ก.ค.52020อื่นๆ630705_พ่อครูเทศน์เวียนธรรมอาสาฬหบูชา วันพระธรรม วันพระสงฆ์คือวันอะไร ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1oUev2aqXvGkXLqkGEQpmGRMJ6c1v_UJYifV2OrPlkm4/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1D0PKfuaGPSNyvF9OKNjA6EFlsNLpL_uv/view?usp=sharing พ่อครูว่า…วันนี้เป็นวันที่ชาวไทยคนไทย คนไทยรู้กันชาวต่างชาติไม่รู้เท่าไหร่หรอก ชาวไทยรู้วันอาสาฬหบูชา เมืองไทยเรานี้เป็นเมืองที่มองเห็น ดูตามตำนานดูตามเรื่องราวแล้ว มันก็ประมวลมาได้ว่าวันนี้เป็นวันครบพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เนาะ เกิดพระสงฆ์ขึ้นมาในวันนี้ คือโกณฑัญญะ ได้เกิดเป็นพระสงฆ์รูปแรกในศาสนาพุทธ ส่วนพระพุทธเจ้าคือพระพุทธก็เกิดแล้ว แล้วท่านก็เทศน์ก็เกิดพระธรรมขึ้น พอเทศน์เสร็จ ผู้ที่เป็นสาวก ผู้ได้ฟัง บรรลุธรรมขึ้นมาเป็นพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระสงฆ์ ไม่ใช่พระสงฆ์ที่เป็นสมมติที่ 2 ถูกแต่งตั้งขึ้นมาเฉยๆ แต่เป็นสาวกที่เกิดจากการได้ฟัง พอได้ฟังแล้วเกิดจิต อัญญธาตุ ที่อาตมาได้อธิบายคิดว่าอธิบายลึกแล้วนะ เท่าที่รู้ยังไม่เห็นมีใครอธิบายอย่างที่อาตมาอธิบายถึงสภาวะธรรมอันนี้ เกิดเป็นสภาวะธรรมจริง บุคคลจริงเหตุการณ์จริง พระพุทธเจ้าท่านเริ่มมาโปรด นึกถึงพระปัญจวัคคีย์แล้วก็มาโปรด มาโปรดแล้วก็แสดงตัวว่าท่านบรรลุ ปัญจวัคคีย์ตอนแรกก็ไม่ลุกรับไม่นับถือ เพราะว่าไม่เป็นผู้ที่บำเพ็ญการทรมานตัวเองต่อแล้ว เพราะเขายังติดยึดจะต้องบำเพ็ญมีทุกรกิริยา กิริยาต่างๆ ซึ่ง ทุกรกิริยา มันหมายถึงว่ามีกิริยาอาการไม่ดี ไม่ใช่ว่าไปทรมาน ยืนขาเดียวอดน้ำอดข้าวจนแห้งอย่างนั้นมันก็ทุกข์เป็นกิริยาไม่ดี แต่มันไม่ได้หมายความว่าเน้นไปที่การเจ็บปวดทรมานลำบากลำบน ซึ่งที่จริงแล้วมันไม่ใช่มันไม่ดี มันไม่ถูกต้อง ก็คือทุกรกิริยา มันไม่ถูกต้องในการประพฤติในการทำงานการอย่างนั้นอย่างนั้น ยืนขาเดียว อะไรก็แล้วแต่ นั่งสมาธิอยู่ก็เรียกว่า ทุ หลับตาอยู่ก็เรียกว่าทุกรกิริยา อย่างนี้เป็นต้น อันนี้เป็นเรื่องของสามัญ พอท่านเทศน์ ผู้ฟังก็เกิดจิตมีปฏิภาณปัญญาเกิดขึ้นมา เป็นปัญญาหรือเป็นธาตุรู้อันใหม่ จากที่แต่เดิมเป็นคนโลกียะ พอได้ฟังเทศน์อันนี้ของพระพุทธเจ้า หรือได้ฟังใครก็ตามที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าแต่เป็นสัตบุรุษ ผู้อยู่ในฐานะของครู ที่ได้พูดบรรยายสาธยายธรรมะที่เป็นสัมมาทิฏฐิอันนั้น ผู้ฟังเกิดธาตุเข้าใจรู้ขึ้นมา เป็นความรู้ที่มันทวนกระแสมันไม่ใช่ความรู้โลกียะอย่างเดิม มันเป็นความรู้ที่ อย่างนี้เองหรือโลกุตระ อย่างนี้เองหรือความที่มีจิตที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่สภาวะอย่างนี้น่ะหรือ โลกุตรธรรมเกิดขึ้นในจิตของผู้นั้น อย่างนี้เรียกว่า เป็นการได้ปรมัตถธรรม จิต เจตสิก รูป นิพพานมันเกิดอาการขึ้นมา ตัวผู้เกิดไม่รู้หรอก ไม่รู้ตัวหรอก ไม่มีเพื่อนทำที่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างนี้แต่ความเป็นจิตที่เกิดนั้นมันมีจริง แต่ตัวผู้เกิดนั้นยังไม่รู้ยังไม่มีปัญญารู้สมมุติ แต่ปรมัตถ์มันเกิด จิตมันเกิด แต่สมมุติไม่รู้ แต่นอกจากเป็นผู้มีบารมี มีภูมิบารมีสูง ก็จะรู้ว่าตัวเองเป็น เช่นผู้ที่มีบารมีแล้วมาปฏิบัติมันซับซ้อน ในชาตินี้ เกิดมาก็เป็นลิงลมอมข้าวพองเหมือนคนโลกๆ อยากจะไปทางโลกีย์ แต่เมื่อได้รับอะไรเกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตก็จะรู้เองเข้าใจเองเลย จะรู้ด้วยตนเองเป็นปัจจัตตัง มีเหตุที่จะอธิบายต่อเนื่องในวันอาสาฬหบูชา มีผู้ถามมาใช้ชื่อว่า สงกรานต์ …บอกว่า _ สงกรานต์…บ้างก็ว่าวันอาสาฬหบูชาคือ วันพระสงฆ์ /บ้างก็ว่า วันพระธรรม /บ้างก็ว่าเป็นวันพระรัตนตรัย พ่อท่านเคยแสดงความเห็นเรื่องนี้บ้างไหมครับ เพราะอะไร และถ้าเป็นวันพระธรรม วันไหนควรเป็นวันพระสงฆ์(เช่น วันมาฆะบูชา?) พ่อท่านน่าจะมีข้อธรรมที่ลึกซึ้ง สำหรับวันพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อาจเป็นประเด็นในการเทศน์วันนี้ ก็ได้ครับ กราบขอบพระคุณครับ พ่อครูว่า…วันนี้วันที่ 5 กรกฎาคม2563อาตมาก็ระลึกถึงคุณจำลองศรีเมือง เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2478 เกิดเมื่อ 85 ปีที่แล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่อายุครบ 85 ปีเต็มขึ้น 86 ปี คุณจำลองอายุอ่อนกว่าอาตมา 1 ปี 1 เดือน คุณจำลองเกิด 5 กรกฎาคม 2478 อาตมาเกิด 5 มิถุนายน 2477 ก็มีคนบอกมา ..วันนี้ 5 ก.ค. เป็นวันคล้ายกันเกิดคุณลุงจำลอง ศรีเมือง เผื่อพ่อครูจะอวยพรให้คุณลุงในรายการเย็นนี้ค่ะ…\ พรคือ คำประเสริฐ คำดี ที่ฟังแล้วนำไปปฏิบัติทำให้เจริญ ให้พรก็คือให้คำที่ดีๆ แล้วก็ทำความเข้าใจมันหมายถึงอะไรจะเอาไปทำอย่างไรเอาไปปฏิบัติตามคำที่ดีนี้ เราก็เจริญตามคำนั้นเรียกว่าคำประเสริฐ หรือคำพร พร แปลว่า ประเสริฐ มาวิจัยกันว่า วันอาสาฬหบูชาเป็นวันที่มีเหตุการณ์อย่างไรเหมาะสมที่จะเป็นวันพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือวันพระรัตนตรัย คือวันที่ครบทั้ง 3 อย่าง พระพุทธเจ้านั้น เริ่มรู้ตัวเอง รู้จักว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าในวันวิสาขบูชาวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ที่ท่านระลึกชาติ ยามต้น ยามสอง ยามสาม เราบำเพ็ญมาเพื่อเป็นพระพุทธเจ้ามาไม่รู้กี่ล้านชาติ ธรรมะที่เป็นพุทธรรมโลกุตรธรรมเป็นอย่างนี้ จรณะ 15 วิชชา8 วิชชาจรณะสัมปันโน เป็นเช่นนี้เอง ท่านก็รู้ว่าตัวเองเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมาในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ก็เป็นวันพระพุทธ เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่ใช่วันพระพุทธเกิดแน่ วันที่ 8 เดือน 8 ขึ้น 15 ค่ำไม่ใช่ พระพุทธเจ้าเกิดขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ท่านอุบัติรู้ตัวเอง ว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้า ก็เกิดพระพุทธเจ้าขึ้นมาในโลกนี้มีอุบัติขึ้นมา ในโลกนี้มีตัวตนครบทั้งร่างกายครบขันธ์ทั้ง 5 ทั้งเอาภูมิธรรม เป็นสัมมาสัมพุทธะของตัวเอง มีสัพพัญญุตญาณพร้อม ทีนี้ก็มาถึงวันที่ไปเทศน์ ฟังนะ ตอนนี้เข้ามาใกล้แล้ว พอเดือน 8 ขึ้น 15 ค่ำท่านก็มาพบกับปัญจวัคคีย์ ปัญจวัคคีย์ก็ทำท่าทีไม่ลุกรับ ไม่เคารพไม่นับถือ เพราะว่าท่านเลิกทำทุกรกิริยา หาว่าท่านได้ล้มเหลวแล้ว เพราะจิตของปัจจวัคคีย์ไปติดว่าจะต้องบรรลุด้วยการทำทุกรกิริยาแบบเดียรถีย์ต่างๆ มันโน้มเน้นมาที่การทรมานตน ซึ่งศาสนาพุทธไม่ได้เป็นการทรมานตน ข้อปฏิบัติของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ให้ทรมานตัวเอง แต่ให้ตั้งตนอยู่บนความลำบาก กุศลธรรมเจริญ ไม่ใช่การทรมานตัวเองอะไร ทีนี้พอมาพบปัญจวัคคีย์ ก็บอกว่าไม่เคารพอย่างไร เรามาพบเพื่อจะมาสอนพวกเธอ เราได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พวกนั้นก็บอกว่า ยิ่งไม่เชื่อ ท่านก็บอกว่า เราได้เคยพูดกับเธอมาก่อนหรือไม่ ว่าเราบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เพิ่งมาพูดตอนนี้ใช่ไหม เพิ่งบอกตอนนี้ใช่ไหมว่าเราเป็นผู้บรรลุ พราหมณ์ทั้ง 5 โดยเฉพาะโกณฑัญญะก็ได้คิด ก็ยอมรับฟัง พระพุทธเจ้าท่านก็เทศน์ เทศน์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อนัตตลักขณสูตร พอเทศน์จบสองสูตรนี้ โกณฑัญญะก็เกิดจิตอัญญธาตุขึ้นมาเลย ชัดเจนเข้าใจ เพราะมีบารมีอยู่แล้วพร้อมที่จะรับสิ่งนี้มาอยู่แล้ว คนไม่มี ฟังให้ตาย ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร อนัตตลักขณสูตร ฟังให้ตายอ่านให้ตายอย่างไร 100 เที่ยวก็ไม่กระเตื้องอะไรหรอก เพราะไม่มีบารมี สรุปว่าโกณฑัญญะมีบารมีเกิดอัญธาตุรู้ตัวเองเลย แทนที่จะต้านกั้นก็ยินดียอมรับเลย โกณฑัญญะเป็นคนแรก ยอมรับเลย พระพุทธเจ้าหยั่งรู้จิตก็อุทานบอกว่า “อัญญาสิ วตโภ โกณฑัญโญ” ก็เห็นจิตอัญญาโกณฑัญญะเกิด อัญญธาตุนี้ในจิตแล้ว ท่านอยู่ด้วยกันก็อบรมสอนไป ที่จริง พระอัญญาโกณฑัญญะก็บรรลุอรหันต์ในไม่ช้านานเพราะมีบารมี อีก 4 รูปก็ไม่ช้าหรอกเป็นธรรมดาธรรมชาติของผู้ที่บำเพ็ญมาแล้วมีเหตุปัจจัยเกื้อกูลกันมา ไม่ใช่ขี้หมูขี้หมาอะไรมาก็ไม่ใช่ได้มีบารมีร่วมกันมาเยอะ สิ่งเหล่านี้พูดอย่างละเอียดลออไม่ได้หรอกไม่ใช่วิสัยเป็นเรื่องกรรมวิบากที่เป็นอจินไตย มาไล่กรรมวิบากไม่ไหว พระพุทธเจ้าอาจจะพอไหว สรุปแล้ว เมื่อเกิดพระพุทธเจ้า มาถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 นี้ พระพุทธเจ้าเทศน์ก็มีพระธรรม คำสอนเกิดขึ้น พอเกิดขึ้นแล้ว ผู้ที่ฟัง(สาวกะ) เกิดบรรลุขึ้นมา โกณฑัญญะได้บรรลุ ยอมรับ แล้วก็ในวันนี้แหละ ขอมอบตัวเป็นสาวก ขอเป็นพระสงฆ์เป็นองค์แรก เกิดขึ้นในวัน 15 ค่ำเดือน 8 ตกลง วัน15 ค่ำเดือน 8 นี้ก็มีครบ 3 พระพุทธ พระธรรม พระธรรมที่เกิดในตัวเอง แต่ไม่ได้พูดบรรยายให้คนที่สองได้ฟังไม่ถือว่าครบ ต้องมีคนรับรอง ผู้ที่นั่งหลับตาสะกดจิตตัวเองไปไม่มีผู้รับรองไม่ถือว่าเป็นความจริง ความจริงจะต้องมีผู้รับรองร่วมรู้กันในโลก ต้องครบทั้งสองฝ่ายทั้งภายนอกและภายใน มีผู้อื่นรับรอง แล้วก็ในวันนี้แหละ ไม่ใช่วันรุ่งขึ้นเลยที่จะขอสมัครเป็นพระสงฆ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 นี่แหละ ฉะนั้นวันนี้จึงเป็นวันครบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทีนี้ ก็อยากจะรู้ว่า แล้วจะแบ่ง วันหนึ่งเป็นวันพระพุทธวันหนึ่งเป็นวันพระธรรมและ 3 เป็นวันพระสงฆ์ ตกลงเรารู้วันพระพุทธแล้ว ขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 วันพระสงฆ์ก็ได้รู้แล้ว ขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 เหลืออีกวันหนึ่ง วันพระธรรม มันมีวันสำคัญของศาสนาพุทธเราจะเอาวันนี้เป็นวันพระสงฆ์ สงฆ์แปลว่าหมู่ ยิ่งหมู่ใหญ่เท่าไหร่ก็เรียกว่าสงฆ์เท่านั้น เหตุการณ์ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 มีพระสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์เลย มาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย 1,250 รูป อย่างนี้เป็นต้น มันเป็นวันที่เป็นหมู่สงฆ์มาพบกันครั้งแรกมากที่สุดอย่างไม่ได้นัดหมาย แต่ครั้งแรกนี้พบกัน 5 รูป สู่แดนธรรมว่าบรรลุธรรม 3 รูป แต่ก็ 5 รูปก็สู้ 1,250 รูปไม่ได้เพราะฉะนั้นวันพระสงฆ์ก็ควรจะเป็นวันมาฆบูชา เราลงไปในรายละเอียดของตำนานลงไปในรายละเอียดของ Story เรื่องราวประวัติศาสตร์ ที่มันเป็นมาแล้วก็เอามาวิเคราะห์วิจัย ตามกาละเทศะฐานะต่างๆ มาวิจัยดู เราก็จะได้วัน พระพุทธ วันพระธรรม วันพระสงฆ์ ครบแล้ว เป็นอันรู้ชัดแล้วนะวันนี้ ตกลงวันพระพุทธคือขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 วันพระธรรมคือขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 วันพระสงฆ์คือขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ไม่ต้องแย่งกัน เราจะเอาพระสงฆ์ขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 ก็ได้แต่ยังน้อยอยู่ แต่วันมาฆบูชามากันพร้อมกว่า ตกลงคุณสงกรานต์ฟังมา ได้ฟังวันพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบแล้วเนาะ ทีนี้ต่ออันอื่นไป คุณจำลองก็ได้ชื่นชมพวกเราก็ไม่ได้ติดอะไรมากมาย อย่างอาตมานี่วันเกิดจะไม่จัด ยิ่งตอนเป็นฆราวาสไม่เคยวุ่นวายกับวันเกิดเลยไม่ได้เกี่ยว เคยอย่างเก่งก็ใส่บาตร ตักบาตรวันเกิดเท่านั้นเอง นอกนั้นไม่กระดี๊กระด๊า มาบวชแล้วพวกเราจะเห็นความสำคัญ ให้เป็นวันสำคัญ ก็ดีเหมือนกัน ดีตรงที่ว่าเอาวันนี้สำคัญมั่นหมายเป็นวันเกิด เกิดแล้วจะทำอะไรก็นัดหมายกัน เหล่าฆราวาส อะไรก็แล้วแต่จะมารวมกันวันนี้วันสำคัญนะ วันเกิดพ่อท่านนะ มีใครจะมาทำอะไรก็มาทำ ไม่ได้เหมือนโลกเขานี่ โลกเขาก็มาเที่ยวมารำมาเต้นไปเป็นโลกีย์ ก็ไม่ใช่ เรามาฟังธรรมจะได้ถามไถ่กันตอนนี้เป็นพระโสดาบันหรือยัง ตอนนี้เป็นพระสกิทาคามีหรือยัง เป็นพระอนาคามีหรือยัง หรือมีธรรมะข้อไหนดีๆมันก็เป็นเช่นนั้น ใช่ไหม มันมีประโยชน์ที่เรามารวมกัน เพราะฉะนั้นในชาวอโศกเรานี่เกิดมารวมกันเมื่อไหร่ ไม่มีอะไรก็พากันไปขุดมัน ลงแขกเก็บผักตะโก้งกัน ไปทำประโยชน์ เขาเรียกว่าลงแขกร่วมแรงกัน ไปทำประโยชน์สร้างสรรเป็นโลกีย์ก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นโลกุตระก็ได้ประโยชน์ มารวมกันมากหน้าหลายตา นี่เป็นเรื่องของมิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ที่พร้อมพรั่งเป็นประโยชน์กัน _จากลูกศิษย์สายวัดป่า เปิดใจฟัง หาช่องทางติดต่อทางโทรศัพท์ถึงบุญนิยมทีวี จึงถามผ่านพุทธชีวศิลป์ ได้ติดตามดูพ่อครูภาคค่ำได้สองสามเดือน เริ่มเข้าใจ ทราบจากพระวัดป่า ว่าอัฐิที่เป็นพระธาตุ แสดงว่าองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ ใช่หรือไม่คะ ? ถ้าท่านสามารถตอบในเย็นวันนี้จะคอยติดตามฟัง แต่ถ้ายัง ก็จะคอยฟังไปเรื่อยๆ ค่ะ พ่อครูว่า…ตอบให้ฟังวันนี้ล่ะประเด็นถามว่า เรื่องกระดูก อัฐิ คือกระดูก แสดงว่าองค์นั้นเป็นอรหันต์ใช่หรือไม่ ตอบ ใช่ก็ได้ไม่ใช่ก็ได้ ฤาษีต่างๆที่ตั้งสมาธิสะกดจิต จะเกิดธาตุเย็น ทำให้กระดูกมันมีการสังเคราะห์กัน เป็นกระดูกเย็น เพราะฉะนั้นกระดูกของฤาษีพอเวลาเผา แล้วจะเป็น ที่เรียกว่าเป็นพระธาตุก็มีรูปร่างจับตัวกันเป็นมัน เป็นสี เป็นอะไรต่างๆ หรือเป็นการสังเคราะห์กันเป็นพระธาตุ เป็นเลื่อมๆพรายๆขึ้นมาด้วย เป็นต้น ตามหลักฟิสิกส์ ตามหลักวิทยาศาสตร์ สิ่งเหล่านี้เกิดได้ ไปเอาอันนี้เป็นเครื่องตัดสินว่าเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ เอาพระธาตุเอากระดูกมา ถึงแม้ว่าคุณจะเอากระดูกนี้มาเป็นเครื่องตัดสินว่าเป็นพระอรหันต์ คุณก็ไม่ได้ประโยชน์จากองค์นี้หรอกเพราะตายแล้วเอาไปเผาแล้ว จะไปรู้ว่าเป็น พฤติกรรมคำสอนของเรื่อง อรหันต์อย่างไรตายไปแล้วเป็นกระดูกมา มันจะไปได้เรื่องอะไร มันต้องมาดูที่พฤติกรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่สอนไว้เป็นพระอนุสาสนี สอน ศีลข้อที่ 1 นำมาปฏิบัติตรงใหม่ ลืมตาสัมผัสสัมพันธ์ ศีลข้อที่ 2 เกี่ยวกับของเกี่ยวกับพืชแล้วก็มาสัมผัสสัมพันธ์เกี่ยวข้องใจเราเกิดกิเลส เกิดความรักความดูดเกิดความชอบความสงบเราก็รู้อาการใจของเราแล้วเราก็ลดกิเลสอ่านอาการใจเรารู้ อาการ ลิงค นิมิต อุเทศคือคำอธิบายที่อาตมาอธิบายอยู่คือ อุเทส แล้วเราก็ไปอ่านอาการ ลิงค นิมิต เมื่อเรามีผัสสะมีเหตุเกิดขึ้น เกิดการสังเคราะห์สังขารก็อ่านจิตอ่านใจ จนกระทั่งรู้จิตใจแล้วเราก็สามารถ ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์ วิจัยวิตกวิจาร จิตที่ดำริขึ้นมามีอะไร แยกได้ว่า นี้อาการจิตเจตสิก เป็นอย่างนี้มีธรรมะ 2 อันนี้มันเป็นส่วนของกิเลส เป็นสังขาริกัง เป็นตัวที่เข้าไปร่วมปรุงแต่งอยู่ในจิต แยกออกได้ เป็นตัณหาหรือเป็นอุปาทานปรุงแต่งเป็นเวทนา สุขเวทนาโสมนัสเวทนา อ่านอาการเหล่านี้ได้ชัดเจน คนที่รู้อนุสาสนี เหล่านี้ อาตมาก็เอามาสอน ท่านสอนไว้ตรง เราก็ได้ปฏิบัติตามพิจารณาเห็นไตรลักษณ์ กิเลสมันจางคลาย กิเลสมันลดกิเลสมันดับก็บรรลุธรรม ที่ต้องรีบพูดเพราะเวลามันหมดไปแล้ว จะรีบจบตามเวลาที่มีให้ อย่างนี้แหละ มาเรียนรู้ตาม ค่อยๆเรียนรู้ไปตามศีลแต่ละข้อ เรื่องของกินของใช้เรายังไม่เก่ง ก็เรื่องของสัตว์ ศีลข้อ 1 ศีลข้อที่ 2 เกี่ยวกับวัตถุ เกี่ยวกับพืชจะทุจริตไม่ทุจริตอย่างไร ศีลข้อที่ 3 ก็อ่านละเอียดให้ถึงรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสเลย มันจะพาให้เกิดกิเลส ศีล 3 ข้อนี้ เป็นศีลหลัก อาตมาอธิบายไปเรื่อยๆ ให้พวกเราปฏิบัติก็จะเกิดรู้ว่ามันเกิดกิเลสจริงหรือไม่ก็ได้ประโยชน์ก็พิจารณาเป็น ไตรลักษณ์ มันไม่เที่ยงหรอก มันมาหลอกเดี๋ยวมันก็มีมาก เดี๋ยวมันก็มีน้อย เดี๋ยวมันก็ไม่มีอาการ เหมือนเป็นพระอรหันต์ จนสามารถมีปฏิภาณปัญญามีพลังงานของธาตุรู้ ฌานคือธาตุรู้ ฌานอยู่ที่ไหนปัญญาอยู่ที่นั่น ปัญญาอยู่ที่ไหนฌานอยู่ที่นั่น วันอาสาฬหบูชา การเทศน์วันนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้เจริญธรรมทุกคน Category: อื่นๆBy Samanasandin5 กรกฎาคม 2020 Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:630703_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ปฏิบัติจรณะ 15 พาให้พ้นวิตักกจริตNextNext post:630706_รายการเอื้อไออุ่นออนไลน์(สำมะปี๋ซี่วิต) ครั้งที่ 9 สันติอโศก ปฐมอโศกRelated Postsฉบับที่ ๕๖๖ (๕๘๘) นสพ.ข่าวอโศก รวมปักษ์ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗1 มีนาคม 2024ฉบับที่ ๕๖๔(๕๘๖) นสพ.ข่าวอโศกรายปักษ์ ปักษ์แรก มกราคม ๒๕๖๗17 มกราคม 2024ฉบับที่ ๕๕๔(๕๗๖) นสพ.ข่าวอโศก ปักษ์แรก กรกฎาคม ๒๕๖๖16 กรกฎาคม 2023ฉบับที่ ๕๔๕(๕๖๗) นสพ.ข่าวอโศก รวมปักษ์ ธันวาคม ๒๕๖๕1 มกราคม 2023ฉบับที่ ๕๓๕(๕๕๗) นสพ.ข่าวอโศก ปักษ์แรก กรกฎาคม ๒๕๖๕17 กรกฎาคม 2022650320 มรณานุสสติ พ่อสมศักดิ์ ไกรทอง20 มีนาคม 2022