ปีนี้ 2563 น้ำไม่ท่วมบ้านราชฯ เป็นความลงตัวที่ทีมกสิกรรมไร้สารพิษ ได้ออกแบบความคิด เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการงานพร้อมกับการพัฒนาจิตใจของตัวเองไปด้วย สอดคล้องกับภูมิอากาศของสิ่งแวดล้อมราชธานีอโศก เน้นให้ปลูกพืชผัก ธัญญาหาร สร้างอาหารที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ สร้างสรร สิ่งที่ดีมีสาระต่อชีวิต สังคมเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงคิดมาเป็น สิบๆปีแล้ว เรื่องเงิน เรื่องคน ไม่มีปัญหา เพียงมีหมู่กลุ่มที่ปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ เป็นสังคมมีศีลดั่งเช่น “ราชธานีอโศก” นำโดย พ่อครู สมณะโพธิรักษ์ ได้พร่ำสอน ให้มาถือศีล สร้างบุญ ด้วยการชำระกิเลส ท่านเป็นหัวขบวนในการทำคน สร้างคนให้มาเป็นคนมักน้อย สันโดษ แบบวรรณะ 9 ได้สำเร็จมาถึง 50 ปี
โควิด ทำให้ชาวเราได้มีเวลาสร้างอาหาร สร้างวินัย การดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้น มีทุนรอน แรงงานแบบคนจน มาร่วมแรงร่่วมใจมาช่วยกันสร้าง มาช่วยกันผลิตอาหารให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อย่างเช่นพื้นที่บริเวณนาคำยอด อีกหนึ่งฐานงานกสิกรรมริมมูน ที่มีพื้นที่เกือบ 10 ไร่ ที่จะใช้เป็นพื้นที่ปลูกหอมกระเทียม ถั่ว กล้วย ข้าวโพด และพืชผักฤดูหนาว ก็จะทยอย ปลูกเป็นลำดับๆไป ซึ่งประกอบด้วยทีมงานคุณแก่งธรรม สะยะรักษ์ คุณวิชาญ ทีมงานจิตอาสา และทีมงานพี่น้องในหมู่บ้านข้างเคียง มาร่วมแรงปลูก ได้ปรับสภาพดินเหนียวก่อนให้มีความสมบูรณ์กว่าเดิม โดยใช้ แกลบดำ แกลบดิบ ขี้เถ้าใส่แปลงคลุกผสมลงดินก่อนปลูกหอม กระเทียม
ซึ่งคุณวิชาญ ที่ทำงานเคียงคู่กับคุณแก่งธรรม เล่าให้ฟังว่า ดินนี้เป็นดินเหนียว มีสภาพเป็นกรด ต้องแก้ด้วยขี้เถ้า เพื่อให้มีสภาพความเป็นด่างขึ้นมา ปกติขี้เถ้าจะมีความเป็นด่างได้ถึง 9 ph ดินบ้านเรามีเพียง 5ph หากเราใส่ขี้เถ้ามากก็ไม่เป็นไร นอกจากจะทำให้ดินร่วนซุยแล้ว ยังเป็นการเพิ่มอากาศในดินได้ถ่ายเท หมุนเวียน ในการดูดซึมต่อรากพืชได้ดี หน้าที่แกลบดิบจะช่วยดึึงธาตุสารไนโตรเจนเข้ามาในดิน ทำให้ช่วงที่พืชกำลังดูดซึมจะมีใบสีเหลืองก่อน ถ้าหากดูดซึมไปใช้ในลำต้นแล้ว ก็จะกลายเป็นสีเขียวอีกครั้ง
ครั้งนี้ชาวเรา ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องในชุมชนบ้านราชฯ ต่างฐานะต่างฐานงาน ซึ่งบ้างก็ไม่มีความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับการทำกสิกรรมเท่าใดนัก ก็มาเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มเติมกำลังเรี่ยวแรง คนละเล็กละน้อย แต่ก็มาอย่างเต็มที่เต็มแรง เต็มกำลังใจ ใช้เวลาให้เต็มที่ที่สุดที่ได้มาลงแรง ร่วมด้วยช่วยกันในเช้าวันนี้ ทุกๆคนได้ความปิติยินดีกับการมาทำงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่ได้ทำไม่ได้ทำเพื่อหวังอะไรตอบแทน เป็นความมีคุณค่าทางจิตใจในผืนแผ่นดินพุทธ ในกองระบบสาธารณโภคี ที่พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ได้นำพาฝึก พาทำ จนได้มรรคผล ของแต่ละคนได้อย่างชัดเจนในสังคมชาวอโศก แบบคนจนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ เพราะเป็นสังคมคนมีศีล ทำงานที่เป็นสัมมาอาชีพ มีสาระมั่นคงขยันอดทนไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ผลาญพร่าสุรุ่ยสุร่าย มีความเอื้อเฟื้อสะพัดแจกจ่าย ไม่มีอบายมุข มีความพร้อมเพรียงกัน เป็นความสามัคคีซึ่งเป็นเอกภาพ ตามสัจธรรม
