660807 ที่สุดแห่งที่สุดที่จะเกื้อกูลโลกได้คือโลกุตรธรรม รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #35 ราชธานีอโศก
ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1UE6flwtt5zG2ipUEtTxHpuvAizku4ZHb/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true
ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/135k1-WkDADjspDUEO4kx_OlARZG09lHD/view?usp=sharing
และ https://podcasters.spotify.com/pod/show/dhamaporkru/episodes/660807-e27r5po
ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/1VgzlPPQIJw
และ https://fb.watch/mgFZXSYnB_/
พ่อครูว่า… วันนี้วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่บวรราชธานีอโศก ไปเรื่อยๆเวลาไม่เคยหยุด อาตมาเคยพูดว่า พระเจ้าถ้าแน่จริงหยุดเวลาให้หน่อยเถอะ พระเจ้าจริงๆหยุดเวลาสัก 5 วินาทีก็ได้ ลองหยุดดูซิหยุดได้ไหม ถ้าพระเจ้าสามารถหยุดเวลาได้ไม่ให้เวลาเดินไป ยิ่งหยุดได้เป็นชั่วโมงเลย หมายความว่าโลกนี้ชะงักหมดเลยโลกหยุดหมุนเวลาไม่เคลื่อนเลย ถ้าพระเจ้าทำได้พระเจ้าก็เป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่งจริงเลย เอาล่ะพูดไปจะหาว่าเราไปท้าตีท้าต่อยอะไร
นั่นมันเป็นเรื่องสัจธรรม ทางด้านโน้นเขาเข้าใจอย่างนั้นซึ่งยังเป็นเรื่องลึกลับ ยังเป็นเรื่องที่คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นซึ่งมันเป็นไปได้ยาก พวกเขายังมีตัวตนก็เลยนึกว่าตัวตนนี้ยิ่งใหญ่กว่าอะไรหมด แต่แท้จริงตัวตนไม่ได้ยิ่งใหญ่กว่าธรรมชาติ ธรรมชาติยิ่งใหญ่กว่าตัวตน
SMS วันที่ 4 – 6 ส.ค. 2566
_Araya Sripairoj อารยา ศรีไพโรจน์ · ฉากบัวในรายการวาไรตี้บุญนิยม ที่อยู่ด้านหลังท่านบสมณะบินบน งดงามยิ่งค่ะ 🙏🙏🙏
พ่อครูว่า… ดี งดงามก็ดีแต่อย่าไปลงงดงามมากนัก
ตาลยอดด้วนคือพวกปาราชิก
_นางจับใจ ธนะโภค · กราบนมัสการพ่อครูฯ น้อมกราบเรียนถาม ค่ะ
ช่วงแรกๆ ที่ดิฉันมาปฎิบัติธรรมกับหมู่กลุ่มชาวอโศก พ่อทางสายเลือด(นักธรรมโท) จะพูดเชิงตำหนิ ว่า ดิฉันปฎิบัติธรรมเหมือน “ตาลยอดด้วน” “ตาลยอดด้วน” หมายถึงอะไรคะ
พ่อครูว่า… ตาลยอดด้วนเป็นคำตำหนิที่แรง
ตาลยอดด้วน หมายถึง พระที่ปาราชิก ตาลที่ยอดด้วนแล้ว ตาลที่ถูกตัดยอดด้วนแล้วตายอย่างเดียว ไม่มีทางอื่นเลย เหมือนกับพระที่ปาราชิกแล้วชาตินั้นทั้งชาติตาย ชาตินั้นทั้งชาติสิ้นธรรมะของพระพุทธเจ้าที่จะต่อ ยอดด้วน ที่จะพัฒนาต่อที่จะได้เล่าเรียนต่อ จะได้ก้าวหน้าต่อ
เพราะฉะนั้นแม้แต่คนที่จะประพฤติกับผู้ปาราชิก ก็ต้องพูดเหมือนกับเขาไม่ให้มาคบคุ้นกับความเป็นคนพวกเราพวกที่มีธรรมะ ส่วนตัวของเขามันเป็นเรื่องอิสระเราไปละลาบละล้วงไม่ได้ เขาจะไปคบกับคนอื่น จะทำคบกับชาวพุทธทุกคนชาวพุทธทุกคนจะตัด
ปาราชิก มันมีโทษหนักกว่าพรหมทัณฑ์
โทษพรหมทัณฑ์ อนุญาตให้อยู่กับชาวพุทธด้วยกันได้ คนๆนี้เป็นโทษระดับพรหมทัณฑ์นั้นจะไม่สอนไม่บอกไม่แนะนำเขาเหมือนเขาไม่มีอยู่ในโลก เขามีอยู่ก็มีชีวิตเหมือนคนธรรมดา เรื่องธรรมะไม่เกี่ยวเลย นี่คือ เรียกว่า พรหมทัณฑ์ อยู่ร่วมด้วยสัมผัสๆได้แต่ไม่มีใครเสริมเติมให้ธรรมะอะไรต่ออะไรได้ เขาจะค้นคว้าเองเป็นเรื่องของเขา
แต่ปาราชิก ร้ายแรงกว่าพรหมทัณฑ์ คือ ให้ออกมาจากหมู่เลย อย่าให้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ ถ้าเข้ามาใกล้ในระยะหนึ่งใครเห็นใครรู้ว่า สมีเข้ามาใกล้ในระยะหนึ่ง ให้คนไปเชิญออกอย่าให้เข้ามา ร้ายแรงถึงขนาดนั้น
แต่ศาสนาพุทธมัน เสื่อม จนกระทั่งไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรปาราชิกก็มาคลุกคลี ดีไม่ดีมีโทษแค่ไม่ให้กลับมาบวชได้อีก นี่ เสื่อมถึงขนาดนั้น จะให้มาเป็นมัคนายก ดีไม่ดีเป็นผู้สอนธรรมะอีกได้แต่ไม่ให้บวชอย่างเดียว นี่คือความเสื่อมไม่รู้จักของเน่าของดีปนกันเละไปหมดนี่คือเป็นการยืนยันความเสื่อมที่แท้จริงได้
นิกายกับนานาสังวาสต่างกันอย่างไร
_อุเทน ศรียัง · พระพุทธองค์มีเพียงเส้นทางที่ชี้ ให้กับมนุษย์ทุกๆคนได้เดินบนเส้นทางเหล่านั้นครับ แต่พระพุทธองค์มิได้ทรงแบ่งแยกว่าจะต้องเป็นนิกายนั้นนิกายนี้ที่จะบรรลุธรรมได้ครับ เพียงแต่ต้องทำเองปฏิบัติเองถึงจะพบเองเห็นเองได้ครับ
พ่อครูว่า… พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแบ่งนิกาย แต่มีคำอธิบายมีความหมาย คำว่า นิกาย ในยุคที่พระพุทธเจ้ายังอยู่ยังไม่เกิดนิกาย แม้แต่พระเทวทัต พระพุทธเจ้าก็ทรงมีพระเมตตา ไม่ได้ไปจัด เทวทัตเป็นนิกาย แต่เทวทัตมีธรรมะที่คนละอย่างกับพระพุทธเจ้า เข้าใจกันคนละอย่างทิฐิคนละทาง พระพุทธเจ้าจึงตรัสเรื่องที่มันไม่เหมือนกันนี้ออกไปเป็นนานาสังวาสเท่านั้น แต่ท่านก็หมายถึงนิกาย หมายความว่า ท่านก็ได้อธิบายคำว่านิกาย
ว่าถ้านิกายแล้ว ผู้ทำแตกแยก เรียกว่าทำหมู่สงฆ์ให้แยกเป็นสองเป็นนิกาย อันนี้เป็นอนันตริยกรรม แตกแยกกันคือไม่ได้เป็นศาสนาพุทธด้วยกันเรียกว่าแตกแยกนิกาย
ถ้ายังเป็นศาสนาพุทธด้วยกันไม่ทำสังฆกรรมด้วยกัน แยกการทำสังฆกรรมคนละอย่างเพราะเข้าใจทิฐิกันคนละทางอันนี้แค่นิกาย
แต่ถ้าเผื่อว่าให้ร้ายแรงกว่านั้น ไปยึดมั่นถือมั่นเอง อันนี้เป็นจิตใจจิตมัน ไปยึดเองว่าคนละนิกาย ทั้งๆที่เขาก็ขึ้นต่อธรรมะพระพุทธเจ้านี่แหละ เขาก็ศรัทธาพระพุทธเจ้าศรัทธาคำสอนพระพุทธเจ้า แต่เขาอธิบายคนละอย่าง ผิดแผกแตกต่างกันไปเชื่อถือกันคนละอย่างได้มากได้ผลกันคนละอย่าง
พระพุทธเจ้าองค์เดียวกันถ้ามันต่างกันบางทีเราก็ใช้ออก โวหารวัดพระพุทธเจ้าคนละองค์ แต่ที่จริงคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยสมมุติ เป็นพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน แต่โดยปรมัตถนั้น เข้าใจเนื้อความหมายนี้แท้ของธรรมะพุทธเจ้า มันมีความแตกต่างกันในธรรมะ
พระพุทธเจ้าจะเอาให้ชัดๆก็คือ มีตัวตนรูปร่างที่ยังอยู่ในยุคพระพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนม์ชีพก็คือพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเมื่อประกาศธรรมะไว้ครบแล้วหมดแล้ว สิ้นพระชนม์ไป ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ไปก็เหลือแต่ธรรมะ
ก็เป็นนิกายเป็นอสังวาสกันก็เป็นความเข้าใจที่แตกกันอย่างนานาสังวาสเรียกว่าแตกต่าง ถ้านิกายนี้คือแตกแยก จากกันไปคนละเสียงคนละพวก คล้ายกันกับคนละศาสนา
เพราะฉะนั้นถ้าเป็นนิกายแล้วผู้ที่ถือว่าเป็นนิกาย จะรุกราน และหรือ รุกรานหรือไม่รุกรานก็ว่ากันอย่างสาดเสียเทเสียเลย นั่นคือจิตชนิดที่เกลียดชังกันแรง ผลักดันกันแรง ขาดความเมตตาซึ่งพระพุทธเจ้าไม่ส่งเสริมให้เกิดจิตชนิดนี้ในโลก เป็นสัตว์โลกด้วยกัน ให้มีความปรารถนาดีต่อกัน มีความหวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่กันได้อย่างนี้เป็นต้น สิ่งอันนี้เป็นลึกซึ้งที่เราต้องค่อยๆศึกษากันไป
สรุปแล้วนิกายกับนานาสังวาส เป็นความต่างกัน 2 ชนิด นิกายก็ชนิดหนึ่ง นานาสังวาสก็ชนิดหนึ่ง เป็นคู่สุดท้ายที่เราจะต้องเข้าใจกันว่า จะแบ่งแยกอย่างไร แตกต่างอย่างไร แตกแยกอย่างไร ให้ชัดๆ สรุปไว้แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
พ่อครูว่า… เราเข้าใจให้ได้แล้ว อย่าทำตนให้เป็นนิกาย ทำตนอย่างไม่เหมือนกัน อย่างมากก็แค่นานาสังวาส ดีที่สุด
_บุญนิยม รองกิจ · กราบนมัสการท่านสมณะทุกรูป เสียดายลุงตู่บ้านเมืองกำลังไปด้วยดีคนที่ไม่เอาลุงตู่ มีสองกลุ่ม กลุ่มแรกล้มเจ้า กลุ่มสองไม่รู้เรื่องอะไรบ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นจะเอา 450เอา3000 แต่น่าเห็นใจเขาดูแต่ทีวีดิจิทัล ไม่ดู สองส่วน
พ่อครูว่า… คนพวกนี้ก็อยู่ในโลกแคบถือว่าถูกครอบงำก็ดี คนที่อ่อนยาวต่อโลกก็ถูกเขาครอบงำ ถูกเขาเอาไปเป็นบริบาลเป็นลูกกะโลกอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อว่าคนที่มีอย่างนั้นเราก็ไม่รู้จะไปบังคับเขาได้อย่างไรเขาสมัครใจเขามีภูมิธรรม เขาเป็นเช่นนั้นได้แค่นั้น เพราะฉะนั้น คนที่จะพยายามศึกษาธรรมะดีๆแล้วก็จัดสรรตัวเองให้อยู่ในพวกบัณฑิต อยู่ในพวกหมู่กลุ่มที่จะนำพากันไปให้มีสัมมาทิฏฐิให้ได้ ต้องใช้ศัพท์วิชาการว่าต้องพยายามมีสัมมาทิฏฐิให้ได้ อย่าได้ผิดเพี้ยน แล้วมันถึงจะเป็นไปได้
งานการเมืองสำคัญต่อทั้งตนและสังคมวงกว้าง
_Jaitham Sittinawin ใจธรรม สิทธินาวิน · กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งค่ะ ดิฉันเคยสงสัยว่า ทำไมพ่อครูให้ชาวอโศกทำงานการเมือง ก็คิดและพยายามทำความเข้าใจมานาน จนพอจะเข้าใจบ้างแล้วว่า การที่พ่อครูพาชาวอโศกทำงานการเมือง เพราะดิฉันเข้าใจว่า งานการเมืองนั้นสำคัญ อยากให้คนกิเลสน้อยได้ทำงานช่วยมนุษยชาติ เพราะการเมืองกระทบกับคนหมู่มาก ถ้าทำดีจะช่วยประชาชนได้มาก คิดแบบนี้ถูกต้องไหมคะ
พ่อครูว่า… ถูกต้องสิ ถ้าคิดอย่างสัมมาทิฏฐิก็เป็นประโยชน์ ถ้าคิดอย่างมิจฉาทิฐิก็เป็นโทษ
งานการเมืองนั้นเป็นงานที่กระทบสัมพันธ์กับคนหมู่มาก ไปเป็นลูกคลื่นไปไกลเลย จนกว่าจะหมดเรี่ยวแรงของความเชื่อมต่อ เพราะฉะนั้น การทำงานการเมืองจึงเป็นงานสำคัญที่จะมีผลต่อมวลมนุษย์ที่เราอยู่ร่วมด้วย เราเป็นคนไทย การเมืองของไทยการเมืองแบบไทย เราจะไม่เอาตาไม่ดูหูก็ไม่ได้ยินอะไร ปล่อยให้นักการเมืองหรือผู้บริหารใครต่อใครที่เขามีหน้าที่บริหารจัดการปู้ยี่ปู้ยำอย่างไร แต่เราก็เป็นพลเมืองอยู่ในสังคมนั้นประเทศนั้น เราก็ได้ผลกระทบ ถ้ามันเลวร้าย เราก็เป็นเหยื่อ ให้แก่ผู้บริหารผู้ที่เป็นทรราช ผู้ที่เลวร้ายซึ่งมันเสียหายมาถึงตัวเองด้วย เสียหายไปกับพลเมืองหมู่กลุ่ม ประชาชนร่วมประเทศร่วมสังคมเดียวกันด้วย
เพราะฉะนั้นเราจะปล่อยปละละเลยไม่เอาตาดูหูแล อันนั้นมันเป็นคนเห็นแก่ตัวมันเป็นคนใจดำมันเป็นคนโง่ โง่เห็นแก่ตัวสนิทเลย มันไม่ดี
_เมื่อเข้าใจแล้ว ก็เลยคิดว่า ถ้าพ่อครูให้เริ่มจากสมัครเป็นนักการเมืองท้องถิ่นก่อน ซึ่งจะได้ใกล้ชิดกับชาวบ้าน ได้ช่วยชาวบ้านได้ค่ะ และจะได้เป็นฐานสู่การเมืองระดับประเทศ ดิฉันรู้ว่า ชาวอโศกทำตลาดอาริยะ หรือการแจกอาหาร การบำเพ็ญบุญอย่างนี้ ทำให้มีความสุขมากๆ เลยค่ะ ถ้างานการเมืองช่วยประชาชนได้มากก็ต้องดีมากเลยค่ะ
พ่อครูว่า… ถูกต้องอาตมาไม่ขยายความ เราก็จะไปทำไปตามลำดับอย่างที่คุณว่านี่แหละ เรา อ้าขาผวาปีกไปทำใหญ่เกิน เราทำไปตามลำดับเราควรจะทำอย่างนั้น
เรี่ยไรทองให้คลังหลวงไม่ใช่กิจของสงฆ์
_สว่างแสง ขวัญดาว · น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูคะ พ่อครูวิจารณ์ทางปฏิบัติของหลวงตามหาบัว แยกแยะได้ชัดเจนมากว่า
กรณีที่หลวงตาไปรวบรวมทองคำมานั้น แม้จะมอบทองคำทั้งหมดให้เป็นสมบัติชาติ ก็เป็นการเรี่ยไร ไม่ใช่กิจสงฆ์
พ่อครูว่า… อันนี้คุณเข้าใจดีมาก ว่า การเรี่ยไร ไม่ใช่หน้าที่ของ สงฆ์ที่จะไปทำ มันเสีย แนวลึกแล้วก็ ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นไปตามกรรมวิบากเราไม่น่าจะต้องไปอวดดี โดยไปแสดงถึงจิตของเราเหมือนเก่งเหมือนใหญ่ ฟังดูมุมหนึ่ง มันเหมือนดูดีเราช่วยชาติช่วยประเทศ แต่ดูดีของคุณ คุณก็ทำส่วนตัวของคุณ คุณไปเรี่ยไรโดยเอาอภิสิทธิ์คือเป็นภิกษุ เอาศาสนาไป พูดชัดๆคือคุณเอาศาสนาไปหากิน ใช้ศัพท์ตัวนี้จะชัดขึ้น คุณไม่ได้หากินหรอกคุณเอามาก็เอาไปให้ประเทศชาติ แต่มันเป็นเหมือนคุณเอาศาสนาไปทำมาหากิน ไปได้สิ่งนั้นมา แม้ คุณจะเอาสิ่งนี้มาทำทาน
เหมือนคุณไปเรี่ยไรคนแล้วเอามาทำทาน การที่คุณเรี่ยไรคุณไม่ได้บอกนะว่าคุณเอาแต่คนรวยนะ ถ้าจะเรี่ยไรคนต้องรวยขนาดนี้จะมาทำทานได้ แต่คุณบอกว่าได้บุญใหญ่บุญมาก คนจนมันอยากรวยคนจนนั่นแหละจะมาบริจาคด้วย คนจนนั่นแหละมาบริจาคเยอะเพราะอยากได้ตามที่คุณไปครอบงำตามความคิดว่าเขาจะได้รวย ซึ่งเขาจะได้รวยหรือไม่ได้รวยมันมีเหตุการณ์อยู่แค่จะมานั่งเรี่ยไร แล้วเขาจะได้เสียสละ
คนเสียสละทำทานคุณก็สอนไม่เป็น มหาบัวสอนทำทานไม่เป็น สอนทำทานให้จิตขี้โลภ ไม่ได้สอนทำทานให้จิตเสียสละออก ตามทานสูตร ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้คือทำจิตไม่ให้อยากได้อะไรเลยไม่ให้มีแม้แต่ความหวังอยากได้อะไรตอบแทนด้วยความไม่มี สาเปกโข จึงจะเป็นการทำทานที่มีอานิสงส์ ถ้ายังมีสาเปกโขนั่นเป็นทางที่ไม่มีอานิสงส์ และยังจะมีการยึดว่าหวังว่าจะได้สิ่งตอบแทน ถ้าไม่คิดผูกพันธ์ก็มีวิบากแค่นั้น แต่ถ้ายังมีคิดว่านี่เราทำทานแล้วจะต้องได้ผลตอบแทนคืน เป็น ปฏิพัทจิตโต เป็นเวรภัย เป็นกรรมวิบากที่จะต้องผูกพันจิตจะต้องตอบแทนกันไปกันมาด้วยความโง่ก็ยิ่งแก้แค้นคืนอยากได้คืน ดีไม่ดีหนักเข้า แย่งชิงกันเลย
จากนั้นอีกยังมี สันนิธิเปกโข สั่งสมเป็นคลัง อ้า นี่เราได้ทำบุญเท่านี้ๆๆ ต้องได้คืนเท่านี้ๆ ดีไม่ดี คิดดอกเบี้ยด้วย
หรือที่งมงายขึ้นคือจะได้อาศัยใช้กินในชาติหน้า นั้นเป็นระดับที่4 ปริภุญชิตสามีติ ว่านี่เป็นของฉันจะได้เอาอาศัยกินในภพชาติหน้าที่ตายไปแล้ว นี่คือเป็นมิจฉาทิฏฐิทั้งสิ้น คุณไม่ได้สอนอยู่ในพระไตรปิฎกล.23 ข.49 ทานสูตร เทวดา 6 อย่าง พรหม 1 อย่าง อันที่ 1 จาตุมหาราชิกา(ท้าวกุเวร ท้าววิรุฬหก ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์) คือ ทำทานแล้ว 1. ยังมีความหวังให้ทาน สาเปกฺโข(มุ่งหวัง) ทานํ เทติ 2. มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ปฏิพทฺธจิตฺโต(ผูกพัน) ทานํ เทติ 3. มุ่งการสั่งสมให้ทาน สนฺนิธิเปกฺโข(สั่งสม) ทานํ เทติ 4. ให้ทานด้วยคิดว่า เราตายไปจักได้เสวยผลทานนี้ ปริภุญฺชิสฺสามีติ(ให้ข้ามภพชาติ) ทานํ เทติ อันที่ 2 ดาวดึงส์ คือ ทำทานเพราะว่าเห็นว่าเป็นความดี อันที่ 3 ยามา คือ ทำทานเพราะเพื่อเป็นประเพณี อันที่ 4 ดุสิต คือทำทานเพราะเห็นว่า สมณะหุงหาอาหารเองไม่ได้ อันที่ 5 นิมมานรดี คือทำทานเพราะทำตามฤาษีใหญ่ๆ อันที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตตี ทำทานเพราะว่า อยากได้ปลื้มใจ(อตฺตมนตาโสมนสฺสํ) อันที่ 7 สหายแห่งพรหม คือทำทานอย่างมี จิตฺตาลงฺการ จิตฺตปริกฺขารํ (ต้องทำปุญญาภิสังขาร ทำทานเพื่อลดกิเลส)
ติดเคี้ยวหมากอยู่ไปนิพพานไม่ได้ อย่ามาอ้างเพื่อธาตุขันธ์เลย
_การเคี้ยวหมากก็ดี ลูกซาบซึ้งในความเมตตาเสียสละของพ่อครู เป็นอย่างมาก เพราะยอมเปลืองตัวอาจมีคนอาฆาตพ่อครูก็ยอม เพื่อให้คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ จะได้ก้าวไปอย่างถูกทาง พ่อครูต้องยอมขนาดนี้เลยหรือคะ
พ่อครูว่า… เสพติดอยู่ยังไม่รู้ตัว อันนี้แหละเป็นบาปหนัก โกหกในสิ่งที่เป็นเท็จ โกหกซ้ำในสิ่งที่เป็นเท็จว่าไม่เป็นเท็จ อันนี้พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ที่โกหกทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งนั้นคือคำโกหก คนๆนั้นจะไม่มีอะไรที่เขาจะทำชั่วไม่ได้ ความชั่วใดๆเขาก็ทำได้หมด
คุณเชื่อไหมว่า มหาบัว จะไม่รู้ว่ากินหมากเป็นสิ่งเสพติด เป็นพระบวชตั้งแต่อายุ 20 จนกระทั่งอายุ 90 พรรษาตั้ง 70 กว่าพรรษา จะไม่รู้ว่า กินเคี้ยวหมากคือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส(โผฏฐัพพะ) อาตมาไม่เชื่อ มหาบัวต้องรู้ เมื่อรู้แล้วยังโกหกคนอื่นซ้ำซ้อนต่ออันนี้เข้าเกณฑ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ โกหกในสิ่งที่รู้ว่ามันเป็นเท็จว่าไอ้นี่ไม่ใช่สิ่งเสพติด จะไม่มีบาปอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ มันเป็นไปปานนั้น
เพราะฉะนั้นผู้ที่ยังไปหลงเชื่อมหาบัว อาตมาถึงบอกว่า น่าสงสาร
_สู่แดนธรรม… มีลูกศิษย์ท่านช่วยแก้ต่างว่า การเคี้ยวหมากการสูบบุหรี่เป็นเรื่องของธาตุขันธ์ จิตของท่านเป็นอิสระเหนือธาตุขันธ์แล้ว
พ่อครูว่า… ก็คือคุณขยายขี้เท่อว่า คุณไม่รู้กำลังการงาน การเคี้ยวหมากให้เป็นภาระเปลืองทั้งของ เป็นภาระ ปากเปรอะ สิ่งที่เราจะทน เราจะรับเป็นภาระในขันธ์ 5 ถ้าแม้นเป็นความเข้าใจว่าสิ่งนั้นที่เอาเข้ามาจะเป็นประโยชน์ต่อขันธ์ หรือเป็นภาระต่อขันธ์ โดยไม่ได้เรื่องได้ราว ดีไม่ดีเป็นโทษด้วย เป็นโทษหนักก็คือเสพติดนี่แหละ แค่นี้คุณไม่เป็นประโยชน์ต่อขันธ์เป็นโทษต่อขันธ์ คุณเอาคำว่าขันธ์มาพูดเมื่อกี้นี้
_สู่แดนธรรม… เขาว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เป็นอุปสรรคต่อนิพพาน
พ่อครูว่า… ภาษาปากเปล่าว่า ไม่เป็นอุปสรรคตอนนิพพาน แล้วสิ่งที่ตัวเองเสพติดติดอยู่นี่เป็นปฏิปักษ์ต่อนิพพาน เพราะฉะนั้นแค่นี้คุณก็เข้าใจไม่ได้แล้วคุณจะยังพูดผิด คุณมีสิ่งเสพติดอยู่จริง แล้วคุณก็ไปเข้าใจว่าสิ่งที่คุณเสพติด คุณไม่วาง ไม่ปล่อยไม่เลิก ไม่ละ แล้วคุณก็ใช้โวหารมาแก้ตัว 1.มันก็เป็นการโกหก 2. เป็นความโง่แม้ว่าคุณไม่รู้คุณนึกว่ามันไม่ผิดจริงแต่มันผิด คุณก็ยิ่งโง่ซ้ำซ้อนแล้วมันจะไปเป็นนิพพานได้อย่างไร มันปิดประตูนิพพานเลย
_สู่แดนธรรม… แสดงว่า นิพพานและเรื่องขันธ์ ต้องมีอุปาทานตรงกันใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า… ใช่ แล้วก็ไม่รู้แค่เพียงภาระ อันนี้มันเป็นภาระของตนเอง แค่ ภาราหเว ปัญจขันธา ขันธ์ทั้ง 5 เป็นภาระที่จะต้องเอาสิ่งที่เป็นธาตุเป็นประโยชน์ ทุกวันนี้อาตมาจะต้องประคองขันธ์ทั้ง 5 ต้องกินอาหารที่ไม่ใช่สิ่งเสพติดเลย ยังเป็นภาระแสนทุกข์แสนเหน็ดเหนื่อย แค่นี้อาตมาก็เห็นทุกข์แล้ว แล้วมาหาบัวเสพติดกินหมากทั้งวันทั้งวัน ไม่เห็นว่าเป็นภาระ ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องที่จะต้องหนักหนาสาหัส คนอื่นต้องเป็นภาระหามาให้ต่างๆนานา แค่นี้ไม่รู้ คุณจะไปเป็นนิพพานได้อย่างไร
เอาละวิจารณ์ไปมากมายจะเข้าเนื้อ แต่ดี คุณยิ่งมีมา อาตมาก็ยิ่งอธิบายให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้าใครฟังด้วยดีจะได้ปัญญา ว่า มหาบัว ยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าลึกว่า มันยิ่งไม่รู้หรือยิ่งรู้แต่เสแสร้งกลบเกลื่อน มันยิ่งอาการหนักนะ ดีแล้วคุณยังไม่ซาบซึ้ง คุณไม่เข้าใจก็แย้งมาอีก แล้วอาตมาจะได้อธิบายสัจจะ ไม่ได้โกรธเคืองคุณนะ สงสารคุณที่ยังไปหลงผิดยึดมั่นถือมั่นสิ่งผิดอยู่ มันน่าสงสาร แต่มันเป็นจริง คุณเป็นอย่างนั้นก็ต้องช่วยกัน
อาจจะมีคนอาฆาตอาตมาก็ยอม ใช่ อาตมาจำเป็น ใครจะโกรธเคืองอาฆาต อาตมาก็จำเป็น แม้ว่าคนจะมาเอาชีวิต ถึงขั้นมาเอาชีวิตอาตมา ก็จำยอมเพราะธรรมะมันเหนือกว่าชีวิตของอาตมา อาตมาไม่มีปัญหาอะไร
อาตมาก็เจตนาให้เป็นไปในทางที่ถูก แล้วจริงๆมันจำเป็น จำนน อาตมาถึงบอกว่า ชีวิตชาตินี้จำนน จำเป็น จำยอม จำต้อง ทำสิ่งที่ถึงขนาดอย่างว่านี้จริงๆ เดี๋ยวอ่านหนังสือเกิดมาชาตินี้จะเห็นสิ่งที่อาตมาจำเป็นจำนน จำยอม จำต้อง เยอะเลย
Neo protest เร่ิมต้นที่ชาวอโศก
_ น้อมกราบท่านสมณะเดินดิน ท่านจันทร์ และท่านบินบน ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูคะ ลูกได้ดูตัวอย่างบางตอนของการชุมนุมที่ชาวอโศกออกไปประท้วงผู้นำที่ทุจริตโกงกินชาติ
พ่อครูว่า… อาตมาใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ไปประท้วงว่าเป็น Neo protest คำว่าโปรเทสคือการประท้วง นีโอคือแบบใหม่
อาตมาใช้คำนี้โดยเจตนาและรู้ว่ามันยังไม่เคยมีในโลก เพราะเรามั่นใจว่าเราไปประท้วงจะไม่เหมือนใครในโลก
ไปประท้วงเป็นการเมืองชนิดผู้ดี เป็นอาริยะ ไม่มีอาวุธสงบ สันติ อหิงสา เรียกว่า ยอม อโหสิด้วย แต่พวกเรา ไม่ให้ใช้คำว่าอโหสิ อโหสิ หมายความว่าเขาจะทำเลวร้ายอย่างไร เราก็ไม่ผูกพยาบาทต่อไปเป็นอย่างนั้นด้วย แต่เราไม่ได้ใช้คำว่า อโหสิต่อ แต่มีพูดบ้าง
ฉะนั้นเราไปทำโดยใช้ความสงบไม่มีอาวุธ ไม่รุนแรง เขารุนแรงต่อเรามา ในที่สุดถึงขั้นเขามาทำร้ายเราถึงขั้นถึงตาย มีตายนะ ถึงขั้นพวกเราถูกเขาฆ่าตายก็มี แต่ก็ไม่เท่าไหร่ มันก็เป็นวิบากของแต่ละคนไป มีคนตายบ้าง ก็เป็นบาปเป็นภัยต่อเขา
แต่เราทำจนกระทั่งสำเร็จ ใช้การประท้วงด้วยNeo protest ด้วยการประท้วงแบบใหม่ ตั้งแต่เริ่มประท้วงยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ในรุ่นทักษิณ ก็มีพลังของทหารมาช่วย พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ก็ออกมาช่วย มันเป็นการปฏิวัติยึดอำนาจแล้วก็ต่อมา
อำนาจของทักษิณก็ยังเอาสมัครขึ้นมาเป็นตัวแทน เป็นนอมินีได้อีก เป็นนายกบริหารโดยอยู่ใต้อำนาจของทักษิณนั่นแหละเป็นผู้ควบคุมสั่งการ เราก็ไปประท้วงอีก ไล่อีก อันนี้ก็มีตุลาการภิวัฒน์ตัดสิน ตุลาการก็ตัดสินให้สมัครผิด แล้วก็ต้องเลิกจากเป็นนายกออกไป เสร็จแล้วเอาสมชายน้องเขยขึ้นมาอีกจนได้ โอ้โหมีฤทธิ์มากจริงๆทักษิณ เอาขึ้นมาอีกเราก็ไปปฏิบัติอีกยึดเข้าไปถึงขั้นในทำเนียบ เอาจนกระทั่งสมชายไม่ได้เข้าทำเนียบกันเลย เป็นนายกผู้เดียวที่ไม่เคยเข้าทำเนียบรัฐบาล จนกระทั่งเสร็จไปอีก ก็ไปผ่านรัฐบาลของอภิสิทธิ์
เสร็จแล้วอภิสิทธิ์ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ทักษิณก็มีอำนาจบาตรใหญ่อีกเหมือนกัน เอาน้องสาวขึ้นมาเป็นนายกได้อีก เราก็ต้องไปประท้วงกันอย่างหนักหนาสาหัสเลย แล้วเขาก็ทำเต็มที่เลยคือทรราชเต็มที่ ปล้นประเทศไทยไปหลายแสนล้าน ใช่คำนี้เลยนะปล้นประเทศไทยได้ไปหลายแสนล้าน เสร็จแล้วก็หนีออกทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ใช่ทางคนไป ไม่ใช่ทางคนลอด หนีออกไปจนกระทั่งทุกวันนี้ไปอยู่ต่างประเทศ
ก็เป็นหลักฐานของสงครามการเมืองที่ปฏิวัติหรือรัฐประหารกันอย่างสวยงามที่สุด โดยประชาชน ของประชาชน เพื่อประชาชน ประชาชนทำจริงๆไม่ใช่กองกำลังทหาร ตอนทักษิณ มีกองกำลังทหารที่มีพลเอกสนธิเข้ามาร่วมแจมนิดหน่อย นอกนั้นพลังประชาชนหมด แม้สมัครจะมีตุลาการมาช่วยก็ตามแต่เป็นเครื่องชี้บอกว่า ทรราชผิด เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยกันดำรง ให้สัจธรรมหรือว่าความถูกต้องนี้ชนะ ตุลาการก็มีหน้าที่ด้วยช่วยกัน
เสร็จแล้วก็เอาสมชาย สมัคร ยิ่งลักษณ์ขึ้นมาอีก เราก็ใช้พลังประชาชนเอาความถูกต้อง ที่ต้องใช้วลีว่า ยาวให้เป็น เย็นเรื่อยไป ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆ คำว่า ไขความจริงออกมาให้มากๆหมดๆนี่แหละ มันเป็นเนื้อแท้ของธรรมาวุธ
ธรรมาวุธคือความจริง ความถูกต้อง เพราะฉะนั้นความจริง ความถูกต้อง ประหารความผิด ประหารความไม่ดีไม่งาม ประหารทรราช
ภาษาไทยคำว่า ความจริง ชนะทุกสิ่งทุกอย่างที่อาตมามี โศลกว่า ความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด อย่างนี้เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมที่อาตมาเองรับรู้และได้มีส่วนนำพาได้มีส่วนเสนอความคิดเห็นของตนเองเข้าไป ให้พวกเราได้ปฏิบัติประพฤติ ได้กระทำกัน เป็นตัวอย่างของคนไทยในเรื่องของการเมือง ซึ่งไปเก็บรายละเอียด นักรัฐศาสตร์ของโลกเลย ขอให้นักรัฐศาสตร์ของโลกมาศึกษารายละเอียดดูการเมืองไทยที่ผ่านมาในยุคตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ตั้งแต่ทักษิณขึ้นมาบริหารประเทศ
2549 อาตมาจำได้ อาตมาตัดสินใจนำพวกเราออกไปประท้วง ทั้งแถวที่ถนนราชดำเนินใน แล้วค่อยๆเดินเข้าไปสู่สนามหลวงตั้งแต่วันนั้นก็เริ่มต้น แสดงการเมืองของกองทัพธรรม และก็กลายเป็นกองทัพประชาชน มีผู้ที่ไม่ใช่ชาวอโศกเข้ามาร่วมตั้งแต่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ใครต่อใครที่มีหมู่มีคณะเข้ามารวมกัน จนกระทั่งเป็นกองทัพประชาชน รวมเป็นพันธมิตรกัน แล้วก็แสดงการทำรัฐประหาร หรือเรียกว่าปฏิวัติก็ตาม โดยพฤตินัยพฤติการณ์พฤติกรรมของประชาชนที่จัดการ เอาชนะทรราชลงไปได้ โดยไม่มีความรุนแรง
มีฝ่ายตรงกันข้ามทางคณะรัฐบาลทรราชตอบโต้รุนแรงมา แต่พวกเราชาวประชาชนไม่ได้รุนแรงตอบเลย มีบ้างคนที่ระงับใจไม่อยู่ ขว้างปาสิ่งนั้นสิ่งนี้เล็กๆน้อยๆแต่ไม่เคยใช้อาวุธ มีแต่ให้เขาทำกับเรา จนสุดท้ายพวกเราก็มีตายไปบ้างอย่างที่ว่า
นี่คือสัจจะที่แสดงจึงปรากฏการณ์จริงไม่ได้สร้างสคริป ไม่ได้มีใครเขียนบท ไม่ได้มีใครมาจัดการแต่มันเกิดสัจธรรมโดยสัจธรรมของมัน แล้วก็ผ่านไปไม่ใช่น้อยๆปีแล้วก็ไม่ใช่คณะเดียว รัฐบาลไม่ใช่รัฐบาลเดียวทั้ง 3 – 4 รัฐบาล อย่างนี้เป็นต้น นี่คือรัฐศาสตร์ที่สำคัญของโลก
ยังไม่มีเพราะรัฐศาสตร์แบบนี้ อาตมาบอกเลยเป็นรัฐศาสตร์แบบโลกุตระ เป็นรัฐศาสตร์คุณธรรม เป็นรัฐศาสตร์อารยะ หรือโลกุตระที่แท้ ไม่ใช่รัฐศาสตร์แบบ มิลักขชน หรือรัฐศาสตร์ที่ไม่มีภูมิธรรมไม่ลึกซึ้ง แต่เป็นรัฐศาสตร์ที่มีคุณธรรม อาตมาจบที่โลกุตตระธรรม มันไม่ใช่โลกียะ
เทวนิยมความรู้ทั้งหลายที่เขาไม่มีโลกุตระธรรมนั้นก็คือความรู้ของประชาชนแตกต่างกันเยอะแยะหลากหลายมากมาย มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกันเยอะเลย
สิ่งที่มาเป็นอย่างเดียวกันเริ่มต้นต้องมีสัญญาที่สำคัญ ลึกซึ้งไปถึงขั้น อันนี้ต้องขอพูดพาดพิงนิดหน่อย
โลกเทวนิยมอย่างเก่งเขาก็ได้ข้อหนึ่งข้อเดียวหรืออย่างเก่งก็ได้ข้อ 2 อย่างมิจฉาทิฏฐิ คือ สัญญาอย่างเดียวกัน คือสัญญาไม่ให้มีนิวรณ์ แต่ไม่ให้มีนิวรณ์ เขาทำได้อย่างกดข่ม สะกดจิตไม่ให้สัญญาทำงานได้แค่นี้
ส่วนนอกนั้นมิจฉาทิฏฐิเลอะเทอะไปหมดตั้งแต่วิญญาณฐิติข้อที่ 3 ที่ 4 เพราะฉะนั้นข้อที่ 5 6 7 เป็นวิญญาณฐิติข้อที่ 7 เป็นเรื่องสร้างเองเป็นเรื่องปั้นเรื่องปั้นราว เป็น นิรมาณกาย สัมโภคกาย อทิสมานกาย
สัจธรรมพรุ่งนี้เป็นของพระพุทธเจ้าตรัสรู้ อาตมาเอามาเปิดเผย และได้เกิดปรากฏการณ์จริง ไม่ใช่มีแต่พยัญชนะ ค่อยๆอธิบายไปจะรู้ว่าอันนี้คืออันนี้ คือกิจกรรมช่วงนี้ เรื่องนี้จะได้เข้าใจ
_ลูกได้เห็นการชุมนุมที่ไม่เคยเห็น แบบนี้มาก่อนและไม่เคยมีค่ะ มีเต็นท์ขนาดใหญ่
พ่อครูว่า… จริงๆไม่เคยมีใครมาทำก่อน พวกเราก็ลงมือทำเต็นท์ขนาดใหญ่ทำกันเองเลยนะ
_มีเวที บนเวที
พ่อครูว่า… พอดีเรามีโทรทัศน์ เราก็ซื้อกล้อง ต้องเสียค่าดาวเทียม
_มีการแสดงรำไทย ด้านล่างมีผู้ชุมนุมนั่งเก้าอี้ดูการแสดงคล้ายจัดงานวัดแต่ดูสนุกกว่าเพราะเห็นผู้ร่วมชุมนุมออกมาร่วมรำด้วย ลูกได้ฟังข่าวว่ามีการยิงแก๊สน้ำตา มีระเบิด มีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต ลูกขอถามว่าในการชุมนุมพ่อครู สมณะ สิกขมาตุและพี่น้องชาวอโศกอยู่กันอย่างไรคะ
พ่อครูว่า… หมดความเว่า อันนี้ไม่มีคำตอบอธิบายให้ฟัง ให้ติดตามดูเทปต่างๆ มีอัดเอาไว้ อยู่กันอย่างนั้นนอนกลางถนนข้างถนน ถนนเราก็ยึด ข้างถนนเราก็ยึด สร้างปรำ กระต๊อบ นอนฝนตกแดดออก หนาวบ้างร้อนบ้าง ฝนบ้าง อยู่กันอย่างสมบุกสมบัน เราก็อดทนกันทั้งนั้น แล้วก็เอาความอดทน เอาทุกสิ่งทุกอย่างเสียสละจนกระทั่งสังคมไทยยังเป็นสังคมคนดี
ถ้าคนไทยเป็นสังคมไม่ใช่คนดี เราไปทำอย่างนี้นะ คนไม่ดีพวกยักษ์พวกมาร ทรราชเป็นยักษ์มารจริงๆ ยิงกราดพวกเราก็ตายหมดแหละ แต่นี่คือสิ่งที่เป็นจริง คนไทยไม่ใช่คนเลวเหมือนที่อื่นเขา
เพราะฉะนั้น มันจึงซับซ้อน ถ้าคนไทยเลวกว่านั้นขอยืนยันว่า ทักษิณไม่มีชีวิตหรอก ถ้าคนไทยเลวกว่านั้นป่านนี้ทักษิณไม่มีชีวิตหรอก
คิดดูซิ เกาหลีเหนือ พี่ชายเขาขัดแย้ง เขาส่งคนไปตามฆ่าตายเลย พอ จบ ขนาดพี่น้องเขา เขายังส่งคนไปฆ่าตาย แต่นี่ ทักษิณไม่ใช่ญาติพี่น้องของคนไทย คนอื่นก็ไม่ได้อำมหิตต่อกัน ขนาดพี่น้องเขายังอำมหิตฆ่ากันได้ แต่คนไทยเอาเถอะปล่อยเขา แต่เอาเงินเราไป ไปใช้ยังหรูหราสุดสำราญเบิกบานใจ เยาะเย้ยคนไทย คนไทยหลายคนไม่มีอยู่ไม่มีกิน ไม่ได้อำมหิต ไม่ได้ถือสาโกรธแค้นยุแหย่ให้ไปฆ่าแกงกันก็ปล่อยให้ลอยนวล จะเป็นไปวิบาก เพราะคนไทยเราเชื่อกรรมเชื่อวิบาก อันนี้สูงส่งลึกซึ้ง
_ในพรรษานี้ลูกตั้งตบะงดขนมหวานค่ะ แม่ตั้งตบะทานมังสวิรัติในวันเกิด วันพระ และวันสำคัญทางศาสนา หลังจากที่แม่ แพ้กิเลส ไปทานเนื้อสัตว์ วันนี้แม่ยังตั้งหลักไม่ได้ มีอาการเศร้าๆ บอกลูกว่า “แม่ยังเฮ็ดบ่ได้เด้อลูก” ลูกจะช่วยแม่อย่างไรดีคะพ่อครู แม่แก่มากแล้วค่ะ อายุ 88 ปีแล้วค่ะ น้อมกราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
พ่อครูว่า… เอาเถอะ แม่ก็พยายามแล้ว ยอมรับสารภาพแล้ว จะไปข่มเขาโคขืนให้กินหญ้ามากไปจะไม่ดี บางทีก็ทำอาหารมังสวิรัติอร่อยๆให้กินก็ได้ สํานวนไทยแก่เกินแกงก็คืออย่าไปใช้ประโยชน์เลยก็ปล่อยไป 88 ปียังไม่แก่หรอก อาตมา 90 ปีแล้วยังไม่แก่เลย
_ธรรมธารทิพย์ มาลิณี · น้อมกราบนมัสการพ่อครูฯด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งค่ะ โลกียะ กับโลกุตระช่างแตกต่างกัน คนละขั้ว แต่อยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุข
พ่อครูว่า… โลกุตระอยู่ร่วมกับโลกียะได้อย่างผาสุก แต่โลกียะจะมาทำอะไรเรา เราก็อยู่กันอย่างประนีประนอม นี่เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติมีความสามารถป้องกันตัวเองรู้จักรักษาตัวเองอยู่กับชาวโลก ชาวมนุษยชาติ เท่าที่จะต้องสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันก็อยู่กันอย่างพอดิบพอดี
_แลดิน สมบัติมาก · สาธุครับ พ่อท่านเทศน์ฟังง่าย เข้าใจเพิ่มขึ้นครับ
พ่อครูว่า… อาตมาพยายามจะเทศน์ให้ฟังเข้าใจได้ง่ายๆ ขนาดนั้นบางอย่างบางอันก็ยังยากดีแล้วล่ะ คุณก็ใช้ได้
_Nomapai Penparsertsith น้อมอภัย เพ็ญประเสริฐสิทธิ์· น้อมกราบนมัสการหลวงปู่ค่ะ รู้สึก อิ่มใจมาก ที่มีคุณหมอมาดูแลหลวงปู่ จนอาการดีขึ้น ขอให้หลวงปู่มีสุขภาพ แข็งแรง ตลอดไป จนสามารถอยู่ได้นาน ถึงเท่าที่หลวงปู่กำหนดไว้ค่ะ น้อมกราบคารวะค่ะ
พ่อครูว่า… ขอบคุณมาก ก็พยายามอยู่ ทำประโยชน์ไป สุดวิสัยก็จบไป ยังไม่ถึงที่สุดก็ต่อไปได้
_วรัช นาวาบุญ · กราบพ่อครูด้วยความเคารพยิ่งครับ พ่อครูคือพ่อทางจิตวิญญาณที่สูงสุด ทำให้ผมเกิดทางภพจิตอีกดังมีชีวิตใหม่ ถึงแม้จะปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามที่พ่อครูสอน แต่จิตของลูกรู้และเข้าใจมากๆ
ผมขอนมัสการถามดังนี้ครับ จรณะ15 นั้นคือหลักธรรมของพุทธศาสนาใช่หรือไม่ครับ ถึงพร้อมด้วยการทบทวน วิชชา8 ในการตรวจใจ หรือวิเคราะห์ในความรู้แจ้งของตัวเอง ใช่หรือไม่ครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพยิ่งครับ…หมายเหตุ พ่อครูป่วยลูกอย่างผมอดนึกห่วงพ่อครูไม่ได้ครับ ลูกยังไม่พ้นกิเลสตัวนี้ กราบครับ
พ่อครูว่า… เป็นยอดหลักธรรมของศาสนาพุทธเลย จรณะ 15
_ขอถามเนื่องในการฟังธรรมวันที่ 4 สิงหาคม 2566
-
อัตตกิลมถานุโยค (การสร้างความลำบากให้แก่ตัวเอง ) ถ้าเราทำงานให้แก่ส่วนรวม เราก็เกิดเวทนา(ความรู้สึก)เต็มใจ ทุ่มเทให้กับงานมาก แต่ขันธ์ก็พยายามสู้กับความเจ็บปวดของร่างกาย ถือว่าเป็นการสร้างความลำบากให้แก่ตัวเองไหมคะ
พ่อครูว่า… ไปทำงานแล้วร่างกายเจ็บปวด คุณก็ระวังซิ มันทำงานมากไปแล้วมันเจ็บปวด หรือมันถูกอะไรทิ่มแทง ก็ระวัง ถ้ามันไม่ปกติ มันเกิดแผล เกิดหนักเกินไป คุณก็พัก คุณก็อย่าไปทำให้มันเกิดอย่างนั้น ถ้าไปทำ ใครก็ไม่อยากให้ถึงกับเจ็บปวดเจ็บป่วย ต้องพยายามระมัดระวัง ถ้ามันเจ็บปวดพอที่จะต้องพักผ่อนก็ต้องพัก
_แต่ขันธ์ก็พยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดของร่างกาย
พ่อครูว่า… อันนั้นก็เป็นความต่อสู้อย่างทรมานตนถือว่าเป็น อัตตกิลมถานุโยค เป็นการต่อสู้เพื่อความลำบากที่ไม่ได้สมสัดส่วน มันควรพักก็พัก มันควรเพียรก็เพียพระพุทธเจ้าก็ตรัสอย่างนั้น ควรพักก็พัก ควรเพียร ถ้ามันเห็นว่าไม่ควรจะเพียรต่อ ควรจะพักก็พัก
_แต่พอเสร็จจากงาน มีความปิติแล้วเหนื่อยมาก
พ่อครูว่า… เอาแต่พอเหมาะ เหนื่อยก็พัก อย่าให้มันเกินขอบเขตถ้ามันเกินขอบเขตก็ถือว่า อัตตกิลมถานุโยค
_2 ถ้าทำตามคำสอนของหลวงปู่ แต่กลุ่มหมู่ไม่เห็นด้วย ถือว่าดิฉันมีอัตตาหรือเปล่าคะ
พ่อครูว่า… ถ้าหมู่ไม่เห็นด้วย เราไปยึดถืออยู่ก็ถือว่าเป็น อัตตา
หมู่ ส่วนรวมเขาไม่เห็นด้วย ในขณะนั้นเขามีเหตุผลว่าควรจะพักหรือมีงานอื่นก็ควรจะพัก เมื่อหมู่เขาหยุด แต่ถ้าเราเห็นว่าเราควรพอจะทำได้แล้วหมู่เขาไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้ขัดแย้งอะไร คุณก็ทำไป แต่ที่เห็นว่าหมู่หยุดแล้วเราก็ควรจะหยุดด้วย เราก็ไปทำอะไรร่วมกับหมู่อย่างอื่นไปหรือหมู่จะไปทำอย่างอื่นหรือแม้แต่เขาจะพัก เราก็ไปพักบ้าง ถ้าเผื่อว่าเรายังเห็นว่าเรายังทำได้อยู่นะ ทำคนเดียวได้ก็ทำ หมู่เขาไปหมดแล้วเราทำคนเดียวก็ทำไป
-
เวทนา(ความรู้สึก เรามีสติปัญญาน้อยใช้คำพูดไม่เป็น ) ดิฉันคิดว่าการทำงานเพื่อหาเงินมาเข้าวัด ชอบมากกว่าการฟังธรรม