651207 มาฝังชิปโลกุตระใส่จิตวิญญาณตนจนเป็นอรหันต์ พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราช
ดาวโหลดเอกสารที่
https://docs.google.com/document/d/1CKvWmUmgO7gmadPJwZfDVmRSjq9i-2MJ94fW7Nx7bp0/edit?usp=sharing
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1Kai_YwEOwHHRnnZUh9EKpqcjK1e8QYyV/view?usp=share_link
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/vOOK2SoHt8I
และ https://fb.watch/hgbxlXp8Qu/
สมณะเดินดิน… วันนี้วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่บวรราชธานีอโศก วันขึ้น 14 ค่ำ เดือนอ้าย ปีขาล เราเพิ่งผ่านพ้นวันที่ 5 ธันวาคม ที่นี่เราทดลองเปิดชุมชนแบบมินิ มีร้านพิสูจน์จิตอาสา มีโรงบุญ มีน้ำตก เพื่อวัดกระแส ถ้าเราจะเปิดปีใหม่ จะมีคนมามากหรือมาน้อย เพราะเราเป็นชุมชนมา 3 ปีแล้ว
ก็พอที่จะประเมินได้ว่า อย่างร้านพิสูจน์จิตอาสาขายของเท่าทุน ขายแค่ 2 ชั่วโมงก็เกือบหมดแล้ว ทั้งๆที่เราพยายามบอกคนที่มาซื้อของว่า ให้เก็บเงินไว้ซื้อตอนปีใหม่ ราคาจะถูกกว่านี้ แต่เขาบอกว่าไม่สนใจตอนนั้นหรอก เขาจะเอาตอนนี้ ดูแนวโน้มประชาชนเขายังติดตามเรื่องราว ทุกวันนี้สื่อกระแสโซเชียลก็มีผลเหมือนกัน เราไม่ได้โฆษณาแต่เขาก็บอกต่อกันไป ก็รับข่าวสารได้ทั่วถึง
ฝากบอกญาติธรรมที่จะมาช่วยงานปีใหม่ก็รักษาสุขภาพให้ดี จะได้มาช่วยกันเปิดร้านตลาดอาริยะ คิดว่าประชาชนจะมาใช้บริการพวกเรามากแน่ๆ ทางฝ่ายทำภูเฮา อย่างไรจะช่วยขยับหินให้มีพื้นที่จอดรถ
ของก็ขายหมดเร็ว อาหารโรงบุญก็หมดเร็ว เฉพาะญาติธรรมกับนักเรียนเราก็ เกือบหมดแล้ว ทางกรรมการคิดว่าถ้าจะจัดงานจริงๆ เอกชนเองรับมือไม่ไหว ต้องมีส่วนกลางเข้าไปขับเคลื่อนด้วย สิ่งนี้พ่อครูตั้งใจจะให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดูแนวโน้มตลาดอาริยะปีนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้มากที่สุด
กฎหมายควรเพื่อจัดการคนชั่วไม่ใช่ทำร้ายคนดี
สมณะเดินดิน… วันนี้มีเรื่องที่พวกพันธมิตรต้องลุ้นกัน จากผลพวงที่เราไปชุมนุมช่วงพันธมิตร แกนนำรุ่นใหญ่ติดคุกกันไปหมดแล้ว เหลือแต่แกนนำรุ่นสอง วันนี้เป็นการตัดสินคดีของ คุณอัญชะลี และพวก ศาลตัดสินจำคุก เราก็ขอฎีกา จะมีเวลาอีก 7-8 เดือน จะมีคำพิพากษาอีกครั้งหนึ่ง คุณมียุทธิยง บอกว่าเตรียมออกกำลังกายไปแล้ว อาจจะต้องติดคุก 1 ปี
พ่อครูเคยมองว่า คำตัดสินของศาลก็ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมเหมือนกัน ถ้ากระแสสังคมดี คำตัดสินก็จะออกไปในทางดี ถ้ากระแสสังคมไปในทางร้าย คดีความก็จะถูกตัดสินไปทิศทางที่ร้ายเหมือนกัน จะแก้ที่ต้นเหตุได้จริงๆคือเราต้องพยายาม ช่วยกันสร้างสังคมให้เกิดกระแสที่ดี พ่อครูบอกว่าจะแก้ปัญหาสังคมได้อย่างเที่ยงแท้ ยั่งยืนต้องแก้ที่จิตวิญญาณ การพัฒนาจิตวิญญาณเป็นเรื่องหลักที่พ่อครูจะต้อง ทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
พ่อครูว่า… เจริญธรรม คือเรื่องของสังคม มันยังไม่เข้าถึงขั้นจิตวิญญาณ มันยังติดยึดอยู่กับหลักเกณฑ์ โลกๆ ยังติดสมมุติกันอยู่ กฎหมายมันออกมาว่าอย่างนั้น จริงๆกฎหมายก็รู้กันอยู่ นักกฏหมาย นักบริหารประเทศ เรียนทางรัฐศาสตร์มาก็พอรู้ว่า กฎหมายออกมาเพื่อไว้กันคนชั่ว ไม่ใช่ออกกฎหมายมาเพื่อปราบคนดี
ทีนี้คนทำดี กฎหมายไม่ได้ปราบคนดี โดยจริงๆแล้ว คนดีช่วยประเทศ เช่น อัญชะลีหรือยุทธิยง ที่กำลังกล่าวถึงตอนนี้ก็ตามหรือใครอื่นหลายผู้หลายคน ตามกฎหมายไม่ให้ไปประท้วง ออกไปประท้วงรัฐบาล กฎหมายออกว่าอย่างนั้น บอกว่าผิดเป็นกบฏ
แต่จริงๆแล้ว ผู้ที่ออกไปประท้วง ออกไปประท้วงรัฐบาลเลว จนกระทั่งประท้วงสำเร็จ รัฐบาลเลวก็ออกไป ประเทศชาติก็สบายขึ้น แต่กฎหมายมันก็คือกฎหมาย คือคนออกไปประท้วงรัฐบาล แต่พาซื่อตรงที่ว่า ก็รัฐบาลเลวก็ต้องออกไปประท้วง แต่กฎหมายบอกว่าออกไปประท้วงรัฐบาลผิดกฎหมาย อัญชะลีกับยุทธิยงผิดกฎหมายตรงนี้
ซึ่งมันพาซื่อตามกฎหมาย ได้ประโยชน์แล้วด้วยนะ ในการประท้วงรัฐบาลเลว แต่ผิดกฎหมาย รัฐบาลเลวก็ออกไป ประชาชนชนะ รัฐบาลต่อมาก็ควรจะต้องพิจารณา ควรจะต้องรู้ว่า อ๋อ ที่เราเข้ามาบริหารตอนนี้เพราะประชาชนที่มาประท้วง เขาประท้วงรัฐบาลเลวให้ล้มเลิกไป รัฐบาลแพ้ ประชาชนชนะ
และประชาชนก็ไม่ได้ไปเอาประโยชน์ ก็ให้คณะรัฐบาลที่มาสวม มาบริหาร มารับไม้ต่อ บริหารไป รัฐบาลก็น่าจะเข้าใจ อ๋อ ควรจะขอบคุณผู้ที่ประท้วงด้วยซ้ำ แต่มันผิดกฎหมายนี่คือพาซื่อตรงนี้
เพราะฉะนั้น ศาลพิจารณาความแล้วก็ไม่น่าจะพาซื่อตามกฎหมาย จนกระทั่งไม่รู้สิ่งที่ควรจะรู้กับพฤติการณ์ที่สอดคล้องกับสัจธรรมที่เป็นไปด้วยดี สำเร็จเป็นผลดี นี่อาตมาขอวิจารณ์วิจัยตามสัจธรรมไป ไม่ได้ไปลบหลู่ศาลหรอก
สมณะเดินดิน… ความจริงก็สอดคล้องกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ตรัสไว้ เตือนสติศาลว่า การตัดสินต้องยึดถือความยุติธรรมมาก่อน ไม่ใช่เอากฎหมายมาก่อน ไม่ใช่เอาแต่ข้อกฎหมายอย่างเดียว
พ่อครูว่า… เป็นเรื่องลึกซึ้งตรงนี้ เขาไม่กล้า นักกฎหมายไม่กล้าจะทำผิดกฎหมาย ทั้งๆที่อธิบายได้ ผู้พิพากษาคดีศาลก็ดีอธิบายได้ ยืนยันได้ แต่ว่า มันพาซื่อ เขาไม่กล้า ทำไปแล้วเดี๋ยวหากมีใครมาหาเรื่องก็ยุ่งเขา ทำตามกฎหมายเสียแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร
ก็เอาละ โลกมันก็เป็นไปอย่างนั้น คือมันมีลักษณะของสัจธรรมที่ว่านี้คือ ลักษณะของ จริงๆแล้วในความถูกต้อง ความดีงาม อยู่ในโลกของคนอวิชชา ความดีหรือคนดี มันน้อยกว่าคนชั่ว คนชั่วมันมากกว่าคนดี
พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า มันเป็นทุกข์ สังคมทั้งหลาย เพราะคนธรรมดาจะมีกิเลสหรือมีอวิชชาเป็นเจ้าเรือน เพราะฉะนั้นค่าเฉลี่ยของคนของสังคม มันจึงทุกข์
คนที่พ้นทุกข์จึงเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เพราะว่าในสังคมก็คือสังคมทุกข์ แต่คนที่อยู่บนสังคมที่ทุกข์ แล้วตนเองก็ไม่ทุกข์ไปกับสังคมได้ ด้วยความเป็นคนที่มีจิตเหนือชั้นกว่าสังคม นี่เป็นสัจจะอย่างนั้น
SMS วันที่ 2 – 4 ธ.ค. 2565
_ชาญ ปฏิมาพรชัย : เห็นด้วยกับท่านจันทร์ คนสูบบุหรี่ยังมีกิเลส ไม่ควรมาบวชเลย เพราะยังมีกิเลส เนื่องจากบุหรี่เป็นยาเสพติด /
…เนื่องจาก มีกฎหมายเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในสมัยรัฐบาลลุงตู่ จึงทำให้การโกงจากเก็บภาษีโรงเรือนหมดไป ผมว่า ทำให้ข้าราชการเงินหมุนเวียนหายไปเป็นล้าน ๆ บาท
พ่อครูว่า… ถ้าเคร่งก็ดีนะ เขาไม่ถึงขนาดนั้น
_ชีวิต อยู่ที่การตั้งค่า · การเมืองๆไทยมันเละตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ..หมดหนทางแก้ไข(ขอยืนยันนั่งยันตีลังกายัน)
พ่อครูว่า… แก้ไขได้ทุกวันนี้ก็ดีขึ้น เทียบกับสมัยทักษิณ โอ้โห…เชื่อว่าทักษิณเป็นคนโกงเอง แต่เอาน้องสาวมาช่วยกันโกงแล้วพากันโกง แต่สมัยนี้ จัดการไปได้มาก เทียบกันอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย สมัยโน้นโกงจนกระทั่งพูดกันว่า คงไม่เป็นไร เอามาแบ่งกันกิน โกงแล้วเอามาแบ่งกัน ตอนนี้ไม่ใช้โกงไม่ได้เลย แบ่งกันก็เสร็จเลย
การพูดไปเรื่อยๆอย่างคุณชีวิต อยู่ที่การตั้งค่า คุณก็ตั้งค่าตามของคุณ คุณไม่ดูตามสถานะความเป็นจริง status quo เขาไม่ใช่อย่างที่คุณพูดแล้ว
_ครู สา : การฟังธรรมได้ประโยชน์จริงๆ ได้ฟังแล้วนำมาย้อนสำรวจภายในจิตตัวเองหลายเรื่องกำลังเป็นโจทย์แต่การฟังธรรม ทำให้เห็นต้นเหตุและทางออก ต้องทำต่อเนื่องทำครั้งเดียวไม่ได้
จิตเบิกบานเมื่อได้ฟังธรรมได้ทวนตัวเองว่า ช่วงที่ผ่านมาใช้ชีวิตขาดดุลยภาพ อยู่กับงานมาก ฟังธรรมน้อยลง ควรหยุดพักเพื่อเติมธรรมะให้เป็นพื้นที่สีขาวในจิต ไว้รับมือกับสารพัดสีสารพัดเรื่องให้จิตเลอะเทอะน้อยลง แล้วใช้เวลาฟังธรรมเพื่อการ..ซักจิต นมัสการด้วยความเคารพค่ะ😅
พ่อครูว่า… ดี ฟังธรรมแล้วก็ได้รู้สึก ได้สำนึก ได้เข้าใจตนเอง แล้วก็ได้แก้ไขปรับปรุงตัวเองอย่างนี้คืออานิสงส์ของการฟังธรรม ดีมาก
_สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
ประเทศไทย ณ.วันนี้ยุคนี้ขนาดนายกประยุทธไม่ได้ทำผิดก็ยังมีคนร้ายออกไปประท้วงขับไล่ แล้วหากท่านนายกประยุทธทำความผิด ลูกเห็นว่าประชาชนจะออกไปประท้วงขับไล่ท่าน อย่างมืดฟ้ามัวดินมากกว่าเก่า เพราะว่าผืนแผ่นดินไทยวันนี้ เป็นแผ่นดินที่คนไทยมีการพัฒนา มีความเจริญทางด้านการเมือง ด้านการศาสนาที่เป็นโลกุตระตามแบบของพ่อครู อันเป็นแบบที่พ่อครูนำ “ของแท้” จากพระพุทธเจ้ามาเผยแพร่ มาตีแผ่ให้มวลชนทั้งโลกด้วยระยะเวลาที่เพิ่มมากขึ้นๆ มวลชนได้เห็นตามมากขึ้น เกิดเป็นพลังเงียบของมวลมหามวลประชาชนแฝงอยู่ในแผ่นดิน น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูว่า… เขาเป็นคนร้ายคนเลวคนโง่ คนร้ายเขาก็ต้องทำความร้าย ก็ใช่ถ้าท่านทำผิด คนจะออกมาประท้วงมาก ก็ฟังธรรมศึกษาธรรมะสังเกตแล้วก็แสดงการออกมานั้นดี ถูกต้อง
_อัฑฒ์ฐากร ประทีปฐานิศร์ · รายการพุทธศาสนาตามภูมิ เรื่อง… “ของง่ายๆ ที่รู้ได้ยากส์! “ประทับใจท่านดินทองและท่านแก่นหล้าครับ เข้าใจง่าย ชัดเจน ตรงประเด็นมากๆๆๆครับ สาธุครับ น้อมกราบขอบพระคุณท่านสมณะทุกๆรูปด้วยความเคารพอย่างสูงครับ สาธุครับ
พ่อครูว่า… แล้วคุณล่ะได้ประโยชน์หรือเปล่า ก็คงได้
_แก้วตะวัน พวงบุบผา · ซุปเปอร์ทศกัณฐ์ คือนิยามของความพร้อมเพรียงของหมู่กลุ่ม หลายหัวคิดช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เรื่องยากก็กลายเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นญาติธรรมทุกคนที่อยู่นอกบวรจึงต้องรีบมารวมกัน เพราะเป็นช่วงบั้นปลายของชีวิตที่เหลือน้อยเต็มที เพื่อเป็นพลังรวมสร้างคุณประโยชน์ตามที่พระโพธิสัตว์สั่งสอนและทำเป็นตัวอย่างให้เห็นมา 53 ปีแล้ว…น้อมกราบสาธุค่ะ
สะสมสิ่งกรรมดีเรียกบารมี สั่วงสมกรรมเลวเรียกสันดาน
_จรรยา ประเสริฐ · ฟังท่านดินทององค์นี้แล้ว ท่านสบายดี เห็นทุกอย่างง่าย ๆ (แต่ไม่มักง่าย ตามความคิดของดิฉันค่ะ) เห็นมุมมอง การมีบ้าน การกิน การเดินทางโดยใช้รถโดยสาร ฯลฯ อีกมากมาย คนอโศกทุกท่านที่เข้าถึงแล้ว หรือกำลังเดินทาง ก็จะมีสภาวะแบบนี้ ทุกคนเลยค่ะ แม้แต่ตัวดิฉันเองก็เห็นอย่างนี้ แต่ยังออกไม่ได้ เพราะกิเลสดิฉันยังเอาออกไม่ได้ ยังไม่ขาด เห็นการบวชของท่านแล้ว ท่านมีบารมีมาเก่าก่อนค่ะ กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ
พ่อครูว่า… คนที่มีบารมีนั้น บารมีไปซื้อตามห้างขายยา ตามห้างใหญ่ ห้างเล็กทั้งหลาย ไม่มีขายหรอกบารมี บารมีใครจะมี ก็ต้องประพฤติเอาเอง ประเด็นนี้สำคัญมาก คำว่า บารมี ทุกคนเข้าใจ คนไทยเข้าใจว่าคืออะไร คือสิ่งที่ดีงามแน่นอน สั่งสมไว้ มีบารมีเป็นต้นทุนของแต่ละคน
คุณจะได้ต้นทุนนั้น คนเรียกว่าเป็นบารมี ก็บอกแล้วว่าไปซื้อเอาตามห้างขายยาไม่ได้ ซื้อตามร้านค้าที่ไหนไม่ได้ ต้องสั่งสมด้วยกรรม การกระทำของแต่ละคนเอง บารมี
เพราะฉะนั้นเมื่อมาปรากฏในตอนนี้ แสดงออกในตอนนี้ว่า ท่านมีบารมี อย่างอาตมาเป็นต้น มีบารมี อาตมาไม่ได้ไปซื้อตามร้านขายยาที่ขายในยุคนี้ หรือว่าร้านค้าร้านขายยาใหญ่ๆเล็กๆอะไรก็แล้วแต่ในยุคนี้เขามีขายกันไม่มี อาตมาสั่งสมมาเองทั้งสิ้น
บารมี บางทีก็ไม่ได้หมายเอาเรื่องดี ที่จริงถ้าเรื่องดีเขาเรียก บารมี เรื่องไม่ดีเขาเรียกสันดาน สั่งสมสันดาน อย่างทักษิณไม่เรียกว่า มีบารมี ไม่เรียกว่าสะสมบารมี ต้องเรียกว่าเป็นสันดาน ที่เขาสั่งสมมา เป็นต้น
มันก็สั่งสมด้วยกรรม ไม่ใช่อยู่ดีๆได้มา อย่างอาตมาปางนี้ชาตินี้ มาแสดงออกได้อย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องไปเก็บเอามาจากของใคร เอามาแสดงออก ถ้าจริงๆแล้วจะพยายามลอกเลียนก็ไม่เหมือนหรอก และได้ไม่นาน เรื่องจริงมันออกมา หลอกเล่นไม่ได้นาน เรื่องจริงมันจะเป็นไปยิ่งเจริญขึ้น ยิ่งเห็นได้ สังเกตเอาเถอะ
สัญญา 9 ข้อ สั่งสมเป็นสัญญาข้อที่ 10 อานาปานสติ
_ผาหิน จอมภูผา · กราบนมัสการพ่อท่าน,ท่านสมณะและสิกขมาตุด้วยความเคารพอย่างสูงครับ ในสัญญา๑๐ ข้อที่เรียงลำดับกันจะเป็นไปตามสภาวะใช่ไหมครับ เช่น เมื่อรู้เห็นความไม่เที่ยง ก็จะรู้เห็นความไม่มีตัวตน แล้วก็จะรู้เห็นความน่ารังเกียจ แล้วก็จะรู้เห็นความเป็นโทษภัย แล้วก็จะทำการประหาร แล้วจะรู้เห็นความสิ้นไปแห่งกำหนัด แล้วจะรู้เห็นความดับกิเลสทุกข์ แล้วจะรู้เห็นความไม่ยินดียิ่งในโลกทั้งปวง แล้วจะรู้เห็นความไม่น่าปรารถนาในสังขารทั้งปวง แล้วจะเกิดกำหนดรู้ในลมหายเข้าออก ตามนี้เลยเหรอครับ
พ่อครูว่า… สัญญา10
๑. อนิจจสัญญา ๒. อนัตตสัญญา
๓. อสุภสัญญา ๔. อาทีนวสัญญา
๕. ปหานสัญญา ๖. วิราคสัญญา
๗. นิโรธสัญญา ๘. สัพพโลเกอนภิรตสัญญา
๙. สัพพสังขาเรสุอนิจจสัญญา
๑๐. อนาปานัสสติ (อาพาธสูตร ล.๒๔ ข.๖๐)
สัญญาข้อสุดท้ายคือ อานาปานสติ อาตมาจะตั้งข้อสังเกตให้ฟัง อานาปานสติไม่ได้ไปตีกินนั่งหลับตา แล้วตีความอานาปานสติว่าลมหายใจเข้า ลมหายใจออกแล้วไปกำหนดลมหายใจเข้าลมหายใจออก ไม่ใช่เลย มันเท่ากับคนชุบมือเปิบหรือคนตีกิน ไปเอาอานาปานสติมาเป็นการนั่ง กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก
คุณไม่ได้มีสัญญาอีก 9 ข้อข้างบนมาเลย ไม่เคยศึกษาสัญญาทั้ง 10 ก่อนจะเป็นข้อที่ 10 ต้องมี 9 ข้อก่อน คุณไม่ได้ศึกษาตั้งต้นตั้งแต่สัญญาข้อที่ 1 มาเลย
เพราะฉะนั้น คุณมาตีกินเป็นของปลอม อานาปานสตินั่งหลับตาสะกดจิต แถมหลับตาด้วย ที่จริงไม่มีคำว่า หลับตา ในพระไตรปิฎกก็ไม่มีให้หลับตา เพ่งอ่านลมหายใจเข้าออกแล้วก็ทำจิตตามนั้น สัญญากำหนดรู้จิต
ความจริงแล้วทุกลมหายใจเข้าออก คุณได้ฝึกสัญญา 9 อย่างมาตามลำดับ จนกระทั่งสัญญาข้อที่ 10 คืออานาปานสติ มันแข็งแรงสมบูรณ์ด้วยสัญญาทั้ง 9 และ 10 เต็ม โดยการเจริญ รู้จักความไม่เที่ยง อนิจจสัญญา
รู้จักอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตน
และรู้จักความน่ารังเกียจหรือความไม่น่าได้ ไม่น่าเป็น อสุภะ เห็นความเป็นโทษ มันก็จะเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเลย
เมื่อเห็นมันไม่เที่ยงมันก็ไม่ใช่ตัวตน แล้วจะไปยินดี น่าได้น่ามีน่าเป็นทำไม มันเป็นโทษต่างหาก เพราะฉะนั้นก็จะประหาร สัญญาตัวประหาร ก็จะประหาร
คุณฝึกประหารไปก็เกิดจางคลายไปเรื่อยๆ วิราคะ ไปเรื่อยๆๆ จนดับ วิราคะแล้วก็นิโรธ สัญญามันก็จะเจริญมาอย่างที่ว่านี้
แล้วก็ถึงจะเห็นความไม่ยินดีในโลกทั้งปวง โลกก็เท่านั้นเราจะไปหลงใหลทำไม โดยเฉพาะปรมัตถธรรมหรือสมมติธรรมด้วย โลกที่มีกันอยู่ มันปรุงแต่งกันอยู่ทั้ง สมมุติสัจจะและปรมัตถสัจจะ มันก็เป็นของมันเช่นนั้นแหละ ก็ไม่ได้ไปยินดียินร้ายอะไร กับมัน ไม่ได้ไปยินดีกับมันเลย เห็นความไม่น่ายินดีของโลกทั้งปวงเลย
เพราะฉะนั้นก็ไม่อยากได้ ไม่ปรารถนาในสิ่งที่ปรุงแต่งเป็นโลกก็ดี เป็นสมมติ เป็นปรมัตถ์อะไรก็ตาม ครบครันอย่างนี้เลย
ผู้สมบูรณ์ด้วยอานาปานสติ เพราะได้ศึกษาสัญญา 9 มา จึงเกิดผล ไปนั่งหลับตา หรือว่าไปนั่งสะกดจิต เพ่งกับลมหายใจเข้าออกแล้วก็ทำให้ลมหายใจมันนิ่ง ไปตีกิน ไปจับจิตให้จิตมันนิ่งเป็นสมถะ หยุดนะๆๆ หยุดได้แต่กาย กายสงบ จิตสงบ รู้แต่ว่าสงบคืออาการไม่เคลื่อนไหว
แต่แท้จริงของพระพุทธเจ้านั้น สงบคือไม่มีตัวกวน ไม่มีตัวเหตุคือกิเลส มันสงบเพราะกิเลสมันลดลงหรือกิเลสมันดับไป กิเลสมันตายสนิท มันไม่มีตัวกวนเลย กายกรรมก็ยิ่ง แคล่วคล่อง เรียกว่าเป็น กายปาคุญญตา อาตมาอธิบายไปเขาเข้าใจไม่ได้
เพราะฉะนั้น คนที่จิตสงบจากกิเลสเป็นโลกุตระที่แท้จริง ผู้สงบแล้ว คือ ผู้ที่คล่องแคล่ว ว่องไวปราดเปรียว แข็งแรง ไม่ใช่คนเซื่องซึมเหงาซึม เศร้าหลบหลับดับไม่รู้เรื่องไม่ใช่ มันผิดไปหมดเลย
จิตก็ต้องแข็งแรง ปราดเปรียว คล่องแคล่ว ภายนอกกายก็ กายปาคุญญตา จิตก็ จิตปาคุญญตา สอดคลเ้องกันจึงไม่ขัดแย้งกัน อย่างอาตมาเป็นผู้สงบทั้งจิตทั้งกาย สงบจากกิเลส ไม่ใช่สงบคือการไม่เคลื่อนไหว ไปนั่งทำจิตให้หยุดๆๆ เคลื่อนไหว กายก็หยุดเคลื่อนไหวปากไม่พูด หายใจให้เบาลง หรือเวลาจะเคลื่อนไหวก็ย่างหนอ ก้าวหนอ ซึ่งมันผิดเพี้ยนไปหมดเลย ศาสนา
เดียรถีย์ คนไม่เข้าใจ คนโง่ คนตื้นๆ เขาปฏิบัติกันเต็มแบบนั้นแหละ แล้วก็ไปเอาอย่างเดียรถีย์แหละที่มาปฏิบัติ คือมันเสื่อมจริงๆ ไปเอาอย่างฤาษีเดียรถีย์ที่แบบผิดๆแล้วเป็นหมู่ใหญ่ด้วย ยึดกันจนกระทั่งถ่ายทอดกันอาจารย์ต่ออาจารย์มา ที่มันผิดมาจนเป็นเป็นพันปี
อาตมาก็จำเป็นต้องเอามาฟื้นขึ้นมา ผู้ที่ยังอยากจะได้รายละเอียดก็ไปอ่านพระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 60
ประชาธิปไตยโลกุตระที่สมบูรณ์แบบอยู่ในเมืองไทย
_บัวดาว พรมเลิศ · พ่อพูดถึงเรื่องการเมือง หัวใจลูกเหมือนนักมวยที่ได้ยินเสียงปี่เสียงกลองเลยเจ้าค่ะ ไม่รู้เป็นอย่างไร ต้องคอยเตือนตัวเองเสมอเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า… เอาเถอะ การเมืองก็คือธรรมะเหมือนกันนั่นแหละ ระวังอย่าไปเลอะเทอะ การเมืองเข้าไปร่วมกับเขาแบบนั้น คือ จริงๆ แล้วนักการเมืองคือพวกเลอะเทอะ พวกหลง หลงอะไร หลงโลกีย์ หลง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข หลงอำนาจแบบโลกีย์
เพราะฉะนั้นการเมืองทั่วโลกที่เรียนกันอยู่ นิยามกันลงไปว่า การเมืองคือการสร้างอำนาจ การเมือง คือ การแสวงหาอำนาจ รัฐศาสตร์เขาจะพูดง่ายๆ ซึ่งมันไม่ใช่
การเมือง คือ ผู้มีอำนาจที่ประชาชนโดยเฉพาะคำว่า ประชาธิปไตย คือ อำนาจที่ประชาชนที่ยกให้แก่ผู้ที่ดี ที่บริหาร บริบาล อภิบาล มวลประชาชน
เช่น มีธรรมะ 10 ข้ออย่างยิ่งใหญ่ เรียกว่า ทศพิธราชธรรม นั่นแหละ ผู้มีคุณธรรมอย่างนั้นคือผู้ที่เหมาะกับการบริหารประเทศ
เพราะฉะนั้น สังคมที่ไม่มีทศพิธราชธรรม เป็นผู้มีคุณธรรมอันนี้ เป็นผู้ใหญ่ ผู้บริหาร จึงเป็นสังคมที่เละเทะ ประชาธิปไตยคืออำนาจบาตรใหญ่ของคนๆหนึ่งที่ใหญ่ที่สุด และเป็นเผด็จการ อย่างที่ประชาธิปไตยขาเดียว ประชาธิปไตยที่ไม่มีกษัตริย์
ทำไมอาตมายืนยันว่า ประชาธิปไตยต้องมี 2 ขา ต้องมีกษัตริย์ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะเดินดิน… เราคงดู ประเทศที่เจริญๆอย่างอเมริกา อยู่ดีๆก็มีอิทธิพล มีเงิน มีอำนาจก็ขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของเขาเลย ทำให้ประเทศเขาปั่นป่วนวุ่นวายพอได้
พ่อครูว่า… ฟังประเด็นนี้ต่อดีๆ ประชาธิปไตยต้องมีกษัตริย์ และมีระบอบ แม้ว่ากษัตริย์ไม่มีนายก ก็ไม่เป็นไร เพราะมีทศพิธราชธรรม
ทำไมกษัตริย์ถึงมีทศพิธราชธรรม เพราะสังคมกษัตริย์จะต้องมีกฎมณเฑียรบาล ผู้ที่อยู่ในพระประยูรวงศ์ของกษัตริย์ ดูทุกประเทศ ประเทศอังกฤษ ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ จะต้องมีกฎระเบียบ กฎมณเฑียรบาล คือกฎระเบียบที่จะต้องฝึกตน ฝึกตนเป็นคนดี มีทศพิธราชธรรม ไม่ใช่ภาษาพูดเฉยๆ ต้องปฏิบัติตนให้มีทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นคุณธรรมที่ดีที่ประเสริฐ เช่น ความไม่โกรธ ความมีศีลต่างๆนานา มีความอดทน เป็นต้น
เป็นคนเจริญจริงๆ เป็นคนประเสริฐจริงๆ เพราะได้ฝึกตนด้วยทศพิธราชธรรม เป็นกฎมณเฑียรบาลของทุกองค์เลย ทุกพระองค์ในประยูรญาติ ยิ่งใกล้เตรียมพร้อมจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ยิ่งต้องฝึกตนอยู่ในทศพิธราชธรรม หรือกฎมณเฑียรบาล
เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องลอยๆ ประธานาธิบดีจะมีทศพิธราชธรรมมาจากไหน มีกฎมณเฑียรบาลมาจากไหน หิ้วกระเป๋าเงินมาสร้างอำนาจประเดี๋ยวเดียวก็ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี เก๊ที่สุดเลย เพราะฉะนั้น มันไม่สมบูรณ์แบบหรอกมันไม่ได้เรื่อง
ประชาธิปไตยที่แบบประธานาธิบดี ประชาธิปไตยที่ไม่มีพระเจ้าแผ่นดิน ประชาธิปไตยที่ไม่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมันไม่ใช่ประชาธิปไตยที่งามพร้อมที่แท้ เพราะมันไม่ครบด้วยองค์ประกอบของความสมบูรณ์ด้วยรูปด้วยนามด้วยจิตวิญญาณ ด้วยองค์ประกอบของมวลมนุษยชาติ มันจึงเป็นประชาธิปไตยที่ไม่ได้เรื่อง
แต่ว่าต้นหลักต้นแบบ เกิดมาจากประเทศอังกฤษ แต่ทุกวันนี้เขาก็มีประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของอังกฤษเขายังไปได้ดีอยู่ จนกระทั่งฝรั่งเศสเคยปฏิวัติไม่มีกษัตริย์แล้ว กลายเป็นประชาธิปไตยที่ไม่มีกษัตริย์ อยู่ๆมาเขาก็นึกได้ว่า มันไม่ดีไม่ได้เรื่อง เขาก็โหยหาอยากได้กษัตริย์คืนมา แต่กลับไม่ได้ง่ายๆ
คนมองเผินๆว่า กษัตริย์นี้เป็นศักดินา กษัตริย์เป็นผู้ได้เปรียบ นี่มันเป็นความซ้อน ไม่ใช่ผู้ได้เปรียบ ผู้ที่บริหาร ผู้เป็นใหญ่ในบ้านเมืองต้องมีสิทธิ ที่ต้องยกให้ท่าน เพราะว่าท่านจะต้องทำงานหนัก ต้องทำงานกับมวลประชาชน ต้องยกให้ท่าน เรียกคำเป็นศัพท์ว่าพิเศษก็ตาม อภิสิทธิ์ก็ตาม อภิสิทธิ์คือสิทธิที่ดีงามที่แท้จริง ไม่ใช่อภิสิทธิ์ความขี้โกงชนิดหนึ่งความได้เปรียบชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ จะเป็นสิ่งสมควรที่ต้องให้แก่ท่าน เป็นอภิสิทธิ์
เช่น พ่อแม่ ลูกจะต้องให้อภิสิทธิ์ของการเป็นพ่อแม่ ต้องกราบเท้าพ่อแม่ เป็นต้น ยกไว้แม้ว่าพ่อแม่จะไม่ได้เฉลียวฉลาดเท่าเรา พ่อแม่จบป. 4 เราจบด็อกเตอร์ เราก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปลบหลู่พ่อแม่ ต้องให้อภิสิทธิ์แก่พ่อแม่ (พ่อครูไอตัดออกด้วย)
สมณะเดินดิน… เราดู พ่อครูเคยบอกว่า จริงแล้วสังคมต้องมีจ่าฝูง มีผู้นำโดยธรรมชาติ สมัยก่อนหมู่บ้านต้องมีพ่อหลวง มีผู้ใหญ่บ้าน ทั้งในระดับประเทศ ก็จะมีศูนย์รวมของจิตใจอยู่ แต่เมื่อระบบการเลือกตั้งเข้ามาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด ใช้เงินเป็นอำนาจ เป็นตัวจัดตั้ง เป็นค่ายกลที่ทำให้เกิดความเละเทะ
_สู่แดนธรรม… ผมมองว่า ประชาธิปไตยที่มีศูนย์รวมจิตวิญญาณ แม้แต่ธรรมชาติก็มีสิ่งที่ให้เรียนรู้ เช่น ปลวก ก็ต้องมีนางพญาปลวก สมาชิกตัวปลวกก็เป็นประชาชนทำงานเพื่อนางพญาปลวก
พ่อครูว่า… ทั้งปลวก ผึ้ง มด มีทั้งนั้น สัตว์โขลง ตามธรรมชาติมันมีทั้งนั้น แต่พวกนี้เขาไม่เชื่อธรรมชาติ ต้องมีหัวหน้า จริงๆ เขาเองก็อยากจะขึ้นเป็นหัวหน้า ทั้งนั้นแหละพวกนี้ แล้วก็มาบอกว่านี่เป็นอภิสิทธิ์ เป็นศักดินา แต่เมื่อตัวเองขึ้นไปก็หลงเหลิง เอาไปเอามาก็เหมือนกับคอมมิวนิสต์จนกระทั่งเหมือนเกาหลีเหนืออย่างนั้นแหละ เขารู้ตัวที่ไหน
_สู่แดนธรรม… ประธานาธิบดีก็ได้รับอภิสิทธิ์นะครับ
พ่อครูว่า… เขาหลงตัวเอง อย่างในหลวงเราก็ไปทำงานกับประชาชนทั้งหมดไป ตามที่พระองค์เห็นควรเป็นหน้าที่ของพระองค์ อย่างนี้เป็นต้นซึ่งเขาเข้าใจไม่ได้ แน่นอนมันมีความซ้อนอยู่ที่ว่า มันก็ต้องมีข้าราชบริพารไป มีอะไรอย่างโน้น อย่างนี้ที่คนจะต้องคอยช่วยอำนวยความสะดวก หลายๆอย่างเหมือนให้เกียรติ ให้ยศ ให้ศักดิ์ให้ศรีแก่ท่านมากกว่าคนอื่นๆ ก็ใช่ ก็เพราะท่านทำงานให้คนทั้งประเทศ เรื่องในหลวง ร. 9 ท่านเสด็จทั่วประเทศ ท่านก็ทรงงาน ท่านไม่ได้ไปเที่ยวไปเล่นไปสนุกสนาน ไปตะลิดติ๊ดชึ่งที่ไหน เหมือนอย่างประชาชนทั่วไปที่ไหน ท่านไปทรงงานทั่วประเทศ แต่เขาไม่เข้าใจ คือคนเรา มันโง่ก็ช่วยไม่ได้ คนโง่ก็โง่ ไปเรียนตำราต่างประเทศ
ตำราต่างประเทศ มันไม่ใช่ตำราของพระพุทธเจ้า มันไม่เข้าใจ อาตมาพูดแล้วเหมือนอาตมาเป็นคนคลั่งไคล้พระพุทธเจ้า พูดเหมือนคนหลงละเมอเพ้อ พระพุทธเจ้า ซึ่งมันเป็นสัจจะความจริงว่าพระพุทธเจ้านี้ เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่เป็นผู้ที่รู้จักความจริงของสังคมและมนุษยชาติ พระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ศึกษาอะไร นอกจากศึกษาความเป็นมนุษยชาติกับสังคม แล้วท่านก็สรุปรวม แต่ละชาติๆ ท่านรู้สังคมมนุษยชาติทุกแบบ แล้วท่านก็สรุปเอาสังคมที่ดีที่สุดเป็นอย่างนี้ แล้วก็สร้างมนุษย์ให้เป็นมนุษย์ที่จะเป็นสังคมที่ดี ขอยืนยันว่า อย่างชาวอโศก นี่แหละเป็นโลกุตระที่สมบูรณ์แบบแล้ว เป็นกลุ่มหมู่ตัวอย่างที่มีจำนวนไม่มาก แต่เป็นเอกภาพ สามัคคียะ อวิวาทะ เป็นผู้ที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สังคหะ รวมกันอยู่อย่างดี เคารพกันรักกัน ระลึกถึงกัน สมบูรณ์แบบเลย ตามพุทธพจน์ 7 สมบูรณ์แบบจริงๆ
นี่อาตมาภูมิใจนะที่ธรรมะพุทธเจ้า แม้แต่ในยุคนี้ เอามาอธิบายให้ฟัง พวกคุณก็ยังเข้าใจได้ แล้วยังเอามาปฏิบัติตน จนสามารถเข้ามารวมกันเป็นเอกภาพ เป็นหมู่กลุ่มเดียวที่มีรูปธรรมชัดเจน นามธรรมก็มีอยู่ในนี้ด้วย เพราะนามธรรมเป็น ประธานของสิ่งทั้งปวงจิตวิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวงจึงเป็นอย่างนี้จริง นามธรรมจริง รูปธรรมมันจริงๆ เป็นได้
คนยังไม่เคยเห็น สังคมที่สุดยอด สังคมที่ประเสริฐสุดที่เป็นสาราณียธรรม 6 อย่างนี้
ในโลกเทวนิยม ในมหาวิทยาลัยเทวนิยมทั้งหลายของตะวันตก เขาไม่มีหรอกแบบนี้ เขาคิดไม่ออกว่า มันจะมีมนุษย์อย่างนี้ ไหนว่ามีอย่างนี้เขาก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง
แต่มนุษย์อย่างนี้แหละ จิตวิญญาณเป็นจริง จึงมีรูปธรรมที่เป็นไปตามจิตวิญญาณไม่ใช่เกิดจากการบังคับรูปธรรม ด้วยจิตวิญญาณไม่เป็น ไม่ใช่ มันคนละอย่างกัน อย่างพวกเราจิตวิญญาณเป็นจริงรูปธรรมจึงเป็นไปตาม
แต่ของเขานั้นจิตวิญญาณไม่เป็นจริง เอากฎระเบียบ กฎหมาย หลักเกณฑ์ เอามาบังคับ บังคับไปบังคับมามันไม่ได้ สุดท้ายมันก็จะเป็นแบบเกาหลีเหนือ นั่นแหละ สุดท้ายกลายเป็นทั้งคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดี เป็นทั้งกษัตริย์ ในตัวคิมจองอึน เป็นทั้งนายก เป็นทั้งประธานาธิบดี เป็นทั้งกษัตริย์ ดีไม่ดี เป็นทั้งเจ้าศาสนาหรือลัทธิด้วย แต่เขาพูดไม่เป็น เรื่องลัทธิหรือศาสนาก็คือศาสนาลัทธิเกาหลีเหนือนั่นแหละ ศาสนาเกาหลีเหนืออิซึ่ม
เพราะฉะนั้นเรื่องของมนุษย์ มันก็เป็นเช่นนั้น สนใจศึกษาให้ดี
_เกษม สันทอง · ช่วงที่กองทัพธรรมออกไปชุมนุม จนท.ตำรวจขว้างระเบิดใส่ผู้ชุมนุมแต่ลูกระเบิดกระเด็นมาถูกพวกตนเองก็มีนะครับ/อย่างนี้ก็แปลกดีแท้หนอ?
พ่อท่านแสดงธรรมโดยไม่มีการซ่อนเร้นเพื่อลาภสักการะใดๆ ขอน้อมกราบคารวะสุดเศียรสุดเกล้าครับ
พ่อครูว่า…เออมี มีหลักฐาน มีภาพถ่ายด้วย
คนมาปฏิบัติธรรมกับพ่อครูต้องมีโลกุตระปัญญา
_มิตรชัย แก้วทน · ชาตินี้เคยได้กราบแทบเท้าพ่อครูครั้งหนึ่งที่หินผาฟ้าน้ำ ก็เป็นบุญมหาศาลของกระผมแล้วครับ แม้จะปฏิบัติธรรมแบบล้มลุกคุกคาม เกิดชาติใดๆขอเกิดเป็นลูกพ่อครูตลอดไป สาธุๆๆ ครับ
พ่อครูว่า…คนที่ได้พบอาตมาแล้วก็สึกว่าอาตมาเป็นผู้ที่ อย่างพวกคุณรู้สึกว่า ยิ่งใหญ่เป็นคนสูง มันเป็นสัจจะที่พวกคุณเองแต่ละคนมองออกว่า อาตมาเองมีความสูงหรือไม่สูงอย่างไร ตามจริงของแต่ละคนที่แสดงออก พวกนี้เป็นเรื่องที่…ก็บอกยาก มันเป็นสัจจะที่มันปรากฏอยู่ในโลก มันก็มี ไม่หายไปไหน
แสดงว่า พวกคุณนี่ ยังมีปฏิภาณ ปัญญา ความเฉลียวฉลาดที่รู้ว่า อันไหนดี อันไหนไม่ดี อันไหนของแท้ อันไหนไม่แท้ แม้ที่สุด ดีถึงขั้นโลกียะหรือโลกุตตระ แต่ละคนก็ต้องมีปัญญาหรือมีความเฉลียวฉลาดของแต่ละคนเอง คัดเลือกเองใช่ไหม แล้วก็ตัดสินเอง เอาเอง เพราะฉะนั้น มันก็เป็นไปตามสัจจะ ก็ได้แค่นี้
อาตมาก็ชัดเจนอยู่ ไม่ได้อะไรมากนักหนาหรอก แต่ที่ไม่ได้ หรือไม่มี มันมากกว่านี้ มันก็แน่นอน มันไปบังคับเขาได้อย่างไร มันเป็นความจริงของแต่ละคน
เพราะฉะนั้นใครยิ่งเห็นว่ามันก็ใกล้ใกล้ยุค สิ่งเหล่านี้มันจะร่อยหรอ เราเกิดมา เราก็ได้พบ ก็ต้องรีบเอาๆๆ จะได้เป็นอาริยทรัพย์ที่มันติดตัวเองไป ไปซื้อเอาตามร้านขายยา ไปซื้อตามห้างใหญ่ๆสรรพสินค้าใหญ่ๆ มันไม่มีขาย จริงๆ มันต้องมาศึกษา สั่งสมๆ
ไม่ใช่ว่า มันจะมีได้ง่ายๆในแต่ละยุคๆ ที่เป็นโลกุตระธรรมแท้ๆอย่างนี้ ช่วงระยะเวลาที่มันขาดโลกุตรธรรม อาตมายังไม่เกิด มันคือความไม่มีโลกุตรธรรม มาเป็นพันปี เห็นไหม มันเสื่อมมา เสื่อมมาตั้งเป็นพันปี มันมีบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นนี้
ขั้นนี้อาตมามาเกิดในยุคนี้ พูดไปก็จะยกตัวเองมันก็จะไม่ดี มันเป็นยุคกึ่งพุทธกาลของพระพุทธเจ้า มันเสื่อมสุดแล้ว กึ่งหนึ่ง อาตมาก็จะต้องมา ไม่เช่นนั้นความเสื่อมนี้มันก็จะกู้ไม่ขึ้น มันต้องรีบมากู้ แต่มันก็เสื่อมจนจะกู้ไม่ได้แล้ว ถ้าอาตมาไม่มีธรรมฤทธิ์ขนาดนี้ กู้ไม่ได้ กู้ได้ขนาดนี้ก็จะเกิดเป็นต้นทุนของโลกุตรธรรมต่อไป
ต่อไปอาตมาตายไปแล้วลูกๆหลานๆก็จะสืบสานต่อไป เพราะมันก็จะฉีดฝังชิพเข้าไป ไม่ใช่วัคซีนเท่านั้นนะ แต่ฝั่งชิบเลย ที่อาตมาทำ ไม่ใช่แค่วัคซีนนะ แต่ฝังชิพนะ ก็ไปได้ ไม่เช่นนั้น ไม่จริง
นักรบธรรม… ที่บอกว่าพวกเราขว้างระเบิดกลับนั้น จริงแล้วระเบิดมันไปโดนโครงหลังคาครับ
พ่อครูว่า… เราก็พยายามบอกให้ถูกต้อง มันวิ่งไปโดนโครงหลังคาแล้วก็ไปหาตำรวจ ตำรวจก็เตะระเบิด มันก็ระเบิดใส่ขาตำรวจ มันไม่มาระเบิดทางด้านกองทัพธรรม มันไประเบิดทางด้านตำรวจ
สมณะเดินดิน… มันมีภาพระเบิดให้เห็น มันไม่ใช่การกระเด็น เป็นการโยนลูกระเบิดมาจากด้านข้าง ลูกระเบิดวิ่งเป็นแนวตรงมา
พ่อครูว่า… อยากรู้เรื่องก็ไปค้นหารายละเอียดเอาเอง
เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของมนุษย์ควรกิน จึงไม่ควรเอามาทำอาหารถวายภิกษุ
_ใจธรรม สิทธินาวิน : น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ ถ้าไม่ได้พบพ่อครูคงจะยังทานเนื้อสัตว์ ไม่เคยคิดว่ามันต้องฆ่าเขามา ไม่เข้าใจเรื่องการติดรส แม้แต่พระก็ยังไม่รู้ ยังฉันเนื้อสัตว์ได้ ไม่สอนญาติโยมเรื่องนี้ น่าสงสารสัตว์จริงๆค่ะ กราบขอบพระคุณพ่อครูที่เทศน์สอนจนสามารถปฏิบัติตามได้ค่ะ
คนจีนบอกว่า ทำให้คนกินเจได้ ยิ่งกว่าสร้างเจดีย์ ๗ ชั้น และสัตว์ที่รอดตายจากการที่ชาวอโศกปฏิบัติ ทำให้สัตว์รอดชีวิตมากมายนั้น กุศลทำให้อายุยืน ดังนั้นพ่อครูสอนพวกเราทำให้ไม่ต้องฆ่าสัตว์มากมาย พ่อครูจะอายุยืนค่ะ ดิฉันเชื่ออย่างนั้นค่ะ กราบนมัสการค่ะ
พ่อครูว่า…เรื่องไม่ทานเนื้อสัตว์นี่ คนไทยไม่น่าจะงง ในยุคพระพุทธเจ้านั้น พระภิกษุเขาไม่ฉันเนื้อสัตว์กันเป็นมวลส่วนใหญ่ แม้แต่เทวทัตก็ไม่ฉันเนื้อสัตว์ พระเทวทัตก็บอกว่าให้ออกกฎระเบียบเสีย ไปบังคับทุกคน เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่หรอกที่ไม่ฉันเนื้อสัตว์ คนก็เข้าใจไม่ได้ว่า พระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์ ขนาดเทวทัตเอง ก็ยังไม่ฉันเนื้อสัตว์ แล้วจะมาขอให้พระพุทธเจ้าออกเป็นธรรมวินัย บังคับภิกษุทุกองค์ ไม่ฉันเนื้อสัตว์ พระพุทธเจ้าจึงบอกว่าไม่ต้องหรอก เขารู้กันอยู่ทั่วไป ไม่ต้องไปบังคับหรอก
ศาสนาพระพุทธเจ้านั้น ถ้าไม่จำเป็นท่านจะไม่ออกธรรมวินัย พระวินัยมาบังคับ
ในศีล คือหลักเกณฑ์ให้ปฏิบัติโดยอิสระ 1.ไม่ให้ฆ่าสัตว์ 2. ไม่ให้พระซื้อ พระขายเนื้อสัตว์ หรือแม้แต่คนจะไปค้าขายเนื้อสัตว์ก็ไม่ควร ขายสัตว์เป็นขายสัตว์ตายก็ไม่ควร มันก็ไม่มีสัตว์ที่จะตายมากินแล้วมันมีสัตว์ 2 อย่าง 1. สัตว์ตายเอง 2. เดนสัตว์กิน เรียกว่า ปวัตมังสะ 2 อย่างนี้ที่จะกินได้ นี่มันลึกไปถึงขั้น
-
สัตว์ตายเอง มันก็ทิ้งร่างของมันแล้ว ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นร่างของมัน
-
เดนสัตว์กิน คือสัตว์ตัวที่มันฆ่าสัตว์อื่น ที่เป็นเจ้าของชีวิตที่ถูกสัตว์ มันฆ่ามันก็ไปจองเวรกับสัตว์ที่มันฆ่าไปแล้วเรียบร้อย แล้วมันก็กินมันก็จองเวรกับ ตัวนั้นแล้ว เหลือเดน เป็นเนื้อบังสุกุลแล้ว เนื้อเดนสัตว์กินอีกทีแล้ว มันก็ไม่เป็นไร