640929_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ สภาวะของความจริง 6 ประการ
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/14yzsVU5gxdu6LfJualj0IKupBAnTkzo4dyOzxhQZNNI/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/11lf-ABAB9hwI6D_beb5cLksRnzUqA3ZB/view?usp=sharing
และดูวิดีโอได้ที่ https://fb.watch/8k6livRDwn/
สมณะฟ้าไท… วันนี้เป็นวันพุธที่ 29 กันยายน 2564 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 8 ค่ำ เดือน 10 ปีฉลู
ตอนนี้สถานการณ์ที่ต้องระวังนอกจากโควิดก็คือเรื่องน้ำท่วม เราออกอากาศผ่านดาวเทียม ทางกล่อง psi ได้ช่อง 237
พ่อครูว่า…สอง สาม นี่เป็น 7 ได้มากกว่า สอง สาม 6 นะ แล้ว สอง สาม เป็น 6 ก็ได้ สอง สาม เป็น 5 ก็ได้ ก็ถูกทั้งคู่ คนที่รู้ถูกทั้งคู่แล้วเป็นสิริมหามายา ok ทั้งสองอย่าง
สมณะฟ้าไท… ตอนนี้น้ำกำลังท่วม ระวังจมน้ำ
พ่อครูว่า… คนที่ตกน้ำตายส่วนใหญ่ว่ายน้ำเก่ง เพราะอวดดีกับน้ำ เราไม่รู้ตั้งเยอะแยะ บางทีมันดิ่งลงไปขึ้นไม่ได้เลยนะ เจอหมุนลงไปเลย ไม่กี่นาทีก็เสร็จ
สมณะฟ้าไท… คนที่อยุธยา ขับเรือเชี่ยวชาญ แต่เขาประมาทก็ตายเพราะเรือพลิกคว่ำ (เปิดคลิปเรือโยงคว่ำและจมน้ำไปเลย https://dai.ly/x84j00l) เป็นข้อคิดว่าอย่าประมาท
สถานการณ์โควิด ที่วารินฯก็ต้องอพยพกัน คนที่ไปอพยพร่วมกันก็ต้องระวัง covid ด้วย พวกเราไปที่อุทยานบุญนิยมก็ต้องระมัดระวัง ใครจะไปไหนก็ต้องระมัดระวังเป็นที่สุด เป็นภาวะที่ซ้อนกัน แม้แต่น้ำที่มาก็สกปรกมีสารเคมี ไปลุยน้ำมาก็ต้องล้างให้สะอาด
พ่อครูว่า… มีข่าวคราว …ชาวอโศกทั้งหลายฟังทางนี้
? ขอเชิญชาวชุมชน อาวาสสถาน บวร ทุกแห่งชาวอโศก ร่วมประชุม อปริหานิยธรรม ?
.
ทาง application zoom เนื่องด้วยพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ มีดำริจะให้สำรวจ บวร อาวาสสถาน ชุมชน ชาวอโศกว่ามีอยู่กี่แห่ง และมีคนอยู่กี่คน มีที่ดินของชาวอโศกอยู่ที่ไหนบ้าง ดำเนินกิจการกันเจริญหรือเสื่อมอย่างไรบ้าง โดยนัดประชุมใน วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 เวลา 14.00 น. ทาง application zoom มีลิงค์เข้าร่วมคือ https://us02web.zoom.us/j/8291358430?pwd=NGxTSEpaUHlVTFBWVHlpaEppb1kvUT09
หรือใส่ Meeting ID. : 829 135 8430
Password : 5swpV3
ให้แต่ละที่เตรียมเรื่อง ที่จะประชุมกัน คือ
-
มีสมาชิกอยู่ประจำในชุมชนกี่คน
-
ความเป็นอยู่ การปฏิบัติธรรมในชุมชนเป็นอย่างไร
-
มีที่ดินที่เป็นของส่วนกลางกี่ไร่ กี่ผืน (ที่ส่วนตัวไม่เกี่ยว)
(ส่วนใครจะยึดเป็นที่ของกูๆ ก็ตามแต่ สุดท้ายก็ต้องตายไปจากที่ดิน หรือจะเกิดมายึดเป็นของกูๆอีกก็แล้วแต่)
บวรชาวอโศก
-
บวรราชธานีอโศก ตั้งอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี
-
บวรสันติอโศก ตั้งอยู่ที่ กรุงเทพมหานคร
-
บวรศีรษะอโศก ตั้งอยู่ที่ จ.ศรีสะเกษ
-
บวรปฐมอโศก ตั้งอยู่ที่ จ.นครปฐม
-
บวรสีมาอโศก ตั้งอยู่ที่ จ.นครราชสีมา
-
บวรศาลีอโศก ตั้งอยู่ที่ จ.นครสวรรค์
-
บวรภูผาฟ้าน้ำ(ขณะนี้เป็นบวร ลานนาอโศก) ตั้งอยู่ที่ จ.เชียงใหม่
สังฆสถานชาวอโศก
สังฆสถานของชาวอโศกขณะนี้มี 1 สังฆสถานคือ สังฆสถานทะเลธรรม (เดิมมีสังฆสถานหินผาฟ้าน้ำ แต่ต่อมายุบจากสังฆสถานให้เป็นอาวาสสถานหินผาฟ้าน้ำ)
อาวาสสถานชาวอโศก
-
อาวาสสถานวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
-
อาวาสสถานวังจันท์พฤกษา จ.จันทบุรี
-
อาวาสสถานเมฆาอโศก จ.บุรีรัมย์
-
อาวาสสถานศรีโคตรบูรณ์อโศก จ.นครพนม
-
อาวาสสถานภูฟ้าผาธรรม จ.เชียงใหม่
-
อาวาสสถานดินหนองแดนเหนือ จ.อุดรธานี
-
อาวาสสถานหินผาฟ้าน้ำ จ.ชัยภูมิ
-
อาวาสสถานดอยรายปลายฟ้า จ.เชียงราย
-
อาวาสสถานเลไลย์อโศก จ.เลย
ธรรมสถาน
พ่อท่านยกให้ที่ ภูฟ้าผาธรรม จ.เชียงใหม่ เป็นแห่งเดียวที่ยกให้เป็น ธรรมสถาน
ชุมชนชาวอโศก
คือ ชุมชนย่อยๆเล็กๆที่มีชาวอโศกพักอาศัยในที่ดินส่วนกลาง แต่จำนวนคนไม่มาก… แต่เดิมอาจเป็นสถานที่ ที่คนชาวอโศกไปอยู่กันมากแต่ปัจจุบันก็ไม่ค่อยมีคนอยู่ เป็นต้น หรือเป็นที่ส่วนกลาง แต่ไม่มีคนชาวอโศกไปอยู่อาศัย….
เช่น ธรรมชาติอโศก ชเลขวัญ แก่นอโศก สุรินทร์อโศก เลไลย์อโศก สกลอโศก สวนส่างฝัน ฮอมบุญอโศก เพชรผาภูมิ เพื่อนช่วยเพื่อน ชเลขวัญ ธรรมราชอโศก บูรพาอโศก ละโว้ธานี และที่อื่นๆ เป็นต้น
เครือข่ายแพทย์วิถีธรรม หมอเขียว(ดร.ใจเพชร) …ดอยแพงค่า สวนป่านาบุญหลายแห่ง (ยังไม่ได้รวบรวม)
เชิญตัวแทนและผู้สนใจ ทั้งฆราวาสและนักบวช เข้าร่วมประชุมอปริหานิยธรรม สำรวจชุมชนชาวอโศกกับพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ เพื่อเป็นโพธิบูชา…
(รบกวนทางแม่ข่ายประสานงานให้ชุมชนย่อยๆเข้ารวมประชุมกันด้วย)
พ่อครูว่า…
SMS วันที่ 24-26 ก.ย. 2564
_พลอยแผ้ว ชาวหินฟ้า : ขอกราบนมัสการพ่อครูมาด้วยความเคารพค่ะ ดิฉันได้สังเกตเห็นภูมิทัศน์ของบ้านราชขณะที่ถ่ายโดรนว่ามีรูปเดียวกันระหว่างเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา, เกาะรัตนโกสินทร์และเกาะรัตนราชธานีนั้น ดิฉันขอกราบเรียนถามพ่อครูว่าภูมิทัศน์รูปนี้มีประโยชน์อย่างไร? ด้านความเป็นชัยภูมิคะ
พ่อครูว่า… เราก็พยายามทำเป็นเสนาสนะสัปปายะ
การเอารายได้จากการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างชาติ อย่าหาทำ
_สุทัศน์ สุพัทธานนท์ : กฏหมายขายแผ่นดินขายชาติไม่ควรให้เกิด ต่างชาติจะเข้ามาปั่นราคาที่ดินกว้านซื้อเป็นของต่างชาติ และนายทุนนี้คือขายชาติขายแผ่นดินของจริง
พ่อครูว่า… กฎหมายใหม่ไม่ให้ชาวต่างชาติมาซื้อที่ดินได้ อาตมาเคยบอกไว้ว่า
-
อย่าไปยินดีกับรายได้การท่องเที่ยว เพราะว่า นักท่องเที่ยวคือนักท่องเที่ยว คือผู้ที่เอาขยะมาทิ้งไว้ในบ้านเรา ขยะวัตถุก็ตาม อย่านึกว่าธนบัตรเงินทองวัตถุที่นำมาเป็นของได้ที่จริงมันคือขยะทั้งนั้น มันไม่น่าภาคภูมิใจที่ได้รายได้จากนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองไทย ต้อนรับเขาเท่าที่จะต้อนรับกันได้ มีน้ำให้ดื่มมีข้าวให้กินฟรี เชิญ มีโอกาสพาชมพาอยู่ อย่างนี้สิ เป็นการต้อนรับขับสู้ที่ดี รับรองได้จิตใจคนยืนนานตลอดกาล เอาเขาเป็นตัวที่จะต้องได้เงินมากๆ จากนักท่องเที่ยว ดีไม่ดีเอาเงินจากการท่องเที่ยวเลี้ยงประเทศ มันสิ้นไร้ไม้ตอกอย่างนั้นเชียวหรือ
อาตมาพูดมาไม่รู้กี่ทีแล้วว่าอย่าไปยินดีกับรายได้จากนักท่องเที่ยว เราต้อนรับขับสู้แขกมาสู่เมือง มาสู่บ้านช่องเรือนชานก็ต้อนรับเขาให้ดี ให้เขากลับไปบ้านเมืองเขา ถ้าเขาไม่กลับไปจะอยู่ในเมืองไทยเป็นพลเมืองดีตามกฎหมายได้ก็ดีเป็นการเพิ่มพลเมือง เปลี่ยนสัญชาติได้ หากไม่เปลี่ยนสัญชาติเขาก็มีกฎหมายอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร
-
อย่าให้ชาวต่างประเทศมาลงทุนในแผ่นดินไทย ไม่ใช่ถึงขนาดขายแผ่นดิน แค่มาลงทุนในเมืองไทยก็อย่า เพราะผู้มาลงทุนในประเทศไทยเขาก็จะมาใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ขุดทรัพย์สิน ผลประโยชน์เอาไปให้ประเทศเขาและเขาก็เอาขยะมาทิ้งในประเทศไทย เช่น เขามาซื้อแผ่นดินนี้เพราะว่ามีแร่ทองคำ เขาก็เอาแร่ทองคำไปแล้วก็เหลือเศษกระดาษเป็นขยะไว้ ซึ่งเขาจะทำให้ขาดทุนไหม เขาก็ไม่มีการทำให้ขาดทุนหรอก
เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดเสียเวลา คุณจะมาอยู่ประเทศไทยก็อยู่ไปสิ ประเทศไทยก็มีพื้นดินเหมือนเดิม ดีไม่ดี จะเพิ่มไปอีก ถ้าเป็นการเพิ่มโดยสัจธรรมก็เพิ่มไป ไม่เพิ่มก็อย่าให้ใครมาหาเรื่อง จะมาซื้อมาจองอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ดีทั้งนั้นไม่ได้ทั้งนั้น มันสิ้นไร้ไม้ตอกถึงขนาดจะขายแผ่นดินกินแล้วหรือ ถ้ายังไม่สิ้นไร้ไม้ตอกถึงขนาดขายแผ่นดิน ก็อย่าไปทำ
_อัมพร กุลศักดิ์ศิริ : วัดพระบาทน้ำพุ ดูไปแล้วเหมือนเอาคนป่วยมาทำธุระกิจ.ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ครับ
พ่อครูว่า… อาตมาก็ตอบแบบภาคเสธ จะไปรับรองหรือจะไปปฏิเสธก็ไม่ควร เพราะท่านกระทำอย่างเสียสละนะ มันไม่มีใครจะเอาภาระท่านก็เอาภาระ แต่มันเป็นภาระมากมันหนัก ดูๆแล้วท่านก็ไม่มีคอรัปชั่นอะไรเลย แต่มันไม่พอ ก็เห็นใจ รัฐบาลก็ช่วยหรือไม่ก็ไม่รู้ ก็พูดไป ใครที่มีน้ำหนักควรจะช่วยก็ช่วยกัน
ทำไมตำหนิพวกนั่งหลับตามากกว่าตำหนิพวกเดรัจฉานวิชชา
_นพพล จรัสวิกรัยกุล : โดยเจตนาต้นที่แท้จริง การทำทานของคนทั่วไป เจตนาเพื่อจะได้เอามา ไม่ได้ตั้งเจตนาว่าจะให้ ตั้งแต่ต้น “การเอาที่อาศัยการให้เป็นเครื่องมือ”
ความคิดส่วนตัวผมนะครับพ่อท่านผิดถูกขออภัยครับ ช่วงที่พ่อท่านไม่อยู่แล้ว ทางศาสนจักรของประเทศไทยคงจะเลวร้ายลงอีกมากๆ แต่ไม่แน่’มวล’ของชาวอโศกอาจเพิ่มขึ้นเยอะก็ได้นะครับ เพราะตอนนั้นไม่มีพ่อท่านคอยด่าชาวพุทธอื่นๆแล้วน่ะสิครับ
พ่อครูว่า…ทางโลกุตระไม่ขึ้นกับลาภยศสรรเสริญโลกียสุข มันอยู่เหนือ มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามพุทธพจน์ 7 จริงๆ เกิดมนุษย์วรรณะ 9 จริงๆ เป็นสาราณียธรรม 6 พวกเราพิสูจน์แล้วทั้งนั้น แล้วยืนยันตามหลักการนี้ของพระพุทธเจ้า อาตมาภูมิใจที่เอาธรรมะพระพุทธเจ้ามาให้พวกเราศึกษากัน แล้วเข้าใจทำได้ จนเกิดเป็นความจริง จนเป็นปรากฏการณ์จริง ฟีโนมีนา มีหลายชุมชนอย่างแท้จริง ยืนยันความจริง ทำได้สำเร็จดังนี้
อาตมาตายไปแล้วพวกคุณจะยอมหรือ จะยอมหรือไม่ยอมก็อยู่ที่คุณธรรมของแต่ละคน ทั้งสมณะ และองค์ประกอบทั้งหมดรวมกัน มีคุณค่าเพียงพอ
อาตมาคนเดียว จริง อาจจะเป็นหัวยอด แต่ละหลายๆคนรวมกันก็รวมเป็นหัวยอดได้ ดีกว่าหัวยอดก็ได้ เพราะอาตมาไม่ได้เป็นคนยอดสุดเหมือนพระพุทธเจ้า ใช่ไหม เพราะฉะนั้นดีกว่าได้ รวมกันแล้วแต่ละคนก็ดีกว่าอาตมาคนเดียวได้ เอา พยายามกันก็แล้วกัน
อาตมาตำหนิเขามากๆนี่แหละ มันเป็นสัจธรรมที่อาตมาไม่ได้ตำหนิให้เสื่อมต่ำเลวลงแต่อย่างใด เช่น ตำหนิผู้ที่นั่งหลับตาเป็นต้น หรือตำหนิผู้ที่ไปอยู่ในเดรัจฉานวิชา ที่จริงน่าจะตำหนิพวกเดรัจฉานวิชาแรงกว่าพวกไปนั่งหลับตา แต่อาตมาตำหนิพวกนั่งหลับตามากกว่าตำหนิพวกเดรัจฉานวิชา เพราะอะไร
เพราะเดรัจฉานวิชา ถ้าตำหนิมากๆ พวกที่ติดเดรัจฉานวิชาอยู่จะขึ้น ขึ้นแล้วอาตมาอยู่ไม่รอดเลย เพราะคนที่ไปติดในเดรัจฉานวิชาเป็นพวกต่ำ เพราะฉะนั้นอย่าไปยั่ว อย่าไปยั่วสิงสาราสัตว์ อย่าไปยั่วเดรัจฉาน อย่าไปยั่ว
ฉะนั้นอาตมาจึงพูดกับคนปฏิบัติธรรม จึงตีนั่งหลับตาให้หนัก เพราะนั่งหลับตาไม่เชื่อเรื่องเดรัจฉาน ก็ไปนั่งหลับตามันผิดธรรมะพระพุทธเจ้า มันไม่มีวันจะพัฒนา ไม่มีวันจะบรรลุธรรมศาสนาพุทธเลย อาตมาพูดจนหมดจนสิ้นแล้ว ก็ยังฟังไม่กระดิกหู อาตมาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องปล่อยไป แทงด้วยหอกร้อยเล่ม เช้ากลางวันเย็น หอกหักหมด ก็ต้องปล่อยเขาไปอย่างนั้น เพราะมันแทงไม่เข้าก็ต้องปล่อยไป แต่ใครที่รู้สึกว่าถูกแทงก็พิจารณาให้ดีว่า เฮ้ย คนเขาเตือนเราด้วยดีนะนี่ หอกที่ทิ่มแทงเรา คอยเตือนเราให้พิจารณาให้ดี แล้วเลิกซะ
ถ้าเมืองไทยตื่นรู้ตรงนี้เท่านั้น ตื่นรู้จากหลับตาปฏิบัติ มาลืมตาทำจรณะ 15 วิชชา 8 เท่านั้นแหละ รับรองว่าเมืองไทยจะเจริญนำหน้าโลกเข้าไปอีกลิ่วๆๆเลย ตอนนี้ประเทศอื่นๆกำลังหาทางธรรมะ คุณธรรม และที่เป็นโลกุตระธรรมที่สุดยอด เท่านั้นแหละขอยืนยันเลย
เพราะฉะนั้นขณะที่อาตมายังไม่ตายนะมันจะพูดเรื่องนี้ย้ำซ้ำหนัก เพราะเป็นทางออกทางรอด เหมือนพระพุทธเจ้าไปโปรดชฎิล เหมือนกันเลย ชฎิลสามพี่น้อง แต่นี่ชฎิลร้อยพี่น้อง
เพราะฉะนั้นถ้าตื่นเสียได้นี้ โอ้โห รับรองเลยกอบกู้ขึ้นมาเป็นกอบเป็นกำ เข้ามาศึกษาจรณะ 15 วิชชา 8 เจริญลิ่วเลย ถ้าไปจมอยู่อย่างนั้นจะจมกับความมืดๆๆและมืดตลอดไป เป็นสุภกิอณหา กับเป็นอาภัสราด้วย เหมือนอย่างธัมมชโยก็หลับตาเหมือนกัน หลับตาสร้างนิรมาณกายหลอกโลกเขาเต็มโลก ซึ่งมันไม่จริงทั้งนั้นนะ ธัมมชโยก็ไม่จริง ทางสายหลับตาก็ไม่จริง ไปสอนเทวดาเยอรมันสอนเทวดาในภพ เพ้อเจ้อจริงๆ
ก็เตือนก็พูดอยู่อย่างนี้ หลักฐานในพระไตรปิฎกก็เอามายืนยันหมดก็ฟังไม่ขึ้น ปฏิบัติจริง ซึ่งยืนยันจริง เห็นกันอยู่หลัดๆว่าลืมตามันเป็นอย่างนี้จริงๆ ยืนยันเป็นวรรณะ 9 เป็นสาราณียธรรม 6 จิตเกิด พุทธพจน์ 7 อะไรอย่างนี้ ก็ไม่ได้พูดเอาเอง ได้มีหลักฐานตามพระพุทธเจ้าทั้งนั้น ศึกษาดีๆ อย่าอคติกับอาตมาเลย
งามดีมาก…พ่อท่านต้องแต่งเพลงตื่นเถิดชาวพุทธ
พ่อครูว่า… ไม่มีน้ำยาจะแต่งเพลงแล้วตอนนี้มันหมดปัญญาจริงๆ เพลงสมรรถภาพ เป็นเพลงสุดท้ายที่อาตมาแต่ง ตอนนี้มันคงไม่มีน้ำยาจะแต่งเพลงอะไรอีกแล้ว เอาเวลาแรงงานทั้งหมดมาบรรยายธรรมะนี่ก็ นอนแล้วนอนอีก พักแล้วพักอีก วันๆนอน วันหนึ่งไม่รู้กี่ชั่วโมงนอนพัก ทำงานอะไรบ้างก็ไม่เท่าไหร่ พัฒนาอยู่ว่า จะมีพลังงานสัมประสิทธิ์ ที่จะมาช่วย Stimulate ให้มีพลังปฏิภาคทวี ในทางอุปจยะให้มากๆขึ้น ลักษณะทำสุด อุปจยะ สันตติ ชรตา มันจะเอียงไปหาชรตาไปอยู่เรื่อย ก็พยายามเพิ่มให้มันไปทาง อุปจยะ เกิด อย่าเพิ่งตาย อย่าให้ชรตาเป็นบวก ให้อุปจยะเป็นบวก ไม่ต้องถึงขนาดขั้นคูณหรอก ก็พยายามอยู่ อาตมารู้พูดความจริงมา ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็พิสูจน์กันไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าอายุขัยอาตมาประมาณ 72 ตอนนี้ไป 88 แล้ว ถ้าไป 96 ก็อีกรวมเป็น 12 นักษัตร อย่างนั้นถ้าอาตมาเฟรชชี่ขึ้น ซุปเปอร์มอร์ จูเนียร์ เข้าไปหาซีเนียร์ลิ่วเลย
สู่แดนธรรม… ผมมีความเห็นต่างจากคุณนพพร ที่เขาว่า คาดว่าถ้าพ่อท่านหยุดด่าแล้วชาวอโศกจะมีมวลเพิ่มขึ้น ผมว่าไม่ใช่ครับ อโศกเราไม่ได้ขยายสมาชิกด้วยการพูดชมพูดหว่านล้อม อโศกเราถ้าเกิดขึ้นจริงตามธรรม โดยที่เขาต้องเลิกลดละมีศีลมาจริงๆ
พ่อครูว่า… ถูกต้อง พระพุทธเจ้าตรัสยืนยันว่า สรรเสริญไม่มีค่าอะไรแม้แต่แค่ จะพาให้เกิดบรรลุธรรมอะไรเลย มีแต่การตำหนิเท่านั้นถึงเป็นประโยชน์ เราจะตำหนิแล้วตำหนิอีกไม่มีหยุด อานนท์ ผู้มีมรรคผลย่อมทนอยู่ได้ ผู้ไม่มีมรรคผลทนอยู่ไม่ได้
เพราะฉะนั้นจะเป็นการคัดเลือกเป็นการ Selection คัดเลือกมาจริงๆ เราไม่ได้ต้องการที่จะเพิ่มมวลอย่างเป็นเอาการเพิ่มมวลเป็นหลัก แต่เราต้องการผู้ที่จะละหน่ายคลาย เราต้องการคนที่จะมาบรรลุธรรมที่แท้จริง จะชี้โทษแล้วชี้โทษอีกไม่มีหยุด ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสารผู้นั้นจักทนอยู่ได้ นี่คือ ลักษณะธรรมะพระพุทธเจ้ายืนยันได้เลยอย่างนี้ พระไตรปิฎกเล่ม 14 ข้อ 350 คำสรรเสริญเป็นคำอันต่ำทรามด้วย
ความเศร้าเกิดจากความโง่
_สว่างแสง ขวัญดาว : พ่อครูคะ พอตกตอนเย็นในแต่ก่อนนี้ลูกจะมีอาการเศร้าๆ ปัจจุบันแม้อาการจะลดลง ลูกก็ยังเศร้าๆค่ะ ลูกอยากถามพ่อครูว่า ความเศร้าเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไรคะ น้อมกราบพ่อครูด้วยเศียรเกล้าค่ะ
พ่อครูว่า… ความเศร้าเกิดจากความโง่ ก็รู้สิว่าจะไปโง่อยู่ทำไม อาการใจที่มันโศกเศร้ากับใจที่สดใสเบิกบานร่าเริง เป็น 2 อาการ คุณก็ทำอาการใจให้มันแจ่มใสเบิกบาน คุณไม่มีปฏิภาณรู้หรือว่า การทำใจแจ่มใสเบิกบานมันดูดีกว่าการทำใจให้เศร้าๆ คุณนะเป็นเจ้าของใจ หรือคุณจะให้พระเจ้าเป็นเจ้าของใจ หรือจะให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นเจ้าของใจ ไม่ใช่ คุณเองเป็นเจ้าของใจ คือใครเอ่ยเป็นเจ้าของใจคุณอยู่ ล้วงความลับหน่อยซิ
สู่แดนธรรม… ว่าแขกจร
พ่อครูว่า…ใครหว่า แขกจร ค้นให้เจอ ไล่ออกไปเลย อย่าให้มาเป็นนายเรา ทำให้เราเศร้าไม่เบิกบานร่าเริง ไล่เลย ไป อย่าเอาไว้ ชะ บังอาจ คุณต้องเป็นใหญ่ในใจของคุณ ให้คนไหนมามีอำนาจเหนือใจคุณได้อย่างไร พระพุทธเจ้ามีอำนาจเหนือกว่าก็ให้เอาเนื้อหาแท้ของพระพุทธเจ้าเอามาใช้ก็แล้วกัน แล้วคนอื่นจะมีสิทธิ์มาอยู่เหนือใจเราได้อย่างไร เอาให้ดีๆ
_สตาร์แอร์ ทุ่งคอก : พี่แป้ง เป็นปุจฉาที่ฉลาดครับ พ่อท่านวิสัชนาเยื่ยมยอด ขอบคุณครับ กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพรักครับ ยุคนี้ไม่มีใครพาผู้คนพ้นทุกข์เท่านี้เเล้วครับ
พ่อครูว่า… คุณรู้แล้วก็ค่อยๆบอกคนอื่นไปอย่าบอกดังมาก ให้บอกไปตามลำดับบอก ดังมากเดี๋ยวตกใจ
แก้ทุกข์ต้องแก้ที่เหตุคือตัณหาอุปาทาน
_เอก : คือว่า “เมื่อจับอาการทุกข์ได้แล้ว ควรจะทำอย่างไรเป็นลำดับก่อนหลังต่อไปครับ” โดยมีรายละเอียดดังนี้
1) หากจะกล่าวว่า “ทุกอาการทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจ คือ วิบากที่เราต้องรับ” การกล่าวเช่นนี้ ถูกต้องแค่ไหนครับ? ความหมายก็คือ เราทำอะไรกับอาการทุกข์นั้น ไม่ค่อยได้มากนัก นอกจากรับรู้ไปจนกว่าจะหมดวิบาก หรืออย่างมาก เราก็พยายามทำใจในใจเท่าที่เราจะมีบารมีทำได้
พ่อครูว่า… คุณโง่เองให้ทุกข์มันเกิดเป็นวิบาก 2 คุณก็แก้ไข คุณจะให้เป็นอย่างนั้นตลอดไปได้อย่างไรคุณก็ต้องแก้ไขให้มันแจ่มใส จะให้มันทุกข์ทรมานอยู่ทำไม พระพุทธเจ้าสอนให้ดูเหตุแห่งทุกข์ ซึ่งเป็นนามธรรม เราไปยึดถืออะไรอยู่ อยากจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ ยึดถืออย่างนั้นอย่างนี้อยู่ มีตัณหาอุปาทานเป็นตัวเหตุใหญ่ ก็แก้ไขอยู่ อย่าไปอยากทำ อยากมันมีประโยชน์อะไร อยากเป็นสุขเป็นต้น มันก็ต้องมีคู่เป็นทุกข์มันก็ออกมา ไม่ต้องอยากให้เฉยๆกลางๆ รู้ความจริงตามความเป็นจริงให้ได้ อย่างนี้เป็นต้น
หรือจะยึดถืออยู่ทำไม ก็ต้องปล่อยวาง สัมผัสอะไรแล้วก็รู้ว่าอันนี้คืออันนี้ มีประโยชน์มีเหตุปัจจัยที่จะทำร่วมกัน ในกาละนี้อย่างสมควรขนาดนี้ แม้ว่าจะเมื่อยหน่อยก็ช่วยกันทำ ถ้าดี ถ้าเป็นประโยชน์จริงๆก็ทำไป แล้วก็พัก รู้จักพักรู้จักเพียร นี่เราสอนกันอธิบายกัน และพากันทำอยู่ มาสิมาเข้าอยู่กับหมู่นะ
2) ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนให้จัดการกับอาการทุกข์ ด้วยการให้ดึงศรออกก่อน ไม่ใช่ไปตามหาเหตุว่า ศรมาจากทิศใดนั้น ผมเข้าใจดังต่อไปนี้ถูกต้องแค่ไหนครับ คือว่า ถ้าจะอธิบายโดยทฤษฎีแล้ว หลังจากจับอาการทุกข์ได้แล้ว ก็ให้ “รู้ทุกข์” (หรือตามที่พ่อครูเทศน์ไว้ว่า “ทุกข์ต้องรู้ สมุหทัยต้องละ”) แต่ยังไม่ต้องไปหาสาเหตุแห่งทุกข์ หรืออ่านเจตนาในเวทนาเสียทีเดียว ให้ทำใจในใจเพื่อสลัดอาการทุกข์นั้นออกไปก่อน
พ่อครูว่า… ใช่ เอาลูกศรคือทุกข์ออกก่อน คุณเข้าใจแล้วละไว้ในฐานที่เข้าใจ ถอนศรออกเลย ได้
3)จะสลัดอาการทุกข์อย่างไร ไม่ให้เป็นการกดข่มครับ? เมื่อปรับใจไม่ให้ทุกข์ได้แล้ว ก็ค่อยระลึกย้อนถึงสาเหตุแห่งทุกข์ หรือย้อนอ่านเจตนาในเวทนา แต่ในความเป็นจริงนั้น ในเมื่อจิตของเราเกิดดับอยู่ตลอดเวลา หรือกาละก็ดำเนินไปอยู่ตลอด ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว เราจะหาสาเหตุแห่งทุกข์ก่อน หรือจะปรับใจไม่ให้ทุกข์ก่อน อะไรจะเกิดขึ้นก่อนหลัง ก็ไม่ต้องไปซีเรียสกับมัน เพราะอาจจะเกิดทั้งสองแบบสลับกันไปมา
ผมเข้าใจแบบนี้ ถูกต้องไหมครับ? พ่อครูช่วยแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ
พ่อครูว่า… คุณมีความสามารถทำอย่างไรได้ก็ทำก่อน อะไรมีประสิทธิภาพมากเอาอันนั้น จะดับก่อนหรือจะรู้ก่อน
จริงๆแล้วรู้นี้มันชัดกว่าดับ การดับมันเป็นสมถะ การรู้มันเป็นวิปัสสนา
เพราะว่าคุณยังไม่แม่น ถ้าหากแม่นแล้ววิปัสสนาจะมีสิทธิภาพเหนือกว่าสมถะ ถ้ารู้ชัดเจนถ้วนรอบมันจบเลย ปัญญาวิมุติมันเหนือชั้นกว่าสัทธาวิมุติ
SMS วันที่ 27-28 ก.ย. 2564
_ณัฐนพ วิชากรนฤมิต : 1 ตุลา psi ชมบุญนิยม tv ข่อง 222 ใช่ไหม คับ
พ่อครูว่า… เมื่อกี๊บอกไปแล้ว psi ช่อง 237
_ใบฟ้า ธัมทะมาลา : “ถูกเขาริบไปหมดแล้ว”คือการเปรยของพ่อครูเกี่ยวกับวันเทศน์ที่เหลือ 3วัน/สัปดาห์ กราบขอโอกาศเรียนถามว่า หากลูกๆทุกฐานะกราบขอเทศน์4วัน/สัปดาห์ดังเดิม จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของพ่อครูหรือไม่ กราบนมัสการด้วยเศียรเกล้าฯค่ะ
พ่อครูว่า…อาตมาเทศน์แต่ก่อนนี้ 4 วันต่อสัปดาห์ ตอนนี้เหลือ 3 วันต่อสัปดาห์คือวันจันทร์ พุธ ศุกร์ แต่ก่อนได้วันอาทิตย์ด้วย ตกลงตอนนี้เหลือ 3 วันถูกริบไปหมดแล้ว
อาตมาว่า อาตมาไม่ได้กำหนดตนเองว่าจะให้เทศน์ 4 วันด้วยซ้ำ หรือจะเหลือ 2 วันหรือเหลือวันเดียว จะ 5 วัน 6 วันก็ไม่รู้ ก็อยู่ที่พวกเรากำหนดเห็นควร ซึ่งอาตมาก็เห็นอยู่ว่า พวกคุณก็ได้ประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ได้ประโยชน์ แต่พวกคุณก็คำนึงถึงอาตมาเป็นตัวหลัก ว่าควรขนาดไหน เพราะฉะนั้นอยู่ที่การตัดสินของมวลหมู่ส่วนใหญ่ ตัดสินอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ ที่อาตมาก็ตามสนองไปเท่าที่ได้ ถ้ามันไม่ไหวอาตมาบอกเองว่าเอาแค่นี้ก็แล้วกันมากไปไม่ไหว ตอนนี้มันไม่ไหว ตอนนี้ไหวอยู่นะเพิ่ม แต่ตอนนี้ไม่คิดว่าจะเพิ่มหรือจะลดก็เป็นไปตามควร
เพราะเหตุรู้สึกว่าตัวเองยังไม่แข็งแรงพอจะอวดดีจะต้องมากขึ้น ไม่อยากทำอย่างนั้นเพราะไม่อยากประมาท ทั้งๆที่มีอะไรอีกเยอะเลยที่จะพูดบรรยาย อยู่อีกสัก ได้ข่าวว่ามีคนอายุ 300 ปีนะ มีภาพนะ เป็นผู้หญิง ในยุคนี้ก็ยังมีนะคนอายุ 300 ปีนี่ก็ยังไม่ตายด้วย ก็เป็นไปได้ยืนยันว่าสังขารของมนุษย์ยุคนี้มันได้ถึง 300 ปี เอ เราจะอยู่สัก 151 ปีจะไม่ได้หรือ หน้าตาก็ยังไม่ยับยู่ยี่เลย ยังเต่งตึงอยู่พอสมควร หูก็ยังไม่ตึงเท่าไหร่ ผิวหนังก็ยังพอได้
_เคียงดิน ชาติบุญนิยม : ดอกไม้สีเหลืองบนโต๊ะบรรยายธรรมหน้าพ่อครูเหมือนดอกไม้บนโพเดี้ยมของพิธีกรข้างนอกเลยค่ะน่ารักดี?
พ่อครูว่า…เอาเถอะ อย่างนี้บางคนก็ถือสา อย่างคุณจำลองถือสามากว่าเอาดอกไม้มาประดับทำไม เป็นพระเป็นเจ้าศีลเกิน 8 แล้ว อาตมาคิดว่าปัดโธ่ แค่นี้คุณจำลองแบ่งให้ใครกินบ้างก็ไม่ได้ แบ่งเขากินบ้างเถอะเล็กๆน้อยๆ ก็ผ่านไป
สมณะฟ้าไท… ที่เขาอยากให้คนได้มวลมากๆ เขาไม่ได้คิดว่ามวลมากกับมวลน้อยคืออะไร พ่อครูคิดถึงคุณภาพเป็น พระพุทธเจ้าบอกว่าคนที่มีศีลแล้วจงมา คนที่ยังไม่มีศีลอย่าเพิ่งมา หากคนไม่มีคุณภาพเข้ามาในชุมชนก็คงอยู่ไม่นานหรอกเละ แล้วคนที่หยาบคายมากไม่มีระเบียบ คนที่ไม่มีคุณธรรมเขาก็ต้องหนีจาก พระพุทธเจ้าจึงมีกรอบพระธรรมวินัยว่าคนทำหยาบขนาดนี้ไม่ให้มา เช่นปาราชิก 4 ไม่ให้เข้ามา สมัยนี้คนยิ่งหยาบกว่า คนจะไม่มีแก่นแกน หากคนที่อยู่แล้วมีแก่นเป็นวิมุติก็จะไปได้ หากไม่มีแก่นจะเละ เพราะเขาจะกันพระดีๆออกไป เหมือนสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชที่ต้องมาจัดการกับพระเหล่านั้น ซึ่งไม่ใช่ง่าย
หากพวกหลับตามาปฏิบัติธรรมชาวอโศกได้ อย่างพวกชฎิลในสมัยพุทธกาลเป็นต้นเขาจะไปได้ดีเลยล่ะ เพราะเขาเอาจริงทุ่มเททั้งชีวิต ถ้าเขาเปลี่ยนแปลงตัวเองมาได้สังคมก็จะดีขึ้น
อุเบกขาคือต้นธาตุและปลายธาตุ
พ่อครูว่า… ก็ขอพูดถึงอันหนึ่ง ภาษาว่า “ความจริง” จะพูดภาษาไทยว่า “ความจริง” ภาษาบาลีว่า “สัจจะ” ภาษาอื่นๆจะว่าอะไรก็ว่าไป
ความจริง อาตมาลองประมวล สิ่งที่ใช้ยืนยันสภาวะที่ชื่อว่าความจริงดูให้ฟังบ้างว่า มันจะพูดกันรู้เรื่องไหมนี่ ถ้าไม่มีสิ่งอันนี้ไม่ใช่ชื่อว่าความจริง แต่ก่อนอาตมานิยามความจริงไว้ถึง 10 อย่าง ค่อยไล่ดูทีหลัง
ความจริงต้องมีภาวะดังนี้ยืนยัน
-
ต้องมีรูปภาวะนั้น ที่สัมผัสด้วยทวาร 5 ภายนอกได้ (ตอนแรกอาตมาเรียก วัตถุภาวะ แต่ที่จริงไม่ควรเรียกวัตถุ แต่ควรเรียกว่า รูปภาวะ เพราะบางทีก็ไม่ใช่วัตถุทีเดียวเป็นดินน้ำไฟลมเป็นอากาศก็ได้ เป็นธาตุหรือเป็นรูป ที่สัมผัสภายนอกได้
-
มีธาตุรู้ที่ตื่นเต็มทางกายวาจาใจ หรือทางกายกับทางใจนี่แหละ รับรู้ร่วมกันได้ตั้งแต่คน 2 คนขึ้นไป ยืนยันกันได้ ยิ่งมากเท่าใดก็ยิ่งเป็นความจริงมากยิ่งๆขึ้นเท่านั้น เป็นล้านๆ ก็ยิ่งถือว่าเป็นความจริงมากขึ้นเท่านั้น
-
ต้องมีภายนอก สัมผัสร่วมกันยืนยัน ทวารภายนอก 5 ทวารสัมผัสยืนยันร่วมกัน
-
มีแสงสว่าง (อาโลก) ที่เห็นได้ด้วยตายืนยัน ตาลืม คนตาดีเห็นด้วยกันยืนยัน กระทบสัมผัสด้วยตา ยิ่งกว่าหูยิ่งกว่าจมูกยิ่งกว่าลิ้น ยิ่งกว่าโผฏฐัพพะ เพราะฉะนั้นแม้คนตาบอดยืนยันไม่ได้ มีแต่เสียงมีแต่กลิ่นมีแต่ลิ้นรับรสมีแต่โผฏฐัพพะ ก็ยังไม่เต็มเต็งเท่ากับการมีตา มีตาแล้วมีทวารอื่นร่วมด้วย 5 ทวาร ยืนยันร่วมกัน
-
มีปัจจุบันชาติ เรียกว่าทิฎฐธรรมหรือ ทิฏฐกาละ ยืนยันกันโทนโท่ หลัดๆ ปัจจุบันชาติคือ Suddenly เลยนะ สัมปตะ ยังไม่วางมือ ยังไม่วางใจ ยังไม่วางอากาศ ยังไม่วางเวลา ยังมีอยู่ๆ ภาษาไทยอยู่ นี่ล่ะจริง พอผ่านจากไม่อยู่แล้ว ถือเป็นจริงไม่ได้แล้วยิ่งไปไกลยิ่งลดความจริง เพราะฉะนั้นเอาความจริงที่เป็นปัจจุบันจุดที่เล็กที่สุด นี่จริงๆ ยืนยันกันต่อหน้าหลัดๆ
-
แม้จะมี คำสอน มีอภินิหาร เก่งกาจปานใด แต่ยืนยันไม่ได้ ในตัวเจ้าของคำสอน และเจ้าของผู้ทำอภินิหารนั้น เจ้าของคำสอนคือธรรมะสามี เจ้าของอภินิหารคือยมก เพราะฉะนั้นผู้ที่ยืนยันทำซ้ำ (ยมก) เจ้าของอภินิหารอยู่ไหน นี่ไง ทำซ้ำให้ดูซิ ทำอย่างที่เขาลือกันว่าทำได้ เหาะได้ก็เหาะให้ดูซิ คนนี้เหาะได้ก็ใช่ ยมกปาฏิหาริย์ ยิ่งหลายครั้งก็ยิ่งใช่แน่นอน คนนี้ใช่ ว่า เหาะได้ แต่อาตมาไม่ได้เล่น ยมกปาฏิหาริย์ อาตมาเล่น ยมกอนุสาสนีปาฏิหาริย์ทำซ้ำแล้วซ้ำอีกยังไม่มีเปลี่ยนแปลงมั่นคงยืนยันจริงๆอย่างนี้ อนุสาสนียมกปาฏิหาริย์
นี่คือความจริง อย่างน้อย 6 ข้อนี้ คิดเมื่อเช้านี้แล้วเขียนออกมา
นิยามของความจริง 10ประการ
ลองเอานิยาม ความจริง 10 ประการ
-
เป็นความดี
-
มีความถูกต้อง
-
มีคุณค่าเป็นประโยชน์
-
ต้องพ้นทุกข์อริยสัจ
-
ต้องเป็นไปได้จริง
-
รู้ได้จากสัมผัสปัจจุบัน แม้ที่สุด..รู้กระทั่งนามธรรมในระดับสุญญตา หรืออนัตตาต้องจริงอย่างแจ้งใจ
-
เข้าถึงความจริงนั้น หรือตนเองเป็นได้ตามความรู้นั้นๆ แล้ว อย่างเต็มใจ
-
ผู้ฉลาดแท้หรือปราชญ์แท้ก็จะจำนนยอมรับต่อผลของความจริง ที่เป็นแล้ว – ที่มีแล้วนั้น
-
ไม่แปรเป็นอื่นอีกแล้ว (อวิปริณามธัมมัง)
-
ท้าทายให้มาพิสูจน์ได้ (เอหิปัสสิโก)