660612 พ่อครูคือธัมมิกราษฎร์ ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม รายการปรับทุกข์ปลุกธรรม #25 ราชธานีอโศก ดาวโหลดเอกสารที่ https://docs.google.com/document/d/1Aw0Xb_S4yvBucV8tVVg97YKQjp7hlKiO/edit?usp=sharing&ouid=101958567431106342434&rtpof=true&sd=true ดาวน์โหลดเสียงที่ https://drive.google.com/file/d/1uNhA8zsiNqZQCmXVUrurcRVe6uSiwMXg/view?usp=drive_link ดูวิดีโอได้ที่ https://youtu.be/AWawJ8J3Sl0 และ https://www.facebook.com/100078722032092/videos/6493841494013546 พ่อครูว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 ที่บวรราชธานีอโศก SMS วันที่ 2-11 มิ.ย. 2566 _ใบฟ้า ธรรมะธารา นาวาบุญนิยม : กราบนมัสการ พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ด้วยเศียรเกล้าฯค่ะ “โลกุตรธรรม” ที่เลิศยอดและเป็นเอก ในวันสำคัญของโลกในวันนี้ คือ “สัมมาทิฏฐิ 10” ที่มีความพิสดารลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในรอบที่ลึกขึ้น ควรแก่การติดตาม รับฟัง อย่างมี”ปรโตโฆษะ”ต่อๆไป กราบขอบพระคุณ พ่อครู ในความเมตตากรุณา อันประมาณมิได้นี้ ด้วยเศียรเกล้าฯ และขอกราบอนุโมทนา กับความสำเร็จรายทางของการขยายอายุขัย ในวาระอายุครบ 89 ปีเต็ม ในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ค่ะ พ่อครูว่า… เขาเป็นอาจารย์พยาบาล ก็สนใจในเรื่องขยายอายุขัย อาตมาก็เชื่อว่าเป็นไปได้ _ใบฟ้า ธรรมะธารา นาวาบุญนิยม· ร่าเริงเบิกบานในธรรมเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่ได้รับฟังการ ทบทวน “ระดับต่างๆของ โพธิสัตว์” ความรู้ใหม่เกี่ยวกับ “ระดับอรหันต์หลังบรรลุ อรหันต์ ในอรหันต์” สนุกมากค่ะกับการตามฟังพ่อครูเทศน์สอนให้ทัน แบบไม่ขาดตอน และที่ ยิ่งใหญ่ยอดสุดคือ การประกาศ ความเป็น”พระธรรมมิกราษฏร์” ผู้มี”โลกุตรธรรม”เป็น ของๆตน (“สยังอภิญญา”) กราบขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนา ด้วยสุดเศียรเกล้าฯ ณ เวลา 18.24 น. ศ.ที่ 9 มิ.ย.พุทธศักราช 2566″ พระนิยตะโพธสัตว์เจ้า” พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ผู้ก้าวย่างสู่ระดับ “พระมหาโพธิสัตว์” ได้บันลือสีหนาทประกาศก้องไปทั่วโลก ถึงความเป็น “พระธรรมมิกราช” องค์ที่ 2 ร่วมกับ”พระธรรมมิกราชองค์แรก”คือ พ่อหลวง ร.๙ อย่างองอาจแกล้วกล้าเป็นที่สุด!!! ลูกคนนี้รู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นกาละ เทศะ ฐาณะที่เป็นมงคลสูงสุดแก่มวลมนุษยชาติ ในยุคกึ่งพุทธกาล ที่ได้รับทราบว่า “โลกุตรธรรม”ที่สามารถกอบกู้และสืบสานพระพุทธศาสนานั้นมีผู้ร่วมรับภาระนี้ถึง ๒ องค์ โดยมีพ่อครูผู้เป็น “สยังอภิญญา”เป็นผู้นำพากราบอนุโมทนา ด้วยสุดเศียรสุดเกล้าฯค่ะ _ไพรเพ็ญพุทธ จันทร์ศิริ · กราบนมัสการพ่อครูฟังธรรมวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย. ตั้งใจฟังด้วยใจจดจ่อจนไม่กล้าลุกไปเข้าห้องนํ้าเลยครับ _แก้วลา ไชยวงค์ · เชื่อเจ้าค่ะในหลวง ร.9 และพ่อครู ทั้งสองพระองค์ แบ่งงาน ในหน้าที่ของพระโพธิสัตว์ _รุจิรา วงปาลี · เติบโตมาในวัฒนธรรมของพุทธเถรวาทในเมืองไทยแล้วมาศึกษาพุทธมหายานแนวทิเบตในนิวยอร์ก แล้วตกผลึกสรุปได้ว่า พุทธธรรมแนวอโศก คือความสมบูรณ์ของพุทธศาสนา ณ ศตวรรษนี้ _สุทัศณีย์ วงษ์กิ่ง · น้อมกราบนมัสการพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ด้วยเคารพอย่างสูงคะ ขอร่วมฟังทางที่บ้านค่ะ พ่อครูได้ประกาศของจริงแท้เรื่องอรหันต์ อยากให้ผู้ร่วมสมัยกันพุทธศาสนาให้หยุดทำหลับตาเป็นอรหันต์ ในฝั่งที่หลับตารอบๆเค้ายังทำทุกวัด คือ เวียนเทียนไป สวดมนต์ นั่งสมาธิแล้วดี เพราะเห็นภาพชัดว่าไปนั่งสมาธิเตรียมธูปเทียนดอกไม้ไปที่วัดคะแต่ลูกเตรียมฟังพ่อครูด้วยสมุดบันทึกปากกา เทียบได้แบบนี้คะ(ได้ตามฐานะ แต่ก็ขอเพียรตามที่ได้ปฏิญาณตนร่วมด้วยวันที่ 3 มิย.คะ)สาธุธรรมะพ่อครูนำมาสอนให้เข้าใจต่างจากหลับตา เคยไปทำมาก่อนแล้วคะ สาธุสาธุสาธุคะ พ่อครูว่า… ไปใช้ภาษาแบบ Command เขาก็จะไม่ชอบใจเอานะ ก็มันจริงนะ อาตมาก็เคยทำผ่านมานักในการหลับตาปฏิบัติ หลับตามาเป็นสิบๆปีเหมือนกัน ไม่ใช่น้อยๆนะที่อาตมาปฏิบัติ ไปเล่นไสยศาสตร์อยู่ 8 ปีนั้นหลับตาปฏิบัติทั้งนั้น และยังแถมปฏิบัติธรรมจริงๆอีกหลายปีรวมแล้วหลายสิบปีหลับตาทำมา ทั้งอย่างเข้าใจ อย่างไม่เข้าใจก็ทำมานัก เล่นไสยศาสตร์มา 8 ปี หัวหกก้นขวิดในเรื่องไสยศาสตร์หลับตาเป็นเทวนิยมไสยศาสตร์ไปกัน เพราะฉะนั้นอาตมารู้ทั้งสองฝ่ายรู้ทั้ง 2 แบบ ยุคนี้จะสัมมาทิฏฐิต้องรับธรรมะจากสยังอภิญญา _มุก 2130 : ผมยังสงสัยในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ครับว่า ทำไมพระพุทธเจ้าจึงขีดเส้นให้ว่า ถ้าจะสัมมาทิฏฐิได้นั้น ต้องเชื่อหรือพบหรือเห็น ในสมณะผู้อยู่ในขั้น สยังอภิญญา ขึ้นไปครับ ความหมายคือถ้าพบหรือเห็นหรือเชื่อในสมณะผู้ต่ำกว่าสยังอภิญญา จะยังไม่นับเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ…ใช่ไหมครับ .. / คมมากครับ ที่พ่อครูพูดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาต้นโพธิ์ ไม่อย่างนั้น จะผิดในมาตรา 157 พ่อครูว่า… ประเด็นที่คุณมุกตั้งขึ้นมาว่าในสัมมาทิฏฐิข้อที่ 10 ครับว่า ทำไมพระพุทธเจ้าจึงขีดเส้นให้ว่า ถ้าจะสัมมาทิฏฐิได้นั้น ต้องเชื่อหรือพบหรือเห็น ในสมณะผู้อยู่ในขั้น สยังอภิญญา ขึ้นไปครับ ความหมายคือถ้าพบหรือเห็นหรือเชื่อในสมณะผู้ต่ำกว่าสยังอภิญญา จะยังไม่นับเป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ…ใช่ไหมครับ ฟังดี ๆ ทำไมถึงย้ำสำทับว่าต้องพบ จริงๆแล้วอาตมาย้ำว่าต้องพบโพธิสัตว์ระดับ สยังอภิญญา ถ้าอาตมาจะพูดว่า จริงๆไม่ใช่แค่พบเฉพาะ สยังอภิญญา แต่ควรจะพบพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำไป เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้พบพระพุทธเจ้าก็สุดยอดแล้ว เมื่อไม่ได้พบพระพุทธเจ้าก็พบ สยังอภิญญา ก็ยังดีกว่าที่ต่ำกว่า สยังอภิญญา เพราะฉะนั้นจึงควรพบ สยังอภิญญา เพราะอะไร เพราะ สยังอภิญญา คือผู้ที่มีเนื้อธรรมโลกุตระในตัว เป็นเองในตัวเอง สยังอภิญญา ตายข้ามชาติก็มีโลกุตรธรรมติดตัวมา แต่ถ้าคนที่ยังไม่มีโลกุตรธรรมนั้นจะต้องได้รับจากพระพุทธเจ้าเป็นต้น หรือต้องได้รับจากสัตบุรุษ สยังอภิญญา ก็ตาม สยังอภิญญา คือผู้ที่มีโลกุตระในตัวเองไม่ต้องรับจากใคร เกิดมาในยุคที่ไม่มีโลกุตระท่านก็ประกาศได้เหมือนปัญหานี้ผมก็เคยสงสัยในยุคนี้อาตมาเอามาประกาศได้ _สู่แดนธรรม… สัมมาทิฏฐิข้อสุดท้าย ถ้าไม่ได้พบเจอผู้ที่อธิบายสัมมาทิฏฐิข้อที่เหลือก็ไม่รู้สัมมาทิฏฐิ พ่อครูว่า… ข้อ มาตา ปิตา แม่มี พ่อมี หากไม่มีภูมิโลกุตระก็จะอธิบายแบบเป็น magical เป็นเรื่องลึกลับไม่รู้เรื่องไปเลย อาตมายืนยันอธิบายโลกนี้คือโลกโลกียะ โลกหน้าคือโลกโลกุตระ มาตา ปิตา โอปปาติกโยนิ อาตมาอธิบายความเป็นสัจธรรมไปถึงสิริมหามายาคือยุคนี้ก็มีในคนได้ ถ้าเข้าใจได้ว่าสิริมหามายาคือสภาวะธรรม ของผู้ที่สามารถทำให้เกิด คลอดธรรมะ ไม่ใช่คลอดตัวตนบุคคล ไม่ใช่คลอดแบบ ชลาพุชโยนิ อัณฑชโยนิหรือสังเสทชโยนิ แต่นี่คลอดอย่าง โอปปาติกโยนิ เป็นการเกิดที่กรรมพาเกิด กัมมโยนิ ไม่ใช่การเกิดทางอยู่ในน้ำคร่ำในมดลูก หรือ เกิดมาเป็นไข่ก่อน หรือเกิดเป็นแบคทีเรีย โดยการแตกตัวในน้ำคร่ำ ไม่ใช่ เป็นการเกิดที่เป็นนามธรรม การเกิดทางจิตวิญญาณ ติดตามฟังไปเรื่อยๆได้รับความรู้ไปตามลำดับ ทานขั้นสูงสุดคือธรรมทานจากผู้หมดตัวตน _นพดล ทองโคตร · ขอเรียนถามพ่อครู ว่า ทาน ที่เสียสละสลายอัตตาจบสิ้นแล้ว นำร่างกายและจิตใจลงแรงมาทำงานกอบกู้ศาสนาตามพ่อครู เป็นทานชั้นสูงสุดกว่าทานอย่างอื่นมั่ย ขอรับ พ่อครูว่า… ใช่ อย่างอาตมาทำ ธรรมทาน แบบที่คุณว่าเป็นขั้นสูงสุด คือเอาร่างกายและจิตใจลงแรงทำงานกอบกู้ศาสนา อาตมาก็ตามพระพุทธเจ้า เป็นทานขั้นสูงสุดเรียกด้วยศัพท์ง่ายๆเขาใช้กันอยู่ในวงการว่าธรรมทาน คือมาทานธรรมะ อาตมาไม่มีเงินมาทาน ไม่มีทอง ไม่มีเพชรนิลจินดา ไม่มีวัตถุอะไรมาทาน อาตมาก็ธนบัตรก็ไม่มี จะเอาธนบัตรมาแจกไม่มี มีแต่ธรรมะ แล้วธรรมที่อาตมาทานหรือบริจาคหรือให้ ให้แก่คนทั้งหลายคือโลกุตรธรรมด้วย เป็นทานที่มีสาระสัจจะถึงขั้นโลกุตรธรรม ที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งคนที่ไม่ฟังโลกุตรธรรมไม่ไหว เขาไม่เอา เพราะฉะนั้นคนดูช่องนี้อย่าไปเทียบเลย คนดูช่องนี้ไม่เท่าไหร่หรอกโดยเฉพาะรายการอาตมา ถ้ารายการที่เขาเปิดร้องเพลงผู้ครองรักก็เปิด หลาย ทีวันนี้ ตอนนี้กำลังได้นักร้องของ Golden Song เขา คนจะดูอันนั้นเยอะกว่าฟังอาตมาฟังไม่ไหว ก็เข้าใจอาตมาก็ไม่มีปัญหา แต่อาตมามีความจำเป็นจำนน จำต้องแสดงธรรมโลกุตระไว้ แสดงออกมาในยุคนี้และยืนยันอย่างหนักหนาอย่างแรงเลย เอาตัวตนทุ่มเข้ามาเลย เรียกว่าไม่มีคนที่ทำแบบนี้ จะได้ขยายความให้ฟัง _เรืองรุ่ง พลังบุญ · เป็นพลังของพระอรหันต์หรือเปล่าคะ อายุของพ่อครูก็ 90 ปีแล้ว น้ำเสียงตอนเทศน์ ฟังแล้วมีพลัง มีความเมตตาต่างจากคนที่มีอายุ 90 ปีทั่วไปค่ะ พ่อครูว่า… คงจะเป็นไปบ้างตามที่คุณเข้าใจ คงจะไม่เหมือนกันเท่าไหร่กับคนอายุ 90 ที่ไม่มีพลังธรรม นี่มีพลังแห่งธรรมะร่วมไปก็เลยเป็นอย่างนี้ _ธวัชชัย คงสมจิตร์ · ผมขออาราธนาให้พ่อครูมีอายุยาวอย่างน้อย 120 ปีครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงครับ พ่อครูว่า… สาธุอนุโมทนา ถึงได้ก็ดี ถ้าอยู่แล้วไม่ค่อยแข็งแรงก็คงไม่อยู่แล้ว ถ้าอยู่แล้วให้อยู่ทำงานได้อย่างนี้ไม่ใช่ติดเตียง 120 ปี ถ้าอย่างนั้นจะอยู่ทำไม อย่างน้อยที่สุดก็หามมาเทศน์หน่อยก็ยังได้ เอาอย่างนั้นก็เอา ช่วยหามมาอาตมาถึงวาระไปเทศน์แล้วก็เอา เทศน์ได้อยู่อย่างมีเรี่ยวมีแรงพูดได้อยู่ สมองไม่ปั่นป่วนเลอะเลือนก็เอา _จนแท้ บุญคุ้มมาจน · อรหันต์ทั่วไปต้องเคี้ยวหมากไม่หยุด คาบบุหรี่มวนโตๆหรือเข้าบำเพ็ญถ้ำ(แต่เพียงผู้คนเป็นเวลานานๆออกจากถ้ำต้องหนวดยาวผมยาวรุงรังครับ).อันนี้อรหันต์แท้.. พ่อครูว่า… นิยามอรหันต์ของคุณคนนี้ก็แบบนี้แปลกๆ ต้องอยู่ในถ้ำหนวดยาวรุนแรงถึงเป็นอรหันต์แท้ จริงๆพูดประชดมั๊ง _จรรยา ประเสริฐ · ฟังเมื่อวานรายการชีวิตชาวอโศกต่างแดน ขอบอกว่าทึ่งจริง ๆ ญาติธรรมอโศก ไม่ใช่กระจอกเลย ฐานะมหาเศรษฐี มีก็มาก มีความรู้ ตั้งแต่ไม่มีความรู้ ถึง ดร. ปริญญาเอก คนสุขสบายก็สุขล้น คนลำบาก ก็ลำบากล้น พ่อครูว่า… ยิ่งเอาสภาวะของตัวเองของตนที่ผ่านมา มาอธิบายมันฟังดี เป็นเรื่องแท้ๆ ไม่ใช่เอาตำราหรือเอาภาษาบัญญัติอะไรมาพูดอธิบายกันเฉยๆ ได้เอาจากความรู้สึก จากสัญญา จากความจำจากความกระทบ ตัวเองผ่านการสัมผัส ผ่านความเป็นจริงของชีวิตมา โอ้โห จะเป็นเวทนาหรือความรู้สึกของตัวเองรับมาเต็มที่เลยก็สะสมมาเอามาบรรยายกันก็ชัดเจนดี _รุจิรา วงปาลี : น้อมกราบนมัสการพ่อครู สมณะโพธิรักษ์ ติดตามอยู่ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา โลกุตรธรรมไม่ใช่เฉกาแต่มีปัญญา _วาส ทองจันทร์ · กราบนมัสการพ่อครูด้วยความเคารพยิ่งครับ ผมข้องใจคุณไพศาล พืชมงคล เป็นโพธิ์สัตว์ระดับไหนครับ ทำไมแกแยกความสำคัญ 1-2-3 ไม่ได้ ชอบยำลุงตู่ และเลือกไปยืนข้างพรรคก้าวไกลครับ พ่อครูว่า… ใครบอกว่าคุณไพศาลเป็นโพธิสัตว์ คุณวาส พอมองออกว่า ลักษณะที่ถูกต้องตรงเข้าหลักเข้าเกณฑ์ไหม อันนี้ก็ขอวิจัยแทรกให้ฟังนิดหนึ่งว่า อย่างคุณพิธา เขาได้รับการศึกษาผ่านเทวนิยมมา เขาก็ซาบซึ้งได้รับอิทธิพลของเทวนิยมเข้ามา จะว่าเต็มรูปก็เต็มรูป เขาไม่มีอิทธิพลของโลกุตรธรรม หรือของพุทธเลย เขาก็เลยมาแสดงออกเต็มที่ของเขา เขามีความเห็นของเขา ความเข้าใจของเขา มันจึงค้านแย้งกับพฤติกรรมตั้งแต่จิตวิญญาณมาจนกระทั่งถึงกรรมกิริยา ภาษาพูดที่ออกมา แสดงออกมาของลุงตู่หรือของพลเอกประยุทธ์ มันเป็นจริงที่ต้องค้านแย้งกัน เพราะอันหนึ่งเทวนิยม อีกอันหนึ่งมีวิญญาณของโลกุตระวิญญาณของอเทวนิยมของพุทธ เทวนิยมหรือความรู้ทางธรรม เทวนิยมของตะวันตก ไม่ได้เข้าใจโลกุตระได้เลย เขาไม่มีโลกุตระเลย เพราะฉะนั้นธรรมะของเขามีแต่โลกียธรรม ไม่มีโลกุตรธรรม โลกุตรธรรมเป็นธรรมะที่สวนกระแส ปฏิเสโสตังกับโลกียะ 180 องศาเลย ยกตัวอย่างที่พูดไปแล้วพวกเราเข้าใจ คนพวกนั้นก็ต้องเอาลาภยศสรรเสริญโลกียสุขเต็มประตูของโลกียะ แต่โลกุตระนั้นทิ้งเลย ทิ้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุข และเป็นผู้ที่ทำงานสังคม ที่ไม่ใช่พูดแบบออกนอกรีตหลับตาหนีเข้าป่าไม่รู้จักสังคม อย่ามายุ่งการเมืองไม่ใช่โลกุตระนะ อย่างนั้น โลกุตระของพระพุทธเจ้ามี โลกวิทู รู้หมดทั้งโลกียะและโลกุตระและมีอุตระคือเหนือโลกียะที่ช่วยโลกียะ มีโลกานุกัมปายะ ช่วยเหลือโลกโดยเฉพาะช่วยเหลือโลกียะ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ถ้าฟังแล้วจะบอกว่า ไอ้นี่มันหลงตัวเองมายกตนข่มท่านหรือเปล่า โลกุตระจะยกตนข่มโลกียะเขา ยกตนข่มตะวันตก ยกตนข่มศาสนาพระเจ้า ซึ่งเราไม่ได้ยกตนข่ม แต่มันเป็นสัจจะความจริงอย่างนั้น มันเป็นความจริงของสัจธรรม โลกุตระมันเหนือกว่า มันอุตระ มันเหนือกว่าโลกียะโดยสัจธรรมก็พูดสัจธรรมเท่านั้น เขาจะรู้สึกว่าถูกข่มก็เป็นอัตตาของเขา ถ้าเขาไม่มีอัตตาเปิดจิตฟัง ที่อาตมาสาธยายนี้ สาธยายแยกโลกียะและแยกโลกุตระให้ฟังชัด ผู้ฟังด้วยดีย่อมได้ปัญญา มีปัญญาเข้าใจ แม้คำว่าปัญญานี่ก็เป็นโลกุตระ คำว่า ฉลาด นั้นมีภาษาบาลี เฉโก หรือเฉกะ หรือเฉกา เป็นความรู้ความฉลาดอยู่แค่นั้นแหละ เป็นเฉพาะหนึ่งเดียว เฉกะ ในความรู้ของโลกุตระมีความรู้ครบ 6 ฉลาดแปลว่า 6 แต่เฉกะ คือ ฉะเอก เขามีความเข้าใจแค่หนึ่งเดียวอีก 5 เขาไม่เข้าใจ เขาไม่มีภูมิรู้อีก 5 ทวารที่รู้โลกกว้าง ที่รู้ทั้งสังขารของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปเป็นจิตวิญญาณแบบไหนๆ จะเป็นเทวะหรือเป็นสัตว์นรก อยู่ในนี้อีก ซับซ้อนลึกซึ้งเขาไม่มีความรู้ เทวนิยมมีความรู้อยู่ในวงแคบ อยู่ในวงวนของเฉกะเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาเอาคำว่า ปัญญา ไปใช้ในความรู้ศาสนาเทวนิยมของทางตะวันตก ของศาสนาพระเจ้า ไม่ได้ เขาไม่มีความรู้ทางปัญญา เขามีความรู้แค่ทาง เฉกะ พล.อ.ประยุทธ์อยากสืบทอดอำนาจต่อจริงไหม _สู่แดนธรรม… ตอนที่พ่อท่าน กล่าวถึงลุงตู่ มีสมณะผู้ใหญ่ฝากถามมาให้เข้ากันว่า นักวิชาการมองว่าลุงตู่พยายามสืบทอดอำนาจ หลงในอำนาจ พอดีกับใน sms ก็ถามขึ้นมา เขาบอกว่า _โรจ ราษฎร : ประยุทธ์แพ้เลือกตั้ง แต่อยากอยู่ต่อ พระอาจารย์ว่าไง พ่อครูว่า… ตอบไปเลย ประเด็นที่ว่า 1. พลเอกประยุทธ์อยากอยู่ต่อ 2. พลเอกประยุทธ์เป็นผู้สืบทอดอำนาจ เลยบอกให้อีกเลยว่ามีคนบอกพลเอกประยุทธ์เป็นเผด็จการ สืบต่ออำนาจ เป็นอยากอยู่ต่อ อาตมาแถมให้อีกว่าเป็นเผด็จการ อาตมาอธิบายผ่านไปหมดแล้ว เหตุการณ์จริงผ่านไปหมดแล้วพูดไปไม่รู้กี่เที่ยวแล้ว ว่าเหตุการณ์การเมืองของประเทศไทย ตั้งแต่รัฐบาลทักษิณ ทักษิณยังไม่เต็มรูป ทักษิณมีพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน มาเอารถถังอะไรมาให้ประชาชนเอาดอกไม้เสียบปลายกระบอกปืน เต๊ะท่าเฉยๆ แต่จริงๆแล้วประชาชนปฏิวัติหรือประชาชนประหารรัฐบาลทักษิณไปแล้ว พอมาถึงสมัคร ประชาชนก็ไปประท้วงประหาร ประหารรัฐบาลของสมัครลง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าอำนาจของประชาชนเข้าไปประท้วงนั้น โดยไปยืนยันว่ารัฐบาลนี้ต้องลง รัฐบาลสมัครต้องลง แต่ประชาชนจะไปปลดตำแหน่งเขาไม่ได้ ก็มีนัยยะสำคัญคือ ตุลาการภิวัฒน์ช่วยตัดสินให้สมัครตกเก้าอี้นายก ทักษิณก็เก่งอีกเอานอมินีสมชายขึ้นไปอีก พวกเราก็ไปประท้วงจนกระทั่งไปปลูกข้าวในทำเนียบ สมชายเข้าทำเนียบไม่ได้เลย นี่อธิบายมานี่เป็นเรื่องเหตุการณ์จริงทั้งนั้นของประเทศไทย เป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของรัฐศาสตร์บทใหญ่เลย เป็นเรื่องปฏิบัติจริง ไม่ใช่เรื่องในตำรา พฤติการณ์เป็นประชาธิปไตยแล้วประท้วงกันอย่างไม่ได้รุนแรง ไม่ได้เสียเลือดเสียเนื้อ มีแต่พวกรัฐบาลที่อยู่ในอำนาจของรัฐบาล รัฐบาลทรราช รัฐบาลคอรัปชั่นมาย้อนฆ่าประชาชน เป็นผู้ฆ่า ไม่ใช่เกี่ยวกับประชาชนผู้ที่ไปปฏิวัติรัฐประหาร จนสมชายก็ตกเก้าอี้ เก่งจริงๆทักษิณต้องยอมรับว่าเขาจบอาชญวิทยากันจริงๆ เอายิ่งลักษณ์ขึ้นมาอีก 49 วันขุดมาจากไหนไม่รู้เป็นนายกได้ โอ้โห..เก่งจริงๆ เสร็จแล้วก็ถูกปฏิวัติลงไปอีกถึงพ.ศ. 2557 ปฏิวัติลงไปแล้วจนกระทั่งหมดอำนาจ ไม่มีเลย เป็นช่วงว่างสุญญากาศของผู้ที่ดูแล ไม่มีรัฐบาลดูแล ตามระบบกฎหมายเลยตอนนั้นน่ะ เพราะฉะนั้นแม้แต่พลเอกประยุทธ์เข้าไปบอกว่าอย่างนั้นผมก็ขอยึดอำนาจ ไปขอยึดอำนาจกับคนที่ไม่มีอำนาจ มันว่างแล้วช่วงนั้นช่วงว่าง จากรักษาการคือนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล พลเอกประยุทธ์บอกว่าถ้าอย่างนั้นผมก็ขอยึดอำนาจ แกไม่มีอำนาจอยู่แล้ว แต่มันเหมือนพลังงานโมเมนตัมที่เกิดต่อเนื่องตามรูปแบบของประชาธิปไตยพยัญชนะ ประชาธิปไตยตามบัญญัติ ตามตัวหนังสือเท่านั้นเอง แต่พฤติกรรมจริงมันสำเร็จแล้ว ประชาชนเอาอะไรไปปฏิวัติ เอาอะไรไปล้มล้างรัฐบาล ก็เอาความจริง ไปประกาศความจริง ประกาศว่าคุณผิดอย่างนี้ คุณทำไม่ถูกอย่างนี้ คุณจะต้องไม่เหมาะไม่ควรที่จะได้เป็นรัฐบาลออกไป เอาความจริงทุกคนเรียงหน้าขึ้นไป ใช้เวทีพูดทั้งหลายทั้งแหล่ ก็ประกาศให้โลกเขารู้คนทั่วไป เขาก็รู้ เขาก็เข้าใจ พลังของมวลประชาชนนี่ ซึ่งมันเป็นสภาพไร้สภาพ พลังงานของจิตวิญญาณประชาชน ทำให้พวกนี้จะต้องอยู่ไม่ได้ ความจริงชนะความเท็จ ความถูกต้องชนะความผิด เป็นสัจจะ จนกระทั่งเมื่อยิ่งลักษณ์ออกไป พลเอกประยุทธ์มาบอกว่ายึดอำนาจ ซึ่งเป็นแค่ฟองคลื่นของรูปแบบเท่านั้นเอง มันไม่ใช่เรื่องสัจจะอะไรมากมาย จริงๆไม่ต้องไปยึดอำนาจ ถ้าถูกต้องจริงๆแล้วนะ ประชาชนไปเชิญพลเอกประยุทธ์มาต่อเลย แต่เราก็ทำไม่ได้เพราะพลเอกประยุทธ์เป็นทหาร เป็นผู้รักษาอำนาจรัฐ แต่อยู่ในหน้าที่ ก็เป็นหัวหน้าคสช.รักษาความสงบของประเทศชาติ ก็เข้ามาทำงานตามหน้าที่ของพลเอกประยุทธ์ ซึ่งมันไม่มีทางเลือกอื่นเลย มันจะต้องเป็นเช่นนี้ ตถตา มันต้องเป็นอย่างนี้ เมื่อมารับหน้าที่ มาบอกว่ายึดอำนาจแล้วก็ขึ้นทำงาน เราก็ไม่ได้ออกไปประท้วงพลเอกประยุทธ์อีกเลย จนบัดนี้ก็ไม่ได้ไปประท้วง มีแต่เห็นว่าเข้าตาประชาชน เข้าตาพวกเราด้วย เราก็สนับสนุนส่งเสริมทำความเจริญให้แก่ประเทศชาติ กอบกู้ทั้งหนี้สิน ทั้งเรื่องอะไรต่อเรื่องอะไรต่างๆนานา ตามฐานะของผู้บริหารที่จะต้องทำ ก็เห็นผลงานที่เข้าตา ซึ่งอาตมาเคยพูดนะ นายก 29 คนมา คนที่ 29 คือพลเอกประยุทธ์นี่แหละ เป็นนายกที่ทำงานมีคุณภาพ ถ้าจะบอกว่าเป็นรัฐบุรุษ นายกประยุทธ์สมควรที่จะได้รับตำแหน่งรัฐบุรุษ _สู่แดนธรรม… พ่อท่านจะช่วยแก้ไขความเข้าใจเรื่องการอยากอยู่ต่อ พ่อครูว่า… พลเอกประยุทธ์ ที่จริงก็เคยพูด แต่จะพูดเต็มคำไม่ได้ พูดว่าตัวเองก็ผมก็ทำงานไป ไม่มีงานผมก็กลับบ้าน แค่คำพูดแค่นี้มันแสดงถึงจิตวิญญาณลึกๆของตัวตนของพลเอกประยุทธ์อยู่แล้ว เป็นความลึกของจิตวิญญาณแต่คนเข้าใจไม่ได้ อาตมาเข้าใจ คือจริงๆแล้วนี่พลเอกประยุทธ์เหนื่อยมาก อาตมาเห็นว่าเหนื่อย อาตมาเห็นใจ เพราะฉะนั้นถ้าได้หยุดก็ดีเหมือนกันจะเอาอะไรทำงานมาตั้ง 8 ปี 9 ปี ผลงานก็มีต่างๆนานา คนไม่เข้าใจก็เป็นธรรมดา คนที่ดิสเครดิตก็เป็นธรรมดาเขาก็ต้องทำ แต่ส่วนที่มันเป็นจริงที่มันได้ผล คุณก็ต้องดูความจริงอันนี้ให้ได้ ก็อยู่ที่ปฏิภาณปัญญาของคนที่จะมองความจริงนี้ออกถูกต้องหรือไม่ถูกต้องแค่ไหนก็ไปบังคับกันไม่ได้ มันก็เป็นเรื่องสัจจะ _สู่แดนธรรม… ทำไมนักวิชาการถึงมองว่าลุงตู่ทำไมอยากสืบต่ออำนาจ พ่อครูว่า… นักวิชาการไม่ใช่เทวดา นักวิชาการนี้โง่เยอะและหลงความรู้ หลงตำรา ซึ่งในหลวงเคยปรามเรื่องหลงตำรา คำตรัสของในหลวงมีชัด ท่านไม่ได้ตรัสชัดหรอก แต่อาตมาเข้าใจชัด ท่านบอกว่าเสร็จแล้วก็ต้องปิดตำรา แล้วก็ต้องเปิดตำราหน้าใหม่ แล้วบอกว่าอนาคตข้างหน้ายังมีและไม่บอกว่าอนาคตต้องทำอย่างไร นี่คำตรัสของท่าน อาตมาไม่ได้เป็นคำต่อคำนะ แต่เป็นเนื้อหาที่ในหลวงท่านตรัสอย่างนี้เป็นต้น _สู่แดนธรรม… ดูจากพฤติกรรมว่าใครสืบทอดอำนาจกันแน่เมื่อเทียบกับทักษิณแล้ว ทักษิณแสดงชัดเจนกว่าครับ พ่อครูว่า… ใช่ ทุกวันนี้ก็ยังจะสืบทอดเอาใครต่อใครมาสืบทอดอยู่นี่ เอาละเรื่องนี้ก็ค่อยๆพูดกันไปเรื่อยๆขยายความเพราะมันละเอียดลึกซึ้ง พิสูจน์ประชาธิปไตยแบบพุทธสุดลึกล้ำที่เป็นจริง ที่ว่าลึกซึ้งมากก็คือ ความเป็นประชาธิปไตยก็ตามที่ใช้ศัพท์สมัยนี้เรียกว่าประชาธิปไตย ความเป็นเศรษฐกิจของสังคมประเทศก็ตาม นัยยะของศาสนาพุทธมันก็มี เอาเรื่องเศรษฐกิจก่อน เศรษฐกิจที่สมบูรณ์แบบ ขอยกตัวอย่างพวกชาวอโศก พัฒนาการจนเป็นสังคมกลุ่มหมู่ สังคมมนุษย์ชาวอโศก ได้จบกิจของความเป็นเศรษฐกิจแล้ว จบกิจ กตํ กรณียํ นารํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติ เพราะไม่ต้องไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่เดือดร้อนกับเศรษฐกิจในสังคมชาวอโศก ดำเนินไปวันต่อวัน ทุกคนมีวรรณะ 9 มากหรือน้อยก็แล้วแต่ แล้วก็อยู่กันอย่าง สาราณียธรรม 6 สาราณียธรรม 6 เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ลาภธัมมิกา ศีลสามัญตา ทิฏฐิสามัญตา กินใช้ร่วมกันต่างคนต่างปฏิบัติธรรม นี่คือ สาราณียธรรม 6 เป็นสังคมที่พระพุทธเจ้ามาเปิดเผยในยุคของท่าน ท่านทำได้แต่ในวงสงฆ์ สาราณียธรรม 6 หรือขั้น สาธารณโภคี ท่านทำได้แต่ในวงสงฆ์ ก็ในยุคนั้นเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นยุคทาส มีนายทาส มีลูกทาส เป็นยุคที่คนไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชนเลย เพราะฉะนั้นจะทำให้คนทั่วไปเกิดสาธารณโภคีนั้น ก็ได้ในคนที่มีภูมิธรรมโลกุตระ ก็คือ วงการสงฆ์ ของพระพุทธเจ้าและบริสุทธิ์สะอาดดี เช่น ภิกษุในยุคนั้นไม่ได้มีเงินมีทอง ไม่ได้มียศศักดิ์ ไม่ได้มีตำแหน่งแบบโลกีย์เลย อยู่กันอย่าง เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ปกครองกันไป นี่เป็นการปกครองของประชาธิปไตยแบบ Absolute ประชาธิปไตยแบบคลาสสิค ประชาธิปไตยชั้น 1 ประชาธิปไตยชั้นเอก ซึ่งเทวนิยมมีไม่ได้ ตะวันตก ตำราประชาธิปไตยตะวันตก ยิ่งประชาธิปไตยขาเดียวเหมือนอย่างประชาธิปไตยของอเมริกา ไม่มีสิทธิ์เป็นไปได้ เพราะเป็นประชาธิปไตยที่ไม่มีจิตวิญญาณ ประชาธิปไตยเทวนิยมขาเดียว ประชาธิปไตยแบบอเมริกาหรือประเทศที่เป็นแบบอเมริกาไม่มีกษัตริย์ กษัตริย์คือจิตวิญญาณ คือคนที่มีจิตวิญญาณแล้วสืบทอดทางจิตวิญญาณมา มีการฝึกอบรมตน พระเจ้าแผ่นดินทุกองค์ ไม่ใช่ไปเลือกตั้งจากใครก็ได้มาเป็นพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้ (พ่อครูไอตัดออกด้วย) _สู่แดนธรรม… เคยฟังที่พ่อท่านพูดไว้ ทำให้ระลึกถึงว่า ในแผ่นดินพระเจ้ามคธ พระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าแคว้นโกศลก็ตาม ยุคนั้นเป็นยุคที่เรียกว่าฮ่องเต้มีอำนาจสมบูรณ์ที่สุด แต่ว่าในแผ่นดินของพระพุทธเจ้านั้น ดูเหมือนเป็นรัฐซ้อนรัฐเข้าไป พ่อครูว่า… ใช่ พระพุทธเจ้าเป็นรัฐประชาธิปไตย ท่านมีความถูกต้องดีงามคุณธรรมของมนุษย์สูงสุด คนระดับพระเจ้าปเสนทิโกศลพระเจ้าพิมพิสารก็ตาม เป็นแคว้นใหญ่ของอินเดียยุคนั้น ยอมให้ว่าถ้าอย่างนี้แล้ว ท่านพูดกับพระเจ้าอชาตศัตรู บุตรของพระเจ้าพิมพิสาร ว่าคนของท่านจะมาเข้ารีตของพระพุทธเจ้า ที่เคยเป็นราชบริพารที่สนิทชิดเชื้ออยู่ใกล้ชิดด้วย ที่ท่านชอบ จะมาเป็น สมาชิกของพระพุทธเจ้า มาเป็นสาวกพระพุทธเจ้า เลิกจากงานที่รับใช้พระเจ้าแผ่นดิน ท่านจะเอาคืนไปไหม ก็บอกว่าไม่เอาคืน มีแต่จัดส่งเสริมให้เขาเลย อนุโมทนาเลย นี่คือทฤษฎีหรือว่ายอดความรู้ของพระพุทธเจ้า คนในยุคนั้นจะพูดไปก็เป็นบารมีของพระพุทธเจ้า ขนาดพระเจ้าแผ่นดินของแคว้นใหญ่ก็ต้องยอมรับหมด แคว้นน้อยแคว้นเล็กยอมรับหมด ที่เป็นสุดยอดแล้วมันเป็นเรื่อง Absolute แล้วมันไม่มีทางที่จะเป็นอย่างอื่น มันเป็นสัจจะที่คนในโลกจะต้องมีเช่นนี้ มันยิ่งใหญ่ คำสอนโลกุตรธรรมที่พิสูจน์ชัดว่าคนสมัยนี้ทำได้จริง ทีนี้มาพูดถึงของไทย ไทยยังมีเชื้อ แล้วเชื้อนั้นพระพุทธเจ้าพยากรณ์เอาไว้ใน อาณิสูตร เชื้อโลกุตรธรรม พระพุทธเจ้าก็ใช้คำนี้ในพระไตรปิฎก ว่า โลกุตรธรรม จะเสื่อมไป กลายเป็นของปลอมของเก๊ เอาของปลอมมาแทรกแทนกลองอานกะ ไม่มีเนื้อแท้เลย มันเสื่อมไปหมด แล้วมันก็จริง มาถึงยุคนี้กึ่งพุทธกาล 2,500 ปี โลกุตรธรรมเสื่อมไปหมด แล้วอาตมาถึงขั้นต้องจำยอม จำนน จำเป็น จำต้องยืนยันว่า อาตมานี่แหละเป็นธัมมิกราษฏร์ เป็นผู้ที่จะนำโลกุตรธรรมขึ้นมาสถาปนาลงไปในสังคมพุทธ ในยุคที่เสื่อมไปจริงนี้ จริงๆแล้วอาตมาไม่ได้มาพูดลงน้ำหนักยืนหยัดยืนยันถึงขนาดนี้อาตมาทำงานศาสนามา 50 กว่าปีแล้วเพิ่งจะมาลงน้ำหนัก ยืนยันว่าอาตมาเป็นธัมมิกราษฏร์ พูดเข้าตัวเข้าตนเลย ทางด้านวิชาการเขาจะรังเกียจมากเลย เอาตัวตนเข้าไปเป็นตัวละครอยู่ในตำรา ยิ่งใหญ่เท่าไหร่ยิ่งเอาตัวเองเข้าไปว่าฉันใหญ่ มันเป็นการอวดตัวอวดตน แต่ไม่ใช่ว่าอาตมาไม่เข้าใจเรื่องเหล่านั้น อาตมาเข้าใจแต่อาตมาจำนน จำเป็น จำยอม จำต้องบอกตัวเอง เพราะอะไรเพราะของเก๊ ของปลอม เขาก็ประกาศตนเองอยู่ทุกวันนี้ แต่เขาประกาศไม่มีน้ำหนักเท่าอาตมาหรอก แต่เขาประกาศว่าเขาเป็นพระอริยะ เขาเป็นผู้รู้ เขาเป็นอรหันต์ เขาเป็นอะไรอยู่ ประกาศอย่างหน่อม แน้ม ไม่อาสโภ ไม่ได้อาจหาญแก้วกล้า จนไม่มีแม้แต่ มังกุ ไม่มีท่าทีขวยเขิน เก้อยาก อาตมาไม่ยากที่อาตมาจะบอกว่า อาตมาเป็นอรหันต์ ไม่ยากที่อาตมาจะบอกว่าอาตมาเป็นโพธิสัตว์ ไม่ยากที่อาตมาจะบอกว่า อาตมาเป็นธัมมิกราษฏร์ เพราะมันเป็นจริงอยู่ในตัวอาตมาไม่ได้สะดุดอะไรสักนิดเลย มันของจริงง่ายๆ แล้วที่ว่าง่ายๆเพราะอาตมาก็แสดงความจริงนี้ได้ด้วย ไม่ใช่พูดมาแต่ปาก อยู่ไหนของจริงพฤติกรรมของจริงความเป็นของจริง พาคนเข้าใจของจริงนี้ สร้างคนให้เข้าใจความจริงที่พูดนี้ได้บ้างไหมล่ะ ได้ไหม…ได้ พวกคุณพูดเองและคุณได้อะไร ส่งเสียงตอบรับเต็มคำเลย เพราะฉะนั้นในยุคนี้จึงเป็นยุคที่พิเศษ เป็นยุคที่จะว่าแปลกประหลาดก็แปลกประหลาด เพราะจะมีสิ่งที่แปลกประหลาดพิเศษแปลกประหลาดมาอุบัติขึ้นมา อย่างที่เป็น อาตมาพูดหนัก พูดใหญ่ พูดอวดตัวเต็มรูปเต็มร่างเลย แค่อาตมาบอกว่าอาตมาเป็นอรหันต์ อาตมาเริ่มต้นประกาศตัวเองเป็นโพธิสัตว์ก่อนในประเทศไทย เพราะประเทศไทยไม่ได้นับถือโพธิสัตว์ ประเทศไทยศาสนาพุทธประเทศไทยถือว่าพระโพธิสัตว์ยังไม่ใช่อริยะ เข้าใจแค่นั้นด้วย ไม่เข้าใจ เช่น ไปเข้าใจว่า สุเมธะดาบส อยู่ในประวัติในตำราในพระไตรปิฎก เขาถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์ เขาก็เข้าใจว่าสุเมธะดาบสเป็นพระโพธิสัตว์ คือเป็นผู้ที่ยังไม่ได้บรรลุอรหันต์ จริง ยังไม่ได้บรรลุเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่สุเมธะดาบสไม่มีความเป็นอรหันต์มาตั้งแต่ต้น อรหันต์ขั้นที่ 1 อรหันต์ขั้นที่ 2 อรหันต์ขั้นที่ 3 อรหันต์ขั้นที่ 4 สุเมธะดาบสเป็นอรหันต์ขั้นผ่าน 1 2 3 มาแล้วเป็นอรหันต์ขั้นสูงมาแล้ว ถึงขั้นมาให้พระพุทธเจ้าเดินทอดได้เหยียบร่าง แต่เขาไม่รู้ความเป็นอรหันต์หรือโพธิสัตว์ เขาก็เลยถือว่านี่เป็นโพธิสัตว์ก็คิดว่ายังไม่เป็นอรหันต์ แต่ยังไม่ได้เป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นท่านก็ไปพระพุทธเจ้า สุเมธะดาบสก็คือพระพุทธเจ้านั่นแหละ มาเป็นสมณโคดมนั่นแหละ เขาเข้าใจไม่ได้ในความละเอียดลึกซึ้งซับซ้อน เขาเข้าใจไม่ได้ในความละเอียดลึกซึ้งซับซ้อนของขั้นชั้นเรียกว่าวรรณะ The Classes ขั้นชั้นวรรณะที่ละเอียดลึกซึ้งซับซ้อน ผู้ที่จะเข้าใจความละเอียดลึกซึ้งซับซ้อนของขั้นชั้นต้องเป็นอภิภู เป็นโพธิสัตว์ระดับ 8 สูงกว่าอาตมา จะมาเริ่มเข้าใจบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ละเอียดลออเท่าขั้นอภิภู ท่านแปลเป็นภาษาไทยว่าพระผู้เป็นเองคืออภิภู สยังอภิญญา คือผู้เป็นเองเหมือนกันแต่ต่ำกว่าอภิภู จากอภิภูก็เป็น สยัมภู เป็นพระพุทธเจ้าเลยเป็นผู้ที่ตรัสรู้เองโดยชอบเลย ที่เราพูดนี้เป็นการพูดธรรมะพุทธเจ้าของศาสนาพุทธขั้นสูงขั้นละเอียดที่อาตมาพูดไปนี้ ไม่มีใครมาพูดหรืออธิบายธรรมะที่ละเอียดสูงขั้นอย่างนี้ ในหมู่กลุ่มที่พูดกันรู้เรื่อง พูดกันเข้าใจและเอามาใช้ได้ ไม่มีหรอก มีแต่ขออภัยต้องพูดความจริง มีแต่ เดียรถีย์ ออกป่านั่งหลับตา ออกป่า นอกพุทธ หลับตานี้เป็นมิจฉาทิฏฐินอกพุทธ หลับตาปฏิบัติแล้วก็หลงว่าผู้หลับตา นี่เป็นอรหันต์ ที่ไปยกย่องพวกหลับตามหาบัว อาจารย์มั่นเป็นอรหันต์ ขอยืนยัน อาตมาพูดอย่างไม่กลัวถูกฆ่า อรหันต์เก๊ เนี่ยอาตมาพูดสัจธรรมนะ พูดสภาวธรรม ไม่ได้ไปพูดดูถูกตัวบุคคล ท่านมีความอุตสาหะ อาจารย์มั่นก็ดี มหาบัวก็ดี มีความตั้งใจ จนเสียชีวิตคาผ้าเหลืองทั้งนั้น จริงจังนะ อุตสาหะพยายามมากมาย แต่น่าสงสารน่าเสียดายที่ท่านมิจฉาทิฏฐิ ไปออกปฏิบัติแนวของเดียรถีย์กัน ตอนนี้ก็มีเดียรถีย์กัน ยุคนี้มันเสื่อม แล้วไปหลงผิดว่าอย่างนั้นคือของจริง คือของแท้ คือของจะพาบรรลุธรรม อาริยธรรม ท่านอธิบายอาริยธรรมไม่ได้ ท่านอธิบายสาระของ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ แยกแยะ วรรรณะ 9 อย่างอาตมาไม่ได้ แยกแยะ เวทนา 108 ไม่ได้ ในตำรามี ในพระไตรปิฎกมี แต่ไม่มีใครกล้าแตะ กล้าเอามาแยกแยะมาพูด จนกระทั่งพวกเราเข้าใจ แล้วก็ปฏิบัติ พวกเราปฏิบัติเวทนา 18 ได้ไหม …ได้ เออ นี่เราพูดกัน แล้วเราก็อธิบายกัน แล้วเราก็เอามาปฏิบัติจริง เพราะฉะนั้นจึงมีคนที่รับคำพูดของอาตมา ว่าทำได้ เวทนา 18 ที่เป็นของโลกียะกับ 18 ของโลกุตระ มันมีเนื้อหาสภาวธรรมอย่างไร พวกเราฟังแล้วก็เข้าใจก็เอามาปฏิบัติ เนกขัมมะออกมา ลดกาม ลดปฏิฆะ ลดข้างนอกก่อนจนหมดกิเลสภายนอกแล้วก็เข้าไปกำจัดกิเลสภายใน ในขั้นรูปราคะ อรูปราคะ ไปตามลำดับ จนเหลือเศษ มานะ อุทธัจจะ ไล่สภาวธรรมที่เป็นกิเลสเศษธุลีละอองไปจนหมดเกลี้ยง พยัญชนะมันสื่อสภาวธรรม เป็นธรรมะละเอียดอย่างไรเราก็สามารถเข้าใจและรู้อาการ ลิงค นิมิต รู้อาการของจิต ลิงคคือเพศ คือความแตกต่างกัน มันแตกต่างกันอย่างไรก็รู้ความแตกต่าง และก็จับมีเครื่องหมายจับทั้งนามธรรมเรียกว่านิมิต สภาพนั้นได้ และจัดการ ไอ้ที่ไม่ใช่ เป็นอาการของกิเลสแทรกแซง หรือผสมอยู่ ก็แยกออกได้ ก็เอาแต่เฉพาะอาการ มันเป็นจิตเจตสิกเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่จิตเจตสิกจริง มันเป็นจิตเจตสิกเก๊ แต่มันทำทีเป็นจิตเจตสิก ปัญญาสามารถแยกออก จัดการไอ้ตัวปลอม ไอ้ตัวเก๊ ผีมารมาแทรก ก็ฆ่ากิเลสที่เป็นตัวผีมารออกไปได้หมด แยกแยะได้ อย่างแยกเวทนาเก๊ เวทนาจริง รสอร่อย เป็นผีหลอก รสจริงก็คือรสจริง เช่น รสทางลิ้น เราแตะน้ำตาลหวาน เออ น้ำตาลมันก็หวาน ฝรั่งก็บอกว่า Sweet หวาน จีนก็ว่า ตี หวาน ก็รสอย่างนี้ ฝรั่งจีนก็แตะแล้วได้รสเดียวกันของจริง เอาละ ไม่ฝรั่งจีน เอาคน คนชอบ มีรสนิยมชอบรสหวาน เขาก็ว่ามันอร่อย คนที่ไม่มีรสนิยมในหวานไม่ชอบ เขาก็บอกว่าไม่อร่อยเลย มันก็เป็นเรื่องเก๊ของคนอุปาทาน หรือเป็นกิเลสของใครของมัน ก็แยกสภาวธรรมพวกนี้ออก แล้วก็ทำของเก๊ให้มันหมดไปในจิต คนที่ไม่มีรสอร่อยเป็นอรหันต์เป็นต้น มีแต่รสจริง คุณจะแตะเอาส้มโอลูกนี้มาปลอกแล้วเอามากิน รส มันก็มีรสจริงของส้มโอลูกนี้ ใครกินก็รสเดียวกัน แต่คนที่อร่อย คนที่ชอบ คุณก็มีของเก๊ ของใครของมัน คนที่ไม่ชอบก็เป็นของเก๊ของเขา คนชอบก็เป็นของเก๊ของเขา คนที่มีญาณปัญญาแยกอาการหรืออารมณ์หรือความรู้สึกหรือเวทนาได้ถึงปานฉะนี้แหละ คือคนที่มีธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์ แยกผิดแยกถูก แยกชั่วแยกดี แยกกิเลสหรือสัจจะออกได้ แล้วก็มีวิธีการคือพยายามทำปัญญาให้แจ้ง ภาษาไทยก็จะพูดได้ประมาณนี้ ทำปัญญาให้แจ้งคือทำความรู้ความฉลาดให้รู้ว่า เฮ้ย เอ็งนี่ เป็นผีหลอกอย่ามาทำเป็นแหลม ข้ารู้เอ็ง ผีมันก็อาย ผีมันก็กลัวไปเลย พูดภาษาไทยได้แค่นี้ แต่ฤทธ์อำนาจที่ผีเห็น ปัญญา หรือตัวธาตุรู้ที่ยิ่งใหญ่นี้ วันนี้เลย อธิบายได้แค่นี้แหละ เพราะฉะนั้นปัญญาจึงเป็นนามธรรม เป็นความรู้ที่มีฤทธิ์ มีธรรมฤทธิ์ยิ่งใหญ่มาก ซึ่งกิเลสนี้มันกลัวสุดกลัวเลยไม่กล้าเข้าใกล้ อย่าว่าแต่มาถึงสัมผัสเลย อาตมาว่าถ้ายังไม่แข็งแรงนะ ปัญญายังไม่แข็งแรงมันสัมผัสได้ แต่มีปัญญาแล้วนี่เหมือนปลิง อาตมาเคยอธิบาย คุณมีฤทธิ์เนื้อตัวของคุณ คุณเอายาหม่องไปทาแข้งขาไว้ ปลิงมาแตะยาหม่อง มันแพ้หลุดไปเลย แต่มันไม่กล้าเข้าใกล้ ปลิงมันจะไม่กล้าเข้าใกล้ กิเลสไม่กล้าเข้าใกล้เลย นี่เป็นการอธิบายพลังงานของปัญญา มีธรรมฤทธิ์จนถึงขนาดนี้ อาตมาเอาสภาวธรรมนะ เพราะฉะนั้น ทำไม พระพุทธเจ้านี่ไม่มีใครไปทำร้ายร่างกายท่านได้เลย มีคนเลวสูงสุดเทวทัตไปทำให้พระบาทห้อเลือด เป็นอนันตริยกรรมสูงสุด ใครไปทำร้ายไม่ได้ อย่างอาตมาใครก็มาทำร้ายไม่ได้ แต่คนที่ทำให้อาตมาแสบตาด้วยแก๊สน้ำตา ขออภัย จะเป็นกรรมไม่ใช่น้อยเหมือนกัน อาตมาไม่ใช่พระพุทธเจ้า แต่อาตมาเป็นพระโพธิสัตว์ แล้วมาทำให้อาตมานี่ต้องแสบจริงๆแสบตาขนาด ขออภัยต้องพูดความจริง ก็เป็นบาปของเขา อาตมาไม่ได้ใส่ความ ไม่ได้ไปลงโทษเขานะ มันเป็นกรรมกิริยาของเขาที่ทำ เขาก็ไม่ได้เจตนาจะทำอาตมาหรอก แต่อาตมาอยู่ในนั้น อย่างนี้เป็นต้น มันก็เป็นวิบากของอาตมาด้วยที่อาตมาจะต้องไปเจอ ต้องไปเผชิญอย่างนั้น อย่างนี้เป็นต้น _สู่แดนธรรม… เหตุการณ์ที่พ่อท่านโดนแก๊ส มีคนพยายามดิสเครดิตพ่อท่านว่า เป็นพระอรหันต์อะไร ทำไมหนีจากแก๊สน้ำตา ก็มีคนตอบช่วยว่า อาตมาไม่ได้กลัวตายนะ แต่อาตมารู้ว่าสำหรับอาตมายังไม่สมควรตาย อากัปกิริยาเขาดูจากอาการภายนอกแล้วก็สรุปว่าอรหันต์หรือไม่ใช่อรหันต์ เขามองกันอย่างนี้ (นิมนต์พ่อท่านจิบน้ำก่อน) ผมจะขอสรุปให้ฟังว่า พ่อท่านได้อธิบายความเป็นอรหันต์แท้มาด้วยหลักวิชาการ บางทีเด็กๆฟังอาจจะไม่เข้าใจ เป็นเรื่องของเวทนาแท้ เวทนาเทียม ถ้าใครมีความเข้าใจก็เป็นบุญกุศลของเขา แต่อาจะขอสรุปให้ฟังง่ายๆว่า พ่อท่าน อธิบายเรื่องง่ายๆ เรื่องของการทำทาน พระอรหันต์ท่านก็จะมีสายตามองว่า ครั้งหนึ่งนะ มีคนขออนุญาตลาออกจากวัด เพื่อจะไปทำงานหาเงินมาทำบุญทำทานให้พ่อท่าน พ่อท่านก็บอกว่าคุณจะไปทำอย่างนั้นทำไม มันเป็นทางอ้อม ถ้าจะทำทานจริงๆ อยู่ในวัดคุณเสียสละหยาดเหงื่อร้อยหยด คุณได้บุญทั้งร้อยหยดเลย คุณได้ตรงนั้นเต็มๆที่เลยไม่ต้องแบ่งมาทำทีหลัง ถ้าคุณทำงานได้เงินเดือน 20,000 คุณเอามาทำบุญ 19,000 บาทไหมล่ะ ก็ไม่จริงนะครับ นี่คือหลักการมองง่ายๆ แม้แต่เรื่องทำทาน พระอรหันต์ก็จะมองลึกซึ้งกว่าคนทั่วไปมอง พ่อครูว่า… ตอบเรื่อง คุณไพศาลไม่ได้เป็นโพธิสัตว์อะไรหรอก ทำไมแยกความสำคัญ 1 2 3 ไม่ได้ และชอบยำลุงตู่ และเลือกไปยืนข้างพรรคก้าวไกล ก็เป็นธรรมดา ตามฐานะของบุคคลอย่างคุณไพศาลก็เป็นไปตามคุณไพศาล _เกษม แสนทอง · ขอให้ท่านติกขวีโร ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อช่วยงานพ่อท่านไปนานแสนนานขอรับ พ่อครูว่า… มีคนช่วยอาตมา ก็ขอบคุณ แต่เขากลัวว่าท่านจะไปก่อนอาตมา ก็เลยบอกให้อยู่ช่วยไปนานๆ คือมีจิตใจอยากจะให้มันเกิดการสร้างสรรค์ ไม่มีอะไรหรอก ท่านเดินดินก็ช่วยได้มาก _เมฆงาม โชควิบูลย์กิจ · รายการวันเสาร์ที่ 10 มิ.ย. สมบูรณ์และได้รับประโยชน์จากท่านเล่าประสบการณ์ได้ดีที่สุด กราบนมัสการท่านติกข ท่านฟ้าไท สม. กล้าข้ามฝัน เล่าแบ่งปันความรู้รอบตัวมีสาระมากค่ะ _แก้วตะวัน พวงบุบผา · คงมีสักวันที่จะมาอยู่บ้านราชและมีชีวิตปกติสุขอย่างกับครอบครัวของคุณลุงเราโน่และคุณพี่หายโง่ อนุโมทนาสาธุกับทุกคนที่ได้มาอยู่แผ่นดินพุทธ พ่อครูว่า… ก็ริษยาเข้าอยู่อย่างนั้นนะไม่ได้มาสักที ก็มาให้ได้ เมื่อไหร่จะมา จะเอากระดูกมาหรืออย่างไร ก็มาตอนยังเป็นๆสิ ประเทศไทยคือดินแดนกสิกรรมโลกุตระ _สีดิน · พ่อครูสอนว่า”สมรรถภาพคือของจริงที่เราได้สะสมติดตัวไปทุกภพทุกชาติ” “การทำกสิกรรมคือการสะสมสมรรถภาพที่แท้จริง” พ่อครูว่า… จริง ก็เข้าใจ อาตมาเน้นให้มาเป็นนักกสิกรรมกัน มาเป็นพวกที่เป็นกสิกรแข็งขัน มาทำพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันเป็นหนึ่งในโลก เป็นงานที่มีคุณค่ามากที่สุด จะบอกว่าเป็นกุศลก็เป็นกุศลสูงสุด จะบอกว่าเป็นบุญก็เป็นบุญ เพราะว่าคนที่จะมาเป็นกสิกรต้องล้างกิเลส ไม่อยากจะมาหนักไม่อยากจะมาร้อน ไม่อยากจะมาทำ แล้วพืชพันธุ์ธัญญาหาร มันซับซ้อน พืชพันธุ์ธัญญาหารจะขายแพงไม่ได้ ขายแพงแล้วมนุษยชาติแย่เลย เพราะฉะนั้นพืชพันธุ์ธัญญาหาร ขายข้าว ขายพืชผักผลไม้ราคาต้องถูก ราคาแพงไม่ได้ ราคาแพงตายทั้งโลกเลย เพราะคนจนมีเยอะ แล้วคนจนก็ต้องกิน คนรวยก็ต้องกิน ถ้าขายแพงคนรวยมันไม่ตายหรอกมันรวย แต่คนจนตายหมด ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันจึงมีความจำเป็นสำคัญมากเลย อันนี้โดยปฏิภาณลึกๆของคนทั่วไปในโลกเข้าใจ จึงยอมให้ราคาสิ่งเหล่านี้ พืชพันธุ์ธัญญาหารหรือของกินราคาแพงขึ้นไม่ได้ ก็มีแต่พวกอวดรวย ที่เขาหลอกเอาพืชพันธุ์ธัญญาหารไปขาย ผักโขมยอดสวยๆ 5 ยอด 100 บาท ทอดน้ำมันหอยไปให้พวกไฮโซซื้อกิน เต๊ะท่ากินของราคาแพง อะไรอย่างนี้เป็นต้น มันก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่คนเขาหลอกคนรวยนี่ เสื้อผ้าชุดธรรมดา ติดขนไก่อันหนึ่งตรงนี้ ว่ามีตัวเดียวในโลกมีตัวเดียวในสังคมแฟชั่นยุคนี้ อันนี้แสนบาท คนก็ไปซื้อมาใส่ โอ้โห..ใส่แล้วต้องใส่ครั้งเดียวนะแล้วห้อยทิ้งไว้ ใส่ซ้ำนี่โดนทักเลยนะ ตัวนี้มันใส่มาแล้วขายหน้า ไม่ได้ มันโง่ได้ทีจริงๆคนเรา แต่ก็สมแล้วล่ะ เขาก็ต้องหลอกเอาเงินคนพวกนี้ออกมาสู่ มันเป็นวิธีการของเศรษฐกิจ ต้องหลอกคนโง่ที่รวยให้ควักออกมาอย่างโง่ๆ เพราะมันจะได้มีเงินสะพัดออกมา มันก็เป็นวิธีการของเศรษฐกิจธรรมดา ทีนี้เศรษฐศาสตร์ของพระพุทธเจ้านั้น พระพุทธเจ้าพาคนมาจน ในประเทศไทยมีคนพูดว่าต้องมาจนมี 2 คน คืออาตมากับในหลวง ร.9 ว่าต้องมาจน นักเศรษฐศาสตร์ที่บริหารประเทศอยู่นี้ไม่กล้าพูดจะพามาจน ไม่กล้า ไม่มีใครพูดเป็นคนที่ 3 มีอาตมากับในหลวงเท่านั้นว่าต้องพาคนมาจน ขาดทุนของเรา มาขาดทุนอย่าไปเอากำไร ขาดทุนของเราคือกำไรของเรา คนเขาก็หูหักฟังไม่รู้เรื่อง แล้วว่ามันจะอยู่อย่างไร แล้วพวกอโศกอยู่อย่างไร มาจน มาขาดทุน อยู่ได้อย่างไร ความซับซ้อนลึกซึ้งพวกนี้มันยิ่งใหญ่มาก มันยิ่งใหญ่มาก เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจของศาสนาพุทธนี้คือ มันต้องมาเป็นคนจน ถ้าสามารถเฉพาะตน คงคลังของตน 0 บาทได้ คุณสำเร็จเศรษฐกิจของคุณแล้ว ส่วนตัวของคุณแต่ละคนคงคลังของคุณ 0 บาท คุณอยู่กับการสะพัดส่วนกลาง สบายมากเลย คุณไม่ต้องเก็บ ไม่ต้องรักษา ไม่ต้องดูแลอะไรเลยในเงินส่วนตัว มีอะไรก็ไปเบิกจะใช้ก็ไปเอาที่กองกลางมา ซึ่งมันก็เป็นได้แล้ว ของอโศกเราเป็นได้แล้วอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเศรษฐกิจระดับสาธารณโภคีนี้ยังไม่เคยมีในโลก มีแต่ในยุคพระพุทธเจ้าที่อยู่ในสงฆ์ ฆราวาสยังเป็นไม่ได้ในยุคโน้น เพราะว่ามีข้อจำกัดที่พูดไปแล้ว แต่ในยุคนี้มันไม่มีข้อจำกัด ไม่ใช่ยุคทาส ไม่ใช่ยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคที่คนเรามีสิทธิเต็มที่ เพราะฉะนั้น ฆราวาสก็ทำสาธารณโภคีได้ อาตมาจึงพาฆราวาส มาทำสาธารณโภคีเพื่อยืนยันความเป็นเศรษฐศาสตร์สุดยอด เศรษฐศาสตร์สุดยอด ไม่ขึ้นกับเงินทอง ไม่ขึ้นกับทรัพย์สฤงคาร พวกนี้ ธนบัตรเงินทองไม่มีอำนาจในพวกเรา แต่เราก็ไม่ใช่ไม่รู้จักว่าธนบัตรคืออะไร ใช้ในสังคมอย่างไร เราก็ไม่ได้โง่อะไร เราก็รู้ เราก็ใช้ตามควร อะไรอย่างนี้เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ถ้าจะว่าไปแล้วมันก็พูดแล้วก็เหมือนอวดตัวอวดตนว่ายิ่งใหญ่ แต่ที่จริงอาตมาว่ามันยิ่งใหญ่ แต่ไม่ใช่เรื่องของอาตมา เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า อาตมาเอาของพระพุทธเจ้ามากระทำ มาประพฤติ มาปฏิบัติ เป็นจริงตามที่พระพุทธเจ้าท่านเอามาประกาศท่านตรัสรู้และเอามาประกาศ ก็นำสิ่งนี้มายืนยัน เทวนิยมประเทศนอกตำรา ดร.ทางเศรษฐศาสตร์ไม่รู้จักเศรษฐศาสตร์สาธารณโภคีหรอก ทำไม่ได้ จะมีที่ประเทศไทยมีที่อโศกนี้ด้วย และเป็นเล่นๆหรือเปล่า …ไม่ เป็นไปเรื่อยๆ เป็นปึกแผ่นขึ้นไปเรื่อยๆแต่ก่อนน้อยกว่านี้ ชาวอโศกตั้งแต่แรกที่อาตมาทำมีน้อยกว่านี้ เดี๋ยวนี้ก็มากขึ้นเป็นชุมชนชาวอโศก กระจายไปในประเทศก็มี หลายชุมชน 10 20 30 ชุมชน _สู่แดนธรรม… ฟังวิสัยทัศน์ที่พ่อท่านพยายามให้สังคมมองแล้ว ผู้มีปัญญาคงรู้ว่า ความรู้แบบนี้มันยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยจริงๆครับ พ่อครูว่า… ใช่ ประเทศไทยเรามี ประเทศอื่นไม่มีความรู้ทางเศรษฐศาสตร์แบบนี้ความจริงของเศรษฐศาสตร์แบบนี้ในประเทศโลกุตระ ประเทศที่เป็นโลกียะเทวนิยมมีไม่ได้ ไม่มีปัญญารู้ด้วย แล้วเขาจะไม่เชื่อหรอก เขาจะว่าพวกเรานี้อดทนเอา กดข่มไว้เอา มันดูดีมันเท่ แล้วก็ทำอดทนเอา ทรมานไป ซึ่งเราไม่มีการทรมาน มันสบายๆ มัน อิสระ สบาย สงบ อบอุ่น อิ่มเอม เกษมใส ใจเกื้อกูล และเพิ่มพูนเสียสละ ด้วย เป็นปลายเปิด มีชีวิตมีแต่เพิ่มพูนการเสียสละเท่านั้น สุดท้ายชีวิต _สู่แดนธรรม… ถ้าอย่างนั้นผมไม่สงสัยแล้วว่าเมื่อก่อน 10 ปีที่แล้ว พ่อท่านบอกว่าประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจฝ่ายพระคุณ ตอนนั้นผมฟังแล้วประเทศไทยจะเป็นไปได้หรือ พ่อครูว่า… เป็นได้แล้ว แต่เป็นอยู่ในสังคมประเทศไทย สังคมของประชากรประเทศไทย ที่มีกระจาย เป็นส่วนน้อยไม่ได้มาก ธรรมดาของยอดพีระมิดมันมีน้อย ไม่ใช่ฐานพีระมิด เป็นธรรมดาธรรมชาติ _สู่แดนธรรม… แสดงว่าเด็กๆรุ่นนี้เยาวชนที่ฟังเลคเชอร์อยู่ อีก 20 ปีคงเห็นความเจริญไปกว่านี้นะครับ พ่อครูว่า… ฟังเข้าใจไหม เอาเถอะ มันเป็นไปได้ _ช่อทิพ หนูทอง · ฟัง ดร.เกริก แล้วได้ข้อคิดดีหลายอย่าง ขอบพระคุณค่ะ _แก้วแกร่งธรรม นำมาจน · น้อมกราบพ่อครูด้วยความรักและเคารพอย่างสูงสุด ขอให้พ่อครูสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว และนำพาลูก ๆ ปฎิบัติธรรมเพื่อการบรรลุธรรมสืบไป และ ขอติดตามฟังธรรมและปฎิบัติตามพ่อครูพาเดิน ทุกชาติไปจนกว่า ลูกจะได้สภาวะอรหันต์เจ้าค่ะ _อารยา ศรีไพโรจน์ · 🙏 ชื่นชมรองผอ.อ้อม ที่ตั้งใจทำเพื่อผู้อื่น พ่อครูว่า… คงพูดถึงจันทร์แจ่มฟ้า _สมถวิล บาลเวช · รายการปฎิบัติกรตัวจริง “คำตอบอยู่ที่การศึกษา” นี้ถ้านักเรียนฟังด้วยความใส่ใจจะเกิดประโยชน์มาก ดังนั้นเด็กสัมมาสิกขาจะต้องได้ฟังรายการนี้อีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ที่อยากจะอยู่ต่อคือการเสียสละ _โรจ ราษฎร : ประยุทธ์แพ้เลือกตั้ง แต่อยากอยู่ต่อ พระอาจารย์ว่าไง พ่อครูว่า… ก็เป็นความเสียสละ เป็นความตั้งใจจริงของพลเอกประยุทธ์ ที่มองเป็นสาระธรรมว่า พลเอกประยุทธ์นี้ทำงานได้แล้วก็จริง ได้ประโยชน์ได้ผล สมควรแก่กาละ กาละนี้ได้ขนาดนี้ เป็นนายกคนที่ 29 แล้วทำได้ มีมรรคผลมีผลที่เห็นจริงๆ อาตมาก็เห็นว่าเข้าตาเขาทำได้ดีขนาดนี้ แพ้เลือกตั้ง การแพ้การชนะของสังคมโลก วิธีการเลือกตั้งเป็นวิธีที่ อาตมาเคยพูดมาหลายครั้งหลายทีแล้ว เป็นวิธีนิดเดียวของ การเมือง มันไม่ใช่เนื้อหาสาระที่สำคัญเลยในการเลือกตั้ง แต่มันจำเป็นเพราะคนที่มันไม่ประสีประสาถูกหลอกถูกครอบงำอะไรต่ออะไร ก็เลยยิ่งซ้ำ การเลือกตั้งยิ่งทำให้ถูกครอบงำและถูกหลอก ทุกคนฉลาดใช้แทคติกต่างๆดึงไปเป็นคะแนนเสียง นี่อย่างที่เกิดอยู่ทุกวันนี้ที่ถามมาว่า ทำไมก้าวไกลได้คะแนนเสียงนำ เป็นแทคติกของเขาทั้งนั้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสัจจะความจริงของความเป็นจริงของจิตมนุษย์เลย มันเป็นเรื่องปลอม ยิ่งนานระบบการเลือกตั้งยิ่งนานเท่าไหร่ ยิ่งมีความปลอม ยิ่งมีการสร้างแทคติก สร้างกลเม็ดเด็ดพรายหาวิธีการ ผู้ที่จะเล่นการเมืองเขาก็จะวาง สร้างค่ายกล สร้างอะไรเหมือนหนังจีน เหมือนมังกรหยก ยิ่งกว่าค่ายกลของพ่อของนางเอกอึ้งเอี๊ยะซือ อาตมาก็ไม่ค่อยได้จำ เคยดูแต่ก่อน ดูมังกรหยกได้เรื่องเดียว เรื่องอื่นเขาหาหนังสือมาให้อ่าน อาตมาอ่านไม่ได้ อ่านแล้วมันไม่เห็นว่ามันจะไปสนุกสนานอะไร ของโกวเล้ง ของโกเล้งประเภทกว้าง ของกิมย้งนี่ประเภทลึก มันต่างกัน กิมย้งเขียนมังกรหยก แต่โกเล้งเขียนเยอะ อาตมาไม่ได้อ่านเลยของโกวเล้ง เพราะมันเป็นเรื่องฟุ้งซ่านเยอะ เป็นเรื่องวิธีการซับซ้อน ยิ่งทำให้โง่หนัก เป็นเรื่องของอาชญวิทยา เพราะฉะนั้นบอกว่าพลเอกประยุทธ์อยากอยู่ต่อนี้ มันเป็นเจตนาดีของพลเอกประยุทธ์ ถ้าเผื่อว่าจริงๆแล้วอาตมารู้ใจพลเอกประยุทธ์อยู่นะ ถ้าแกไม่ได้ทำแกก็วางมือ ถ้าแกยังไม่วางมือแกก็ต้องรับผิดชอบไง แต่ตอนนี้ก็ยังเห็นอยู่ว่ามันยังพอเป็นไป ก็ไม่ได้ดึงดันอะไรพลเอกประยุทธ์ เขาจะมีอะไรก็ให้มันจัดสรรของมันเองในขณะนี้ แล้วแต่ว่ามันเป็นอย่างไร อาตมาก็ดูว่าหวยมันจะออกอย่างไร อาตมาไม่มีคำตอบจริงๆนะ เห็นอันนี้ของสังคมไทยแล้ว ก็ดู พวกเราพวกดูไปไม่ใช่พวกดูไบ _user-cf6qy3pb4j • กราบทุกๆรูปค่ะ.พ่อโพธิ์รักษ์.คงจะได้ช่วยรักษาปกปักชาติไทยอีกครั่งละ.พวกตรงข้ามกำเริบเสิบสานออกมาชัดเจน.ปวดใจมากค่ะ พ่อครูว่า… นัยแฝงคุณจะบอกว่าให้ออกไปประท้วงใช่ไหม ใช่อาตมานี้ตัว Protestant ตัวจริงนะ ก็ไม่รู้ ถ้าจะไปมันก็ต้องไปสิ แล้วใครจะไปก็อาตมาบ้าง … ยกมือ ธรรมะกับการเมือง ควรยุ่งเกี่ยวกันอย่างไรแค่ไหน _user-iv9ij6je5i • ท่านอย่าใฝ่การเมือง ท่านก็ดีเอง เพราะการเมืองไม่ใช่งานสมณะ พ่อครูว่า… ไม่พูดหรอกซ้ำซาก คนที่มีทิฎฐิ มีความเข้าใจอย่างคุณสุดท้ายนี้ ว่าสมณะอย่าไปยุ่งการเมือง มันมีนัยยะอย่างนี้ คนที่มีทิฎฐิมีความเข้าใจว่า นักธรรมะอย่าไปยุ่งกับการเมืองนี้ มันมีนัยยะคือ มุมหนึ่งก็คือว่า ผู้ที่อยากจะทำงานธรรมะนี้ อย่าเอาตัวเข้าไปเปลืองตัวกับการเมืองเขาเลย การเมืองมันเลอะเทอะ มันมีแต่เรื่องไม่ได้เข้าท่าอะไร มันมาทำให้วุ่นวายอะไรต่ออะไร ต่างๆนานา ทีนี้ผู้ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความรู้ ไม่มีสมรรถภาพพอที่จะเข้าไปยุ่งกับการเมือง ถูกแล้ว ยิ่งเป็นนักบวช เป็นนักธรรมะอย่าไปยุ่ง เพราะถ้าเขาไปยุ่งแล้วคุณจะกลายเป็นเบี้ยให้กับนักการเมือง เพราะนักการเมืองมันเขี้ยว มันก็เอาพวกเราไปเป็นหัวคะแนนไปเป็นคะแนนเสียงอย่างที่มันเป็น เพราะฉะนั้นเขาจึงมีแม้แต่ทางเถรสมาคมก็รู้ว่า ภิกษุหรือนักธรรมะของเถรสมาคมนั้นอ่อนแอ เข้าไปก็ไปเป็นลูกกะโล่ของนักการเมืองเขา ก็จึงไม่ให้ไปยุ่งกับการเมือง ถูกแล้ว แต่ผู้ที่มีอินทรีย์พละ มีความรู้ความสามารถพอที่จะเข้าใจการเมืองดี แล้วก็มีอำนาจ มีอิทธิพล มีกำลังอยู่เหนือการเมือง รู้การเมืองจริงๆว่าอะไรมันถูก อะไรมันผิด อะไรดี อะไรไม่ดี ขออภัยต้องยกตัวอย่างอย่างอาตมานี้เข้าใจ อาตมาก็ไปช่วยการเมืองให้มันมีประโยชน์ ก็ไปทำอยู่ ไม่ได้หยุดได้หย่อน คนไม่เข้าใจอาตมาอาตมาเข้าใจเขา ไม่เป็นไร เขาก็พูดตามความเข้าใจของเขา แต่อาตมาไม่ได้ไปทำเสีย แล้วอาตมามั่นใจว่าอาตมาได้ช่วยประเทศไทย ขออภัยนะที่พูดแล้วเหมือนเอาสิ่งที่เราทำแล้วมาเป็นของตน อาตมาก็ได้ทำงานให้แก่ประเทศชาติในเรื่องการเมืองนี้ไป ไปพามวลของชาวอโศกนี้ไปร่วม กับประชากรประชาชนไทย ไปลงทุนลงแรงอยู่กลางถนนมาไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา ตั้งแต่ 2549 จนถึง 2557 ที่ทำอยู่นั้น จนกระทั่งรัฐบาลทรราชหมดไป แล้วตอนนี้ประเทศไทยก็ไม่มีทรราช ทรราชกำลังจะมาแย่งอำนาจอยู่เท่านั้นเอง ประเทศไทยก็มีรัฐบาลหรือมีคณะบริหารไปได้ดีอยู่แล้ว ในผู้ที่มองกลางๆ ข้างนอกเขามองมา ก็รับฟังเขาบ้างสิ ว่าการบริหารประเทศของรัฐบาลยุคนี้ อะไรดีขึ้น เขาก็มีรายงานอยู่ในด้านเศรษฐศาสตร์ ในด้านรัฐศาสตร์ ในด้านสังคมศาสตร์ เขาก็มีรายงานมาตั้งเยอะแยะ ก็อย่าหลับหูหลับตาเอาแต่ด่าๆๆ ข่มๆๆ อะไรก็ไม่มีผลงาน อะไรก็ไม่มีประโยชน์ไม่ทำอะไรไม่ได้ พูดไปคนตาบอดเหมือนคนตาบอดพูด ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย พ่อครูคือธัมมิกราษฎร์ ผู้กอบกู้โลกุตรธรรม เพราะฉะนั้นอาตมาว่าเมืองไทยขณะนี้ เป็นประเทศไม่ใหญ่ ประชากรยังไม่ถึงร้อยล้าน แล้วก็มีพฤติกรรมสังคมอยู่ในโลก อาตมาเคยพูดไม่รู้กี่ทีแล้ว แต่คนฟังก็อาจจะหมั่นไส้มาก ว่าประเทศไทยเป็นที่ 1 ของโลก อาตมาว่า ไม่ว่าด้านเศรษฐศาสตร์ ไม่ว่าด้านรัฐศาสตร์ ขณะนี้ เป็นสังคมที่เป็นอยู่สุข ว่ามีเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ดีเป็นอยู่สุข ก็มีคนบอกว่า ประเทศที่มีความสุขในโลก เขาวัดแบบโลกียะนะ เขายังไม่มีความรู้โลกุตระเหมือนอย่างศาสนาพุทธด้วย เขาก็ยังยอมรับเลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสุข เป็นประเทศที่น่าคบหา เป็นประเทศที่น่ามาสัมผัสสัมพันธ์ มาเที่ยว เป็นอันดับต้นๆเลย เลขตัวเดียวขึ้นไป ดูเหมือนจะทางเอเชียอะไรพวกนี้ก็ดูเหมือนเป็นระดับที่ 1อะไรอยู่ มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลก เขาว่าอย่างนั้น คนที่พูดนี้น่าจะเก่งทางรู้ทุกข์อริยสัจคืออะไรนะ ซึ่งมันไม่ใช่ทุกข์สามัญของโลกนะ เป็นทุกข์ทางโลกีย์เท่านั้น แต่มันเป็นทุกข์อริยสัจ คือไม่มีทุกข์แล้วไม่มีสุขด้วย นี่คือทุกข์ของพระพุทธเจ้าคือทุกข์กับสุขเป็นสภาพเดียวกันเป็นเทวะ เป็น dialectic ทั้งคู่ เป็นเครื่องสลับฉากกันเท่านั้นสำหรับคนไม่รู้เรื่อง ถ้าคนที่รู้เรื่องแล้ว จิตเป็นอุเบกขา ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข จิตไม่มีกิเลสตัวเหตุแห่งทุกข์ ก็อยู่กับสังคมอย่างเป็นผู้ที่มีโลกวิทู แล้วก็ช่วย โลกานุกัมปายะ อยู่ ไทยยังครองแชมป์ประเทศที่มีความทุกข์ยากต่ำที่สุดในโลกปี 2560 เขาเอาขึ้นจอ นี่ก็เขาวัดด้วยภูมิธรรมแค่โลกียะ มันยังสอดคล้องไปด้วยกันเลย ถ้ายิ่งมาเข้าใจโลกุตระแล้ว อาตมาว่าคนในโลกนี้ มองอย่าง เผินๆ ไม่ต้องเอาในโลกหรอก เอาในประเทศไทยก็ได้ จะมามองว่าชาวอโศกนี้มันเป็นพวกที่ มันจะมีความสุขหรือ มันจะไม่ทุกข์หรือ มาอดมาทน มาอดมาอยาก จะมาทรมานตนทำไมอะไรต่างๆนานา ซึ่งความจริงเราไม่มีความทรมานเลย จิตมันไม่ทรมาน มันรู้จักเวทนาในเวทนา รู้จักความรู้สึก รู้จักอารมณ์ รู้จักลักษณะอาการ ลิงค นิมิต ของจิตตัวเวทนาเจตสิกอย่างละเอียดดี ว่ามันอยู่เหนือโลกที่เขายึดติดกัน เขายึดติดสุข เทวนิยมเป็นพวกสุขนิยม พระเจ้าเป็นพวกสุขนิยม ไม่รู้จักทุกข์อริยสัจ พระเจ้ามีแต่สุขนิยม เป็นสุขนิรันดรด้วยพระเจ้าเป็นเจ้าของสุขนิรันดร อยากได้ก็ไปอ้อนวอนขอให้พระเจ้าประทาน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ทุกคนของตนเองทำเอาเอง จะเป็นสุขเป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นในสัจจะในโลกที่อาตมาเองพูด เอาของพระพุทธเจ้ามาแล้วศึกษาพระพุทธเจ้ามาไม่รู้กี่ล้านชาติแล้ว ติดตามมาเอาของพระพุทธเจ้ามาทุกวันนี้ยังประกาศตนทุกวันนี้ ว่าอาตมาเป็นธัมมิกราษฎร์ เป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ ก็พูดไปจนหมดตัวแล้ว ไม่ได้พูดเล่น ไม่ได้พูดโกหก ถ้าโกหกนี้อาตมาบาปมหาศาลเลยนะ ถ้าเป็นทางสัจธรรมทางพระธรรมวินัย อวดอุตริมนุธรรมที่ไม่มีในตนนี้ปาราชิก เอาหลักธรรมวินัยง่ายๆมาจับ อาตมาปาราชิก อวดตัวเป็นอรหันต์ เป็นโพธิสัตว์ เป็นธัมมิกราษฏร์ มันใหญ่มากเลยนะนี่ แต่อาตมาธรรมดาง่ายๆไม่ได้ยากอะไร ถ้าอยากรู้ว่าอรหันต์คืออะไรก็มาสิ อาตมาอธิบายอยู่แล้ว โพธิสัตว์อะไร แจกแจงโพธิสัตว์ แจกแจงอรหันต์เป็นลำดับขั้น ฟังแล้วเมาไหม …ไม่ นั่นๆแน่ไม่เมาหรือ โอ้ เรียงลำดับได้นะ โอ้โห เก่งจังเลย อรหันต์มีกี่ขั้น โพธิสัตว์มีกี่ขั้น โพธิสัตว์กับอรหันต์อะไรมีหลายขั้นกว่ากัน โพธิสัตว์มีมากกว่า โพธิสัตว์มีหลายขั้นกว่าอรหันต์ อรหันต์จะนับตั้งแต่ขั้นที่ 4 ของโพธิสัตว์ โสดาบัน สกิทาคามีอนาคามี ยังไม่ใช่อรหันต์ อรหันต์นับตั้งแต่ขั้นที่ 4 ส่วนโพธิสัตว์นับมาตั้งแต่โสดาบัน โพธิสัตว์ 9 ระดับ 1.โสดาบันโพธิสัตว์ 2.สกิทาคามีโพธิสัตว์ 3.อนาคามีโพธิสัตว์ 4.อรหันต์โพธิสัตว์ 5.อนุโพธิสัตว์ 6.อนิยตโพธิสัตว์ 7.นิยตโพธิสัตว์ 8.มหาโพธิสัตว์ 9.พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อะไรอย่างนี้เป็นต้น พวกเราฟังแล้วก็เข้าใจแล้วก็รู้ อ้อ สภาวธรรมหรือสัจธรรมมันมีขั้นมีลำดับมีของจริงเป็นเนื้อของมันเช่นนี้ เช่นนี้ แล้วก็มาศึกษาเอาแล้วปฏิบัติให้ได้ เพราะฉะนั้นในพวกเรานี้เข้าใจโพธิสัตว์แล้วก็บำเพ็ญโพธิสัตว์กันไป จนกระทั่งเป็นอรหันต์ เป็นอรหันต์ก็เป็นอรหันต์ คนที่ยังรู้สึกอยู่ว่าไปได้หรืออยากจะเจริญไปอีก คุณก็ไม่ต้องตาย ปรินิพพานเป็นปริโยสาน คุณก็ตายแล้วคุณก็กลับมาเกิดอีก เพราะฉะนั้นในความเสื่อมของประเทศไทยที่ไม่รู้จักอรหันต์ ไม่รู้จักโพธิสัตว์ เข้าใจเป็นอุจเฉทิฏฐิว่า ใครเป็นอรหันต์แล้วตายลงนี้จะต้องสูญหมด เป็นอุจเฉทิฏฐิอย่างนั้นในประเทศไทยเข้าใจอย่างนั้น ซึ่งมันผิดมันเป็นอุจเฉทิฏฐิ อรหันต์แล้วตายแล้วไม่เป็นปริโยสาน ไปแล้วไม่แยกเป็นดินน้ำไฟลม ตายแล้วยังกลับมาอีกเป็นโพธิสัตวภูมิต่อไปอีกได้ เขาก็ไม่เข้าใจเป็นอุจเฉทิฏฐิอย่างนั้น มันก็เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างหนึ่งในชาวไทย พุทธศาสนาในเมืองไทย มิจฉาทิฏฐิ อย่าว่าแต่อรหันต์ตายแล้วไม่เกิดเลย เขาพูดถึงว่าผู้ที่บรรลุอาริยธรรม ผู้ที่บรรลุธรรม บอกตัวเองว่าเป็นพระอาริยะไม่ได้ ถึงขั้นบอกว่าถ้าตัวเองบอกว่าเป็นอาริยะ ผู้นั้นไม่ใช่อาริยะ อย่างนั้นคือบัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่เคยบัญญัติเอาไว้ คนนี้ที่พูดไว้เป็นนักปราชญ์ที่นับถือในประเทศไทยด้วยซ้ำ ยืนยันอย่างนี้เป็นต้น มันก็น่าสงสาร สงสารพุทธศาสนิกชนชาวไทย อาตมาก็เลยทำด้วยความสงสารตลอดเวลา ยิ่งท่านผู้ที่ผิดนี้ยิ่งเห็นใจ แล้วก็ไม่รู้จะช่วยท่านได้อย่างไร เพราะว่าฉันเองหยิ่งผยองว่าท่านเองเป็นผู้รู้กว่าอาตมา อาตมาเป็นผู้ไม่รู้ ท่านก็ไม่จำเป็นจะต้องรับฟังอาตมา เพราะว่าท่านถือว่าท่านรู้ อาตมาไม่รู้ พูดไปพูดมา ก็ชั่วโมง 45 นาทีแล้ว อาตมานี้ภาคภูมิใจในความสำเร็จ อาตมาเคยพูดว่าอาตมาทำงานศาสนามาเรื่อยๆ มีความสำเร็จรายทางมาเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ อาตมาพอใจจะตายลงวินาทีนี้ อาตมาก็ว่าอาตมาไม่เสียชาติที่ได้เกิด พอสมควรแล้วที่ได้สืบสาน แต่ถ้าได้ต่อไปอีกอยู่ก็ดี อาตมาจะยืนหยัดตัวเองให้มีอายุขัยต่อไป อาตมาพยายามนะ พยายามให้อายุถึง อีก 11 ปี ปีนี้ 90 ขึ้นก็อีก 10 ปี 100 จะพยายาม เกินกว่านั้นก็ได้ดีอยู่ เพื่อทำงาน เพื่อพิสูจน์ยืนยันว่า การต่ออายุขัย ซึ่งอาตมาก็บอกพวกคุณมาแต่ไหนแต่ไรว่าอาตมาอายุขัยแค่ 72 ปี อาตมาต้องตายในอายุ 72 แต่อาตมาไม่ยอมตาย อาตมาฝืน ฝืนสังขารพยายามต่ออายุ ซึ่งก็พูดอธิบายบอกมาจริงๆบอกมาตลอดสาย ไม่ได้ปิดบังอะไรแล้วก็ทำจริงๆ อยู่ก็เห็น ใครที่อยู่ใกล้ชิดยิ่งเห็นว่าอาตมาเพียรที่จะยังชีพ เพียรที่จะรักษาขันธ์ให้อย่าอ่อนแอ อย่าเพิ่งตาย เขาก็ไม่อยากให้ตาย อาตมาก็สมคล้อยกัน อาตมาก็ยังไม่คิดจะตายก็ยังพยายามต่อไปอยู่ ก็พอเป็นไปได้ แล้วก็รู้ตัวอยู่ว่าสักวันหนึ่งมันคงไม่เอาแล้วล่ะ ก็ต้องปล่อย จะปล่อยอย่างตัดชีวิต นอนหลับดับไปเลย หรือจะให้มันไปเรื่อยๆ มีแรงเฉื่อยมีโมเมนตั้ม แล้วค่อยๆตายอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ อาตมาก็ไม่อยากทำอย่างนั้น มันเป็นภาระของผู้ที่ดูแล ถ้าอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ขนาดนี้ทุกวันนี้อาตมาก็ไม่มีปัญหา อาตมายังพอช่วยตัวเอง คนอื่นก็พอช่วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้เหมือนคนอายุ 90 ที่จะต้องโอ้โห ต้องเป็นภาระมากเกินก็ไม่ถึงขั้นนั้น การที่จะพยายามฝืนอายุนี้ก็เป็นธรรมะอย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่อาตมาเองต้องการพิสูจน์ด้วย อย่างหมอเฉกจะพยายามพิสูจน์แบบโลกๆพยายามจะออกกำลังกายให้มีอายุ 120 ตอนนี้ก็จวนจะถึงร้อยแล้ว หมอเฉก เอาว่ายน้ำเป็นหลัก ออกกำลังกายและรักษาตัวเอง ประคองอายุขันธ์จะเอา 120 ทางรูปธรรมก็พอได้ ถ้าทำมีความพยายามก็อาจจะได้หรือไม่ได้ก็ว่าไป ก็ดูว่าหมอเฉกหรืออาตมาใครจะไปก่อนกัน แต่หมอเฉกแก่กว่าอาตมาหลายปีเหมือนกัน หมอเฉกอายุ 94 ปี อาตมา 90 ก็ดูกันไป อย่างหมอเฉก แกก็คงลดงานไปเยอะ แต่อาตมายังทำงานอยู่ก็ไม่น้อย ทุกวันนี้อาตมายังทำงานอยู่ตลอด ทั้งสอน ทั้งเขียน ทั้งบริหาร ทั้งทำอะไรตามที่พอทำได้เท่าที่ควร อาตมาก็ปลงภาระให้ท่านผู้ที่ดูแลช่วย มีผู้รับผิดชอบช่วยกันไป ทั้งสมณะ ทั้งสิกขมาตุ ก็ขอบคุณทุกคนที่พยายามจะช่วยมนุษยชาติ ช่วยสังคม ชีวิตไม่มีอะไร อาตมาสรุปไม่รู้กี่ทีแล้วว่าเกิดมาเป็นคน พระพุทธเจ้าก็คือคนๆหนึ่งเหมือนเรา ไม่ได้ต่างจากเราทุกพระพุทธเจ้า แล้วท่านก็ไปเรียนวิชาทางโลก ตักศิลายุคนั้นมี 18 สาขาวิชา เหมือนกับยุคนี้ มหาวิทยาลัยมีกี่คณะ นี่ตักศิลามี 18 คณะ พระพุทธเจ้าท่านเรียนจบหมดทุกวิชา ได้เกียรตินิยมหมด 18 วิชามา เสร็จแล้วท่านมาเป็นพระพุทธเจ้า ท่านทิ้งหมดเลยทุกวิชา เอาวิชาธรรมะของท่าน ทำงานวิชาธรรมะของท่านตลอดพระชนม์ชีพ ตั้งแต่ตรัสรู้ 45 พรรษาตลอด ไม่เกี่ยวเลยอีก 18 วิชา โยนทิ้งหมดเลย ท่านเป็นคนเหมือนกันกับเรา แล้วท่านจะไปใยดีอะไรกับ 18 วิชานั่น ไม่ใช่ท่านไม่เก่งด้วย ท่านเก่ง 18 วิชา แล้วท่านก็รู้ด้วยว่าสังคมเขาใช้อยู่นะ แต่ท่านไม่เห็นสำคัญเท่าธรรมะ เพราะฉะนั้น การเกิดมาเป็นคนไม่มีอะไรดีที่สุดเท่าเอาธรรมะโลกุตระให้ได้ คุณรู้จักธรรมะโลกุตระจบแล้ว คุณจะไปช่วยทางเศรษฐศาสตร์เหมือนอย่างอาตมาพาทำ จะไปช่วยทางรัฐศาสตร์ทางการเมือง จะไปช่วยทางอื่นๆ เอาล่ะ อาจจะยิงลูกศรไม่เก่งเหมือนสมัยโน้น วิชาสมัยนี้ก็คือพวกที่สามารถเป็นทหารยิงอาวุธ ยิงเครื่องฆ่าได้เก่ง มันก้าวหน้ามาจากยุคโน้นแล้ว ยุคโน้นยิงศรหรือฟันดาบได้เก่งมากอะไรอย่างนี้สมัยโน้น แต่สมัยนี้ก็ ความรู้ที่ลึกซึ้งก็คือ คนที่เจริญจริงแล้วไม่ใช้อาวุธ ไม่สร้างอาวุธ คือคนเจริญ คนสร้างอาวุธคือพวก มิลักขะ พวกยักษ์มันถือดาบคือง้าวเขี้ยวใหญ่ตาโปน ที่เขาปั้นรูปปั้นเป็นรูปธรรมไว้ แล้วก็หลงว่าตัวเองเป็นมหาราช เป็นจตุมหาราช พวกยักษ์มาร อยู่ในวัดพระแก้ว อยู่ในวัดต่างๆ นั่นก็คือคนเถื่อนในยุคที่เก่งสร้างอาวุธแล้วฆ่าคนไป ทำวิธีฆ่าคน ยังไม่เจริญในจิตวิญญาณ จิตวิญญาณหยุดฆ่า เจริญ เอาความเมตตา เอาการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เอาการเสียสละ มนุษย์ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นยังเป็นมนุษย์เถื่อนอยู่ แล้วคนเข้าใจไม่ได้ก็นึกว่าจะเป็นเจ้าโลก จะเป็นเจ้ามหาอำนาจ เห็นไหมว่าเขาเข้าใจผิด นี่ก็คือสัจธรรมที่มันไม่ยากหรอกที่อาตมาอธิบาย ฟังง่ายๆ เพราะฉะนั้น สรุปอีกทีหนึ่งว่า พระพุทธเจ้าเกิดเป็นคนเหมือนเรา แล้วท่านก็ศึกษาวิชาของโลกทั้งหมด ท่านก็ไม่เอา ไม่มีวิชาอะไรที่ควรค่าที่จะมาเสียเวลา เสียแรงงาน ลงทุนลงรอนให้ เวลาทุกคนมีเท่ากัน แรงงานของใครของมัน แรงงานทางความรู้ แรงงานทางร่างกาย ทุนรอนก็มีทุกคน เอามาทุ่มโถมเอามาเสียสละให้แก่ธรรมะสัจธรรม ประเสริฐสุด อย่าเอาเวลา อย่าเอาแรงงาน อย่าเอาทุนรอนไปเสียกับไอ้โลกีย์ แม้จะไปเต้นๆดีดๆอาตมาเห็นแล้ว คนไม่เข้าใจกับอบายมุข การละเล่นกีฬาบันเทิงเริงรมย์ ราคาแพง แข่งกีฬาดาราราคาแพง การละเล่นการแสดงก็แพง นั่นมันส่อให้เห็นถึงความโง่ ของสังคมที่ไปหลงให้ค่า แล้วก็ไปเอามาเป็นตัวอย่างของสังคม มันซับซ้อน อินเดียมีความรู้นี้ซับซ้อน จะไม่โชว์ในเรื่องอบายมุขพวกนี้ ลึกซึ้งอยู่ในจิตวิญญาณ จะรู้คุณค่า แต่ประเทศอื่นๆที่หลงอย่างตะวันตก อเมริกา โอ้โห เป็นเจ้าเลย จะต้องเป็นดารานำทางการกีฬา ดารานำทาง ดาราต่างๆนานาราคาแพง ค่าตัวสูงอะไรต่างๆนานา มันยิ่งจมลงไปใน นรกขิฑฑาปโทสิกะ นรกแห่งการหลงร่าเริง รื่นเริง ขิฑฑาปโทสิกะ เป็นโทษ มันเป็นอวิชชา เป็นความไม่เข้าใจว่า เราไปหลงสิ่งเหล่านี้ พูดไปอาตมาเป็นตัวอย่าง ชาตินี้ เศษเสี้ยวของอารมณ์บันเทิงเริงรมย์ยังติดตัวมาที่อาตมาถึงชาตินี้ อาตมายังไปเป็นฆราวาสยังไปหลงเล่น ดนตรีการบันเทิง ยังเสียเวลากับอันนั้นอยู่เลย แต่อาตมาก็ประยุกต์มาเป็นสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ เพลงการก็เอามาเป็นประโยชน์ซะ ก็พอได้ เพราะว่าต้องเข้าใจโลกแล้วอนุโลมเขา ยุคนี้พูดกับเขาไม่รู้เรื่อง ให้เขาเลิก เขาเลิกไม่ได้ เมื่อเลิกไม่ได้เราก็อนุโลม แล้วก็ทำให้มันได้ค่าได้คุณไปด้วย ก็ได้เท่านี้ สูงสุดก็เท่านี้ ทุกวันนี้อาตมาทำอะไรต่ออะไรมาพวกนี้เขาจะเข้าใจ แล้วก็ยังทำต่อไปอยู่ อาตมาว่าเมืองไทยขณะนี้ ที่อาตมาทำงานศาสนาโลกุตรธรรมเป็นแก่นแกนไปนี้ ตอนนี้รู้สึกว่าจะดีขึ้น แต่ก่อนนี้ถูกฝ่ายที่เข้าใจไม่ได้ถล่มทลาย แล้วมีประกาศเลยนะ ปกาสนียกรรมว่าเป็นพวก พวกอโศก โพธิรักษ์จะมาล้มศาสนาพุทธ เขาเข้าใจอย่างนั้นก็ได้เห็นใจเพราะเขาเข้าใจไม่ได้ แต่อาตมาเป็นผู้ที่มั่นคง เป็นพวกที่ยืนหยัดยืนยันอย่างแท้จริงว่า คุณเข้าใจผิด อาตมาไม่ได้มาทำลายศาสนาอาตมากำลังจะมาสถาปนาศาสนาที่มันเสื่อมต่างหาก ก็อ้างอิงตามหลักธรรมพระพุทธเจ้า เอาพระไตรปิฎกมายืนยัน แม้ที่สุดอ้างอิงเรื่องนี้ ในบันทึกของพระไตรปิฎกไม่มีคำว่า ธัมมิกราษฎร์มาเลย แต่ตำนานมีมาอย่างจริง อาตมาก็เอามาใช้ มายืนยัน โดยไม่ได้มังกุ ไม่ได้ลำบากอะไร ไม่ได้ยากอะไร มันเป็นเรื่องสัจจะ อาตมาก็มาทำอยู่ เพราะฉะนั้นขณะนี้อาตมาเห็นว่าคนรับฟังที่อาตมาพูด ค่อยยังชั่วขึ้น เพราะกระแสต้านหรือกระแสที่เข้าใจไม่ได้ ซาลง คนที่ยึดมั่นถือมั่นอาตมาอย่างหนัก แล้วเขาก็ตายๆไปเยอะ เหลือผู้ที่รุ่นใหม่ คนที่ยึดอยู่ก็มีอยู่ เหลือที่ยังไม่ตายอายุรุ่นไล่เลี่ยกัน ส่วนคนใหม่นั้นยังไม่ได้ถูกครอบงำเท่าไหร่ ค่อยๆรับฟัง ปฏิภาณปัญญาของเขาพอไม่มีอคติมาก แล้วก็เป็นคนที่เปิดใจรับฟังอยู่ เขาก็เห็นว่า คนที่มีปฏิภาณปัญญาพอบอกว่า อันนี้ใช่ เขาก็รับไป เพราะฉะนั้นทุกวันนี้ก็ไปได้เรื่อยๆ เป็นการก้าวหน้ารายทางไปเรื่อยๆ โลกุตรธรรมของพระพุทธเจ้าจะก้าวหน้ารายทางไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นพากเพียร สรุปอีก เกิดมาเป็นคนอะไรไม่ดีเท่าโลกุตรธรรม เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าท่านเลือกทำงานนี้จนพระชนม์ชีพตั้งแต่ตรัสรู้จนกระทั่งปรินิพพาน 45 ปี แล้วก็ปรินิพพานเป็นปริโยสาน ท่านก็เลือกมาทำอันนี้ ไม่ใช่ท่านไม่รู้ความรู้ด้านอื่นๆ ก็พูดไปแล้ว เพราะฉะนั้นชีวิตมนุษย์อย่าไปสูญเปล่า เข้าใจแล้วรีบมาทันที อย่าไปรอเป็นพระพุทธเจ้าแล้วค่อยมา มาเถิด แล้วคุณจะได้เป็นพระพุทธเจ้าด้วย ถ้าคุณไม่มา คุณไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้า นอกจากไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วจะตกต่ำ อรหันต์ก็ไม่ได้ ก็จะเสียประโยชน์ในการเกิดมาชาติหนึ่ง อาตมาเคยพูดว่าเกิดมาชาติหนึ่งไม่ได้ธรรมะโลกุตระพระพุทธเจ้า เสียชาติเกิด เกิดมาชาติหนึ่งไม่ได้โลกุตระของพระพุทธเจ้า เสียชาติเกิด เสียเวลาจริงๆสูญเปล่าเพราะอะไร เพราะโลกียะมันไม่เที่ยง มันขึ้นสูงและลงต่ำ แต่โลกุตรธรรมเที่ยง โสดาบันแล้ว สกิทาคามีก็ยิ่งเที่ยง อนาคามีก็ยิ่งเที่ยง อรหันต์ก็ยิ่งเที่ยง โพธิสัตว์ก็ยิ่งเที่ยง นิยตะนี่เที่ยงของโลกุตระ ส่วนนิจจังเที่ยงของโลกียะ อย่างนี้เป็นต้น จบ Categories: ธรรมะพ่อครู, ศาสนาBy Samanasandin12 มิถุนายน 2023Tags: พุทธศาสนาตามภูมิวิถีอาริยธรรม Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:660609 พ่อครูเทศน์ ธัมมิกราษฎร์ประกาศโลกุตรธรรม งานอโศกรำลึก 2566NextNext post:2565 SAR สัมมาสิกขาสันติอโศกRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024