640125_รายการโสเหล่โลกุตระ ออนไลน์ ครั้งที่ 25
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวน์โหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/13J-Z9Yn89IPeYef3mir9hrXArmmwMFXYCVFw3NHxNI8/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1D4aZacaQPQNSA2T7FLJK8NNHtGoFPuFf/view?usp=sharing
ยูทูปที่ https://fb.watch/3ewayyJ7Qc/
_สู่แดนธรรม…วันนี้วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2564 ที่บวรราชธานีอโศก สังคมชาวอโศกมีการประพฤติธรรม สนทนาธรรมกันเป็นการปกติ เมื่อเช้าได้สนทนาธรรมกับญาติธรรม หญิงคนหนึ่ง เรื่องวิธีตรวจเช็คความเจริญในธรรม ผมก็ว่าต้องวัดจากเด็ก อายุ 6-7 ขวบ ที่ยังไม่มีการปรุงแต่งทางโลกมากก็จะพูดจาใสซื่อ ยกตัวอย่างมีเด็กที่พูดให้กำลังใจคุณตา…
น้องภูมิพุทธ พูดกับลุงคนนี้ว่า…ที่ลุงเป็นทุกข์เพราะมีกิเลสใ ห้ลุงทำใจไปเรื่อยๆทำไปทีละนิดทีละนิดและมันก็จะไม่มีผัสสะเองเดี๋ยวกิเลสก็จะหมดไปเอง ดช.ภูมิพุทธ อายุ 5 ขวบ
ดช.ธัมโม 4 ขวบ…บอกว่า สู้ๆนะลุงเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ดช.ธัมมะ บอกว่า ขอบคุณลุงปิ๊กที่ให้ของเล่นธรรมะเป็นกำลังใจให้นะครับ
น้องภูมิก็เลยบอกว่า น้องภูมิ ก็ให้กำลังใจลุงเหมือนกันให้ 3 เท่าเลย
นี่คือการวัดค่า ความเจริญของชุมชน ที่ผมเห็น
_ชาวบ้านราชฯ แสดงรหัส ปรบมือ และพูดโศลกธรรม ทองคำแพงแท้ แพ้แรงคนจน พวกเราทุกคน เป็นคนจนโลกุตระ เฮ้
_แซมดิน เลิศบุศย์…รายงานกิจกรรมที่สวนบุญผักพืช … ไปช่วยกันทำกสิกรรม เป็นภาพแห่งความรักสามัคคี อบอุ่นมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เราจะทำเดือนละ 2 ครั้ง ที่สวน 2 ศอก และที่สวนบุญผักพืช สลับกัน
มีคำถาม
เหลือกิเลสน้อยนิดกับหมดแล้ว มีสัญญากับหมดกิเลส
ในหนังสือธรรมพุทธสุดลึก หน้า 25 เรื่องความเพียร(วิริยะ) พยายาม(วายามะ) จะมีผล 3 เพราะ
-
ไม่เอาทุกข์ทับถมตนเอง
-
ไม่สละความสุขที่เกิดโดยธรรม
-
ไม่เป็นผู้หมกมุ่นในความสุขนั้น
ยังสงสัยข้อ 2 ไม่สละความสุขที่เกิดโดยธรรม อันนี้เป็นโลกุตรสุข ที่พ่อท่านว่าต้องสละทั้งสุขและทุกข์ แต่อันนี้ไม่สละความสุขโดยธรรม จะมีความเพียรเพิ่มขึ้น จะมีความพยายามที่มีผลเพิ่มขึ้น อย่างไร
พ่อครูว่า…อันนี้เป็นความลึกซึ้งที่ต้องใช้พยัญชนะคำว่าสุขมาใช้แทน เหมือนกับความมี อัตตา หรือไม่มีอัตตา จริงๆแล้วทุกอย่างก็ไม่มี อัตตา อนัตตา แต่เรายังมีชีวิตอยู่เราก็ต้องมี อัตตา อาศัยอัตตาเพราะว่าเรายังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานก็ต้องใช้อาศัย อัตตาอยู่ ความจริงแล้วมันอนัตตาไม่มีตัวตนหรอก คนก็พูดโก้ๆว่าทุกอย่างอนัตตา บางทีเจ้าสำนักบางแห่งก็บอกว่าทุกอย่างก็เป็นธรรมะถ้าไม่ใช่ธรรมะก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ทั้งที่ตนเองยึดถือคำว่าธรรมะเต็มบ้องเลย คืออัตตาแท้ๆ
ทีนี้คำว่า “สุข” คำว่า “ไม่ยึดสุข” ไม่ให้มีสุขดับความสุขความทุกข์ก็เหมือนกัน เราก็ยังไม่ได้ดับขันธ์เป็นปรินิพพานเป็นปริโยสาน ก็ต้องมีความสุข สุข-ทุกข์ เป็นอารมณ์อาศัย ท่านก็อธิบายแล้วว่าอารมณ์อาศัยที่ดีที่สุดคือไม่สุขไม่ทุกข์หรืออุเบกขา ก็เป็นพยัญชนะทั้งนั้น เราก็เข้าใจอารมณ์จริงๆทำอารมณ์ให้ได้จริงๆ แล้วอารมณ์นั้นได้แล้วเข้าใจรู้เป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิ รู้ได้ด้วยตนเอง เราจะเทียบเคียงโดยเสมอว่านี่คือมีอาการสุขไม่สุขอย่างไร
บางคนสนุกจัดจ้านมันชอบนักสนุกเพลิดเพลินมีรสชาติทางความสุข ความสุขอะไรที่มันจัดจ้านต่างๆนานาเขาจะปรุงแต่งอารมณ์อย่างนั้นอารมณ์จัดจ้าน ถือว่ายังไม่พอยังจะปรุงแต่งให้พิสดาร ให้มีความแปลกประหลาดให้มีความแตกต่างไปสารพัด คนที่ไม่รู้จักวิชชา ก็จะหาความสุขที่พลิกแพลงไปเรื่อยๆก็ไม่จบ
จริงๆแล้วอุเบกขาเป็นฐานนิพพานเป็นศูนย์ แต่มันก็มีอะไรอาศัยบ้าง บางทีก็จำได้ว่าอันนี้เป็นความสุข แต่ความจำกับความจริงนั้นมันไม่ใช่อันเดียวกัน คนไม่รู้จะแยกความจำกับความจริงออกยาก โดยเฉพาะความจริงกับความจำที่ไปถึงขั้นความจริงอันเป็นวิมุติ
-
เป็นอุเบกขาแล้ว กับมันยังมีอยู่น้อยนึง มีน้อยนึง กับไม่มีแล้ว นี่ก็ยาก
-
ไม่มีแล้วล่ะแต่ยังเป็นความจำ พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ ความจำนี้มันช้านะ กว่าจะหมดเกลี้ยงได้ ทั้งๆที่มันไม่ได้ติดยึดแล้ว แต่เป็นเพียงความจำที่ยังจำได้อยู่ ก็วนเวียนนึกถึงมันก็เผลอๆ
ผู้ที่มีขั้นตอนถึงตรงนี้จริงๆไม่ได้มีความติดในสิ่งหยาบแล้ว ละเอียดมากแล้ว มันจะมีตรงนี้ทุกคนแหละ อาตมาก็มี เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้าตรัสอันนี้ อาตมาถึงซาบซึ้งว่ามันเป็นเช่นนี้เอง เราก็เพียรอย่าไปหมกมุ่นอย่าไปหลง แม้แต่ความจำเอามาระลึก ต้องหัดวางความจำ ปล่อยวางไปเรื่อยๆ มันก็จะเบาบางลงไปเอง โดยรู้ทันๆ ไม่ต้องไปหงุดหงิด ไม่ต้องไปรำคาญอะไร แต่ว่ารู้จริงๆว่า มันมาหลอกหลอน
เพราะจริงๆแล้วมันก็เป็นความจำ มันไม่ได้หยาบคายจะต้องเป็นความจริงที่เป็น กามภพ หรือแม้แต่รูปภพก็ยังหยาบ แต่นี่อรูปภพที่เบาบางมากแล้ว เมื่อยังไม่ตายก็ไม่มีปัญหาอะไร
พระอรหันต์ที่เป็นพระอรหันต์ใหม่ๆก็ยังมีพวกนี้เยอะ อรหันต์เก่าๆไปแล้วก็จะไม่มี ก็จะเฉยๆสบายๆว่างๆก็ได้ หรือ ผู้ที่จะสูงขึ้นไปอีกเป็นโพธิสัตว์ จะกลับให้มามีร่วมเป็นอารมณ์กับเขาแล้วเราก็ปล่อยวาง บางทีมันก็ค้างเหมือนกันนะ ก็ต้องสังวรตนอย่างมาก ว่า นี่มันจะเกิดมาฟื้นคืนแล้วนะนี่ มันจะค้าง ก็จะต้องระวัง คนผู้ปฏิบัติจริงจะเข้าใจสภาพที่มันจะมีเกิดขึ้นมาหรือไม่มีเกิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นเราได้ฝึกตั้งแต่คุณธรรมระดับพระโสดาบันเข้ากระแสแล้ว โสตาปันนะ อวินิปาตธรรม นิยต สัมโพธิปรายนะ 4 ขั้น
เข้ากระแสคือจิตเข้ากระแสโลกุตระ ทำกิเลสออกไปเรื่อยๆจนถึงขั้น อวินิปาตะ คือได้แล้วไมตกต่ำ
พระโสดาบันเข้ากระแสแต่เผลอก็ตกต่ำได้อีก บางทีมี 7 ชาติอะไรอย่างนี้ หมุนเวียนกว่าจะกลับมาได้ เพราะฉะนั้นต้องดูอาการพวกนี้จริงๆและประมาทไม่ได้
อวินิปาตธรรมผ่านแล้วไปสู่นิยต เที่ยงแท้แน่นอนเลย 50 เปอร์เซ็นต์ไปแล้วไปหา 75%
เลยจาก 75% ไปก็ถือว่าเป็น สัมโพธิปรายนะ ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดาไปสู่ที่สูงที่สุด
หรือ แม้แต่ผู้ที่สูงแล้วอนุโลมมาอย่างเป็นโพธิสัตว์ ก็จะต้องระมัดระวังพวกนี้ แล้วมันก็จะเป็นพวกนี้แหละค่อยๆชำนาญ ค่อยๆเก่ง ค่อยๆมีจิต ยังจิต ให้เป็นไปในอำนาจขึ้นไปเรื่อยๆได้ ก็จะเจริญไปตามลำดับ เอาประมาณนี้ก็แล้วกัน
_สมณะถ่องแท้…ตอนนี้ที่ศีรษะอโศก มีกระบวนการของบวรเพื่อปลูกพืชผักเอาไว้ใช้ในงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ที่จะมาถึง เตรียมจะปลูกทั้งแตงโมแตงร้าน
_ดร.สุ(อุ่นเอื้อ)…ช่วงนี้บวรศีรษะอโศกก็เป็นช่วงของการเตรียมงานปลุกเสกพระแท้ๆของพุทธ ปีนี้จัดออนไลน์ ทางศีรษะอโศก ตั้งเป้า อาหารเป็นหนึ่งในโลก พ่อครูบอกว่า ทำอย่างไร เรื่องของกสิกรรมชาวอโศกสามารถสร้างผลผลิตได้เลี้ยงตัวเองได้ มีความยั่งยืนทางอาหาร
ลงมือทำคือคำตอบ
_ปลูกขวัญ รักพงษ์อโศก (จากปฐมอโศก)…จะรายงานเรื่องของวันบวรฯที่ผ่านมาเริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ถึง 23 มกราคม 2564 เรามีการจัดงานบ้านวัดโรงเรียน วันวานทำกสิกรรมตั้งแต่ปฐมอโศกเปิดมาเกือบ 30 ปีเราปลูกผักยังไม่ได้ดี งานนี้หลังจากงานเพื่อฟ้าดินและวันวบบบ.เสร็จ ทางปฐมอโศกก็รวมพี่น้อง ในฐานะที่ติดCovidอยู่ ก็รวมพี่น้องบ้านวัดโรงเรียนทำกสิกรรมกันค่ะ ทำแปลงปลูกผักหน้าโรงครัวที่เราซื้อไว้ แล้วเราก็สิ้นสุดการทำรทำกสิกรรมไว้ เพราะว่าตอนนี้ที่นครปฐมไม่มีคนติดแล้วเราก็เลยเปิดทำการค้า เราก็เลยต้องยุติการทำวันบวรฯไปก่อนค่ะ
มีสิกขมาตุทองพราย อาพาธด้วย โรคมะเร็งรังไข่ทั้ง 2 ข้าง ก้อนเนื้อ ข้างละประมาณ 10 เซนติเมตร รักษาด้วยการให้เคมีบำบัด ครั้งที่ 1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แล้วเมื่อวานเกิดอาการขาบวมและมีการอาเจียน คุณหมอนัดไปเจาะเลือดวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 แล้ววันที่ 11 – 13 กุมภาพันธ์ 2564 ก็ได้แอดมิดให้เคมีบำบัดเข็มที่ 2 กราบขอบพระคุณพ่อครูค่ะ
พ่อครูว่า…ที่จริง ปฐมอโศก ตั้งมา 37 ปีแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เกือบ 40 ปีแล้ว ถือว่าเป็นชุมชนแรกของพวกเราที่พยายามตั้งกันขึ้นมา เป็นชุมชนที่สร้างขึ้นจริงๆซื้อที่ดินและไปปลูกบ้านเรือนและอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้น ตอนแรกๆใหม่ๆก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง ก็เลยทำพิธีการใครมาแล้วต้องมาลงทะเบียน มานับเวลากันเอา ไม่อย่างนั้นมีแต่บ้านไม่มีคน ไปปลูกบ้านกันจริงเก่ง เหมือนกับราชธานีอโศกก็มีบ้านว่างๆ คนไม่ค่อยมาอยู่สร้างบ้านเลยไม่ค่อยมาอยู่ เพราะว่าสร้างบ้านของเรามันถูกและง่าย ที่ดินก็ถูก ก่อสร้างกันแต่ไม่ค่อยมาอยู่ ต้องพยายามหาวิธีให้มาอยู่กัน
ต่อมาก็เข้าใจก็มากันเองสมัครใจมาหลายคนก็พยายามมาอยู่ จนกระทั่งทิ้งทางโน้นก็มาอยู่ทางนี้ได้ตลอด แม้แต่ราชธานีอโศกทุกวันนี้ก็ มีหมู่บ้าน 3 เฟสแล้ว 300-400 หลังคาเรือน คนก็จะให้ถึง 777 ก็ยังไม่ถึงดี เป็นปึกแผ่นไปอย่างนี้ ที่อื่นก็ไล่ขึ้นมา
แต่ว่า อาตมาว่า สังคมเรานี้นะแม้จะคนน้อยแต่คุณภาพมันสูง คือ เป็นคนที่มีประโยชน์คุณค่า แล้วก็เสียสละเพื่อผู้อื่นอีกเยอะ ปฐมอโศกทุกวันนี้เป็นพี่ใหญ่เลี้ยงดูน้องๆ อย่างราชธานีอโศกอยู่กันอย่างเป็นน้องที่สุดตัวใหญ่เทอะทะกินจุอีกต่างหาก เลยให้พี่เลี้ยงตลอดเลยทุกเดือนหลายล้าน ปฐมอโศกให้อย่างต่ำเดือนละ 1 ล้าน เรียกว่า minimumขั้นต่ำ หรืออาจจะมากกว่านั้น
เป็นสังคมที่เรื่องเศรษฐกิจรัฐกิจการเมืองก็ดีสังคมก็ดี เป็นคุณภาพของสังคมมนุษยชาติ อาตมายิ่งเห็นว่ามีคุณภาพที่ยิ่งใหญ่มากเป็นคุณภาพที่ประเสริฐ ยอด คนก็จะมาศึกษา เขาก็ยังไม่เห็นค่าเท่าไหร่เพราะทวนกระแสมองยังไม่ออกไม่เข้าใจเลย ยังยาก มันเป็นเรื่องโลกุตรธรรมที่สุดยอด ยิ่งเศรษฐกิจ มาทำงานฟรีมีเงินเดือน 0 บาทอะไรอย่างนี้ เขาก็งงหัวแตกอยู่อย่างไร ใครมาอยู่ โดยไม่มีเงินเดือนรายได้ 0 บาท เป็นของแปลกใหม่มากเป็นไปได้อย่างไรคิดไม่ออกเขาไม่เคยประสบพบเจอว่ามีที่ไหน เขาไม่ได้เข้ามาประพฤติปฏิบัติจริงๆ
แม้ว่าบางคนไม่ได้ประพฤติปฏิบัติจริงๆมาสัมผัสอยู่ 3 วัน 5 วัน 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือนก็จะรู้สึกว่าเป็นไปได้ ถ้าเขาจะมาอยู่จริงๆมาอยู่กับชาวอโศกอาศัยกับสาธารณโภคีมันจะเป็นอย่างไร จิต จะเป็นอย่างไรพระพุทธเจ้าถึงบอกว่าคิดเอาเองไม่ได้ อจินไตย ต้องเป็นเองรู้เองเป็นปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิติ มีจิตใจถึงขั้นสาธารณโภคี เป็นเรื่องลึกซึ้งมาก
เหมือนกันกับเรื่องการเมืองที่เราบอกว่าประชาชนปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาล ประชาชนไปประหารรัฐบาล ด้วย ธรรมาวุธ คือ มือเปล่าไม่รุนแรงเลยมีแ
ต่ความสงบเรียบร้อย และเอาชนะได้ อย่างที่เขาแพ้จริงๆเข้ามาปกครองไม่ได้ เข้ามาใช้อำนาจบาทใหญ่ในสังคมประเทศไม่ได้เลย ทั้งๆที่เขายังไม่ตายเขาเป็นเจ้าอำนาจอยู่แต่เข้ามาไม่ได้ อย่างเช่น ทักษิณตัวเขาก็เข้ามาไม่ได้ พวกที่เป็นพรรคพวกของเขาในนี้ก็ยังมีแต่เข้ามาไม่ได้ สมัครก็ตายไปเสียก็แล้วไป ทีนี้ สมชาย ก็ยังอยู่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ สมชายนี้ถึงขนาดเป็นนายกฯ แต่ไม่ได้เข้าทำเนียบเลย คงเป็นนายกฯ คนเดียวในโลกที่ไม่ได้เข้านั่งทำเนียบเลย จนต้องออกไป แม้แต่ยิ่งลักษณ์ก็ตามก็เข้ามาไม่ได้ มีเงินมีทองมีอำนาจมีพรรคพวกก็ตาม อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดเอาไม่ได้
หรือแม้แต่ความสงบมีอำนาจมีฤทธิ์แรงอย่างไรจะไปสู้กับคนมีมีดมีปืนมีอำนาจ บางทีมีทหารอยู่ในมือด้วย ทำอย่างไร มือเปล่าไล่ออกไปได้อย่างไร เป็นเรื่องของจิตวิญญาณที่สูงจิตวิญญาณที่เจริญแล้วก็รวมตัวกันเป็นประชาธิปไตยเป็นพลังงานอธิปไตยของประชาชนที่เป็นมวลอย่างแข็งแรงเด็ดเดี่ยวเลย แข็งแรงหนึ่งเดียว เอกีภาวะ โดยไม่ต้องมีความรุนแรงความโกรธเคืองไม่ต้องมีความร้ายแรงอะไรในจิตเลย มีความปรารถนาดีด้วยกันว่าให้เลิกสิ่งที่ไม่ดีงาม เขาไม่อนุญาตเขาไม่ยอมให้คุณมาทำอีกเพราะว่าสังคมมันเสียหาย ให้เลิกเถอะ คุณยังไม่เลิกเขาก็ยังไม่ให้มา หรือว่ามีคนอื่นทำได้ดีกว่าก็ให้คนอื่นมาทำ
ทุกวันนี้เลยเป็นว่ามีคนอื่นทำได้ดีกว่าเขาก็เข้ามาไม่ได้ ทั้งที่เขามีทั้งภายนอกภายใน พยายามจะดึงกันเข้ามา พยายามจะโยงใยสนับสนุนกันอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้ก็เห็นว่า อาตมาพูดความจริงนะว่าก็ดูท่าทีโรยราอ่อนแรงไปพอสมควรแล้วล่ะแต่ก็ยังยอมแพ้ไม่ได้
ตัวอย่างสังคมการเมืองโลกเช่นอเมริกา ก็คอยดูต่อไปเขาก็จะมีอะไรให้ดู อาตมาเปรียบเทียบให้ฟังว่าอเมริกาเป็นการเมืองขาเดียวเป็นการเมืองที่ไม่มี 2 สภาพคือต้องมีสภาพทั้งจิตวิญญาณและร่างกาย แต่ของเขาเป็นสภาพขาเดียวไม่มีจิตวิญญาณ มีแต่รูปร่างรูปแบบมีแต่กฎหมายเป็นหลัก ไม่มีจิตวิญญาณร่วม อะไรพวกนี้ซึ่งอาตมาก็อธิบายตามลักษณะที่อาตมามีภูมิว่าอันนี้เป็นของพระพุทธเจ้า ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่เอาตัวรูปเป็นหลักแต่เอาตัวนามเป็นหลักเอาจิตวิญญาณเป็นหลัก
สมัยพระพุทธเจ้าท่านทำประชาธิปไตยเรียบร้อยเพื่อประชาชนจริงๆไม่มีตัวตนจริงๆเสียสละรับใช้ประชาชนอย่างสมบูรณ์อย่างเช่นพระพุทธเจ้าอย่างเช่นพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ของเรา เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สมัยพระพุทธเจ้าคนไม่เข้าใจง่ายๆเพราะเป็นสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์สมัยยุคทาส คนก็ยังไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชน นักรัฐศาสตร์จะต้องศึกษาติดตามไปดีๆ คิดว่าไม่น่าจะถึงร้อยปีน่าจะเข้าใจกันนะพวกนักรัฐศาสตร์ เพราะว่ายุคนี้ไปใกล้กลียุคแล้ว ทั่วโลกจะเข้าใจประชาธิปไตยสุดยอดคือประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า
จะเรียนวิชาต่างๆไปทำไมในเมื่อจะต้องมาทำงานกสิกรรมพื้นฐานอยู่แล้ว
_ช่วยบุญ…วันนี้มี 2 เรื่อง เผาถ่านเอามาเผากิเลสเหมือนพวกเราที่ถูกเผาเป็นถ่านแล้ว เอามาใช้ประโยชน์ได้ เขาบอกว่าเราจะเรียนไปสูงทำไมในเมื่อจะต้องมาทำงานพวกนี้อยู่แล้ว
พ่อครูว่า..เราเรียนมาก็รู้สิ่งที่โลกเขาสอน เขาสอนได้แต่โลกียะไม่ได้สอนเรื่องจิตวิญญาณเรื่องโลกุตระ แต่มันต้องคู่กัน เมื่อเรารู้โลกเพิ่มขึ้นรู้ความเป็นอยู่ของชาวโลกเพิ่มขึ้นเขาก็จะมีความคิดกันอย่างโลกๆ ต้องการอย่างโลกๆ เราก็เข้าใจเขาอนุโลมให้กับเขาดีขึ้นประโยชน์ก็จะเกิดมากขึ้นไง เพราะเรารู้เขารู้เรา สำนวนของซุนวูเขา รู้เขารู้เรา รบไม่มีแพ้เลยชนะตลอดลูกเดียว รู้เขารู้เราไม่เพียงพอทำงานอะไรก็สำเร็จหมดแหละ เรารู้มากและรู้ลำดับ อนุโลมปฏิโลมขนาดไหนแค่ไหนใช้สัปปุริสธรรม 7 มหาปเทส 4 ของพระพุทธเจ้าเราก็จะใช้ประมาณได้อย่างสัดส่วนพอเหมาะๆๆ สิ่งที่จะเป็นประโยชน์คือความสมดุลมากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดีง่ายๆ เป็นเรื่องสามัญ เราทำได้อย่างนั้นจริงๆจึงเป็นประโยชน์สูงประหยัดสุดที่แท้จริงไง
การเรียนรู้..คนไม่เข้าใจว่าไปเรียนทำไมแล้วก็มาทำงานอย่างนี้ จริงๆแล้วงานอย่างนี้แหละ คืองานที่เป็นฐานของมนุษย์เพราะเรารู้สาระที่แท้จริงความเป็นอยู่ของมนุษย์นอกนั้นเป็นความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น มากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ และเป็นก้อนของความโลภ และเป็นก้อนของความโกรธแค้น สองก้อนนี่แหละมันทำงานเท่านั้นเอง แต่พวกเราทำงานไม่มีพวกนี้ แม้ยังมีเราก็รู้ว่าใครยังเหลืออยู่ ก็ระงับไม่ให้มันออก เพราะฉะนั้นก็เหมือนมันไม่มี คุณประโยชน์คุณค่าของมนุษย์ อย่างพวกเราหมู่กลุ่มชาวอโศกมันเป็นมนุษย์ที่มีประโยชน์ ที่เป็นประโยชน์โลกุตระ คนเข้าใจโลกุตระไม่ได้ดูเหมือนต่ำดูเหมือนเบาดูเหมือนเงียบดูเหมือนนิ่งดูเหมือนไม่รอดพ้น ดูเหมือนไม่มีคุณค่าดูเหมือนมันน้อยมัน 0 แต่แท้จริงมันมีมหาศาล มีแรงมากมีอิทธิพลสูง แต่คนมันเป็นภาษาพูดเท่านั้นเองคนเข้าใจสภาพที่ซับซ้อนพวกนี้ไม่ได้
ซึ่งอาตมาเองต่อไปผู้รู้จะมากขึ้นจะมีคนที่เก่งภาษา เก่งการสรุปภาษา เอามาบอกใครๆได้อย่างเช่นคุณเปลวสีเงิน สื่อได้กะทัดรัดและใช้ภาษายังเป็นเจ้าภาษาเลย เก่ง อาตมาต้องอ่านคุณเปลวเขียนทุกวันเลย ยกเว้นวันที่แกไม่เขียน ก็อ่านของคนอื่นไป คนอื่นก็ไม่เลวอย่างคุณผักกาดหอม เป็นตัวแทนได้เลย
พระพุทธเจ้าไม่ได้ศึกษาอะไรอย่างอื่นที่ยิ่งใหญ่อย่างอื่น แต่ท่านหันมาศึกษามนุษย์กับสังคม ไม่ว่าสังคมศาสตร์เศรษฐศาสตร์รัฐศาสตร์เป็นเรื่องมนุษย์กับสังคมเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดพระพุทธเจ้าตรัสรู้หมดแล้วสารพัด 18 สาขาวิชาในยุคของท่าน ทำได้เกียรตินิยมหมดแหละ วิชาต่างๆเหมือนอย่างสมัยนี้แหละ ไปได้ปริญญาคณะต่างๆ ก็เหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้มันมากกว่า 18 สาขาวิชา แต่ท่านไม่เอาโยนทิ้งหมดมาเอาอันเดียวเอาเรื่องความเป็นมนุษย์กับสังคม นอกนั้นเป็นองค์ประกอบที่จะรู้เขารู้เรา แล้วท่านก็ช่วยเขา นี่ก็เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ในยุคไหนก็เหมือนกันล้อเลียนกันไม่ได้ยากอะไร
ทุกวันนี้อาตมาก็พยายามถอดแบบของพระพุทธเจ้ามา แม้ไม่เก่งเท่าพระพุทธเจ้าก็เถอะแต่ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากกัน เปลี่ยนสภาพที่เป็นจักรวาลน้อยจักรวาลใหญ่ถอดแบบกันไป อาศัยสภาพเหมือนกัน แต่ว่ามันมีมากมายเก่งกาจ หรือว่าสูงส่ง กว่ากันเท่านั้นเอง อาตมาก็เป็นจักรวาลน้อยพระพุทธเจ้าก็เป็นจักรวาลใหญ่ น้อยใหญ่ก็มีลำดับอีกก็ค่อยว่ากันไป
_ศีลเกื้อ ถามว่า “ชาติ” “สัญชาติ” ต่างกันอย่างไร แตกต่างจากสัญญาอย่างไร
พ่อครูว่า…ก็ฝากไว้ก่อนจะยังอธิบายอีกเยอะ
_นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
_สู่แดนธรรม…สังคมชาวอโศกเป็นสังคมที่แปลก แต่คนไม่ค่อยมาเอา ส่วนมากทางโลกแสวงหาความแปลก แต่เขาไม่มาเอา(พ่อครูว่า มันทวนกระแสใจเขาเขาก็เลยไม่ซาบซึ้งเพราะมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาจะต้องเอาเขาจะต้องรวยแต่เราต้องมาจนอย่างนี้เป็นต้น)
_SMS วันที่ 24 ม.ค. 2564
_6031 : รับฟังทางกล่อง”อินโฟเชทผ่านเนตไวไฟเคลื่อนที่(ฮอตสปอต์).ชัดเจนทั้งเช้ามืด(ธรรมะ5ดาว)และภาคเย็นครับผม.
_Koithaitik Carp (คอยใคร) : เมื่อเช้าผมฟังรายการ พุทธชีวะศิลป์ ติดใจตรงท่านถักบุญบอกว่า
ฉี่ของคนไม่ดีเอาไปรดต้นไม้ ต้นไม้จะตาย ผมเลยมานึกถึงตอนสมัยเรียนหนังสือ ใกล้ ๆ โรงเรียนจะมีร้านอาหารที่ขายเหล้าด้วย พวกผมเลิกเรียนก็ไปกินเหล้าร้านนั้น พอปวดฉี่ก็ขี้เกียจเดินไปห้องน้ำก็ฉี่ใส่ต้นไม้ข้างกำแพงร้าน ทุกวันนี้ต้นไม้นั้นก็ยังอยู่โตแข็งแรงดีครับ จะถามว่าฉี่คนเมาที่มีแต่เรื่องสนุกกับฉี่คนเมาที่มีแต่เรื่องทุกข์ มีผลกับต้นไม้ไหมครับ ขออภัยถ้าไร้สาระครับ
พ่อครูว่า…หรือต้นไม้มีความแข็งแรงกว่าความชั่วของคนก็เลยอยู่ได้
หรือฉี่ของคุณคงดีกว่าคนที่เลวกว่าคุณอีกเยอะ
กามโทษมิใช่กามคุณ
_สติพล จนพัฒนา : **คำว่า”กาม”น่าจะเป็นคำกลางๆนะครับ..เพราะมีคำๆหนึ่งที่ท่านใช้คำว่า”ธัมมกาโม”คือความใคร่ในธรรม..ขอให้ท่านผู้รู้พิจารณาด้วยครับ.
พ่อครูว่า…คำว่ากามเป็นคำกลางๆ มันก็ไม่ผิดอะไรคำว่า กาม เป็นคำกลางๆ แต่เมื่อคุณไปหลงเอากาม เป็นคุณ ก็เป็นภัยเป็นพิษ เพราะกามมันเป็นโทษ คือกามาทีนวะ คุณก็ดูให้ได้ถ้าคุณไปมัวเมาหมกมุ่นอยู่กับกามคุณ ทั้งๆที่มันเป็นโทษคุณก็สะสมกามจัดจ้านมากขึ้นมันก็เป็นภัยแต่ถ้าความใคร่ความอยากของคุณ อยากจะใช้ภาษาไทยที่แทนกันได้ ว่าอยาก คุณก็อยากในสิ่งที่ดีมันก็เป็นโลกียะเป็นการทำดีมันก็ดีแล้ว ยิ่งอยากได้โลกุตระ ใคร่อยาก ธัมมกาโม ตลกอีกอย่างที่ดีเข้ามาเทียบกันไม่ได้สักทีเหนื่อยชัดกว่า โลกุตรธรรม มันก็ยิ่งดีสิต้องไปขยายความเนื้อหาทางโน้น
ตัวที่ว่า กามทางโลก กามทางโลกียะ แต่ก็ยังมีดีมีชั่ว ก็ไปใคร่อยากในธรรมะที่เป็นกุศลธรรมมันก็ดี แต่ถ้ายิ่งมาเอาโลกุตระ กับโลกียะที่ดีมาเทียบกัน โลกุตระมันทวนกระแสโลกเลยมันก็ยิ่งดี เหนือชั้นกว่า มันเหนือกว่าโลกียะ ยิ่งกว่าก็จะเป็นประโยชน์คุณค่าให้แก่มนุษย์ เพราะว่าสิ่งที่มันเหนือกว่าสิ่งที่ดีกว่าก็คือสิ่งที่ดีกว่าอย่างแท้จริง โลกุตระมันเหนือกว่าท่านเรียกว่า อุตระ มันเหนือกว่าโลกียะ แม้แต่มีน้อยกว่าเหนือกว่า เป็นโสดาบันเหนือกว่าคนเก่งๆดีๆทางโลก แม้เป็นโลกุตระชั้นต้นก็มีค่ามากกว่าราคาแพงกว่าซึ่งหายากกว่า พระพุทธเจ้ายกย่องยิ่งกว่าอย่างนี้เป็นต้น นี่เป็นความซับซ้อนที่จะต้องมาศึกษาอย่างดี แล้วก็จะรู้ความจริงพวกนี้
_Worakan Insee (วรการ อินสี) : มีคำว่า สิกขากามานัง ใคร่ศึกษา ด้วยครับ
โลกุตระแม้น้อยก็ช่วยโลกได้
_สมณะลือคม…ที่ศาลีอโศก มีการจัดกระบวนการกลุ่มมีทั้ง สว.(สูงวัย) สส.ก็มีการเสียสละ และเด็กทั้ง 3 วัย แต่วันนี้สมณะตกงาน เพราะว่านักบวชไม่สามารถไปถอนผักกาดหัวเขาได้ เด็ดถอนตัดก็ไม่ได้ ก็เลยได้ไปคอยดูคอยแล ก็รู้สึกว่า ทุกคนทำงานด้วยความขยัน ลืมเหน็ดเหนื่อย ขณะทำงานก็ได้เห็นความไม่อยู่เฉยของชาวอโศก ซึ่งมันจะเห็นสภาวะนี้ได้ต้องลงมือทำจริงโดยที่ไม่เอาแต่คิดแต่พูด
พ่อครูว่า…การลงมือทำสัมผัสสัมพันธ์กันจริงๆ กับการเอาแต่คิดๆๆมันต่างกันลิบลับเลย พวกเราถึงชัดเจนในธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เอามาขยายความและปฏิบัติ ลึกลงไปในรายละเอียดของความจริงในความจริงไม่ค่อยครบหรอก มันละเอียดลึกซึ้งมีอะไรอีกเยอะแยะก็พิสูจน์กันไปเถอะ คิดว่าพวกเราปฏิบัติจริง มีความเป็นได้จริงเป็นไปเรื่อยๆ อาตมาก็มีแต่เชื่อว่า สิ่งนี้มันจะงอกงามไพบูลย์ โลกุตรธรรม ที่พวกเราเอา ของพระพุทธเจ้า มาปลูกฝังลงในมนุษยชาติมันเข้าไปสู่จิตวิญญาณมนุษย์จริงๆ มีแต่จะงอกงามไพบูลย์จนกว่ามันจะหมดฤทธิ์แรงของมันตามเหตุปัจจัย ก็พยายามที่จะดูเหตุปัจจัยที่มันจะพอปรุงแต่งกันไปจนถึง 5000 ปีที่เหลือ ก็เหลืออีก 2000 กว่าปี จะครบ ศาสนาพระพุทธเจ้า เราก็ไม่บังอาจจะอ้าขาผวาปีกว่าจะต้องเกิน 5000 ปี อาตมาก็ไม่บังอาจจะคิดจะทำอย่างนั้น ก็ได้เท่าที่มันได้จริงก็ทำไป ไม่ง่ายเลย อาตมายังไม่มั่นใจเท่าไหร่เลย อีก 2พันกว่าปีมันถึงจะครบ 5000 ปีมันจะไปไหวไหม ดูแล้วรู้สึกว่ามันยากที่จะเจริญต่อไป พลเมืองที่คิดเทียบเคียงกันแล้ว อีก 60-70 ล้านคน แล้วคนอโศก มันจะได้ซัก แก่นแท้ อย่างบ้านราชฯ เอาตัวรูปธรรม 777 คนยังไม่ได้เลย 67 ล้านเอา 670 ยังไม่ถึงเลย ก็เป็นอัตราส่วนที่เทียบเคียงกันไป
แต่สิ่งที่มันเป็นของเข้มข้น โลกุตระถือว่าเป็นคุณธรรมที่เข้มข้นยอดเยี่ยมแม้น้อยแต่ก็มีฤทธิ์แรง มีอำนาจมีน้ำหนักที่จะเกื้อกูลผู้อื่นเพราะมีแต่ให้ ไม่เป็นโทษเป็นภัยมีแต่ช่วยผู้อื่นแม้แต่มีน้อยก็ไม่เป็นไรก็ได้ช่วยผู้อื่น แต่ทางโลกนั้น แม้มีน้อยมันก็เอาเปรียบผู้อื่นมันก็จะ ข่ม ผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น แม้มีน้อยก็ไม่ดีแล้ว เพราะฉะนั้นจึงต่างกันคนละนัยยะคนละมุมเหลี่ยมนี่ก็คือนัยยะที่พอพูดได้ เอาสิ่งที่ดีกว่า เหนือกว่า มาขยายให้ฟังเรื่อยๆ ก็คงได้ไปเรื่อยๆ อาตมาเองก็พากเพียรอยู่ เพื่อทำงานนี้ต่อไปให้นานเท่าที่จะนานได้ เผื่อพอ ไม่ประมาท ให้มันเหลือเฟือมันถึงจะดี
_สู่แดนธรรมว่า…ถ้ากลัวว่าไม่เผื่อพอ พ่อครูจะกลับมาเกิดอีก
พ่อครูว่า…ก็กะไว้อย่างนั้น ไม่มีปัญหาอะไร ไปตามเหตุปัจจัยมันควรจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ยังไม่รู้ได้ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกมันมีเจตนาที่เป็นกุศลปรารถนาดีที่จะต้องทำดี ดีกว่าดีที่สุดไปให้ได้ ก็คงไม่เสียหายกว่าคำพูดที่ว่าทำให้ดี ดีกว่าดีที่สุดดีเจริญต่อไป ดีกว่าดียิ่งดีที่สุด เคยทำลำดับของเนื้อหาความดีนี้ไว้อยู่ในหนังสือสรรค่าสร้างคน
_แดง ลานกราบ : ความรู้สึกในการฟังธรรมวันนี้ รู้สึกยินดีที่ได้ฟังธรรมในวันนี้ค่ะ ความรู้ที่ได้คือยิ่งฟังยิ่งลึกยิ่งเข้าใจยาก อย่างคำว่า “ชาติ” คำเดียวก็ขยายออกไปได้ตั้งเยอะเลย ธรรมะของพุทธะลึกซึงยิ่งนัก น่าค้นหาน่าติดตามค่ะ
เจตนากุศล อกุศล เป็นธรรมะ 2
_จากลูก คนไกลบ้าน : กราบนมัสการพ่อท่านค่ะ ลูกนี้อยู่ไกลจากหมู่กลุ่มมาก คนละชีกโลกเลยค่ะ ลูกชอบไปวัดทำบุญ และสถานที่ ที่ลูกอยู่ มีวัดป่าสายหลวงปูมั่น พอให้เป็นที่พึ่งทางใจ และมีที่ไปทำบุญ ถึงจะขัดกันกับสิ่งที่พ่อสอนอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีวัดเลย ปกติลูกจะเอาพวกผลไม้ ข้าวและผัก ไปทำบุญค่ะ และก็ไม่เคยบอกใครว่าลูกกินมังสวิรัติ วันหนึ่งมีโยมคนหนึ่งทำปลาย่างจัดเป็นจานๆขึ้นศาลา และ ขอให้ลูกช่วยเอาไปถวายพระให้เขาด้วย ลูกไม่กล้าขัดเขาค่ะ และไม่สบายใจเลย ที่ต้องทำแบบนั้น พ่อท่านคะ ลูกจะบาปมั้ยคะ จะเลิกไปวัด ก็เสียดายค่ะ เพราะที่วัดทำให้ลูกหายคิดถึงบ้านเมีองไทย ลูกสมควรทำอย่างไรดีคะ
พ่อครูว่า…เจตนาของคุณไม่ได้เป็นอกุศลเลยตรงนี้แหละสำคัญ เอาเจตนาเป็นที่ตั้ง เจตนาของคุณไม่มีอกุศลจิตเลย เจตนาก็เป็นกรรมเป็นวิบากพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจน มันไม่เป็นกรรมเป็นวิบากอะไรหรอก ตัวเองมีเจตนาเป็นกุศลเลย อย่างอาตมายกตัวอย่างประกอบ อาตมาว่าเขา ถึงขั้นดูถูกดูหมิ่นเขาเลยว่าเขาแรงๆ ซึ่งมันก็มองดูโดยโลกตื้นๆว่ามันไม่ดีมันหยาบมันแข็ง มันเป็นการไปข่มเขา มันไม่ดี แต่อาตมาต้องทำ เพราะว่าเจตนาของอาตมาเป็นกุศล
แล้วมันจะเป็นผลอย่างไรอาตมาทําแล้วไม่มีผลต่ออาตมาเพราะอาตมาไม่มีอกุศลจิตแทรกในจิตอาตมา แต่คนที่เขาฟังและถูกกระทบเมื่อมีผลกระทบแล้วเขาก็จะตอบโต้ การตอบโต้ไม่ตอบโต้นี่แหละ ตัวคนอีกฝ่ายหนึ่ง จริงๆแล้วเขาจะตอบโต้อาตมาก็มีอยู่ 2 นัย
เขาจะตอบโต้อาตมาแล้วจะตอบโต้ได้ไหม ถ้าเขาตอบโต้ได้เขาก็จะตอบ แต่เขาตอบโต้ไม่ได้เขาก็จะพยาบาท อาตมาจำนนยอมที่ว่า อาตมาปรารถนาดีให้เขาได้รู้สึกได้เข้าใจ แต่ก็ต้องจำนนเพราะอย่างไรเขาก็จะพยาบาทก็ต้องยอมให้เขาพยาบาท ไม่เป็นไรอาตมายินดี พยาบาทก็สู้กันแล้วเขาก็ทำอะไรอาตมาไม่ได้ เพราะว่า ฤทธิ์แรงของอาตมามีมากกว่า พลังงานทางกุศลของอาตมาเหนือชั้นกว่าฤทธิ์แรงพยาบาทของเขา เขาแพ้นี่คือธรรมาธรรมะสงคราม คือเนื้อแท้ของธรรมะที่ชนะ เนื้อแท้กุศลของอาตมามันชนะอกุศลของเขา เขาทำอะไรอาตมาไม่ได้ อาตมาประมาณอย่างนี้พอสมควร
เพราะฉะนั้นเนื้อแท้จริงๆอย่างที่อาตมาอธิบายไปแล้ว กุศลเจตนาของอาตมามันมีพลังมีเนื้อมากกว่า เนื้อพยาบาทของเขาที่จะตอบโต้เขาตอบโต้ไม่ได้
อธิบายได้แค่นี้ตอนนี้ก็คงจะพอจะเข้าใจนะ อาตมาก็จึงทำประมาณอย่างนี้ จริงๆแล้วสองสภาพไม่ว่า “กุศล” หรือ “อกุศล” มันจะมีภาวะคู่กลับไปกลับมาอยู่ตลอดเวลา นอกจากทางโน้นเขาก็จะสูญอาตมาก็สูญ
สมมุติว่าเขาเป็นอรหันต์ อาตมาก็เป็นอรหันต์ ว่าอย่างไรมันก็สูญต่อกันไม่มีภาวะตอบโต้ระแวงขัดแย้งอะไรกัน ไม่มีหรอก ถ้าอาตมาไปด่าเขาแล้วเขาเป็นอรหันต์ก็จะไม่มีผลอะไรแต่ถ้าเขาไม่เป็นอรหันต์มันก็จะมีผลมันห้ามไม่ได้ ที่ด่านี้ด่าให้เขาเป็นบุญเอาบุญเรียกว่าให้เขาชำระกิเลส ด่าให้เกิดบุญเขาจะต้องได้เข้าใจบุญ อาตมาก็ต้องอธิบายบุญคือการลดละกิเลสอย่างไร ได้ก็คือบุญกำจัดไม่ได้ก็ไม่ได้บุญแล้วเขายิ่งเป็นอกุศลด้วยเป็นบาปด้วย มันก็ซวยเขาโง่ทำไงได้ แต่อาตมาก็ประมาณดู ถ้าเผื่อว่าคนนี้มันมีผลสะท้อนตอบขนาดนี้ อาตมาจะพอมีภูมิละเอียดรู้ว่ามีการสะท้อนตอบมากน้อยแค่ไหน อาตมาว่าอาตมาเหนือกว่าเขา ที่อาตมาด่าเพราะเขาต้องต่ำกว่าอาตมา แต่ถ้าอาตมาไปด่าคนที่เหนือกว่าอาตมา อาตมาไม่กล้าเลยอย่างนี้มันไม่สมควร ไม่ทำเด็ดขาด อาตมาเสียหมดเลยอาตมาจะไม่ทำ อาตมาจะไม่ทำสิ่งที่ไม่ควรทำไปด่าคนที่เหนือกว่าเราไปด่าได้อย่างไร จะด่าก็ด่าคนที่ไม่เหนือกว่าเราแน่นอน
_สู่แดนธรรม…ที่พ่อครูไปตำหนิอาจารย์ต่างๆ เพราะต่ำกว่าพ่อครูใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…คุณจะไปเอาให้ชัดขึ้นไปอีกทำไม ถ้าชัดไปกว่านี้เขาพยาบาทก็จะซวย ก็ไม่แน่ อาตมาว่า อาตมาประมาณขนาด อาตมาไม่อยากประมาณอย่างขนาดคุณ
_สู่แดนธรรม…แต่ก็ไม่เป็นอันตรายอันแสบเผ็ด
พ่อครูว่า…ก็เป็นคนละชั้นแล้ว
_สู่แดนธรรม… “ความดี” ที่พ่อครูเขียนไว้ มี 8 ขั้น
-
ดี
-
ดีกว่า
-
ดีขึ้น
-
ดีแท้
-
ดีมากๆ
-
ดีครบถ้วน
-
ดีที่สุด
-
ดีสัมบูรณ์
พ่อครูว่า…เอามาจากภูมิธรรมเดิมของตัวเอง
สามอาชีพกู้ชาติดีอย่างไร
_ด.ญ.ใสกลางเพ็ญ(น้ำมนต์)…วันนี้หนูจะมาถามสามอาชีพกู้ชาติดีอย่างไรคะหลวงปู่
พ่อครูว่า…สามอาชีพกู้ชาติก็มี
1.กสิกรรมธรรมชาติ 2. ปุ๋ยใสะอาด 3.ขยะวิทยา
1.กสิกรรมธรรมชาติ เป็นเรื่องของพืชพันธุ์ธัญญาหารไม่เกี่ยวกับสัตว์ ไม่ใช่เรื่องของประมงไม่ใช่ปศุสัตว์ นี่เราจะกู้ชาติ
-
ปุ๋ย ที่จริงปุ๋ยก็คือขยะ เศษขยะที่เสียแล้วทิ้งแล้วมาปรุงแต่งใหม่เพื่อจะให้เป็นสารผสมประกอบเอาไปใช้กับพืชพันธุ์ธัญญาหารอีกทีหนึ่ง เสริมส่งให้เป็นอาหารให้แก่กสิกรรมธรรมชาติ จะได้เจริญ เพราะขยะ นี่เราปรุงแต่ง เอาเป็นสารผสมของธรรมชาติไม่ได้เอาไปสกัด ถ้าหากสกัดจะเป็นสารเคมี เราก็เอาไปใช้กสิกรรมธรรมชาติก็เจริญ ปุ๋ยก็เป็นขยะ
-
จากปุ๋ยก็เป็นขยะ ในขยะนี่แหละ มีถังขยะที่จะเอาไปใช้ได้ในหลายลักษณะที่เขาทิ้งกัน ขยะคือของทิ้ง ที่คนร่ำรวยทิ้งฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย เราก็บอกว่าเอาไปใช้ทิ้งเหลือเฟือก็เอามาให้คนอื่นเผื่อแผ่