650914 ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1WsHZe4ZirS6ube094RiohO2dWFClNTmj98brFPGOGQU/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1EOY1WDALRTf423_v-UQMxbf8VYC9lDBI/view?usp=sharing ดูวิดีโอได้ที่ https://fb.watch/fxxJkHDs0e/ และ https://youtu.be/LUopENZCDq4 พ่อครูว่า… วันนี้อาตมาไม่ได้ไปเทศน์รวมกันอยู่ตอนนี้ใช้เทคโนโลยี สมณะฟ้าไท… วันนี้วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก มีฝนตก เขาเลยป้องกัน สุขภาพพ่อครูให้พ่อครูเทศน์อยู่ที่ชั้น 4 ตอนนี้มีข่าวสมณะลาสิกขาไป 1 รูป คือสมณะคมเย็น และลาออกจากหมู่สงฆ์อโศกไปอีก 1 รูปคือ สมณะแสนจน ตอนนี้เขาให้เทียบ ระหว่างประยุทธ์อยู่กับทักษิณกลับมา อันไหนน่ากลัวกว่ากัน ถ้าพวกเราตอบก็คือทักษิณน่ากลัวมากกว่า ประยุทธ์อยู่ไม่น่ากลัว ช่วยเหลือประชาชน ได้มากกว่า แต่ทักษิณอยู่นี้จะน่ากลัวไม่ใช่น้อย คือ คนที่ยังไม่ได้เลิกวิถีชีวิตแบบคนโกง ไม่มีศีลธรรมก็ทำลายมนุษยชาติ พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ยึดอำนาจ แต่มารับช่วงต่อจากการ ปฏิวัติประชาชน คนก็ไม่ค่อยเข้าใจ ประเทศไทย มีเชื้อประชาธิปไตยโลกุตระ พ่อครูนำมา ปลูกฝังลงในประเทศไทย พ่อครูว่า… คุณก็ตกข่าว ก็คือ ไม่โฆษณาให้แก่ ชาวค่ายอุโบสถศีล ออนไลน์ .. ขอเชิญทุกท่านร่วมเข้าค่ายอุโบสถศีลออนไลน์ ครั้งที่ 10 มี “ปัญญา” เป็นพ่อ สร้างเสริมก่อ “วิชชา” วันศุกร์ที่ 16 – อาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2565 สมัครง่ายๆ โดยการแสกน QR Code จากหน้าจอ เพื่อเข้าร่วมกลุ่มไลน์โอเพ่นแชท เมื่อเข้ากลุ่มแล้ว ท่านจะได้รับรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ จากผู้ดูแลกลุ่ม อย่ารอช้า รีบสมัครเลย!! _ วันนี้เวลา 08.24 น. ได้ส่งข้อความมาถึงปัจฉาสมณะว่า ผมสมณะแสนจน สรณีโย ขอลาออกจากสมณะอโศก แต่ยังเป็นพระสงฆ์หรือนักบวชในศาสนาพุทธอยู่ และจะเปลี่ยนรูปแบบไม่ให้เหมือนสมณะอโศกและไม่ให้ผิดกฎหมาย ขอกราบลาพ่อครูและหมู่สงฆ์ ที่ผ่านมา 40 ปี ผมได้รับประโยชน์จากพ่อครูและชาวอโศกมากมายสุดที่จะคณนา บุญคุณมหาศาลนี้ผมจะไม่มีวันลืม และจะยังคงปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธเจ้าและชาวอโศกตลอดไป สิ่งใดที่ผมผิดพลาดบกพร่องไป ก็ขอให้พ่อครู สมณะ สิกขมาตุ และญาติธรรมชาวอโศกทุกท่านให้อภัยและอโหสิกรรมให้แก่ผมด้วย ถือว่าผมได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว เหมือนสมณะและสิกขมาตุบางรูปที่มรณะภาพไป ผมขออนุญาตกล่าวลาเพียงเท่านี้ ขอกราบลาพ่อครูและสมณะทุกรูป ขอเจริญธรรมเจริญอภัยสิกขมาตุและญาติธรรมทุกๆท่าน วันพุธที่ 14 กันยายน 2565 ครูบาเฮง สรณีโย _สมณะแก่นหล้า ได้ส่งข้อความมาในไลน์กลุ่มสมณะว่า กราบเรียนพ่อครูอุปัชฌาย์อาจารย์และหมู่สมณะครับ เมื่อคืนนี้วันที่ 13 กันยายน 2565 สมณะคมเย็น ถามวโร ได้มาขอลาสิกขากับผมเวลา 22:20 น. เช้านี้ได้เปลี่ยนรูปแบบเป็นฆราวาสเรียบร้อยแล้วครับ บอกว่าเดี๋ยวญาติจะมารับกลับบ้าน พ่อครูว่า… SMS วันที่ 12 กันยายน 2565 _สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ ลูกมีความเห็นในด้านของการให้ประชาชน ว่าระหว่างนายกประยุทธกับ อดีตนายกทักษิณ เห็นว่านายกประยุทธได้ให้วัตถุ และให้คุณธรรมแก่ชาติประชาชนคนไทยอย่างมากมายมหาศาล และเป็นการให้อย่างแท้จริงเพราะ เสียสละ ซื่อสัตย์ สุจริตต่อชาติ แต่อดีตนายกทักษิณให้ประชาชนยังไม่มากเท่านายกประยุทธ์ และเป็นการให้ที่ ไม่แท้ ไม่จริง เพราะทุจริตโกงชาติมหาศาล น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูว่า…นี่ก็เป็นคอมเม้นอยู่ในสังคม อาตมายังไม่ขอวิจารณ์อะไรมากมาย อธิษฐานบารมีแบบพระพุทธเจ้าคือเช่นไร _มั่นใจพุทธ บุญเสร็จ · น้อมกราบนมัสการพ่อท่าน ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง ลูกได้เปิดอ่านใน ธรรมพุทธสุดลึก ว่าด้วยเรื่องของบารมี 10 ขอโอกาสกราบเรียนถามว่า “อธิษฐานบารมี” ในแบบที่พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญนั้น รายละเอียดเป็นประมาณไหนหรือเจ้าค่ะ 🙇🏻🙇🏻🙇🏻 พ่อครูว่า…ก็คือการตั้งจิตที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ตั้งจิตที่จะเป็นคนดี ตั้งใจที่จะเลิกสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่เป็นของไม่ดี ตั้งจิตที่จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ที่เราเห็นว่าควรจะทำ อะไรอย่างนี้เป็นต้น ก็เป็นการตั้งจิต คนเราต้องมีการตั้งจิต ตั้งทิศทาง ตั้งเป้าหมายอะไรไว้ซะก่อน เสร็จแล้วก็ลงมือหาเหตุผล หาเหตุหาปัจจัย ที่จะเป็นองค์ประกอบที่ใช้เป็นไปตามที่เราตั้งจิตนั้น ที่เราตั้งใจหรือเราอธิษฐาน การอธิษฐานในศาสนาพุทธ จึงไม่ใช่ตั้งจิตอธิษฐานและก็ขออ้อนวอน ขอจากอะไรที่ประทานมาให้ ยกมาให้หามาให้ ไม่ใช่ เราต้องทำเองทั้งนั้น แม้แต่อธิษฐานจิต อธิษฐานบารมีก็เป็นการตั้งจิตของเราเอง ตั้งจิตแล้วก็ปฏิบัติเอง ประพฤติหาเหตุผล หาเหตุปัจจัยต่างๆ ที่จะทำให้เกิดผลตามที่เราต้องการ ที่เราตั้งจิตอธิษฐานไว้ เช่น ต้องการเป็นคนดี ต้องการเลิกเนื้อสัตว์ ต้องการจะปฏิบัติอย่างที่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่ที่สุดต้องการบำเพ็ญเพื่อที่จะบรรลุธรรมเป็นอรหันต์ บำเพ็ญเพื่อจะบรรลุธรรมเป็นพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้าถึงขั้นนั้นทีเดียว อย่างนี้ก็คืออธิษฐาน พอเข้าใจนะว่าเป็นการตั้งจิตแล้วก็ทำตามที่เราตั้งจิตนั้น _Nomapai Penparsertsith น้อมอภัย เพ็ญประเสริฐสิทธิ · กราบนมัสการค่ะ เมื่อวาน โชคดีได้ฟังธรรม จากหลวงปู่ ในมุมที่ยังไม่เคยได้ฟัง ละเอียดมากค่ะ เมื่อจันทร์ที่ 12 ก.ย. 65 รายการตุ้มตะลุ่มตุ้มม้ง พ่อครูว่า…เรื่องความเป็นกลางจะต้องอธิบายอีก เมื่อถึงเวลาวาระ ตั้งชื่อให้ญาติธรรม ป่ารุ่ง ออกอากาศ _Wanawut Sirisakorn (วนวุฒิ ศิริสาคร) · กราบนมัสการพ่อครูด้วยเคารพด้วยสุดเศียรเกล้า กระผมรู้สึกว่าตัวเองคงมีกุศลบารมีเก่าที่ติดตัวมาบ้างจึงทำให้ได้มาพบกับพ่อครูและชาว อโศก ก่อนนี้กระผมยังไม่สัมมาทิฏฐิเวลาไปวัดทำบุญไหว้พระก็จะอธิษฐานขอพร แต่พรที่กระผมขอมิใช่ลาภยศสรรเสริญอื่นใด กระผมมักจะขอให้มีพลังสติปัญญาที่จะเข้าใจปฏิบัติตามคำสอนของพุทธเจ้าให้สำเร็จและ เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต จนไม่นึกคิดว่าช่วงชีวิต เหตุปัจจัย และเหตุการณ์ในชีวิต ทำให้กระผมถึงรอบที่จะได้มาพบกับคำสอนแบบพุทธแท้ๆอย่างชาวอโศกและได้มาฟังธรรมะจากสัตบุรุษอย่างพ่อครู ยิ่งฟังยิ่งเข้าใจ ยิ่งลึกซึ้งไปตามลำดับๆ อย่างที่พ่อครูได้เทศน์ไว้ กระผมตั้งใจว่าเมื่อถึงวาระที่เหมาะคงมีวาสนาได้ไปคบคุ้นอยู่กับหมู่กลุ่มอย่างชาวอโศกบ้าง จะเป็นกุศลและบารมีอย่างสูงต่อชีวิตกระผมครับ ปล.แม้ยังไม่มีโอกาสได้ไปคบคุ้น กระผมก็รู้สึกประหนึ่งเหมือนเป็น “ญาติธรรม”ไปแล้วผ่านการติดตามทาง Facebook , YouTube ถึงขั้น “แฟนพันธุ์แท้” เลยที่เดียวครับ สุดท้ายนี้ถ้ากระผมยังพอมีวาสนาอยู่บ้างอยากจะขอเมตตาจากพ่อครูช่วยตั้งชื่อทางธรรมให้กับผมครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่งครับ ✨🙏✨ พ่อครูว่า…นี่ก็แสดงถึงการก้าวหน้าของภูมิปัญญา เจริญ เห็นความจริงชัดเจนในความจริง เรื่องปัญญาความรู้ความฉลาดชนิดที่เป็นปัญญา มันเป็นความลึกซึ้งที่เข้าไปเห็นสัจธรรม ที่เป็นรายละเอียดของพฤติกรรม พฤตินัย อันลึกซึ้ง โดยเฉพาะลึกซึ้งไปในทิศทางของโลกุตระ เป็นความลึกซึ้งที่ทวนกระแสของโลกีย์ ซึ่งโลกีย์เข้าใจไม่ได้ง่ายๆ เพราะมันทวนกระแสใจที่จะรับรู้ มันต้านอยู่มันแย้งอยู่ มันทวน ไม่ได้ไปตามแนวที่เขาเป็นไปกันอย่างสบายๆมันไม่ใช่ เป็นเรื่องยากที่จะวิ่งเข้าไปได้ เพราะเขายึดมั่นถือมั่นของเขาอยู่ ก็ตั้งใจดีแล้วล่ะ ดี มันเป็นความจริง ความรู้สึก ความรู้ที่เป็นของตนเอง มันเข้าใจเองลึกซึ้งเองซาบซึ้งเอง อย่างนี้แหละเป็นของจริงไม่มีปัญหา ก็ตั้งกันทางอากาศเลยนะ คุณชื่อว่า วนวุฒิ อาตมาก็เลยตั้งให้เป็นชื่อว่า “ป่ารุ่ง” วนะแปลว่าป่า วุฒิ แปลว่าเจริญ ก็ตั้งชื่อให้ว่า ป่ารุ่ง ชีวิตจากดาราโลกียะถึงโลกุตระของพ่อครู _หลวงตาแด่ธรรม ธัมมรักขิโต : พ่อครู หัวใจประชาธิปไตยไม่บังคับใคร ปกครองด้วยพระธรรมวินัย สาธุ พ่อครูว่า…แน่นอน อาตมาไม่ศรัทธาเรื่องการบังคับเลย ชัดเจนในเรื่องการบังคับ ว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับอาตมา แต่คนอื่นเขาอาจจะต้องใช้อยู่บ้าง ใช้การบังคับก็ต้องใช้อยู่บ้าง แต่อาตมา ในชีวิตนี้อาตมาว่าอาตมาไม่ได้บังคับใครเลย ให้อิสรเสรีภาพเต็มที่ มันเป็นการพิสูจน์ว่า อาตมาพยายามจะให้ความรู้ ประพฤติให้เห็น พูดให้ฟัง คิดอย่างไรก็อธิบายทุกอย่างให้เข้าใจต่างๆนาๆ เสร็จแล้วเขาก็ไปตัดสินเอง แล้วก็ไปประพฤติเอง ได้เอง เป็นเอง อาตมาจึงได้คนชนิดที่ทุกคนมีอิสรเสรีภาพหมด ไม่ประเล้าประโลม ไม่หลอกลวง ไม่โฆษณาเพื่อชี้ชวนให้อยากได้ มีแต่พูดผ่าๆ แรงๆ ตรงๆ เปรี้ยงๆ มันแข็ง อาตมาจะเทศน์แข็ง แล้วก็รับเอาเอง ผู้ที่ได้ฟังก็รับรู้เอาเองตัดสินเอาเอง อาตมาจึงได้คนที่มาเป็นชาวอโศกเป็นแก่นๆเนื้อๆ เพราะว่า เป็นวิธีคัดเลือกของอาตมา เพราะอาตมามีความเห็นว่า ธรรมะโลกุตระนี้มันยากมาก เพราะฉะนั้นจะปลูกฝังลงเป็นแก่น จะต้องให้เป็นของจริงๆ คนจริงๆ มีบารมีจริงๆเข้ามาก่อน มาเป็นแก่นแกน มาเป็นกลุ่มแรก กลุ่มต้น เพื่อจะได้ช่วยกัน เข้ามารวมตัว โลกุตรธรรมมันสูญไปแล้ว ตามที่พระพุทธเจ้าสมณโคดมท่านทรงพยากรณ์เอาไว้ว่ามันจะเสื่อม ในอาณีสูตร แล้วมันก็เสื่อมจริงมาถึงยุคครึ่งพุทธกัปป์ 2,500 ปี จาก 5,000 ปี มันเสื่อมจริงๆ อาตมาพูดความจริงไม่ได้พูดเล่น อาตมาอุบัติขึ้นมาศาสนาพุทธมันเสื่อมมาก มันไม่เป็นศาสนาพุทธ แต่อาตมาเป็นบอร์นทูบี จะต้องเป็นอย่างนี้ต้องมาทางนี้แน่นอน อยู่ในทางโลกไป 36 ปี อายุ 36 ปี ก็จบ มันไปไม่ออกแล้ว ไปไม่ได้แล้ว ต้องมาทางนี้ มาทางธรรม แต่แรกเลยก็เคยเล่า เคยอธิบาย บันทึกไว้ก็มี อาตมาไม่ได้คิดอ่านจะมา กอบกู้ ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นโพธิสัตว์จะมากอบกู้อะไร เป็นแต่เพียงว่ามันเป็นสัจจะว่า มันหน่ายทางโลกมา ก็เลิกก็ทิ้งเลยไม่ไยดีทางโลกเลย ออกมา ตอนแรกก็ยังเป็นฆราวาสแต่งตัวเป็นฆราวาสโกนหัว นุ่งกางเกงขาสั้น ใส่เสื้อคอกลมสีขาวรองเท้าก็ไม่ใส่ เดิน แล้ว อาตมาเป็นดาราโทรทัศน์นะ ที่เป็นโทรทัศน์ช่องแรกของประเทศไทยเลยนะ อาตมาทำงานโทรทัศน์ ตั้งแต่ช่องแรก เปิด พ.ศ. 2498 พ. ศ. 2498 เขาเปิดมิถุนายน เดือนธันวาคมอาตมาก็เริ่มเข้าไปทำงาน อาตมาเรียนอยู่ที่เพาะช่าง อาจารย์สมจิตร สิทธิชัย ไปตามหาหนุ่มๆสาวๆ ตอนนั้น อาตมาก็ยังหนุ่มอยู่แน่นอน พ. ศ. 2498 อายุ 20 -21 ปี อาจารย์สมจิตรก็ไม่ได้เจตนาจะเอาอาตมามาหรอก ก็ไปตามในชมรมเยาวชน ซึ่งจะมีชมรม จะมาหาคนทำรายการเด็ก ก็ไปเจอน้องแดง นิภา ธรรมปรีชา ตอนนั้นอายุ 17 ปี เขาก็ชอบใจมากเลย ก็เลยชวนน้องแดง จะให้มาทำงานโทรทัศน์ ทำรายการเด็กเป็นพิธีกร น้องแดงนั้นศรัทธาอาตมามาก เชื่อถือนับถืออาตมามาก ก็มีข้อแม้กับอาจารย์สมจิตรว่า ถ้าจะเอาหนูมาต้องเอาพี่รักมาด้วย อาจารย์สมจิตรก็เลยยอมให้อาตมาติดมาด้วย เสร็จแล้วก็จะมาปั้นให้เป็นพิธีกร ก็ถามว่า ทำรายการเด็กจะทำอย่างไรดี อาตมาก็ช่วยคิด อาจารย์สมจิตรไม่ได้คิดว่าจะให้มาทำอะไรหรอก อาตมาก็บอกว่า เป็นรายการถามปัญหาตอบปัญหาสิ จะเอาเด็กรุ่นไหน เด็กรุ่น 7 -15 ขวบ ก็เอาปัญหาทางเข้าไปแล้วก็ให้รางวัลเป็นตุ๊กตาตุ๊กตาก็ได้ แล้วจะตั้งชื่ออะไร อาตมาก็ช่วยคิดอีก คนเก่งรุ่นจิ๋ว เขาก็ชอบใจ ก็เลยเป็นรายการเด็ก รายการแรกของประเทศไทย เกิดขึ้น ก็เปิดให้น้องแดงเป็นพิธีกร ทีนี้ จะไม่เอาอาตมาก็ไม่ได้ เงื่อนไขจะต้องให้เอาอาตมาไปช่วย ตอนแรกอาจารย์สมจิตรจะให้ช่วยอยู่นอกจอ น้องแดงก็บอกว่าไม่ได้ จะให้เข้าไปช่วยในจอ อาจารย์สมจิตรก็ไม่ได้ศรัทธาอาตมาเลย อาตมาก็เลยตามใจ เสร็จแล้วก็ให้เข้าไปช่วยกัน น้องแดงก็เป็นพิธีกรอยู่ 1 ครั้ง 2 ครั้ง แค่นั้นเอง บอกว่าไม่ไหวหรอกพี่รัก พี่รักเอาไปเถอะ อาจารย์สมจิตรก็ไม่ยอมอีกแหละ เขาก็รู้อาตมาแต่งเพลงผู้แพ้ แต่งเพลงชมรม เพลงดรุณวอลซ์ อาตมาแต่งส่งเพลงเข้ามาก่อน ตัวยังไม่เข้ามา โดยอาตมาใช้นามปากกาว่า เกื้อปรียา โดย อ.องุ่นมีชื่อว่า ปรียา อาตมาเลยเอาไปเป็นนามปากกา เขาก็ใช้เพลงอาตมาร้องไป เสร็จแล้วเขาก็อยากจะเจอตัวผู้แต่ง อาตมาก็เลยถึงวาระ ชมรมวันใดวันหนึ่ง อาตมาก็เลยไปปรากฏตัวอยู่ในชมรม ที่เขานัดเป็นเวลากัน อาตมาก็ไปปรากฏตัวตอนอายุ 21 ปีแล้ว ก็โข่งแล้ว น้องแดงก็ 17 ไปปรากฏตัว อาตมาก็ยังนุ่งกางเกงขาสั้นใส่เสื้อเชิ้ตไปธรรมดา ใส่แว่น คนเขาก็ ยอมรับนับถืออยู่เหมือนกัน เสร็จแล้วก็อยู่ในชมรมนั้น จนกระทั่งอาจารย์สมจิตรไปเจอ แล้วพาน้องแดงมา อาตมาก็ติดมาด้วย ทำได้ 2 ครั้งน้องแดงก็ไม่สบาย บอกว่าทำไม่ไหวแล้วพี่รักทำ อาตมาก็บอกอาจารย์สมจิตร อาจารย์สมจิตรก็ยังไม่ยอมให้อาตมาเป็นอีก ก็ไปเอาพี่อู๊ด หม่อมราชวงค์พิศวาส นาควานิช แม่ของ ผบ.ทบ. ก็ให้พี่อู๊ดมาเป็นแทนน้องแดง อาตมาก็ยังเป็นผู้ช่วยอยู่เช่นเดิม พี่อู๊ดเขาก็ไม่ถน้ด อาจารย์สมจิตรสิ้นทางเลี่ยงไม่ออกก็เลยให้อาตมาเป็นพิธีกรเอง จัดการเอง คนเดียวเลย อยู่ในรายการ อาตมา one man show เลย พออาตมาทำ มันก็ดูดี หนังสือพิมพ์ลงข่าวเลย โอ้โห ดีจังเลย มันเป็นธรรมชาติ เขียนเชียร์อาตมาในหนังสือพิมพ์ อาตมาก็ไม่รู้ว่าเขาเขียนเชียร์ เมื่อเขาเขียนเชียร์เท่านั้นแหละก็ได้เรื่องเลย ตั้งแต่วันนั้นมา อาตมาก็เลยต้องทำงานโทรทัศน์ ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 3 เท่านั้นอยู่โรงเรียนเพาะช่าง อาตมายังถีบจักรยานทำงานส่งหนังสือพิมพ์อยู่นะ ตอนนั้น แต่งเพลงผู้แพ้แล้ว เสร็จแล้วมาทำงานโทรทัศน์ตอนแรกก็ยังส่งหนังสือพิมพ์อยู่ จนกระทั่งพอได้รายได้จากโทรทัศน์ ชักมีคนรู้จัก จักรยานราเล่ย์ ขอจากลุงหมอนายแพทย์สุรินทร์ เขาใช้มาตั้งแต่เป็นนายแพทย์ระดับต้นจนเป็นผู้อำนวยการ จนมีรถประจำตำแหน่ง เขาก็ใช้จักรยานคันนี้มา ขอเขาไป เขาก็ส่งมาทางรถไฟ อาตมาก็เลยใช้ส่งหนังสือพิมพ์ตามบ้านตามตลาด ก็เรียนหนังสือด้วยการส่งหนังสือพิมพ์ อาตมาทำอะไรเป็นคนบุกเบิกเริ่มต้นใหม่ๆเยอะหลายอย่างมากทีเดียว อาตมาเป็นดีเจคนแรกของประเทศไทย ก็ไม่มีใครรู้หรอก ตั้งแต่สมัยวิทยุ วิทยุพึ่งมี 1 วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ช่องวิทยุ 1 ปณ 3 วิทยุรักษาดินแดนเกิดขึ้นอีก ห้องส่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสร็จแล้วอาตมา คลุกคลีทางด้านนี้ ทำวิทยุทำละครวิทยุ ลุงเหงี่ยมพี่เป็นผอ.อยู่วิทยุ อาตมายังเด็กอยู่นะ ตอนนั้นยังไม่ถึง 20 ปีจนกระทั่งถึง 20 กว่า เขาก็เชื่อมืออาตมา อาตมาจะทำละครวิทยุให้ก่อนทั้งนั้น จนกระทั่งรักษาดินแดนเกิดขึ้น ตอนนั้นอาตมาพักอยู่กับพี่ล้วน ควันธรรม ตอนนั้นไม่มีที่อยู่ก็เลยไปอยู่กับพี่ล้วน วาสนาอาตมาก็จะไม่ได้เป็นนักร้อง เขาก็เอาไปเป็นคนทำครัว เป็นคนเลี้ยงลูกเขา อาตมาก็ทำไป พอดี อาตมามีที่อยู่แล้วด้วย แม่ก็โทรมป่วยหนัก แล้วทรุดไม่มีเงินส่งอาตมาแล้ว อาตมาก็จำเป็นจะต้องอาศัยอยู่กับคุณล้วน รับใช้เขา ซักผ้าให้เขา เลี้ยงลูกให้เขา เจ้าแหลมเจ้าหลิม ซึ่งตายไปหมดแล้ว ส่วนเจ้าหมึกยังอยู่ วิโรจน์ ควนธรรม แต่วิโรจน์เป็นลูกอีกเมียหนึ่ง อาตมาเมื่ออยู่กับคุณล้วน คุณล้วนได้สปอนเซอร์ จากนาฬิกา Rolex ก็โฆษณาทางวิทยุ ก็ให้อาตมา ไปเป็น แต่ก่อนไม่ได้เรียกดีเจ ก็ไปบรรยาย เป็นคนแรกเลย บรรยายแล้วก็มีโฆษณา โฆษณาสินค้า ที่วิทยุรักษาดินแดน ร.ด เอาแผ่นเสียงของคุณล้วนกับเมียแก แม่นายหลิม สะอาด นิลอร่าม เอาไปเปิด อาตมาก็แต่งกลอนบรรยายว่าจะมีเพลงนี้คนนี้ร้อง บรรยายเป็นกลอน เสร็จก็เปิดเพลง เปิดเพลงเสร็จก็มาพูดแล้วบรรยายเป็นกลอนนำเพลงอีก แต่ก่อนนี้เยอะ มีกลอนนำเพลงเยอะ อาตมาแต่งโคลงแต่งกลอนมาตั้งแต่อายุ 11-12 แต่งฉันทลักษณ์มาแต่เก่าแก่ อาตมาถึงเป็นดีเจคนแรกของประเทศไทย ที่นำทำอันนี้ขึ้นมา อย่างนี้เป็นต้น มาถึงโทรทัศน์ อาตมาออกโทรทัศน์มาประจำ จนทำรายการเพิ่ม จากคนเก่งรุ่นจิ๋ว คนกล้านักกีฬาน้อย และอีกหลายรายการ เป็นคนทำรายการเด็กคนแรกในประเทศไทย จนกระทั่งอาตมาเรียนจบปี 5 จากโรงเรียนเพาะช่าง จบปวส. จบแล้วก็ยังทำงานหาเงินลำไพ่ได้จากโทรทัศน์ เสร็จแล้วก็มีโรงเรียนต่างๆเขาชอบ เพราะว่าอาตมาอยู่กับเด็กอยู่กับโรงเรียน นักเรียนกับเยาวชน โรงเรียนต่างๆก็ชอบ อาตมาก็มี Talent ทางด้านแต่งเพลง ก็ไปแต่งเพลงให้โรงเรียนต่างๆประกวด งานกาชาด งานศิลปหัตถกรรม เขาเอาเด็กโรงเรียนต่างๆประกวดได้ถ้วย อาตมาก็ไปแต่งเพลงให้โรงเรียนต่างๆโรงเรียนเบญจมราชาลัย โรงเรียนสตรีวิทย์ โรงเรียนสตรีประเทืองวิทย์ แต่งให้ ซ้อมให้ คัดเลือกเด็กมาซ้อมร้องแล้วก็ไปแข่ง แล้วชนะได้ถ้วยมาเยอะแยะ อาตมาเลยยิ่งมีกู๊ดวิลทางด้าน กับโรงเรียนต่างๆเยอะ อย่างน้องๆอาตมาลูกคุณลุง อาตมาไม่ต้องให้สอบเข้าหรอก ฝากเข้าโรงเรียนนั้นโรงเรียนนี้สบายมาก มันเป็นเอกสิทธิ์ เพราะว่าเราช่วยเขา เขาก็เลยช่วยเราบ้างอย่างนี้เป็นต้น แต่ว่าเป็นอิทธิพลก็ไม่เชิง เทคนิคบางมด เขาชอบเพลงแม่มูลที่ทำกับคุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ ตอนนั้นได้เงินอยู่สิ มาทำละครต่อต้านคอมมิวนิสต์ ฟังวิทยุ ก็ร่วมมือกับคุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ ทำรายการภาคอีสานภาคกลาง อาตมาก็จัดทีมภาคอีสานสมาคม เอาพวกเราไปจัด ส่วนทีมภาคกลางก็มีอีกทีมนึง อาตมาก็รวมอยู่ในทีมภาคกลางด้วย มีคนแสดงละครวิทยุต่อต้านคอมมิวนิสต์ แต่ก็แต่งเรื่องไม่ทัน เขียนเรื่อง แต่งเพลงด้วย อย่างเพลงแม่มูลหรือแม่จ๋า เป็นเพลงต่อต้านคอมมิวนิสต์ด้วย มันก็ติดตลาดคนก็ชอบ จนกระทั่งเทคนิคบางมดชอบ มาขอให้อาตมาแต่งเพลงให้แก่บางมด อาตมาก็แต่งให้อีก เพลงไม่ลืมบางมด ซึ่งไม่ใช่เพลงมาร์ช นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ สมณะฟ้าไท… เป็นประวัติของพระโพธิสัตว์ที่คนบันทึกเอาไว้ให้ศึกษาเป็นข้อมูล พ่อครูกว่าจะเข้ามาทางศาสนาก็มาทำงานอื่นมามาก เดี๋ยวนี้เด็กนักเรียนนักศึกษาให้มีประสบการณ์มากกว่าเอาแต่ทางตำรา _Jaitham Sittinawin (ใจธรรม สิทธินาวิน) · กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพยิ่งค่ะ วันนี้ได้ดูคลิป 640909 144 1 ไขมิติธรรม บวรภูผาฟ้าน้ำ ตอน รำลึกถึงคุณพรพิชัย เจียมกัลชาญ ครบรอบ ๓๐ ปีการเสียชีวิต รู้สึกซาบซึ้งในการปฏิบัติของคุณพรพิชัยมากค่ะ คุณพรพิชัยเสียชีวิตปี ๒๕๓๔ ทำให้ดิฉันได้มีแบบอย่างเรื่องการกินอาหาร และได้เริ่มฝึกทานมื้อเดียวตั้งแต่นั้นมาค่ะ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องยากของดิฉันค่ะ แต่ก็ทำได้แล้วค่ะ พ่อครูว่า… อนุโมทนาสาธุด้วยนะ พูดถึงคุณพรพิชัย พรพิชัยก็เป็นบารมีเก่าของเขามามาก ซึ่งเป็นคนมีคุณธรรม แรกๆ ยุคโน้นสมัย พ.ศ. 2530 กว่า เพิ่งจะผ่านวิกฤต พ.ศ. 2532 เถรสมาคมเล่นงานเราแย่เลย ตอนนั้นพรพิชัยเขาก็เสียชีวิตเพราะไปขับรถ แล้วรถก็อุบัติเหตุทับตัวเขาเอง ซึ่งก็เป็นวิบากของเขาเอง มันก็พูดยากเป็นเรื่องวิบากกรรมของเขา ซึ่งเป็นคนที่ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติได้ดีมากเลย จะเป็นตัวอย่างที่ทุกคนยังซาบซึ้งใจ มีภาพประวัติเอามาเปิดให้ดู อะไรกันพอสมควร สมัยโน้นเราก็ยังไม่มีโทรทัศน์อะไรเก่งกาจ เท่าไหร่ ก็เป็นตัวอย่าง ถ้าจะพูดไปแล้ว อาตมาก็จำไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ ก็ต้องอาศัยที่เขาบันทึกไว้จะดีกว่า พรพิชัย ก็ขอชมเชยไว้เท่านี้ อาตมาจำได้ไม่เท่าไหร่ การปฏิบัติธรรมโดยฟังธรรมจากพ่อครูและสมณะสิกขมาตุสำคัญอย่างไร _ซึ้งซื่อ วิเชียร : กราบนมัสการพ่อท่านด้วยสุดเศียรเกล้าครับ คือการฟังธรรมจากพ่อท่าน และสมณะสิกขมาตุมีความจำเป็นแค่ไหนกับการปฏิบัติศีล ปฏิบัติธรรมครับ ขอสัมมาทิฏฐิจากพ่อท่านด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ พ่อครูว่า… ฟังสัมมาทิฏฐิจากอาตมาดีๆ ถามว่าจำเป็นแค่ไหน จำเป็นที่สุด ยิ่งกว่าอะไรใดๆทั้งหมดในความเป็นชีวิต โปรดฟังอีกครั้ง การปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรมนี้ จำเป็นแค่ไหน จำเป็นที่สุด ของชีวิตคนทุกคน ถ้าใครๆไม่เข้าใจ ไม่ปฏิบัติศีลไม่ปฏิบัติธรรม ชีวิตจะขึ้นๆลงๆ ชีวิตจะตกต่ำได้ดี ได้ดีตกต่ำ หมุนเวียนแล้ววนเวียนอีก อยู่ในโลกีย์อยู่อีกนาน มาก นานเท่านานเลย โดยเฉพาะศีลธรรมที่เป็นโลกุตระของพระพุทธเจ้า จริง มีศีลธรรมของศาสนาอื่นๆอีกหลายศาสนาแต่เป็นโลกียธรรมทั้งนั้น มีศาสนาพุทธเท่านั้น ที่เป็นโลกุตระ โลกุตรธรรม หมายความว่า เป็นธรรมะของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ แล้วพระพุทธเจ้านี้เป็นผู้ที่ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ตรัสรู้โลกุตรธรรมนี้แหละ ซึ่งเป็นศีลธรรม ธรรมะที่แตกต่างจากโลกียะคนละขั้วกัน ทวนกระแสกัน Contrast กัน หรือออฟโพสิทกัน ตรงกันข้ามกันเลย ทวนกันเลย นี่คือ ธรรมะของพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในโลกและเอามาประกาศ คนรู้ยาก ไม่ใช่เข้าใจได้ง่ายๆ เพราะมันทวนกระแส ไม่ไปตามน้ำ แต่ทวนน้ำ ก็ต้องยาก แต่ มันมีความจบ มีความบริบูรณ์ มีความสัมบูรณ์ อะไรจบ อะไรบริบูรณ์ อะไรสัมบูรณ์ คือ ความเป็นคน คุณเกิดมาเป็นคนแล้ว คุณจะมีชีวิตเป็นคนต่อไป เป็นชีวิตที่บรรลุธรรมของโลกุตระแล้ว จบ จบมี 2 ขั้น ขั้นที่ 1 จบแบบโลกียะ แล้วเป็นแบบโลกียะที่วิเศษด้วย คือ โลกุตระ เป็นโลกียะที่เป็นโลกุตระ หรือเป็นอาริยธรรมที่แท้จริง หมายความว่า แม้จะเป็นแบบโลกียะที่เขาเป็น เช่น เขาปฏิบัติดี ไม่ปฏิบัติชั่ว ละเว้นชั่วประพฤติดี ชั่วดีเป็นโลกียะ พระพุทธเจ้าก็มีธรรมะของท่าน สอนให้คนทำดีละชั่ว ดีชั่วไม่เที่ยง ดีชั่วเป็นสมมติ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบกาละ เทศะ ฐานะ สมมุติ จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ไม่ได้หมายความว่าเท่าเดิม คงเดิม เป็นอย่างนั้นไปตลอดไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 1 + 2 เป็น 3 2 + 2 เป็น 4 ตายตัว ไม่ใช่ ขึ้นอยู่กับ กาละ เทศะ ฐานะ กาละ คือ เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ เทศะ คือ สถานที่ องค์รวมของพื้นที่นั้นๆ ฐานะคือตัวบุคคลเอง จะมีภูมิธรรม จะมีความรู้ความสามารถเท่าไหร่ที่จะมาร่วมกับ สามเส้า กาละ เทศะฐานะ จึงจะมาปฏิบัติธรรมได้สมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ครบ กาละ เทศะ ฐานะ ไม่สมบูรณ์แบบ ถ้าครบ กาละ เทศะ ฐานะ สมบูรณ์แบบ มาพูดที่คุณซึ้งซื่อบอกว่า การฟังธรรมจาก พ่อครู สมณะ สิกขมาตุ จำเป็นแค่ไหนกับการปฏิบัติธรรม อันนี้ก็อีกประเด็น ฟังจากอาตมาหรือฟังจากสมณะ สิกขมาตุ ซึ่งจะเป็นธรรมะที่เป็นสามัญญตา เป็นศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา แปลว่า เป็นความเห็นไปในทางเดียวกัน อธิบายธรรมะหัวข้อก็จะไปทางเดียวกันไม่ขัดแย้งกัน เป็นหนึ่งเดียวกันไป แต่มีคนละระดับเท่านั้นเอง แต่ไปในทางเดียวกัน ทั้งข้อศีล ทั้งความเห็น ทั้งทิฏฐิ ทั้งศีล เป็นไปในทางเดียวกัน ถามว่าจำเป็นแค่ไหน ตอบว่า จำเป็นที่สุด เพราะว่าแนวทางของอาตมาก็ดี ของสมณะของสิกขมาตุก็ดี เป็นแนวทางโลกุตระที่เป็นสัมมาทิฏฐิที่สุดแล้ว เป็นหนึ่งเดียว ขอย้ำ เป็นหนึ่งเดียว เป็นที่สุดเป็นหนึ่งเดียวแล้ว ในปัจจุบันนี้อาตมาขอรับประกัน ตัวเองเป็นผู้รับประกัน แล้วผู้อื่นที่ปฏิบัติธรรมบรรลุได้ ก็รับรองช่วยอาตมา ผู้ที่เป็นชาวอโศก ชาวอโศกจะรับรองอาตมา แม้แต่ผู้ที่ยังไม่เข้ามาเป็นชาวอโศกที่ เข้าใจแล้วก็ยังมีที่จะรับรองว่า อาตมาเป็นโลกุตระธรรมของพระพุทธเจ้าในยุคนี้ ผู้ที่เข้าใจเชื่อถือก็จะเชื่อว่าอาตมาเป็นผู้มากอบกู้โลกุตรธรรม ศาสนาพุทธต้องเป็นโลกุตรธรรม ใช้คำว่า ต้อง Have to เลยนะ จะต้องเป็นโลกุตระ ถ้ายังไม่เป็นโลกุตระ ธรรมะนั้นยังไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าทีเดียว เป็นโลกียะก็เป็นดีชั่วซึ่งไม่เที่ยง ดี ชั่ว นั้นไม่เที่ยง อาจจะพยายามพากเพียรทนปฏิบัติดีให้ได้แน่นอนคงทนนาน ได้ อุตสาหะวิริยะเพื่อจะให้ยืนยาวปฏิบัติที่ให้ยืนยาวก็ทำได้ แต่ไม่เที่ยง เพราะไม่เข้าใจกรรมวิบากที่เป็น อจินไตย ไม่รู้จักการเวียนวน ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย คนนี้ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายเป็นล้านๆชาติ เพราะฉะนั้นในเรื่องของความจำหรือการบันทึก การเกิดการตายหรือชีวิตที่จะผ่านไปเรียกว่า บุพเพสันนิวาส เป็นการระลึกความเป็นไปของตัวเองก่อนเก่า มันจำไม่ได้หมดหรอก เพราะฉะนั้นมันจะยาวนานไปก็ลืมแล้ว แล้วก็นึกว่าใหม่ไป มันก็ไม่เที่ยง แล้วก็เปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย ตามสมมุติ แต่พระพุทธเจ้าของท่านนั้นเที่ยง แม้ทำดี ปฏิบัติดีอย่างโลกียะ ก็ดีอย่างเที่ยง ไม่ได้มีการตกต่ำเป็นธรรมดา อวินิปาตธรรม นิยตะ เที่ยง สัมโพธิปรายนะ มีแต่ไปสู่ที่สูงที่สุดถ่ายเดียวอย่างนี้เป็นต้น ธรรมะโลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าจึงเป็นธรรมะที่พิเศษ วิเศษ เกินกว่า โลกียะ เกินกว่าศาสดาเทวนิยมทั้งหลาย ที่ท่านก็รู้ของท่านตรัสรู้ของท่าน แล้วท่านก็เอามาสอน เป็นศาสนาของท่าน แต่ของพระพุทธเจ้านี้ ชัดๆจริงๆก็คือ อย่างที่ศาสดาเทวนิยมทั้งหลายรู้ พระเจ้าเคยเป็นหมดแล้ว ศาสดาแบบใดพระพุทธเจ้าก็เคยเป็นมาหมดแล้ว เกิดตายตายเกิด ไปเป็นจริงๆเลยนะ ไม่ได้หมายความว่า เชื่อเอา คิดเอาว่า ท่านเป็น ไม่ใช่ แต่ไปเป็นจริงๆ เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้มาพูดเอาแต่เฉพาะว่า อย่างนั้นฉันรู้ แต่ว่าฉันเคยเป็นมาแล้วด้วย ได้มาแล้วด้วย ทำอย่างนั้นทำมาแล้วได้มาแล้วด้วย เหมือนอาตมาหลายๆอย่าง อาตมายังไม่อยากพูดเกินไป เพราะโลกียะมันต้องเป็นมาก่อนรู้มาก่อน มันเป็นฐานสามัญของโลกียะ เมื่อมีฐานโลกียะแล้ว ถึงจะมีอีกอันหนึ่งเป็นโลกุตระ แปลกแยกแตกต่างไปจาก แต่แปลกแยกแตกต่างไม่ได้หมายความว่า แย่ลงแต่ดีขึ้นกว่า สูงสุดกว่า เช่นทำดีแล้วยังวนกลับไปชั่วอีก ของพุทธนั้นไม่เลย ได้แล้ว สัพพปาปสอกรณัง(ไม่ทำบาปทั้งปวง) กุสลสูปสัมปทา(ทำกุศลให้ถึงพร้อม) สจิตตปริโยทปนัง(ชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วจากกิเลส) ไม่ทำแล้วชั่วต่ำ ถ้ามีกรรมต่อไปมีแต่กรรมดีอย่างเดียว เจริญยิ่งๆไป จนไม่มีใครจะไล่กุศลธรรมที่เป็นสัมภาระวิบาก ที่สั่งสมในอัตภาพของแต่ละคน พระโพธิสัตว์จะมีกุศลสั่งสมไปจนใครไล่ไม่ทัน อาตมาเกิดมาในชาตินี้ไม่มีใครจะได้ทำได้ง่ายๆ เป็นสัจจะที่เกิดจากกรรมไม่ใช่เอาแต่พูด กัมมัสโกมหิ กัมมทายาโท กัมมโยนิ กัมมพันธุ กัมมปฏิสรโณ กัมมังสัตเตวิภัชติ กัมมุนาวัตตติโลโก โลกุตรธรรมของพุทธเจ้านั้นจบเลย เลิกสลายจิตมนุษย์เลย จิตวิญญาณ อัตภาพเลิกหมดเลย เปลี่ยนแปลงตัวเองไม่เอาแล้ว ดับ ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ตายแล้ว แยกธาตุตัวเองเป็น ดิน น้ำ ไฟ ลม ไปเลย นี่สุดยอด สุดยอดแห่งความสุดยอดเลย คุณบรรลุแล้วเป็นอรหันต์ สามารถทำจิตนิยามของคุณแยกธาตุ เป็นดินน้ำไฟลมเลย ก็ได้แล้ว แต่คุณยังไม่ยอมจบ คุณยังจะเกิดอีก ยิ่งจะตั้งจิตเป็นพระโพธิสัตว์อีก เป็นอรหันต์ แล้ว โพธิสัตว์ไปอีก จนกว่าจะสูงสุดไปถึงพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น สัจธรรมของพระพุทธเจ้านี้ สรุปอีกทีหนึ่งว่า เป็นคนเกิดมาแล้ว ไม่เอาสิ่งนี้ คุณจะวนเวียนอยู่ในนรก สวรรค์ แล้วสวรรค์มันก็เป็นของ เก๊ ไม่เที่ยงไม่แท้ ลมๆแล้งๆ เสพอารมณ์ สวรรค์มันคือ ของเก๊ เสพอารมณ์ กว่าคุณจะรู้ว่าอารมณ์มันเป็นอนัตตา มันเป็นมายา หลอก ไม่ง่าย ก็จะมีความเข้าใจที่เรียกว่าปัญญาเข้าใจชัดเจนว่า ไม่ยึดเลย วางปล่อย ซึ่งมันเป็นภูมิปัญญา เป็นพลังงานของจิต ที่มีแรงจนกระทั่งมันเข้าใจ อย่าไปยึดถือ เป็นตัวเป็นตนเป็นเราเป็นของเราเลย ภาษามันพูดได้แค่นี้ มันไม่เอาเป็นเรา เป็นของเราเลย วางให้มนุษยชาติเลย บางคนเป็นโพธิสัตว์ ก็มีแต่พากเพียรให้เจริญยิ่งๆขึ้น ทิ้งความไม่เที่ยงมาเป็นความเที่ยง เพราะฉะนั้นผู้ที่ตรัสรู้หรือผู้ที่บรรลุความเที่ยง ในเรื่องของโลกุตระก็เที่ยง แต่โลกียะเขาไปหลงว่าเที่ยงแล้วเที่ยงไม่จริง ของโลกียะนึกว่าเที่ยง อย่างพระเจ้า เป็นสมมติไม่มีตัวตน อย่างศาสดาทุกศาสดา นึกว่าตัวเองเที่ยงเป็นศาสดาถาวรไม่จริง โลกุตระถึงจะรู้ว่า โลกียะนี้ไม่จริง เป็นศาสดาเที่ยง ไม่จริง เป็นคนรวยเป็นต้น คุณจะรวยไปได้อีกกี่ชาติ ไม่จริงหรอก ชาตินี้คุณต่อให้รวยอย่างสุจริตด้วย ก็ไม่เที่ยง เป็นสมบัติผลัดกันชม เปลี่ยนไป เป็นกรรมวิบาก เพราะคุณจะรวยคุณก็ต้องไปเอาเปรียบเขามา คุณต้องไปแย่งเขามา แล้ววิบากก็ดึงกันไปดึงกันมา สมบัติผลัดกันชม แย่งกันไปแย่งกันมา เหมือนเด็กแย่งตุ๊กตากันนี่แหละ ใครเก่งก็แย่งได้ โดยตามหลักเกณฑ์ของโลกของสังคมถือว่าสุจริต โดยสัจจะแล้วผู้ที่ไม่ไปแย่งใคร มีแต่ให้ สร้างให้ มีแรงงาน มีความรู้ ความสามารถ ก็สร้างๆๆ เป็นสิทธิของตัวเอง 100% คนนี้ก็ให้ให้ให้ คนนี้เป็นเจ้าหนี้ตลอดโลกแตกเลย คนนี้ที่ได้แต่ให้ให้ให้ โดยที่ไม่เอาคืนด้วย เขาจะตอบแทนคืนมาก็ดี แต่เราก็ให้ต่อไปอีกคืนไปอีกโดยไม่สะสม เป็นคนไม่สะสมเลย แล้ว ยิ่งคนจะต้องมีลูกหนี้เยอะ แล้วลูกหนี้จะใช้หนี้คืนอีก ก็ยิ่งจะมีมากขึ้นๆๆ แล้วเราก็ยิ่งจะไม่เอาๆๆ เรายิ่งไม่เอา เขาก็จะยิ่งยัดเยียดมา ท้าทายให้มาพิสูจน์เลย ยิ่งให้ไปยิ่งได้มา ยิ่งไม่เอายิ่งมี ยิ่งไม่มียิ่งมี ยิ่งสูญยิ่งอนันตัง ยิ่งสูญ ยิ่ง Infinity นับไม่ถ้วนเลย นี่เป็นสัจจะ เพราะอาตมาพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้ามาถึงชาตินี้ มากอบกู้โลกุตระธรรมของพุทธขึ้นมา ถึงไม่ได้ไปพูดสิ่งที่ไม่จริง อาตมาพูดว่าเป็นไก่ตัวพี่อย่างนี้เป็นต้น สรุปแล้วคุณซึ้งซื่อ ปฏิบัติศีลธรรม หรือ จะฟังธรรมจากพ่อท่าน สมณะ สิกขมาตุ จำเป็นแค่ไหน ก็จำเป็นสิ เพราะผู้นี้รู้มาก่อนได้มาก่อนคุณแล้วก็เชื่อไหมว่า ทางสายนี้เป็นทางตรง เป็นทางหนึ่งทางเดียวของพระพุทธเจ้าเลย เชื่อไหมล่ะ เชื่อก็เอา แต่ถ้าคุณยังลังเล ก็ไม่เต็มที่ พูดไปก็จะหาว่าบังคับ ประเหลาะ ศึกษาดีๆ ฟังธรรมศีลข้อ 1 ให้ลึกซึ้งถึงกรรมวิบาก ที่มันไม่ดีนี่ อาตมาจะอธิบายให้ฟังว่าทำไมคุณไม่รู้สึกมั่นใจดีๆกับธรรมะพระพุทธเจ้า ถ้าคุณไม่ปฏิบัติไปตามลำดับ คุณไม่เริ่มต้นตามลำดับ จนบรรลุ ตามลำดับอย่างไร จรณะ 15 ของพระพุทธเจ้านี้เป็นลำดับ โดยมีศีลเป็นข้อเริ่มต้นศีลข้อที่ 1 คุณก็เอาข้อที่ 1 มาปฏิบัติให้จริงจัง ให้ละเอียดลออลึกซึ้ง จนกระทั่งได้ไปถึงขีดขั้นที่สมบูรณ์แบบแล้ว ศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ ๑. ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศาตรา มีความละอาย มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ ข้อนี้เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง. พ่อครูว่า… ไม่ฆ่าสัตว์แม้สัตว์จะฆ่าเรา เราก็ไม่ถือโทษโกรธสัตว์เลย อภัย อโหสิ เพราะตาย ถ้าเรายังไม่ยอม ปรินิพพานเป็นปริโยสาน หรือแม้คุณยังไม่เป็นอรหันต์ คุณก็วางใจอย่างนี้แหละ เรียนรู้ตามธรรมะพระพุทธเจ้า ใครจะทำร้ายเราก็เป็นวิบากของเขา แต่เราไม่ไปพยาบาทไม่โกรธเคือง ไม่ถือสาต่อ ไม่ตอบโต้ ทำก็เป็นวิบากของเขา เขาจะมีวิบาก ผูกพัน เขาจะถือสา เขาจะแก้แค้นตอบโต้อะไรอยู่ก็เรื่องของเขา เราก็วางปล่อย เพราะฉะนั้นเขาจึงทิ้งการฆ่าสัตว์ เว้นขาด แล้วพิสูจน์ไปแต่ละชาติๆ เลย ไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช้ของที่จะไปใช้ประหารคนอื่น ไม่ใช้แม้แต่ ตัวร่างกายใช้ไม้ใช้มือ ใช้ศอก ใช้เข่า ที่จะไปทำร้ายคนอื่นก็ไม่เอา มีความละอาย ละอายอย่างไร ละอายว่า ถ้าเราไปทำอย่างนั้นมันเป็นพฤติกรรมที่เลว ไปทำร้ายสัตว์อื่น ไม่ว่าจะไปทำร้ายสัตว์ใด จะเอาชนะกัน ก็ทำร้ายคู่ต่อสู้ เขาจะเจ็บก็เอาชนะให้ได้ เขาจะเกิดบาดแผลก็เอาให้ชนะให้ได้ จนเขาจะตายหรือตายก็ชนะ มันก็เป็นวิบากแก้กันไปแก้กันมาไม่รู้จบ เพราะฉะนั้นไม่ต้อง เรื่องนี้ลึกซึ้ง แม้แต่เราจะผูกวิบากโดยการให้เขากับเราจะต้องผูกวิบากกัน แก้แค้นกันเหมือนหนังจีนไม่มีจบ ไม่ได้เรื่อง ไม่ว่าโกวเล้งหรือกิมย้ง ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย มีแต่จะแก้แค้นไม่รู้จบ แต่ของพระพุทธเจ้ารู้จบไม่แก้แค้น สุดท้ายไม่แก้แค้น วาง มีแต่ความเอ็นดูละอายว่า เขาทำกับเราอย่างนั้นเขาไม่รู้เขาเลยทำอย่างที่น่าละอาย แต่เรารู้แล้วอย่าไปทำ ความรุนแรงโหดร้าย เบียดเบียนผู้อื่น มันน่าละอาย คนที่มีปัญญา รู้จริงๆเข้าใจจริงๆ ว่าการที่จะไปทำอะไรร้ายกับคนอื่น ทำร้ายจนกระทั่งถึงบาดเจ็บฆ่าตาย มันแน่ชัดอยู่แล้ว แม้แต่จะไปทำให้เขาทุกข์ร้อนลำบากลำบน ก็ร้าย มันเป็นความเลวไม่ใช่ของน่าทำ ไปคิดจะทำก็เริ่มเลวแล้ว พูดว่าจะทำก็เลวไปอีก ลงมือทำก็ยิ่งเลวสำเร็จ ผลก็สมบูรณ์แบบในความเลว เพราะฉะนั้นกรรมวิบากเป็นเรื่องจริงคนเชื่อกรรมวิบากแล้ว แล้วก็เชื่อการเกิดการตายเวียนเกิดเวียนตายอีก เราเป็นผู้ไม่ทำชั่ว ทำแต่ดี เกิดอีกกี่ชาติๆ ก็มั่นคง เมื่อดีแล้วก็ดีถาวรเลย ไม่ไปทำชั่วอีกเลย นี่แค่โลกีย์ จึงขอลัดไปหาโลกุตระเลย โลกุตระนั้นเหนือดีเหนือชั่ว ตรงที่เรียนรู้สุขและทุกข์ สุขทุกข์นี้เป็นปรมัตถ์ เป็นเรื่องของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นเรื่องของจิตแท้ๆ ถ้าคุณยังมีอวิชชา คือความไม่รู้ ความรู้ที่พระพุทธเจ้าท่านสอน วิชชา ความรู้มีสารพัดในโลกหรือศาสดาเทวนิยม โลกีย์มีความรู้เยอะแยะ แต่ความรู้อันนี้เป็นของพระพุทธเจ้าที่เรียกว่าความรู้สัมมาทิฏฐิ คือตรงกับของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ตรงกับของพระพุทธเจ้าไม่เรียกว่าสัมมาทิฏฐิ เรียกว่าเป็นความมิจฉาทิฏฐิ เป็นเหมือนศาสดาอื่นๆที่เป็นเทวนิยม ก็ได้ แต่ไม่ใช่สัมมาทิฏฐิของพระพุทธเจ้า ถ้าของพระพุทธเจ้าต้องตรงกับของพระพุทธเจ้าทั้งเหตุทั้งผล ทั้งมรรคและผล ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ถูกหมด ตรงกันหมด แล้วเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่มีเป็นอื่นเลย สัจจะของพระพุทธเจ้าเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น แม้แต่การไม่ฆ่าสัตว์เป็นเบื้องต้นเลยของพรหมจรรย์ เป็นเบื้องต้นของศาสนาพระพุทธเจ้า เราไม่ฆ่าสัตว์ก็ทั้งนั้น ถ้าเรามีจิตใจว่าฆ่าสัตว์เลวร้าย เราจะไม่ฆ่าคน เพราะว่าคนมีค่ามากกว่าสัตว์เดรัจฉาน และคนนี้แหละ จะเป็นวิบาก ซับซ้อนอีกหมุนรอบเชิงซ้อน คุณฆ่าสัตว์ สัตว์มันก็จะต้องจองเวรตอบคุณแน่นอน คุณฆ่าสัตว์มันก็โกรธ มันก็รักชีวิตของมัน มันก็ต้องผูกพัน มันก็ต้องพยาบาทแน่นอน คนที่ยิ่งไม่พยาบาท ยิ่งสูงขึ้นเป็นอาริยบุคคลไม่พยาบาท กลับเป็นวิบากที่หนักยิ่งกว่าซับซ้อนไปอีก ยิ่งไปฆ่าพระอรหันต์ อนันตริยกรรม คุณจะต้องใช้หนี้วิบากอีกนับไม่ถ้วนเลยอนันตริยกรรม อนันตัง เป็นกรรมที่นับไม่ไหว คุณจะต้องใช้หนี้กรรมอีกไม่รู้กี่ชาติ เหตุปัจจัยมันคำนวณยาก แต่มันนับไม่ถ้วนแล้วจะไหวหรือ ชีวิตคุณจะเกิดตายอีกเท่าไหร่ แล้วเป็นบาปเป็นนรกอีกด้วย ไม่รู้กี่นับชาติไม่ถ้วน คุณจะไปทำหาอะไร เป็นกรรมวิบากที่เป็นนรก นับชาติไม่ถ้วน เอาไหม ตกนรกนับชาติไม่ถ้วนอยู่นั่น วนเวียนอยู่นั่น เอามั้ย แค่ภาษาฟังให้ดีมันเป็นสัจจะ ไม่ได้หมายความว่าเป็นการขู่ หรือพูดเล่นๆ ไม่ใช่ว่าอยู่ที่พระเจ้าพระเจ้าสั่งได้หมด จะให้ดีหรือชั่วก็อยู่ที่พระเจ้า เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าอย่างเดียว อันนั้นเป็นโลกียะ ไม่จริงหรอก กรรมเป็นของตนวิบากของตนเองขึ้นมาใส่ กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ของกรรมตนเอง คำสอนของพระพุทธเจ้าคนละเรื่องกับโลกียะเทวนิยม ไม่ใช่พระเจ้าเป็นใหญ่พระเจ้าบันดาลพระเจ้าสั่งพระเจ้าประสงค์ทุกอย่างไม่ใช่แต่เป็น ของตน ของตนเท่านั้น เพราะฉะนั้นเริ่มต้นตั้งแต่รู้จักเรื่องเกี่ยวพันกับสัตว์และคน อย่าไปสร้างวิบากเป็นอันขาด สร้างได้ แต่เป็นกุศลวิบาก เราพาสร้างเป็นเจ้าหนี้เขา แต่เราไม่ได้ไปทวงเอา เราไม่ต้องไปขอรับคืน ไม่ต้องเอาดอกมาให้เรา แต่เรา พูดง่ายๆว่า เรามีบุญคุณกับเขาหมด แต่เราไม่ยึดถือว่าเป็นบุญคุณของเรา แต่โดยสัจจะมันทำแล้วมันก็ต้องเป็นของเรานั่นแหละ แต่เราไม่ต้องคิดว่าเป็นของเราเลย ใครจะกตัญญูกตเวทีก็เรื่องของเขา ดีของเขา ถ้าเขาอกตัญญู ก็เรื่องของเขา กรรมเป็นอันทำ ทำอย่างไรเป็นอย่างนั้น ไม่ผิดเพี้ยนไปจากกรรม กรรมเป็นอันทำ คุณจะทำอย่างนี้แล้วบอกว่าไม่ใช่อย่างนี้ อย่าโง่ให้เท่าทักษิณเลย ทำแล้วก็ว่าตัวเองไม่ได้ทำ แล้วก็บอกว่าตัวเองทำดีด้วย ทำที่ทำชั่วแท้ๆก็ยังไม่รู้ นอกจากไม่รู้แล้วคิดว่าตัวเองไม่ทำอีก คนก็ยืนยันหลักฐานอีกเท่าไหร่ หน้าแข็งไม่รับรู้ด้วย มันเกินคนจริงๆ ตัวอย่างในยุคนี้ อาตมาเห็นแล้วก็ โอ้ คุณเกิดเมืองเหนือแต่ไปดันชื่อใต้ ก็เป็นอย่างนี้แหละ มันเป็นคนผิดเพศ เป็นคนละเรื่องกัน ผิดฝาผิดตัวไปหมด มันไม่จริง เกิดเหนือดันชื่อใต้ เป็น อจินไตย นึกไม่ออกหรอก ต้องเป็นเช่นนี้เพราะเป็นตัวอย่างของ มนุษยชาติ โดยเฉพาะประเทศไทย ยิ่งกว่าเทวทัตสมัยพระพุทธเจ้า สมณะฟ้าไท… สรุปจบ Category: ศาสนาBy Samanasandin14 กันยายน 2022Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:650909 สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯNextNext post:650916 ประเทศไทยคือ Pioneer หัวเจาะประชาธิปไตยโลกุตระ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024