630605_พิธีน้อมกตัญญูบูชา พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ งานอโศกรำลึก 2563
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1xbsxt6ZEZEmnhEFnCf5b4mTHEKeWeI7-j3LXobjBMds/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=1q8qznI0TDdOCB0M1VGJgTUZuE9afFfd4
พ่อครูว่า…อาตมาเกิดมาได้ 86 ปี ทำงานมาจะ 50 ปี ก็เห็นความมีค่าของคนโดยเฉพาะค่าของตัวเอง มีค่าของตัวเอง รู้ว่าคนมีค่าคืออะไร ได้รู้ว่าความเป็นคนมีค่าคืออะไร ยิ่งเห็นชัดเจนเลยว่า พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาเป็นเจ้าชายสิทธัตถะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน และแน่นอนดวงของท่านจะได้เป็นพระเจ้าจอมจักรพรรดิ ทุกคนรู้ในดวงของท่านนี่แหละ บารมีของท่าน ถ้าท่านอยู่ในโลกครองราชย์ต่อไปจะเป็นได้เป็นเจ้าจอมจักรพรรดิ ยิ่งกว่าจอมจักรพรรดิจิ๋นซี แต่ท่านไม่ได้แยแสที่จะเป็นจอมจักรพรรดิ์ที่จะได้เป็นผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ ที่จะได้อาณาเขต มีอำนาจ เหมือนกับประเทศนักล่าอาณานิคม ท่านไม่แยแสไม่ดีทิ้งออกมา ทิ้งเลย ออกมา รองเท้าทองที่เคยใส่ก็ไม่เอาเลย ออกมาพระบาทเปล่า แล้วก็ทำงานในด้านธรรมะ
มันชี้บ่งให้เห็นความสำคัญของธรรมะในความเป็นมนุษย์ แต่มนุษย์ในโลกอย่างเช่นโดนัลด์ทรัมป์ก็ต้องการความยิ่งใหญ่ในอาณาจักรในอาณานิคมในโลกจะต้องเป็นใหญ่ อเมริกันเฟิร์ส จะต้องเป็นหนึ่งเป็นยิ่งใหญ่ให้ได้ แต่พระพุทธเจ้า ยิ่งเป็นผู้ที่มีภูมิธรรมสูงเขาจะรู้จักคุณค่าของความยิ่งใหญ่ คือคุณค่าของธรรมะ ลองนึกดีๆนะ ในยุคโน้น ทวีปอินเดียไม่ใช่ทวีปเล็กเป็นทวีปใหญ่ แม้ว่าการคมนาคมจะไม่ต่อเนื่องไปถึงทวีปอื่น แต่แน่นอนถ้าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ทางโลกก็เป็นเจ้าจอมจักรพรรดิทั้งทวีปเลยทวีปอินเดีย ใช่ไหม แคว้นใหญ่อย่างแคว้นโกศล มคธ จะต้องอยู่ในอาณัติของท่านเลย แต่นี่ท่านออกมาทางธรรมแล้ว กษัตริย์ระดับพระเจ้าปเสนทิโกศลพระเจ้าพิมพิสาร ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินแคว้นใหญ่ที่สุดในอินเดียยุคโน้น ยอมยกให้ท่านทุกอย่างเลย ท่านจะทำอย่างไร ท่านเป็นอิสระไปไหนได้เหมือนมีรัฐอิสระ มีธรรมนูญของตน ใครมาเข้ารีตเป็นหมู่ของท่านไปไหนต่อไหนได้เลย ทั้งๆที่เป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระเจ้าแผ่นดินไม่หวงราษฎรแต่ก็ยินดีให้มาเป็นของพระพุทธเจ้า
เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าถามพระเจ้าอชาตศัตรู ที่บอกว่าถ้าเผื่อว่ามีข้าราชบริพารรับใช้ใกล้ชิด มหาดเล็กใหญ่ดูแลกินนอนอยู่ด้วย ตื่นก่อนนอนทีหลังอะไรต่างๆนานารับใช้อย่างสนิท สรุปง่ายๆว่าถ้าเขาจะมาบวช มาเป็นคนของพระพุทธเจ้า เขาพอใจที่จะบวชกับพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านจะเอาคนของท่านไว้ไหม พระเจ้าอชาตศัตรูก็บอกว่ามีแต่จะอนุโมทนาสาธุจะต้องหาบริขารให้ท่านไปเลย อย่างนี้เป็นต้นไม่ได้ห่วงเห็นคนของตัวเองเลย เป็นความยิ่งใหญ่ในความสำคัญของธรรมะเป็นความชี้บ่งอย่างนั้นเลย
อาตมาตั้งแต่ออกมาทางธรรมะตั้งแต่วันที่ตัดสินใจออกมาแล้วไม่ได้เคยมีความคิดที่จะสงสัยลังเลว่อกแว่ก ตัดขาดกัน คนแค่อาตมาเป็นโพธิสัตว์ระดับนี้ พระพุทธเจ้าก็แน่นอนเต็มบริบูรณ์ขนาดเรายังชัดเจนที่จะออกมา ไม่ต้องอาตมาหรอกพวกเราแต่ละคนที่ออกมาบวชมีตังค์ผู้ชายผู้หญิงที่เป็นชาวอโศกที่เป็นสิกขมาตุ สมณะ หลายคนก็จะมีความรู้สึกนี้ เราออกมาบวชทางนี้แล้วไม่เคยวอกแวก ทางโลกที่จะสงสัยกลับไปอีก นอกจากบางคน ความรู้สึกอย่างนั้นออกมาแต่แรกมี แต่ออกมาแล้วมีวิบากตัดรอน บวชไปไม่รอด จะต้องกลับออกไปอีก ก็แล้วแต่วิบากของใครของมัน แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามาบวชแล้วก็อยากจะถามว่าถามดูใครอยากจะสึกบ้าง? บางคนก็ 30 40 50 ปีแล้วอายุก็แก่แล้วบางคนก็ผมหงอกแล้ว หรืออาจจะมีบางคน นี่เดาๆ อยากสึก แต่มันดูแล้ว สึกแล้วจะไปตั้งต้นอย่างไร อายุก็เยอะแล้ว หมดเนื้อหมดตัวแล้ว ทิ้งมาหมดแล้ว กลับไปจะอย่างไร ก็เลยไม่กล้าสึก จะมีหรือเปล่าก็ไม่รู้อย่างนั้น มีไหม? มียกมือ?
แสดงว่าเป็นคนที่เข้าถึงธรรมะเป็นคนที่ได้ธรรมะเป็นที่พึ่งอาศัย พึ่งธรรมะนี่แหละเป็นชีวิตแล้ว แทนที่จะไปพึ่งโลกีย์ ลาภยศสรรเสริญโลกียสุขก็มาพึ่งพาธรรมะโดยเฉพาะโลกุตรธรรม พูดกันว่าโลกุตรธรรม ที่อื่นเขาไม่มีที่ไหนไม่ว่าสำนักไหนเขาจะเอาไปขยายความ เอามาอธิบาย ให้ผู้ศึกษาธรรมะของพระธรรม รู้จักว่าโลกุตรธรรมมันคืออะไรมันเป็นอย่างไร เรามีไหมเราได้ไหม คุณธรรมอย่างนั้น ที่เรียกว่าโลกุตรธรรม
โลกุตรธรรมอันแรกที่สุดก็คือโสดาบัน มีคุณธรรมโสดาบัน
โสดาบันคืออะไร โสดาบันคือคนที่กิเลสในระดับ ความเป็นโลกอบายในกามาวจร กามภูมิ ความเป็นโลกอย่างนั้นเราไม่เข้าไปอีกแล้ว ตัดโลกนั้น มันมีอยู่ในโลก จัดจ้านมาก ไม่ว่าด้านอบายมุข หรือด้านที่ไม่รู้จักกันมันซ้อนอยู่ ในโลกแห่งลาภยศสรรเสริญกามคุณ
แต่มันเป็นยิ่งกว่าอบายมุข มันห้ำหั่นฆ่าแกงแย่งชิงเล่เหลี่ยมซ้อน เหมือนหนังกำลังภายในหนักหนาสาหัส เป็นอบายมุขในระดับของเขา อย่างเช่น นักการเมือง เป็นต้น มันเล่นห้ำหั่นกันฆ่ากัน ในระดับซับซ้อนเหมือนผู้ดี แต่เอาให้ตายทั้งเป็นเลย เขาไม่รู้จักความเป็นอบายมุขอย่างนั้น หรือพวกนายทุน นายทุนที่ หาเงินจากสังคมมนุษย์ ได้เปรียบแล้วทำให้ตนเองเสื่อมต่ำ เช่น สร้างอบายมุขเครื่องมอมเมา สร้างที่มองชัดๆเช่นน้ำเมา เอามามอมเมาแล้วก็ร่ำรวยไป ขายน้ำเมา เขาไม่รู้หรือว่าสุดยอดแห่งอบายมุข มหาบาปที่เขาทำ แต่เขาอวิชชา ไม่รู้เรื่องเลย วิบากเขาในอนาคตจะมีเยอะ คนที่ได้รับผลสืบทอดต่อเนื่องจากเพราะการกินน้ำเมา ก็จะไปฆ่าแกงกันไปล้างไปทำลาย ไปทำเลวทรามอะไรอีกมากมาย แต่คนที่ทำน้ำเมาขึ้นมาไม่รู้สึกรู้สา ไม่รู้ว่ากรรมวิบากพวกนี้มันเป็นวิบากบาป เขาก็ตั้งหน้าตั้งตากอบโกย สร้างหลุมนรกขุมอเวจีให้แก่ตัวเอง
หรืออย่างการโกงบ้านโกงเมือง ได้โอกาสโกงได้โกงเอา เหมือนอย่างกับทักษิณ อาตมาก็รู้เจตนารมณ์ของเขา เป็นกิเลสเป็นตัณหา เขาเองเขาได้โอกาส เป็นผู้ที่จะบริหารแล้วจะต้องพยายามคอรัปชั่นเอาเงินทองของประเทศ ตั้งแต่เขาเองทำจนกระทั่งถูกขับออกไปโดยพวกเรานี่แหละ เขาก็ตั้งนอมินีขึ้นมาเพื่อที่จะซ้อนเราได้ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
เขาก็เก่งจริงๆ เก่งในการจะทำชั่ว พอสมชายมาต่อ เขาก็ยิ่งโอ้โห พอสมชายบริหารยังไม่ได้โอกาสมากก็เอาน้องสาวมาเป็นนอมินีต่อ เขารีบเลย เร่งกันกับน้องสาวเลย จะเอาให้หมดกี่แสนล้านเห็นไหม ซึ่งยังไม่เคยมีในประเทศไทยเลย เขาจะกอบโกยโกงเร่งทันทีเลย นี่คือจิตใจของทักษิณเป็นมหาอเวจีนรกที่เขาคิด แต่เขาไม่รู้หรอกว่าเป็นมหาอเวจี
เหมือนกับคนที่ทำให้คนแย่แล้วเขาก็ร่ำรวย เขาก็ไม่รู้ว่าเขาเองได้อะไรก็ไม่รู้ อย่างนี้เป็นต้น ที่อาตมาพูดถึงสิ่งจริงเหล่านี้ในมนุษย์ในคนไทยเป็นสัจธรรมเป็นธรรมะที่ควรรู้ อย่าไปทำอาชีพที่มอมเมาอย่างนี้หรือเป็นนักการเมือง แม้ที่สุดข้าราชการ ข้าราชการคือผู้รับใช้ประชาชน ข้าราชการนี้คือนักการเมืองระดับประจำ ส่วนที่เลือกตั้งไปเป็นข้าราชการการเมืองชั่วคราว อันนั้นเป็นข้าราชการจร แต่ข้าราชการประจำ เป็นนักการเมืองประจำ เป็นผู้รับใช้ประชาชน แต่ความเป็นสิริมหามายา กลายเป็นว่าข้าราชการเป็นนายประชาชน ประชาชนเป็นผู้รองรับอำนาจบาตรใหญ่ของข้าราชการซึ่งมันผิดสัจจะหมดเลย
นักการเมืองคือผู้รับใช้ประชาชน นักการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งคือผู้รับใช้ประชาชนขาจร ส่วนข้าราชการคือนักการเมืองขาประจำ เป็นผู้รับใช้ประชาชนประจำ แต่เป็นที่ไหน พฤติกรรมมันเป็นที่ไหน ผู้ที่เป็นข้าราชการต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องของมนุษย์และเรื่องของสังคม แล้วก็จะได้มีความรู้มารับใช้สังคมได้เต็มที่ พอได้รับกิจการเขามอบให้เป็นผู้มาทำ เอ้อเก่งนี่ รับหน้าที่รับผิดชอบได้ ในระดับตำบล(พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไท …
พ่อครูว่า ขายหน้าเลย อาการเกิดในวันเกิด แต่ถึงอย่างไรอาตมาก็พยายามเลี้ยงขันธ์ให้ยาวยืนไป เพื่อที่จะทำงาน จนมั่นใจหรือสู้ไม่ไหวจริงๆ สุดวิสัยก็แล้วไป แต่ถ้าไม่สุดวิสัยก็พยายาม 1. เจตนาตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองจะอธิบาย ถ้ายังมีสิ่งที่จะขยายความไปได้อีกแต่ละจุดอาตมาจะวนเวียนขยายความไปได้อีก มันมีเรื่องลึกซึ้งอีกเยอะเลย ก็ต้องพยายามเพื่อจะให้ได้มากที่สุดนี่คือเจตนารมณ์
-
ก็จะพิสูจน์ Coefficient พิสูจน์สัมประสิทธิ์ว่า เราจะมีอายุอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านตรัส อานนท์เราจะมีอายุถึงกัปหรือเกินกัปได้ เป็นไปได้ ทำได้ แต่ท่านก็พอแล้ว ท่านก็หมดวาระ อาตมาก็ว่าถ้าคุณธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นไปได้ แน่นอนพระโพธิสัตว์จะต้องสั่งสมบารมีเป็นตามลำดับแน่ อาจจะไม่เก่งเท่าพระพุทธเจ้า เป็นธรรมดา แต่ถ้าเป็นอาตมาระดับ 7 ก็ควรจะต้องมีคุณสมบัติอย่างนี้บ้าง ที่อาตมาพิสูจน์ก็เพราะว่าอาตมาจะต้องพิสูจน์ แสดงว่ายังไม่แน่ใจ แต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าอานนท์เราจะมีชีวิตเกินกว่านี้ก็ได้ อย่างพระพุทธเจ้าท่านจะอายุไม่ถึง 200 ปีท่านก็ทำได้ แต่ท่าน 80 แล้วจะปรินิพพานก็เรื่องของท่าน เชื่อไหมว่าท่านจะอายุถึง 200 ปีก็ได้ อย่างอาตมาบอกว่าเอาแค่ 151 ก็ต้องพยายามดู นี่ยังไม่มีคำตอบเลย ถ้าถึงร้อยเมื่อไหร่ น้ำหนักมันจะไม่เบาเลยนะ ที่จริงอาตมาพูดโดยจริงเลย