650907 คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ที่มาสืบสานศาสนา พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1jAZmyrXtu1nmd6BsyRMX3O3DLcfIMvCjKErmYnUB2VY/edit?usp=sharing ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1GuHYiQT9uGFEv3kClKSqr_9cPkK5vcQL/view?usp=sharing ดูวิดีโอได้ที่ https://fb.watch/foigaPg9fz/ และ https://youtu.be/rxgQpY2X7fE สมณะฟ้าไท… วันนี้วันพุธที่ 7 กันยายน 2565 ที่บวรราชธานีอโศก ตอนนี้คนเดือดร้อนเรื่องน้ำท่วม ที่ระยองก็มีน้ำท่วมถึงหน้าต่างบ้าน ที่บ้านราชน้ำท่วมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา วันจันทร์ พ่อครูแสดงธรรมที่ชั้น 4 เขาเขียนสรุป ว่าดูในจอทีวีต่างกันกับดูตอนพ่อครูตัวจริงสดๆ เขาบอกว่าได้ประโยชน์จากการมาดูสดๆมากกว่า แม้แต่ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน ดูในจอทีวีจอมือถือสู้ดูสดไม่ได้ ถ้ามาฟังต่อหน้านี้ เราก็จะไปยุกยิกทำอย่างอื่นไม่ได้ ต้องตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ ถ้าไปฟังหน้าจอที่ส่วนตัวเดี๋ยวก็ไปทำนั่นทำนี่ไม่ได้ฟังอย่างบริบูรณ์ เมื่อฟังธรรมได้บริบูรณ์การทำใจในใจก็จะได้บริบูรณ์ลดละกิเลสได้บริบูรณ์ไปตามลำดับ พ่อครูว่า… SMS วันที่ 5 กันยายน 2565 _ซึ้งซื่อ วิเชียร · กราบนมัสการพ่อท่านด้วยสุดเศียรเกล้าครับ อีกแล้วครับผมเห็นว่าพ่อท่านได้หยุดแล้วจริงแท้ แต่พวกเราสิ จะยังไม่ยอมหยุดที่จะส่ง sms อีกต่อไปเพื่อเข้าหาสุดยอดพระสัตบุรุษ เพื่อฟังสัทธรรมpossibleต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ กราบนมัสการขอบพระคุณพ่อท่านอย่างสูงยิ่งครับ พ่อครูว่า…ก็เอาสำนวนเราหยุดแล้วแต่เธอสิยังไม่หยุดมาประกอบ ที่จะยังไม่หยุดส่ง SMS ก็ดี แสงเดินทางเร็วกว่าวิญญาณ _นาคี ภูน้ำเพชร · แสงกับวิญญาณ อันไหนเดินทางเร็วกว่ากันครับ พ่อครูว่า…พวกเรารู้ไหม …โยมตอบ วิญญาณ แสงมันเดินทางช้าจะตาย วิญญาณมันเดินทางเร็วอย่างกับอะไร เคยยกตัวอย่างง่ายๆ นีล อาร์มสตรอง เคยเดินทางไปดวงจันทร์ ใช้เวลาเดินทางไปกลับตั้ง 8 วัน(110 ชั่วโมง) แต่เมื่อกลับถึงโลกแล้ว เมื่อจิตจะเดินทางไปถึงดวงจันทร์ก็คิดถึงแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ก็ชัดเจนนะ _สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ ลูกเคยเห็นตัวจริงของพ่อครูและเคยใส่บาตรพ่อครูครั้งหนึ่งในชีวิตค่ะ จากนั้นลูกก็ไม่มีโอกาสได้เห็นตัวจริงของพ่อครูอีกเลย ปัจจุบันลูกได้มาตั้งใจปฏิบัติธรรมตามพ่อครูได้ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ ลูกได้เห็นพ่อครูทุกวันผ่านเฟชบุ๊คค่ะ ลูกเป็นคนปึกมากค่ะ ฟังเทศน์พ่อครูต้องฟังหลายๆรอบ ลูกจึงพอเข้าใจได้บ้าง ลูกมาปฏิบัติธรรมกับพ่อครูอย่างคนจนตรอกเพราะไปที่อื่น ความทุกข์ก็ไม่บรรเทา ลูกส่งคำถามถึงพ่อครูเพราะลูกไม่รู้ไม่เข้าใจจริงๆ ค่ะ ทุกครั้งที่ลูกส่งคำถามพ่อครูก็เมตตาลูก ลูกน้อมกราบขอบพระคุณพ่อเมตตา ลูกมีปีติมาก บางครั้งน้ำตาไหล เหมือนพ่อครูเมตตามาพูดกับลูก น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ พ่อครูว่า…อันนี้เป็นความจริงใจ ของผู้ที่มีธาตุปัญญา สัมผัสสิ่งนี้แล้ว เห็นว่าเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอด เป็นสิ่งที่ดีจริงๆ แล้วก็ได้พบแล้วหนอ มันก็ซาบซึ้งใจประทับใจ แล้วก็แสดงความจริงออกมาอย่างที่ได้พูดมานี้ แล้วก็ได้พยายามติดตาม ศึกษา ปฏิบัติ ก็เห็นจริง เกิดความจริงเกิดความเป็นจริงขึ้นมา นี่คือสัจจะ ทำไมพระโมคคัลลานะบรรลุเร็วกว่าพระสารีบุตร _วาส ทองจันทร์ · กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพยิ่งครับ เท่าที่ผมได้ติดตามฟังและได้ปฏิบัติตามพ่อครู ทำให้ผมปฏิบัติลดละเลิกมา ก็ทำให้ผมเองไม่ค่อยจะมีทุกข์อะไรมารบกวนมากนัก เพราะมีศีล มีสมาธิ มีวิปัสสนาอยู่ทุกขณะจิต เมื่อไรที่จิตเศร้าหมอง จิตไม่เบิกบาน จิตเป็นสุขเป็นทุกข์ก็จะตามรู้และได้ทำการวิปัสสนาอยู่ตลอดเวลานั้นเอง วันนี้ผมมีคำถามว่า ทำไมพระโมคคัลลานะที่เป็นพระสายศรัทธา จึงบรรลุอรหันต์เร็วเพียง 7 วันแต่ทำไมพระสารีบุตรที่เป็นสายปัญญาจึงใช้เวลามากกว่าถึง 15 วันจึงบรรลุอรหันต์ครับ พ่อครูว่า…ก็เคยตอบไปแล้ว ว่าทำไมพระสารีบุตรถึงบรรลุอรหันต์ช้ากว่าพระโมคคัลลานะ เพราะพระโมคคัลลานะเป็นสายศรัทธา ปัญญาสูงแล้ว สายศรัทธานี้เชื่อ แล้วก็ไม่มีความฟุ้งซ่านมากเหมือนสายปัญญา สายปัญญานี้จะดุ๊กดิ๊ก มีอัตตามากกว่าสายศรัทธา เป็นธรรมชาติของเขา มันซ้อนลึก เพราะฉะนั้นสายศรัทธาพอเจอสิ่งที่จริงที่แท้ปั๊บ ตัดสินเลยปัญญาขึ้นเห็นปั๊บก็แป๊บเดียว สายปัญญานี้ ยังดุ๊กดิ๊กอยู่กับตัวตน ก็เลยช้ากว่าสายศรัทธา เป็นธรรมดาธรรมชาติอย่างนี้ มันสลับซับซ้อนนะ สมณะฟ้าไท… ถ้าบุคคล 7 นั้นสายศรัทธาจะช้า สายปัญญาจะเร็ว แต่กรณีนี้ผมคิดว่าสายศรัทธาไม่มีเรื่องมาก แต่สายปัญญาพระสารีบุตรมีเรื่องเยอะ กว่าจะจบได้ก็เลยนาน พ่อครูว่า… แต่ในบุคคล 7 ปัญญาบรรลุอรหันต์ก่อน ศรัทธานั้นต้องไปเติมปัญญาทีหลังอีกที เป็นอุภโตภาควิมุติ จึงจะบรรลุ เป็นเรื่องของสัจธรรมที่สลับไปสลับมาที่ยากจะเข้าใจศึกษาให้ดีๆ สลับไปมาระหว่างสภาพ 2 นี่แหละ เป็นตัวที่ต้องเรียนรู้ในโลก ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าสภาพ 2 ที่จะเรียนรู้ ถ้าเรียนรู้สภาพ 2 นี้ได้สมบูรณ์แบบแล้ว ไปเป็นผู้พิพากษา เป็นอะไรก็แล้วแต่ จะชัดเจนง่ายๆเลย จะตัดสินสภาพ 2 ได้ดีที่สุดเลย หรือแม้แต่มีชีวิตปกติจะตัดสินอะไรอันนี้ถูกอันนี้ไม่ถูก อันนี้ควรอันนี้ไม่ควร ดีที่สุดเลย สภาพ 2 นี่แหละสุดยอด ที่จะมีปัญญาที่จะสามารถตัดสินในสภาพ 2 ได้ ดี ฟังความตรงนี้ไว้ดีๆ ในโลกนี้ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ สำคัญอันนี้พูดไปแล้ว _Boonyakorn Pattanasattaporn บุญญากร พัฒนสัตถาพร · ธรรมะท่านพ่อครูเผยแพร่ไว้หลายช่องทาง ทั้งทางบุญนิยมทีวี ทางยูทูป ทางเพจเฟซบุค Live . มีผู้ชมผู้ฟังตามศึกษา รวมแล้วหลายล้านคนครับ พ่อครูว่า…จริงหรือเปล่าที่ว่าหลายล้าน แต่เท่าไหร่ก็เท่านั้น มีพวกคุณฟังเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว _พอใจ รักดี · น้อมกราบนมัสการท่านพ่อครูเจ้าค่ะ โลกใหม่ที่กว้างใหญ่สดใส มองได้ไกลสบายใจเป็นที่สุดคือได้ฟังธรรมะจากท่านพ่อครูค่ะ ลูกเคยนั่งหลับตามองเพ่งในกายแล้วอึดอัดมาก ฟังธรรมะไม่เคยรู้เรื่องไม่เคยเข้าใจเลย ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่ฟังท่านครูและชาวอโศกแล้วเข้าใจมากถึงแม้จะไม่ค่อยรู้ภาษาธรรมมะเท่าไหร่ ต่อไปลูกจะตั้งใจปฎิบัติตามท่านพ่อครูและจะไปกราบท่านพ่อครูสักวันให้ได้ค่ะสาธุๆๆ พ่อครูว่า…มาเลย จะมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลย จะทำบุญกับวัดไหนต้องพิจารณาให้ดี _Kasem เกษม สันทอง · สุดยอดเลยครับ ไม่เรี่ยไรขายบุญ พ่อครูว่า…คุณเกษมนี้เป็นคนเก่า ดูเหมือนเป็นเปรียญ เคยเรียนเปรียญธรรมมาเก่า ซึ่งก็จริง อาตมาภูมิใจชาตินี้ที่อาตมาไม่ได้มาเรี่ยไรอะไรเข้ามาให้แก่พวกเราเลย เคยเรี่ยไรแต่เรี่ยไรในงานสาธารณะในงานเฉพาะกิจ ธรรมดาพวกเรานี้ อย่าว่าแต่เรี่ยไรเป็นเงิน คนจะเอามาให้ ต้องผ่านกติกา ต้องเป็นผู้ได้พบกับชาวอโศก คบคุ้นมาแล้วอย่างน้อยมาถึง 7 ครั้ง ได้อ่านหนังสือบ้างสัก 7 เล่มอะไรอย่างนี้ คือให้เข้าใจอย่ามาศรัทธาแบบถูกหลอก คือคุณไม่รู้เรื่องเลยเหมือนกับถูกหลอก เราก็ไม่อยากได้นะ เงินของคุณที่เอามาให้เรา แต่คุณไม่รู้เลยว่าคุณเอามาให้ใคร เขาหลอก ก็ไม่ได้มีคุณค่าพอที่จะให้ จะทำทานเลย คุณต้องศึกษาดีๆ จะบริจาคเงินให้ใครต้องมีคุณค่า ถ้าคุณบริจาคให้คนที่ไม่สัมมาทิฏฐิ ให้คนที่ไม่ดี เขาได้เงินไปเขาก็ไปทำลาย ยิ่งไม่สัมมาทิฏฐิในศาสนาพุทธให้เงินไปก็เอาเงินไปทำให้ศาสนาพุทธเสื่อม ยิ่งต่ำยิ่งเละเทะไปอีก ใช่ไหม เพราะฉะนั้นสำคัญ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ต้องเข้าใจให้ดีๆ ความรู้ของพระเจ้าไม่มีตรงกัน แต่ความรู้อรหันต์นั้นตรงกันเป็นหนึ่งเดียว _อัมพร กุลศักดิ์ศิริ · คนไทยพุทธบางส่วน กินเหล้าสูบบุหรี่ พูดโกหก ยากจน แนะนำให้คนพวกนี้ไปอยู่กับพระเจ้าดีใหมครับ? พ่อครูว่า…คุณสนิทสนมกับพระเจ้าดีหรือไง เอา ฝากหน่อย พระเจ้า ฝากคนอยู่ด้วยหน่อย อย่างนั้นเหรอ ที่จริงมันมีความหมาย คำว่าพระเจ้านี้ก็คือความรู้ พระเจ้านี่คือความรู้ ความรู้ความจริง ที่คนนี่แหละ รู้จัก รู้จักความรู้ความจริงนั้น เช่น ศาสดาเทวนิยม ศาสดาสายพระเจ้า เขามีความรู้ความจริง ผ่านกรรมวิบาก ได้สะสมความรู้ความจริงของตัวเองมาด้วยสายศรัทธาในสายเทวนิยม จนกระทั่งมาได้มากที่สุด มากพอที่จะสาธยายความรู้ความจริงที่ตนเองได้ตนเองมีมา แล้วมีสมาชิก มีบริวาร มีคนมายอมรับ ยกให้เป็นศาสดา ก็ได้เป็นศาสดาองค์ใดองค์หนึ่งในความรู้ความจริงที่เขามี ซึ่งความรู้ความจริงที่เขามีของศาสดาเทวนิยม แต่ละองค์แต่ละองค์นั้น ไม่ตรงกันทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงแข่งดีแข่งเด่นกันอยู่เยอะ เทวนิยมมากศาสนา ไม่เหมือนศาสนาพุทธ ที่มีความรู้ความจริงหนึ่งเดียว ตรงกันหมดเลยในสายของพระพุทธเจ้า นอกจากผู้ที่มิจฉาทิฏฐิ แน่นอนไม่ตรง ก็แล้วไป เพราะไม่มีสิทธิ์จะไปรู้ตรงกันเป็นหนึ่งเดียวได้ ผู้รู้ตรงกันเป็นหนึ่งเดียว เริ่มตั้งแต่พระโสดาบันก็ต้องรู้ในกรอบใกล้ 1 สกิทาคามีก็รู้เป็นกรอบเข้าใกล้หนึ่งเข้าไปอีก อนาคามีก็เข้าใกล้หนึ่งเข้าไปอีก อรหันต์นั้นเป็นหนึ่งเดียวกันตรงกันหมด รู้โลก รู้จิตวิญญาณ รู้ความเกิดความตาย รู้ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมไป ดับไป รู้ในขันธ์ 5 จัดการกับชีวิตจิตนิยามสบาย ครบหมด นี่คือสุดยอดแห่งความรู้ ซึ่งยากสำหรับชาวเทวนิยม แม้แต่ชาวพุทธ อาตมาพูดอยู่ไม่ง่ายที่จะรู้ มันยาก กว่าจะเข้าใจ ก็ไปยึดถือสิ่งที่ผิดนั้น ไปเสพสุขทั้งที่ติดยึดนั้นอีกเยอะ ติดในความรู้บ้างติดในความสุขติดใน ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ติดอะไรอย่างนั้นมันยาก ก็ค่อยๆศึกษากันไป เพราะฉะนั้นคำว่าพระเจ้านี้จึงมีอีกซีกหนึ่ง ที่คนในโลก มีคนไม่ค่อยรู้นี้มากกว่าคนรู้ ความรู้โลกุตระนั้นเป็นความรู้เหมือนยอดปิระมิดจึงมีน้อย คนที่ไม่รู้เป็นฐานปิระมิดมีอีกเยอะก็เป็นธรรมดาธรรมชาติ เพราะฉะนั้นคนกว่าจะมารู้โลกุตระ จะมาเข้าใจสุดยอดจบเป็นการจบกิจบริบูรณ์เลย บริบูรณ์นี้หมายความว่า คุณก็จะอยู่เป็นมนุษย์ต่อไปอีก จะเกิดอีกหรือคุณจะไม่เกิดอีก สูญสลายก็เลิกกับอัตภาพ ไม่มีพระเจ้าอะไร ไม่ต้องตายแล้วไปอยู่กับพระเจ้านิรันดร ไม่มี สลายได้เลย พิสูจน์ได้เลย เป็นอนัตตา อย่างนี้เป็นต้น กว่าจะเจอเรื่องนี้ พวกที่ยอดปิรามิด พวกที่เป็นฐานปิระมิดไม่เจอ ยังไม่เจอพูดยังไงเขาก็ยังไม่เข้าใจ ถ้ายังไม่มีบารมีพอ ที่จะรู้ได้เป็นธรรมดาธรรมชาติของ _Saksri Maimeethong ศักดิ์ศรี ใหมมีทอง · วันจันทร์เสียงพ่อครูสั่นเครือแต่ก็ยังมีเมตตาอย่างสูงมาเผยแพร่ธรรมะโดยปกติไม่ยอมพัก ทรงเข้าผีเข้าไสยศาสตร์คือโรคจิตหรืออุปาทาน _คอยใคร · กราบเคารพพ่อครูครับ หลายวันก่อนผมฟังรายการมีสมณะมาเทศน์ท่านละไม่กี่นาที มีสมณะท่านหนึ่งผมจำชื่อท่านไม่ได้ว่าท่านแก่นอะไร แต่ท่านบอกว่าท่านเป็นคนขอนแก่นครับ ท่านเล่าว่าท่านชอบล่าสัตว์มาตั้งแต่เด็กๆจนโต ที่เลิกได้เพราะมาอ่านหนังสือของชาวอโศก ท่านยังบอกอีกว่าตอนเด็กๆท่านอยู่วัด เจ้าอาวาสยังพาไปตกปลาด้วยครับ พอมาฟังแบบนี้ผมนึกถึงวัดของคนที่บ้านเลยครับ แต่ก่อนจีบกันใหม่ๆ พี่สาวของคนที่บ้านชอบชักชวนทำบุญโน้นนี้กับวัดแถวบ้านของคนที่บ้านครับ วัดทางเหนือไม่ขอบอกจังหวัดอะไรครับอยู่อำเภอเถินบุรีครับ วันหนึ่งคนที่บ้านผมมาบอกผมว่า เจ้าอาวาสวัดที่บ้านถูกหวยใต้ดินสองแสนเท่านั้นหละครับผมนี้ขึ้นเลยครับ ผมเลยบอกออกไปว่า แล้วเจ้าอาวาสไม่เอาเงินเข้าวัดหรือเขาก็บอกผมว่าไม่รู้ ผมก็บอกเขาอีกว่าต่อไปไม่ต้องเรียกให้ทำบุญวัดนี้อีกนะ ขนาดเจ้าอาวาสยังเล่นหวยผมก็หมดใจแล้วครับ ยังเคยมีเรื่องขายต้นไม้วัดแล้วเงินเข้าวัดหรือเข้าใครผมไม่รู้ ผมก็แปลกๆใจแต่แรกแล้วครับ ที่ผมมาเล่าให้พ่อครูฟังเพราะผมเลื่อมใสในท่านแก่นที่มาบวชแล้วปฏิบัติธรรมถูกต้องถูกตรงตามพุทธ ไม่เหมือนเจ้าอาวาสทั้งสองรูปที่ผมเล่ามาครับ สุดท้ายขอให้พ่อครูสุขภาพแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไปครับ กราบขอบพระคุณครับ พ่อครูว่า…ที่จริงจะเอาเจ้าอาวาสมาสัก100 องค์มาพูดก็ยังได้อีกเยอะ ได้อีกหลายเรื่องคุณเอ้ย… เกินร้อยก็ยังได้อีกหลายเรื่อง พูดก็พูดเถอะทุกวันนี้ก็น่าสงสาร ศาสนาพุทธมันเสื่อมไปจนกระทั่ง มันเหลือแต่ประเพณี แล้วประเพณีก็เป็นประเพณีประยุกต์ เป็นประเพณีที่แม้แต่ในยุคพระพุทธเจ้า ถ้าท่านอุบัติมาตอนนี้ ถ้าท่านมาเห็นศาสนาพุทธของท่านก็จะบอกว่า ไอ้หยา ไปได้ไกลปานนี้เชียวหรือพุทธ นึกไม่ออกว่าชาวพุทธจะประยุกต์ศาสนาของพระองค์ไปได้ไปถึงขนาดนี้ มันเป็นเรื่องอะไรที่เละเทะ เหลวไหล เป็นเดรัจฉานวิชา ไสยศาสตร์อะไรต่ออะไร เนี่ย ออกข่าวคราวอยู่ทุกวันนี้ หมอปงหมอปลา บ้าๆบอๆ ไม่ได้เรื่องได้ราว มันไม่ใช่ศาสนาพุทธเลย มันไม่ใช่ศาสนาเลย มันเป็นเรื่องของเดียรถีย์ แล้วก็เข้าใจว่าอันนั้นเป็นธรรมะ เป็นศาสนาอีก จะมาเขาบอกตรงนี้ เรื่องที่คนมันชักดิ้นชักงอ แล้วก็บอกว่ามีองค์เข้า องค์สิงองค์ทรงเข้ามา มันเป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง ใช้ภาษาสมัยใหม่ว่า โรคจิต ภาษาพระพุทธเจ้าก็คือ อุปาทาน เป็นการเชื่อ ยึดถือผิดๆ ยึดถือว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็เป็นอย่างนั้น ยึดยังไงมันก็เป็นอย่างนั้น จะต้องเต้นอย่างนี้ต้องดีดอย่างนี้ต้องแข็งอย่างนี้ต้องโวยวายตึงตัง ออกแสดงท่าโน้นท่านี้อะไรต่างๆ อาตมาเล่นไสยศาสตร์ศึกษาไสยศาสตร์มาในชาตินี้ตั้ง 8 ปี เรียนรู้พวกนี้ โดยเฉพาะอาตมาเป็นโพธิสัตว์มีพื้นฐานพวกนี้ในจิตแล้ว ตอนแรกอาตมาก็ไม่ได้รู้หรอกแต่ตอนนี้มาเข้าใจว่า ก็เหมือนพระพุทธเจ้าต้องไปเรียนรู้กับ อาฬารดาบส อุทกดาบส เรียนรู้ทุกรกิริยาอีก เป็นลิงลมอมข้าวพอง ก็เท่านั้นเองไม่มีอะไร เป็นสิ่งที่ในโลกนี้มันยังมีอยู่ก็รู้กับเขา ว่าเขาก็เป็นเช่นนี้ ที่จริงน่าสงสาร เพราะมันไม่รู้ บางทีก็เกินแรงที่จะช่วยเหลือได้ เพราะเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง พูดอย่างไรก็ฟังไม่รู้เรื่อง อาตมานี้สอนเกินไกลไปถึงโลกุตระ ส่วนพวกนั้นอีกระดับเลย มันระดับเกินกว่าอบายมุข มันเป็นเดรัจฉานวิชา ไสยศาสตร์ จะพูดกันอย่างไรก็ยากที่จะรู้ได้ ก็ต้องค่อยๆเป็นไป ก็ช่วยคนได้จำนวนหนึ่ง อาตมาทำงานอยู่นี้ อาตมาไม่มีปัญหานะในเรื่องคนน้อย เพราะคนจะฟังธรรมะที่อาตมาบรรยาย เทศน์นี้ได้ ต้องคนมีภูมิปัญญาจริงๆ จึงจะตามฟังและเห็นดี ยินดี เขาไม่มีภูมิจริงๆเขาไม่มีธรรมรส เขาฟังไม่ติดรส ไม่รู้เรื่องจุดๆอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมันก็เรื่องจริงมันก็น่าสงสารเขา แต่คนที่ฟังแล้วมีธรรมรส ก็โอ้โห วันนี้ดีจังเลย ดีจังเลย เรียกว่า ธรรมรส ภาษาธรรมดานี่ฟังเข้าใจทุกคน ธรรมมันมีรสจริงๆ รสไปหาวิมุติเรียกว่า วิมุติรส รสไปหานิพพาน ไปหาโลกุตระ ฟังแล้วเข้าใจ อันนี้เข้าใจได้ ลดละกิเลส ละหน่ายคลายจริงๆ มันเกิดอนิจจานุปัสสี วิราคานุปัสสี นิโรธานุปัสสี ปฏินิสสัคคานุปัสสี จริงๆ ตามเห็นความจริงเลยว่า มันไม่เที่ยง มันเปลี่ยนแปลงได้เปลี่ยนแปลงไปทางละหน่ายคลายจนถึงนิโรธ เห็นว่ายังงี้ทำแล้วทำอีก ทวนที่ทำได้แล้ว บรรลุแล้วจนถึงที่สุด กลายเป็น นิสรณปหาน ไม่ต้องเลยกิเลสหมด มาแตะปั๊บหลุดเองเลย การสวดยะถาสัพพีกรวดน้ำเป็นเรื่องนอกศาสนาพุทธ _Chokchai SupakitBanchorn โชคชัย ศุภกิจบัญชร · สาธุ ขอบารมีพ่อครูให้ผมมีทางออกในชีวิตด้วยเทอญ พ่อครูว่า… คนนี้มาง่ายๆอาตมาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ศาสนาพุทธแท้ไม่ใช่ศาสนาขอ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่จะต้องเรียน ศึกษา ใส่ใจ ปฏิบัติตามแล้วได้ ไม่มีศาสนาขอ การอ้อนวอนร้องขอยังไง ขอให้เป็นการให้พร ให้พรก็คือคำสอนนี่แหละ พรคือ คำประเสริฐ คำสอนนี้แหละคือพร อธิบายให้เข้าใจ จะไปสวด ยะถาวาริวะหาปูรา มันไม่ใช่พร แต่เป็นคำงมงาย ไปฟังยะถาก็ลูบใส่หัวว่าได้แล้ว เพราะฉะนั้นคนที่สอน แล้วก็ให้พร โดยยะถาสัพพีอยู่นั้น คือคนที่ยังไม่สัมมาทิฏฐิในศาสนาพุทธเลย ยะถาสัพพี เป็นเรื่องประยุกต์ เป็นเรื่องปลีกย่อยที่ไปหยิบเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแล้วก็มาต่อหาง ให้มันเป็นเรื่องที่ออกนอกรีต นอกราว มันมีตอนที่พระเจ้าปเสนทิโกศลหลั่งน้ำ กรวดน้ำนี่แหละ ตามประเพณีเก่าที่มิจฉาทิฏฐิ แล้วพระพุทธเจ้าท่านจะไปท้วงพระเจ้าแผ่นดินที่ใหญ่ด้วย ท่านก็ท้วงไม่ได้ ก็ต้องอนุโลมให้พระเจ้าปเสนทิโกศลทำไป ก็ค่อยๆสอน ท่านถึงค่อยๆได้บรรลุ อย่างนี้เป็นต้น มันไม่ใช่เรื่องของศาสนาพุทธเลย แล้วก็ไปยกอ้างเรื่องนี้ ว่าพระพุทธเจ้ายังเออออห่อหมกกับพระเจ้าปเสนทิโกศลเลย ก็จะให้ท่านไปขัดพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหญ่อย่างนั้นได้อย่างไร พระพุทธเจ้าจริงๆนั้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินกรุงกบิลพัสดุ์ที่เป็นแคว้นที่เล็กนิดเดียว แต่แคว้นโกศล นี่มันเป็นแคว้นใหญ่เบ้อเร่อเบ้อร่า ซึ่งตอนนั้นมีแคว้นโกศลกับแคว้นมคธที่เป็น 2 แคว้นใหญ่ในทวีปอินเดียในยุคนั้น ก็ฟังไป แล้วอาตมาค่อยๆอธิบายขยายความ จากที่พวกคุณ SMS มานี่แหละ อาตมาก็ใช้ประเด็นต่างๆ จากที่คุณทั้งหลายเขียนมา เอามาขยายความกันไป _ตุ๊ก อัศวิน · กราบ..สาาาาธุในเมตตาจิตของพระโพธิสัตว์(พ่อครู)…ที่โปรดสัตวโลก..แม้นมีจำนวนน้อย..ดุจดังเช่น พระพุทธเจ้าทรงโปรดธิดาของนายช่างหูก..ทรงมุ่งมาโปรด..แม้นมีเพียงคนเดียว..นั่นแล พ่อครูว่า…เขาว่าในสื่อมีเป็นล้าน อาตมาก็อุ่นใจมีคนฟังเป็นล้าน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความรู้ที่ครบถ้วนที่จริงที่สุดทุกระดับทุกขั้นตอน อาตมาเองไม่ได้เป็นกังวลอะไรกับเรื่องปริมาณ อาตมาทำงานไม่เคยคำนึงถึงปริมาณว่าจะมีมากหรือมีน้อย ซึ่งมันก็มีไม่น้อยเกินไปหรอก มันก็เป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นอยู่ทั้งนั้นแหละ ทุกเวลาที่เทศน์ โดยเฉพาะตอนออกอากาศ บางครั้งบางคราวเพราะเราเทศน์กันเป็นชั่วโมงๆ มีคนฟัง 2 คน 3 คน 5 คน เราก็เทศน์ จะไปติดยึดอะไรกันเล่า มันต้องถ่ายทอดธรรมะให้แก่มนุษยชาติสืบทอดออกไป โอกาสที่มีก็ดีแล้วที่ได้เทศน์ได้กระจายให้คนฟังกันเยอะ มากก็ดีอย่างทุกวันนี้มีสื่อสารช่วยดีมากแล้ว อาตมาก็มีกะจิตกะใจที่จะทำ เพราะว่ามันไม่น้อยหรอก มันก็ดีอยู่มีประโยชน์อยู่ คนก็แสวงหามาถึงยุคนี้แล้วอาตมาว่า อจินไตย เรื่องเกี่ยวกับ กาละ เทศะ ฐานะ มันเป็นเรื่องรายละเอียด คำว่า กาละ นี่แหละ มันหมายถึง เอกภพ มันหมายถึง มหาจักรวาล มันหมายถึง ทุกอย่างที่มันเคลื่อนที่ไป กาละ ทุกอย่างมันเคลื่อนที่ไปเรียกว่า กาละ แล้วมันไม่หมดในอวกาศนี้ ในมหาเอกภพนี้ มันจะต้องมีการเคลื่อนที่ไปหมุนไปตามวงโคจรมีการดึงดูดกัน มีการผลักกันอยู่ในเอกภพนี้เป็นธรรมดา ธรรมชาติไปตลอดกาลนานนิรันดร. แล้วจนกระทั่งเกิดเป็นโลกแต่ละลูก และพัฒนาจากน้ำมาเป็นสัตว์จนเป็นมนุษย์ ที่สุดท้ายก็หายไปได้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ทำให้จิตวิญญาณสลายหายไปได้ กลายเป็นธรรมดาของเอกภพเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม ไปอีกก็เลิกกัน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ จะอยู่ก็มีหลักประกันว่า คนที่ศึกษากับพระพุทธเจ้าและปฏิบัติได้บรรลุธรรม จะอยู่ก็อยู่เป็นคนดี มีหลักประกันเลยว่า 1.จะไม่ทำบาป ไม่ทำชั่ว ทำแต่ดีอย่างเดียว นั่นก็จบแล้วโลกียะ 2. รู้จักสุขรู้จักทุกข์ รู้จักเวทนา รู้จักจิตวิญญาณ รู้จักอัตตา สลายอัตตาเป็นดินน้ำไฟลมได้ หมดเลยจบแล้วเท่านี้ทั้ง 2 สภาพโลกียะกับโลกุตระ จบหมดเลย คุณจบแล้วแต่จะยังไม่ยอมจบจะอยู่ไปอีกหลายล้านปี เป็นโพธิสัตว์อยู่เป็นล้านๆปี ก็เอาสิ ใครจะไปว่าคุณ เพราะเป็นอิสรเสรีภาพในทางจิตวิญญาณ อิสรเสรีภาพส่วนของคุณ คุณจะอยู่คุณจะไป สุดท้ายคุณจะสลายเป็นดินน้ำไฟลมก็ได้ คุณจะอยู่ต่อไปอีกเพื่อทำประโยชน์อีก. จะให้นานเท่ากับผู้ที่มีปณิธานสูงสุดอย่าง พระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิม จะอยู่รื้อขนสัตว์ ช่วยสัตว์ตามปณิธานที่มีตำนานมาก็เชิญไม่มีใครไปขัดขวาง จะอยู่นานเท่าไหร่คุณจะเลิกเมื่อไหร่ สุดยอด เป็นการตรัสรู้ทุกอย่าง ทุกระดับ ทุกขั้นตอนจบหมดแล้ว แล้วคุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกเอาขนาดไหนแค่ไหนได้ทุกอย่าง เพราะฉะนั้น ในโลกนี้ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว นี่คือความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เป็นการรู้ของมนุษยชาติ คนๆหนึ่ง ที่เกิดมาในมหาจักรวาลนี้ในโลกๆนี้ ที่มีมนุษย์ขึ้นมาเหมือนกันทุกคน แล้วเรียนรู้ได้ทุกอย่างจนกระทั่งตัวเองรู้เลยว่า พระเจ้าคือ สิ่งที่เขายังไม่รู้เป็นสิ่งลึกลับของคนกลุ่มหนึ่ง แต่ของท่านรู้แล้วแล้วท่านก็สลายตัวท่าน จิตวิญญาณท่าน พระเจ้าก็อยู่ในจิตวิญญาณเรา ก็สลายจิตวิญญาณเป็นดิน น้ำ ไฟ ลม พระเจ้าก็ไม่เห็นจะมาทำอะไร ไม่มีสิทธิ์กับเราเลย อย่างนี้เป็นอย่างนี้เป็นต้น เป็นการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นความจริงที่สมบูรณ์แบบ นิมนต์พ่อครูจิบน้ำ สมณะฟ้าไท… ศาสนาพุทธมีอิสรเสรีภาพที่สุด พ่อครูว่า… คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ที่มาสืบสานศาสนาในยุคนี้ _ใบฟ้า…พ่อครู เคยบอกว่าให้ลูกปฏิบัติธรรมจนบรรลุอรหันต์ แล้วตั้งจิตโพธิสัตว์มาสืบสานศาสนาจนครบ 5,000 ปี ของศาสดาพระสมณโคดม พ่อครูว่า… พระพุทธเจ้ายอมให้ผู้หญิงบวชได้ในศาสนาพุทธ แม้ว่าอายุของศาสนาพุทธจะลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 5,000 ปี นี่ก็เลยครึ่งของห้าพันปีมาแล้ว เชื่อมั่นว่าลูกๆทุกฐานะต่างก็มุ่งมั่นตามประสงค์ รวมทั้งลูกคนนี้ขอตามด้วยคนค่ะ เพราะมีอะไรที่มีคุณค่าสูงเยี่ยมสุดยอด ที่ได้ร่วมเดินทางในขบวนกองทัพธรรม ของพระนิยตโพธิสัตว์พระองค์นี้ ตราบท่านพระนิพพาน พ่อครูว่า… ที่เป็นสัจจะหนึ่ง ผู้ที่เข้าใจแล้วก็เห็นว่า ผู้ที่พบคนนี้เป็นไก่ตัวพี่นำมาก่อนได้แล้ว เราเห็นดีเห็นชอบตามเลย ไม่บังอาจจะไปตีตัวเสมออะไรอย่างนี้ ตามชัดเจนมั่นใจทำตาม ทำตามปณิธานที่ก็เคยตั้งจิตไว้นานแล้ว ที่จะมาพบอันนี้ให้ได้ จนกว่าจะปรินิพพานเป็นปริโยสานไป เมื่อใด. แม้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ต่อไปอีกได้ พระโสดาบันธรรมดาไม่รู้เรื่องโพธิสัตว์เท่าไหร่หรอก แต่ปฏิบัติไปจนกว่าจะเป็นอรหันต์แล้วนั้นน้อยองค์นักที่จะไม่ต่อเป็นโพธิสัตว์ ส่วนมากต่อโพธิสัตวภูมิ เพราะอะไร เพราะเสียดายเกิดมาเป็นคนแล้วได้พระอรหันต์ ตายเมื่อไหร่ก็ได้นี่ ตายสูญ เมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้ว แล้วเราอยู่ก็ไม่เป็นทุกข์เป็นสุขอะไร ถ้ามีอยู่ก็มีแต่ดีไม่ตกต่ำเลย จะรีบไปทำไมเล่า นึกออกไหม ปณิธานแค่นี้คิดออกไหม เพราะฉะนั้นจะไม่ต่อภพภูมิโพธิสัตว์ อรหันต์ส่วนมากที่บรรลุอรหันต์จริงแล้ว คนที่ยังไม่บรรลุอรหันต์จริง มันเป็นทุกข์ มันไม่เอาต่อหรอก จะให้ต่อโพธิสัตว์ไม่เอาหรอก คนนี้ยังไม่บรรลุอรหันต์สักที ถ้าบรรลุอรหันต์แล้วจะไม่พูดแบบนี้ ว่าจะต่อดีไม่ดีนะ มันจริง มันมีหลักประกันทุกอย่างเลยตัวเอง จะสุขจะทุกข์ก็ไม่มีแล้ว ตัวเองจะตกต่ำก็ไม่ตกต่ำแล้ว ตัวเองมีแต่เจริญถ่ายเดียว ชีวิตก็ได้เกิดมาแล้ว ก็จะไปรีบดับทำไม ประโยชน์มันมีสูง อย่างน้อยก็กตัญญูกตเวทีต่อศาสนาพระพุทธเจ้า ช่วยศาสนาพระพุทธเจ้าสืบทอด ทำงานต่อเนื่องให้แก่พระพุทธเจ้าต่อไป มันก็ดีทั้งนั้นเลย เหตุผลมีมากกว่านี้อีกแต่แค่นี้ก็เข้าใจแล้ว นอกจากพระอรหันต์ชนิดที่พาซื่อมากๆเรียกว่า สมสีสี ตายกับบรรลุอรหันต์พร้อมกัน คือ ไม่รู้เรื่อง บรรลุอรหันต์ได้จริงๆด้วยคือรู้จักกิเลสและหมดกิเลส แล้วตัวเองก็ตาย ตายกับบรรลุพระอรหันต์พร้อมกันเลยเรียกว่าพระอรหันต์ สมสีสี ตั้งจิตไม่ทัน ถ้านอกนั้นแล้ว โอ้โห ทำไมจะไม่ต่อ มันไม่มีปัญหา _ใบฟ้า….คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ของพ่อครูที่ดิฉันเชื่อมั่นและศรัทธาอย่างสูงสุด พ่อครูว่า… ใครจะบังอาจหรือว่าจะสามารถกล้าพูดว่าเราเป็นไก่ตัวพี่ ในเรื่องของศาสนาพุทธ หมายความว่า ไม่มีใครรู้ยิ่งกว่าเราหรอกในยุคนี้ ตอนนี้คนที่กล้าพูดต้องมี อาสโภ ต้องมีพลังอาสภะ พลังกล้าหาญอย่างแท้จริง มั่นใจในสิ่งที่เราเองพูดออกไปแล้วต้องพูดแล้ว ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที คุณพูดแล้วต้องเป็นได้ตามที่พูด ถ้าพูดแล้วไม่ได้เป็นตามที่พูด โอ้โฮ!หน้าแหกหมอไม่รับเย็บนะ สมณะฟ้าไท… ประกาศความยิ่งใหญ่ ด้วย พ่อครูว่า… ประกาศความยิ่งใหญ่ด้วยแล้วหมอไม่รับเย็บ หน้าแหกไม่รู้กี่ริ้วๆ เรียกว่าเป็นเส้นบะหมี่เลย _ใบฟ้า…คุณลักษณะของไก่ตัวพี่ของพ่อครู ที่ว่าคือ 1 ตอบปัญหาอย่างไร้เทียมทาน ตัวอย่างเช่น “ไม่ขอตอบใดๆ” “ไม่รู้ ” (จริงๆ) “ไม่ตอบ” “ไม่บอก”(คำถามหลอก) ถ้าเขาถามสิ่งที่ควรพูดควรอธิบาย ก็จะอธิบายและมีแต่จะอธิบายเกินกว่าที่เขาถาม _ใบฟ้า…2. No planning No project No Problem พ่อครูว่า… คือ อาตมาไม่มี plan ไม่มีพิมพ์เขียว ไม่มีผังอะไรของชีวิตเลย No project ไม่มีการตั้งโครงการอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่มี ไม่คาดว่าจะได้ ทำทุกปัจจุบัน ไปตามปัจจุบัน อาตมาจึงไม่มีผิดหวัง เพราะอาตมาไม่ได้ตั้งเป้า มีแต่เขาส่งยามุ่งเป้ามาให้กิน อาตมานี้ไม่มีมุ่งเป้าอะไรไปตามประสงค์ มันมีเป้าอยู่แล้วสุดยอดของเป้าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นจะต้องบอกเป้า บอก 2 + 3 + 4 ก็เป็นเป้าไปตามลำดับไปเรื่อย เป็นคนแม่นเป้าอยู่แล้ว _ใบฟ้า…3 เมตตา กรุณาหาขอบเขตไม่ได้ พ่อครูว่า… ถ้าใครเข้าใจจะรู้ว่า เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อาตมาก็อธิบายพรหมธรรม 4 ไม่เหมือนที่เขาอธิบายกัน เมตตาคือ ความเห็นใจคน อยากให้เขาพ้นทุกข์ อยากให้เขาได้บรรลุ อย่างน้อยก็เป็นสุขก็ยังดี เห็นคนเขาเป็นทุกข์ อยากเขามีสุข ก็อยากให้เขาพ้นทุกข์ อยากให้เป็นสุขก็ยังดี สูงกว่านั้นคือไม่สุขไม่ทุกข์ เป็นโลกุตระก็พ้นสุขพ้นทุกข์เลย ก็อยากช่วย กรุณา คือลงมือช่วย กรณะ แปลว่ากระทำ เมตตะคือจิต มัตตะ เกิดแต่จิตขึ้นมาก่อนเสร็จแล้ว กรณะ ลงมือทำ ลงมือช่วย ช่วยได้ตามประสงค์ ช่วยได้บรรลุธรรมตามที่ประสงค์แล้ว มุทิตา คือ ก็ยินดีด้วย อนุโมทนา ยินดีด้วยที่คุณได้เจริญขึ้นตามประสงค์ ตามที่ได้พากัน ช่วยกันไปแล้วก็ได้กันไป อุเบกขา คือ วางจิต ไม่ยึดติดในความดี ความมีบุญคุณ ไม่ จบ ทำงานสักแต่ว่าทำงาน เป็นการประพฤติพรหมจรรย์ มิใช่เพื่อหลอกลวงให้คนมาเคารพนับถือ ภิกษุทั้งหลาย ! พรหมจรรย์เราประพฤติ มิใช่เพื่อ… หลอกลวงคนให้มาเคารพนับถือ (น ชนกุหนัตถัง) มิใช่เพื่อเรียกคนมาเป็นบริวาร (น อิติ มังชโน) มิใช่เพื่ออานิสงส์เป็นลาภสักการะและเพื่อเสียงสรรเสริญ มิใช่เพื่อจะได้เป็นเจ้าลัทธิ หรือค้านลัทธิอื่นใดให้ล้มไป มิใช่เพื่อให้มหาชนเข้าใจว่า.. เราได้เป็นผู้วิเศษอย่างนั้น ก็หามิได้ ภิกษุทั้งหลาย ! ที่แท้ พรหมจรรย์นี้เราประพฤติเพื่อสำรวม เพื่อละ, เพื่อคลายกำหนัด, เพื่อดับทุกข์สนิท ฯ (พรหมจริยสูตร พตปฎ.เล่ม ๒๑ ข้อ ๒๕) พ่อครูว่า… คนเขาหาว่ามาสร้างลัทธิอโศก ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น อาตมาแยกออกมาเป็นนานาสังวาส บอกว่า แยกร้านปาท่องโก๋ออกมา ประชาชนกินสูตรอาตมา เพราะกินของท่านแล้วท้องอืดท้องเฟ้อ เราก็เลยขอแยกร้านมาตั้งข้างทาง ถ้ามีคนมาอุดหนุนร้านปาท่องโก๋ของอาตมาก็อยู่ได้ ไม่มีใครอุดหนุนก็ล้มไปเอง คือเราไม่ได้ไปอวดใหญ่อวดโต ไม่ได้ไปคิดเป็นล้มเขาแล้วทำตัวเองให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมา ไม่ใช่ เราพูดว่า เรามีความดี ความจริงตามพระพุทธเจ้าอย่างไรเราก็พูดความจริง แต่คนอาจจะฟังแล้วบอกว่า ก็มันพูดใหญ่ มันพูดมันรู้แล้วมันก็บอกว่า มันไม่รู้จะบอกว่า ตอแหลนี่ ซึ่งมันไม่ใช่มันเป็นคำพูดสิริมหามายา ซึ่งคนเข้าใจได้ยาก เป็นภาษาที่เหมือนกับเล่นกลกลับไปกลับมา อะไรจริงอะไรไม่จริง ซึ่งมันจริงทั้งนั้นแหละถ้าคุณจับประเด็นได้ โดยเฉพาะคำที่มันซับซ้อน มันลบล้างกันเอง บอกว่า มีแล้วก็ไม่มี อย่างนี้เป็นคำลบล้างกัน มันเป็นจริงซึ่งมันเป็นความลึกซึ้งทางปรมัตถ์ เป็นเรื่องซับซ้อน เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก เป้าหมายของเราเพื่อให้ดับทุกข์สนิท เมื่อได้แล้วมันสุดยอด อาตมาเป็นตั้งจิตเป็นโพธิสัตว์ก็ต้องนำพากันไปให้ได้สิ่งที่ประเสริฐ เกิดเป็นคนทั้งที ได้ชีวะเป็นจิตนิยามมาแล้ว จะไปโง่เง่าเต่าตุ่น เป็นปุถุชนตกนรกขึ้นสวรรค์บ้าๆบอๆมาตั้งไม่รู้กี่ล้านชาติ มันมาได้ชีวิตนี้ได้แล้ว จะทิ้งไป แยกธาตุเป็นดินน้ำไฟลมไปนี้ สุดเสียดายเลยนะ ใช่มั้ย. มันต้องทำประโยชน์ให้ได้ถึงที่สุดที่ควร ที่จริงอาตมาพูดหลายทีแล้ว อาตมาเมื่อยนะ สอนนะเมื่อยกาย ใจตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำงานยิ่งยุคนี้ยิ่งเมื่อยเรือหายเลย ฉะนั้น ใจนะตั้งหน้าตั้งตาทำงานแต่มันเมื่อย ยิ่งยุคนี้ยิ่งเมื่อยเรือหายเลย ไม่ใช่โบ๊ทนะ เรือนี้ ภาษาอังกฤษคำว่าเรือ มีโบท มีชิป และคำอื่นๆอีก จนกระทั่งเรือใหญ่ไททานิคเลย เขามีชื่อ _ใบฟ้า…เมตตากรุณาหาที่สุดไม่ได้ ตัวอย่างพูด “สงสาร” กับ ผู้“แสวงหา” สายหลับตา นับครั้งไม่ถ้วน เทศน์สอนๆๆๆๆ พ่อครูว่า… ใช่ อาตมาพูดสงสารจริงๆไม่ใช่เล่นๆ เมื่อไหร่คุณจะหายมืดบอด เมื่อไหร่คุณจะฟังเข้าใจรู้เรื่อง สงสารจริงๆ คำว่า สงสารนี้ก็ลึกซึ้ง คือเห็นว่าในคนที่เขาน่าสงสาร เขาจะวนอยู่ในวัฏสงสารอีกนาน เขาจะงมงาย วนอยู่ในวัฏสงสาร นั่นแหละคือเห็นสงสารของเขาซึ่งมันน่าสงสาร มันน่าจะช่วยให้ออกจากสงสารหรือสังสารวัฏนั้นๆ ก็ช่วย อาตมาช่วย คนที่อาตมาเห็นว่าควรช่วย อย่างเช่นอาตมาพูดถึงมหาบัวบ่อยๆ เพราะลูกศิษย์ของมหาบัวหรือคนที่ติดตามอย่างมหาบัวมันมีเยอะ มันได้ผลกับคนที่ไปติดยึดแบบเดียวกัน มันมีเยอะ ก็เลยพูดถึง ที่จริงคนที่ติดอย่างพระมหาประยุทธ์หรือสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ก็มีเยอะ แต่ถ้าพูดทางโน้นแล้ว ทางโน้นจะแย้งเก่ง อาตมาก็เลยไม่อยากพูดมาก ถ้าพูดไปแล้วอาตมาไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรพอดี ก็เลยตามควร อันนั้นยังไม่ควร เพราะฉะนั้นอย่าไปแหย่หนวดเสือ เดี๋ยวมันกัดเอา ก็เลยทำอย่างนี้ ถ้าพูดถึงมหาบัวไปทางนั่งหลับตา เขาแย้งอาตมายาก เพราะเขาไม่เหมือนกับทางโน้นทางโน้นรู้มาก รู้มากกว่าอาตมาอีก แย้งอาตมาจนกระทั่งอาตมาอั้นตู้เลย อาตมาไม่ได้รู้มาก มันมีพยัญชนะ ทั้งพยัญชนะประยุกต์อีกเยอะมากที่เขาเรียนกัน เอาขี้หมูมาใส่ขี้หมาเอาขี้ลามาใส่ขี้นกปนกันเต็มไปหมด มันก็ไม่ไหว _ใบฟ้า ตัวอย่าง พูดเทศน์สอนสายหลับตาจนนับไม่ถ้วนครั้ง พ่อครูว่า… ถ้าได้ทางสายหลับตา สายศรัทธามานี้มันง่ายกว่า ถ้าเป็นสายปัญญามามันจะยาก อย่างเช่น พระสารีบุตรใช้เวลาตั้ง 15 วันกว่าจะบรรลุ พระโมคคัลลานะแค่ 7 วันบรรลุเลยเอาสายนี้ก่อน สายโน้นเอาไว้ก่อน มันรู้มากยากนาน _ใบฟ้า… 4 เป็นไอดอล ของผู้ที่มี อภิปโมทยังจิตตัง เสมอๆ พ่อครูว่า… อภิปโมทยังจิตตัง หมายความว่า มีจิตเบิกบานร่าเริงอยู่เสมอ อาตมาว่า อาตมาเป็นคนเช่นนั้น ไม่โศกไม่เศร้า ไม่เคยเป็นคนจิตซึมๆ ความเครียดเป็นอย่างไรยังงี้ไม่รู้จักเลย จิตมันร่าเริงเบิกบาน อภิปโมทยังจิตตัง มันเป็นสามัญของผู้ที่มีจิตเป็นอย่างนั้นแล้ว แล้วเราก็ทำจิตของเราได้ จนกระทั่งจิตของเราเป็นอัตโนมัติ มันก็เป็นอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า อาตมาไม่ได้เสแสร้ง มันก็เบิกบาน ร่าเริงของมันอยู่เป็นปกติสามัญ จนกระทั่งบางทีค่อนข้างจะมากไปด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องดี มันเป็นเรื่องปกติ สู่แดนธรรม… ผมขอถามแทรกครับ โดยธรรมดาของพระอรหันต์ท่านจะไม่มีสุขไม่มีทุกข์ แต่ว่าปกติจริงๆ ต้องแสดงออกในทางปราโมทย์ พ่อครูว่า… นั่นเขาสายหลับตาพูด ไม่ยิ้มมาก ต้องเต๊ะท่า ผู้ที่เต๊ะท่า ยึดมั่นถือมั่นในท่า แต่ อาตมาไม่ต้องการเต๊ะท่าอะไร ก็ทำไปอย่างสบายๆ สู่แดนธรรม… ผมจะถามอย่างนี้ครับ ธรรมดาทางธรรมะ ไม่สุขไม่ทุกข์แล้ว แต่ชีวิตจริงๆแสดงออกถึงความมีสุขมากกว่าใช่ไหมครับ พ่อครูว่า… ใช่ คนเราก็อาศัยความสุข อาศัย.. ภาษาเรียกว่า ปรมังสุขัง ก็เรียกว่าอาศัยสิ่งที่มันสบายๆ เรื่องอะไรจะไปอาศัยสิ่งที่มันงอๆ คดๆโค้งๆ ไม่โปร่งไม่ใส ตื้อๆทึบๆ อย่างไร พยัญชนะสู่สภาวะอย่างนี้ สู่แดนธรรม… สายวัดป่าเขาจะบอกว่า ต้องแสดงออกแบบเฉยๆ พ่อครูว่า… เขาเองเข้าใจแบบนั้นเข้าใจว่าอยู่เฉยๆนี้ คือไม่มีบวกไม่มีลบ แต่ อาตมารู้จักอนุโลมปฏิโลมแล้ว ถ้าหากอาตมาเป็นคนเช่นนั้น เป็นคนเต๊ะท่าอย่างนั้น รับรอง พวกคุณเข้าไม่ติดหรอก เด็กๆเล็กๆยังไม่เข้ามาหาหลวงปู่หรอก แต่นี่เห็นไหม ทุกคนอยากเข้าใกล้ เกรง แต่ไม่กลัว อาตมาคนเกรง แต่คนไม่กลัว ใช่ไหม สู่แดนธรรม… พ่อท่านเคยบอกว่า การอนุโลม ต้องจ่ายพลังงานด้วย ถ้าหากอนุโลมมากก็เมื่อยเหมือนกัน พ่อครูว่า… ต้องประมาณตามควร สรุปแล้ว อภิปโมทยังจิตตัง คือจิตเบิกบานร่าเริงเสมอ ไม่มีโศกเศร้า ค่อนข้างจะมากนิดหน่อย เพราะว่า โดยบริบทของยุคสมัย ยุคสมัยนี้ มันทุกข์มาก มันเครียดเยอะ เราก็มีอันนี้ให้มากหน่อย เผื่อเขา เผื่อแผ่ โลกมันทุกข์มาก หรือโลกมันไม่เบิกบาน เราก็แจกเบิกบานให้มากหน่อย _ใบฟ้า…5. คำสอนทุกคำล้วนเป็นสัจจะความจริงที่พิสูจน์ได้ พ่อครูว่า… แสดงว่า คุณคนที่พูดมานี่รู้จักความจริง อ้อพ่อท่าน มีความจริง พูดอย่างนี้เป็นความจริงทำอย่างนี้เป็นความจริง แสดงว่า คนที่พูดก็ต้องรู้ว่าความจริงคืออะไร _ใบฟ้า 6 คำสอนเพิ่มความลึกซึ้ง ซับซ้อนแต่ง่ายต่อการนำไปปฏิบัติ เข้าใจลึกซึ้งซับซ้อนแต่ง่ายต่อการปฏิบัติตามภูมิธรรม และบารมีที่สั่งสมมา ตัวอย่าง การปฏิบัติศีล 3 ข้อ สามารถบรรลุอรหันต์ พ่อครูว่า… อาตมาก็ย่นย่อมาสรุปให้ฟัง จริงนะไม่ใช่พูดเล่น พระพุทธเจ้าสรุปมาในศีล 5 ข้อนั้น 3 ข้อนี้แหละเป็นหลัก ข้อที่ 4 ก็เป็นคำพูด ข้อที่ 5 ก็เป็นเรื่องของจิต ที่คุณเข้าใจแล้วทำไปตามลำดับ สุราเมระยะมัชชะ ปะมาทัฏฐานา ไปตามลำดับ คุณทำได้ขนาดไหน คุณทำได้ขนาดนี้ วันนี้ต้อง 1 ก๊ง ต่อไป 2 ก๊ง หรือสามก๊ง สุรา คุณก็เล่นซะ วันหนึ่งหลายขวด ก็ลดลงมา สุรามันก็เยอะ เมรยะ ก็ลดลงมา เอาเหลือวันละขวด มัชชะ ลดลงมาอีกไม่ถึงขวด วันละเป๊ก จนกระทั่งไม่ประมาทแล้วเลิกเลย อย่างนี้เป็นต้น ก็หายเมาไปตามลำดับ ติดยึดความเมาก็เลิกเมาไปตามลำดับ นั่นคือข้อ 5 _ใบฟ้า 7. สามารถสร้างคน :- สงฆ์4 มีวรรณะ 9 สาราณียธรรม 6 พุทธพจน์ 7 และสังคมสาธารณโภคีที่เยี่ยมยอด พ่อครูว่า… แหม ข้อที่ 7 นี้สุดยอด เนื้อๆเลย ฝากไว้ก่อนโอฬาร _ใบฟ้า…ข้อ 8 ประกาศอย่างองอาจแก้วกล้า ถึงปณิธานที่ยิ่งใหญ่สูงสุดคือบำเพ็ญเป็นพระพุทธเจ้า พ่อครูว่า…อาตมาจึงไม่ได้ทำเล่นไม่ได้บำเพ็ญโพธิสัตว์เล่น และก็ไม่ได้พูดผิดด้วย เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 จริงอะไรอย่างนี้เป็นต้น แต่คนไม่รู้ อาตมาต้องพูดแล้วต้องยืนยัน แล้วคนก็หาว่าอวดตัวอวดตน ซึ่งมันเป็นความจำเป็นมากที่สุดเลยว่า จำเป็นต้องอวด จำเป็นต้องยืนยัน เพราะคุณเรียนมาผิด ในโลหิจสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 9 ผู้ที่บรรลุแล้วไม่ต้องบอกว่าตนเองบรรลุ …โลหิจจพราหมณ์ มีทิฏฐิลามก ว่า “ผู้บรรลุแล้วไม่พึงบอกแก่ผู้อื่น เพราะคนอื่นจะทำอะไรแก่อีกคนหนึ่งได้ การบอกแก่คนอื่นจัดว่าเป็นความโลภที่เป็นบาป เปรียบเหมือนคนตัดเครื่องพันธนาการเก่าออกแล้ว กลับทำเครื่องพันธนาการใหม่… ฯลฯ ” . พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ย่อมมีคติ ๒ คือ นรกหรือกำเนิดเดียรัจฉาน อย่างใดอย่างหนึ่ง (พตปฎ. เล่ม ๙ ข้อ ๓๕๘) พ่อครูว่า… โลหิจพราหมณ์พูดเองเองทั้งนั้น พระพุทธเจ้าบอกว่า เป็นมิจฉาทิฏฐิ ดีนะมีคำสอนพระพุทธเจ้ายืนยันเอาไว้ ถ้าไม่อย่างนั้นยากมากเพราะเขาเชื่ออย่างนั้น ซึ่งมันผิด อาตมาไม่ได้ทำผิดที่พระพุทธเจ้าท่านพาเป็น ท่านสอนไว้ ไม่ได้ทำผิด ขอยืนยันเลย แต่คนนี่ก็ คนเขาไม่เชื่อถือเขาไม่ศรัทธา บอกว่าพูดเวอร์ไปพูดมากไป ดีไม่ได้อวดตัวอวดตน ซึ่งคนชั่วเขาก็อวดตัวอวดตน โครมๆ อวดกาม ผู้หญิงอวดกาม สวยงามอย่างนั้นอย่างนี้เซ็กซี่อย่างนั้นอย่างนี้ น่าเกลียดจะตายอวดอยู่นั่นแหละ. พวกคุณกว่าจะรู้ตัวมานี่ ก็ได้น่าอายมาตั้งเท่าไหร่แล้ว ใช่ไหม นึกดีๆ คิดดีๆ อื้อหือ พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสไว้ชัด เหมือนผู้หญิงเปลือยกาย อะไร เหมือนคนมาเปลือยกาย อยู่ดีๆ การเปลือยกาย มันน่าอาย การมาอวดกาม มันน่าอาย จริงๆแล้วก็เข้าใจได้ง่ายเมื่ออธิบายหน่อย อวดสุญญตา อวดนิพพาน อวดความละหน่ายจางคลายจากกิเลส กลับไปข้อที่ 7 ผลงานของพ่อครู สงฆ์ 4 สงฆ์แปลว่า หมู่ หมายถึงตั้งแต่พระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ เรียกว่า สมณะ 4 เหล่า แล้วก็มีวรรณะ 9 คนที่มีคุณสมบัติวรรณะ 9 ซึ่งไม่มีใครเอามาพูดอธิบายมากหรอกเหมือนอย่างอาตมา มีอยู่ในพระไตรปิฎก เล่ม 1 เลย ข้อ 20 เป็นพระวินัย เลี้ยงง่าย (สุภระ) บำรุงง่าย, ปรับให้เจริญได้ง่าย (สุโปสะ) มักน้อย, กล้าจน (อัปปิจฉะ)คือเอาไว้แต่ในน้อยๆเป็นคนเอาไม่มากสะพัดออก เป็นคนที่จะต้องมีไว้แต่ในน้อยนี่คือสุดยอดเศรษฐกิจแบบคนจนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตรัสไว้ ใจพอ สันโดษ (สันตุฏฐิ) เขาแปลสันโดษ เบี้ยวบาลีว่า พึงพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ลองไปถามคุณธนินท์ มีสมบัติพัสถานหลายแสนล้าน เขาก็พึงพอใจของเขาหรือเปล่า เขาก็บอกว่าพึงพอใจในสิ่งที่เขามีอยู่ หรือคุณเจริญอย่างนี้ เดี๋ยวนี้มีคนไทยชื่ออะไร สารัชถ์ รวยเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยตอนนี้ ก็ว่ากันไป เขาก็พึงพอใจในสิ่งที่เขามี เขาก็ว่าเขาได้มาอย่างสุจริต เขาไม่ได้ทุจริตอะไร เขาก็ว่าของเขาไป ซึ่งมันไม่ใช่ มันขึ้นกับความมักน้อยด้วย ใจพอ แค่นี้ก็พอ สูงสุด 0 ก็พอ อย่างพวกเรานี้มันเข้าเกณฑ์วรรณะ 9 เดี๋ยวค่อยขยายความละเอียดขึ้น เพราะฉะนั้นมันยังไม่มีความจบ ยังไม่มีหมดกิเลสก็ขัดเกลาไป ขัดเกลากิเลส (สัลเลขะ) เพ่งทำลายกิเลส มีศีลสูงอยู่ปกติ (ธูตะ, ธุดงค์) คำว่า ธุดงค์ มาเป็นภาษาไทยเขาแปลเป็นออกดงออกป่า มุดทะลุดงเลย พระธุดงค์คือ พระออกเดินเข้าป่า มันออกนอกเรื่องนอกราวไปหมดเลย ที่จริงแล้วพระธุดงค์คือ ผู้ที่มีศีลเคร่ง มีศีลที่เจริญ เคร่งครัดได้ขึ้นเรื่อยๆแต่พอได้แล้วท่านไม่ได้เคร่งครัดได้ เป็นผู้เจริญในธรรม มีศีลเรียกว่า ข้อปฏิบัติที่เจริญขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นผู้ที่น่าเลื่อมใส มีอาการน่าเลื่อมใส (ปาสาทิกะ) ผู้รู้ ผู้ที่มี ภูมิปัญญาจะเห็นว่า มีอาการน่าเลื่อมใส อย่างเช่นอาตมา ผู้รู้จะเห็นว่าน่าเลื่อมใส ขยันอธิบายธรรมะทำงานไป เป็นตัวอย่างอันดี ผู้รู้เขาจะเข้าใจ ผู้ไม่รู้เขาด่า ก็ไม่มีปัญหาอะไร ยิ่งไปย้อนแย้งกับที่เขาไปติดใน ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ติดในความรู้ของเขาอยู่ เขาก็แย้งอาตมา มันตรงกันข้ามกับเขา เขายังติดอยู่อย่างนั้น ไม่สะสม ไม่กักเก็บออม (อปจยะ) ขยันเสมอ, ระดมความเพียร (วิริยารัมภะ) คุณสมบัติข้อที่ 8 ข้อที่ 9 นี้สุดยอดในกระบวนการทั้ง 9 ข้อของวรรณะ 9 ไม่สะสมแล้วขยันสร้างสรรค์ร่ำรวย นี่แหละ คนจนมหัศจรรย์ คนจนที่แสนรวย ทำแล้วไม่เอามาเป็นของตนเลย แจกจ่าย เอาไว้ส่วนกลาง ส่วนกลางบริหารเป็นประโยชน์เกื้อกูลผู้อื่นต่อไป ซึ่งเป็นหลักเศรษฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่นักเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยใดๆในโลก ยังเรียนไม่ถึง นอกจากมหาวิทยาลัยพุทธที่เป็นโลกุตระ มีที่อโศกนี้ที่เดียว ไม่สะสมแล้วยอดขยัน ขยันสร้างสรร แต่ไม่เอาไว้ คือไม่สะสม ทำแล้วก็เอาไปสิ เราก็ให้เขาเอาไปสิ พรุ่งนี้ก็ทำอีก วันนี้นอนก่อนพัก พรุ่งนี้ตื่นเช้ามีเวลามีแรงงานทำต่อ ถ้าป่วยก็พัก เมื่อยหรือว่ามันไม่ไหวก็พัก ถ้าไหวก็ทำ ขยัน ไม่มีขี้เกียจ ไม่มีจิตใจยึดติด มันเป็นสุดยอดแห่งคนเจริญ และสุดยอดแห่งความขยัน สุดยอดของคนที่มีคุณค่าประโยชน์แล้ว 2 ข้อสุดท้ายข้อที่ 8 ข้อที่ 9 เป็นสุดยอดแห่งศาสตร์ สุดยอดการเมือง สุดยอดสังคมศาสตร์ ข้ออื่นๆ ก็เหมือนกัน ข้ออื่นก็สนับสนุนส่งเสริมตั้งแต่ เป็นคนเลี้ยงง่าย เลี้ยงง่ายนั้น กินความกว้างมากเลย ไปก็ง่าย มาก็ง่าย จะอยู่ก็ง่าย จะนอนก็ง่าย จะตื่นก็ง่าย จะทำก็ง่าย จะสร้างสรรค์อะไรก็ง่าย จะเจรจาพาทีอะไรกันก็ง่าย ไม่มีเรื่องมาก สุภระ _สู่แดนธรรม.. นามสกุลของคุณหินอ่อน ไม่เรื่องมาก พ่อครูว่า… สุโปสะ ทำให้เจริญ ทำให้พัฒนา ทำให้งอกงาม ง่าย ไม่ยาก อย่างพวกเรา บำรุงง่าย ทำให้เจริญในธรรมเข้าใจง่ายๆ ให้พัฒนาได้ง่าย เข้าใจได้ไว รู้ได้ไวว่า ใช่ อย่างพวกเรานี้ พออยู่พอกิน เหลือกินเอาไปทำแจก มีแรงงานก็ไปปลูกไปแจก อีกหน่อยไปละเมิดทำสวนคนอื่นเขานะ เดี๋ยวเป็นข้อหาบุกรุกโดนจับ ที่สาธารณะก็ทำไปเถอะ อีกหน่อยปลูกไปเลย ปลูกตรงข้างทางให้ไปถึงท่ากกเสียวเลย ตอนนี้ปลูกไปที่คำกลาง บ้านกุดระงุม. มะเขือ ข่า ตะไคร้ พริก โหระพา กระเพรา ที่เป็นของกินประจำของบ้าน ก็ปลูกไป มันเลี้ยงง่ายด้วย _สู่แดนธรรม… ทำห้างร้าน ให้มันเจริญขึ้น เขาจะห้ามไหมครับ พ่อครูว่า… ก็ทำไปดู อาจจะปลูกฟักแฟงแตงร้าน อะไรต่ออะไร บวบ ให้เขาเก็บกินข้างทางก็ได้ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ไม่รู้จะผิดกฎของเทศบาลเขาหรือเปล่า เรื่องวรรณะ 9 ทั้งหมด วรรณะ แปลว่า ขั้นชั้น มีขั้น มีชั้นที่เจริญ สุพรรณะขั้นชั้นที่เจริญ ทุพรรณะเป็นขั้นชั้นเหมือนกัน แต่เป็นขั้นชั้นที่ไปสู่ความเป็นนรก อเวจีความไม่เจริญ เพราะฉะนั้น สามารถที่จะทำให้คนมีวรรณะ 9 นี้ได้ จนกระทั่ง ทั้ง 9 นี้ มีในตัวเรา มากน้อยก็แล้วแต่ ในพวกเรานี้พูดได้เลยว่า พวกเรามีวรรณะ 9 สุดยอดเลย นี่อยู่ในคำสอนของพระพุทธเจ้า อาตมาไม่ได้เอามาจากไหน แล้วเอามาขยายความทำให้เข้าใจและเป็นไปได้ ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที พูดอย่างไรก็ทำได้อย่างนั้น มันสุดยอด นี่ก็เป็นวรรณะ 9 ต่อมา สาราณียธรรม 6 พุทธพจน์ 7 และ สังคมสาธารณโภคี เป็นสังคมสาราณียธรรม 6 อาตมาก็ยืนยันว่า พวกชาวอโศกนี้เป็นพวกสังคมสาราณียธรรม 6 มีหัวข้อ 6 อย่าง สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา ลาภธัมมิกา คือ ลาภที่ได้โดยธรรม ไม่ได้เป็นลาภทุจริตแต่เป็นลาภที่ได้โดยสุจริต เอามาเป็นกองกลางกินใช้ร่วมกันเรียกว่า สาธารณโภคี มีคุณธรรมของพุทธพจน์ 7 สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ อยู่กันอย่างมีความสามัคคี พร้อมเพียงกันทำอะไรก็เป็นปึกแผ่น เอกีภาวะ สุดยอดเลย เพราะฉะนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้าเรียกว่า อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ท่านตรัสเอาไว้อย่างไร เราเอามาเรียนรู้ ทำได้ตามพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ อย่างนั้น นี่คือ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ สมณะฟ้าไท… สรุปจบ Categories: ธรรมะพ่อครู, ศาสนาBy Samanasandin7 กันยายน 2022Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:650905 ประโยชน์อันสูงสุดจากศาสนาที่มนุษย์พึงได้ รายการ ตุ้ม ตะลุ่ม ตุ้ม ม้ง ครั้งที่ 53NextNext post:650909 สังคมของคนที่ตายจากกิเลสจนเป็นพระอาริยะ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024