650121_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/11ItF3nhKHfNo0p41XOckbLZC5NZqIHvNoXn79jC9FMo/edit?usp=sharing
https://drive.google.com/file/d/12dX2dIztbXQz3M3AM6pHFUHkgBOgr0b3/view?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่
และดูวิดีโอได้ที่ https://fb.watch/aGp0p0M3CK/
และ https://youtu.be/W6cbCkryi3U
สมณะเดินดิน… วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก ช่วงนี้อากาศก็หนาวลง ทางเหนือมีพายุลูกเห็บตก อากาศจะหนาวลงอีกหลายองศา
ประเทศจีนมีนโยบายทำให้ covid เป็นศูนย์ แต่ก็ทุกสื่อสารประเทศทางตะวันตกบอกว่าเป็นนโยบายที่ทำให้ ตามโลกไม่ทัน เหมือนกับคนอยู่ในถ้ำไม่รู้โลกภายนอก แต่ผลที่ได้คือประเทศทางตะวันตกนั้นมีผลกระทบจากโควิดมากมาย สถานการณ์ประเทศจีนแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของคนในชาติ
พ่อครูว่า… ต่อจากท่านเดินดินว่าไว้ว่า ปัญหาต่างๆไม่หมด เพราะไม่มีปัญญา คำว่าปัญญาคำนี้นี่ อาตมาพยายามบอกต่อโลกว่า ปัญญานั้นเป็นความรู้ ความฉลาดที่พิเศษ มีเฉพาะศาสนาพุทธที่เป็นโลกุตระแท้จริงเท่านั้น เรียกว่าปัญญา ที่พยายามอธิบาย ก็ยังยาก
ปัญญา 8 ตอนนี้อาตมาขยายไป แน่นอนแล้วว่าจะต้องแบ่งเป็น 2 เล่ม เล่มละ 300 กว่าหน้า เพราะตอนนี้เกือบ 800 หน้าแล้ว ว่าจะตัดครึ่งนึงออกมาพิมพ์ก่อน ลองลิ้มลองดูว่าจะเป็นรสชาติอย่างไร ถ้าคนอ่านแล้วเรียกร้องหาอีกก็ต้องรีบเร่งหาสตางค์มาพิมพ์เล่ม 2 ต่อ แต่ถ้าอ่านแล้วบอกว่าไม่ได้เรื่อง ก็ ไม่ต้องพิมพ์เล่ม 2
แต่อาตมาคิดว่า มันมีอะไรที่ครบรอบ เอามาขยายความสัมพันธ์ ขยายความ ให้พิสดารแล้วเติมความที่ไม่รู้ในความไม่มีแต่มันมีอยู่ในมนุษยชาติ
SMS วันที่ 19-20 มกราคม 2565
_สื่อฟ้าศิลป์ ภูวนาถ : คนไม่มีศีล คือคนไม่มีศิลปะฯที่มีภาพของความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงต้องเป็นผู้มีศีล ๕ ฯ สัจธ.พ่อครูฯอดีตศิษย์เก่าสถาบันเพาะช่างฯ
พ่อครูว่า…ก็จริงไม่ขยายความล่ะ คนไม่มีศีลคือคนไม่มีศิลปะ ที่จริงก็ทั้ง 38 มงคล มงคลอันอุดมมี 38 ศีลเป็นข้อ 1 ใน 38
_สว่างแสง ขวัญดาว : น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ แม่กลับมาปฏิบัติธรรมอีกครั้ง หลังจากที่หยุดพักไป 28 ปี ครั้นเห็นท่านสิกขมาตุกล้าข้ามฝันกำลังเทศน์อยู่ แม่บอกว่าสิกขมาตุองค์นี้เหมือนแม่เณรบุญปลูกจัง ลูกมาถามญาติธรรมดู ปรากฎว่าท่านสิกขมาตุกล้าข้ามฝัน กับแม่เณรบุญปลูกเป็นองค์เดียวกันค่ะ
_ยอมแพ้ แต่ใจเต็มร้อย : กราบนมัสการพ่อครูครับ โลก 9 แบบที่พ่อครูอธิบาย นั้น เรียงกันเป็นลำดับ จากใหญ่ไปหาเล็ก จากน้อยไปหามาก และจากนอกตัวไปหาในตัวเรา ซึ่งเราควรจะต้องไปรู้ทั้งหมดทุกข้อ หรือ รู้เฉพาะข้อสุดท้ายได้มั้ยครับ
พ่อครูว่า… ยังไงก็ได้ จะรู้ไปทีละข้อหรือสลับกันก็ได้
สถาปนาของศาสนาพุทธคือปรินิพพานเป็นปริโยสาน
_จาก ด.ญ.”หนู” : หนูเป็นคนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องคำศัพท์ต่างๆเท่าไหร่นักหรอกค่ะ อย่างเช่นคำว่า”สถาปนา”เป็นต้น เปิดดูในกูเกิ้ลเขาแปลว่า “ยกย่องโดยแต่งตั้งให้สูงขึ้น” อ่านดูแล้วก็รู้สึกงงๆ จริงๆแล้วมันแปลว่าอย่างอื่นอีกได้มั้ยค่ะขอบพระคุณค่ะ
พ่อครูว่า… ได้ แปลว่าอย่างอื่น ขยายความให้แตกต่างมุมเหลี่ยม แตกต่างประเด็นต่างๆมิติไปอีกได้ สถาปนาก็ตาม สถาปนา ซึ่งเป็นภาษาบาลีนี่ แปลได้ เป็นต้นว่า
สถาปนา จะแปลว่า นำมาตั้งสถิตลงไป หยั่งลงไปในแดนนั้นหมู่คนนั้น ให้แน่นเข้าก็ได้
สถาปนา แปลว่า สิ่งนี้จะบริบูรณ์ ทั้ง Dynamic และ Static มันหยั่งลงไปหรือว่าเป็นตัวรวมตัวที่สมบูรณ์ขึ้น ทั้งตัวตั้งและตัวเคลื่อน ทั้งตัวบวกและตัวลบ เจริญขึ้นเต็มขึ้น มุทุภูตธาตุ ถ้าสรุปเป็นโลกุตรธรรมสูงสุด มีในตัวเองเป็นหทยรูป ซึ่ง หาที่อยู่หาที่ตั้งไม่ได้ ของใครก็ของใคร ที่จะจับตัวนี้ได้เอง ตามที่รู้สภาวะอันนี้ ไม่มีที่อยู่ไม่มีตัวตน ไม่มีสถานที่ มีกาละคือ ในขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน แม้คุณตายไปแล้ว มันก็ไปสถิตอยู่กับคุณ ของคุณ จนกว่าคุณจะตายแยกธาตุนี้ออกเป็นดินน้ำไฟลมไปเลย มันจึงจะหายไป คุณทำได้ เป็นพระอรหันต์ขึ้นไป เป็นต้น เป็นโพธิสัตว์ที่รู้แล้ว ทำให้ธาตุจิตนิยามของคุณหรืออัตตาของคุณ สลายเป็นดินน้ำไฟลมไปได้ คุณทำได้จริงๆ มันจึงจะเป็นจริงมันจึงจะสูญไปเลิกไป จิตนิยามคุณก็หายไปเลย นี่เป็นสุดยอดแห่งความรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
อาตมาก็โชคดีที่ในพระไตรปิฎก ฉบับของพระมหากัสสปะแท้ๆนี่แหละ ฉบับที่เราใช้อยู่เป็นฉบับสยามรัฐ ยังมีอันนี้ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เป็นข้อที่ 10 ของมูลสูตร ซึ่งโอ้โห!..สุดยอดเลย ที่อาตมาเจอแล้ว จับตัวได้แล้ว นี่แหละตัวนี้ สุดยอดที่จะเอามาใช้ เอามาอธิบายเอามายืนยันกับโลกเขา สุดยอด จับตัวได้
อาตมาก็นำเอามายืนยัน มาพยายามแสดงอุเทส เพื่อให้คนเข้าใจคำว่า ปรินิพพานเป็นปริโยสานนี่แหละ
พระอรหันต์ทุกองค์จะต้องทำตัวนี้เป็น จึงจะสามารถทำให้อัตภาพของเรา พระอรหันต์ตายแล้วจะทำให้ทุกอย่างสลายอัตภาพตัวเองสูญสลายไป ไม่เกิดมาอีก ก็ต้องมีความรู้ตัวนี้ ความรู้อย่างนี้ ถ้าไม่มีความรู้ตัวนี้หรือความรู้อย่างนี้ คุณก็เลิกอัตภาพของคุณไม่ได้ สลายอัตภาพของคุณไม่ได้ คุณก็ต้องเกิดวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารของคุณต่อ
และยิ่งไม่รู้ว่าคุณจะต้องไปอยู่กับพระเจ้า เงียบ ตายแล้วไปอยู่กับพระเจ้า จบ อธิบายอะไรต่อจากนั้นไม่ได้ นั่นคือความรู้เทวนิยม ที่อั้นตู้ เรียกว่า จะไปก็ไปๆพักๆ พอถึงปลายซอย ตันแล้ว ไม่มีที่ไปแล้วก็ต้องจอดอยู่ตรงนั้นหมดเลย เต็มโลกอยู่ตรงนี้ คือเทวนิยมที่ไปถึงซอยตันด้วยกันหมด ก็เลยจบอยู่ตรงนั้น
ขณะนี้ ขอแวะการเมืองสักนิด
การเมือง ตอนนี้ อยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่ว่าจะไปประเทศไหนก็ตาม
ตั้งแต่มหาภารตะยุทธ รามเกียรติ์ไล่มาจนถึงบัดนี้ คือเรื่องของสรณะ เป็นเรื่องของโลกเป็นธรรมดาธรรมชาติ ผู้ใดไม่รู้ทันสรณะไม่รู้ทันการรบ เอาตัวเข้าไปเป็นเบี้ยในกระดาน คุณก็ถูกเขากินเขาฆ่า เละเทะอยู่ในนั้น คุณจึงต้องเจริญขึ้นมาเป็นโคนให้ได้ เจริญขึ้นมาเป็นม้าเป็นเรือให้ได้ จากม้าจากเรือแล้วขึ้นมา จนกระทั่งเป็นขุน ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหมากรุกของชนชาติใดก็เหมือนกันหมด มีทั้งตัว ตี่ กือ เบ้ ผ่าย ….อะไร แต่ก่อนอาตมาก็เล่นหมากรุกจีนตอนนี้ลืมไปหมดแล้ว การเดินการเล่นก็มีกติกาคล้ายๆกัน
โลกในเพลง imagine เป็นจริงได้แล้วที่ชาวอโศก
พ่อครูว่า… โลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาตมาให้คนค้นคำ เนื้อเพลง Imagine มา เขาก็เอาคำแปลที่เป็นของ จิระนันท์ พิตรปรีชา ก็ดี เขาโปรย ขยายความ Imagine
IMAGINE/ John Lennon (แปลโดย จิระนันท์ พิตรปรีชา)
…Imagine there’s no heaven, it’s easy if you try
หากไม่มีสรวงสวรรค์.. ฝันง่ายๆ
No hell below us
นรกร้ายเบื้องล่าง ก็ว่างหาย
Above us only sky
เงยขึ้นเห็นฟ้าโปร่ง โล่งสบาย
Imagine all the people
ลอง นึกภาพ..คนทั้งหลาย
Living for today…
อยู่ร่วมกัน..เพื่อวันนี้
พ่อครูว่า… ที่อาตมาหยิบอันนี้ขึ้นมาพูดถึง ข้อความเนื้อหาสาระใน Imagine มันดังไปทั่วโลก เป็นเพลงที่ดังไปทั่วโลกของ 4 เต่าทอง ดังสนั่นหวั่นไหว จอห์น เลนนอนเป็นคนแต่ง ที่จริงเอาคำเหล่านี้มาจากโบราณเขา อาตมาเจออยู่ในรากเหง้า อันนี้เป็นของโบราณเอามาตีกิน ทั้งทำนองทั้งเนื้อร้องเลย ของโบราณ
Imagine there’s no country
ลบเส้นแบ่งแห่งรัฐชาติ..ลองวาดฝัน
It isn’t hard to do
เพียงเท่านั้นเรื่องร้ายๆก็คลายคลี่
Nothing to kill or die for
ไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องรีบเอาชีพพลี
And no religion too.
และไม่มีเส้นทาง ต่างศรัทธา
Imagine all the people
ลองนึกภาพ ผองชนคนทั้งหลาย
Living life in peace,,
สุขสบายสันติธรรมค้ำคุณค่า
You may say I’m a dreamer
เธอจะหยันว่าฉันเพ้อ ไม่ลืมตา
But I’m not the only one
แต่ก็มีมากกว่าฉัน ที่ฝันเป็น
พ่อครูว่า… เหมือนชาวอโศกที่คนก็อยากมา
I hope someday you join us
ได้แต่หวังว่าวันหนึ่งเธอจึงเห็น
And the world will be as one
มาร่วมเป็นหนึ่งเดียว สร้างโลกใหม่
Imagine no possessions
โลกที่ไร้การครอบครองของผู้ใด
I wonder if you can
ลอง คิดดูได้ไหม..อยากให้ลอง
พ่อครูว่า…พวกเราเป็นได้แล้ว มันน่าโชว์มันน่าอวด แต่คนยังไม่เชื่อ ไม่ใช่อะไรหรอกเพราะอาตมาถูกดิสเครดิต ถูกประกาศไปอย่างกว้างขวาง ถูกทำลายความเชื่อถือ แล้วเดี๋ยวนี้คนก็ยังที่มาเชื่อถืออาตมาก็ยังน้อยอยู่เลย ที่พูดนี่ไม่ได้น้อยใจ รู้ความจริงอยู่ว่า ที่คุณพูดอยู่และต้องการนี้อยู่ตรงนี้ ซึ่งมันยังยากอยู่เพราะเป็นโลกุตรธรรม
No need or greed or hunger
จะสิ้นทุกข์ทรมาน การกดขี่
A brotherhood of man
เมื่อโลกนี้พี่น้องกัน ชนทั้งผอง
Imagine all the people
ลองวาดฝันวันใหม่ ได้ปรองดอง
Sharing all the world..
ร่วมแบ่งปันครรลองโลกของเรา
You may say I’m a dreamer
เธอจะหยัน ว่ายังเพ้อละเมอฝัน
But I’m not the only one
แต่มิใช่เพียงแค่ฉัน ฝันเก่าเก่า
I hope someday you join us
จะรอเธอมาร่วมแรง ช่วยแบ่งเบา
And the world will live as one
เพื่อโลกเราสุขสมาน ศานติครอง.
จีระนันท์ พิตรปรีชา
โยมว่า…ที่เขาพูดมานี้เป็นเรื่องเพ้อเจ้อหรือเปล่าครับ
พ่อครูว่า…เขาไม่เพ้อเจ้อหรอก เขาก็คิดว่าดี ว่าถูกต้อง แต่เขาไม่มีบารมี ทั้งๆที่คนไทยมี ชาวอโศกมีให้รู้ ให้เห็น ให้พิสูจน์ อกาลิโก เอหิปัสสิโก มาพิสูจน์ได้เลยขณะนี้ อกาลิโกยุคนี้มาเลย อกาลิโกมาพิสูจน์ได้ แต่เขาไปเชื่อสังคมกระแสหลัก ที่ได้ดิสเครดิตอาตมาไว้ ไปหลงคารมเขา ไปเชื่อว่าทางโน้น บอกว่าทางนี้มาทำลายศาสนา มาทำลายสังคมอะไรต่ออะไร อันนี้แหละที่ทำให้อาตมายังไม่อยากตาย ที่คุณหยามอาตมามากตรงนี้ อาตมาก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร หยามอาตมา อาตมาจะอยู่พิสูจน์ความจริงไปเพื่อที่จะขยายผลออกไปจนกระทั่งคนตาบอดเห็นได้ คุณจะบอดต่อไปก็ให้มันรู้กันไป ขยายต่อไปจนกว่าคนตาบอดจะเห็นได้อย่างนี้เป็นต้น
อาตมาเขียน กวีของอาตมาบ้าง ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2556 ผ่านไป 9 ปีแล้ว ชื่อกวีว่า คนพ้นทาส ชาติพ้นทุกข์
คนพ้นทาส ชาติพ้นทุกข์
(1) ชาติคือบ้านที่แท้ ของตน
มนุษย์ชาติไทยทุกคน พี่น้อง
ทั่วไทยใช่ต่างชน ต่างชาติ
ล้วนญาติชาติเชื้อต้อง ผนึกให้เป็นจริง
(2) กิเลสสิงใจชั่วไซร้ ไม่ระลึก
หลงโลกไป่รู้สึก สักน้อย
ทำไฉนจักสำนึก อริยสัจ บ้างนอ
ไทยนี่พุทธอ้อยต้อย แต่ร้างแรมธรรม
(3) จึงระกำช้ำชอก ฉะนี้แล
หลงศาสตร์บ่แยแส ศาสน์บ้าง
เป็นทาสขลาดอ่อนแอ สุดสุด
สยบเยี่ยงผีถูกจ้าง โม่แป้งขบถธรรม
(4) ย้ำให้ไทยทุกผู้ ทบทวน
ทุกระบบทุกกระบวน หมดหล้า
คือระบอบแห่งโซ่ตรวน ผูกมนุษย์ ไว้แฮ
ลาภยศแผลงฤทธิ์กล้า เบ่งบ้าเป็นนาย
(5) คนกลายเป็นสัตว์ผู้ ถูกมัด
สังโยชน์ผูกร้อยรัด หลุดมิได้
อะไรผูกก็บ่ชัด เท่าอวิช- ชาเลย
นายที่โหดเหี้ยมใช้ กิเลสร้ายผูกคน
(6) ช่วยตนโดยก่อหนี้ คือแอก
รัฐช่วยกระหน่ำซ้ำแบก แต่หนี้
บริหารแบบกู้แหลก แจกล่อ
สร้างระบบทาสเช่นชี้ ชัดฉะนี้บรรลัย
(7) หากไทยหวังพ้นทาส กันจริง
ต้องปลดแอกตามคิง ธ ไท้
พึ่งพุทธมิต้องอิง แอบอื่น อีกเลย
ช่วยมนุษย์พ้นทาสได้ ชาติพ้นทุกข์ระทม.
สไมย์ จำปาแพง
4 ม.ค. 2556
สมณะเดินดิน… เราฟังเพลง imagine ก็เคลิ้ม แต่เมื่อมาดูความจริงก็เป็นอีกอย่าง เหมือนเรารู้ว่าเป็นโรคมะเร็งในร่างกาย คนไม่มีความรู้ก็บอกว่าไม่ใช่มะเร็งอะไรหรอก เคยมีพี่ชายของญาติธรรม เป็นมะเร็งเขาเลยไปหาหมอที่เชียงใหม่ หมอที่เชียงใหม่บอกว่าไม่ใช่มะเร็ง เขาก็เลยกินอยู่อย่างสบาย แต่อีกไม่นานก็ตายจากมะเร็ง
พ่อครูว่า… อาตมาแต่งเพลง อิสรภาพ ภราดรภาพ สันติภาพ สมรรถภาพ แต่งไปได้ 4 เพลงแล้ว อีกภาพหนึ่งคือ บูรณภาพ
สู่แดนธรรมจองไว้ว่าจะแต่ง แล้วไม่เอาขันหมากมาสักที ว่าจะแต่ง ก็ไม่เอาขันหมากมาสักที นี่ภาษาไทยนะ เราไปได้เรื่อยๆภาษาไทย
บูรณภาพยังไม่ได้แต่ง บูรณภาพ แปลว่าเต็ม
อิสระเสรีภาพ พวกเราชัดเจนแล้ว ภราดรภาพ คือ เป็นพี่เป็นน้อง ก็มีแล้วเต็มแล้วสบายแล้ว สันติภาพก็ได้แล้ว สมรรถภาพ เราก็ได้แล้วนี่ ทุกวันนี้ก็ใช้สมรรถภาพกัน ต่างคนต่างกระปรี้กระเปร่าขยันหมั่นเพียรสนุกสนาน แต่ละวันแต่ละวันมีเรี่ยวมีแรง ใครเมื่อยใครป่วยก็พักไป ใครเมื่อยใครป่วยก็พักไป คนมีแรงก็ทำไปไม่เกี่ยงกัน ภาษาอีสานว่าบ่หนิ่งกัน ต่างคนต่างร่วมไม้ร่วมมือกัน สนุกสนานธรรม
ตอนนี้เรากำลังพยายามสถาปนาถนนส้มตำ ใครเดินถนนนี้เข้ามา อุปกรณ์การทำส้มตำยกครกเอามาแดกข้าวมาเท่านั้นเรียบร้อยเลย มะละกอก็มี พริกก็มี มะเขือเทศก็มี เอามีดมาด้วย นอกจากครกกับสากแล้วเอามีดมาด้วย ปลาแดกด้วย ต้นปลาแดกก็ยังปลูกไม่ได้ ที่จริงมันน่าจะมีต้นที่รสเค็มนะ ต้นที่แทนปลาแดก แทนเกลือ แทนน้ำปลา เป็นรสเค็ม มันจะเหมือนกับปลาแดกก็ใช้ได้ น่าจะปลูกได้ ถ้าปลูกได้ละโอ้โห.. มันจะเป็นถนนส้มตำที่แท้จริงเลย นี่กำลังทำอยู่ไม่ได้พูดเล่น ถ้าเกิดขึ้นมาจริงๆจะสนุกมากเลยทีเดียว
เรามีเรี่ยวแรง ทำไมเราทำได้ เพราะเรามีใจ มีจิตใจที่ไม่หวงแหน ไม่ขี้เหนียว แล้วก็มีใจที่จะเกื้อกูล เผื่อแผ่แจกจ่ายเอื้อเฟื้อเจือจานแก่ผู้อื่น มันเป็นคุณธรรมของมนุษยชาติ มันเป็นสิ่งที่เจริญที่ดีพวกเรารู้ชัดเจน ก็ทำให้มันจริงแล้วก็ทำได้ ทำได้แล้วก็ยิ่งมีปิติ ยินดี รื่นเริงบันเทิงใจนะ ไม่ได้หน้าเหี่ยวเฉาอะไรเลย นี่คือภูมิปัญญาที่เจริญของคนประเสริฐ ของคนเจริญ สุดยอดเลย มันก็ไปอย่างนี้ แล้วทำให้เจริญๆๆแล้วยิ่งเสริม
มันมีวรรณะ 9 จิตใจมีฐานของจิตวรรณะ 9 กับมีพุทธพจน์ 7
สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ ซึ่งเป็นคำสอนพระพุทธเจ้า เรามาพิสูจน์ความเป็นจริง จิตใจจะเป็นไปตามภาษาที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้
ปิยกรณะ ก็รักกันแล้วมีรักมิติที่สูงขึ้นไป จนถึงมิติที่ 9 เลย ไม่ใช่รักกันแค่ครอบครัวญาติพี่น้อง
สิ่งที่อาตมาได้ขยายความไม่ว่าจะเป็นความรัก 10 มิติ แม้ว่าจะเอาธรรมะพระพุทธเจ้าขึ้นมา ความรัก 10 มิติพระพุทธเจ้าไม่ได้ขยายความไว้แต่อาตมามีภูมิธรรมจากต้นตอของพระพุทธเจ้านี่แหละ มันได้ ก็ทำไว้หมดต่อยอดอะไรไว้
เสร็จแล้วก็มายืนยันสาราณียธรรม 6 มีวรรณะ 9 มีความรักกันเคารพกัน คุรุกรณะ สังคหะ เจือจานเอื้อเฟื้อกันอย่างที่เป็นกัน ซึ่งเป็นความประเสริฐของมนุษยชาติที่ไม่มีชาติไหนปฏิเสธหรอก นอกจากนายทุนหน้าเลือดเท่านั้นที่จะรู้สึกขัดใจ เพราะเขาทำไม่ได้ แต่ถ้าคนสั่งมันปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นคนแดนนรก คนที่มันหวงแหนนายทุนที่ขี้เหนียว ขี้โลภ ตะกละสะสมให้แก่ตัวเอง เป็นคนสัตว์นรก เขาก็จะเป็นอย่างนั้นอยู่ ขออภัยนะไม่ได้ด่านายทุน แต่ขยายความจริง อธิบายความจริงให้ฟัง
คุณเป็นอย่างนี้ก็ต้องถูกว่าอย่างนี้ จะไปแปลคำนี้ว่าด่าก็เรื่องของคุณ ไม่ได้ด่า ไม่มีจิตจะไปมุ่งร้ายหมายไร้อะไร มีแต่จิตย้ำให้เห็นว่ามันไม่ดีเปลี่ยนแปลงเสีย แต่คุณฟังไม่เป็นแล้วก็ไม่แก้ไขปรับปรุงแล้วยังไปโกรธไปอาฆาตพยาบาทไปชิงชังอาตมาอีก มันยิ่งซับซ้อนความโง่ ถ้าคุณคิดอย่างนั้นทำอย่างนั้นคุณยิ่งโง่หนักเข้าไปอีก นี่อาตมาไม่ได้ด่าซ้ำเติมนะ มันซับซ้อนมันเป็นสัจธรรม มันเป็นความจริงที่มันเป็นอย่างนี้ ฟังไว้เถอะศึกษาธรรมะฟังไว้เถอะศึกษาธรรมะ อย่าไปมัวแต่สะสมเงินทองข้าวของขี้โลภไม่รู้จักจบไม่รู้จักพอ โลกมันเดือดร้อนเพราะอวิชชาแบบนี้ ไปมัวอวิชชาอยู่ ไปมัวโง่เเหง้าแบบนี้อยู่ แล้วไปหลงพวกนี้อยู่มันนาน พูดอย่างนี้จะบอกว่าน่าเห็นใจก็ไม่เห็นใจนะ จะพูดหนักๆอย่างนี้แหละ จะแปลว่าด่าก็คือด่า อย่างนี้
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มาศึกษาสัจธรรม ที่สุดยอดของมนุษย์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว มันไม่คลี่คลายไม่เปลี่ยนแปลงเป็นอยู่อย่างนั้น แต่ถ้ามาศึกษาดีๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลายไปตามลำดับดีๆ ต้องเรียนรู้ เบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลาย
ทุกวันนี้คนไปหลงเอาแต่ยอดแล้วก็ไม่รู้ตัว ยอดภูเขาเอเวอเรสต์ต้องการพิชิตแต่ไม่รู้ต้นและกลางสมบุกสมบันยากเข็ญแค่ไหนก็ไม่เอา คิดเอาวันๆเหมือน Imagine จินตนาการจะเอาแต่ยอดๆๆฝันเพ้อ เพราะฉะนั้นคนที่ฝันเพ้อนี่เยอะ
อาตมาเอาเพลงนี้มาเพราะจะมากระตุกพวกฝันเพ้อ รู้มากรู้สวยเข้าใจอะไรเยอะ แต่ไม่ลงมือ ไม่ประพฤติ ให้มันเป็นเบื้องต้น ละลด ไอ้สิ่งที่เป็นเรื่องต้นๆ ลาภ ยศ สรรเสริญ เป็นอันตรายแสบเผ็ดพระขีณาสพเผลอไม่ได้ อันนี้เผลอไม่ได้ เตือนพระขีณาสพเลย เผลอไม่ได้ เผลอมันเล่นงานเอาแสบเผ็ดจริงๆ
ทุกวันนี้ยังไม่บรรลุอรหันต์ ก็ต้องแสบต้องเผ็ด แต่ไม่รู้จักความแสบความเผ็ด จมอยู่กับความสุดแสบสุดเผ็ด
มันดักดานเหมือนโจรปล้นศาสนาที่อาตมาพูด วนไปซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่พระราชาเห็นแล้วว่า คนนี้เป็นโจรปล้นบาปที่ปล้นทำลายศาสนา ให้เอาไปฆ่า เจ้าพนักงานก็เอาไปฆ่า ฆ่าด้วยการแทงด้วยหอกร้อยเล่มเช้ากลางวันเย็นก็ยังไม่ตาย ก็เลยทิ้งปลายเปิดเอาไว้อย่างนั้น ใครทำได้อันนี้แหละคือผลสำเร็จ ใครฆ่าโจรร้ายนี้ตายก็หมายความว่า หยุด อย่าไปหลงติดอยู่แบบเก่า ออกมาทำอย่างที่พวกเราพากันทำอย่างที่พระพุทธเจ้าพากันทำ มาลด ละเลิก เรียนรู้ปรมัตถ์ต่างๆมาเรียนรู้จิต เจตสิก รูป นิพพาน จริงๆ เขาก็ไปหลงพยัญชนะเข้าไปอีกก็น่าสงสาร
ศาสนาพุทธเสื่อมเพราะติดบัญญัติภาษาพยัญชนะไม่ลงไปถึงความจริง ที่เข้าไปถึงจิต เจตสิก รูป นิพพาน แยกเจตสิกโดยเฉพาะไปถึงเวทนาเจตสิก ซึ่งเป็นตัวเจตสิกตัวแรกจากรูป มาเป็นนาม นามก็คือจิต เจตสิก
นามตัวแรกคือ เวทนา ก็ส่งไม่ถึง สัญญาก็ยังไม่เข้าใจถูกต้องเท่าไหร่ สังขารก็เข้าใจไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ยิ่งวิญญาณยิ่งไม่รู้เรื่องเลย
จะรู้จักวิญญาณต้องรู้จักตั้งแต่สภาพ 2 ตื่นรู้จักนามรูป ก็ไม่รู้ ความเป็นสองความเป็นนามรูปก็ไม่รู้
ขยายความความเป็นสองจิตวิญญาณคือกาย กายคือ รูปนอกรูปในก็ไม่รู้ หลงผิดไปเอาแต่จิต จิตเป็นประธาน ก็เรียนแต่รูปใน รูปนอกไม่เอา งมงายอยู่แต่ในรูปใน เป็นสัมภเวสีไปอีก อาตมาจึงเหนื่อย ยังเหลือแต่จะหน่ายเท่านั้น ถ้าหน่ายเมื่อไหร่ก็ไม่เอาเลิกแล้ว แต่ตอนนี้ก็พยายามไม่ไปถึงตรงนั้น เหนื่อยก็พัก พยายาม นี่อย่างตอนที่เดินเข้ามาตรงนี้ทางโน้นก็บอกว่าสู้ๆ เราก็สู้ๆ มีผู้เชียร์
คือพูดไปแล้วจริงๆ ขออภัยต้องพูดเรื่องนี้ อาตมาเกิดมาในยุคนี้ เป็นยุคที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้จริงๆเลยว่าเป็นยุคที่โลกุตรธรรมมันสูญไปหมดแล้วเหมือนกลองอานกะ
นี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่อาตมามุกขึ้นมาแต่เป็นเรื่องจริง พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าต่อไปในอนาคตข้ามชาติมาเกิดชาตินี้เป็นพยานพยานเป็นบุคคลในสมาชิก 10 หลักจะเป็นคนอย่างเราโลกุตระจะเสื่อมสูญ ไม่มีแล้ว กลองอานกะ ไม่เหลือเนื้อมีแต่ชื่อกรองก็คือชื่อโลกุตระภาษายังอยู่เป็นโลกุตระ แต่มันไม่มีเนื้อแท้เลย
อาตมาพูดบอกต้นว่าอาตมาเป็น สยังอภิญญา เป็นผู้ที่มีโลกุตระธรรมมาแต่ชาติปางก่อน มาข้ามชาติมาเกิดชาตินี้เป็น สยังอภิญญา เป็นบุคคลในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก ดีที่มีหลักฐานยืนยันเอาไว้
โลก 10 แบบ ที่ไม่ใช่แค่ Imagine ตอนที่ 1
พ่อครูว่า… อาตมาขอยืนยัน แล้ว สยังอภิญญา จะเป็นคนอย่างไร
สยังอภิญญา ก็คือเป็นคนที่อธิบายโลกนี้โลกหน้า
โลกที่กำลังพูดกันอยู่นี้กำลังแยกมาแค่ 9 แล้วขยายเป็น 10
คนที่ไม่มีอคติฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา สุสูสังลภเตปัญญัง
คนที่ ทุสูสังก็อวิชชา
เพราะฉะนั้นอาตมาก็ยืนยันว่าอาตมาเป็น สยังอภิญญา อย่างพวกคุณนี้เชื่อก็มาปฏิบัติตาม อาตมาก็พาปฏิบัติศีลสมาธิปัญญา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา
ตอนนี้ขยายความไปจนชัดเลยว่าก็คือจรณะ 15 วิชชา 8 ชัดเจนพวกเราก็ชัดเจนไม่มีความสงสัย ยืนยัน ทั้งพยัญชนะคำสอนพระพุทธเจ้า ว่าเราทำถูกตามลำดับตามเนื้อหาของพระพุทธเจ้าตามข้อปฏิปทาต่างๆ แล้วก็ได้ผล เป็น อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา จนมีวิมุติ วิมุติญาณทัสนะขึ้นมา
ชัดเจนก็มีสิ่งยืนยันไม่ใช่คนเดียว เป็นร้อยคนเป็นพันคนเป็นหมื่นคน อาตมาว่าได้ถึงหมื่น แสนก็น่าจะถึง นับโสดาบันขึ้นไป นับให้มันชัดๆ ทั้งโสดาปัตติมรรค
คนฟังอาตมา 50 ปี คนนี้น่าจะถึงแสน ถ้าไม่ถึงแสนก็สู้ลิซ่าไม่ได้นะ
แม้มันจะได้น้อยได้ไม่มากแต่ได้เนื้อแท้ เกิดเป็นสังคมนอกจากวรรณะ 9 จริงๆแล้ว เป็นคนเลี้ยงง่าย เป็นคนบำรุงง่าย เป็นคนมากล้าจนมักน้อย อัปปิจฉะ มาเป็นคนใจพอ สันตุฏฐิ มาเป็นคนที่ขัดเกลาตนเอง สัลเลขะ ขัดเกลา กาย วาจาใจตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า มีธูตะ ศีลเคร่ง ศีลสูงขึ้นจนบรรลุผลมีอาการน่าเลื่อมใส กายกรรมน่าเลื่อมใส วจีกรรมน่าเลื่อมใส มโนกรรมน่าเริ่มใสขึ้น
ผลสรุปเป็นคนที่ไม่สะสม อปจยะ และยอดขยัน ระดมความเพียร นี่เป็นสำนวนของท่านประยุทธ์ปยุตโต สำนวนที่ท่านแปลเก่าๆคือปรารภความเพียร เป็นผู้ที่เพียรอยู่เสมอไม่หยุดหย่อน รู้จักพักรู้จักเพียร แล้วก็เกิดผล
เกิดผลเป็น สาราณียธรรม สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา อยู่กันอย่างเมตตา สุขสำราญเบิกบานใจอยู่ในระบบสาธารณโภคี
ลาภที่เราได้มา สิ่งที่ทุกคนร่วมกันขยันพากเพียรสร้างมาก็เกิดผลผลิตเอามารวมส่วนกลาง อย่างที่เห็นกองโต มันอุดมสมบูรณ์จริงๆ
(มีคนเขียนมาให้อ่าน ผัก ที่อยู่บนโต๊ะ)กวางตุ้งผักกาดขาวสวน ดาวสู่แสงพุทธ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอกจากสวนอาจารย์ ข้าดิน มะรุมจากสวนอาละอองนิล ผักชีลาวดอกไม้ฝรั่ง Forget Me Not สวนแม่เต็มศิริ
พวกเราเอามาประดับตกแต่งบนโต๊ะจนคนว่า เป็นสมณะคือศีลมากกว่า 8 แล้วทำไมมีดอกไม้มาประดับโต๊ะ ก็อะไรกันนักกันหนา จะตกแต่งนิดหน่อยก็ไม่ได้
นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ
สมณะเดินดิน… พ่อครูเป็น สยังอภิญญา ท่านประกาศตั้งแต่เริ่มต้นทำงานศาสนาใหม่ๆว่า อาตมาเป็นคนไม่มีครูบาอาจารย์ อันนี้ไม่เข้าหูคนอื่นเลย รองรับกับคำ สยังอภิญญา ซึ่งไม่ใช่อยู่ดีๆก็มาเป็นได้ หรือไปซื้อตามร้านขายยา
พ่อครูว่า…ถ้าเข้าใจวัฏสงสารการตายแล้วและก็เกิดมาแล้วก็มีอนุสัย มีจิตที่เป็นต้นตอของเรา สย สยัง ตัวเรา ที่มันติดตามเราไปอนุสัย จนกว่าจะปรินิพพานเป็นปริโยสานก็นี่แหละคือ สยังอภิญญา ตัวเรานี่แหละ มันมี สก สว สย
สก เป็นตัวตนที่หยาบที่สุด ใช้พยัญชนะตัวต้นของพยัญชนะเลย
ต่อมาก็ สว ก็ตัวตน อาสวะนี่ ตัวตน ที่จะต้องมาพัฒนาสวะ ตัวตนที่มีการปรุงแต่งเป็นสังขารมีกิเลสมาร่วมปรุงแต่ง ภาษาไทยเรียกว่า สวะ ต้องเอาสวะออก
ว ตัวนี้เป็นตัวที่ 4 ของเศษวรรค ก็เอา ตัวนี้ออกให้หมด หมด สก หมด สว เหลือ สย ซึ่งเป็นเศษวรรคทั้งหมดเลย
ย ตัวที่ 1 ของเศษวรรค ตัวนี้สำคัญตัวสุดท้าย ถ้าเผื่อว่ามันยังหลงอยู่ก็จะเป็น ย เช่น ยสะ ยโส เป็น ยศ
สย กับ อย
สย มาเป็น ยส
อย จะเรียกว่า ยอ ก็ได้ มาเป็นภาษาไทยคือ ย.ยกขึ้นไปเลย ที่จริงมันก็จะหมดแล้ว
ยส กับ อย
อย ท่านแปลว่า ยาง อย คือ เชื้อ ของความเกาะความเหนียวกันอยู่ ยางเหนียว มันยังเหลือเชื้อต้องติด ต้องผูก ต้องยึด เพราะฉะนั้นต้องหมด อย ความเป็นยางเหนียว ต่างคนต่างอิสระหมดเลยไม่มีลักษณะดูดผลักกันจริงๆเลย ถึงจะหมดเกลี้ยง
สิ่งที่ยังไม่หมดไม่เกลี้ยงก็ยังมาผูกพันเข้าจึงเรียกว่า โลก อาตมาก็หยิบมาพยายาม 160 10 อย่าง
โลก” 10 ชั้น โลก หมายถึง
-
โลก หมายถึง ดวงดาว ดวงหนึ่ง ในแดนอวกาศ Space
-
โลก หมายถึง พลังงาน ความหมุนวน เปลี่ยนแปรสภาพไปต่างๆ
-
โลก หมายถึง สังขาร ที่มีวิญญาณเข้าร่วมปรุงแต่งกันอยู่
-
โลก หมายถึง อุปาทาน ที่ยึดเป็นภพ เป็นชาติ
-
โลก หมายถึง อวิชชา ที่คนผู้ไม่รู้จัก รู้แจ้ง รู้จริง “ความจริง” บริบูรณ์
-
โลก หมายถึง วิชชา หรือ ปัญญา ที่รู้จัก รู้แจ้ง รู้จริง “ความจริง” สัมบูรณ์
-
โลก หมายถึง ความมี กับ ความไม่มี เท่านั้นในความเป็น 2 (เทว)
-
โลก หมายถึง ธรรมนิยาม 5
-
โลก หมายถึง สูญ หรือ ศูนย์ (สูญหายไป ; ศูนย์กลาง)
-
โลก หมายถึง โลกจินตา ที่เป็น อจินไตย
โลก ตัวที่ 10 นี้ร้ายนักมันวนอยู่นั่นแหละไม่ออกจากไปได้ โลกจินตา ที่เป็นอจินไตย
โลกจินตา หมายถึงห้วงแห่งความคิด Imagine นี่แหละ จินตนาการ พูดด้วยศัพท์เต็มรูป
อีกศัพท์คือโลกจินตา จินตนาการคือนามเพื่อการความคิดของจิต คิดมาเป็นรูปเป็นร่างก็เรียกว่า โลกจินตา เป็นรูปร่าง เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
โลกจินตาคือ อจินไตย ตัวที่ 4 เป็นตัวที่คิดเอาไม่ได้ง่ายๆ ต้องมีภูมิธรรมถึงจริงๆจึงจะรู้ว่า โลกจินตาคืออะไร ผู้จมในโลกจินตาน่าสงสาร
ผู้คงแก่เรียน learned man เป็น ปทปรมบุคคล เรียนศรัทธาในการศึกษา แต่ไม่เรียนเข้าไปถึงรายละเอียดของจิตเจตสิกรูปนิพพาน เรียนนะแต่ไม่รู้ เหมือนนกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำ
เรียน นกก็อยู่กับฟ้า เห็นฟ้า ปลาก็อยู่กับน้ำเห็นน้ำแต่ไม่รู้จักฟ้าไม่รู้จักน้ำ ก็วนอยู่ในฟ้า วนอยู่ในน้ำนั่นแหละนาน เป็น ปทปรมบุคคล
คือผู้ที่เรียนรู้ธรรมะพระพุทธเจ้ามาก็มากท่องจำได้ก็มาก ฟังมามาก ท่องจำได้ก็มาก กล่าวสอนพูดบอกอยู่สาธยายอยู่ก็มาก แต่ตัวเองไม่บรรลุมรรคผลเลยในชาตินั้น นี่ น่าสงสารมีอยู่ในปราชญ์ชาวพุทธเรา จมอยู่อย่างนั้นน่าสงสาร อาตมาพูดด้วยความจริงใจว่าน่าสงสาร ทำอย่างไรหนอ ท่านจะเลิกหยุดในความเป็น ปรปรมะ ทำอย่างไรท่านจะเลิกหลงอยู่ใน โลกจินตา
ทำไมจะรู้ว่าเราจะไปโลกจินตนาการ Imagine ไปถึงไหนหนอ บอกว่า Imagine ก็เข้าใจมีรายละเอียด เขาก็เข้าใจ แต่ไม่เข้าถึง ไม่ปฏิบัติให้บรรลุถึงเนื้อแท้เลย เข้าใจเข้าใจเข้าใจ ดีอยู่หน่อยที่เข้าหูแล้วเข้าใจ แต่ไม่เข้าถึงไม่บรรลุธรรม ไม่แทงทะลุรอบเป็นปฏิเวธธรรม
ไม่ปฏิบัติด้วย ปฏิบัติแต่ปฏิบัติอย่างมิจฉาทิฏฐิ ไม่ได้ปฏิบัติอย่างจรณะ 15 วิชชา 8 แต่ไปปฏิบัติอย่างเดียรถีย์ฤาษี คือ นั่งหลับตา หรือทำสมถะเท่านั้น แยกสมถะกับวิปัสสนาไม่ออก แยกไม่สำเร็จ ก็เลย หลงวน อยู่ในโลกแห่งพยัญชนะ อยู่ในโลกแห่งบัญญัติ อยู่ในโลกแห่งความคิด บัญญัติต่อบัญญัติ โอ้โห..อย่าไปเถียงเลยนะ ไม่ทันเลย อาตมาสู้ไม่ได้ รู้มาก โอ้..
สู่แดนธรรม… เขาขุดบ่อล่อปลาให้เราไปตกด้วย
พ่อครูว่า..บังเอิญไม่กินปลา ก็เลยปลอดภัย ไม่ตกหลุม
เริ่มต้น ตั้งแต่ โลก หมายถึงโลกจินตา อจินไตย คิดเอาไม่ได้ ต้องมาเริ่มต้นที่โลกที่ 1
-
โลก คือ ดวงดาว ดวงดาวนี้ หมายถึง ลูกกลมๆอยู่ในอวกาศ ลูกโลกที่เราอาศัยอยู่คือดวงดาว อยู่ในจักรวาลน้อยมี 9 ดวง ตามสัจจะเลย มันสัมพันธ์กันอยู่ 9 ดวง และมีพระอาทิตย์อีกดวงหนึ่ง อาศัยพลังงานสัมพันธ์กับพระอาทิตย์ดวงเดียวกันนี้ อันนั้นเป็นเรื่องทางฟิสิกส์ อาตมาไม่ต่อ มาต่อทางนามธรรม ทางธรรมะ
โลกอันที่ 1 หมายถึง ดวงดาว เราก็เข้าใจแล้ว
-
โลกหมายถึงพลังงาน ในโลกลูกหมุนมันก็มีพลังงาน ก็เริ่มซับซ้อน ถ้าโลกเป็นลูกที่มันหมุนอยู่ก็มีพลังงานในโลก พลังงานที่ซ้อนอยู่ในนั้น มีความร้อน แสง เสียง แม่เหล็กไฟฟ้าทางฟิสิกส์ก็อยู่ในนี้ทั้งหมด ในโลกนี้ เพราะฉะนั้นคนเราก็เอาความร้อนแสงเสียงแม่เหล็กไฟฟ้าเอาไปใช้ เพราะมันได้มาจากพระอาทิตย์เป็นตัวแม่เยอะ ความร้อน แสง เสียง แม่เหล็กไฟฟ้าส่งมา แค่นี้ก็ใช้ โอ้โห.. เอามาใช้เหลือเฟือเลย จนกระทั่งเกิดความรู้ความสามารถจะเดินทางไปสู่พระอาทิตย์ เขายังไม่อยากพูดเท่านั้นแหละ สักวันเขาจะกั้นความร้อนจากพระอาทิตย์ได้แล้วเขาจะเดินทางไปถึงพระอาทิตย์เลย อย่าไปว่าแค่ดาวอังคาร ดาวพุธ ออกจากดาวเคราะห์ 9 ดวงไปหาพระอาทิตย์เลย ก่อนอื่นเขาก็ไปหาพระจันทร์ก่อน เขาก็ว่าไปโลกพระจันทร์ได้แล้ว ก็จะไปดาวพระอังคารที่ไกลกว่า ก็ว่ากันไป
ซึ่งการคิดจะไปโลก โลกอย่างนั้นมันไม่จบหรอก เกิดมาอีกกี่ชาติก็ได้ไปเรื่อยๆ ก่อนคุณจะไปถึงพระอาทิตย์ คุณก็หมุนเวียนลงไปในนรกก่อน คิดไม่ได้แล้วก็ไปลงนรกแล้วก็เกิดมาใหม่ อจินไตย อาตมาเคยบ้าพวกนี้เคยรู้มา ที่พูดไม่ใช่หมายความว่าเราไม่รู้ แต่รู้มาก่อน อาตมาก็เคยโง่งมงายอย่างนั้น คิดฟุ้งซ่านไปกับทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไม่เคยคิด
เพราะฉะนั้นที่หลงเหลือทุกวันนี้มาจากเศษที่มันเคยคิดมาก่อนแล้ว แบบวิทยาศาสตร์เขาคิด ทุกวันนี้ เป็นของเก่าเหลือเศษๆเอามาใช้
มาเน้น นามธรรม แล้วเราจะรู้หมดเลย ทั้งโลกที่เป็นรูปธรรมทั้งหมด
เพราะฉะนั้นจะรู้จักพลังงาน เมื่อพลังงานในโลก
-
โลกคือสังขาร ก็เอามาปรุงแต่ง เริ่มต้นจะปรุงแต่งสามเส้ามีรูปนามแล้วก็ประธาน