651209 พ่อครูตอบปัญหาสื่อสภาวธรรมโลกุตระ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1MDArjNykqxxvrzWO6hJggfqDL_aDfnFiYoKzJNNkXdA/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1wj3Oj8NJbcbCSmFgiSUVBYFc_u0s-NqX/view?usp=share_link
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/atC7TK-KWwo
และ https://fb.watch/hiVjYFGa0O/
สมณะฟ้าไท… วันนี้วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล ที่ราชธานีอโศกเข้าสู่ช่วงเตรียมการเข้าสู่ตลาดอริยะ น้ำไฟสถานที่ตลาด ฝุ่นตลบอบอวลไปหมด เด็กๆ ก็ช่วยกันเต็มที่ พวกช่างไฟก็ต้องนอนกันดึกดื่น ส่วนตลาดประชารัฐบุญนิยม มีแม่ค้ามาขายของ พ่อครูไปดูก็สงสารพวกแม่ค้า เลยอยากจะให้เปิดน้ำตก จะได้มีคนมาเที่ยวชมน้ำตก จะได้มาซื้อของที่ตลาดด้วย ไปถามคนทำน้ำตก ก็บอกว่าวันอาทิตย์จะเปิดได้ เขาก็ส่งข่าวไปทางออนไลน์กัน เดี๋ยวก็มากัน โดยเฉพาะเด็กๆมาก่อนเพื่อน
เราเร่งทำเพื่อมวลมนุษยชาติ แม้แต่ในโลกเขาก็พยายามประสานกันอย่างรวดเร็ว เพื่อเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ของเราก็ปรับเพื่อช่วยมวลมนุษยชาติให้รวดเร็วเหมือนแข่งกับเวลา
อาตมามาอยู่บ้านราช คำว่าไม่ด่วน ไม่มีเลยนะ พ่อครูตั้งชื่อสมณะรูปหนึ่งว่า ด่วนดี นึกว่าด่วนทั้งปี
พ่อครูว่า… ด่วนทั้งปีก็ ดีทั้งป่วน สิ
สมณะฟ้าไท… พ่อครูมีมุขเยอะ แต่ว่าทำความดีแล้วยังต้องด่วน ถ้าไม่ด่วน ก็ไม่ทันกับมวลมนุษยชาติ
พ่อครูว่า… ไปนับพวกป่วนมาเป็นพวกดีด้วยสิ
สมณะฟ้าไท… อยู่กับพระโพธิสัตว์เจ้าต้องเร่งเครื่องตลอดเวลา เหมือนพ่อครูสมัยก่อนว่า เหยียบคันเร่งเต็มเก
พ่อครูว่า… ถอดเบรคทิ้ง
สมณะฟ้าไท… เราเป็นคนตามก็ฝุ่นตลบ ก็ทำให้เราได้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ชาวอโศกก็จะมีสมรรถภาพสูงขึ้นดีขึ้น
พ่อครูว่า… ดีนะ ที่เข้าใจว่า เราโตขึ้น ที่จริงน่ะแก่แล้ว รู้ว่าอะไรโต คำว่า โต คำนี้หมายถึงอะไร เราโตขึ้น แสดงว่า เป็นผู้เข้าใจความหมายคำว่า โต หมายถึง ปรมัตถธรรม หมายถึงธรรมะที่เป็นทางจิตวิญญาณ ร่างกายมันก็เลยอายุสักประมาณ 30 25 เขาก็ว่าเต็มที่ 30 ประมาณนั้น นอกนั้นก็จะค่อยๆเสื่อมลงแล้ว มันจะไม่โตกว่านั้นแล้ว แต่ว่าปรมัตถธรรมมันโตขึ้น เจริญขึ้น
คนเข้าใจได้ว่า จิตวิญญาณเจริญขึ้นมี 2 นัยยะ อันหนึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ อีกนัยยะหนึ่งเป็นปรมัตถ์แท้ เป็นสัมมาทิฏฐิแท้ เจริญขึ้นก็เป็น 2 นัย เดี๋ยวก็คงจะได้อธิบายกัน มีคนที่เขาว่าเขารู้มากรู้ดี เขาว่า เราไม่ค่อยรู้
sms 7-8 ธันวาคม 2565
_นายแรงเกื้อ ชาวหินฟ้า : กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
เนื่องจากกระผมได้ฟังรายการของพ่อครู ที่กล่าวถึงจังหวัดอุบลราชธานี ว่าเป็นจังหวัดเดียวที่ลงท้ายด้วยราชธานี เมื่อฟังแล้วก็คิดถึงชื่อของจังหวัดอื่นๆ ว่าจะมีคำลงท้ายด้วยราชธานีหรือไม่ ก็นึกได้ถึงจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีความหมายว่าเป็นเมืองของพระราชา ส่วนจังหวัดอุบลราชธานี คำว่าราชธานี ก็แปลว่าเมืองของพระราชา อย่างนี้จะอนุโลมว่าราชบุรีใกล้เคียงกับราชธานี ของจังหวัดอุบลฯ ได้หรือไม่
แล้วผมก็ไปคิดถึงชื่อเต็มของกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งชื่อเต็มของกรุงเทพฯก็คือ “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์มหินทราอยุธยามหาดิลก ภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหาสถานอมรพิมานอวตารสถิต สักกทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์”
จะเห็นได้ว่า ส่วนหนึ่งของชื่อเต็มของกรุงเทพฯ มีคำว่า “ราชธานี”อย่างนี้แสดงว่า จังหวัดในประเทศไทยที่มีคำว่า “ราชธานี” น่าจะมี 2 จังหวัดคือ จ. อุบลราชธานีและ จ. กรุงเทพฯ ที่มีส่วนหนึ่งระบุว่า “ราชธานี” คงจะเป็นเช่นนี้ใช่หรือไม่
กราบเรียนมาด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
นายแรงเกื้อ ชาวหินฟ้า
พ่อครูว่า… ได้ เอาพยัญชนะมาพยายามจะให้มันเหมือนหรือไม่เหมือน เรื่องของพยัญชนะ ก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร
จิตว่าง กับจิตเพ่งเล็ง กับจิตมีสติ อย่างไหนดีกว่ากัน
_กิตติ จุลกิจ •..จิตว่าง กับ จิตเพ่งเล็ง กับ จิตมีสติ อย่างไหนจะดีกว่ากัน อย่ายึดติดกับการเปรียบเทียบ…ควรเห็นในสิ่งที่มันเป็นเช่นนั้นเอง..
พ่อครูว่า… ก็คงติงไว้ตอนท้าย จะว่า แต่คนนี้ยังถามว่า จิตว่าง กับ จิตเพ่งเล็ง กับ จิตมีสติ อย่างไหนจะดีกว่ากัน แต่ก็ติงว่าอย่าติดกับการเปรียบเทียบ มาให้ไม่ยึดติด มีการถามความเปรียบเทียบกันว่า อย่างไหนดีกว่ากัน มันก็มีนัยยะ 3 อย่าง
จิตเพ่งเล็ง จิตมีพลังงานจิตที่เพ่งไปตรงนั้น (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
จิตว่าง ก็มี 2 นัย นัยที่ เป็นมิจฉาทิฏฐิ เขาก็ว่างได้ เขาก็ทำจิตว่างแบบมิจฉาทิฏฐิ ก็คือ จิตมันทำให้มันเกิด ไม่มี 2 สภาพ มี 1 มี1 โดยวิธีการของเขา สารพัดเยอะแยะวิธี แล้วก็ทำให้ว่าง แม้แต่จะพยายามทำขณะลืมตา รู้ นิ่ง เฉย แล้วก็ทำให้จิตว่าง เฉยนี่คือว่าง รู้ นิ่ง เฉย รู้นิ่ง ว่าง อย่างนี้ได้ หลับตาเขาก็ทำได้ เป็นจิตว่าง
แต่ จิตว่างอย่างสัมมาทิฏฐิ คือ จิตมันว่างจากกิเลส ต้องเรียนรู้อ่านจิตที่เป็น 2 ที่มีการสัมผัสแล้วรู้ ไม่ใช่ไปหลับตา ที่จริงหลับตาก็รู้เหมือนกัน 2 อย่าง คือรู้ให้แท้จริงว่า ดับมืดไปเป็น 1 ตัวรู้มันอีกหนึ่ง มันก็เป็น 2 อยู่ดี ตัวรู้ว่าจิตเราทำให้มันดับมืด กับจิตมันดับมืดก็เป็น 2 เรียกว่า สุภกิณหะ
ส่วนจิตว่างจากกิเลสนั้น เรียนรู้กิเลสอย่างตาลืมๆนี่เลย สัมผัสแตะต้องแล้วก็รู้กิเลส หยาบ กลาง ละเอียด ตั้งแต่กามภพ ในกามาวจร แล้วก็ลดกิเลสหมดแล้วก็เหลือกิเลส ในภพเป็น รูปภพ อรูปภพ อยู่ในรูปาวจร อยู่ในกามาวจรนี่แหละคือ ลืมตามีตาหูจมูก ลิ้นกายสัมผัสภายนอก แต่กามหมดแล้ว ก็เหลือกิเลสต่อมา
สัมผัสแล้วกิเลสมันก็เลยเกิด เป็นรูปราคาะ อรูปราคะ ก็ลดมันอีก ไม่ใช่เป็นหลับตาแล้วมีรูปราคะ อรูปราคะ อันนี้ลึกซึ้งซับซ้อนคนก็ไปงมงาย เพราะว่าหลับตามันเป็นสัมภเวสีมันไม่มีรูปไม่มีนาม มันมีแต่นามอย่างเดียว เพราะฉะนั้นรายละเอียดของจิตว่างแบบสัมมาทิฏฐิก็ต้องรู้
จิตเพ่งเล็ง คือ จิตจดจ่อ เพ่งกับอะไร ส่วนมากก็เป็นสมถะ
ส่วน จิตสามัญ ไม่ใช่จิตสมถะ จิต ที่รู้ความจริงตามความเป็นจริง ก็เรียนรู้ สัมผัสรู้ ไม่ต้องไปเพ่งไปเล็งให้มันปวดเมื่อยอะไรเลย โดยมีจิต มีสติมีสัมปชัญญะ มีปัญญา แล้วก็รู้ความจริงตามความเป็นจริง จิตไม่ต้องเพ่งเล็ง จะเพ่งเล็งก็เพ่งอยู่ ถ้าไม่เพ่งแล้ว จิตก็รู้ มีฌานวิสัยของพระพุทธเจ้ามีปัญญาตามแบบพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็น อจินไตย ฌานวิสัยเป็นอจินไตย คนรู้ไม่ได้ง่ายๆ อาตมาค่อยๆอธิบายไป อธิบายไม่เก่งเท่าไหร่ ค่อยๆทำไป
จิตมีสติ ดีกว่าเพื่อน จะว่าไปแล้ว
_สู่แดนธรรม… พ่อท่านเคยวิจัยว่า สติมันมี 2 อย่าง ให้สติมันเป็นพระอริยะดีกว่า สติของปุถุชน
พ่อครูว่า… ใช่ สติของพระอริยะก็ดีกว่าเป็นสติที่รู้จักกิเลสและลดกิเลสได้ ส่วนสติของปุถุชนเขาก็ตื่นเต็ม แต่เขามีกิเลสเป็นเจ้าเรือน กิเลสออกบทบาทของมันเต็มที่ เขาไม่ได้เรียนรู้กิเลส ไม่ได้เรียนรู้ในการลดกิเลส เขามีสติตื่นเต็ม แต่กิเลสก็ทำหน้าที่กับสตินั้น ธาตุรู้นั้น
_susu2510 … สุสุ 2510…อยากให้ผู้ใหญ่ ช่วยดูสไลเดอร์ด้วย เพราะเด็กเดินสวนขึ้น แล้วมีเด็กสไลด์ลงไปด้วย ถ้าชนกันเด็กอาจบาดเจ็บได้นะคะ เช้าๆเปิดดู เห็นหลวงปู่เดินไปเยี่ยม ให้กำลังใจญาติโยม มีความสุขมากคะ ยิ่งเห็นสุขภาพท่านแข็งแรง ดูแล้วมีความสุขมากๆ แม้ว่าดิฉันจะอยู่ไกล และไม่เคยไปสันติอโศกเลย สักสาขาเลย ได้แต่ติดตามท่านทางโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ก็พยายามปฏิบัติตามท่าน แม้จะได้เพียงน้อยนิด แต่ก็มีความสุขมาก ไม่เบียดเบียนสัตว์และมนุษย์คะ
พ่อครูว่า… ดี จับสาระได้ ก็ได้ประโยชน์และเกิดประโยชน์ไปตามจริง เป็นมนุษย์ที่ได้ศึกษาธรรมะและได้ปฏิบัติธรรม ได้ปฏิบัติธรรม จนรู้ว่าเราได้ ลด ละ หน่ายคลาย โดยเฉพาะหน่ายคลายจากโลกีย์นี่แหละคือได้ประโยชน์จากธรรมะ
ชาวอโศกมีคนหนุ่มสาวน้อยกว่าคนแก่
_Pensinee Khumkaew เพ็ญสินี คุ้มแก้ว….ผู้เฒ่าแต่แข็งแรง…สาธุ คนลดน้อยเหรอคะ คนหนุ่มสาวมีไหมคะ สังคมมีแต่ธรรมะและเสียงหัวเราะ
พ่อครูว่า… หนุ่มสาวมีน้อยลง เติมมาน้อย แต่คนแก่มีอยู่ติด อยู่ประจำเลย คนเติมเข้ามามันไม่สมดุลกัน คนหนุ่มสาว คนเด็กที่จะเข้ามาตามมา ไม่ทันคนแก่ คนแก่นี่รู้แล้ว คนแก่มาศึกษาที่นี่แล้วก็มาอยู่ที่นี่ รู้เลย ขอตายที่นี่ คนที่รู้ชัดเจนแล้วที่นี่เป็นที่ควรอยู่ เป็นที่ที่ควรฝากชีวิตไว้ เขาก็อยู่ มันเป็นธรรมชาติอย่างนั้น อาตมาก็มีสิทธิ์บอกความจริงไปว่าคนหนุ่มสาวมีน้อยลง เด็กๆก็มาอาศัยเรียน เราก็ช่วยอบรมไป เสร็จแล้วจะไปก็ไป ศิษย์เก่าก็มีน้อยมาก มีอยู่ประจำน้อย ศิษย์เก่าส่วนมากเขาก็ไปมีครอบครัว ถูกโลกดึงไปเสียเยอะ มีอยู่ก็บ้าง แต่มันก็ไม่มากเท่าไหร่ น่าจะมากขึ้น ก็คิดว่าในอนาคตคงจะมากขึ้นเรื่อยๆ
_yutthichai Chai • ยุทธิชัย ชัย….พูดตามตรง อรหันต์นั้นคงมีหลายรูปแบบแน่ๆ แบบพระป่าหลวงปู่มั่นนั่นก็มี แบบหลวงพ่อสดวัดปากน้ำก็มี เเบบท่านพุทธธาติก็มี แต่สำหรับท่าน ท่านสำเร็จอรหันต์แล้วครับ แต่เป็นอรหันต์ในอีกรูปแบบหนึ่งครับ
ฟันธง โชะเชะ!!!
พ่อครูว่า… ใช่ คุณยุทธิชัยพูดถูก มันก็เข้าใจกันไปคนละแบบต่างกัน ต่างความเห็น มันเป็นธรรมชาติ เป็นนานาสังวาส อรหันต์มีหลายแบบ นานาสังวาส คนนี้เห็นว่าอรหันต์เป็นแบบนี้แบบนั้น อย่างที่แยกมาย่อยๆ อรหันต์ที่เขายึดถือกัน คนละแบบมีเยอะ แม้ที่สุด ถึงขนาดอรหันต์เป็นศรีอริยเมตไตรยก็มี อรหันต์จี้กงก็มี เป็นประวัติศาสตร์
_yutthichai Chai • ยุทธิชัย ชัย….จะสมถะยังใง จะหลุดโลกยังใง ชีวิตก็ยังต้องใช้เทคโนโลยี่ของโลกสมัยใหม่อยู่ดี นี่แหละเดินสายกลางอย่างแท้จริง เฉกเช่นตาดูดาวเท้าติดดิน
พ่อครูว่า… อ้อ สุดท้ายเราก็รู้ว่า เป็นลูกศิษย์ของ คนตาดูดาวเท้าติดดินนี่เอง หมายถึงใครก็นึกเอาเอง เป็นลูกศิษย์ของคนนี้นี่เอง
_Uamphon Bringsoe เอื้อมพร บริงโซ…กราบนมัสการพ่อครูที่เคารพยิ่งค่ะ ท่านเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณให้ลูกในทุกๆเรื่องอย่างแท้จริง กระทั่งงานโยธาลากท่อ ทั้งๆที่พ่อก็อายุไม่น้อยแล้ว ดูแล้วอบอุ่นมากค่ะ อีกไม่นานจะไปกราบพ่ออีกครั้งค่ะ
_ฐิตา ชัยสงคราม • …หมู่บ้านอยู่ติดแม่น้ำมูล ง่ายแก่การปลูกผักสวนครัว บรรยากาศน่าอยู่ อยู่แบบเรียบง่าย
พ่อครูว่า…มีแต่คนเห็นว่า น่าอยู่ แล้วทำไมไม่มาสักที เห่อ.. เห็นว่าน่าอยู่ เอาล่ะก็ดีแล้วล่ะ เมื่อไหร่มาก็ยินดีต้อนรับ มา ฟ่าวๆมา ภาษาอีสาน ฟ่าวคือ Hurry up เร็วๆเข้า
นาม 5 ต้องศึกษาเพื่อใช้ลดกิเลสจริง
_ผาหิน เชาวนประเสริฐ • …นาม ๕ เวทนา(สุข,ทุกข์,เฉยๆ)สัญญา(เจตสิกของจิต,จดจำคำสอน) เจตนา ผัสสะ นมสิการ ฆ่ากายกลิ ผมบางครั้งก็จำไม่ได้เหมือนนึกแล้วนึกอีก แต่ไม่เครียด
พ่อครูว่า…ถ้าฟังแล้วนี่เข้าใจสภาวะ มันจะเป็นรากฐาน บางทีอาตมาพูดพยัญชนะ แม้แต่เอาบาลีมาประกบ มาประกอบขยายความ คุณฟังแล้วพยายามนึกให้ถึงสภาวธรรม ว่ามันหมายถึงอย่างไรให้ได้ แล้วมันจะเป็นรากฐานของการศึกษา ถ้าจำแต่บัญญัติไม่เข้าหาสภาวะ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไท… ธรรมะที่พ่อครูอธิบาย เอาสภาวะเป็นหลักเป็นเบื้องต้นแล้วเอาฉลากคือพยัญชนะมาแปะ ถ้าเอาสลากมาก่อน นึกว่าตัวยามีจริงลงสลาก จึงมีแต่ความว่างเปล่า ธรรมะของพ่อครูก็ตาม จึงต้องมีสภาวะ รองรับโดยธรรมชาติ
เหมือนพระไตรปิฎก เราไม่มีสภาวะรองรับไปอ่านแล้วจะเพี้ยน จึงต้องให้พ่อครูอ่านจะเจ๋งที่สุด เข้าไปอ่านก็แปลไม่ง่าย ถ้าพ่อครูอ่าน มีสภาวะ ท่านจะรู้ว่าอันนี้ถูก อันนี้ไม่ถูก อันนี้ตรง อันนี้ไม่ตรง ตัวเองไม่มีภูมิพอที่จะไปตัดสินได้ มันก็เลยยากกว่า ผู้ที่มีภูมิพอจึงเป็นศัตรูที่จะเอาธรรมะพุทธเจ้ามาขยายความให้พวกเรา ได้รู้ตามยุคสมัย
พ่อครูว่า… นาม 5 เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ อันนี้ทุกวันนี้วงการศาสนาเขาก็ไม่ได้ศึกษานาม 5 รูป 28 ไม่ศึกษากันแล้ว เพราะว่ามันเข้าใจไม่ได้ มันเสื่อม เมื่อไม่ศึกษารูปนาม ไม่เอารูปนามพวกนี้มาศึกษาสภาวธรรม มันก็ค่อยๆเสื่อม ก็ไม่เจริญขึ้นได้ มันต้องรู้และต้องใช้จริงๆ
อย่างนามของเรา เราจะศึกษา คนที่ปฏิบัติธรรมจะต้องคำนึงถึงว่า ส่วนนามนะ แยกให้ชัดนะ ตอนนี้อธิบายส่วนของนาม มันต้องมี เวทนา สัญญา เจตนา แล้วต้องมีผัสสะกับมนสิการ
มนสิการ แปลว่า จัดการทำใจในใจ ทำใจในใจก็คือเวทนา สัญญา สังขาร หรือเวทนาสัญญาเจตนานั้นแหละ ทำอันนี้แต่ต้องมีผัสสะจึงจะมีมนสิการได้ เขาไม่เข้าใจปฏิบัติธรรมอ่านพระไตรปิฎกไม่แตกก็ไม่รู้ว่านาม 5 ต้องปฏิบัติอย่างไร ปฏิบัติเลยไม่มีผัสสะ
เพราะฉะนั้น อาตมาถึงได้พูดไม่มีผัสสะไปหลับตาปฏิบัติ ผัสสะก็มีแต่จิตในจิต มันไม่มีผัสสะ ไม่มีที่เป็นที่ตั้งของจิตวิญญาณที่เป็นสัมภเวสี สัมภเวสีพูดเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ มันคือจิตที่เรานึกไปเองอยู่ในภวังค์ มันก็อยู่ในภพของตัวเองเท่านั้น เขาไม่เรียกว่าความจริง (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไท… เรียนธรรมะพ่อครู ถึงไม่เน้นให้หลับตา เพราะอยู่กับปัจจุบันเสมอ หลับตาไม่มีผัสสะจริง แค่เราไปทบทวนตัวเองในบันทึกประจำวัน เขียนไปเขียนไปนึกว่าตัวเองบรรลุธรรม ไปเจอผัสสะจริงก็คนละเรื่อง แค่เราเขียนบันทึกลืมตา ทบทวนไปฟังธรรมพ่อครูไปสภาวธรรมดีจริงๆเลย อาตมาเคยไปบิณฑบาต อยู่องค์เดียวเดินไปสงบจริงๆ ทบทวนธรรมะ พอโยมใส่บาตรเท่านั้น อ้าว…กิเลสขึ้นมาอีก มันคนละเรื่องกัน เมื่อมีผัสสะก็จะเห็นอาการกิเลส
พ่อครูว่า… ก็ขอติง อยู่อย่างหนึ่งว่า พระพุทธเจ้าก็เคยเตือนพระอานนท์ คือเรื่องกิเลสหรือไม่ใช่กิเลส บางทีเราผัสสะแล้ว มันไม่ใช่กิเลสหรอก มันเป็นความจำ มันเป็นสัญญาเก่า อาการของสัญญาเก่า มันระลึกขึ้นมาในขณะนั้น มันเป็นสัญญานะไม่ใช่ปัจจุบันธรรม คุณอ่านจิตของคุณ จิตของคุณเฉยๆว่างๆ แต่คุณรู้สึกว่ามันเป็นกิเลส แค่มันเป็นความจำขึ้นมาหลอก อันนี้แหละรู้ยาก จริงๆ เราไม่ได้อยาก ไม่ได้ต้องการ ไม่ได้อะไรเราก็เฉยๆจริงๆ ธาตุจิตแท้ๆของเราบรรลุแล้วเราเฉยๆกับมัน แต่ความจำมันหลอน มันหลอกเรา เราเคยอยากได้เราเคยชอบเคยติด นึกออกไหม นี่ ระวัง
พระพุทธเจ้าถึงได้ปรารภกับพระอานนท์ ว่า สัญญาความจำนี้กว่าจะหายไปเกลี้ยง กว่าจะล้างได้หมด มันซ้ำซ้อนแล้วมันมาหลอกเราเอง ถ้าจิตปัจจุบันนั้นไม่เป็นกิเลสแล้ว แต่เราไม่รู้ ตัดรอบไม่ได้ เพราะความจำมันมีอยู่ไง ความจำมันก็มาหลอกเรา เราเคยมา ของที่เราเคยมามันเป็นอดีตที่มาหลอกเรา แท้จริงต้องอ่านในปัจจุบันนี้ว่า เรามีจิตอย่างไร อ่านให้ชัดจับในปัจจุบันให้ได้ เอ๊ มันยังอยากได้ หรือเรายังชอบหรือเราชังมัน ถ้าไม่มีชอบไม่มีชังแล้วในปัจจุบันมันก็จบ สัญญามันก็หลอกเราไม่ได้
สมณะฟ้าไท… ผมเกิดสภาวะ พอ อ่านไปมันก็หาย
พ่อครูว่า… หรือไม่หาย มันก็จะพัฒนา ถ้าเป็นกิเลส เฮ้ย ปัจจุบันยังพัฒนาอยู่ได้
_สู่แดนธรรม… แสดงว่าที่พ่อท่านพูดนี่ให้เน้นความสำคัญไปที่ กามาวจร
พ่อครูว่า… ใช่ เน้นกามาวจร ผู้ที่ปฏิบัติรูปาวจร อรูปาวจร ก็อยู่ใน กามาวจร อวจร คือ กระทบอยู่หน้าไม่ใช่อยู่ในภพ อวจรคือ เป็นคำบอกว่า มันยังดำเนินอยู่ กระทบอยู่ รูปาวจร เป็นรูปก็อยู่ในกามภพ ภพ ทางตาหูจมูกลิ้นกายหมดเลย อรูปก็มีกามาวจร กามภพที่ไปอยู่ข้างในได้ รูปภพ อรูปภพ อยู่ข้างในได้ แต่ว่า อวจร คือ มันต้องดำเนินอยู่ จรมาให้เห็นได้รู้ ร่วมกันได้
สมณะฟ้าไท… พ่อครูพูดให้กำหนดรู้ให้ชัดเจนว่า เป็นสัญญาหรือเป็นกิเลสอันนี้แยกยาก ในขณะผัสสะปัจจุบันไม่ง่าย
_สู่แดนธรรม… พวกเราอยากจะช่วยให้พ่อท่านพูดช้าๆ
พ่อครูว่า… ทั้งๆที่วันนี้นอนเยอะนะ ถ้าจะมาพยายามจะไม่รีบตาย ก็ต้องเข็น ก็ว่าไป
_สมณะคิดถูก นาวาบุญนิยม….ถ้าผมจำไม่ผิดแนวคิดที่ชื้อที่สร้างบ้านในชุมชนแต่กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของมูลนิธิเกิดจากชุมชนปฐมอโศก กระมังครับเพราะเป็นชุมนุมแรกๆที่พ่อครูและลุงจำลองก่อตั้ง
พ่อครูว่า…ใช่ ไม่ต้องกระมังหรอก เต็มตุ่มเลย ไม่ใช่กะละมัง ความคิดนั้นเป็นอย่างนั้น
อยากมาอยู่ในหมู่บ้านชาวอโศกต้องทำอย่างไร
_จริงจริง จริงใจ …อยากไปอยู่หมู่บ้านนี้จังต้องทำยังงัยค่ะ ฉันตัวคนเดียวอายุ54ปีคะ
พ่อครูว่า…เอาตัวกับหัวใจมาเท่านั้นได้เลย ไม่ต้องมีอะไรมาก จะทำอย่างไรก็เอาตัวกับหัวใจ แล้วถ้าจะมาก็ดูตัวเองหน่อย ถ้ามาอยู่ที่นี่ต้องมา 1.ถือศีล 5 อย่างต่ำ แล้ว 2.ต้องไม่กินเนื้อสัตว์ 3.ไม่มีอบายมุขนะ มาอยู่ในนี้ ที่นี่เขาไม่มีกัน เพราะฉะนั้นเนื้อสัตว์ไม่ได้กิน ถือศีล 5 ต้องถือ อบายมุขเขาไม่มี ถ้าคุณมี 3 อย่างนี้พอได้ มาอยู่ได้ เชิญ รีบมาเลย ยินดีต้อนรับมาได้มีตัวกับหัวใจเท่านั้นมาได้อยู่ที่นี่พออาศัย ไม่มีที่พักที่ผ่อนอะไรแม้แต่เสื้อผ้าไม่มีก็มีของ สถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจอยู่เยอะ
_สู่แดนธรรม… ค่าจ้างแรงงานที่นี่ไม่มีนะ
พ่อครูว่า… นี่ทำงานฟรี มันสุดยอดเป็นดินแดนที่ ธเนศเขาบอกว่า ศิวิไลซ์อยู่ที่ไหน ศิวิไลซ์ อะไรอยู่ที่ไหนอยู่ที่นี่ อยู่ตัวคนเดียวมาอยู่ที่นี่แหละดี
_Boonya Klaeotanong บุญญา เกล้าทนง…พ่อครูเดินได้อย่างไรเป็นกิโลๆ, ทั้งอายุ 88..สุดยอดเลยค่ะ ..สาธุค่ะ
พ่อครูว่า… อาตมาเดินก็ต้องเอาอายุไปด้วยสิ ไม่เอาไปด้วยจะทำอย่างไร อาตมาอายุ 88 ก็ต้องเดินเอาอายุไปด้วย ของทุกคนอายุ 55 ก็อายุ 55 ไปด้วย อายุ 88 ก็เอาอายุไปด้วย ก็เดินไปกับอายุ แปลก เดินไปได้อย่างไร อาตมาเล่นมุข คงหมายถึงอายุมันมากแล้วมันก็คงจะแก่งอกแงก ควรจะนั่งวีลแชร์ได้แล้ว อายุ 88 ก็ยังไม่มากนะคนอายุ 90 อายุน้อยก็เดินได้มีเยอะไป อาตมาไม่ใช่คนแรก ไม่ใช่คนเดียว มีเยอะไป อายุ 88 ยังเดินเหินได้แข็งแรง แข็งแรงกว่าอาตมายังมีเลย เรายังวิ่งทน แข่งขันได้เลยอายุ 80 90 มีเลย อาตมาไปวิ่งทนไม่ได้แล้วทุกวันนี้
อยู่กับโลกต้องสทนาเรื่องโลกอย่างไม่ติดโลก
_วนิช Okศิลป์ไทย • พ่อครู ไม่ หาผู้นำที่ เก่งๆ หาได้แค่นี้หรือครับ พวกท่าน สนทนา ทางโลก มันก็ ผิดแล้วครับ สมณะผู้สละโลก แต่ ไม่เชื่อในกรรม การเมืองที่ ทำไห้ มวลชน ผิดใจกัน ถ้าคนละฝั่ง ท่านจะเอา ตนเป็น ที่ตั้ง ให้เชื่อฟัง ขนาดพวกท่านยัง ไม่สังกัด พระสงฆ์ไทย ดูนอกรีต นอกรอย แต่ ทำตัว เป็นภิกษุ
พ่อครูว่า… อยากหาอยู่นะ มันได้แค่นี้ อาตมาก็เก่งแค่นี้ มาช่วยอาตมาหน่อยสิ ตอนนี้เขาแสดงภูมิเลย อาตมาว่าไม่ผิดหรอกเพราะพวกเรายังอยู่ในโลกอยู่ ยังไม่ได้ออกไปนอกโลก คุณไปอยู่นอกโลก คุณก็ไม่ต้องสนทนาเรื่องโลกก็คงจะได้ พูดกับดาวคนละดวงไป อาตมาจำเป็น อาตมาอยู่ในโลกอยู่ก็สนทนาทางโลก ใช่ผิด เพราะคุณนึกว่าเป็นความเห็นของคุณ คุณนึกว่าคุณ.. อาตมาเป็นคนอยู่ในโลก อาตมาสนทนาเรื่องโลกก็หาว่าอาตมาผิด คุณต่างหากเข้าใจผิด คุณอยู่ในโลก คุณไม่สนทนาทางโลก แต่คุณไปสนทนาทางต่างดาว ทางดาวอังคาร ดาวจันทร์อะไร พวกนี้ไม่ใช่โลกๆนี้ มันอย่างไร คุณต่างหากคิดผิด คุณอยู่ทั้งโลกต้องสนทนาทางโลก โดยเฉพาะคุณเป็นคนไทย ต้องสนทนาภาษาไทย อยู่ในโลกต้องสนทนาภาษาคน จะไปสนทนาภาษาลิง ภาษาหมาไม่ได้อยู่ในโลก คุณต้องภาษาคน มันเป็นธรรมดาอยู่ในโลก มันต้องเป็นอย่างนี้แหละบอกว่าผิด อาตมาก็บอกว่า คุณต้องพิจารณาตัวเองว่า คุณผิดหรืออาตมาผิด
อาตมาเอง อาตมาก็เข้าใจว่า คุณเองคุณเข้าใจอย่างของคุณ อาตมาก็เข้าใจอย่างของอาตมา มันเป็นนานาสังวาสมันต่างกัน มันเป็นพุทธร่วมกันเหมือนกัน แต่ว่าความเห็นต่างกันมันก็จบตรงนี้ คุณก็เห็นอย่างหนึ่ง อาตมาก็เห็นอย่างหนึ่ง ตกลงนะ คุณเห็นอย่างของคุณ อาตมาไม่มีปัญหา อาตมาเห็นอย่างอาตมา อาตมาเข้าใจคุณได้ อาตมาไม่แปลก แต่คุณเห็นอาตมาแปลก คุณพยายามทำความเข้าใจอาตมาก็แล้วกัน จนหมดความแปลกก็จะไม่มีปัญหา
คนในโลกมีจำนวนน้อย ที่มีปัญญาจะมาเชื่อถือพ่อครู
_Jutamas. zaa • จุฑามาศ ซ่า…ผมฟังตารักแล้วก็พูดโอ้อวดตัวเอง ว่าตัวเองเป็นพานทอง ประกาศว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยคงโง่กันเนาะ ไม่ไปกราบพระอรหันต์อย่างตารักพวก รีบไปกราบกันนะตารักเดี๋ยวพวกแกจะตายก่อน เพราะตารักแกบอกว่าอายุแกจะได้ 151ปี แกบอกว่าปางนี้แกเป็นพระสารีบุตรกับชาติมาเกิด เพื่อฟื้นศาสนาพุทธเพราะศาสนาพุทธแกบอกว่าเสื่อมหมดแล้ว แต่แกบอกว่าพระสารีบุตรปางนี้ฉลาดกว่าสารีบุตรปางเป็นสาวกพระพุทธเจ้าโคดม พวกคนมีปัญญาก็คงเชื่อแกเยอะเนาะ วงเล็บปัญญาอ่อนไง
พ่อครูว่า… ไม่มีศาลไหนในโลกตัดสินว่าอาตมาผิดเมื่ออาตมาประกาศว่าตนเองเป็นอรหันต์นะ ไม่มีศาลไหนตัดสินได้หรอกว่าอาตมาพูดนี้โกหกประชาชนหรือเปล่า คุณก็ไม่รู้ มีอรหันต์ด้วยกันจริงๆเท่านั้น อย่างพวกชาวอโศกเข้าใจและรู้ว่าอาตมาเป็นอรหัน ต์จริงๆก็จะเชื่อ คนไม่เข้าใจจะเชื่อได้อย่างไร
เออ คุณก็รู้ว่าคนส่วนใหญ่ในประเทศก็โง่ เรื่องโลกุตระนี้ก็จริง คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้แม้แต่ชาวพุทธ เยอะ ส่วนใหญ่ยังโง่คือยังไม่รู้คือยังไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจโลกุตระ มีเป็นส่วนมากจริงๆ คุณรู้นะว่า คนส่วนใหญ่ยังโง่อยู่ก็จริง
คนส่วนใหญ่เลยไม่มากราบพระอรหันต์อย่าง ตารัก เขาว่า คนทั้งหลายแหล่โง่เป็นส่วนใหญ่ ก็ถูกสิ เขาโง่ เขาจะมากราบทำไม ก็เขาไม่รู้ความจริงว่าอาตมาเป็นอรหันต์ เขาก็ไม่มา ก็ถูกแล้ว
ถ้าอาตมาพูดเป็นความจริง อาตมาก็มาฟื้นศาสนาพุทธแน่ เพราะพระสารีบุตรเป็นผู้สืบทอด เป็นอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ถ้าเป็นจริงก็มาสืบพระพุทธศาสนาแน่ เพราะว่าพระพุทธศาสนานั้นเสื่อม ถ้า พระสารีบุตรมาจริงเป็นจริง ก็สืบทอดพระศาสนาจริง
ทีนี้จะว่าสืบทอดพระศาสนาจริง ถ้าอาตมาไม่ใช่พระสารีบุตร มันก็สืบทอดไม่ได้ หรือมันก็พาผิด มันก็ไม่ใช่แน่นอน แต่ถ้าอาตมาสืบทอด จะเป็นพระสารีบุตรหรือไม่เป็นพระสารีบุตรไม่ชื่อว่าพระสารีบุตรก็ตาม แต่อาตมาเอาเนื้อหาโลกุตรธรรมมาสืบทอดได้ทั้งๆที่มันเสื่อม เอาโลกุตรธรรมมาสถาปนาลงไปในมนุษย์ได้จริง แค่นี้คือสัจจะของมันพอแล้ว
เหลือแต่โลกีย์แหลกเหลวเยอะ ปาราชิกเรื่องเงินเรื่องทองกันเยอะ เรื่องจริงนะ ไม่ได้กล่าวตู่ นอกนั้นก็เละไปหมดแล้ว
คุณจะรู้อะไร พระสารีบุตรเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้ว กับสารีบุตรมาถึงนี่ ยาวนานมาอีก 2000 ปี ก็ต้องพัฒนามา อาตมาบอกคุณได้ว่า อาตมาเป็นสารีบุตร ถ้าอาตมาเป็นสารีบุตรจริงแล้วอาตมาก็มาเกิดอีก มีชาติใหม่ๆมาเกิดอีก สารีบุตรตายแล้วก็มาเกิดเป็นมนุษย์อีก แล้วก็ดำเนินพัฒนาความเจริญแก่ตนเองมาอีก จนมาถึงฐาน มาถึงชีวิตพระโพธิรักษ์ ถ้าอาตมาเป็นพระสารีบุตรจริง อาตมาผ่านเวลามาตั้ง 2,500 ปี ไม่เจริญขึ้นไปอีก จะมาเกิดทำไม เกิดแล้วเกิดอีกทำไม เกิดแล้วไม่เจริญขึ้น เกิดแล้วเสื่อมลง เสื่อมลง
ถ้าคุณบอกว่าพูดอย่างนี้ผิด คุณก็เกิดมาอีกแล้วก็เสื่อมลงเสื่อมลงก็เรื่องของคุณ แต่อาตมาไม่เอา อาตมาจะต้องเป็นผู้ที่เจริญขึ้น จะเป็นสารีบุตรจริงหรือไม่เป็นสารีบุตรจริงอาตมาก็ต้องเจริญขึ้น เป็นสารีบุตรเจริญขึ้นกว่า
อาตมาเป็นสารีบุตรจริงในยุคพระพุทธเจ้า ยุคนี้ก็ต้องเป็นสารีบุตรที่เจริญกว่าในยุคโน้นอาตมาไม่ยอมต่ำกว่าเดิมหรอก พัฒนาจริงๆ
ใช่ คนโง่ไม่เชื่ออาตมา ก็คนมีปัญญาก็คงเชื่อ คุณพูดถูก พูดจริง คนโง่ไม่เชื่ออาตมาหรอก
มีแถมว่า ปัญญาอ่อนอีก
_Jutamas. zaa • จุฑามาศ ซ่า….ใครว่าตารักเป็นคนดีมันอวดตัวเองว่ามันเป็นอรหันต์มันพูดว่ามันเป็นพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิดเป็นโพธิรักษ์มันก็ไม่ไช่แล้วพวกคุณฟังแกแล้วไปหลงเชื่อตารักผมว่าพวกคุณนี้หน้าจะโง่สุดๆเลย
พ่อครูว่า… ถ้าอาตมาไม่บอกว่าตัวเป็นอรหันต์ เพราะคนเข้าใจผิด ไปเข้าใจมหาบัวสายหลับตาว่าเป็นอรหันต์ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้นะ ไปนั่งหลับตาปฏิบัติธรรมไม่ได้เป็นอะไรหรอก มันต้องลืมตาปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 ปฏิบัติจรณะ 15 วิชชา 8 นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นพุทธคุณของพระพุทธเจ้านะ เป็นนั่งหลับตาเป็นของเดียรถีย์ ยืนยันได้เลยเต็มป่าเป็นของเดียรถีย์ทั้งนั้นนอกพุทธ แค่นี้คุณรู้ไม่ได้ คุณฉลาดยาก ว่าอะไรเป็นพุทธอะไรไม่ใช่พุทธอย่างนี้ฉลาดยาก
อาตมาพูดความจริง ไม่ได้อวดอะไร ไม่มีสาเฐยจิต อาตมาเป็นอรหันต์รู้ว่า สาเฐยจิตเป็นอย่างไร อาตมาไม่มีมันในจิต อาตมาพูดจริงบอกจริง แล้วย้ำอีกทีต้องบอกคือ บอกให้รู้ว่าอรหันต์เป็นอย่างนี้ อย่างนั้นมันไม่ใช่ ต้องยืนยันตัวจริงให้สัมผัสเลย กายกรรม วจีกรรมมโนกรรม แสดงธรรม มีพฤติกรรม แล้วก็สร้าง อธิบายมนุษยชาติให้มนุษยชาติปฏิบัติ จนมาเกิดสังคมสาธารณโภคี มีสาราณียธรรมอย่างนี้ยืนยัน คุณก็ยังไม่เข้าใจยังไม่รู้อีก
ที่เถรสมาคมวงการศาสนาพุทธเขายืนยันสาราณียธรรม 6 หมู่บ้านชุมชนสาราณียธรรมได้ไหมล่ะ นี่ อาตมาทำได้ เป็นของพระพุทธเจ้าอยู่ในตำราพระไตรปิฎก เอามายืนยัน นี่ก็ลองลืมตาดูความจริงบ้างสิ ว่า คนสอนแล้วเป็นไปได้ และเป็นง่ายหรือเปล่า ซึ่งไม่ง่าย ตรงตาม พระไตรปิฎกหรือเปล่า ตรง คุณธรรมพุทธพจน์ 7 อย่างนี้เป็นต้น สาราณียะ ปิยกรณะ คุรุกรณะ สังคหะ อวิวาทะ สามัคคียะ เอกีภาวะ ไม่ทะเลาะวิวาทกัน ที่นี่ไม่มีตำรวจที่จะมาตัดสินคดีกับที่นี่เลยสักครั้งเดียว ไม่มีการทะเลาะวิวาทกันเลย อวิวาทะ
สามัคคียะ พร้อมเพรียงกัน เป๊ง…พรึ่บ ไป ช่วยกันทำงานสามัคคีพร้อมเพรียง
เอกีภาวะ นี่มันตรงกับสภาวะที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ทั้งสิ้นเลย คุณมาศึกษาดีๆสิ
อาตมาพูดว่าเป็นสารีบุตรนั้น พูดไป ไม่ได้จะให้คุณมาเชื่อหรือไม่เชื่อ จะใช่หรือไม่ใช่อาตมาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
คุณเขียนมาว่า อาตมาเป็นตา ขอบคุณที่ยกให้อาตมาเป็นพ่อของแม่
คนฉลาดได้ความจริง คนโง่ได้ความปลอม
_พูดไปพูดมาตารักก็อวดตัวเองอยู่ดีว่ากูนี้แหละเป็นอรหันต์เป็นโพธิสัตว์ระดับ.7จะถึง.8แล้วถ้าถึง.9.ก็เป็นพระพุทธเจ้าแกบอกว่าแกขอเป็นพระพุทธเจ้าสมัยเดียวมันพูดแค่นี้พวกคุณยังคิดไม่ได้อีกเหรอว่าตารักเป็นคนแบบไหนมันมองคนข้างนอกเป็นคนโง่หมด แต่มันไม่มองตัวมันเองว่าคนข้างนอกเขามองพวกมันยังไง
พ่อครูว่า… โพธิสัตว์ระดับ 7 ระดับ 8 ระดับ 9 เป็นความรู้ที่อาตมาอธิบายทั้งนั้น ไม่มีใครอธิบายอย่างอาตมาหรอก รับฟังบ้างสิ เป็นสิ่งใหม่ๆสิ่งที่ไม่เคยได้ยินได้ฟัง มันเข้าท่าหรือไม่ให้มันมีประโยชน์บ้าง ฟังแล้วไร้ประโยชน์ เป็นโทษตัวเองอีก ตายๆ เพ่งโทษพระอาริยะ นั่นก็เป็นสัจจะอย่างหนึ่ง เป็นบาป 11 ประการ ธรรมดา
อาตมาก็พูดจริง ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าก็จะเป็นสมัยเดียว พูดแค่นี้ก็จบแล้ว จะไปพูดอะไรอีกล่ะ อาตมาเป็นคนมีความจริงคุณรู้ไหม
อาตมาบอกแล้วว่า อาตมารู้ว่าคนข้างนอกเขามองอาตมาอย่างไร คนข้างนอกเขาเข้าใจอาตมาได้น้อย เข้าใจผิดนั้นมาก คนเข้าใจผิดนั้นเป็น คนฉลาดหรือคนโง่ คุณก็แปลเอาเอง ส่วนคนที่รู้ว่าอาตมาเป็นอาริยะ เป็นอรหันต์นั้น น้อย จริง มีน้อย คนฉลาดมีเท่านี้แหละ ส่วนคนไม่ฉลาดนั้นเขาไม่เข้าใจหรอก มันเป็นสัจจะ คุณพูดมาก็ไม่ได้ผิดอะไร คนข้างนอกเขามองอาตมาอย่างไม่รู้จัก เขาไม่รู้ก็คือเขาโง่ใช่ไหม แต่อาตมาไม่อยากไปว่าคนส่วนใหญ่เขาโง่ คุณเป็นคนมาแยกแยะเอง คุณก็แยกแยะ ถูกอยู่นะ
_สำหรับคนที่มีบัญญาความรู้เรื่องพระพุทธศาสนาจริงๆนะขนาดผมรู้ไม่เยอะผมฟังพวกมันออกมาพูดแต่ละคนผมยังสงสารพวกสาวกทั้งหลายของเขาเลยว่าทำไมไม่ดูโลกภายนอกเขาบ้างหนอไปหลงเชื่อคนอย่างโพธิรักษ์ได้ยังไงเอาอะไรมาวัตรว่าอะไรจริงอะไรปลอม
พ่อครูว่า… เขาพ้นสงสารไปเยอะแล้ว แต่คุณยังอยู่ในสงสารอยู่ก็ถูกแล้ว พวกคนชาวอโศกพ้นจากสงสารได้เยอะแล้ว คุณยังตกอยู่ในสงสารอีกเยอะ
คนชาวอโศกนี้เห็นโลกภายนอกได้ดีกว่าคุณ แล้วเขาก็หลุดพ้นจากโลกภายนอก มาแล้ว คุณสิ ยังจมอยู่ในสงสาร ยังจมอยู่ในโลกภายนอกอีกเยอะ คุณรู้ตัวเองไว้ซะด้วย
ดู เขาฉลาด เขาจึงเชื่อ เอาอะไรมาวัดว่าจริงหรือปลอม ฟังดีๆ
คำว่า ปลอม เป็นคำต่ำ คำว่าจริง เป็นคำสูง
ความจริงนั้นยาก ความปลอมนั้นง่าย
เพราะคนโง่มันเยอะ คนฉลาดมันน้อย
คนฉลาดได้ความจริง คนโง่ได้ความปลอม
คุณอยู่ในพวกไหนล่ะ คุณอยู่ในพวกมากใช่ไหม จบ
_ผมขอพูดตรงๆเลยนะถ้าตาโพธิรักษ์เป็นอรหันต์จริงใน.หลวง..ร๙..ของเราไปกราบแกแล้วตาโพธิรักษ์เชื่อผมเถอะผมฟังแกพูดแกว่าแกไม่เคยนั่งสมาธิไม่ถึง10นาทีฟังแกพูดก็น่าจะรู้แล้วนะเพราะอะไร ผมจึงไม่เชื่อแกเลยสักนิดเดียวว่าตารักษ์เป็นอรหันต์
พ่อครูว่า… อาตมารู้ว่า ในหลวงคือในหลวง ในหลวงรู้แสนรู้ว่าโพธิรักษ์คือใคร แต่ในหลวงจะมา มีเถรสมาคม มีประชาชนส่วนมาก ที่ยังติดยึดอยู่ในอันโน้น ที่มาที่นี่คือคนมีภูมิปัญญา เฉลียวฉลาด มีโลกุตรธรรม จำนวนน้อย ในหลวงรู้ว่า ทางนี้รอดแล้ว แต่ทางโน้นยังไม่รอด แล้วท่านก็ไม่จำเป็นจะต้องมาช่วยทางนี้ เพราะฉะนั้นท่านไม่จำเป็นจะต้องแสดงออกอะไรที่จะต้องมาพบปะมาสังสรรค์อะไรเลย
ท่านเคยกล่าวถาม อธิบดีกรมชลประทานอยู่ครั้งหนึ่ง ว่า น้ำท่วมบ้านราชมาก แล้ว ท่านก็ตรัสเปรยถามอธิบดีกรมชลประทานว่า บ้านราชเป็นอย่างไร อธิบดีก็ตอบว่าเขาอยู่สบายดี เขาพึ่งตนเองรอด เพราะเราเคยไปช่วยแล้วเขาไม่รับอะไรเลย เราไปดูแลคนที่เขาช่วยตัวเองไม่ได้เถอะ
มันเป็นสัจจะ คุณก็มีข้อมูลของคุณ อาตมาก็มีข้อมูลของอาตมา ฟังอธิบายให้ดีๆ ไม่จำเป็นที่ในหลวงต้องมาประจ๋อประแจ๋ชาวอโศก ไม่จำเป็น เพราะในหลวงก็คือในหลวง ท่านคือโพธิสัตว์ระดับหนึ่ง ท่านไม่ได้ทำอย่างคุณหรอก
ที่ว่า นั่งสมาธิทีไรต้องเกิน 10 นาทีทุกที ใช่ไหมที่มันเขียนมาอย่างนี้
_สู่แดนธรรม… ผมว่าเขาเขียนผิด เขาเขียนว่าพ่อครูนั่งสมาธิได้ไม่เกิน 10 นาที
พ่อครูว่า… นั่งทั้งคืน อาตมาก็ยังเคยทำมาเลย นั่งตั้งแต่หัวค่ำจนเช้าลุกขึ้นมาค่อยเดินจงกรม อาตมาเคยทำมีคนบันทึกไว้ด้วย คุณก็หาข้อมูลให้ชัดๆหน่อย ละเอียดหน่อย พูดว่าอาตมาไม่ตรง มันไม่ดี
ซึ่งคุณจะไปเชื่อได้อย่างไร คุณมีภูมิเท่าของคุณ นายจุฑามาศเอ๋ย
คนมีปัญญาปฏิบัติมรรคมีองค์ 8 คนอวิชชาปฏิบัติหลับตาสมาธิ
_ผมฟังหลาย คลิปแล้วฟังวนไปวนมาแต่ละคลิปแกพูดมันขัดหลักความจริงทั้งนั้นเลยครับพวกคุณอย่าไปหลงคำพูดของแกโดยที่ขาดความรู้การศึกษาหาความจริงมาไส่ตัวเองก่อนแล้ว ค่อยมาตัดสินใจว่าอะไรผิดอันไหนถูก
พ่อครูว่า… คุณวนอยู่ในกรอบแคบๆ อาตมาอธิบายขยายความจะเห็นว่ามีการ เชื่อมต่อ แต่คุณฟังตัวขยายไม่ออก เมื่อฟังไม่ออก คุณก็ไม่รู้ คุณไม่รู้ก็รู้สึกว่ามันวน แกนของมันวนๆๆ คุณก็ได้อยู่แค่นั้น ไม่ออกไปจากกะลา อยู่ในกะลาเป็นธรรมดา ฟังแล้วก็วนๆอยู่แค่นี้
_ผมขอยกตัวอย่าง โพธิรักษ์บอกว่า การปลูกผักทำสวนทำนาก็คือการปฏิบัติธรรม ผมขอบอกว่ามันไม่ใช่ การปฏิบัติธรรมคือการฝึกจิต ถ้าจิตของเรายังฝึกไม่ดีพอจะไปทำงานได้อย่างไร
พ่อครูว่า… นี่แหละคือคนที่ทำให้โลกเสื่อม ทำให้สังคมเสื่อม ทำให้สังคมขาดแคลน เป็นตัวปลิงของสังคม ได้แต่เกาะคนอื่นกิน ปฏิบัติธรรมไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องทำงานอะไร มาเอาแต่นั่งสะกดจิตอยู่อย่างนั้น นี่คือพวกเดียรถีย์ พวกเข้าใจมรรคมีองค์ 8 แล้วก็ปฏิบัติธรรมในขณะทำงานอาชีพ ในขณะทำการงานทุกอย่าง สัมมาอาชีวะ สัมมากัมมันตะในขณะที่พูด และในขณะที่คิด ไม่ได้ไปปลีกออกจากหมู่ ไม่ได้ปลีกออกไปนั่งหลับตาอะไรที่ไหนเลย สมาธิของคุณก็เข้าใจไม่ได้
คำว่า สมาธิ เจโตสมาธิ นั่งหลับตาแบบนั้นมีอยู่ในโลกของโลกีย์ตลอดเวลา แต่พระพุทธเจ้านั้นมาตรัสรู้สมาธิของท่านใหม่ เป็นสมาธิไม่ต้องนั่งหลับตาปฏิบัติ ลืมตาปฏิบัติมีจรณะ 15 วิชชา 8 คุณเอาหูมาฟังหน่อย ไม่ใช่ปิดหูฟัง หรือจะฟังทะลุหูซ้ายทะลุหูขวา ฟังดีๆแล้วเอาไปคิดดีๆ คุณจุฑามาศ นายจุฑามาศฟังดีๆ เปลี่ยนชื่อเป็นผู้ชายๆหน่อยไม่ได้หรือไง
พ่อครูว่า… การปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้านั้นอยู่ในการทำอาชีพให้เป็นสัมมา กระทำอยู่ พูดอยู่ก็ให้เป็นสัมมา คิดอยู่ก็เป็นสัมมา แค่นี้คุณก็เข้าใจไม่ได้ ว่าการปฏิบัติธรรมที่เป็น สัมมาทิฏฐิเป็นอย่างนี้ นี่อยู่ในสัมมาทิฏฐิ10 ในมรรคมีองค์ 8 นะ ศึกษาดีๆคุณจุฑามาศ
การปฏิบัติธรรม คือ การฝึกจิต ก็ถูกของคุณ แต่การฝึกจิตไม่จำเป็นต้องไปนั่ง นิ่งๆเฉยๆเสียเวลา เสียสถานที่แล้วก็เต๊ะท่า ไม่ใช่ การฝึกจิตของพระพุทธเจ้านั้นฝึกได้ทั้งในการทำการงานอาชีพการงานทุกอย่างและขณะพูด ขณะทำ ขณะคิด ฝึกคิดได้ตลอดเวลา
ถ้าจิตของเรายังฝึกไม่ดีพอจะไปทำงานได้อย่างไร คนที่ไม่ฝึกจิตนั้นอยู่เต็มไปหมดเลย เขาทำงานได้อยู่นะ เขาทำงานเลี้ยงโลกด้วย แค่นี้คุณก็โง่ได้ คนไม่ได้ฝึกจิตทำงานได้อย่างไร ก็คือเขามีสติสัมปชัญญะแม้จะเป็นโลกีย์
คนไม่ฝึกจิต ทำงานไม่ได้เลย บ้าหรือเปล่า
_พระพุทธเจ้าท่านจึงให้ฝึกสมาธิก่อน คือฝึกสมาธิให้ได้ฌาน 4 ขั้นก่อนถ้าไม่ได้ณาน 4 ก่อนก็ไปต่อไม่ได้ เพราะจะไม่เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของจิตเลย ถ้าอยากรู้ว่าจิตมันอัศจรรย์ตรงไหนต้องฝึกสมาธิก่อนผมก็พอรู้อยู่นะ
พ่อครูว่า… สำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรม ท่านไม่ได้ให้ปฏิบัติสมาธิก่อน ท่านสอนว่าสัมมาสมาธิจะต้องปฏิบัติอย่างนี้คือฝึกปฏิบัติ กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม
ต้องฝึกมีกายในกายด้วยไม่แยกกัน เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรมแล้วก็อ่านเวทนาเป็นตัวฐานปฏิบัติ ในเวทนามีกิเลส กิเลสก็ให้อ่านจิตในจิตเจโตปริยญาณ 16
-
สราคจิต (จิตมีราคะ) 2. วีตราคจิต (จิตไม่มีราคะ) 3. สโทสจิต (จิตมีโทสะ) 4. วีตโทสจิต (จิตไม่มีโทสะ) 5. สโมหจิต (จิตมีโมหะ) 6. วีตโมหจิต (จิตไม่มีโมหะ) 7. สังขิตฺตํจิตตํ. (จิตเกร็ง-จับตัวแน่น หด คุมเคร่งอยู่) . 8. วิกขิตฺตํจิตตํ . (จิตกระจาย-ดิ้นไป ฟุ้ง จับไม่ติด) 9. มหัคคตจิต (จิตเจริญยิ่งใหญ่ขึ้น) 10. อมหัคคตจิต (จิตไม่เจริญขึ้น) 11. สอุตตรจิต (จิตมีดีแต่ยังมีดียิ่งกว่านี้-ยังไม่จบ) 12. อนุตตรจิต (จิตไม่มีจิตอื่นสูงยิ่งกว่า) . 13. สมาหิตจิต (จิตตั้งมั่นเป็นประโยชน์ดีแล้ว) 14. อสมาหิตจิต (จิตยังไม่ตั้งมั่นไม่เป็นประโยชน์) 15. วิมุตตจิต (จิตหลุดพ้น) . . . 16. อวิมุตตจิต (จิตยังไม่หลุดพ้นสิ้นเกลี้ยง) . (พตปฎ. เล่ม 9 ข้อ 135)
สมาธิของพระพุทธเจ้าเรียกว่า สมาหิโต ไม่ได้เรียกเจโตสมาธิ แล้วก็เป็นวิมุติ หลุดพ้นจากอวิมุติ ศึกษาให้ดีๆ ธรรมะที่อาตมาพูดยืนยันตามหลักธรรมะ พระพุทธเจ้าทุกอย่าง คุณอธิบายได้อย่างอาตมาไหมล่ะ คุณอ้างอิงยืนยันตามที่อาตมาอธิบายได้ไหมล่ะ คุณว่าคุณฉลาด รู้จักธรรมะพระพุทธเจ้ากว่าอาตมา ไม่ได้ข่มคุณนะ แต่พูดยืนยันวิธีตรวจสอบ คุณเอาไปตรวจสอบให้ดีๆแล้วคุณจะรู้ความจริง
ให้ฝึกสติมาก่อน ผู้ที่ฝึกปฏิบัติธรรมก็ต้องฝึกสติมาก่อน นั่นแหละดี มีสติสัมปชัญญะมีสัมมาสมาธิ เป็นสมาหิโต แล้วเรียนรู้ไปตามปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธเจ้าจรณะ 15 วิชชา 8 กิเลสลดในขณะลืมตา ตรัสรู้ในขณะลืมตา เป็นนิพพาน ทิฏฐธรรมนิพพานทิฏฐิ ต้องมีทิฏฐิเรียนรู้ปฏิบัติธรรม บรรลุนิพพานในขณะที่มี ทิฏฐกาล คือในปัจจุบันชาติ ในขณะลืมตา รู้อยู่กับโลกไม่ได้ไปหลับตาเลย
เข้าใจความแต่แค่ว่า การบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้านั้น บรรลุจากกาม เลิกกามได้ฌาน 1 มีฌาน 2 ฌาน 3 ฌาน 4 แล้วลงท้ายเป็นโลกุตระหรือวิมุติ นี่คือ ทิฏฐธรรม นิพพานทิฏฐิ 5 ข้อ
เพราะฉะนั้นคุณเรียนรู้ให้ดีๆก็จะรู้ว่า ปฏิบัติธรรมอยู่ในทิฏฐกาละหรือทิฏฐธรรม ในปัจจุบันชาติ
ปัจจุบันชาติมันมีฐานที่ตั้งเป็นปัจจุบันนี้ มีกาละ ร่วมรับรู้กับคนอื่น ถ้าไปหลับตาสัมภเวสีมันไม่ใช่ปัจจุบัน มันเป็นอดีตหรืออนาคต หลับตานั้นหมดเลยปัจจุบัน มีแต่อดีตกับอนาคต แค่นี้คุณก็ทำความเข้าใจให้ได้ก่อน ถ้าเข้าใจแค่นี้ไม่ได้ คุณเขาไม่ไปนั่งหลับตาปฏิบัติเพราะไม่ใช่ธรรมะพระพุทธเจ้า นิพพานมันจะได้ในปัจจุบันชาติ เข้าใจแค่นี้ไม่ได้ มันก็ไม่มีทางบรรลุ
เพราะฉะนั้น ที่ไปหลงใหลกับพวกหลับตาและได้บรรลุอรหันต์ ปึ๊งๆ เหมือนมหาบัวนั้น เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิด้วยกัน ก็พาเป็นอย่างนั้น มันเป็นธรรมดา คุณเป็นพวกเดียวกับทางโน้นก็ต้องเชื่อแบบทางนั้น อาตมาไม่ได้แย่งลูกค้าหรอก คุณจะมีคณะพวกเดียวกันก็ว่าไป
ฌาน 4 ของคุณ ก็เป็นมิจฉาทิฏฐิเป็นสัตตวาส 9 ก็ยังเป็นสัตว์อยู่ทั้งนั้น มันต้องมีวิญญาณฐีติถึงจะพ้นความเป็นสัตว์ทั้ง 4 มีกาย มีสัญญา หลับตามันไม่มีกายแล้วจึงเป็นสัตตาวาส ฌาน 4 วิญญาณฐีติก็มีฌาน 4 แต่วิญญาณฐิติไม่มี อสัญญีสัตว์ แล้วก็เป็นนิรมาณกาย อากาสานัญจายตนะ วิญญานัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ แต่ใน วิญญาณฐิติไม่มีเนวสัญญานาสัญญายตนะ จบที่อากิญจัญญายตนะ ก็จบแล้วไม่ต้อง ใช่หรือไม่ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ไม่มี
_สู่แดนธรรม… คุณจุฑามาศ คุณพลาดตรงที่คุณอวดภูมิว่า พระพุทธเจ้าสอนให้ทำฌาน 4 แค่ สิ่งที่พ่อท่านพูดอธิบายรายละเอียดเกินกว่าที่คุณจะเข้าใจ แต่ถ้าคุณฟังผม จะรู้ว่าคุณพลาดอย่างยิ่ง ในมรรคมีองค์ 8 มรรคที่ 8 จะมาก่อน กัมมันตะ อาชีวะได้อย่างไร หรือคุณจะอ้างว่าฌาน 4 มาก่อน แล้วค่อยทำการงาน คุณลองบอกหลวงปู่สักองค์ ที่อยู่ในป่า ท่านได้ฌาน 4 แล้วท่านทำงานอะไร ผมเคยอยู่มา ผมเคยเห็น
พ่อครูว่า… มันดีนะ ก็ได้ discuss กันว่าคนเข้าใจอีกอย่างนึงก็ว่ากันไป
ความมหัศจรรย์ของจิตของคุณก็เป็นแบบของคุณนั่นแหละ อาตมาก็รู้ อย่างที่คุณรู้อาตมาพอรู้อย่างคุณอยู่บ้างนะ
_สู่แดนธรรม… จิตมหัศจรรย์ที่ชาวอโศกทำได้ อย่างเช่นเขาทำงานฟรีโดยไม่มีอะไรแลกเปลี่ยน ไม่มีลาภ ยศ สรรเสริญ สุขมาตอบแทนเลย นี่คือความมหัศจรรย์ใช่ไหมครับ
สมณะฟ้าไท… เพราะว่า ที่พาให้คนมาจน ไม่มีใครในโลกนี้ทำได้แบบพ่อครู พาคนมาจน ทำงานฟรี ได้ 10 ปี 20 ปี 30 ปีตลอดไป มีความตั้งมั่นในความจน จนตลอดไป จนทั้งชาตินี้และชาติต่อๆไป ตั้งมั่นตลอดไป แค่นี้ก็พิสูจน์แล้วว่าใครจะทำได้
_สู่แดนธรรม… แล้วที่ว่า คุณมีความรู้สึกท่าน มันมหัศจรรย์ถึงขั้นไม่ใช้เงินใช้ทองได้หรือไม่
สมณะฟ้าไท… พระยังทำไม่ได้เลย
พ่อครูว่า… จนตลอดไป พระสายหลับตาเขาไม่ใช้เงินก็มีนะ แต่ว่าเขาพาให้ฆราวาสทำไม่ได้ ของเราพาให้ฆราวาสทำได้ด้วย มาศึกษาให้ดีๆ พระทางโน้นเขาทำได้เหมือนกันแต่ท่านสอนให้ฆราวาสไม่ใช้เงินใช้ทองเหมือนพวกเรา เหมือนที่อาตมาพาทำทางโน้นเขาทำสู้อาตมาไม่ได้หรอก ขออภัยนะที่พูดเหมือนอวดดี อวดตัว แล้วมันดีจริงไหม
_สู่แดนธรรม… ผมก็ไม่ได้ว่าอวดเขานะ ผมก็ดูจิตของผมอยู่เหมือนกัน
ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติลูกศิษย์หลวงตามหาบัวก็มีอยู่เยอะนะ ลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้นอาจาโร ลูกศิษย์หลวงปู่ชอบก็มี แต่ละองค์ท่านมีวิเศษของท่านในตัวเองอยู่แล้ว ไปศึกษาเอาดีๆก็ได้นะ
ผมขอถามพวกคุณก่อนว่าพวกคุณเชื่อเรื่องผีเรื่องเทวดาไหม เรื่องนรกสวรรค์ไหม เรื่องพรหมโลกนิพพานล่ะ เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดล่ะ ถ้าพวกคุณไม่เชื่อเรื่องอย่างนี้เพราะคุณไม่ต้องสนใจพระพุทธศาสนาหรอก เพราะมันไม่มีประโยชน์เมื่อพวกคุณไม่เชื่อ
พ่อครูว่า… เราเองจะเชื่อก็เชื่อด้วยปัญญา แล้วเรารู้ว่า คนเชื่อถือสมมุติสัจจะ คนที่มีปัญญาเขาจะรู้ว่า ปรมัตถ์สัจจะคืออย่างไร
เพราะฉะนั้นความเชื่อหรือความรู้ มันมี 2 แบบ
มีความเชื่อแต่ไม่รู้ นั่นคือ ความเชื่อแบบศรัทธา โดดๆ
ส่วนความเชื่อของปัญญานั้น มีทั้งศรัทธา มีทั้งปัญญา
ทั้งรู้และเชื่อในความรู้นั้นอย่างเต็มรูป อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
ตั้งแต่การเกิดถึงการดับ และ เกิดดับอย่าง ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ด้วย
คุณรู้ไหมว่า พระพุทธเจ้า ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ในขณะที่ สติตื่นเต็มเปิดๆ ไม่ได้หลับตาอยู่ในภวังค์ คุณรู้ไหม ไม่จำเป็นจะต้องตายหรือดับอย่างที่เรียกว่าหลับตาเลย สติตื่นเต็มเปิดๆ ไม่จำเป็นต้องไปหลับตาเลย คนตื่นเต็มๆ พระอนุรุทธะตรวจดูตอน พระพุทธเจ้าปรินิพพาน
ซึ่งความจริงที่เป็นความรู้ด้วย เป็นปัญญา เป็นศรัทธาด้วย 2 อย่าง คุณยังเข้าใจไม่ง่ายหรอก
_ถ้าพวกคุณอยากไปกราบพระปฏิปันโนในปัจจุบันถามผมก็ได้นะ
พ่อครูว่า… อาตมาไม่ไปรบกวนคุณหรอก
_เพราะผมเชื่อว่าท่านเหล่านั้นบรรลุอรหันต์แล้วสำหรับตัวความเชื่อของผมนะ ผมว่าผมคิดไม่ผิดหรอก โทรมาคุยกับผมก็ได้นะเบอร์0957620486ผมให้เบอร์ไปหลายคลิปแล้วมีลุงโทรมาครั้งเดียว แกบอกว่าแกไม่เคยบวช แกอายุ 78 ปีแล้ว คุยกันเป็นชั่วโมงเลย แกศรัทธาโพธิรักษ์ ผมก็เลยพูดให้แกฟัง แกไม่โทรมาอีกเลย
พ่อครูว่า… อาตมาคงไม่มีเวลาพอจะไปคุยกับคุณนะ ก็ถูกแล้ว คุณพูดถูกแล้ว สมแล้วที่คุณพูด คุณพูดถูกแล้ว แล้วคุณรู้ตัวบ้างไหมล่ะ โอ้ย คุณเอ๋ย ทำไมถึงไม่พยายามฉลาดให้มากขึ้นบ้าง
ก็เห็นใจกัน เขาก็พยายามพัฒนาศึกษา อาตมาเอาใจช่วย โทรมาคุยกันอีกนะมีอะไรก็แสดงมาอีก คุณนายจุฑามาศ
เหลือเวลาอีก 7 นาที เมื่อพูดถึงพาดพิงไปถึงอย่างที่คุณจุฑามาศเขาพูดมา ก็อยากจะไขความตรงนี้ ไขความเรื่อง (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไท… คือ สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เราได้เรียนรู้ว่า เขาคิดอย่างไร พ่อครู เอาสิ่งที่เขาตำหนิเรามาขยายความให้เราเข้าใจ ให้ถูกตรง ก็ดีใช่ไหม ให้เขาเข้าใจทีละขั้นตอน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้นำทางสังคมที่ไม่มีตัวตนพร้อมให้เขาว่าได้ แล้วก็บอกด้วยว่าเขาว่าผิด อันนี้ว่าถูกอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าเป็นผู้นำที่มีตัวตน เขาด่าเราจะเอามาอ่านทำไม เอาอย่างที่เขาชมมาอย่างเดียวก็พอแล้ว มันจะได้ตัวโลกธรรม แต่ที่เขาตำหนิมาจะได้ตรวจสอบด้วย อาตมาว่า สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ต่อคุณจุฑามาศ และเป็นประโยชน์ต่อชาวอโศกคนอื่นที่ได้รับฟังด้วย นี่เป็นสิ่งสำคัญในการทำงานสังคม ทำงานศาสนาเพื่อมนุษยชาติ
ศึกษาธรรมะให้เข้าถึงโลกุตระไม่ติดแค่โลกียธรรม
พ่อครูว่า… การศึกษาธรรมะนี่ คำว่า คนศึกษาธรรมะ แค่นี้ มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ คนไม่ศึกษาธรรมะกัน เขาพอรู้กันว่า ธรรมะดี แต่เขาไม่เสียเวลาไปศึกษาธรรมะ ไม่ตั้งใจศึกษา 1.
-
มาศึกษาแล้วที่จะมารู้โลกุตรธรรมของพระเจ้าก็ยาก ยากที่จะมีภูมิธรรมเพราะยุคนี้เป็นยุคเสื่อมจริงๆ ที่พระพุทธเจ้าพยากรณ์ไว้แล้วว่า โลกุตรธรรมจะสูญสิ้นไปเหมือน กลองอานกะที่มีแต่กลอง ที่มีชื่อว่ากลองอานกะ เหมือนศาสนาพุทธก็ชื่อว่าศาสนาพุทธเหมือนเดิมแต่แก่นแท้เนื้อหาสาระของมันคือโลกุตรธรรมมันไม่มีแล้ว ไม่มีในเถรสมาคมไม่มีโลกุตรธรรม มีแต่โลกียธรรม