกรรมชั่วกับกรรมที่กลางๆ
-
กรรมที่ทำ แล้ว อัพยากฤต ไม่รู้ว่าดีหรือชั่วไม่เข้าใจก็ไม่รู้จึงต้องพยายามรู้ในกรรม ว่ากรรมอย่างไรดี อย่างไรชั่ว เรียกว่าผู้พ้น อัพยากฤต ผู้พ้นอัพยากฤตแล้ว รู้ว่ากรรมอะไรดี กรรมอะไรชั่วจนกระทั่ง ทำกรรมที่ไม่มีอะไรดีอะไรชั่ว คือผู้ที่สูงสุดในปรมัตถ์ เป็นกรรมที่ไม่มีดีไม่มีชั่ว ผู้นั้นทำกรรมอะไรก็ไม่มีความชั่วแล้วกรรมนั้นของผู้นั้นจึงมีแต่ดี แต่ทำกรรมดีแล้วผู้นั้นก็ไม่ยึดกรรมดีนั้นเป็นของเราเป็นตัวเราทำกรรมแล้วจบ ไม่มีสาเปกโข ทำกรรมแต่ดีแล้วไม่ยึดกรรมนั้นเป็นเราเป็นของเรา นี่คือจบสูงสุด เป็นปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา เป็นองค์ธรรม 5 ของอุเบกขา