มิ.ย.82020ศาสนา630608_พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า อโศกรำลึก 2563 ชาวอโศกอายุมี 100 ปีเป็นมาตรฐาน ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1x8V1f9qH5zsdaEsbGzCM9CiSOYWsOWe-Lj-qq5yk7rw/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/open?id=185qguaFjWljH_0xaQJrwRTV1FLxb65qq พ่อครูว่า…วันนี้เป็นวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 ที่บวรราชธานีอโศก ก่อนอื่นขอคั่นด้วยโฆษณาหน่อยหนึ่งนะ เนื่องจากภาวะโควิดระบาด จึงทำให้ร้านหนังสือธรรมทัศน์สมาคมต้องปิดร้านมาหลายเดือน เราจึงสร้างร้านค้าในเพจ”อโศกอักษร”ขึ้นทางเฟสบุค เพื่อโฆษณาขายหนังสือทางอินเตอร์เน็ต จึงอยากชักชวนให้ญาติธรรมและผู้สนใจเข้าไปเยี่ยมชมร้านหนังสือในเพจ”อโศกอักษร”ของเรา พ่อครูว่า..อาตมาไม่เป็นเรื่องโซเชียลมีเดียเลย กดก็ไม่เป็นเพราะว่าไม่ตั้งจิตที่จะไปเรียนรู้เรื่องนี้เลย วางทิ้งปล่อย เรียกว่าดับชีวิตินทรีย์ ชัดเจนในรูป 28 ต้องมีสภาวะ ไม่ใช่แค่รู้แค่ตัวหนังสือ รูป 28 สภาวะเป็นอย่างไรเราก็เข้าใจแล้วก็ทำได้ ถ้าเราทำได้เข้าใจได้มันจะจำได้หมดไม่ต้องท่อง มันจะเรียงลำดับ รูป 28 ซึ่ง 28 ตัวไม่ใช่ง่ายๆจะท่อง แต่จะจำได้จริง เพราะมันจะมีอย่างนั้นให้เราทำจริงๆ นาม 5 รูป 28 พระอภิธรรมเขาไม่ได้เรียนนะ นาม 5 เขาเรียน แต่รูป 28 เขาไม่ได้เรียนและไม่รู้ที่ทำ เขาไปรู้เจตสิกย่อยๆเลย เขาจะไม่ทำจนเกิดผลได้ผลเป็นหมู่มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันด้วยสาราณียธรรม 6 เป็นหมู่มิตรสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี ล้วนแต่เป็นคนที่มีความยินดี ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลกก็แล้วแต่จะรวมกันอยู่ที่นี่ มีสถานที่ที่เป็นสัปปายะ 4 มีบุคคลมิตรสหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี มีอาหารมีเครื่องอาศัยครบพร้อม มีธรรมะสัปปายะ 4 ต้องอยู่อย่างนี้ชัดเจนอย่างนี้ เข้ามาแล้วก็จะต้องมีศีล อย่างน้อยศีล 5 มีศีลแล้วก็จะต้องเรียนรู้อัตตาสภาวะของอัตตาคืออะไร สุริยเปยยาล 7 เราจะรู้สภาวะ ไม่ใช่รู้พยัญชนะ อัตตาคืออะไรและเราจะต้องทำความเห็นให้แจ้งมีสัมมาทิฏฐิ 10 เป็นต้น หรือสัมมาทิฏฐิ 2 สัมมาทิฏฐิ 3 สัมมาทิฏฐิ 6 สัมมาทิฏฐิ 10 สัมมาทิฏฐิ 20 เราก็จะรู้กระบวนการของหมวดธรรมต่างๆ มีอะไรบ้าง ทำงานสังเคราะห์สังขารกันอยู่อย่างไร แล้วเราก็ทำถูกและเราจะทำอย่างไม่ประมาท และทำมนสิการได้อย่างโยนิโส เราก็เข้าถึงที่สุดแห่งฉันทะ มนสิการ ผัสสะ เวทนา สมาธิ สติ ปัญญา วิมุติ อมตะ ก็เหลือแต่ว่า อย่าเพิ่งกลับไปที่ 10 นะ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน ช่วยกันอมตะ อาตมาลุกมาก็พูดเลยว่า พวกเราจะต้องเป็นกลุ่มชนที่มีอายุ 100 ในโลก คนอายุ 100 อยู่อย่างไรจะอยู่ติดเตียง หรือว่า 100 แล้ว ปราดเปรียวแคล่วคล่องว่องไว ทำงานยังกับหนุ่มอายุ 50-60 จะมีให้เห็นมั้ยน้อ ขนาดอายุ100 ยังเหมือนอายุ 50 60 70 อย่างนี้เป็นต้น เป็นอมตบุคคล พร้อมที่จะตาย เราสามารถกำหนดปริโยสานได้ หรือยังไม่ตายปรินิพพานเป็นปริโยสานยังจะอยู่ต่อไปอีก แอบๆถามหน่อยซิ ใครจะตั้งจิตเป็นอย่างนี้บ้าง ตายอย่างปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายสูญ เลยเลิกไป หรือใครจะต่อภพภูมิอีก…ยกมือเพียบ…ทำไม?ไม่เบื่อหรือ พระพุทธเจ้าสอนให้เบื่อหน่ายนะ รูปนามขันธ์ 5 นี้น่าเบื่อหน่ายนะทำไม เป็นสภาพสิริมหามายามันน่าเบื่อนะแต่ไม่เบื่อ ภาราหเวปัญจขันธา ขันธ์ทั้ง 5 นี้น่าเบื่อหน่ายนะแต่เราเข้าใจ เรารู้จักหน้าตาตัวกิเลส เราก็กำจัดกิเลส สามารถยังสังขารทั้ง 5 นี้ไว้ได้ด้วย วสวัตตี เพราะเรารู้จักกิเลสดี กิเลสเป็นอย่างไรขันธ์ 5 เป็นอย่างไรสามารถทำอภิสังขาร สามารถปรุงแต่งทำให้เกิดทำให้ตาย ทำให้ตายทำให้เกิดจนกระทั่งจบกิเลสสิ้น จิตใจอยู่เหนือเป็นพระอรหันต์ สามารถที่จะสะสมพลังงานจิตให้เป็น อเนญชา อเนญชา เกิดสมาหิโต เกิดจิตตั้งมั่นขั้นสมาหิโต คือสมาธิจริงๆของพระพุทธเจ้าที่จะเกิดหลังจากถอนอาสวะแล้ว จิตนั้นก็สะอาดเป็นอุเบกขา ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา สั่งสมจิตอุเบกขา 5 ตกผลึกลงเป็น สมาหิโต สมาธิได้ ความเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้าของพระโพธิสัตว์จึงเป็นสมาธิและสมาหิโต ไม่ใช่สมาธิระดับเริ่มตื้นๆ สู่แดนธรรม…มีผู้ชมส่งข้อความ พ่อครูว่า…มีผู้ชมส่งข้อความว่าเป็นอรหันต์แล้วสามารถลงมาเกิดในสมมติในฐานที่ต่ำได้ แล้วก็หมดเวลาก่อน พ่อครูพูด เหมือนกับมาเป็นคนชั้นต่ำ ทำกรรมกิริยาชั้นต่ำ เป็นอย่างไร… พ่อครูว่า…เหมือนพ่อแม่มาเล่นหม้อข้าวหม้อแกงกับลูกได้ เราก็อยู่กับสมมุติเหมือนกันกับเขาได้แต่จิตใจของเรานั้นรู้แล้วว่าเราเองไม่มีจิตแบบนั้นจริง จิตใจจริงๆของเรานั้นพ้นแล้วหลุดพ้นแล้ว สามารถที่จะสะสมจิตหลุดพ้นนี้ ตกผลึกให้ยิ่งแข็งแรงมากขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นเป็นพระมาลัยที่เข้าไปโปรดสัตว์ ลงนรกไปอยู่กับสัตว์นรก เป็นเหมือนชาวสัตว์นรก แต่ไม่ได้เป็นอย่างชาวสัตว์นรก คนจะดูพระอรหันต์พระโพธิสัตว์จริงๆดูไม่ออกง่ายๆหรอก ก็เดาไปตามประสา จนกว่าเขาจะมีจิตตัวนี้ มีจิตใจที่เป็นพระอริยะชั้นสูงขนาดนี้ได้จริง อ่านโฆษณาต่อ…โดยพิมพ์ค้นหาในเฟสบุคว่า “อโศกอักษร” แล้วเข้าไปที่ร้านค้าของเพจนี้ มีหนังสือธรรมะ ที่เขียนโดยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ และนักเขียนท่านอื่นๆ มีหนังสือธรรมะเบาๆ บทกวีธรรมะ และหนังสือสุขภาพ มีทั้งของอาจารย์หมอเขียว ดร.ใจเพชร กล้าจน และผู้รอบรู้อีกหลายท่าน ผู้ที่สนใจซื้อหนังสือของพ่อครูและอาจารย์หมอเขียว เข้าเฟสบุค “อโศกอักษร” แล้วไปเยี่ยมชมร้านหนังสือในเพจได้เลยค่ะ พิเศษนะคะที่อยากประชาสัมพันธ์ในงานอโศกรำลึกครั้งนี้ เป็นหนังสือเล่มใหญ่สุดของพ่อครู คือ หนังสือทางเอก ภาค ๑ ภาค ๒ และภาค ๓ ที่พ่อครูแจกแจงจรณะ ๑๕ และวิชชา ๘ อย่างละเอียด หาอ่านที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว พบกันในร้านหนังสือออนไลน์ในเพจ”อโศกอักษร” ทางเฟสบุคค่ะ ฝากทุกท่านช่วยกันกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ด้วยนะคะ จะได้ช่วยกันเผยแพร่ธรรมะค่ะ พ่อครูว่า…ก็เขาบอกกันไว้หน่อยนึงว่าทางเอกเป็นหนังสือดิบๆ ที่อาตมาเขียนตั้งแต่ตอนใหม่ๆเขียนไปตามพยัญชนะตามอารมณ์ ยังไม่เก่งเรื่องสมมุติทางสื่อสารทางอักษรก็ยังไม่เก่ง เอาสภาวะที่เป็นดุ้นๆมาใส่ มันก็จะไม่ตรงกับสมมุติเขาบ้าง โดยวิธีการผันอักษร ต่างๆ เช่นท่านประยุทธ์สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ซัดอาตมา ไปไม่เป็นเลย ท่านซัดถูก ท่านบอก แยกอักษรไม่ถูกหลักไวยากรณ์ season ก็แยกว่าลูกทะเล Season แปลว่าฤดูกาล ก็ถูกของท่าน ฤดูกาลจะไปเป็นลูกทะเลได้อย่างไร นี่คือสองกับหนึ่ง เทวะ เมื่อใดเป็นหนึ่งเมื่อไหร่เป็น 2 ที่คือสิริมหามายา เราจะต้องกำหนดถูกว่าปัจจุบันนี้สิ่งนี้ เราจะสมมุติกันเป็นสมมติสัจจะ จะสมมุติสิ่งนี้กันแม้แต่จะถึงนามธรรม จะสืบต่อถึงกันตอนนี้เราหมายความว่ารูปธรรม ยืนยันกันได้อันนี้เป็นอันนี้ รูปธรรม เช่นคนสองคน คนหนึ่งกำลังเถียงกัน อันนี้คนหนึ่งบอกว่าบักแตงจริง อีกคนนึงบอกว่าไม่ใช่เป็นแตงไทย อีกคนบอกว่าแตงจริง มีคนบอกว่าแตงไทยมันถูกทั้งคู่แต่ว่ามันทะเลาะกัน ต่างคนต่างไม่รู้ความจริง คนที่รู้ความจริงว่า 2 อันนี้คือ 1 อันที่ถูกต้องคือ 1 แต่สองคนนี้มันทะเลาะกัน ต้องไปอ่าน จุฬวิยูหสูตร ที่เถียงกันนี่แหละ สัจจะมีหนึ่งเดียว สัญญา ย นิจจานิ อยู่ในพระสูตรนี้ทั้งนั้นยากมากที่จะเข้าใจ คนที่ไม่รู้ว่า 2 เป็น 1 เป็น 2 เมื่อใดเราจะยึดถืออะไร เช่น เขายึดถืออันนี้กันในโลกว่าอย่างนี้ถูก แต่ที่จริงมันยังไม่ดีที่สุดหรอก แต่เขาได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ อย่างเด็กๆมาเล่นหม้อข้าวหม้อแกงบอกว่าอันนี้คือขนมครก เยี่ยวใส่ทราย เราก็เล่นขนมครกกับเด็กไป แท้จริงกินเข้าไปไม่ได้หรอกขนมครก แบบนี้เป็นต้น แล้วเราก็ต้องสอนเด็กด้วยว่าอย่ากินเข้าไปนะ สนุกเป็นสมมติจริงจัง แย่งกันใครทำแตกร้องไห้เลยนะ มาทำของฉันแตกอะไรอย่างนี้ เราจะรู้เหตุการณ์องค์ประกอบในขณะนั้น เวลานั้น สมมุติอันนั้นคืออันนี้ ไม่ทะเลาะกับใคร ชัดเจน อยู่ด้วยแล้วเรารู้ว่าเราจะสามารถจะกระเถิบให้หมู่นี้สูงขึ้นอีกหน่อยเราก็พยายามดึงถ้าดึงได้มันก็สูงขึ้นได้ถ้าเห็นว่าสุดวิสัยก็เอาแค่ ก็ไม่เกิดการทะเลาะกัน เกิดความเป็น ปโหติ จะเกิดความเหมาะสม นี่แหละคือความเหมาะสมที่สุด เอาเท่านี้ มันก็จะเกิดลำดับอันน่าอัศจรรย์ เพราะฉะนั้นผู้นี้ก็จะชัดเจนทุกอย่างมีลำดับอย่างน่ามหัศจรรย์ อย่างเมืองไทยอาตมาบอกได้ว่าเป็นเมืองที่มีประชาธิปไตยเยี่ยมยอดที่สุดในโลก คนอื่นเขารู้ไม่ได้หรอก เราก็รู้สมมติเขา หลายคนก็ไปยึดถือของอเมริกาเป็นประชาธิปไตยที่สูงสุดอยู่ เขายึดถืออยู่อย่างนั้นก็แล้วแต่เขาไป อย่างน้อย โดนัลด์ทรัมป์ ก็ยึดถือว่าเป็นประชาธิปไตยที่เป็นหนึ่งในโลก เป็น The Great เขาก็ว่าเป็นหนึ่งในโลก แล้วพฤติกรรมจริงของเขาความเป็นจริงตัวจริงของเขาจะเป็นอย่างไรเราก็รู้รายละเอียด เขาก็ยึดถือของเขา เหตุปัจจัยของสิ่งที่มันเกิดเป็นองค์ประกอบต่างๆ เพราะฉะนั้นประชาธิปไตยหรือประเทศ ตอนนี้ บริษัทโบอิ้ง หุ้นตก ก็ยังไม่ได้ข่าวว่าบริษัทอาวุธเขาจะหยุดหรือยัง เขาก็เป็นหนึ่ง โรงงานองค์กรที่ทำความคิดทางวิทยาการความก้าวหน้านี้คือนาซ่า เขาก็เป็นหนึ่งเหมือนกัน ดูซิว่าองค์กรที่ทำอาวุธกับองค์กร NASA ใครจะหยุดก่อนกัน ใครจะลดบทบาทก่อนกัน มันต่างกัน องค์กรทำอาวุธกับองค์กรนาซ่า ควรจะหยุดองค์กรไหนก่อน …อาวุธ คนจะตอบทันทีว่าอาวุธ มันก็ชัดเจน องค์กร NASA ยังมีอะไรดีๆอยู่ยังมีการพัฒนาวิศวกรรมทางความรู้อะไรอยู่เป็นประโยชน์อยู่บ้าง แต่อาวุธนั้นรู้กันดีแล้วสำหรับผู้รู้อย่างพวกเรา คุณอย่าไปสร้างขึ้นมาเลย อาวุธไม่ได้สร้างขึ้นมาฆ่าหมา ปืนก็ไม่สร้างขึ้นหมาเพื่อยิงหมา มันสร้างขึ้นมาเพื่อฆ่าคน เถียงมาสิ มันไม่ได้สร้างอาวุธเพื่อยิงหมายิงช้าง จ้างมันก็ไม่คุ้มหรอก มันแฝง จะยิงช้างก็ยิงได้ แต่เจตนาจริงๆคือสร้างมาเพื่อฆ่าคนยิงคน มันอำมหิตหรือไม่ จะไปฆ่าช้างฆ่าแมวฆ่าหมาก็อีกเรื่องหนึ่ง ทำไมไม่ฆ่า covid บ้างล่ะ เก่งจริง ยิงโควิดให้ตายสิ อาวุธคุณ ถ้าโรงงานอาวุธอเมริกา สร้างอาวุธขึ้นมาฆ่า covid ได้ รับรองไปลิ่วเลย นี่บอกใบ้ให้นะ รับรองรวย จะนำหน้าระบบทุนนิยมเลย ใครสร้างขึ้นมาได้ตอนนี้รวยเละเลยตอนนี้ รวยยิ่งกว่าโรงปุ๋ยพลังชีวิตเลย เราแจกคนละ 10 กระสอบคนก็เลยมากันตรึมเลย บางเจ้าบอกว่า มีคนฝากมา 3 เจ้า ก็เอาไป 30 กระสอบ จริงหรือเปล่าเช็คกันได้จริงหรือเปล่า ก็ไม่รู้นะ เขาจะขี้โกงก็เป็นบาปของเขา คือเรื่องบาปเรื่องบุญหรือเรื่องกุศล อาตมาไม่ใช้คำว่าบุญคู่กับที่จะอธิบายนี้ ในเรื่องนี้ใช้คำว่าบาปกับกุศล ทำบุญก็ฆ่าบาป แล้วไม่เกิดบาปอีก ทางเดียว oneway ฆ่ากิเลสได้ อกุศลก็หมด กุศลกับอกุศลมันลบล้างกันได้แต่บาปกับบุญลบล้างกันไม่ได้ บาปจะมาฆ่าบุญให้เป็นบาปอีกไม่ได้ บาปไม่มีสิทธิ์จะฆ่าบุญ บาปมีหน้าที่ให้บุญฆ่าได้อย่างเดียว แต่บุญกับกุศลนี้สลับไปสลับมาพลิกไปพลิกมาได้ คุณทำอันนี้ดีแล้วก็กลับไปทำชั่วอีกคุณก็สามารถกลับแก้ไขตัวเองให้เป็นดีใหม่เป็นกุศลได้ แต่กิเลสของพระพุทธเจ้านั้นฆ่ากิเลสตายแล้วจะเกิดกิเลสอีกไม่ได้ กิเลสตัวนี้ฆ่าตายอย่างจริงจังแล้วจะเป็น นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) กิเลสตัวนั้นหมดสิทธิ์ที่จะมาเกิดอีกเลยเพราะมันทำได้อย่างเป็น เจโตวิมุติและ พระโสดาบันที่ฆ่ากิเลสอบายมุขตายแล้วจะไม่มีกิเลสอบายมุขกลับคืนเกิดอีก แม้แต่พระสกิทาคามี แต่สกิทาคามีมันมีเยอะกำหนดได้ยาก มันเป็นภพภูมิของกามาวจร อย่างหยาบกลางละเอียดก็อยู่ในภูมิกามาวจร หมดกาม จึงเป็นอนาคามี 100% แต่มันมีเหลื่อม จะตัดเคิร์ฟของสกิทาคามีกับอนาคามียาก มันจะมีรอยต่อของสกิทาคามีอนาคามีอยู่จะตัดขาดทันทีเลยไม่ได้ ก็ฆ่ากิเลสในรูปภพกับอรูปภพอีกแล้วกิเลสน้อยเป็นสกิทาคามีก็เป็นอรูปไป จนกระทั่งมีรูปเป็นตัวแข็งแรง มี wall บังเกอร์บัง ไม่ให้สกิทาคามีภูมิเข้ามาได้ ก็เป็นพระอนาคามีสูงขึ้นไปหาอรหัตตมรรค อรหัตตผลไป นี่มันเป็นรายละเอียดของลำดับที่มหัศจรรย์มันเป็นนามธรรมทั้งนั้นเลยถ้าเราไม่มีสภาวะของ เบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย มาตามลำดับ จะเข้าใจได้ยาก อาจจะพอเข้าใจ คนที่ถนัดพยัญชนะจะเข้าใจได้เหมือนกันแต่สภาวะนั้นจะไม่ค่อยตรง มันจะต้องทำสภาะจึงจะชัดเจน คนที่เก่งสภาวะ พยัญชนะไม่ค่อยเก่งแต่ทำสภาวะได้ดี จนกระทั่งเป็นอรหันต์แล้วก็ไม่รู้ตัว ว่าคุณจบพระอรหันต์แล้วหรือ อย่างพระสารีบุตร ลูกศิษย์ตัวเองบรรลุอรหันต์แล้วทำไมไม่รู้ นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ สู่แดนธรรมรายงาน สรุปแจกปุ๋ยงานอโศกรำลึก วันที่ 5 มิ.ย. = 81 ครัวเรือน 651 กระสอบ วันที่ 6 มิ.ย. = 345 ครัวเรือน 3,460 กระสอบ วันที่ 7 มิ.ย. = 666 ครัวเรือน 3,745 กระสอบ รวมแจกปุ๋ย 1,092 ครัวเรือน 7,856 กระสอบ 7,856 x 50 กิโลกรัม = 392,800 กิโลกรัม 392.8ตัน คิดเป็นเงิน 7,856 x 160 บาท = 1,256,960 บาท พ่อครูว่า…จำชื่ออโศกอักษรไว้ ในเฟซบุค พบกันในร้านหนังสือออนไลน์ อาตมาก็ให้พวกเราทำ อาตมาก็ไปตามประสาอาตมา เอ๊.. อโศกรำลึกยุคโควิดพิชิตโลก ของอ.เป็นต้นอ่านหรือยัง? ยัง… ยุคโควิด พิชิตโลก พ่อพาลูกรุดหน้า มาไกล ทวนกระแสยุคสมัย แน่แท้ กอบกู้พุทธ เมืองไทย พาผิด เพี้ยนเฮย อุปสรรคมากเกินแล้ กึ่งก้าว ลือถอย จาริกนอนป่าช้า พงไพร เหนื่อยหนักนอนหลับใหล ทุกผู้ เดินเท้าเปล่าแสนไกล ผ่านถิ่น กันดาร พ่อฝึกลูกให้สู้ สดับบ้าง ลูกหลาน ราชธานี หนึ่งคล้าย นครหลวง รวมลูก อโศกทั้งปวง ผนึกไว้ เหมือนผึ้งรักรังรวง ในพฤกษ์ไพรเฮย กสิกรรม ผลิตให้ อาหาร สืบต่อแต่โบราณ ล่วงแล้ว มีมากแจกเป็นทานให้เพื่อน มนุษย์นา มีคาเหนือ เพชรแพร้ว ผ่องเนื้อ เจียรไน โสตสดับโลกตื่นเต้น ตูมตาม เหมือนกับเกิดสงคราม โลกไซร้ ประวัติศาสตร์ เมืองสยาม โลกห่า เกิดแฮ บันทึกอดีตไว้ แก่ผู้อยู่หลัง ขนโคมีมากล้น ทั่วตัว เขาคู่ อยู่บนหัว เท่านั้น มีหมู่มากเมามัว อำนาจแล้วฤา พุทธกลุ่มน้อยถูกกั้น สกัดไว้ ฤาควร สูงระดับเจ็ดไซร้ พ่อเรา มิใช่อวดคาดเดา สดับไว้ หรือเป็นเพราะโฉดเขลา อยากเด่น ดังนา ความบริสุทธิ์พ่อไซร้ ชนะสิ้นโลกผอง เป็นต้น นาประโคน 16 พฤรรภาคม 2559 พ่อครูว่า…แม้ว่าเราไม่มีเจตนา แต่มันเกิดโดยสัญชาตญาณ จิตใจของคุณมันไม่มีเจตนา แต่มันเป็นอย่างนั้นเอง มันก็ยังมีเจตนาที่ลึกที่สุด เป็นตัวเจตนาคือตัวที่ พุ่งไปจากจุดกลางของจิตจากอนุสัยออกไป มันต้องมีทิศทาง มันต้องมีเป้าหมาย เพราะฉะนั้นคุณฝึก แล้วก็จิตของคนมันเป็นกระแสที่เป็นเองไปทางชั่ว กับจิตของคนที่เป็นจิตตัวเดียวกันนี้ ฝึกไปในทางดี เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่รู้มัน มันก็ไปทางชั่วตามจิตของคุณไม่ได้ฝึก ใช่ไหม มันมีเจตนามันก็จะเกิดไปตามสัญชาตญาณเป็นตัวไปทางไม่ดี แต่ถ้าคุณฝึกจนกระทั่งรู้จิตต้นเลย ว่ามันจะไปทางไหน คุณก็รู้ทิศของที่มันเป็นไป เพราะฉะนั้นคุณจะต้องรู้จักเจตนาที่เป็นกรรม กรรมที่ควบคุมโดยเจตนา อันนี้แหละพระพุทธเจ้าท่านให้รู้ ผู้ที่ทำด้วยไม่มีเจตนาคือผู้หลง มันหลงมันเลอะ มันสุดวิสัย พระพุทธเจ้าถึงไม่ถือว่ากรรมที่ไม่มีเจตนานั้น ท่านไม่เอาผิดในกรรมนั้น แต่ว่ามีวิบากไหม มี ลึกซึ้งเห็นมั้ย คุณไม่มีเจตนาแต่คุณทำอกุศล คุณก็ได้รับของคุณ คุณก็ต้องได้รับ กัมมัสกะ กรรมเป็นของของตน คุณบอกว่าไม่มีเจตนาแต่เพราะว่าคุณต่างหากไม่มีความละเอียดพอที่จะรู้จักเจตนาของตนเองปล่อยให้สัญชาตญาณมันดิบ คุณก็ทำก็จะนานหรือสัญชาตญาณดิบของคุณ คุณต้องทำสัญชาตญาณของคุณให้อยู่ในความควบคุม จะปล่อยทิ้งก็ได้จะใช้ก็ได้ ไม่เสียหาย ดีด้วยสมบูรณ์ด้วย นี่คือรายละเอียด อาตมาใช้สื่อสภาวะด้วยพยัญชนะนี้เข้าใจดีไหม อาตมาตั้งใจจะทวน สองประเด็นที่ว่า คืออยากให้เข้าใจละเอียดลออครบพร้อมในการแยกกายแยกจิต อย่างหนึ่ง กับของจรณะ 15 วิชชา 8 ซึ่งมันหมายถึงศาสนาทั้งหมดนั่นแหละ ถ้าคุณเข้าใจแยกกายแยกจิตไม่ได้ คุณเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ ถ้าแยกกายแยกจิตไม่สมบูรณ์แบบ คุณจะต้องแยกธาตุจิตให้รู้ว่า อุตุธาตุเป็นอย่างไร คุุณยังไม่ตาย แต่ว่าอุตุธาตุมันเป็นธาตุที่ตายแล้ว ในร่างของคุณเองก็มีธาตุของอุตุ แม้ในจิตคุณก็ถือว่าเป็นอุตุได้ เพราะฉะนั้นถ้าจิตที่ตายแล้ว นี่คือจิตตาย โลกที่เขาเป็นอยู่กับโลกสนุกสนาน แต่เราเห็นโลกนั้น สำหรับเรานี้โลกนั้นตายไปจากเรา นี่แยกโลก เป็นผู้แยกโลกสยังอภิญญา แยกโลกนี้โลกหน้าให้เข้าใจได้ โลกอบายเราเห็นจัดจ้าน โลกของนายโดนัลด์ทรัมป์ คุณจะไปเป็นไหม หรือจะเป็นอย่างบิลเกตส์ เป็นอย่างคุณเจริญ หรืออย่างคุณธนินท์ ถ้าคุณจะต้องได้เป็นคนใดคนหนึ่ง ไม่เป็นคุณธนินท์ ก็ต้องเป็นคุณเจริญ ถ้าให้คุณเลือกคุณต้องเลือกคนหนึ่งคุณจะเลือกเป็นคนไหน? …เลือกคุณธนินท์ เพราะคุณเจริญทำสิ่งที่เลวร้ายกว่า มีที่ดินกับน้ำเมา เยอะ เป็นฐานของเขา ขออภัยขอบคุณคุณเจริญขอบคุณคุณธนิน อาตมาก็ไม่รู้ว่าเขาได้ยินได้ฟังจะอโหสิหรือไม่ แต่อาตมาก็ยอมขาดทุน เราไม่เอาเจริญแบบนั้น เจริญแบบเครือโภคภัณฑ์หรือเจริญแบบสิริวัฒนภักดีก็ไม่เอา คือ เรามีความรู้ในสันโดษ มีความรู้ในเรื่องของอบาย แม้แต่กาม อันนี้ทีเดียวแล้วแต่ใครจะตีค่า ถ้าตีค่าอบายก็ไม่เอาใหญ่ แต่ถ้าตีค่าเป็นกามภพ ไม่ใช่อบายภพก็แล้วแต่ใครจะจัด แต่อาตมาตีค่าเป็นอบายภพ ไม่เอาเด็ดขาดถือว่าต่ำมาก ส่วนใครจะตีค่าเป็น กามภพอยู่ก็แล้วแต่ อย่างความรวยนี้ ถ้าเป็นอนาคามี ไม่ใช่สกิทาคามี อนาคามี ถือว่าการรวยเป็นอบายภพ คนนี้มีเขตความพอ เรามีแค่ 100 ล้านก็มากเกินพอแล้ว เกินกว่านั้นไม่เอามีจุดที่ สันตุฏฐิ เกินกว่าร้อยไม่เอา เหมือนกับที่ปฐมอโศกตั้งกฎเกณฑ์ว่าจะมีเงินคงคลังเท่านี้ ถ้าปีนี้มันเกินกว่าเงินคงคลังก็ตัดเศษยกให้อาตมา โอ้โห.. กล้าหาญจริงๆ คงคลังเท่านี้เขาไปรอด ถ้าเกินคงคลังแต่ละปี ก็ตัดเศษให้อาตมา แต่ก่อนนี้เขามีแม้แต่ว่า หากรายได้แต่ละเดือน ถ้าเดือนนี้ไม่ได้เกณฑ์นี้มันขาดทุนไปบ้างก็ยังให้เดือนละล้าน พวกเรามีความรู้ในเรื่องการจัดสรรเศรษฐกิจส่วนตัวเศรษฐกิจส่วนรวม คนที่มีปัญญาเห็นแก่ตัวน้อยจนไม่เห็นแก่ตัวเลยก็จะตัด เคิร์ฟปัดเศษไปจากตัวเรา คนที่มีศูนย์นี้ตัดง่าย คนที่มีเหลือก็ตัดยาก หากยิ่งมีกิเลสมากก็จะตัดไม่ไหว นี่คือทุกข์ทั้งสิ้น คนที่ไว้ใจหมู่กลุ่ม ไว้ใจพฤติกรรมสังคม ทรัพย์แท้คืออะไร?.. คือสมรรถนะและความขยัน คนอยู่ร่วมกัน มีความขยันและสมรรถนะมันก็ได้ 2 คน 3 คน 4 คนก็ได้เพิ่มขึ้นอีก ตัวเองกินน้อยใช้น้อยแต่เราทำมากมีผลผลิตเหลือ เหลือเกินกินเกินใช้ สัจจะของความพอเพียงโดยใช้เท่านี้มันพอจริงๆ ไม่ต้องไปเปลืองผลาญมาก เราก็จะเหลือไว้ไม่ให้ขัดข้องเท่านั้น ถ้าเราออกเอาไปเท่าไหร่ก็จะสะอาดมากขึ้น เราไม่ได้เอาออกมันก็ไม่สะอาด ใช้พยัญชนะความสะอาด มันจะเหลือ ขี้ไคล ไม่ใช้คำว่าสกปรก คำว่าสกปรกของขี้ไคลคืออะไร ถ้าคุณยังรักตัวเงินอยู่มันก็ยังมีขี้ไคล คุณก็เอาไว้แค่ระดับขี้ไคลมันไม่สกปรกเท่าไหร่หรอกแต่ยังมีขี้ไคล แล้วใครมันขี้ไว้? รักษาไว้ ขี้ไคล แต่ขี้ใครจริงๆ ก็ขี้ข้าเอง เห็นสนุกไหมภาษา อาตมาใช้ภาษา สื่อให้เป็นธรรมะนะ เสียบใครเสียบมันนะ ถ้ารู้ตัวก็แล้วแต่ใคร ถ้าใครไม่มีเลยและจะต้องเสียบก็สบายใช่ไหมล่ะ ใครจะเหลืออยู่สลึงหนึ่งบาท 5 บาท 100 บาท ล้านบาทก็แล้วแต่ มันก็เป็นของจริง ที่เราจะต้องเกิด พลังงานจิตนี้ ถ้าเรายังหลงว่าเราจะต้องพึ่งเงิน เราก็ทิ้งมันไม่ออก แต่ถ้าเราบอกว่าโอ้โห เงินก็ช่างปะไรมันไม่มีค่าอะไรเลย ไม่เชื่อไปถามโจน จันได อย่าง อ.ยักษ์ วิวัฒน์ ศัลยกำธร กับคุณโจนจันได คุณว่าใครจะสะสมเงินมากกว่ากัน …อ.ยักษ์ เอ้า อ.วิวัฒน์บอก ฉันก็ยังมีงานเยอะคุณโจนจันไดยังไม่มีงานเยอะหรอก ฉันก็ต้องใช้เงินเยอะ ก็มีเหตุผล เป็นความจริงก็ได้ด้วย ก็แล้วแต่ตัวใครจะกล้าที่จะมีน้อย และ อย่างโจน จันได มันมีซ้อน แทนที่เขาจะเข้ามาเป็นตัวหลักให้กับชาวอโศก แต่เขายังมีส่วนตัวของเขา อย่างนี้เป็นต้น มันก็เป็นธรรมดา แม้แต่อ.วิวัฒน์ก็ตาม อาจารย์หมอเขียวก็ตามจะมีระยะชิดระยะห่าง นี่คือสภาวะธรรมต่างๆ ที่เราไม่ต้องไปบังคับเขาหรอก เขาก็พัฒนามาขนาดนี้แล้ว อาตมาก็ไม่ห่วงหรอก วันใดวันหนึ่งก็ต้องมาเป็นตัวเนื้อในแก่น แต่ตอนนี้ก็ต้องทำอย่างนี้ก่อน มันจะต้องเป็นไปตามสัจจะที่เป็นจริงมีจริง ผ่านตรงนี้ สู่แดนธรรม..พวกเราแจกปุ๋ยกันคนก็บอกว่าเราควรจะให้วิธีการทำปุ๋ยมากกว่าที่จะไปแจกเหมือนกับการแจกปลากับการให้วิธีจับปลาเป็นต้น พ่อครูว่า…เราทำกันอย่างเป็นระบบสาธารณโภคี ซึ่งคนเดียวทำไม่ได้หรอกอย่างที่พวกเราทำนี้ ก็ย้ำอีกที ว่า ชาวอโศกขอให้ทำความยินดี ทำความชอบมาหากสิกรรมให้มาก ผู้ใดทำได้ มันจะมีพลังงานเข้ามาช่วยสร้าง สร้างการผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร ขณะนี้ในบ้านราช มีที่ดินมากพอที่พอเราจะทำผลผลิตให้ได้มากกว่านี้ทั้งความขยันทั้งสมรรถภาพ นอกจากขยันและสมรรถนะแล้ว ยังมีกำลัง กำลังของกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม พลังงานทั้งหมด นอกจากจะเป็นความรู้ความสามารถ กับความขยันแล้ว ยังมีกำลังอีก เส้าหนึ่งเป็นเส้าที่ 3 เพราะฉะนั้นกำลังคุณก็มี ความรู้คุณก็มี มีความขยันมี ก็มาใช้เถิด ที่ดินเรายังมีเหลือในบ้านราชนี้ยังมีที่ดินเหลืออีก ถ้ามันเจริญจริงไมยราพยักษ์จะไม่ขึ้น ในแผ่นดินราชธานีอโศกนี้ ใช่ไหม ถ้าเราเจริญจริงไมยราพยักษ์ก็ไม่เหลือ แล้วเราก็จะใช้ อย่างน้อยก็ปล่อยให้ ตาโก้งขึ้น ผักโขมขึ้น ผักบุ้ง โสน ก็จะขึ้นแทน แต่นี่แทนที่จะเป็นพวกนั้นมันเป็นไมยราพยักษ์ เราก็เอาไมยราพยักษ์มาทำประโยชน์อะไรไม่ได้ เราก็ส่งฑูต ที่จะไปทำการช่วยเหลือเขาให้เขา ไม่ใช่เป็นทูตที่ไปเอาเปรียบเขาไปจ้องจะหาวิธีการหากำไรขูดรีดเขา พวกเราก็มาเรียนความรู้เหล่านี้ไปแต่ละชาติ ก็จะเจริญเกิดพระอริยบุคคลตามแบบโลกุตระแต่ละชาติๆ ตามแบบที่อาตมาสอน ที่อาตมาเป็นลูกพระพุทธเจ้าก็สอนตามพระพุทธเจ้ามาดีไหม พวกเรามีเจตนาดีพอเป็นไปได้ สังคมพวกเราเดินไปได้ เราก็พัฒนาตัวเราเองให้เจริญขึ้น เพราะฉะนั้นพวกเราก็จะเจริญขึ้นจริงตามความรู้และเจตนาที่จะทำให้ได้ มันก็จะจริง แต่ละคนก็มีพลังงานที่มีเจตนา เป็นกุศลสามัญตา มันก็ได้จริง ตัวคุณก็ได้จริงตัวคุณก็เป็นโพธิสัตว์ ผู้ที่ให้เขาเป็นโพธิสัตว์ ผู้ที่เอาคือปุถุชน ผู้ที่เอามาให้แก่ตนแล้วก็นึกว่าสิ่งที่ดีที่ประเสริฐ ที่เป็นโลกุตระนั้น พวกนี้จะศึกษาแล้วจะช้า รู้แต่ความเป็นอรหันต์ไม่รู้ความเป็นโพธิสัตว์มันจะช้า ผู้ที่จะสร้างแต่ความเป็นอรหันต์แล้วขี้โรคนี่ช้า ไม่ได้หรอกต้องรู้ทั้งสอง อาตมาต้องพารู้ทั้งสองส่วน ที่อาตมาอธิบายยังไม่เก่งคือมัชฌิมาปฏิปทา มันมี 2 ส่วน 2 ส่วนพระพุทธเจ้าท่านใช้พยัญชนะว่า อันตา อันตาส่วนหนึ่งคือ กาม อันตาส่วนหนึ่งคือ อัตตา ซึ่งเราจะต้องปรับให้มันได้สัดส่วนทั้ง 2 ส่วนนี้ให้เข้ามา ถ้าล้างแต่กามไม่ล้างอัตตตา ก็ไปไม่ได้ไกลมันจะถ่วงกันอยู่ ต้องล้างกามล้างอัตตา สุดท้ายหมดกามก่อน ต้องรู้ว่า ความเป็นกามคือภายนอก ทั้ง 5 ทวาร หมดแล้วก็เหลือ 1 ทวารใน ก็ไปแจก 5 ทวารในอีก แจกรูปภพ อรูปภพ จนกระทั่ง ไปแจกอาสวะ อนุสัยอีก ความเข้าใจถึงนัยละเอียดๆ มันเยอะ พระพุทธเจ้าสมณโคดม ก็สอนมาจนเมื่อยแล้ว ท่านเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายจะปรินิพพานแล้วท่านก็รู้ตัวท่าน ท่านก็เจตนาสอน เพราะของท่านนี้ท่านรู้แล้วว่า ท่านเป็นพระพุทธเจ้าที่จะทำงานกับคนชั่ว หรือในยุคคนชั่วถึงขั้นสุดท้ายแล้ว คือยุคนี้แหละ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ท่านจะทำอุตระหรือโลกุตรธรรมให้แก่โลกได้ โดยยุคสมัยของท่านต่ำสุดแล้ว ท่านก็เคยเป็นโพธิสัตว์ เคยเป็นพระปัจเจก ซ้อนอีกทีหนึ่ง มาเป็นพระปัจเจกที่สามารถทำให้อายุของศาสนาของท่านอยู่ได้นาน เป็นหมื่นปีเป็น 8 หมื่นปี ถ้าเป็นเลข 9 ก็เป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธะเป็นสยัมภูแล้วจะอธิบายยาก ใช้หลัก 8 หมื่นปี ไม่อยากจะใช้คำว่า 8 แสนปี เพราะว่าสมมุตินั้นมัน ซ้อนลงไปอีกสำหรับอาศัยสิ่งเล็ก สิ่งเล็กอายุยืน สิ่งหยาบอายุสั้น ซ้อนอีก เราเป็นคนก็หยาบกลางละเอียดก็สมมุติองค์ประกอบขนาดนี้ ถือว่าอายุ 100 ปีเป็นหนึ่งกัปป์ สมัยพระพุทธเจ้าถือว่า 120 ปีเป็นหนึ่งกัปป์ มาถึงยุคนี้ 100เป็นกัปป์ เพราะงั้นชาวอโศกหากอายุ 100 คือมาตรฐานของชาวอโศก ใครอายุน้อยกว่า 100 ก็ยังไม่ได้มาตรฐานทีเดียว อายุสมัยพระพุทธเจ้าอายุ 120 ถือว่าเป็นมาตรฐาน ชาวอโศกควรมีอายุ 100 ปี เป็นมาตรฐาน ไม่ใช่พูดเล่นนะเราก็ควรจะทำให้ถึง พูดไปพูดมาตัวเองไม่ถึงร้อย ยุ่งเลยนะ(ฮา) คุณว่าอาตมาจะถึงร้อยไหม ..เชื่อ อาตมารู้สึกปึ๋งปั๋งขึ้น แข็งแรง Fresh up ขึ้นมา รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มันเหลือแต่เหตุปัจจัยที่เป็นวิบาก มันไม่ได้ทรมานอะไร เรายอมรับมันก็ไม่รำคาญอะไร บางทีมันหนักก็บ่นให้มันบ้างว่าอะไรกันหนอ ตามประสา ยังมีเชิง อิตถีภาวะบ้าง ขี้บ่นถือเป็นภาวะแม่ พ่อไม่พูดมาก..พลั๊วะ จบ แม่พูดมาก ในขณะนี้ก็ขอย้ำ 1 พืชพันธุ์ธัญญาหารเราต้องนำ ส่วนทางด้านธรรมะนั้นแน่นอนที่สุด ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคนรับใช้ ต้องใช้สูตรนี้ไปเรื่อยๆ ยาวให้เป็นเย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมด ตัวเราก็ต้องเป็นตัวความจริง เราจะได้ไขความจริงออกมาเป็นความจริง แต่คนที่ไม่เป็นความจริงแล้ว ไขความจริงออกมามันจะไม่เป็นความจริงทีเดียว มันจะปีนเกลียว โค้งคด ตามลักษณะที่คุณยังไม่สะอาดยังไม่ซื่อยังไม่ตรง ใช้พยัญชนะที่เป็นสัจจะทั้งนั้น เราทำคุณอันสมควรก่อน แล้วค่อยสอนคนอื่น สัปปายะของเรามันครบแล้ว มันมีทั้งสิ่งแวดล้อมสมบูรณ์ มีทั้ง องค์ประกอบที่บริบูรณ์ จะเป็นองค์ประกอบแค่ เสนาสนะ บุคคล อาหาร ธรรมะ เป็นสัปปายะ 4 ก็ตาม จะเป็นองค์ประกอบทั้ง สุริยเปยยาล 7 ก็ตาม เป็นนามธรรมนะ มิตรดีสหายดีสังคมสิ่งแวดล้อมดี ฉันทะต่อมาก็เป็นนามธรรมแล้ว แม้ศีล จะกึ่งรูปธรรมนามธรรมก็ส่วนตัวของแต่ละคนมันไม่เกี่ยวกับคนอื่น ของตัวเราไม่เกี่ยวกับคนไหน อัตตา นี่เป็นของตัวเองเลย แม้แต่คำว่าทิฏฐิ ก็ตัวเอง ไม่ประมาท ตัวที่ 6 ของสุริเปยยาลและตัวโยนิโสมนสิการเพื่อตัวของคุณเอง คำว่าโยนิโสมนสิการจะจบอยู่ที่ตรงนี้ ทุกวันนี้ยังไม่ชัดในวงการศาสนาพุทธ เพราะผู้รู้อธิบายโยนิโสมนสิการว่า พิจารณา ไปเน้นพิจารณา โยนิโสเป็นตัวรู้ เป็นปฏิภาณปัญญา ส่วนมนสิการเป็นตัวทำ ตัวจิต ตัวประพฤติเลย เขาไปเอาแต่ตัวรู้ กลายเป็นศาสนาตัวรู้ มากความรู้แต่ทำไม่ลึกลงถึงเนื้อ มนสิการไม่ลึกลงถึงเนื้อ อิทธิบาทไม่ถึงมังสา อิทธิบาทเก่งไปด้วยความฉันทะ วิริยะ ก็เพี้ยน ฉันทะ วิริยะ เพี้ยนไปสู่สภาวะปฏิภาณปัญญา ตักกะ ไม่ลงถึงจิต นี่คืออิทธิบาท 4 เผินอยู่ที่ ฉันทะกับวิริยะ ไม่ลงถึงจิต เพราะฉะนั้น เนื้อๆ มังสา ไม่ได้เนื้อ นี่คือ 4 อิทธิบาทที่อาตมาแยกให้คุณฟัง เข้าใจสภาวะจิตชัดเจนไหมว่าส่วนใหญ่ของศาสนาพุทธวันนี้ มีแต่ฉันทะ วิริยะ แล้วแถมยังมิจฉาทิฏฐิถึงยังออกป่ากันไปเป็นกระตั๊ก กระตุกมาทุกวันนี้ยังไม่สะดุ้งเลย แทงด้วยหอก 100 เล่มยังไม่สะดุ้ง แต่มันยิ่งกว่านั้น แทงเข้าไปไม่รู้สึกตัวเลย หอกอาตมาหมดไปไม่รู้กี่ร้อยเล่มแล้ว เมื่อไหร่จะกระเตื้องจะรู้สึกตัวสักที Category: ศาสนาBy Samanasandin8 มิถุนายน 2020Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:630606 แจกปุ๋ย ช่วงงานอโศกรำลึกครั้ง 39NextNext post:630609_พ่อครูเทศน์ทำวัตรเช้า อโศกรำลึก 2563 เข้าถึงความมีกับไม่มีก็ได้เวลาสงบศึกRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024