640314_วิถีอาริยธรรม ปฐมอโศก หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1g3TZP2w5Q_ves4Czm9J-DAM9ApDjieVlTLRmrdmB29w/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1EKOLWFFx-TU31_s3wwIihU7U4pgN2ZZg/view?usp=sharing และยูทูปที่ https://www.facebook.com/300138787516163/videos/1798346056988386 สมณะเดินดินว่า…วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม 2564 ที่บวรปฐมอโศก วันนี้พ่อครูและทีมคณะปัจฉาฯก็ยังอยู่ที่ปฐมอโศก วันนี้การแพร่ระบาดของ covid ในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นจากเลข 2 หลักเป็นเลข 3 หลัก วันนี้มีการแพร่ระบาดที่ตลาดบางแค ซึ่งเป็นที่ติดกับจังหวัดนครปฐม พ่อครูว่า…SMS วันที่ 11-13 มี.ค. 2564 _ธรรมธารทิพย์ วงษ์รักษ์ มาลิณี : ฟังท่านถักบุญทีไรก็สนุก กายะคือประโยชน์ที่ควรได้ก่อนอื่นของศาสนาพุทธ _Worakan Insee (วรกาน อินสี) · ขอถามพ่อครูโพธิรักษ์ ต่อจากเมื่อวันพุธได้ไหมครับ? พระสัมภวะ (ชื่อพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง) กับ สมณะสมชาติโก หมายถึงอะไร? แตกต่างกันอย่างไรครับ? พ่อครูว่า…ตอบ อาตมาไม่รู้จักพระสัมภวะ ส่วน สมชาติโก หมายถึงอะไร ถ้าถามคำแปล สัมภวะ คือเกิดภพ ส่วนสมชาติโก คือเกิดชาติ สัมภวะคือแดนเกิด สมชาติโก ก็คือเกิด สมณะผู้มีการเกิด ค่อยๆศึกษาไปสภาวะการเกิดการดับก็ศึกษาเข้าหาสภาวะ อย่าไปติดอยู่แค่พยัญชนะซึ่งจะน่าสงสารผู้ที่ติดในพยัญชนะมีเยอะมาก เยอะจริงๆ ศึกษาได้แต่พยัญชนะ ได้แต่ภาษา ได้แต่บัญญัติแล้วเอามาตีราคาเลี้ยงชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เก่งอะไรเก่งพยัญชนะบัญญัติภาษา แต่ไม่เข้าถึงสภาวะจิต อันนี้น่าสงสารจริงๆ สภาวะจิตจริงๆ แม้แต่คำว่า กายะ สักกะ สักกายะ สักกะคือตัวตน กายะคือรูปนาม กายะคือภาวะสอง ภายใน เป็นต้น กาย คำนี้เป็นคำต้นในศาสนาพุทธ ตั้งแต่กะ เป็นตัวแรกอายะ คือประโยชน์ กายะ คือสิ่งที่คุณได้รับเป็นตัวแรกเลยเป็นต้นตอของความรู้ทั้งหมด ถึงไม่ใช่ง่ายๆ แต่ต้องเข้าใจได้ ชาวอโศกเราพอเข้าใจได้บ้างแล้ว ข้างนอกขออภัย ยังหายากที่จะพ้นสักกายทิฏฐิ ที่เป็นข้อต้นของอาสวะ คำว่า กาย อาตมาอธิบายมาไม่รู้กี่ที ถ้าเผื่อว่าไม่เข้าใจคำว่ากาย แยกกายแยกจิตไม่ได้ไม่มีทางที่จะบรรลุอรหันต์ ฉะนั้นเบื้องต้นพระพุทธเจ้าจึงได้กำชับกำชับอุปัชฌาย์ทุกองค์ เมื่อบวชสมณะใหม่เสร็จเป็นองค์ภิกษุเสร็จก็ต้องรีบสอนเรื่องแยกกาย แยกจิตให้ฟัง โดยใช้กรรมฐาน 5 ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นแกน เป็นฐานในการที่จะอธิบาย แยกกายแยกจิต จากผมจากผมจากเล็บ จากฟัน จากหนังก็ได้ อาตมาถนัดที่จะอธิบายเล็บ ขนมันก็เล็กนิดเดียว ฟันมันก็ติดเนียนไปแข็ง เป็นผิวหนัง ถ้าถนัดตัวไหน เอาคำไหนมาอธิบายก็เหมือนกันหมดแหละ แยกกายแยกจิตจาก ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง วันนี้ยังไม่อธิบายขยายความตัวนี้ วันนี้ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องการเมืองประชาธิปไตย ก็ขอฝากไว้ก่อนโอฬาร _มุ่ง ตรงธรรม · น้อมหมอบกราบพ่อครู ครับ ลูกขอโอกาสเรียนสอบถามเพื่อครูครับ ลูกเป็นผู้มีปัญญาน้อย จึงขอกราบขอความเมตตาพ่อครูให้ความอนุเคราะห์ครับ คำถาม: จิตที่รู้ความจริงในสภาวะตามความเป็นจริง เมื่อจิตรู้การกระทบผัสสะ สภาวะสังขารรูปภายนอกที่ตากระทบเช่นไร อาการจิตก็จะเกิดรู้สึกเวทนาเท่านั้น สังขารภายนอกเช่นไรสังขารภายในที่รับรูปก็เท่านั้นใช่หรือไม่ครับ น้อมกราบสาธุครับ พ่อครูว่า…สังขารภายนอกเช่นไร สังขารภายในที่รับรูป มารู้ก็เท่านั้นใช่หรือไม่ ก็ใช่ มันต่อเนื่องมาให้นามธรรมคุณรับรู้ ก็ใช่ ตามจริงเป็นจริงคือหนึ่ง แต่ถ้าแยกเป็นสองคือ ความเป็นอีกอันหนึ่ง ต่างจากความเป็นจริงที่เป็นจริง หนึ่งเดียว เห็นไหมนี่แหละ มันก็สำคัญตรงนี้แหละศึกษาให้ดีๆ เท่าที่ฟังดูแล้วก็รู้สึกจะเข้าใจดีขึ้นไปเรื่อยๆแล้ว เป็นแต่เพียงว่าทำมาให้สำทับลงไปว่าที่พูดมานี้รู้นะแต่ยังไม่แน่ใจ อาตมาก็บอกไปว่าใช่แล้วนะ _แก้วลา ไชยวงค์ · เห็นนักการเมืองบริหารประเทศแต่งตั้งรัฐมนตรีแต่ละครั้งต้องตามโคต้า จะมีความรู้เหมาะสมหรือไม่ บ้านเมืองจะเสียหายไม่เป็นไร เศร้า พ่อครูว่า…คนที่ทำเพื่อสัจจะ เพื่อความเจริญของประเทศชาติ โดยไม่เห็นแก่หน้าใครเลยแข็งๆเลยไม่ต้องเอาแต่ใครเอาแต่สัจจะหนึ่งเดียว มันก็จะไม่มีใครช่วยมันจะเหลือน้อยมาก เพราะฉะนั้นการทำงานที่ต้องอาศัยคนประกอบได้เท่านี้เรามีคนที่ยังมีรุ่มร่ามอยู่ แต่มันมีเท่านี้จำกัดก็ต้องใช้ตามลำดับมาเรื่อยๆมันก็เป็นการพัฒนา ประชาธิปไตยไทยมันดีขึ้นเรื่อยๆ _คอยใคร · ดีใจมากครับที่ได้เห็นท่านเดินดิน ท่านดินไท ท่านแสนดิน มาร่วมสนทนาธรรมหาชมได้ไม่บ่อยครับ _สว่างแสงบุญ บุญสุข · กราบนมัสการท่านสมณะทุกท่านด้วยความเคารพค่ะกำลังรับชมอยู่ที่อุทยานฯเสียงดังฟังชัดดีใจที่ได้ฟังข่าวเรื่องสุขภาพของพ่อครูท่านปัจฉา อยู่ใกล้ชิดได้มาเปิดเผยความจริงให้ลูกๆที่อยู่ห่างไกลได้รับทราบบ้างแค่นี้ก็ชื่นใจแล้วค่ะและขอเป็นกำลังใจให้พ่อครูมีสุขภาพแข็งแรงอยู่กับลูกๆนานๆ _ตุ๊ก อัศวิน · มรณานุสติจากท่าน สขม ทองพราย ชาวหินฟ้า และ คนใกล้ตัว ทำให้ลูกเกิดความปริวิตกถึงความน่ากลัวของวัฎฏะ ‘เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย’ ดุจดัง หอกแหลมทิ่มแทงใจ เพราะทุกคนต้องอยู่ใน loop นี้ ยิ่งสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่ทรงทิ้งทุกสิ่งอย่างทางโลกเพื่อหาทางหลุดพ้นจากวัฏฏะ ซึ่งท่านทำสำเร็จและส่งผ่านความรู้แห่งการหลุดพ้นให้แก่มวลมนุษยชาติ ขอน้อมกราบ_/\_พ่อครู สมณ โพธิรัก ในเมตตาธรรมที่ท่านมาชำระความเห็นผิดให้เห็นถูกต้องตรงธรรมตามที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ..เพื่อต่ออายุพุทธศาสนาให้ถึง๕,๐๐๐ปีตามปณิธาน…สาาาาธุๆๆ เจ้าค่ะ… _สุทัศณีย์ วงษ์กิ่ง · กราบนมัสการท่านสมณะชาวอโศกวัดของคนอโศกชุมชนเหนือกว่าชุมชนชาวพุทธที่หลับตาหานิพพาน ว่าถูกตามที่พุทธเจ้าสอน มันก็ถูกเถียงกันเนืองๆมันจบยากเพราะคนจะพ้นทุกข์จริงมีน้อยคะ ยังไม่เคยได้เข้าไปอยู่ในชุมชนชาวอโศกอย่างจริงจัง แต่เท่าที่รู้ ง่ายๆชาวอโศกไม่ได้ถือศีลแบบขอไปที สมาทานศีลทีก็รับไปที รับบ่อยๆแล้วจะดี พอถึงอยู่กับสังคมต่างกันก็ไม่ทุกข์คะสาธุคะ _รักธรรม สรหงษ์ · คิดว่าควรให้พ่อท่านเทศน์เพียงแค่ชั่วโมงครึ่ง เพราะเสียงช่วงนี้ค่อนข้างแหบ ไม่สดใสเท่าที่ควร กราบนมัสการค่ะ _Kasem Lee (เกษม ลี) : ผมไม่คิดว่าพ่อครูแข็งแรงพอนะครับ ขอให้เพิ่มความระวังให้มากขึ้นอีกครับ ขอให้กำลังใจให้ทำให้ได้ครับ _PHALANGPHEN KHUMDOUNG (พลังเพ็ญ) : น้อมกราบนมัสการท่านสมณะทุกรูปค่ะ ฟังธรรมวันนี้ได้ทบทวนชีวิตของเรามากขึ้นว่าวันหนึ่งๆเราได้ทุ่มเทกับงานของพระโพธิสัตว์แค่ไหนเราจะจบกิจของเราแค่ไหนหรือแค่จบกรรมกิริยาของเราเมื่อเราจบชีวิตไป พ่อครูว่า…SMSของคุณเดชา อัมพร ส่งมาเยอะ ขอตัดออกสัก 1 เพราะมันเยิ่นเย้อ อาตมาสงสารคุณ เหมือนพวกคงแก่เรียน ส่วนมากจะเยอะๆแต่ไม่ได้เข้าหาสภาวะ ดูเข้าหาสภาวะตั้งแต่แยกกายแยกจิต เริ่มต้นตั้งแต่สักกายะ ปฏิบัติตั้งแต่ธรรมะสอนให้บรรลุทีละขั้นยังไม่ได้เลย ขอบอกอย่างนั้น เป็นความจริงใจนะที่พูดน่าสงสารจริงๆ ท่านจะเสียเวลาอย่างนี้นาน หากไม่ฟังอาตมาพูดจะไปอย่างนี้อีกนะ มันก็ภาคภูมิ มันก็สนุกได้เห็นความสำคัญก็จริงนะ แต่มันไม่เอา 2 ส่วน เอาสภาวะปัจจุบันได้มีมรรคผลมาปฏิบัติ ก็เอาแต่ความรู้ รู้มากยากนาน ศัพท์ง่ายๆ รู้มากยากนาน แล้วท่านก็จะยากไปเรื่อยๆนาน นานนี่เป็นล้านล้านปี ซึ่ง อาตมาพูดไปแล้วก็ไม่เชื่อกันง่ายๆหรอก ในขณะนี้มีอาตมาเป็นผู้ติงเตือน ในขณะที่ไม่มีอาตมาติงเตือน 2,500 กว่าปีที่ผ่านมามันยาก คิดดูสิมันจะหลงเลอะเท่าไหร่ _เดชา อำพร (2)(อโศกควรตอบคำถามเกี่ยวกับ”สม.ทองพราย”อย่างไร?) “สม.ทองพราย”มีโหงวเฮ้งที่ดีมาก มีใบหูที่ยาว หน้าผากกว้าง ความเชื่อของทางจีนมองว่าจะอายุยืน “สม.ทองพราย”มีสมองใหญ่ มองว่ามีความจำดี “สม.ทองพราย”มีหน้าตาที่ดี,สะสวย ถ้าไว้ผมยาวจะทัดเทียมกับคนสวยๆทางโลกได้เลย “สม.ทองพราย”พูดจาได้คล่องแคล่ว,ฉาดฉาน,มีไหวพริบ,ปฏิภาณในการตอบคำถามได้ไว “สม.ทองพราย”มีอัธยาศัยใจคอดี,ชอบทักทายผู้อื่นก่อนเสมอ “สม.ทองพราย”มีบุคลิกหน้าตาที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ เรียกว่า”หน้าตารับแขก” จะสามารถทำงาน”ประชาสัมพันธ์องค์กร”ได้ดีมาก “สม.ทองพราย”มีหน้าตาที่อ่อนกว่าวัยมาก ถ้าบอกอายุแค่30กว่าก็คงมีคนเชื่อ “สม.ทองพราย”มีความอดทนสูง สูงกว่าผู้หญิงทั่วๆไปมากๆ “สม.ทองพราย”เป็นผู้มีบารมีทางธรรมค่อนข้างสูงมาก มีความพร้อมทั้งรูปธรรมและนามธรรมในทางกามคุณและโลกธรรมในทางโลกอยู่มาก แต่ทำไมจึงเลือกที่จะมาเข้าสู่หนทางธรรม โดยเฉพาะเลือกที่จะมาอยู่ร่วมกับกลุ่มอโศก ซึ่งมีวิถีปฏิบัติธรรมที่ต้องฝึกฝนความอดทน,ลำบาก,ตรากตรำล้วนๆ รวมทั้งยังไม่มีผู้ที่จะมาเอาอกเอาใจในแบบโลกๆด้วย พ่อครูว่า…มิน่า คุณไม่กล้าเข้ามาหากลุ่มอโศก _เดชา อัมพร…(ต่อ) “สม.ทองพราย”ไม่เคยมีลักษณะของความเคร่งเครียดให้ใครๆได้เห็นเลย “สม.ทองพราย”มีลักษณะที่มีความศรัทธาต่อครูอาจารย์โดยเฉพาะต่อผู้นำอโศกที่สูงมากๆ เชื่อว่าสม.ทองพรายมี”ของเก่า”หรือ”ภูมิธรรมเดิม”อยู่ไม่ใช่น้อย แต่มีคำถามว่า ถ้า”สม.ทองพราย”ไม่มี”ความเครียด”ที่ต้องทำงานต่างๆให้เป็นที่พึงพอใจของ”องค์กรอโศก”จนต้องเก็บซ่อนความบกพร่องของระบบร่างกายตนเองเอาไว้ แล้วทำไม”สม.ทองพราย”จะต้องเป็นโรคร้ายแรงซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีใครพึงประสงค์…ด้วยเล่า? …ด้วยความเคารพครับ… พ่อครูว่า…ก็เป็นคำวินิจฉัยที่คุณว่ามาแล้ว คุณก็สรุปง่ายๆว่าถ้ามาอยู่กับชาวอโศกแล้วจะเป็นมะเร็ง ท่านทั้งหลายระวังมะเร็งจะกินหมดเลย ข้อสรุปของคุณเดชา อัมพร ก็สม.ทองพราย มีดีเยอะแยะเลย พวกคุณจะไม่เป็นมะเร็งหรือ.. สวยก็ไม่สวยเท่า อาตมาว่า คุณเดชา อัมพร นี่ มีปัญหายังไม่จบด้วยปัญญาก็จะต้องมี 2 แล้วก็จะจ้องถาม ปัญหาจะมี 2 ปัญญาคำนี้ไม่ใช่ปัญญาแต่จะเป็นปัญหา เป็นอย่างนี้อยู่ตลอดไปเป็น 2 จะต้องถามอยู่ร่ำไป เพราะฉะนั้นขอตอบให้ฟังนิดนึงว่า คนที่จบแล้วเขาจะหมดปัญหา คนที่จบแล้วเราจะหมดปัญหา เพราะว่าตัณหามันได้ดับไปแล้ว จะรับฟังถ่ายเดียวแต่คนที่ไม่จบปัญหาจะตั้งใจถามอย่างเดียว ฟังไว้คุณเดชา จะหาแง่มุมมาถาม พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า คนที่ยังไม่รู้จักจบนี้ สัจจะไม่มีหนึ่งเดียวจะมี 2 ไปตลอดกาล สัจจะมีหนึ่งเดียวแล้วตรงกัน ตรงที่เป็นพระอรหันต์มีที่จบก็รู้จบ ถ้ายังไม่จบจะมี 2 ไปทั้งนั้นคุณเดชาเอ๋ย เอาละพอแล้ว เมื่อย ทีนี้คำตอบที่ตอบแทนอาตมา _กูรู สู่แดนธรรม ..วิธีตรวจเช็คว่า เราทำงานด้วยปัญญาแบบอนัตตาหรือไม่ นักสรรสร้างผลงานโดยการคำนึงถึงอนัตตา จะมีหมู่กลุ่มกัลยาณมิตรมาอนุโมทนา … มิใช่ไปวิ่งเต้นชักจูงโฆษณา หาพรรคพวกเพื่อให้ได้เสียงข้างมากมา ถ้าอย่างนั้น มันคือการทำงานสนองอัตตา มิใช่ด้วยปัญญาและอนัตตา พ่อครูว่า…อาตมาเคยสรุปตรงนี้ว่า สุดยอดคือจบด้วยที่ ปัญญาและไม่มีตัวตน ผู้มีปัญญาและไม่มีตัวตนจะจบอะไรได้ทันทีเลย แต่ผู้ใดยังมีตัวตนโดยเฉพาะปัญญายังเป็นตัณหามันจะไม่จบง่ายๆ สู่แดนธรรม…พ่อท่านเคยให้โศลกธรรมว่า จงมีเพียงเจตนา แต่อย่าอยาก ผมเองว่าบางทีเราทำงานแค่เจตนา แต่เราไม่ได้ใส่ความอยาก หากรู้สึกว่ามันจะเป็นตัณหา แส่หาด้วยตัณหา ทำให้เราเบรคตัวเอง เจตนาเราก็เลยไม่บรรลุผลสำเร็จ พ่อครูว่า…คนต้องรู้จักกรอบของสิ่งที่เราวินิจฉัย ถ้ามีกรอบมีเหตุปัจจัยก็รวบรวมเหตุปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบนั้นให้แคบเข้า ถ้าคุณไม่รวบให้มันแคบเข้า มันก็จะกระจายไป มันจะเป็นปัญหาหรือมันจะเป็นตัณหาไปเรื่อย แต่ถ้าแคบเข้า มาเอาทีละคู่โดยเฉพาะ 2 อาตมาเคยพูดสรุปไว้ว่าเรียนรู้ทีละ 2 แล้วคุณจะได้ทีละ 1 เป็นตัวจบ ตัวจบที่เป็นหนึ่งจะเป็นหลักความรู้ที่เป็นแก่นแกนของคุณ มีอะไรมาอีกปั๊บ ยิ่งมากขึ้นแก่นแกนก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพวินิจฉัยได้เร็วขึ้น สู่แดนธรรม…เคยถามท่านเดินดินว่าทำงานอย่างไมมีภพ เป็นอย่างไร ท่านเดินดินสรุปว่า ทำอย่างสู่แดนธรรมทำคือทำงานที่ผู้อื่นให้ทำหรือทำงานที่หมู่กลุ่มให้ทำ พ่อครูว่า…จบที่มีปัญญาแล้วก็ไม่มีตัวตน เพราะข้างนอกนี่บางคนยึดถือทีละ 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ไปเรื่อยตามที่เขารวมไม่ลง จบไม่ลง สังเคราะห์สังขารพยายามรู้ให้มากจนกระทั่งมาหา 2 1 0 ไม่ได้ มันก็ไม่จบ สู่แดนธรรม..สรุปว่า ทำงานด้วยปัญญา จงอ่านอัตตา เป็นการสังวร พ่อครูว่า…ก็มาเข้าเนื้อเรื่องที่ตั้งใจจะพูด โดยเอากวีบทนี้มาก็แล้วกัน ประชาธิปไตยไทยมีหนึ่งเดียว ซึ่งประชาธิปไตยตาม Concept ของแต่ละสังคม โดยสรุปแล้ว เนื้อหาอาตมาจะค่อยๆขยายความถึงหัวใจถึงความเป็นประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ “หนึ่งเดียว”ในโลกคือประชาธิปไตยไทย ๑) ไทยเปลี่ยนระบอบใช้ “ประชา- ธิปไตย” แปดสิบเจ็ดปีมา ตราบนี้ การเมืองย่อมพัฒนา เจริญ“รูป- นาม”แฮ “พุทธศาสตร์”ชัดช่วยชี้ บ่งให้โลกเห็น (๒) เป็นศาสตร์รู้จบแจ้ง ทุกนัย ทั้ง“อัตตาธิปไตย” ชัดแท้ “โลกาธิปไตย”ไข ได้หมด สิ้นเฮย “อธิปไตย”จึ่งใช้แก้ “เทฺว”ได้โดย“ธรรม” (๓) รู้“กรรม”จึงชัดถ้วน “ธรรมะ” รู้“อำนาจ”โลกุตระ วิเศษไซร้ ทั้ง“โลก”ทั้ง“อัตตะ” ครบเทฺวะ “๒”รา จึง“สยบ”ด้วย“สงบ”ได้ เด่นด้าวโดยธรรม (๔) กำราบความชั่วร้าย สำเร็จ ด้วย“สัจจเทฺวะ”เสร็จ ถูกถ้วน “มวลชน”ร่วมกัน“เผด็จ- การ”จบ ลงแฮ “ทหาร”ช่วยระวังล้วน ถูกต้อง“เทฺวธรรม” (๕) กำจัดทรราชแล้ว โดยประชา ทหารจึ่งยื่นมือมา ต่อไม้ สืบทอดร่วมรักษา ระเบียบ ระบบ ใช่“เผด็จการทหาร”ได้ ชื่อผู้ลงมือ (๖) ซื่อบื้อกันสู่รู้ ดีนัก หลงเปลือกบ่รู้จัก แก่นแท้ ไทยประพฤติสิทธิศักดิ์ ตรงพุทธ- ศาสตร์เลย เป็น“รัฐประหาร”แก้ วิกฤติได้ประชาทำ (๗) สำเร็จ“พฤติภาพ”นี้ ของไทย ชื่อ“ประชาธิปไตย” วิศิษฏ์ชี้ ไทยปฏิบัติวิสุทธิ์ใจ ซึ่งสัมผัส ได้จริง ยืนหยัด“ไทย”ก่อนกี้ ตราบท้าวปัจจุบัน (๘) สำคัญต้อง“สัมผัส”ถ้วน จากไทย เป็น“ประชาธิปไตย” ต่างหล้า “ตัวอย่าง”สุดประเสริฐใน โลก“หนึ่ง- เดียว”เฮย เด่น“เดี่ยว”แกร่งเกินกล้า แก่นแท้“กายสักขี” “สไมย์ จำปาแพง” ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๒ [นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ ๓๕๐ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๖๒] หนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย ๑) ไทยเปลี่ยนระบอบใช้ “ประชา- ธิปไตย” แปดสิบเจ็ดปีมา ตราบนี้ การเมืองย่อมพัฒนา เจริญ“รูป- นาม”แฮ “พุทธศาสตร์”ชัดช่วยชี้ บ่งให้โลกเห็น พ่อครูว่า.. 87 ปี การเมืองไทยก็พัฒนามา เจริญด้วยรูปนาม เจริญมาตามหลักพุทธศาสนา ความรู้ของพุทธเจ้า ที่ช่วยชี้ให้เห็นความจริง ชี้บ่งให้โลกเห็น เราก็เห็นด้วย (๒) เป็นศาสตร์รู้จบแจ้ง ทุกนัย ทั้ง“อัตตาธิปไตย” ชัดแท้ “โลกาธิปไตย”ไข ได้หมด สิ้นเฮย “อธิปไตย”จึ่งใช้แก้ “เทฺว”ได้โดย“ธรรม” พ่อครูว่า…1 อัตตาธิปไตย ก็ชัด โลกาธิปไตยก็ไขได้ชัด เพราะฉะนั้นจึงมีความเป็นประชาธิปไตยแปลว่าพลัง แรง Great authority สามารถที่จะเอาไปใช้เพราะในโลกนี้สามารถแบ่งแยกเป็น 2 คือโลก กับอัตตา โลกคือรวมทั้งหมดมหาจักรวาลเอกภพ กับอัตตาคือตัวเรา รู้ทั้ง 2 ทิศ แล้วก็ศึกษาได้ความรู้เป็นธรรมาธิปไตย อธิปไตยเป็นธรรมะแก้สภาพ 2 ได้ เช่น โลกกับอัตตาเป็นสภาวะ 2 แล้วจะขยายความไปมากมาย จบสิ้นได้แท้จริง จะสรุปมาหาคู่คือ 2 ละเอียดเล็กนิดนึง คู่เล็กละเอียดที่สุดจะเห็นความต่าง แล้วเลือกเอาความต่างกัน อะไรเหนือกว่าอะไร อะไรเยี่ยมยอดกว่าอะไรได้ ซึ่งเลือก 1 จาก 2 ในคู่เล็กที่สุดนี้ ประสิทธิภาพของปัญญาจะมีมากครบครัน มากขึ้นก็จะเติมความรู้หลากหลายนัยยะ หลากหลายมุม หลากหลายมิติ หากหยาบขึ้นไปก็ยิ่งง่ายขึ้น สู่แดนธรรม..เป็นการทำส่วนตัวก่อนใช่ไหมครับ เพราะหากหลากหลาย จะไม่เหมือนกันแล้วจะเถียงกัน พ่อครูว่า…จะเอาหลากหลายมาเทียบกันไม่ได้ จะแย้งกันไปหมด เทียบกันเข้ามาจนถึงเราเป็นตัวตั้ง ปฏิภาณไหวพริบทุกอย่างความรู้ของเรามันก็จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพราะจะทั้งรู้เร็ว รู้ชัด รู้จริงด้วย ความรู้คืออำนาจพิเศษ ปัญญาคืออำนาจพิเศษ สามารถรู้โลก อัตตา ธรรมะ ทั้ง อธิปไตย อัตตาธิปไตย ธรรมาธิปไตย เป็นอธิปไตย 3 ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นสามเส้า cyclic อันนี้ยิ่งใหญ่ ธรรมะนี้กินรวมหมดเลย ความถูกต้องดีงามไม่มีผิดเพี้ยนไปหมดเลยธรรมะความหมาย เพราะฉะนั้นเมื่อมีอย่างนี้ จึงสามารถที่จะสยบทุกอย่างได้ ทุกแดนดินถิ่นที่สังคม แล้วสยบที่วิเศษคือสยบด้วยความสงบ ไม่เอาอำนาจบาตรใหญ่ ไม่เอาความรุนแรง ไม่เอาสิ่งที่เป็นโทษเป็นภัยสยบใคร สยบด้วยความสงบและในความสงบนั้นเป็นธรรมะ เป็นความดีงามความถูกต้อง ความชัดแท้ ความเป็นธรรม ซึ่งเขาถือว่าพระเจ้าเป็นผู้รู้หนึ่งเดียวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เขาไม่รู้ว่าอยู่ไหนเราไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน พระเจ้าอยู่ไหนก็ไม่รู้ มีคำสั่งมาเท่านั้นแล้วให้ปฏิบัติตามคำสั่ง พลิกแพลงอะไรก็ไม่ได้องค์ประกอบที่มีปัจจุบันทำซึ่งมันไม่เที่ยง มันมีเหตุปัจจัยแต่ละกลุ่มแต่ละที่มันก็ไม่เท่ากันเสมอทั้งนั้นเลย ทำกาละ เทศะ ฐานะ มันไม่ได้อยู่เท่าเทียมกันหมดเลย แต่ไม่คำนึงถึงเหตุปัจจัยพวกนี้ เป็นยากลางบ้านหนึ่งเดียวตามคำสั่ง เอาอย่างนั้นมาใช้เลยมันจึงเป็นความตายตัวที่ มันเป็นความไม่เที่ยงของสภาวะที่เอาองค์ประกอบในปัจจุบันนั้นเรียกว่า statusquo ที่มีรวมอยู่ในสิ่งที่มีในบัดนั้น อะไรที่ควรจะต้องให้นิ่ง ให้หยุด ให้อยู่ ให้สงบ ให้พอเป็นไปได้ ดีที่สุด ปัจจุบันนั้นสามารถรวมให้สงบ สมบูรณ์ ซึ่งแน่นอนว่ามันมี 2 อยู่จะต้องมีความต่าง มีความขัดแย้งกันพอเหมาะ ความสงบคือ การขัดแย้งอันพอเหมาะ เคยสรุปคำนี้ไว้ ซึ่ง สิ่งที่ประหลาดสุดก็คือ ความสงบไปสยบความรุนแรง ไปสยบความเลวร้ายได้ อันนี้เป็นมหาอัศจรรย์ที่สุด แล้วเราได้ปฏิบัติมาแล้วในเรื่องการเมืองนี่แหละ เราเอาความสงบของประชาชนมวลประชาชนไปปฏิบัติยืนยันเลย ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ ก็ยาวไปพอสมควร ใช้เวลาตั้งหลายปี กว่าจะถึงคราว พ.ศ.2557 พลเอกประยุทธ์มารับไม้จากประชาชน อาตมาเอง อาตมาจำตัวเองได้ว่า ออกไปร่วม ท่านจะเริ่มกันอยู่บ้างแล้ว แต่เราไปเริ่มต้นร่วมตั้งแต่ที่สนามหลวง พ.ศ. 2549 จบเกมจริงๆก็ พ.ศ.2557 ทั้งหมด 8 ปี ถือว่าจาก พ.ศ.2557 ถึงวันนี้ทั้งหมดกี่ปีแล้ว 7 ปี มาแล้ว พลเอกประยุทธ์ก็รับมาตั้งแต่ พ.ศ.2557 จนถึงบัดนี้ อาตมาก็เห็นดีเห็นงามว่าพลเอกประยุทธ์ถูกต้องเป็นผู้มารับไม้ได้อย่างถูกต้องแล้ว และทำงานมาเจริญดีขึ้น ตัวของพลเอกประยุทธ์ก็เจริญดีขึ้น แม้จะเหน็ดเหนื่อยขึ้นบ้างแต่ก็ใจสู้ ทำด้วยความเอาใจใส่จริง จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ก็ยังมีความเจริญอยู่ คนที่พยายามจะโค่นล้ม ซึ่งเขาก็ต้องพยายามเป็นธรรมชาติที่ต้องทำก็ไม่มีปัญหาอะไร มันก็เป็นการพิสูจน์สัจธรรม เพราะฉะนั้นเราได้มานี้มันเป็นการปฏิวัติหรือรัฐประหารโดยประชาชน อันนี้แหละจะยังเป็นเรื่องที่นักรัฐศาสตร์ของโลก แม้แต่ของไทยพูดไปเลย พลเอกประยุทธ์เองก็ยังไม่กล้าที่จะพูดว่า ตนเองไม่ใช่ผู้ปฏิวัติ ประชาชนต่างหากเป็นผู้ปฏิวัติ พลเอกประยุทธ์เองก็ยังไม่กล้าพูด ทั้งๆที่มันเป็น กึ่งๆ คาคออยู่ ว่า เอ๊.. หากเรายอมรับเป็นผู้เผด็จการเอากำลังทหารมาปฏิวัติ เข้ามาทำไมก็เพราะว่าประชาชนมีหลักฐานมัดไม้มัดมือเขาไว้ ไม่เช่นนั้นพลเอกประยุทธ์จะพูดไม่ได้ว่า ผมขอยึดอำนาจ จากนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล ก็มีหลักฐานทั้งภาพและเสียงยืนยัน แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะบอกว่าก็ไม่ได้ทำการใช้อำนาจบาตรใหญ่อะไรก็ใช้ ไม่ได้ใช้อำนาจกดดัน มีแต่ซึ่งตอนนั้นบอกว่าผมขอยึดอำนาจ ตอนนั้นเขาก็ไม่มีอำนาจแล้ว นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ก็ไม่มีหน้าที่อะไรแล้ว ไม่มีอำนาจแล้ว เป็นตุลาการภิวัฒน์ ตุลาการภิวัฒน์ ก็มีเหตุปัจจัยหนึ่งในการช่วยกัน ในสังคมไทย จะบอกว่าไม่ใช่ประชาชนไม่ได้ ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ แม้แต่ตัดสิน จนกระทั่งทักษิณไม่กล้าเข้าประเทศก็เป็นตุลาการ ตัดสินนอมินีสมัคร ก็เป็นตุลาการ แค่ประเด็นว่าไปทำผิดกฎหมายตามหลักกฎหมาย คุณก็ต้องออก ก็ต้องออกไปตามกฎหมาย ก็แค่ไปหาเงินเศษเล็กเศษน้อยจากโทรทัศน์ก็หลุดออกไป เขาก็ว่า ไม่เห็นเกี่ยวกับประชาชน แต่เพราะว่าเขาไม่รู้จัก relation ไม่รู้จักการปฏิสัมพันธ์ของสังคมทุกอย่าง มันก็พูดกันไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักอิทัปปัจจยตา ไม่รู้จัก relation relative สืบเนื่องกันปฏิสัมพันธ์กันต่อไป ต่างช่วยกันเป็นเหตุปัจจัยแก่กันและกันเข้าไปสู่จุดสำเร็จผล คนไม่เข้าใจ ก็งงๆ แม้แต่นอมีนีสมชาย ประชาชนก็ออกไปแล้วจนกระทั่งเข้าทำเนียบไม่ได้เลย ก็สำเร็จผลอีก ต่อมาเอาน้องสาวยิ่งลักษณ์มาก็สำเร็จอีก เขาพูดเองว่า ส่งเสาไฟฟ้ามาเลือกก็ต้องเลือก เขาพูดโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นนักปฏิบัติการเขามีอำนาจใหญ่กว่าประชาชนนะ ประชาชนอยู่ใต้อำนาจแม้เอาเสาไฟฟ้ามาให้เลือกก็เป็นนายก ภาษาก็ส่อให้เห็นว่า เป็นเผด็จการ เสาไฟฟ้ามันไปทำอะไรได้ พูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่สมกับภาษา ดร.อาชญวิทยาเลย พูดไปสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เขาก็ทำได้จริงๆแม้ที่สุดเป็นเผด็จการทางสภา ทั้งผัวและเมียมีอำนาจบาตรใหญ่เลย มันไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่สุดท้ายก็แพ้ประชาธิปไตยของประชาชน ซึ่งเป็นการใช้ความสงบขับไล่ความจริงความถูกต้อง ว่าคุณผิด คุณกบฏ คุณทำไม่ถูกต้อง มีอำนาจบาตรใหญ่ หลอกคนได้เก่งต่างๆนานา เขาก็มาเถียงไม่ได้ เพราะผู้มายืนยันเป็นประชาชน อย่าเอาความผิดความเลอะเทอะมาแข่งความจริงความถูกต้องไม่ได้เด็ดขาด สัจจะความจริงความถูกต้องจึงชนะความผิด ความเละเทะเลอะเทอะโง่เง่า ความเฉลียวฉลาดไม่ดี มันถึงชนะได้จริงๆนี่คือสัจธรรม เพราะฉะนั้นไม่ต้องใช้อำนาจบาตรใหญ่ ต้องใช้อาวุธเรี่ยวแรง แต่เอาสัจจะแท้ นี่เป็นประชาธิปไตยที่ 1 ของโลกที่ไทยใช้เป็นตัวอย่างเป็น Pioneer เป็นหัวเจาะ 1 แรกของโลกที่ทำได้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะมีมา แต่ว่านักรัฐศาสตร์ก็ยังงงว่า เอาความสงบ เอามือเปล่าไปปฏิวัติสู้กับอำนาจทหารมีดปืนระเบิด ความเห็นอื่นๆของเขา เขามาเห็นว่าอำนาจคุณค่าคุณงามความดี ความถูกต้อง ความประเสริฐของมนุษยชาติมันยิ่งใหญ่กว่าอำนาจเหล่านั้นแล้ว สมัยเจงกิสข่าน อเล็กซานเดอร์มหาราชอะไรพวกนี้ แม้แต่สมัยฮิตเลอร์ก็ตาม มันเอาอำนาจบาตรใหญ่ของอาวุธมาเอาชนะ เดี๋ยวนี้มันตกยุคหมดแล้ว ในยุคนี้เขารู้เขาเข้าใจกันหมดแล้ว ยังเหลือพวกตกยุคอย่างนั้นที่ยังหลงในอำนาจวัตถุ อำนาจบาตรใหญ่ เช่น อเมริกาแม้แต่รัสเซียหรือจีนก็พยายาม ไม่เอาเรื่องอาวุธเข้ามาข่มเหมือน กับเกาหลีนะ พยายามเอามวลประชาชนมานำเสนอ จริงๆแล้วยุคนี้ เข้าใจความเจริญ เข้าใจพฤติกรรมอันประเสริฐของสังคมมนุษยชาติมันคืออะไร ถ้ารู้ไม่เท่าทันก็ตกยุคเข้าใจไม่ได้ ก็จะไม่มะงุมมะงาหราอยู่อย่างนั้น แต่ถ้าเข้าใจได้นะ สำเร็จ อาตมายืนยันว่าสังคมไทยในเรื่องนี้ นำทุกประเทศ (๕) กำจัดทรราชแล้ว โดยประชา ทหารจึ่งยื่นมือมา ต่อไม้ สืบทอดร่วมรักษา ระเบียบ ระบบ ใช่“เผด็จการทหาร”ได้ ชื่อผู้ลงมือ นิมนต์จิบน้ำ สมณะเดินดิน…ประชาชนทำให้ อดีตนายก นอมินี อ่อนแอ เหมือนภูมิต้านทานต่ำ ก็เลยตายได้ง่าย ทั้ง สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ ประชาชนเป็นผู้ทำให้รัฐบาลหมดภูมิต้านทานหมดความชอบธรรม แต่เวลาคนพูดก็ไม่ได้ว่าตายเพราะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แต่บอกว่าตายเพราะอันอื่น พ่อครูว่า…ประชาชนปฏิวัติแล้วเป็นยังไง ประชาชนปฏิวัติแล้วไม่ปรากฏตัวหัวหน้าปฏิวัติเลย ไม่มีตัวตนเลย นี่แหละคือประชาธิปไตยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทำสำเร็จแล้ว เป็นอนัตตาเลย เป็นประชาธิปไตยที่ผู้เป็นหัวหน้าปฏิวัติในประชาชนนี้ไม่ได้ไปรับตำแหน่งเลย ไม่มีหัวหน้าปฏิวัติไปรับตำแหน่งเลย พลเอกประยุทธ์จะเป็นตัวแทนของประชาชนในตำแหน่งหัวหน้าคสช.ขณะนั้น เขามารับไม้ต่อประชาชนก็ไม่ปฏิวัติพลเอกประยุทธ์ แต่ส่งเสริมสนับสนุนเพราะเขาทำได้ดีเหมาะสมก็เป็นความเป็นประชาธิปไตยของประชาชนให้แก่พลเอกประยุทธ์อยู่อย่างเดิม จึงเป็นประชาธิปไตยที่สวยงามต่อเนื่องไปหมดเลย แต่อาตมาว่า พลเอกประยุทธ์มีสภาวะ 2 ที่เป็นสิริมหามายา และก็บอกว่าตัวเองไม่ได้ปฏิวัติประชาชนปฏิวัติเพราะตัวเองไม่ได้ไปร่วมชุมนุมกับประชาชน ก็ยังมีตำแหน่งหน้าที่ทำงานเป็นผบทบ. เป็นหัวหน้า คสช. ก็ดีแล้วล่ะที่ท่านไม่มา ถ้ากระทำเองแล้วเป็นหัวหน้าเองก็จะเหมือนมีตัวตน แต่นี้ไม่..เป็นแต่เพียงสิริมหามายาคำพูด 2 นัยยะ ตกลงประชาชนปฏิวัติหรือพลเอกประยุทธ์ปฏิวัติ ที่จริงแล้วประชาชนปฏิวัติ แล้วจริงๆผู้ที่รับสมอ้างเป็นผู้ปฏิวัติหัวหน้าปฏิวัติคือ สมอ้างพลเอกประยุทธ์ คำว่ารับสมอ้างหรือตัวแทนมาต่อไม้สืบทอดต่อและมาทำหน้าที่ เป็นผู้ดำเนินการเป็นนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ก็เคยพูดว่าแต่ก่อนผมเป็นทหารก็ใช่ แต่ตอนนี้ผมเป็นนายกรัฐมนตรีผมไม่ได้เป็นทหาร แต่ผมปลดตำแหน่งทหารออกจากตัวเองไม่ได้ ไม่บังควรด้วย ก็พูดหมดทุกอย่าง อาตมาขอยืนยันว่านี่ก็ได้พูดกันมาทั้งนั้น ความเป็นสิริมหามายาเป็นภาษาdialectic วิพากษ์วิภาษณ์ จะต้องเป็นเช่นนี้ ผู้ที่ยังไม่มีปัญญาพอจะแยกความเป็น 2 อย่างที่จะต้องรู้เอาหนึ่งให้ได้ จะเปลี่ยนแปลงไปเร็วกลับไปกลับมาก็เอาสาระที่เป็น 1 ได้ทุกมุมยิ่งกว่ายอดมหามายากล คำว่าสิริมหามายาจึงเป็นยอดมายาที่ไม่ใช่มายา แต่เป็นยอดมายาที่เป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่ทั้ง สิริ ทั้ง มหา แต่มันเป็นภาษาว่า มายา เป็นภาษา 2 สภาพ ที่ศาสนาพุทธตรัสรู้ สภาวะ 2 ที่ยิ่งใหญ่ แล้วจะเอา 1 มาใช้ให้ถูกกาละ เทศะ ฐานะมาได้เรื่อยๆ สู่แดนธรรม..หัวหน้าประชาชน เมื่อปฏิวัติเสร็จก็หายหัวไปจากตำแหน่งหน้าที่เลย พ่อครูว่า..ไม่มีหัวหน้าอยู่ที่ไหน ยกตัวอย่างง่ายๆ สุเทพ เทือกสุบรรณ เขาก็เฝดหายไป พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เขาก็เฝดหายไป พลตรีจำลอง ศรีเมือง เขาก็เฝดหายไป เอาทนายนกเขาก็เฝดหายไปหมด พลเอกประยุทธ์จะมารับไม้ต่อ ก็ไม่มีใครมาแข่ง ก็ให้พลเอกประยุทธ์ดำเนินไป และพลเอกประยุทธ์ก็ทำได้ดี ก็ส่งเสริมสนับสนุนกันจริงด้วย อย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วมันคือมวลประชาชนที่รวมกันจริงๆเลย ใช้เวลาเข้ามาทำเหมือนชีวิตสามัญ ชีวิตสามัญที่ทำสาธารณโภคี อยู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ประชาชนกินอยู่แล้วมารวมกันให้ปรากฏมวลประชาชน ใช้เวลาอันยาวนาน กาลเวลาพิสูจน์คนพิสูจน์อำนาจ แล้วก็ไข ความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ อะไรเป็นความจริง อะไรที่ถูกแท้ จนกระทั่งความผิดจะต้องยอม ไม่ยอมก็ต้องยอม เพราะให้เข้ามาก็ไม่กล้าเข้ามา เข้ามาเขาต้องมาติดคุกตามหลักกฎหมาย เขาใหญ่เกินไปที่จะต้องติดคุก มันเป็นชนักอีกเยอะ เดินเข้ามาจะต้องติดคุก แล้วเขาจะต้องมีตัวตนอยู่ตรงนี้จะต้องถูกว่าความอีกไม่รู้กี่คดี ซึ่งเขาตายในคุกแน่ อันนี้เขารู้ เพราะเขาเป็นด็อกเตอร์ทางอาชญวิทยาอยู่แล้ว เขาก็รู้ว่าเข้าไปมันตายเข้าไปให้โง่ทำไม เขาก็เลยไม่เข้ามาแน่นอน เขาใช้นอมินีใช้ตัวแทนเพื่อสร้างอำนาจให้ยิ่งใหญ่ แล้วจะได้เข้ามาอย่างเท่ๆตามที่เขาพูดมา นอมินีก็สู้ประชาชนทั้งหมดไม่ได้ ตอนนี้เขาก็คดีติดตัวหนี้สินพะรุงพะรัง มีหลักฐานให้ศึกษาหมดเลย ศึกษาดีๆแล้วจะเข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไร ประชาธิปไตยคือประชาชนเป็นตัวการ เป็นตัวมีพฤติภาพพฤติบทแท้ๆ ที่แสดงออกอย่างรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วก็มีพลัง ประชาชนเผด็จการทำให้การนี้สงบลงด้วยความสงบเรียบร้อยสุภาพ เอาความจริงเป็นหลักเป็นตัวตั้ง เอาความถูกต้องเป็นตัวตั้ง ไม่ได้มีความรุนแรง คือมันงามทุกมิติเลย อันนี้จะเป็นตัวอย่างของโลกคือหนึ่งเดียวของโลกอันคือ ประชาธิปไตยไทย (๖) ซื่อบื้อกันสู่รู้ ดีนัก หลงเปลือกบ่รู้จัก แก่นแท้ ไทยประพฤติสิทธิศักดิ์ ตรงพุทธ- ศาสตร์เลย เป็น“รัฐประหาร”แก้ วิกฤติได้ประชาทำ พ่อครูว่า..ประชาชนเป็นคนลงมือแก้วิกฤติ เป็นคนทำรัฐประหารเอง ผู้ไม่รู้แก่นแท้ประชาธิปไตย ก็เอาผิวเปลือกอะไรมายืนยัน แต่อันนี้คือแก่นแท้ประชาธิปไตยคือ ประชาชนโดยประชาชน เพื่อประชาชน รวมหมดเลย ถูกต้องหมดและทำรัฐประหารอย่างวิเศษที่สุด รัฐประหารที่สวยงามเลิศประเสริฐ (๗) สำเร็จ“พฤติภาพ”นี้ ของไทย ชื่อ“ประชาธิปไตย” วิศิษฏ์ชี้ ไทยปฏิบัติวิสุทธิ์ใจ ซึ่งสัมผัส ได้จริง ยืนหยัด“ไทย”ก่อนกี้ ตราบท้าวปัจจุบัน พ่อครูว่า..มีประเทศอื่นที่พยายามยัดเยียดตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง หรือเอาอำนาจมาบังคับ อันที่ไทยเราไม่เก่งในการสร้างอาวุธสร้างเครื่องกลรถยนต์รถถัง แต่จริงๆแล้วไทยไม่ต้องใช้อาวุธไม่ต้องใช้รถถังอะไรหรอก แต่ใช้ความดีงามถูกต้องของประชาชนตามประชาธิปไตยในประเทศไทย ไม่ได้ใช้รถถังอาวุธระเบิดมาทำร้ายประชาชน ไม่ต้องเอามาขู่เข็ญ เอาความถูกต้องเอาความดีงามเอาความประเสริฐมายืนยัน แล้วก็เรียบร้อยเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ต้องใช้อาวุธ ไม่ต้องใช้อำนาจบาตรใหญ่ ไม่ต้องใช้อำนาจเงิน นี่พูดยังไม่หมดนะ ความสุดยอดของประชาธิปไตยไทย (๘) สำคัญต้อง“สัมผัส”ถ้วน จากไทย เป็น“ประชาธิปไตย” ต่างหล้า “ตัวอย่าง”สุดประเสริฐใน โลก“หนึ่ง- เดียว”เฮย เด่น“เดี่ยว”แกร่งเกินกล้า แก่นแท้“กายสักขี” พ่อครูว่า…เพราะฉะนั้นหนึ่งเดียวในโลกคือประชาธิปไตยไทย อาตมาว่า นักรัฐศาสตร์ทั้งโลกจะต้องศึกษา ว่าประชาธิปไตยของไทยนี้มันเป็นประชาธิปไตยของพระพุทธเจ้า เป็นประชาธิปไตยโลกุตระ เป็นประชาธิปไตยที่ต้องสรุปคำศัพท์ต่างๆเป็นคำศัพท์โลกุตระของพระพุทธเจ้า เป็นประชาธิปไตยที่เป็นเรื่องของประชาชนจริงๆ แล้วมีพฤติการณ์ที่สุดประเสริฐสวยงามสมบูรณ์แบบ สงบ เอาสัจจะ เอาความจริง เอาความถูกต้อง มาเป็นตัวเชื้อตัวเนื้อตัวยืนยันว่า ดีที่สุดประเสริฐที่สุดวิเศษที่สุด แล้วยืนยันได้จริงๆเลย ทำสำเร็จแล้วด้วย ไม่ใช่รัฐบาลเดียว ไม่ใช่ครั้งเดียวและไม่ใช่เล่นๆ รัฐบาลของทักษิณ เขาเอาโลกีย์ ประมวลอำนาจทางโลกีย์ไว้เพียบพร้อม แม้กระทั่งทุกวันนี้ต่างประเทศยังไม่กล้าทำอะไรเขา ต่างประเทศก็ยังยินดีรับเขาไว้ตรงนั้นตรงนี้ ยังไม่กล้าทำอะไรเขา เพราะเขามีอำนาจบาตรใหญ่เท่าไหร่ ขณะนี้ต่างประเทศเป็นอำนาจบาตรใหญ่ส่งเสริมขนาดนั้น เขายังตีไข่แดงของไทยยังไม่ได้ ตีหัวใจของไทยไม่ได้ ทำลายทำร้ายหัวใจของไทยไม่ได้ เห็นไหมนี่คือสัจจะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สัจจะที่ประเสริฐสุด มันยังไม่จบเท่านี้ คุณลักษณะแท้ของความเป็นประชาธิปไตยไทย ยังจะขยายรูปลักษณ์ ยังจะขยายโฉมงามของความเป็นประชาธิปไตยไทยขึ้นมาอีก ไปได้เรื่อยๆโดยคนไทยมีความรู้ประชาธิปไตยไทยที่เป็นโลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ มีภูมิธรรมของศาสนาพุทธ ได้ทรงงาน เป็นประชาธิปไตยอันสมบูรณ์แบบ เป็นรูปธรรม ผ่านไป 70 ปี อจินไตยคำว่า 7 นี่ก็ยิ่งใหญ่ ไม่ขยายความต่อ ไม่มีเวลา สมบูรณ์แบบที่สุด ตามหน้าที่ของท่าน ท่านก็ทรงงานไว้ครบพอดีสมบูรณ์แบบ มีผู้รับช่วงต่อเนื่องไป อาตมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานหน้าที่นี้ หน้าที่ของประชาธิปไตย ซึ่งเป็นประชาธิปไตยที่คนยังเข้าใจไม่ได้ บอกว่า อย่าเอาธรรมะมายุ่งกับการเมือง อาตมาก็บอกว่าผู้ที่เข้าใจว่าอย่าเอาธรรมะมายุ่งกับการเมืองคือคนยังไกลความเจริญ ไกลความฉลาดมาก ยังห่างไกลความฉลาดมากที่บอกว่าอย่าเอาธรรมะมายุ่งกับการเมือง เพราะว่าการเมืองที่ไม่มีธรรมะนั้นมันไปไม่ได้หรอก การเมืองไม่มีธรรมะมันก็เหลวไหลเลวทราม แค่ความหมายง่ายๆว่า ธรรมะคือสิ่งที่ดีงามสิ่งประเสริฐ แล้วไม่เอาสิ่งดีงามเอาไว้กับการเมือง แต่เอาไปไว้กับสิ่งที่แย่ๆ สิ่งที่เลวร้ายชั่วร้ายอยู่ในการเมือง ความหมายแค่นี้คุณก็ยังแยกไม่ออก แล้วคุณก็จะตีทิ้งธรรมะไม่ให้อยู่กับการเมือง ขนาดคานธียังรู้เลย เป็นเทวนิยม ว่าจะต้องเอาธรรมะมาสถาปนาลงในการเมือง ถ้าไม่อย่างนั้นการเมืองก็ไปไม่รอด อย่างนี้เป็นต้น คนไทยท่านพุทธทาสก็พูด ถ้าการเมืองไม่มีธรรมะก็ชิบหาย ซึ่งมันเป็นความรู้ชัดพื้นๆตื้นๆไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร ถ้าหากพื้นฐานต้นยังไม่รู้ แล้วจะต่อบทต่อไปที่ลึกซึ้งละเอียดพิเศษกว่านั้น จะไปมีอะไรทำได้ สรุปแล้วประชาธิปไตยของไทย เป็นหนึ่งเดียวในโลก ที่จะต้องติดตามศึกษา ยังจะพูดไปอีกจนกว่าอาตมาจะตาย วันนี้ขอฝากไว้ก่อนโอฬาร สมณะเดินดิน สรุปจบ Categories: ธรรมะพ่อครู, ศาสนาBy Samanasandin14 มีนาคม 2021Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:?ที่เหลืออยู่คือรุ่นรอคิว มันอยู่ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ต้องตาย คิดอะไรมากเล่า?NextNext post:? จะคมลึกได้ ต้องฝึกมองตน ?Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024